Beranda / โรแมนติก / ลิขิตกามเทพ-อาริตา / 3 ไม่เคยเห็นหรือไง อีหนู

Share

3 ไม่เคยเห็นหรือไง อีหนู

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-06 15:53:19

“แม่กานยังไม่กลับมาเลย”

หญิงวัยห้าสิบแปด ร่างท้วมตัดผมสั้น ใบหน้าค่อนข้างดุนั้นมีวี่แววบอกว่า เมื่อสาวจัดได้ว่าเป็นผู้หญิงสวยมากคนหนึ่งทีเดียว เอ่ยบ่นอย่างเคืองๆ

“ดูซิ ดูเวลาซะก่อน เข้าไปตั้งจะเที่ยงคืนแล้ว ยังไม่เห็นหัว...หายไปไหน ไม่โทร. มาบอกกล่าวกันก่อน ชักจะเอาใหญ่แล้ว”

นางหันหน้าไปทางประตูบ้าน และเลยไปยังรั้วที่เห็นอยู่ไกลๆ พ้นจากแนวไม้ที่ปลูกทึบจนให้ความร่มรื่นแก่ตัวบ้านเป็นอันมาก

“กานมันเอาใหญ่มาตั้งแต่ทำงานได้แล้วล่ะค่ะ แม่” พรรณทิพา ลูกสาวคนใหญ่วัยสามสิบเป็นคนตอบ หล่อนเป็นสาวสวยยังประคับประคองความโสดเอาไว้ได้มั่นคง และมีความคิดไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับกานพลูญาติผู้น้องผู้ด้อยกว่าสักเท่าไหร่ “นี่คงจะดอดไปพร่ำพลอดรักกับนายภาดากระมังคะ”

“แม่ก็เตือนมันแล้วนะว่าอย่าทำอะไรแบบนั้น” แล้วนางก็ถอนใจ “ที่สั่งสอนเอาไว้จะเป็นไงมั่งก็ไม่รู้นะ กลัวอย่างเดียว...ว่าจะเหมือนแม่มัน...”

นางหมายถึงน้องสาวที่เสียชีวิตไปแล้ว หลังจากอุ้มท้องกลับมาบ้านหาพ่อเป็นตัวตนให้ลูกไม่ได้ แล้วพอคลอดกานพลูได้ไม่นาน สติสัมปชัญญะที่ค่อนข้างจะบอบบางอยู่แล้วก็สับสน เมื่อตอนกานพลูอายุได้ห้าขวบ แม่ของหล่อนก็ยังอยู่ในวัยสาวเพียงยี่สิบสองก็ฆ่าตัวตายอย่างน่าสยดสยอง

“ใจง่าย มักง่าย แล้วก็คิดโง่ๆ หาทางออกไม่ได้ก็ฆ่าตัวตาย...นี่ถ้าแม่กานกลับมา แม่จะต้องเรียกมาพูดกันก่อน”

“แม่จะรอไปสักกี่ทุ่มกันล่ะคะ” พรรณทิพาถามประชดๆ “มิต้องถ่างตากันถึงสว่างหรือคะ คืนนี้น่ะ...ไปไหนมาไหนไม่บอกกล่าวกันก่อน”

“มันคงจะไม่กล้ากลับจนเช้าหรอก” คุณนายยังคงแน่ใจ “แม่ก็เคยบอกกับมันหลายหนแล้วว่า หายไปทั้งคืนเมื่อไหร่ก็ต้องออกไปจากบ้านนี้ แม่ไม่เลี้ยงคนทำตัวเหลวไหล นึกจะไปก็ไป นึกจะมาก็มาไม่เกรงใจคน

หัวสองสีอย่างแม่”

“แม่รอไปนะคะ พรรณเห็นทีจะต้องไปนอนก่อนละ”

“เป็นไงมั่ง”

พินิจนัยถามด้วยความห่วงใย กวาดตามองหญิงสาวตรงหน้าที่ยัง

เอามือยึดอ่างล้างหน้าเอาไว้แน่น เขาไม่แน่ใจในอายุของเจ้าหล่อน เพราะรูปร่างเล็กดวงหน้าสะอาดปราศจากเครื่องสำอางซีดเซียวเหมือนคนเพิ่งรื้อไข้ แต่เสื้อผ้าที่หล่อนสวมนั้นค่อนข้างจะเรียบ ไม่เฟี้ยวฟ้าวอย่างเด็กสาวๆ ข้างนอกโน้นเลย กระโปรงสีขาวยาวเลยเข่าลงไปเล็กน้อยกับเสื้อสีชมพูอ่อนๆ คอตั้งแขนจีบเป็นพวงทับชายเสื้อเอาไว้ในกระโปรง ดูแล้วมันช่างเหมือนแบบฟอร์มของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่ดูจากหน้าตาของหล่อน พินิจนัยไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหล่อนอยู่ในวัยทำงานได้แล้ว หน้าอ่อนๆ แบบนี้หล่อนน่าจะไปร่ำเรียนเขียนอ่านอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันซะมากกว่า

“ปวดหัว”

“ก็น่าจะปวด...แล้วเป็นไงอีก”

“พื้นมันหมุนนะ...” กานพลูเงยหน้าขึ้นไปมองเพดานของห้องน้ำ หล่อนเห็นโคมไฟควงติ้วและทำท่าจะหล่นเผละลงมาใส่หัว นัยน์ตาของหล่อนเบิกกว้าง กระเถิบกายเข้ามาหาเขาโดยไม่ได้ตั้งใจนอกจากจะยึดเขาเอาไว้ “ไฟนั่น...” หล่อนชี้ให้เขาดู “มันกำลังจะหล่น”

“มันก็อยู่เฉยๆ ตาลายล่ะมัง...”

เขามองดูหน้าขาวๆ นั่น บอกไม่ถูกว่าจะเวทนาหล่อนดีไหม ก็สถานที่แบบนี้กับเนื้อตัวเมื่อยามเข้าใกล้หึ่งไปด้วยกลิ่นเหล้า ก็ไม่ได้บอกนี่นาว่าถูกหลอกมาดื่มจนเมานอกเสียจากทำตัวเองทั้งนั้น

“ฉันจะออกไปข้างนอก มันเหม็น...กลิ่นฉี่...” หล่อนทำจมูกกระดุบกระดิบ

“กลิ่นมันก็คล้ายๆ แอมโมเนียเหมือนกันล่ะ ดมมากๆ ก็หายเวียนหัว”

เขาพูดเรื่อยๆ เหล้าทำให้เขาลิ้นอ่อนกว่ายามปกติแยะ พูดก็ง่ายขึ้น หัวเราะง่ายขึ้น จึงไม่เห็นว่ากานพลูกำลังมองไปข้างหน้าด้วยนัยน์ตาที่

เบิ่งโพลง แล้วก็หันขวับกลับมาซบหน้ากับอกเขาเกือบจะทันที...เสียงหล่อนสั่นระรัวมือชี้ไปที่ด้านหลังของเขา เมื่อพินิจนัยหันไปมองบ้าง ชายหนุ่มก็หัวเราะออกมาเต็มเสียง

ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งเพิ่งเสร็จจากการปล่อยทุกข์แบบเบาๆ ยังไม่ได้เก็บเอาเข้ากางเกงให้หายอุจาด

“ไม่เคยเห็นหรือไง อีหนู”

เขาพาหล่อนออกมา แทบจะลากหล่อนลอยขึ้นจากพื้น เพราะหล่อนตัวเล็กเบามือ ถ้าเป็นขนาดก็เรียกว่าพกแพ็คเท่านั้นเอง

“เอาละ พ้นแล้ว...”

แต่เนื้อตัวของกานพลูเย็นเฉียบไปหมด เขาก้มลงเขย่าร่างนั้นเบาๆ แต่กานพลูกลับโงนเงนยืนตรงๆ แทบจะไม่ได้ พอปล่อยมือออกก็ทำท่าจะล้มเผละจนเขาต้องรับเอาไว้ แล้วก็กลายเป็นภาระให้เขาหิ้วหล่อนติดปีกกลับมาที่โต๊ะด้วย

“ไปเก็บมาจากไหน” ภูษิตชะโงกหน้าเข้ามาเกือบจะติด “กลิ่นเหล้างี้หึ่งเชียวโว้ย จะกินไก่ต้มน้ำเหล้าแทนน้ำแกงหรือไง”

“ขอเหล้าก่อนวะ อีหนูนี่ท่าทางเหมือนจะช็อก เอาเหล้ากรอกปากเข้าไปอาจจะดีขึ้น”

เขาระวังไม่ให้หล่อนสำลักเหล้า เสียงกานพลูกระอึกกระไอแคกๆ แล้วก็เบือนหน้าหนีจากแก้วเหล้าที่เขาถือจ่อปาก เสียงหล่อนค่อนข้างแข็ง

“ปล่อยฉันนะ...”

“จะไปไหวแล้วใช่ไหม”

กานพลูสลัดศีรษะแรงๆ หน้าตามีสีสันแปลกๆ เพราะแสงไฟที่สาดเข้ามากระทบ หล่อนพยายามจะมองหน้าผู้ชายที่อยู่ใกล้จนเรียกได้ว่าแนบชิด แขนข้างหนึ่งของเขาโดนหน้าอกด้านข้างของหล่อน มือหนึ่งของเขาโอบกระหวัดอยู่แถวๆ เอวให้สัมผัสรุ่มร้อนที่หล่อนไม่เคยคุ้น กับภาดา...แม้จะรักกันมานานปี เขากับหล่อนก็ไม่เคยชิดใกล้กันแบบนี้ก็คุณป้าไม่ใช่หรือ ตีวงการคบหากับภาดาเอาไว้ในขอบเขตจำกัด

“ฉันจะไปหาเพื่อน...”

แต่ผู้คนมากมายทำให้กานพลูตาลาย หล่อนจะไปหาบุตรากับ

เพื่อนชายของบุตราได้ตรงไหนกัน ตอนลุกจากที่นั่งได้หล่อนก็คลำทางหาห้องน้ำมาเรื่อยๆ ลืมไปแล้วว่าโต๊ะอยู่ไหน แสงเสียงบ้าๆ นี่ก็ทำให้ตาลายจนต้องหลับตาลง

“พาฉันไปหน่อยซิ”

“เพื่อน...หน้าตาเป็นยังไงล่ะ...”

เขาหัวเราะหึๆ มองหล่อนอย่างปลงๆ แกมเวทนา แต่ภูษิตเอนหน้าเข้ามากระซิบกับเขาว่า

“อาจจะเป็นแผนจับเอ็งก็ได้นะโว้ย ไก่แถวนี้ลีลาพญาหงส์ทั้งนั้นแหละ หน้าตาอ่อนๆ ยังงี้เนื้อคงขบเผาะเอาไว้ก่อน...กรอกเหล้าเข้าไปแล้วเดี๋ยวพาชว้าบไปเล้ย”

“อายุสักเท่าไหร่วะนี่”

“อาจจะเกินสิบห้า...เกินยี่สิบไหมหว่า”

ดวงหน้าของภูษิตเกือบจะติดกับดวงหน้าของกานพลู หล่อนยังคงพอมีสติพอประมาณ สิ่งที่กานพลูทำได้ก็คือ ยกมือขึ้นยันหน้าเขาออกไปอย่างแรงด้วยเรี่ยวแรงที่พอจะหลงเหลืออยู่นั่นทำให้ภูษิตหน้าหงายเกือบจะหัวทิ่มคะมำหงายไปจากเบาะเก้าอี้ที่นั่งอยู่

“เบาๆ อีหนู มือหนักชิบโผง...ขอดูหน้าใกล้ๆ หน่อยเดียว...” ภูษิตมองเรื่อยไปยังเสื้อผ้าของกานพลูก่อนจะเปรยๆ ต่อ “แม่คนนี้มาแปลกครับ อาจจะเป็นพวกเด็กที่ชอบแต่งตัวเรียบๆ ทำตัวเหมือนเด็กมัธยมออกหาเหยื่ออะฮ้า...นี่เป็นโชคหรือเคราะห์ของเอ็งกันแน่วะ ไอ้นิจ”

“ที่นี่เขามีประกาศหาคนหายบ้างไหมวะ”

“เอ็งลองเดินไปถามพวกดีเจ. เขาเอาเองเถอะว่ะ แต่ระวังนะโว้ย พวกมันอาจจะหัวเราะเยาะแล้วทำให้เอ็งหน้าแตกกลับมา ทำหน้าซื่อๆ บอกว่าพลัดหลงกับเพื่อนนี่มันลูกไม้เก่าแล้ว จับเอาไว้ก่อน...โอ้โฮ...อีหนูของเอ็งดื่มเหล้ายังกะดื่มน้ำ...ไอ้การดื่มแบบนี้นะมันบอกชัดๆ เลยว่าอีดื่มไม่เป็น สงสัยจะหนีออกมาจากบ้าน มีปัญหามาหรือไม่ก็เพิ่งอกหัก...” ภูษิตเปลี่ยนข้อสันนิษฐานใหม่ได้รวดเร็วนัก “เอ็งมันคนใจบุญอยู่แล้วนี่หว่า ช่วยสงเคราะห์ให้รู้แล้วรู้รอด หรือถ้ากลับบาปกรรมก็ส่งมาให้ข้า จะเอาไปเอง”

พินิจนัยรู้ซึ้งถึงสันดานของภูษิตดี เขาได้แต่สั่นหัวตอบเรื่อยๆ บอกไม่ได้ว่าที่แท้แล้วเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่

“อีหนูนี่อาจจะช่วยให้ข้าเบาตัวได้คืนนี้ ไม่ได้ลิ้มรสหวานๆ ของผู้หญิงมานานแล้ว ปล่อยให้เป็นธุระของข้าดีกว่า” แล้วเขาก็เรียกเหล้าแก้วใหม่มาให้หล่อนอีก เมื่อกานพลูตั้งหน้าตั้งตาดื่มราวกับดื่มน้ำ ท่าประคองแก้วเอาไว้ในอุ้งมือทั้งสองราวกับเป็นของล้ำค่าก็ทำให้เขาอยากรู้ว่าหล่อนจะบ้าไปอีกสักแค่ไหนกัน ได้เหล้าไปหลายแก้วเข้าหล่อนก็ไม่เรียกหาเพื่อนอีกเลย

“เอาเลย ดื่มเข้าไป” เขาประชด รู้ว่าอีกไม่เท่าไหร่หล่อนจะต้องหมอบแน่ๆ “มีเรี่ยวแรงก็กรอกเหล้าเข้าไปเล้ย...”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ลิขิตกามเทพ-อาริตา   20 ไม่มีกานพลูคนเกา

    “น้าสุ…” พินิจนัยทักอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นน้าสาว แล้วพอพิจารณาสีหน้าของเธอถนัด เขาก็แอบถอนใจเบาๆ พอไม่ให้ได้ยิน “มาหาผมแต่หัววันเชียว” ชายหนุ่มลุกขึ้นจากแปลงเพาะชำของตัวเอง ปัดมือที่เปื้อนคราบดินกับผ้าผืนใหญ่ที่ดูแทบไม่ออกแล้วว่าเดิมเป็นสีขาวหรือไม่จากเด็กชายตัวเล็กๆ ที่ส่งมาให้ “เชิญน้าสุบนบ้านดีกว่า ตรงนี้มันสกปรก”“น้าเพิ่งมาจากบ้านของพ่อเธอ”เพียงอ้าปาก พินิจนัยก็เดาได้ปรุโปร่ง แต่ชายหนุ่มก็ถามเรื่อยเฉื่อยเหมือนไม่ได้ยินดียินร้ายด้วยประการทั้งปวง“พ่อคงกำลังเบิกบานซินะครับ เข้าหอมาเจ็ดวันแล้ว…เมียสาววัยเอ๊าะ…ให้กกกอด”“นี่เธอไม่รู้สึกอายบ้างหรือ”“แล้วจะให้ผมทำยังไงล่ะครับ” เขาแกล้งถามส่งๆ ไปอย่างนั้นเอง “พ่อจะได้เตะผมตาย…ถ้าสาระแนเข้าไปวุ่นวายกับเขา”“เธอน่าจะไปกันท่าเอาไว้มั่ง น้าละไม่ชอบเล้ย ที่ถึงกับมาจดทะเบียนกันด้วย แม่คนนั้นน่ะทำหน้าซื่อ แต่น้าก็รู้ทันว่ามันหวังสมบัติ ก็ยังสาวแส้ปูนนั้น มันจะอยากมีผัวแก่คราวพ่อเชียวรื้อ…ป้ามันต้องส่งมาฮุบสมบัติที่จริงหน้าตามันก็ยังงั้นๆ คุณพี่ถูกเสน่ห์ยาแฝดหรือเปล่า”คราวนี้พินิจนัยหัวเราะก๊ากใหญ่“น้าสุก้อ ใครจะเชื่อ นี่มันพอศอสองพันห้าร

  • ลิขิตกามเทพ-อาริตา   19 จะลงเอยกันแบบไหน

    คุณจินดาก้าวเข้ามาในห้อง แล้วสิ่งที่เธอได้เห็นก็คือกานพลูคุดคู้หลบอยู่มุมหนึ่งของเตียง มีผ้าห่มพันกายเอาไว้แน่นหนา เมื่อเธอแตะมือลงบนเนื้อตัวของหล่อน กานพลูก็สะดุ้งโหยง กรีดเสียงออกมาอีกทั้งที่ยังหลับตาแน่น“คุณกาน...” เธอเรียกให้เสียง “ลืมตาก่อนเถอะค่ะ ไม่มีอันตรายแล้ว”แต่ในอกของเธอกำลังหนักใจแทน นี่กานพลูเกิดเป็นอะไรขึ้นมากันหนอ“คุณกาน ไม่ค่ะ...ไม่ต้องกลัว”ด้วยความเวทนาต่อสภาพของหญิงสาววัยคราวลูก ทำให้เธอกอดหล่อนเอาไว้แน่ แล้วปลอบโยนไปตามเพลง“เกิดอะไรขึ้นคะ คุณร้องเสียลั่นไปหมดทั้งบ้าน ท่านเองก็ยังกลัวนี่ไปตั้งหลักที่ไหนแล้วก็ไม่รู้”“กาน...กาน...” น้ำตาไหลพราก หล่อนยึดคุณจินดาเอาไว้แน่นแล้วสะอึกสะอื้นบอกต่อ “กานกลัว...กลัวผู้ชาย กานไม่อยากนอนกับผู้ชาย”…แล้วมันจะลงเอยกันแบบไหนนะนี่…เธอรำพึงอยู่ในใจ“ท่านเป็นสามีคุณแล้วนะคะ ถูกต้องตามกฎหมาย…” เธอปลอบประโลมเท่าที่จะทำได้ “แล้วถ้าคุณยังบ่ายเบี่ยง คุณแน่ใจไหมคะว่าไม่มีปัญหา”กานพลูมองหน้าเธอเขม็ง แววตางุนงงสงสัย“ไอ้เรื่องปัญหาของคุณกานน่ะค่ะ ตรงนี้…” เธอชี้ที่ท้องของหญิงสาว ลดเสียงให้เบาลง “ถ้าเกิดมันป่องขึ้นมาแล้วคุณยังไม่เคยนอ

  • ลิขิตกามเทพ-อาริตา   18 อย่าเป็นเด็กดื้อ

    แม่กาน เฮ้อ...เป็นอะไรกันแน่นะ ดูซิ นอนตาปรอยเชียว”คุณนายจันทร์เพ็ญบ่นออกมาเมื่อเข้ามาเห็นหลานสาวนอนซมปากแห้งซีด ดวงตาลอยคว้างจับเฉพาะเพดานเหมือนไม่ยินดียินร้ายใดๆ อีกแล้ว อังมือดูตามหน้าผากและเนื้อตัวของกานพลูก็พบว่าเย็นชืดไปหมด “ไม่มีไข้นี่ ค่อยยังชั่วหน่อย เด็กบอกว่าข้าวเที่ยงก็ไม่อยากกิน กินแต่ยาแก้ปวดหัวไปหลายเม็ดแล้ว”“คุณป้า” หล่อนคว้าจับมือนางขึ้นมาบีบแน่น จ้องมองสบตากับนางเขม็งแล้วนางก็ได้เห็นน้ำตาเต็มตาของหลานสาว “กรุณากานสักหนได้ไหมคะ พากานกลับไปกรุงเทพฯ อย่าให้กานอยู่ที่นี่ มันเหมือนนรก”นางหันมองรอบๆ ตัวก่อนที่จะเอ็ดกานพลูด้วยเสียงเด็ดขาดนัก“พูดบ้าๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน ใครมาได้ยินเข้าเอาไปรายงานท่าน จะพลอยชวด”“กานไม่อยากอยู่ที่นี่ กานยังไม่อยากมี...สามี...”หล่อนกระดากปากที่จะใช้คำว่า ‘ผัว’ แต่คุณนายจันทร์เพ็ญมองหล่อนด้วยแววตาดุๆ ติดจะเหี้ยมเกรียมเล็กน้อย พร้อมกับมือหนึ่งผลักร่างที่ผงกขึ้นมาของกานพลูให้นอนราบลง“ป้าน่ะหาทางออกที่ดีให้กับแก พูดมาได้ว่าไม่อยากมีผัว...คุณบดินทร์เขาไม่ใช่คนเลวเกวอะไร...ทีเวลาแกวิ่งไปหาผู้ชายข้างถนนมาทำผัวได้ ทำไมไม่เอามาคิดเทียบกันมั่งหรือ

  • ลิขิตกามเทพ-อาริตา   17 เขาเกลียดกาน

    แม่กาน เฮ้อ...เป็นอะไรกันแน่นะ ดูซิ นอนตาปรอยเชียว”คุณนายจันทร์เพ็ญบ่นออกมาเมื่อเข้ามาเห็นหลานสาวนอนซมปากแห้งซีด ดวงตาลอยคว้างจับเฉพาะเพดานเหมือนไม่ยินดียินร้ายใดๆ อีกแล้ว อังมือดูตามหน้าผากและเนื้อตัวของกานพลูก็พบว่าเย็นชืดไปหมด “ไม่มีไข้นี่ ค่อยยังชั่วหน่อย เด็กบอกว่าข้าวเที่ยงก็ไม่อยากกิน กินแต่ยาแก้ปวดหัวไปหลายเม็ดแล้ว”“คุณป้า” หล่อนคว้าจับมือนางขึ้นมาบีบแน่น จ้องมองสบตากับนางเขม็งแล้วนางก็ได้เห็นน้ำตาเต็มตาของหลานสาว “กรุณากานสักหนได้ไหมคะ พากานกลับไปกรุงเทพฯ อย่าให้กานอยู่ที่นี่ มันเหมือนนรก”นางหันมองรอบๆ ตัวก่อนที่จะเอ็ดกานพลูด้วยเสียงเด็ดขาดนัก“พูดบ้าๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน ใครมาได้ยินเข้าเอาไปรายงานท่าน จะพลอยชวด”“กานไม่อยากอยู่ที่นี่ กานยังไม่อยากมี...สามี...”หล่อนกระดากปากที่จะใช้คำว่า ‘ผัว’ แต่คุณนายจันทร์เพ็ญมองหล่อนด้วยแววตาดุๆ ติดจะเหี้ยมเกรียมเล็กน้อย พร้อมกับมือหนึ่งผลักร่างที่ผงกขึ้นมาของกานพลูให้นอนราบลง“ป้าน่ะหาทางออกที่ดีให้กับแก พูดมาได้ว่าไม่อยากมีผัว...คุณบดินทร์เขาไม่ใช่คนเลวเกวอะไร...ทีเวลาแกวิ่งไปหาผู้ชายข้างถนนมาทำผัวได้ ทำไมไม่เอามาคิดเทียบกันมั่งหรือ

  • ลิขิตกามเทพ-อาริตา   16 ตีหน้าซื่อ

    “คราวนี้เกิดอะไรขึ้นคะ ทุกทีไม่เคยเห็นคุณนิจจะขัดขวาง เวลาท่านจะมีเมียสักคน”“เพราะผมรู้ว่าแค่ของเล่นมังครับ นี่เกิดจะเอาจริงขึ้นมา อายุก็ปาเข้าไปปูนนี้แล้ว บอกจริงๆ นะครับ ตัวผู้หญิงน่ะยังพอจะวางใจได้ว่าซื่อๆ แต่ป้าของเขานั่นตะหาก ผมว่าท่าแกจะเค็มไม่เบา พาหลานสาวมาทำแบบนี้ก็นับว่าร้ายนะครับ...ไม่ใช่หวังดีหรอก”“เด็กไม่มีทางเลือกค่ะ” คุณจินดาบอก “แล้วก็กำลังมีปัญหามาด้วยซิ...”ชายหนุ่มหวนคิดถึงคืนนั้นที่เขาพากานพลูออกมาจากเธค แล้วไปที่โรงแรม แต่เขาก็ไม่ได้แตะต้องล่วงเกินหล่อนเลย เพียงแต่ยังไม่แน่ใจเท่านั้นว่า ก่อนหน้าคืนนั้นหล่อนเคยผ่านผู้ชายคนใดมาบ้าง...แล้วที่ป้าของหล่อนกลัวหล่อนจะท้องนั้น มันมีมูลความจริงเพียงใดกัน“คุณนิจรับปากดิฉันก่อนแล้วกันว่า จะไม่ไปหาเรื่องเธอ”ชายหนุ่มหรี่ตาลงเล็กน้อย “นี่คุณจินดาเตรียมกางกั้นหล่อนเอาไว้แล้วหรือครับ”“ถ้าคุณกานจะต้องแต่งกับท่าน อยู่ที่นี่กับท่าน ดิฉันคิดว่าเธอควรจะมีใครสักคนเป็นพี่เลี้ยง แล้วการเป็นคุณนายบ้านนี้ เธอก็ควรอยู่บนลำแข้งตัวเอง ไม่ใช่เป็นหุ่นเชิดของคุณป้าเธอเอง...ไม่อย่างนั้นคุณเพ็ญแกคงจะสูบเลือดเอาไปจนหมดนั่นแหละ อย่างที่คุณนิ

  • ลิขิตกามเทพ-อาริตา   15 ลิขิตสวรรค์

    “กานไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไรเลย”หล่อนบอกซ้ำๆ ซากๆ แต่ดวงหน้าขาวเผือดนั่นก็ทำให้นายบดินทร์ไม่อาจจะปักใจเชื่อได้“แค่ตกใจเท่านั้นเองค่ะ เดี๋ยวก็คงจะหาย กานซุ่มซ่ามไปมากกว่า”กานพลูออกตัว และนั่นเป็นสิ่งที่คุณนายจันทร์เพ็ญเห็นด้วยอย่างมาก นางกล่าวเสริมว่า“แม่คนนี้น่ะ ได้แผลเพราะความซุ่มซ่ามมาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะนี่ก็คงจะเพราะอยากลงไปเดินเล่น จนได้ดี มันยังมืดอยู่เลย...ทีหลังก็รอให้ฟ้าสว่างก่อนนะจ๊ะ แล้วเวลาเดินก็ดู ๆ ซะมั่ง เดี๋ยวดิฉันทายาเอง” นางบอกกับเขาให้คลายความห่วงใยลงไป พอเขาเดินไปจากห้องแล้ว นางก็เอ็ดหลานสาวทันที “ทีหลังระวังหน่อยนะ แกไม่ใช่เด็กเล็กๆ อีกแล้วจะได้ซุ่มซ่ามได้น่าเอ็นดูตลอด เขาจะเอือมระอาเอาได้ เพราะเขาจะให้แกเป็นเมีย ไม่ใช่เอามาเลี้ยงเป็นลูก”นั่นทำให้กานพลูไม่กล้าปริปากบอกนางเกี่ยวกับเรื่องพินิจนัยหล่อนนึกหวาดๆ ความหวาดนั่นทำให้หล่อนไม่อยากปรากฏตัวที่โต๊ะอาหารมื้อเช้า ซึ่งผึ้งบอกด้วยหน้าตาระรื่นว่า“คุณนิจจะมาทานข้าวเช้าด้วย เธอไม่ได้มานานแล้วนะคะ...ใครๆก็คิดถึงเธอ ยายแม่ครัวงี้ดีใจนักหนาที่จะได้ทำอาหารอร่อยๆ ให้เธอทาน”หญิงสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วนั่งห้อย

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status