เนติกาเผลอมองริมฝีปากอิ่มอย่างลืมตัว หัวใจของเธอเต้นระทึก ดวงตาหวานหรี่ลงจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของกันและกัน ความรู้สึกบางอย่างปรากฏในหัวใจนั้น ดวงตาหวานยังคงกวาดมองดวงหน้าใสนั้นนิ่ง นีรนิลอาศัยช่วงนั้นหันไปมองยาที่อยู่ในถาด แอบยิ้มแล้วค่อยๆ เอื้อมไปหยิบมันมา
“ตัว!” หญิงสาวแกล้งเรียกเราเสียงเบาหวิว เนติกาเลิกคิ้วเชิงคำถามอย่างลืมตัว
“หืม...อ๊ะ นี่...อุ๊บ อื้อ อื้อ อือ”
เนติกาลืมตัวขานรับเสียงหวาน ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อจู่ๆ คนใต้ร่างของเธอก็นำบางอย่างมายัดใส่ปากเธอ เมื่อรู้ว่ามันคือยาเธอรีบจะบ้านทิ้ง แต่ทว่ามันก็ถูกสกัดกั้นด้วยริมฝาปากนุ่มของอีกฝ่ายที่ผงกหัวขึ้นมาฉกลงอย่างจังหนักหน่วง มือข้างหนึ่งก็กอดคอของเขาเอาไว้แน่น ส่วนอีกข้างก็กอดรัดร่างของเธอเอาไว้ เธอหายใจไม่ออกจนต้องกลืนเจ้าสิ่งนั้นลงไป
“จู๊บ บ๊ะ!! อื้อ เธอทำอะไรของเธอเนี่ย แฮกๆๆๆ”
เนติการีบผละร่างออกจากการกดทับร่างของคนตัวเล็กขึ้นแล้วจับคอตัวเอง
“เอ้า ดื่มน้ำก่อนค่ะ..อื้อ เร็วๆ ซิ” นีรนิลทำหน้าตาไขสือ เธอไม่ยี่ระกับสายตาคมดุนั้น หญิงสาวรีบส่งน้ำให้เขาดื่มอย่างรวดเร็ว นึกขันเมื่อเห็นสีหน้าตกใจนั้น เนติกาหรี่ตามองอีกฝ่ายแล้วนึกฉุน นี่หลอกลวงเราอีกแล้วงั้นเหรอ
“นี่ คุณเป็นคนแบบนี้ไปแล้วงั้นเหรอ โกหกหลอกลวงตลอด” ประโยคนั้นทำให้นีรนิลสะอึก แต่เธอก็ปรับสีหน้าเรียบแล้วเปลี่ยนเป็นยียวนกวนอารมณ์เขาแทน ในเมื่อเขามองเธอไม่ดีอยู่แล้วพูดไปก็เท่านั้นเขาไม่เชื่อเธออยู่แล้วนี่นา
“ก็แล้วแต่จะคิด คุณไม่อยากกินยาเองนี่นา ก็ต้องใช้แบบนี้”
“ชอบใช้เล่ห์มารยาหลอกคนไปทั่วสินะ” เนติกายังต่อว่าเจ้าหล่อนอีก
“ใช่ค่ะ แล้วจะทำไมเหรอคะ”
นีรนิลกวนโมโหเขากลับอีกครั้ง คนอะไรไม่ยอมเปิดใจฟังเธอเลย เข้าใจผิดไปถึงไหนแล้ว เธอไม่ได้หมั้น เธอไม่ได้แต่งงานกับใครทั้งนั้น ไม่ได้หมั้นด้วยซ้ำ เขาไม่ยอมฟังเธอเลย เอาแต่หนีหน้า แถมไปมีคนใหม่ในชั่วพริบตาเดียวอีก
เนติกากัดฟันกรอดๆ ทำไมถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้นะน้ำตาล น้ำตาลอย่างตัวไม่หวานอีกต่อไปแล้ว หึ ทำแบบนี้คือยังไงท้าทายคนอย่างผู้กองเนอย่างนั้นเหรอ เสียดายที่แขนข้างนี้ยังเจ็บไม่อย่างนั้นเธอจะจัดการคนลองดีเป็นแน่ก๊อกๆๆๆ!!!!
ยังไม่ทันที่ทุกอย่างจะดำเนินไป เสียงเรียกจากด้านนอกก็ดังขึ้น ทำให้นีรนิลรู้สึกโล่งอก เธอเริ่มกลัวสายตาจากเขาแล้วเธฮเริ่มเสียวสันหลังขึ้นมา
“อ้าวคนป่วย ทำไมยืนทำหน้าเครียดแบบนี้ล่ะคะ ทานยาหรือยัง”
คนที่เดินเข้ามานั้นเอ่ย เป็นคนเดียวกับที่ไปบอกนีรนิลเรื่องที่เขาไม่ทานยา
“อือ กินแล้วน่าหมวด” น้ำเสียงหงุดหงิดเอ่ยขึ้น
“จริงเหรอคะ กินได้ไงเนี่ย คุณพยาบาลเก่งจังทำให้ผู้กองกินยาได้ด้วย”
พูดเสร็จก็หันไปมองหน้าคนเก่งที่ยืนอมยิ้มอยู่นั้น
“กลับไปทำหน้าที่ได้แล้ว เวลาราชการนะเนี่ย”
“ผู้กองอ่ะ”
“หมวดเจน อยากปั่นจิ้งหรีดใช่ไหม” เนติกาเสียงเข้ม
“อื้อ ก็ได้ค่ะ รับทราบๆ ค่ะ” ทหารหญิงคนนั้นเอ่ย หลังจากนั้นก็ทำท่าตะเบะแล้วอมยิ้ม หันไปมองนีรนิลแล้วยิ้มหวานให้
“ฝากผู้กองของเราด้วยนะคะคุณพยาบาลคนสวย”
“เอ่อๆ ค่ะ ดิฉันจะดูแลเป็นอย่างดีค่ะ”
นีรนิลเหลือบไปมองหน้าคนตัวสูงแล้วอมยิ้ม เนติกามองหน้าตอบเธอเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใบหูเขาแดงขึ้นทั้งสองข้าง ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเขาโมโห
หลังจากที่ลูกน้องของเขาไปแล้ว เนติกาก็ขึ้นไปนอนบนเตียงอารมณ์หงุดหงิดเป็นที่สุด สายตามองหาคนต้นเรื่องที่ทำให้เธออารมณ์เสียได้ขนาดนี้ ตอนนี้ไม่อยู่ในห้องนี้แล้ว นึกโล่งอก หลังจากนั้นคนที่เข้ามาทำหน้าที่เปลี่ยนชุดและเปลี่ยนผ้าปูเตียงให้เธอก็คือผู้ช่วยพยาบาลทั้งสองคน เนติกาจึงเลือกที่จะไปนั่งตรงระเบียงห้องพิเศษ เพื่อสูดอากาศ“พี่ดาวว่าพี่น้ำตาลเขามีแฟนไหม”
เสียงที่ดังขึ้นจากห้องน้ำนั้นทำให้คนที่นอนอยู่นั้นหูผึ่งอย่างอยากรู้ ผู้ช่วยสองคนนี้ขี้นินทาจัง หญิงสาวคิดในใจ
“ไม่รู้สิ ไม่เคยเห็นแฟนเธอเลยนะ อยู่ที่นี่ก็เกือบ ปีแล้ว”
“ก็แสดงว่าโสดนะซิ ถึงว่าคุณหมอนพเช้าถึงเย็นถึง”
“แต่พี่ว่าพี่น้ำตาลไม่สนใจหรอก ตั้งนานแล้วไม่เห็นว่าจะมีท่าทีเลย”
“ก็ไม่แน่นะคะพี่ดาว หากตื้อทุกวันมันต้องใจอ่อนสักวันหนึ่งแหละค่ะ หมอนพก็เหล่อออก”
“อื้อ ช่างเขาเหอะ เรื่องของเขา ไปทำหน้าที่เราดีกว่า”
“เอ่อๆ ค่ะพี่ดาว” เนติกาลุกขึ้นออกมาจากเก้าอี้แล้วทำทีเดินเข้ามาในห้อง พยาบาลที่เห็นเธอรีบวิ่งเข้ามาพยุง
“อื้อ มาค่ะฉันช่วยๆ”
“เอ่อๆ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันพอจะเดินได้แล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”
“ผู้กองนี่ฟื้นตัวเร็วนะคะ อีก สองวันก็กลับบ้านได้แล้วค่ะเนี่ย”
“ขอบคุณค่ะ อยากกลับบ้านแล้ว”
“คิดถึงแฟนล่ะซิคะเนี่ย” ประโยคที่เอ่ยทำให้ร่างบางที่เดินเข้ามาพร้อมกับคุณหมอประจำตัวได้ยินขึ้น
“แหม ผู้กองมีแฟนแล้วเหรอครับ สาวๆ หนุ่มๆ ของผมก็อกหักหมดสิครับเนี่ย” หมอนพเอ่ยแล้วอมยิ้มให้กับผู้ช่วยพยาบาลทั้งสองที่กำลังจะเดินออกจากห้องไปนั้น
“ไม่หรอกมั๊งคะคุณหมอ” เนติกามองเลยไปยังร่างบางที่เธอเอกสารยืนอยู่ด้านข้างของหมอหนุ่มนั้น หญิงสาวสังเกตพฤติกรรมนั้นทันที
“ไม่อะไรล่ะครับ พยาบาลของผมนั่งเมาส์ว่าผู้กองสวยเท่ห์อย่าบอกใคร ผมได้ยินเต็มสองหู”
“หึ เอาล่ะๆ ฉันไม่ต่อปากกับคุณหมอแล้วค่ะ รีบตรวจเถอะ”
“ครับ คุณน้ำตาลช่วยผมหน่อยครับ” น้ำเสียงนุ่มเอ่ยพลางส่งสายตาหวานให้กับหญิงสาว
“ได้ค่ะคุณหมอ” นีรนิลเข้าไปช่วยเปิดแผลให้คุณหมอดูอย่างเบามือ เธอเหลือบสายตามองหน้าเขาเพราะเกรงว่าเขาจะเจ็บ เนติกาจ้องหน้าเจ้าหล่อนนิ่งระหว่างนั้นหมอนพก็จับแผลหล่อนเบาๆ
“โอ้ย!” เนติการ้องเสียงหลง
“อุ๊ย เจ็บเหรอคะ พู่วว” ทุกคนตกใจที่เห็นพฤติกรรมของเจ้าหล่อนนั้น เนติกามองหน้าเจ้าหล่อนด้วยความตกใจ ไม่ต่างจากหมอนพ
“คุณพยาบาล!!”
“อุ๊ย! ขะ ขอโทษค่ะ น้ำตาลลืมตัวคิดว่าเป็นเด็ก เห็นร้องเหมือนเด็ก” เธอปดคำโต พลางรีบปิดแผลมือไม้สั่น บ้าจริงน้ำตาลทำอะไรของเธอเนี่ยขายขี้หน้าหมดเลย คนตัวเล็กคิดในใจใบหน้าสวยแดงระเรื่อด้วยความอาย
“อย่าลืมตัวบ่อยนะครับ พักผ่อนบ้าง วันนี้ไม่ต้องขึ้นเวรนะครับ” น้ำเสียงที่ได้ยินใครฟังก็รู้ว่าความรู้สึกนั้นมันมากกว่าคำว่าเพื่อนร่วมงาน
“เอ่อๆ ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ” นีรนิลพยักหน้ารับคำ สายตาของเธอดันหลือบไปมองหน้าคนที่นอนอยู่นั้น ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกนั้นมันไม่ต่างจากร่างสูงที่นอนทนฟังทั้งสองขายขนมจีบกันนั้น เห็นแล้วมันขัดหูขัดตาอย่างบอกไม่ถูก น้ำตาลก้อนนี้มันเป็นน้ำตาลก้นเปรี้ยวเสียแล้วกระมัง เนติกาคิดแล้วหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก....>>>>
เนติกาอมยิ้มเมื่อเห็นความฉ่ำเยิ้มของดอกไม้งามตรงหน้า กลีบของมันแม้จะช้ำจากการเข้าหอเมื่อคืนอยู่บ้าง แต่ความสวยยังคงเป็นเช่นเดิม ดวงตาคมจ้องมองมันด้วยความปรารถนา หญิงสาวค่อยๆ กรีดปลายนิ้วลงไปเพื่อขอดูความฉ่ำข้างในนั้น“อื้อ...ตะ ตัว” เมื่อรู้สึกถึงการแยกออกจากกันนั้น เจ้าของความหวานฉ่ำจึงร้องครางขึ้น หญิงสาวผงกหัวมองผู้เป็นสามี ที่ตอนนี้กำลังซุกซนจนเกินไปเสียแล้ว“หืม ที่รัก จุ๊บ อื้อ อ่าส์” เนติกาเงยหน้าขานรับเสียงหวาน ขณะที่ริมฝีปากนุ่มก็จุมพิตอยู่กับเนินเนื้ออิ่มตรงหน้านั้น เธอใช้นิ้วที่ยวที่สุดสะกิดปุ่มด้านบนไปมาเบาๆ“มัน สะ เสียว ตัวอย่าเขี่ย อื้อ อ่าส์” หัวใจของนีรนิลเต้นระทึก เมื่อกลีบเนื้อสวยถูกแบะออกขณะที่นิ้วร้ายยังเล่นซนจนเธอหัวใจจะวาย เขาทำแบบนี้รู้ไหมว่าน้ำเธอกำลังไหลออกจนหมดตัวแล้ว“ไม่เขี่ยแล้วเลียได้ไหม อื้อ แพล่บ อื้ม อร่อยจัง แพล่บๆ” เนติกาเปรยระหว่างปาดลิ้นร้อนไปตรงปุ่มนั้น พลับดูดซับน้ำหวานแล้วกลืนกินลงคอ ไม่อยากจะบอกเลยว่าน้ำตาลก้อนนี้หวานล้ำจนเธอหลงใหล กลิ่นสาบสาวที่โชยแตะปลายจมูกมันปลุกอารมณ์ดิบข้างในร่างกายของเธอเป็นอย่างดี คิดแล้วก็ห่อปากงาบงับเจ้าเนื้อหยุ่นสีช
นายเหลือบสายตามองเบื้องหน้าในระหว่างนั้นก็ค่อยๆ จรดริมฝีปากพรหมจูบเนินเนื้ออิ่มของเจ้าหล่อนด้วยความแผ่วเบา ปลายนิ้วยาวทั้งสามยังคงแช่มันอยู่ตรงช่อทางรัก เมื่อเห็นสีใสที่ไหลเยิ้มออกมานั้นเธอจึงเบาใจลงบ้าง กล้ามเนื้อหยุ่นที่เริ่มปรับตัวนั้นมันทำให้นายแอบอมยิ้ม“อื้อ ตอดดีจัง จุ๊บ อื้ม จุ๊บ อื้อ” นายเปรยระหว่างนั้นก็พรมจูบลงกับเนินเนื้ออิ่มของเจ้าหล่อน ลิ้นร้อนแอบตวัดปุ่มเนื้อหยุ่นที่บวมเป่งเบาๆ“อ๊ะ คุณ อ๊ะ อื้อ อ่าส์” รสาเงยหน้าร้องบอกเขา หญิงสาวส่ายหน้าไปมาเบาๆ สะโพกสวยบิดเร้าอยู่อย่างนั้น หัวใจของเธอเต้นระทึกเมื่อรู้สึกถึงสิ่งที่ค้างคาอยู่ตรงร่องสวยของเธอนั้นเริ่มขยับไปมา หญิงสาวถึงกลับต้องเลียริมฝีปากที่แห้งผาก มือทั้งสอข้างกำผ้าปูที่นอนแน่น“อื้ม จุ๊บ อื้อ คนดี แบบนี้แหล่ะค่ะ แบบนี้ อื้ม จ๊วบ อือ” เมื่อเห็นว่าร่างน้อยเลิกเกร็งร่างกายนั้นแล้ว นายจึงเปรยออกมาพร้อมกับการเล้าโลมขึ้นสุด เธอห่อปากดูดดึงติ่งเนื้อนุ่มนิ่มของเจ้าหล่อนไปมา หยดน้ำหวานที่เคลือบอยู่ถูกตวัดปาดเลียลงลำคอ นายจึงค่อยๆ ขยับข้อมือตัวเองออกอย่างช้าๆ จากนั้นก็ดันมันเข้าไปใหม่ด้วยความแผ่วเบา“อื้อ อ๊ะ อ๊ะ อื้อ คุณ อื้อ
รสาตกใจที่เห็นว่ามันไม่ใช่แค่ฝัน แล้วเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน เธอจำได้ว่าเธอถูกเขาจูบอยู่ที่ห้องน้ำในผับนั้น มารู้ตัวอีกทีก็อยู่ที่นี่แล้ว แถมเขายังทำการถือวิสาสะกับเนื้อตัวเธออีก ทุกอย่างมันคือฝีมือของเขาอย่างนั้นสินะ ทไม่อย่างนั้นเนื้อตัวของเธอไม่ล่อนจ้อนขนาดนี้ สิ่งที่เธอฝันนั้นแสดงว่ามันไม่ได้เป็นเพียงแค่ฝัน เขาจูบเธอจริงเข้าเล็มเลียเนื้อตัวของเธอจริง แถมตอนนี้เขากำลังจะขืนใจเธออีกด้วย รสาตกใจรีบดิ้นหนีปากของเขา“อื้อ จุ๊บ จ๊วบอื้อ” นายครางอย่างขัดใจเมื่อคนด้านล่างดิ้นรนขัดขืนอยู่อย่างนั้น ร่างสูงเหลือบตามองใบหน้าของอีกฝ่าย สายตาสบเข้าอย่างจัง คนตัวสูงกว่ากดร่างของตัวเองลงไปแนบแน่น พร้อมกับบดริมฝีปากลงเคล้าเจ้าหล่อนอย่างหนักหน่วง มือข้างหนึ่งเอื้อมไปไปถูไถลกลีบเนื้อสวยก่อนจะค่อยๆ กรีดลงไปใจกลางสาวแล้วสะกิดติ่งเนื้อหยุ่นเต่งตึงนั้นไปมา“อ๊ะ อ๊ะ อื้อ นาย อุ๊บ อือ” รสาสะดุ้งกายเบาๆ ตามจังหวะการสะกิดของเขานั้น ร่างน้อยร้อนวูบวาบขึ้นตามจังหวะการสัมผัสของเขา ใช่ว่าเธอจะไร้เดียวสา พอจะรู้ว่าตรงส่วนนั้นมันไวต่อความรู้สึกมากมายขนาดไหน เธอเสียวสยิวเป็นที่สุดเขาทำให้ขนกายของเธอลุกซู่อย่างเ
รสาดิ้นขลุกขลักเธอทั้งผลักทั้งดึงเพื่อให้เขาปล่อยปากจากการจูบเธอนี้ แต่ดูเหมือนว่าคนตัวสูงกว่าจะไม่ยอมปล่อยง่ายๆ เหมือนลิ้นร้ายของเขาพยายามสอดแทรกเพื่อเปิดปากอิ่มของเธอเข้าไปข้างในริมฝีปากนี้ เธอไม่ยอมให้เขาจูบเธอเหมือนเมื่อวันก่อนเป็นแน่ แค่ครั้งเดียวมันก็เกินพอแล้ว รสาคิดพลางดึงเสื้อของเขาแน่น“อื้อ....” นายครางอย่างขัดใจ เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมให้ความร่วมมือ ความนุ่มนิ่มของปากอิ่มทำให้เธอคิดถึงความหวานจากข้างในนั้น ทีแรกก็แค่อยากจะปิดปากเจ้าหล่อนไม่ให้ส่งเสียง แต่พอได้สัมผัสแล้วมันทำให้เธออยากลิ้มรสความหวานจากข้างในโพรงปากนี้ หญิงสาวค่อยๆ สอดมือเข้าท้ายทอยของเจ้าหล่อน พลางสอดมืออีกข้างเคลื่อนเข้าก้อนเนื้อตรงหน้าอย่างถือวิสาสะ“อ๊ะ อื้อ อะ อุ๊บ จุ๊บ อื้อ อ่าส์” รสารีบร้องห้ามเมื่อเมื่อเขาสอดมือเข้าใต้สาบเสื้อแล้วบีบหน้าอกเธออย่างแรง แต่เธอไม่รู้เลยว่าการกระทำเช่นนั้นมันทำให้เขาอาศัยจังหวะเผลอส่งแทรกเจ้าลิ้นร้ายเข้าไปข้างในโพรงปากเธอทันที รสารีบถดลิ้นเล็กหนี แต่พื้นที่ข้างในปากอิ่มของเธอนี้มันก็ไม่ได้กว้างเหมือนลานจอดรถ เขาไล่ตามต้อนเธอจนมุม และตอนนี้เขากำลังตวัดปลายลิ้นมายังเธอนี้“อื้อ
นีรนิลหน้าร้อนผ่าวเมื่อร่างสวยขาวโพลนทอดยาวอยู่บนเตียงนุ่ม คนตัวเล็กนอนหอบตัวโยงหลังจากที่เรามีความสุขกันไปรอบหนึ่งแล้ว ร่างสูงของเขายังคงขึ้นค่อมอยู่ด้านบน มือทั้งสอข้างยังยันอยู่กับเตียงนุ่มอยู่อย่างนั้น คนตัวเล็กหน้าแดงจัดพลางอมยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงลีลารักของเขา กลีบเนื้อนุ่มก็ร้อนขึ้นมาเลยก็ว่าได้ สายตาหวานเยิ้มมองเรือนร่างของเขาแล้วเอื้อมมือไปลูบไล้เนื้อตัวของเขาไปมาเบาๆ เนติกาเงยหน้าส่งเสียงครางเมื่อฝ่ามือร้อนสัมผัสเรือนร่าง“อื้อ....อาส์” เสียงหวานครางเบาๆ เมื่อฝ่ามือร้อนแสนนุ่มนิ่มนั้นสัมผัสเรือนร่างโปร่งของตนนั้น ร่างสูงโน้มลงไปใกล้ สายตาหวานเยิ้ม นีรนิลอมยิ้มปรือตาหวานเยิ้ม เธอไต่ปลายนิ้วไปกอบกุมอยู่กับเต้าเต่งของเขา“นุ่มมือจังค่ะ อื้อ” เสียงหวานของคนด้านล่างเอ่ย พลางเคล้นไปมาเบาๆ เนติกาหน้าร้อนผ่าวหญิงสาวเบียดร่างน้อยลงไปหาเจ้าหล่อนอีกแล้วคลายยิ้มออกมา“อื้อ มือตัวก็นุ่มจังค่ะ อ่าส์ รู้สึกดีจังเลย” ร่างโปร่งหลับตาเงยหน้าคราง นีรนิลอมยิ้ม ทุกครั้งที่เธอสัมผัสเขาๆ ก็จะร้องแบบนี้ บิดกายส่ายไปมาแบบนี้ ซึ่งมันปลุกเร้าความต้องการข้างในขึ้นมาทุกขณะ นีรนิลใช้ปลายนิ้วยาวสะกิดไปมาเบา
เนติกายืนมองร่างร่างบางในชุดราตรีสีครีมยาวกรอมพื้นด้วยแววตาปลื้มปริ่ม ใบหน้าสวยหวานของคนตรงหน้าทำให้เธอรู้สึกภูมิใจ เมียใครทำไมสวยขนาดนี้ คนตัวสูงคิดพลางอมยิ้มก่อนจะก้มลงไปจับมือเรียวสวยนั้นขึ้นมากุมไว้ สายตามองคนตรงหน้าหวานเยิ้ม“รู้ไหม ว่าวันนี้ตัวสวยมากเลยนะคะ”“อื้อ ตัวก็สวยค่ะ สวยจนจำไม่ได้เลยคะ”เสียงหวานเอ่ยพลางกุมมือเขาตอบ เธอยิ้มหวานให้คนตรงหน้า คนที่กำลังเป็นคู่วิวาห์กับเธออยู่ตอนนี้ เธอไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่เธอจะได้แต่งงานกับเขา คนที่หนีเธอไปและเลิกกันเมื่อห้าปีก่อนนั้น มันเหมือนฝันเลยก็ว่าได้“อื้อ ว่าแต่ตอนนี้เมียพร้อมหรือยังคะ” เธออมยิ้มใส่ตาหวานคู่ที่ระยิบระยับนั้น นีรนิลมองตามเขาไปยังประตูโบสถ์ที่ปิดสนิทนั้นแล้วพยักหน้า“พร้อมตั้งแต่เกิดแล้วค่ะ” เจ้าหล่อนเย้าคนตัวสูงเล่น เนติกาอมยิ้มก่อนจะจับหัวเจ้าหล่อนแล้วโยกเบาๆ“อื้อ อ่ะจ๊ะ ไปกันค่ะ”“อื้อ...” นีรนิลพยักหน้าเบาๆ จากนั้นทั้งสองสามก็พากันเดินจูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์ ทันทีที่บานประตูเปิดออกเสียงปรบมือก็ดังเกรียวกราวพร้อมกับเสียงชื่นชมยินดีที่ดังขึ้น ทั้งคู่มองหน้ากันแล้วยิ้มหวานให้กัน มือสองมือกุมกันแน่น แน่นชน