นีรนิลมาแอบมองคนถือดีที่ตอนนี้บอกว่าจะรับประทานอาหารเอง คิ้วเรียวขมวดนิ่วหน้าอย่างไม่พอใจ ทำไมเขาถึงได้ดื้อได้ใจอย่างนี้นะ จะทานเองได้ยังไงกัน แขนข้างที่ใช้งานได้นั้นมันไม่ใช่ข้างถนัดของเขา แล้วมันก็ยังไม่ค่อยปกติด้วย ภาพที่เห็นทำให้เธอต้องส่ายหัวอย่างเอือมระอา แบบนี้คงไม่ได้ทานยาแน่
แกร่ก! คนตัวเล็กรีบเปิดประตูเข้าไปข้างในทันทีโดยไม่ต้องเคาะส่งสัญญาณตามมารยาท
“อื้อ ...มาค่ะ เดี๋ยวเค้าป้อนให้เอง” หญิงสาวรีบขยับโต๊ะเลื่อนที่วางถาดอาหาร มาวางอยู่ตรงหน้าของเขา
“ไม่ต้อง..ฉันกินเองได้” เนติกาจ้องหน้าอีกฝ่ายเสียงเข้ม ในใจนึกรำคาญตัวเองที่ทำอะไรไม่ค่อยถนัดนั้น
“กินเองได้ยังไงล่ะคะ ดูสิ ถามว่า..ได้สักคำหรือยัง” หญิงสาวนิ่วหน้าตำหนิเขา เมื่ออีกฝ่ายเบนหน้าหนี เธอก็อมยิ้ม เพราะรู้ว่าคงเถียงไม่ออกนั่นเอง
“อืมก็ได้ ป้อนเร็วๆ ด้วย หิวจะแย่แล้ว” ประโยคที่ได้ยินทำให้นีรนิลอมยิ้ม นีรนิลจัดการดึงข้าวต้มหมูของโปรดของเขาเอามาถือ ก่อนจะค่อยๆ ตักชั้นบนสุดใส่ปากเขาอย่างเบามือ
เนติการู้สึกดีเมื่อมีอะไรลงท้องเสียทีหลังจากที่ป้ำตักใส่ปากอย่างยากลำบาก ทุกการกระทำนั้นทำให้นีรนิลดีใจ นี่เป็นครั้งแรกในรอบ ห้าหกปีที่เธอได้ปรนนิบัติเขา แต่ก่อนนั้นเธอตั้งใจจะเป็นแม่ศรีเรือนทำอาหารให้กับเขากินทุกวัน แต่ความฝันก็ต้องพังทะลายลง แต่ก็ช่างเถอะมันผ่านมาแล้ว และตอนนี้เขาก็อยู่ต่อหน้าเธอแล้ว ไม่รู้ด้วยพรมลิขิตหรือว่าโชคชะตาที่ทำให้มาเจอกับเขาอีกครั้ง
เนติกาเองก็อ้าปากรับข้าวต้มอย่างว่าง่าย เธอลอบชำเรืองมองใบหน้าใสที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมนั้น หากตอนนั้นเราไม่เลิกกันตอนนี้คงจะไปหาทางมีลูกด้วยกันแล้วกระมัง เพราะเธอเคยวาดฝันเอาไว้ว่าหากแต่งงานอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวเธอจะบินไปปรึกษาแพทย์เพื่อมีลูก คิดแล้วก็แอบน้อยใจเมื่อนึกถึงเรื่องที่อีกฝ่ายโกหกเรื่องที่ตัวเองจะต้องหมั้นและแต่งงานกับคู่หมั้นไฮโซนั้น
“เอาอีกไหมคะ” นีรนิลช้อนสายตาบอกเขาเมื่อเห็นอีกฝ่ายกินเอากินเอาอย่างเอร็ดอร่อย เนติกาลืมตัวแล้วเอ่ยเย้าตามความเคยชิน
“แล้วให้เอาหรือเปล่าล่ะ” น้ำเสียงกระเส่าเอ่ย นีรนิลหน้าร้อนผ่าวมองหน้าเขาด้วยความตกใจ
“อะ อะไรนะคะ”
“อุ้ย!เอ่อๆ หมายความว่ามีอีกไหม แฮกๆๆ” เนติการีบแก้ตัวแล้วเบนสายตาไปทางอื่น การรีบพูดนั้นทำให้เธอสำลัก
“อื้อ ตัวอ่ะ เห็นไหม ดื่มน้ำก่อนค่ะ นี่ๆ” นีรนิลรีบหันไปหยิบแก้วน้ำแล้วป้อนเขาด้วยความเป็นห่วง พลางลูบหลังเบาๆ ไปมา
เนติกาเหลียวไปมองอีกฝ่าย ทำให้ปลายจมูกนั้นเฉียดแก้มใสของอีกฝ่ายไปมา เธอลืมตัวเผลอสูดกลิ่นหอมเข้าปอด หัวใจของเธอพองโตน้ำหอมที่เจ้าหล่อนใช้มันเป็นกลิ่นเดิม กลิ่นที่เธอเคยซื้อให้แล้วบอกว่าเธอชอบให้เจ้าหล่อนใช้กลิ่นนี้ มันเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ แต่แอบเซ็กซี่เบาๆ
พรึ่บ!
“จุ๊บ! อุ๊ย!” ด้วยความรีบร้อน นีรนิลรีบหันมามองเขา แก้มใสจึงชนกับปากของเขาอย่างจัง ร่างบางตาลุกวาวพลางแก้มนั้นร้อนผ่าว เธอรู้สึกเหมือนเขาจุ๊บเธอนั้น มันคงบังเอิญมากกว่า คนตัวเล็กรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
“เอ่อๆ ฉันหายแล้ว ขอบคุณค่ะๆ” เนติการีบบอก
“อื้อ ค่ะ เดี๋ยวอีก 10 นาทีทานยานะคะ” นีรนิลเปลี่ยนเรื่องทันที เธอปรับให้สถานการณ์เป็นปกติโดยเร็ว เนติกามองยาเม็ดโตแล้วแอบกลืนน้ำลายฝืดๆ ลงคอ นึกถึงความขมที่ปาดเนื้อในลำคอแล้วมันพะอืดผะอมอย่างบอกไม่ถูก
“หากกินยากอีกจะป้อนแบบเมื่อวานนะคะ” นีรนิลอมยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น เนติกานึกฉุน ชอบใช้เล่ห์กลหลอกลวงอยู่เรื่อยไม่รู้ว่าทำแบบนี้มากี่คนแล้ว
“หึ คุณพยาบาลคงถนัดป้อนยาแบบนี้กับคนไข้ซินะคะ” สายตาเหยียดหยามนั้นทำให้นีรนิลรู้สึกไม่พอใจ
“หึ ป้อนแบบนี้คือแบบไหนคะ” หญิงสาวทำเป็นไม่รู้ที่เขาพูด คางเรียวเชิดขึ้น ประโยคที่สุดแสนจะกวนนั้นมันทำให้คนฟังอารมณ์เสีย
"หึ! คนนิสะ....” ก๊อกๆๆๆ เสียงนั้นทำให้เนติกาหยุดชะงัก
“พี่เน...เป็นไงบ้างคะ” ร่างของหญิงสาวเดินยิ้มเข้ามาแต่ไกล
“อื้อ ดีขึ้นเยอะเลย วันนี้ไม่มีเรียนภาคค่ำเหรอคะ”
“อื้อ ไม่ค่ะ พอพี่เนไม่อยู่ คุณพ่อก็เลยไม่อยากให้เรียน ไม่มีคนไปรับนะคะ”
“เดี๋ยวก็ไม่ทันเพื่อนหรอกค่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ รสาจะเกาะพี่เนกินจนตายเลย” หญิงสาวขยับเข้าไปใกล้แล้วแกล้งซบหน้ากับแขนของเนติกาเบาๆ ภาพนั้นทำให้คนที่แอบมองเจ็บปวดใจ นีรนิลรีบขอตัวออกมาจากห้องนั้นอย่างรวดเร็ว เธอแน่ใจแล้วว่านักศึกษาคนนี้คือแฟนของเขา แล้วเราจะเสียเวลารอทำไมนะน้ำตาล หญิงสาวบอกตัวเองพลางเช็ดขอบตาที่ร้อนผ่าวเบาๆ
“น้ำตาลเป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
“เอ่อๆ คุณหมอนพ ปะ ปล่าวค่ะ ดูเหมือนเศษฝุ่นจะเข้าตาค่ะ” นีรนิลต้องกลายเป็นคนโกหกโดยไม่รู้ตัว
“ไหนครับ ขอหมอดูหน่อยสิ” หมอนพรีบเข้าไปดูใกล้ๆ ด้วยความเป็นห่วง เขาหยิบผ้าสะอาดที่ชอบพกติดตัวนั้นออกมาทำหน้าที่จักษุแพทย์ ภาพที่เห็นนั้นทำให้ทุกคนต่างอมยิ้ม ต่างจากคนที่นั่งอยู่บนรถเข็ญ ถึงกับกำมือแน่น เนติการีบเบนหน้าหนีทันที ในโรงพยาบาลก็ไม่เว้น
“ว้าว คุณหมอกับคุณพยาบาลสวีทกันจริงเชียวนะคะ”
“อ้าวคุณหนูรสา คงหวานสู้คุณหนูไม่ได้หรอกครับ” นีรนิลสะดุ้งเมื่อหันไปสบตากับเขา
“มันแน่อยู่แล้วค่ะ ไปเดินเล่นทางนู้นดีกว่าค่ะพี่เน” เนติเหลือบไปมองหน้าอีกคนพลางเอื้ออมือไปลูบไล้ฝ่ามือของรสาไปมาเบาๆ
“ค่ะ”
หลังจากนั้นนีรนิลก็ได้แต่คอยแอบมองเขาอยู่ห่างๆ เมื่อรู้ว่าเขามีแฟนแล้วเธอจึงต้องหยุดอยู่ในมุมุของตัวเองนั้น วันนี้เขาต้องออกจากโรงพยาบาลแล้วซินะ ไปขอดูหน้าอีกครั้งก็ได้นีรนิลบอกตัวเอง จากนั้นเธอก็เขาไปที่ห้องของเขา พบว่ามันว่างป่าว นี่เขากลับไปแล้วอย่างนั้นเหรอ คนตัวเล็กรู้สึกผิดหวังสายตาเหม่อลอยไปยังเตียงที่เขาเคยนอน ก่อนจะหันหลังกลับด้วยสีหน้าห่อเหี่ยว
พรืด!
“อุ๊ย! ว๊ายยยย อื้อ” ทันทีที่หันกลับมาก็พบว่าเขาคนนั้นยืนอยู่ด้านหลัง ร่างเล็กสะดุดขาตัวเองจนเกือบล้ม ถ้าไม่มีแขนของเขารองรับเอาไว้ป่านนี้ลงไปนั่งก้นจั้มเบ้าอับอายเขาเป็นแน่ ทั้งคู่มองหน้ากันอยู่สักพัก แต่คนที่ได้สติก็คือนีรนิล
“เอ่อๆ ขอบคุณค่ะ อ๊ะ” นีรนิลช้อนสายตามองเขาอย่างตำหนิเมื่อเขาไม่ยอมคลายอ้อมแขนแถมยังรัดแน่ยมากกว่าเดิมเสียอีก
“ทำไมเหรอ โดนตัวนิดตัวหน่อยไม่ได้อย่างนั้นเหรอ” เนติกาเปิดประเด็น คำพูดนั้นใครฟังก็รู้ว่าไม่พอใจ ซึ่งมันก็เป็นไปตามนั้น ตั้งแต่วันนั้นเจ้าหล่อนไม่เคยเข้ามาดูแลพยาบาลเธออีก จนเธอหายดี ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดถึงหายหน้าไปแบบนี้ นี่ต้องการจะปั่นหัวเราอีกอย่างนั้นเหรอ
“อ๊ะ หาเรื่อง ปล่อยนะ คุณจะทำอะไร” นีรนิลกรอกสายตามองกิริยาของเขา เธอรู้สึกสายตาที่มองมานั้นมันแปลกชอบกล เขาจะหาเรื่องอะไรของเขา เธอไปทำอะไรให้อีก นีรนิลคิดแล้วรู้สึกหวาดๆ ทั้งๆ ที่เรากับเขาเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว แต่ทำไมหัวใจเธอสั่นแบบนี้....>>>>>
เนติกาอมยิ้มเมื่อเห็นความฉ่ำเยิ้มของดอกไม้งามตรงหน้า กลีบของมันแม้จะช้ำจากการเข้าหอเมื่อคืนอยู่บ้าง แต่ความสวยยังคงเป็นเช่นเดิม ดวงตาคมจ้องมองมันด้วยความปรารถนา หญิงสาวค่อยๆ กรีดปลายนิ้วลงไปเพื่อขอดูความฉ่ำข้างในนั้น“อื้อ...ตะ ตัว” เมื่อรู้สึกถึงการแยกออกจากกันนั้น เจ้าของความหวานฉ่ำจึงร้องครางขึ้น หญิงสาวผงกหัวมองผู้เป็นสามี ที่ตอนนี้กำลังซุกซนจนเกินไปเสียแล้ว“หืม ที่รัก จุ๊บ อื้อ อ่าส์” เนติกาเงยหน้าขานรับเสียงหวาน ขณะที่ริมฝีปากนุ่มก็จุมพิตอยู่กับเนินเนื้ออิ่มตรงหน้านั้น เธอใช้นิ้วที่ยวที่สุดสะกิดปุ่มด้านบนไปมาเบาๆ“มัน สะ เสียว ตัวอย่าเขี่ย อื้อ อ่าส์” หัวใจของนีรนิลเต้นระทึก เมื่อกลีบเนื้อสวยถูกแบะออกขณะที่นิ้วร้ายยังเล่นซนจนเธอหัวใจจะวาย เขาทำแบบนี้รู้ไหมว่าน้ำเธอกำลังไหลออกจนหมดตัวแล้ว“ไม่เขี่ยแล้วเลียได้ไหม อื้อ แพล่บ อื้ม อร่อยจัง แพล่บๆ” เนติกาเปรยระหว่างปาดลิ้นร้อนไปตรงปุ่มนั้น พลับดูดซับน้ำหวานแล้วกลืนกินลงคอ ไม่อยากจะบอกเลยว่าน้ำตาลก้อนนี้หวานล้ำจนเธอหลงใหล กลิ่นสาบสาวที่โชยแตะปลายจมูกมันปลุกอารมณ์ดิบข้างในร่างกายของเธอเป็นอย่างดี คิดแล้วก็ห่อปากงาบงับเจ้าเนื้อหยุ่นสีช
นายเหลือบสายตามองเบื้องหน้าในระหว่างนั้นก็ค่อยๆ จรดริมฝีปากพรหมจูบเนินเนื้ออิ่มของเจ้าหล่อนด้วยความแผ่วเบา ปลายนิ้วยาวทั้งสามยังคงแช่มันอยู่ตรงช่อทางรัก เมื่อเห็นสีใสที่ไหลเยิ้มออกมานั้นเธอจึงเบาใจลงบ้าง กล้ามเนื้อหยุ่นที่เริ่มปรับตัวนั้นมันทำให้นายแอบอมยิ้ม“อื้อ ตอดดีจัง จุ๊บ อื้ม จุ๊บ อื้อ” นายเปรยระหว่างนั้นก็พรมจูบลงกับเนินเนื้ออิ่มของเจ้าหล่อน ลิ้นร้อนแอบตวัดปุ่มเนื้อหยุ่นที่บวมเป่งเบาๆ“อ๊ะ คุณ อ๊ะ อื้อ อ่าส์” รสาเงยหน้าร้องบอกเขา หญิงสาวส่ายหน้าไปมาเบาๆ สะโพกสวยบิดเร้าอยู่อย่างนั้น หัวใจของเธอเต้นระทึกเมื่อรู้สึกถึงสิ่งที่ค้างคาอยู่ตรงร่องสวยของเธอนั้นเริ่มขยับไปมา หญิงสาวถึงกลับต้องเลียริมฝีปากที่แห้งผาก มือทั้งสอข้างกำผ้าปูที่นอนแน่น“อื้ม จุ๊บ อื้อ คนดี แบบนี้แหล่ะค่ะ แบบนี้ อื้ม จ๊วบ อือ” เมื่อเห็นว่าร่างน้อยเลิกเกร็งร่างกายนั้นแล้ว นายจึงเปรยออกมาพร้อมกับการเล้าโลมขึ้นสุด เธอห่อปากดูดดึงติ่งเนื้อนุ่มนิ่มของเจ้าหล่อนไปมา หยดน้ำหวานที่เคลือบอยู่ถูกตวัดปาดเลียลงลำคอ นายจึงค่อยๆ ขยับข้อมือตัวเองออกอย่างช้าๆ จากนั้นก็ดันมันเข้าไปใหม่ด้วยความแผ่วเบา“อื้อ อ๊ะ อ๊ะ อื้อ คุณ อื้อ
รสาตกใจที่เห็นว่ามันไม่ใช่แค่ฝัน แล้วเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน เธอจำได้ว่าเธอถูกเขาจูบอยู่ที่ห้องน้ำในผับนั้น มารู้ตัวอีกทีก็อยู่ที่นี่แล้ว แถมเขายังทำการถือวิสาสะกับเนื้อตัวเธออีก ทุกอย่างมันคือฝีมือของเขาอย่างนั้นสินะ ทไม่อย่างนั้นเนื้อตัวของเธอไม่ล่อนจ้อนขนาดนี้ สิ่งที่เธอฝันนั้นแสดงว่ามันไม่ได้เป็นเพียงแค่ฝัน เขาจูบเธอจริงเข้าเล็มเลียเนื้อตัวของเธอจริง แถมตอนนี้เขากำลังจะขืนใจเธออีกด้วย รสาตกใจรีบดิ้นหนีปากของเขา“อื้อ จุ๊บ จ๊วบอื้อ” นายครางอย่างขัดใจเมื่อคนด้านล่างดิ้นรนขัดขืนอยู่อย่างนั้น ร่างสูงเหลือบตามองใบหน้าของอีกฝ่าย สายตาสบเข้าอย่างจัง คนตัวสูงกว่ากดร่างของตัวเองลงไปแนบแน่น พร้อมกับบดริมฝีปากลงเคล้าเจ้าหล่อนอย่างหนักหน่วง มือข้างหนึ่งเอื้อมไปไปถูไถลกลีบเนื้อสวยก่อนจะค่อยๆ กรีดลงไปใจกลางสาวแล้วสะกิดติ่งเนื้อหยุ่นเต่งตึงนั้นไปมา“อ๊ะ อ๊ะ อื้อ นาย อุ๊บ อือ” รสาสะดุ้งกายเบาๆ ตามจังหวะการสะกิดของเขานั้น ร่างน้อยร้อนวูบวาบขึ้นตามจังหวะการสัมผัสของเขา ใช่ว่าเธอจะไร้เดียวสา พอจะรู้ว่าตรงส่วนนั้นมันไวต่อความรู้สึกมากมายขนาดไหน เธอเสียวสยิวเป็นที่สุดเขาทำให้ขนกายของเธอลุกซู่อย่างเ
รสาดิ้นขลุกขลักเธอทั้งผลักทั้งดึงเพื่อให้เขาปล่อยปากจากการจูบเธอนี้ แต่ดูเหมือนว่าคนตัวสูงกว่าจะไม่ยอมปล่อยง่ายๆ เหมือนลิ้นร้ายของเขาพยายามสอดแทรกเพื่อเปิดปากอิ่มของเธอเข้าไปข้างในริมฝีปากนี้ เธอไม่ยอมให้เขาจูบเธอเหมือนเมื่อวันก่อนเป็นแน่ แค่ครั้งเดียวมันก็เกินพอแล้ว รสาคิดพลางดึงเสื้อของเขาแน่น“อื้อ....” นายครางอย่างขัดใจ เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมให้ความร่วมมือ ความนุ่มนิ่มของปากอิ่มทำให้เธอคิดถึงความหวานจากข้างในนั้น ทีแรกก็แค่อยากจะปิดปากเจ้าหล่อนไม่ให้ส่งเสียง แต่พอได้สัมผัสแล้วมันทำให้เธออยากลิ้มรสความหวานจากข้างในโพรงปากนี้ หญิงสาวค่อยๆ สอดมือเข้าท้ายทอยของเจ้าหล่อน พลางสอดมืออีกข้างเคลื่อนเข้าก้อนเนื้อตรงหน้าอย่างถือวิสาสะ“อ๊ะ อื้อ อะ อุ๊บ จุ๊บ อื้อ อ่าส์” รสารีบร้องห้ามเมื่อเมื่อเขาสอดมือเข้าใต้สาบเสื้อแล้วบีบหน้าอกเธออย่างแรง แต่เธอไม่รู้เลยว่าการกระทำเช่นนั้นมันทำให้เขาอาศัยจังหวะเผลอส่งแทรกเจ้าลิ้นร้ายเข้าไปข้างในโพรงปากเธอทันที รสารีบถดลิ้นเล็กหนี แต่พื้นที่ข้างในปากอิ่มของเธอนี้มันก็ไม่ได้กว้างเหมือนลานจอดรถ เขาไล่ตามต้อนเธอจนมุม และตอนนี้เขากำลังตวัดปลายลิ้นมายังเธอนี้“อื้อ
นีรนิลหน้าร้อนผ่าวเมื่อร่างสวยขาวโพลนทอดยาวอยู่บนเตียงนุ่ม คนตัวเล็กนอนหอบตัวโยงหลังจากที่เรามีความสุขกันไปรอบหนึ่งแล้ว ร่างสูงของเขายังคงขึ้นค่อมอยู่ด้านบน มือทั้งสอข้างยังยันอยู่กับเตียงนุ่มอยู่อย่างนั้น คนตัวเล็กหน้าแดงจัดพลางอมยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงลีลารักของเขา กลีบเนื้อนุ่มก็ร้อนขึ้นมาเลยก็ว่าได้ สายตาหวานเยิ้มมองเรือนร่างของเขาแล้วเอื้อมมือไปลูบไล้เนื้อตัวของเขาไปมาเบาๆ เนติกาเงยหน้าส่งเสียงครางเมื่อฝ่ามือร้อนสัมผัสเรือนร่าง“อื้อ....อาส์” เสียงหวานครางเบาๆ เมื่อฝ่ามือร้อนแสนนุ่มนิ่มนั้นสัมผัสเรือนร่างโปร่งของตนนั้น ร่างสูงโน้มลงไปใกล้ สายตาหวานเยิ้ม นีรนิลอมยิ้มปรือตาหวานเยิ้ม เธอไต่ปลายนิ้วไปกอบกุมอยู่กับเต้าเต่งของเขา“นุ่มมือจังค่ะ อื้อ” เสียงหวานของคนด้านล่างเอ่ย พลางเคล้นไปมาเบาๆ เนติกาหน้าร้อนผ่าวหญิงสาวเบียดร่างน้อยลงไปหาเจ้าหล่อนอีกแล้วคลายยิ้มออกมา“อื้อ มือตัวก็นุ่มจังค่ะ อ่าส์ รู้สึกดีจังเลย” ร่างโปร่งหลับตาเงยหน้าคราง นีรนิลอมยิ้ม ทุกครั้งที่เธอสัมผัสเขาๆ ก็จะร้องแบบนี้ บิดกายส่ายไปมาแบบนี้ ซึ่งมันปลุกเร้าความต้องการข้างในขึ้นมาทุกขณะ นีรนิลใช้ปลายนิ้วยาวสะกิดไปมาเบา
เนติกายืนมองร่างร่างบางในชุดราตรีสีครีมยาวกรอมพื้นด้วยแววตาปลื้มปริ่ม ใบหน้าสวยหวานของคนตรงหน้าทำให้เธอรู้สึกภูมิใจ เมียใครทำไมสวยขนาดนี้ คนตัวสูงคิดพลางอมยิ้มก่อนจะก้มลงไปจับมือเรียวสวยนั้นขึ้นมากุมไว้ สายตามองคนตรงหน้าหวานเยิ้ม“รู้ไหม ว่าวันนี้ตัวสวยมากเลยนะคะ”“อื้อ ตัวก็สวยค่ะ สวยจนจำไม่ได้เลยคะ”เสียงหวานเอ่ยพลางกุมมือเขาตอบ เธอยิ้มหวานให้คนตรงหน้า คนที่กำลังเป็นคู่วิวาห์กับเธออยู่ตอนนี้ เธอไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่เธอจะได้แต่งงานกับเขา คนที่หนีเธอไปและเลิกกันเมื่อห้าปีก่อนนั้น มันเหมือนฝันเลยก็ว่าได้“อื้อ ว่าแต่ตอนนี้เมียพร้อมหรือยังคะ” เธออมยิ้มใส่ตาหวานคู่ที่ระยิบระยับนั้น นีรนิลมองตามเขาไปยังประตูโบสถ์ที่ปิดสนิทนั้นแล้วพยักหน้า“พร้อมตั้งแต่เกิดแล้วค่ะ” เจ้าหล่อนเย้าคนตัวสูงเล่น เนติกาอมยิ้มก่อนจะจับหัวเจ้าหล่อนแล้วโยกเบาๆ“อื้อ อ่ะจ๊ะ ไปกันค่ะ”“อื้อ...” นีรนิลพยักหน้าเบาๆ จากนั้นทั้งสองสามก็พากันเดินจูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์ ทันทีที่บานประตูเปิดออกเสียงปรบมือก็ดังเกรียวกราวพร้อมกับเสียงชื่นชมยินดีที่ดังขึ้น ทั้งคู่มองหน้ากันแล้วยิ้มหวานให้กัน มือสองมือกุมกันแน่น แน่นชน