ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
ร่างอันอวบอัดของ “มีน มารียา เวทติวัตร” กำลังย่างกายออกมาจากอาคารผู้โดยสารในประเทศพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หลังจากที่เธอไปทำงานเป็นไกด์ที่ภาคใต้เกือบสองเดือน เพราะทางลูกค้าลงไปดูงานที่นั่นจนเธอนั้นปลีกตัวไปไหนไม่ได้เลย จนกระทั่งเสร็จภารกิจนี้เธอถึงได้กลับมาทำงานที่กรุงเทพตามปกติ
“มีน…จะกลับยังไง….ให้พี่ไปส่งไหม เดี๋ยวสามีของพี่มารับ” ลูกปลารุ่นพี่ที่ไปทำงานด้วยกันเอ่ยถามมารียาอย่างมีน้ำใจ เพราะเด็กสาวนิสัยก็ค่อนข้างจะน่ารักเลยทีเดียว
“อ่อ ไม่เป็นไรค่ะพี่ลูกปลา พอดีแฟนของมีนบอกว่าจะมารับน่ะค่ะ ขอบคุณที่ชวนนะคะ” มารียาพูดบอกไปด้วยรอยยิ้ม เพราะแฟนหนุ่มของเธอได้อาสามารับเธอในวันนี้แล้ว
“หูย…คุณปรมินทร์นี่น่ารักกับเราตลอดเลย…คอยรับคอยส่งแบบนี้สงสัยอีกไม่นานมีนคงจะมีข่าวดีเร็วๆนี้แล้วมั้งเนี่ย…” ลูกปลาเอ่ยแซวออกไป เพราะแฟนของมารียานั้นเป็นลูกค้าของบริษัทที่พวกเธอเคยทำงานให้ จนทำให้เขาเจอกับมารียาจนสานสัมพันธ์กันมาจนถึงตอนนี้
“ไม่มีหรอกค่ะพี่…อย่าแซวมีนเลยค่ะ เรื่องข่าวดีของมีนกับพี่ปาล์มคงอีกนานเลยล่ะค่ะ เราพึ่งคบกันได้ปีเดียวเองค่ะ…” มารียาพูดตอบไป เพราะเธอกับปรมินทร์กำลังคบกันได้แค่ปีเดียวเอง และเธอกับเขาก็ไม่ค่อยมีเวลาเจอกันเท่าไหร่ ต่างคนก็ต่างทำงาน จะเอาข่าวดีที่ไหนมาล่ะ
“อืม…จะกี่ปีถ้าคนมันใช่จะช้าจะเร็วยังไงมันก็ต้องได้แต่งงานแหละ ดูอย่างพี่สิ คบกับสามีแค่หกเดือนเองพวกพี่ก็แต่งงานกันแล้ว พวกพี่ยังรักกันมาได้เป็นสิบๆปีเลย” ลูกปลาพูดออกไปด้วยรอยยิ้มออกไป
“ที่รัก…ผมอยู่ทางนี้….” เสียงของนพคุณสามีของลูกปลาเอ่ยเรียกภรรยาด้วยน้ำเสียงดีใจ
“สามีพี่มารับแล้ว งั้นพี่ไปก่อนนะมีน ไว้เจอกันที่ทำงานนะ บ้ายบาย” ลูกปลาพูดบอกไปก็ยิ้มให้มารียาไป
อย่างอบอุ่น ก่อนจะรีบเข็นรถเข็นกระเป๋าไปยังรถของสามีที่จอดอยู่มุมด้านหน้านั้นทันที “เฮ้อ….แล้วนี่พี่ปาล์มอยู่ไหนเนี่ย ทำไมยังไม่มาอีกนะ เมื่อวานเราก็บอกแล้วนิว่าเราจะถึงกี่โมง…”มารียาพูดบ่นไปก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาแฟนหนุ่มทันที แต่เขาก็ไม่รับสายของเธอเลย ทำให้เธอนั้นโทรซ้ำๆอยู่หลายรอบทีเดียว
“ทำอะไรของเขาอยู่นะ ทำไมไม่รับสายเลยเนี่ย…ถ้าไม่ว่างก็น่าจะบอกกันหน่อย พี่ปาล์มนะพี่ปาล์ม เจอตัวแล้วต้องบ่นหน่อยแล้ว ” มารียาพูดบ่นออกไปอย่างอดไม่ได้ เพราะปรมินทร์มักจะมีงานรัดตัวแบบนี้เสมอ จากนั้นเธอก็เลือกที่จะเข็นรถออกไปทางแท็กซี่ที่พึ่งส่งผู้โดยสารลงไปก่อนหน้านี้ทันที เพราะโทรไปไม่รับแบบนี้เธอก็ไม่ควรจะรอเขาอยู่ตรงนี้ต่อไป
“พี่คะ ไปคอนโดเทอมินาร์ดหนึ่งเก้าที่สุขุมวิทค่ะพี่” มารียาพูดบอกไปเพราะนั่นเป็นคอนโดที่เธออาศัยอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้ และก็มีมุกดาน้องสาวต่างแม่ของเธออาศัยอยู่ด้วยอีกคนเพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยที่น้องสาวเรียนอยู่
“ได้ครับ เชิญคุณรถเลยครับ เดี๋ยวผมยกกระเป๋าให้เองครับ…” คนขับแท็กซี่บอกไปก็เข้าไปเข็นรถกระเป๋าไปไว้ใกล้ๆท้ายรถ แล้วเขาก็รีบขนกระเป๋าของลูกค้าใส่ท้ายรถทันที ส่วนมารียาก็เปิดประตูรถจะเข้าไปนั่ง แต่ดันมีกระเป๋าสะพายเล็กๆวางอยู่ที่เบาะ
“พี่คะ นี่กระเป๋าของผู้โดยสารที่พึ่งลงไปหรือเปล่าคะ” มารียาเอ่ยถามออกไปแล้วหยิบกระเป๋านั้นขึ้นมาให้พี่คนขับแท็กซี่ดู
“อ่อ ใช่แล้วครับ…ของฝรั่งแขกสองคนนั้นแน่ๆเลย เขาพึ่งลงไปเมื่อกี้เลยครับ นั่นไงครับ ที่ใส่เสื้อสีขาวกับสีดำที่เดินเข้าไปตรงนั้นไงครับ…” หนุ่มแท็กซี่พูดออกไปแล้วหันไปมองหาผู้โดยสารที่พึ่งลงจากรถของเขาไปเมื่อกี้แล้วรีบชี้ให้หญิงสาวดูทันที
“งั้นพี่รอตรงนี้แปปนึงนะคะ เดี๋ยวหนูจะเอากระเป๋านี่ตามไปให้เขาแปปนึง…” มารียาหันไปมองตามแล้วก็เจอเจ้าของกระเป๋าแล้ว เธอจึงรีบเอ่ยบอกไปแล้วรีบวิ่งเข้าไปด้านในอีกครั้ง ก่อนจะถือกระเป๋าสะพายเล็กนี่ตรงไปหาผู้ชายสองคนนั้นอย่างเร่งรีบ
“คุณคะ…คุณคะ โอ๊ย…” มารียาเข้าไปเรียกผู้ชายที่ใส่เสื้อสีขาวแล้วทำท่าจะเอามือแตะที่แขนของเขา แต่เขากลับหันมาแล้วเอามือจับแขนของเธอแล้วบิดอย่างแรงจนเธอเจ็บจนต้องร้องออกมา ก่อนจะมองหน้าของชายตรงหน้าที่ทำร้ายเธออย่างเอาเรื่อง
และแล้วมารียาก็ต้องทำหน้าอึ้งออกมาทันทีเมื่อได้เห็นหน้าหล่อๆที่คมเข้มของเขา จมูกเป็นสัน คิ้วดกดำ หนวดเคราเป็นทรงอย่างสะอาดสะอ้าน นี่ขนาดใส่แว่นตานะเนี่ย ยังโคตรหล่อเลย แถมกลิ่นตัวก็โคตรหอม พวกแขกขาวนี่หน้าตากินขาดจริงๆ มารียาคิดในใจอย่างอดไม่ได้
ด้านเศรษฐีหนุ่มอย่าง “ฮัสลาน ราเชด บรูฮัมนี” ก็หันมามองหญิงสาวที่เข้ามาใกล้ชิดเขาด้วยสายตาจดจ้องผ่านแว่นตาสีดำนี่ แล้วเขาก็มองอย่างพิจารณาว่าเธอจะเข้ามาหาเขาเพราะอะไร แต่แม่ง ผู้หญิงคนนี้โคตรสวยเลย
“โอ๊ย…คุณ…ปล่อยฉันก่อน…ฉันแค่จะเอากระเป๋าของคุณมาให้…คุณลืมไว้ในแท็กซี่ที่คุณลงมาเมื่อกี้…อือ…” มารียาร้องไปแล้วก็พูดภาษาอังกฤษออกไปอย่างชัดเจน ว่าเธอนั้นตั้งใจจะเอากระเป๋ามาคืนเขา ทำให้เขานั้นรีบปล่อยมือของเธออย่างรวดเร็ว
“กระเป๋าของนายจริงๆด้วยครับ…” อาลีลูกน้องคนสนิทของฮัสลานเอ่ยพูดบอกไป เมื่อเห็นเธอถือกระเป๋าของเจ้านายของเขาอยู่จริง
“ผมขอโทษ..ผมไม่ได้จะทำร้ายผู้หญิง ผมคิดว่าคุณจะเข้ามาทำร้ายผม ผมก็เลยป้องกันตัวอัตโนมัติ” ฮัสลานพูดออกไปแบบรู้สึกผิด เพราะเธอถือกระเป๋าของเขาอยู่ในมือจริงๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเองก็ไม่ระวังเหมือนกัน…เอากระเป๋าของคุณไปสิคะ…”มารียาพูดออกไปแล้วเอามือจับที่ข้อมือของตัวเองแบบระคายเคืองแบบปวดๆ เพราะเขาเล่นบีบซะแรงเลย ข้อมืออวบๆของเธอเลยเจ็บแปลบๆเลยทีเดียว
“ขอบคุณครับ…อ่อ เดี๋ยวผมจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้นะครับ…” ฮัสลานพูดบอกไป เพราะเธอยังจับข้อมืออยู่แบบนั้นทำให้เขาคิดว่าเธอน่าจะเจ็บอยู่
“อ่อ ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่นี้เองไม่จำเป็นต้องไปหาหมอหรอกค่ะ ฉันขอตัวนะคะ พอดีให้พี่แท็กซี่เขารออยู่ข้างนอกน่ะค่ะ” มารียาพูดตอบไปแบบเขินๆอย่างงงๆ ก่อนจะรีบชิ่งหนีเพราะอยู่ต่อหน้าผู้ชายหล่อๆแบบนี้แล้วใจคอไม่ดีเลย
“ครับ…ขอบคุณมากนะครับ…” ฮัสลานพูดบอกไปก็มองหญิงสาวแล้วยิ้มมุมปากให้อย่างขอบคุณ ก่อนจะมองเธอยิ้มตอบเขามาแล้วก็หันหลังเดินออกไป เขาก็มองตามด้วยรอยยิ้มมุมปาก เพราะไม่คิดว่าจะเจอคนสวยใจดีแบบนี้ด้วย
“สวยแล้วยังใจดีอีกนะครับนาย…เงินในกระเป๋าเป็นตับๆแต่เขากลับวิ่งเอามาคืนให้เรา ” อาลีพูดออกไปแล้วมองด้วยรอยยิ้มที่เธอมีน้ำใจขนาดนี้
ฮัสลานก็มองตามเธอไปแล้วก็ยิ้มมุมปากออกมา ก่อนจะหันมามองลูกน้องของเขาที่มองตามเธอด้วยสายตาหวานเยิ้ม เขาก็มองด้วยสีหน้าหมั่นไส้ทันที
“พรึบ…อ่ะเอาไป ต่อไปก็อย่าสับเพร่าลืมกระเป๋าอีก ไม่มีคนสวยใจดีให้นายบ่อยๆหรอกนะอาลี ป่ะ ไปกันได้แล้ว” ฮัสลานพูดไปก็เอากระเป๋าโยนใส่ลูกน้องของเขา ก่อนจะรีบเดินเข้าไปเชคอินกับพนักงาน เพราะเขาต้องรีบขึ้นเครื่องบินไปคูเวตด่วน เพราะงานที่นั่นกำลังมีปัญหาใหญ่
ด้านมารียาก็รีบกลับไปขึ้นแท็กซี่แล้วเธอก็เดินทางกลับไปที่คอนโดของเธอ แล้วเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น พร้อมกับภาพของกวินตาลูกสาวของแม่เลี้ยงของเธอ ซึ่งก็มีศักดิ์เป็นน้าของเธอด้วย เพราะพอแม่ของเธอตายพ่อก็เอาน้องเมียมาเป็นเมียเลย
“พี่กวาง…มีนว่าถ้ากลับถึงห้องจะโทรหาพี่กวางพอดีเลยค่ะ…มีอะไรหรือเปล่าคะ” มารียารับสายแล้วเอ่ยพูดทักทายพี่สาวไป
“เปล่า พี่ก็แค่จะโทรมาถามเราว่ากลับถึงกรุงเทพหรือยังเท่านั้นเอง” กวินตาเอ่ยถามออกไปอย่างเป็นห่วงน้องสาว
“ถึงเมื่อกี้เองค่ะ ตอนนี้กำลังอยู่นั่งรถแท็กซี่ไปที่คอนโดอยู่ค่ะ…แล้วทำไมวันนี้พี่กวางตื่นเช้าจังเลยคะเนี่ย ที่ดูไบมันพึ่งจะแปดโมงเองนะคะ” มารียาเอ่ยถามไปเพราะดูไบเวลาจะช้ากว่าไทยสามชั่วโมง
“คุณจาซุสเขาไม่อยู่ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พอดีธุรกิจน้ำมันที่คูเวตมีปัญหาน่ะ เขากับหุ้นส่วนก็เลยต้องบินไปจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นน่ะ พี่ก็เลยว่างทั้งวันเลย…อ่อ…พี่ลืมไปเลย เมื่อวานพี่จ่ายค่าคอนโดงวดสุดท้ายให้แล้วนะ เดี๋ยวเข้าไปเอาเอกสารที่นิติบุคคลด้วย พี่ให้เขาโอนเป็นชื่อของมีนแล้ว” กวินตาพูดบอกน้องสาวไป เพราะหน้าที่ของเธอคือดูแลจาซุส มหาเศรษฐีหนุ่มที่ซื้อตัวเธอมาเป็นสาวใช้คอยบำเรอให้เขาตามที่เขาต้องการ ซึ่งมันก็ได้เงินมากพอที่จะทำให้เธอส่งเสียให้คนที่บ้านได้แบบสบายๆ แม้กระทั่งคอนโดที่น้องสาวทั้งสองคนอยู่ เธอก็เป็นคนซื้อให้
“ทำไมโอนเป็นชื่อมีนล่ะคะ” มารียาเอ่ยถามออกไปอย่างแปลกใจ ที่กวินตาโอนเป็นชื่อของเธอ
“ก็พี่ซื้อให้มีนไง เอาไปเถอะ เพราะกว่าคุณจาซุสเขาจะเบื่อพี่ พี่ก็คงจะผ่อนบ้านที่ไทยได้อีกสักหลังแล้วล่ะ แล้วก็คงจะมีเงินกลับไปตั้งตัวที่ไทยสักก้อน…” กวินตาพูดออกไปแบบไม่รู้เลยว่าเธอจะถูกเขี่ยทิ้งวันไหน ที่แน่ๆตอนนี้กอบกวยได้เธอก็ต้องรีบ
“แต่นี่ก็ปีกว่าแล้วนะคะที่พี่อยู่กับเขามา บางทีคุณจาซุสเขาอาจจะรักพี่กวางก็ได้นะคะ ไม่งั้นเขาก็คงจะปล่อยพี่ไปนานแล้ว ” มารียาพูดไปความความคิดของเธอ เพราะตอนแรกที่เธอรู้ว่าพี่สาวไปเป็นนางบำเรอของมหาเศรษฐีคนนี้เธอก็ไม่ได้สนับสนุนเลยสักนิด แต่มันเป็นทางที่พี่สาวของเธอเลือกแล้ว เธอก็ต้องเคารพการตัดสินใจของกวินตา
“ต่อให้เขารักพี่ยังไง พี่ก็เป็นได้แค่นางบำเรอของเขาเท่านั้นแหละ พี่เป็นคนต่างชาติต่างศาสนากับเขา ครอบครัวของเขาไม่มีทางยอมรับพี่หรอก ถ้าวันหนึ่งเขาแต่งงานพี่ก็ต้องไป…ตอนนี้อายุของเขามันถึงช่วงที่ต้องแต่งงานแล้ว ไม่นานครอบครัวของเขาก็คงจะหาผู้หญิงมาแต่งงานกับเขาแล้วล่ะ…” กวินตาพูดออกไปด้วยเสียงเศร้า เพราะคนที่นี่ส่วนใหญ่จะแต่งเมียคนแรกเป็นชาวดูไบหรือมุสลิมด้วยกันเอง ส่วนน้อยที่จะแต่งงานกับคนต่างชาติ ยิ่งพวกเศรษฐีแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะส่วนใหญ่ก็แต่งงานเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของครอบครัวทั้งนั้น
“อย่าเข้าดราม่าแบบนี้สิคะพี่กวาง เรื่องมันยังไม่เกิดขึ้นอย่างพึ่งคิดไปไกลสิคะ” มารียาพูดบอกไปเพื่อให้พี่สาวสบายใจ
“พี่ก็แค่เผื่อใจไปก็เท่านั้นเอง…เวลาเจอสถานะการณ์นั้นจริงๆจะได้ทำใจได้ไง…พี่ไม่โชคดีแบบเราหรอก ที่มีแฟนเป็นถึงผู้บริหารสุดหล่อน่ะ” กวินตาพูดไปก็แอบแซวน้องสาวไปเพื่อไม่ให้ตัวเองเศร้าใจไปมากกว่านี้
“เฮ้อ…อย่าพูดถึงพี่ปาล์มเลยค่ะ เมื่อวานบอกว่าจะมารับมีน วันนี้กลับหายเงียบไปเลย ไม่รู้ว่าติดงานหรือว่าไปติดสาวที่ไหนกันแน่…สองเดือนมานี้ยิ่งคุยกันน้อยๆอยู่ด้วย จะคบกันรอดหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลยค่ะพี่กวาง” มารียาพูดบ่นไปอย่างอดไม่ได้ เพราะเธอเองก็ยุ่ง เขาเองก็ยุ่ง จะโทษใครก็ไม่ได้
“เอาน่า คบกันมาจะหนึ่งปีแล้วก็ต้องรอดแล้วล่ะ รักเขาแล้วก็อดทนหน่อยสิเราน่ะ” กวินตาพูดบอกไปแบบให้กำลังใจน้องสาว
“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแล้วล่ะค่ะ วันนี้คบรอบหนึ่งปีที่คบกันแล้วด้วย…ถ้าพี่ปาล์มลืมล่ะก็ เป็นเรื่องแน่ค่ะ” มารียาพูดบอกพี่สาวไป จากนั้นเธอก็พูดเม้าท์กับพี่สาวไประหว่างที่เดินทางไปที่คอนโดของเธอ
ณ คอนโดของมารียา
ภายในห้องก็ถูกจัดด้วยช่อกุหลาบสีขาวสลับกับสีแดงสดและที่พื้นก็มีกลีบกุหลาบสีขาวโรยไว้อย่างสวยงาม ก่อนจะมีกล่องสีขาวใหญ่ๆตั้งอยู่ที่กลางห้องพร้อมกับมีลูกโป่งลอยละล่องอยู่ที่เพดานแล้วมีริบบิ้นห้อยลงมาเป็นเส้นสายอย่างสวยงาม
“พี่ปาล์มทำเซอร์ไพร์สให้พี่มีนขนาดนี้ ไม่คิดว่ามุกจะน้อยใจบ้างเหรอคะ” มุกดาเอ่ยถามออกไปแล้วค่อยๆเข้าไปหาปรมินทร์ที่จัดเตรียมห้องไว้เซอร์ไพร์สมารียากลับมาซะจนเธออดอิจฉาไม่ได้เลย
“เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอมุก…เอามือออกไป…เดี๋ยวพี่ต้องไปรับมีนเขาที่สนามบิน” ปรมินทร์พูดบอกไปด้วยเสียงเข้มก็เอามือของเขาไปจับมือของมุกดาออกไปด้วยสีหน้านิ่งๆ
“จะรีบไปรับทำไมล่ะคะ กว่าพี่มีนจะมาถึงก็อีกตั้งชั่วโมงสองชั่วโมงนู้นล่ะมั้งคะ มุกว่าพี่ปาล์มมาเอาใจมุกก่อนดีกว่านะคะ ไม่อย่างนั้นมุกก็ไม่รับประกันว่ามุกจะเผลอพูดเรื่องของเราสองคนตอนไหน” มุกดาพูดออกไปแล้วก็ยิ้มมุมปากใส่ปรมินทร์ไปอย่างเจ้าเล่ห์
“เลิกขู่พี่สักทีเถอะมุก เรื่องของเราสองคนมันเกิดขึ้นก็เพราะความเมา ความเข้าใจผิดทั้งนั้น พี่ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น” ปรมินทร์พูดบอกไปด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะถ้าคืนนั้นเขาไม่เมาและมาที่นี่ เขาก็คงไม่เผลอตัวไปหลับนอนกับมุกดา จนกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้หรอก
“แต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว แล้วหลังจากคืนนั้นพี่ปาล์มก็มานอนกับมุกตลอดเลยนิคะ ทำไมคะ แค่พี่มีนจะกลับมาแค่นี้ พี่ปาล์มคิดจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดีแล้วเหรอคะ พี่มีนเขาจะรู้ทำหน้ายังไงนะคะ ถ้าเขารู้ว่าแฟนตัวเองมาเอากับน้องสาวแบบนี้…” มุกดาพูดออกไปก็ค่อยๆเอามือแกะดุมเสื้อชุดนักศึกษาของตัวเองออกช้าๆทีละเม็ดๆ พร้อมกับส่งสายตามองปรมินทร์แบบยั่วยวน
“งั้นพี่ปาล์มลองเล่นดิลโด้กับมุกหน่อยได้ไหมคะ มุกอยากจะลองบ้าง…” มุกดาเอ่ยถามเขาแล้วมองเขาด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ก่อนจะไปหยิบกล่องดิลโด้มาแล้วเธอก็หยิบมันออกมาให้เขาเขา แล้วมันก็เป็นแท่งใหญ่มากเลย“อื้อหือ….นี่ถึงขนาดมีดิลโด้มาด้วยเลยเหรอเนี่ย ของปลอมมันจะไปมันเท่ากับของจริงได้ยังไงล่ะ พี่ว่าใช้ของพี่ดีกว่านะ” ปรมินทร์พูดบอกไปแล้วยิ้มใส่เธอ“ไม่เอาค่ะ มุกอยากจะลองอันนี้ก่อนแล้วมุกค่อยเอาของพี่…แค่นี้ทำให้มุกไม่ได้เหรอคะ มุกอยากลองดุ้นอันอื่นบ้างนิคะ…” มุกดาพูดอ้อนเขาออกไปเพราะเธออยากจะลองดูว่ามันจะต่างจากของเขาไหม“ดูพูดเข้าสิ….ดุ้นอันอื่นน่ะไม่ได้ ต้องของพี่เท่านั้น…แต่อันนี้ของปลอมพี่ยกเว้นให้ก็ได้…มา…นั่งลงสิ เดี๋ยวพี่จะทำให้มุกมีความสุขเอง นั่งหน้ากระจกนี่แหละ มุกจะได้เห็นว่าตัวเองน่ะร่านขนาดไหน” ปรมินทร์พูดบอกไปแล้วมองเธอแบบจดจ้อง“งั้นนั่งท่านี้ละกันค่ะ เพราะมุกก็อยากจะเห็นหน้าพี่ปาล์มตอนที่พี่เอาแท่งนี่เสียเข้าไปในหอยของมุก” มุกดาพูดไปก็ยิ้มออกมาอย่างหื่นๆ จากนั้นเธอก็ค่อยๆนั่งลงไปแล้วอ้าขาเป็นรูปตัวเอ็ม จนชุดหนังที่เธอใส่นั้นมันตึงไปหมด“พี่ปาล์มฉีกเป้ากางเกงให้หน่อยสิคะ มุกขี้
ปรมินทร์ก็มองเธออย่างตื่นเต้นเลยที่เดียวกับการที่เธอนั้นทำอย่างนี้ เพราะมันดูเซ็กซี่แล้วก็ดูมีอำนาจที่จะสั่งการเขาได้เลย“อืม…พี่ยอมทุกอย่างเลย รู้ไหมว่าตอนนี้มุกทำให้พี่ใจสั่นไปหมดแล้ว…” ปรมินทร์พูดออกไปแล้วเขาก็นั่งคุกเข่าให้เธอนั้นเอาเท้าเหยียบที่หน้าอกของเขาไปอย่างไม่ห้ามปราม เพราะเขาอยากจะรู้ว่าเธอจะทำอะไรกับเขาอีก“เดี๋ยวพี่ปาล์มได้ใจสั่นยิ่งกว่านี้อีกค่ะ…ลุกขึ้นแล้วก็ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดค่ะ อย่าให้เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว…ถอดสิคะ มัวนั่งอึ้งอะไรอยู่ล่ะคะ” มุกดามองเขาแล้วก็ยิ้ม ก่อนจะพูดสั่งเขาให้ถอดเสื้อผ้าออก“จ้ะๆ…พี่ถอดเดี๋ยวนี้เลย อย่าพึ่งโมโหสิคนดี…พรึบ..พี่ถอดไม่ให้เหลือเลยสักชิ้นเลยอ่ะ พรึบ…เรียบร้อยแล้วคนดี แล้วทีนี้พี่ต้องทำยังไงต่อ” ปรมินทร์รีบลุกถอดเสื้อแล้วโยนไปก่อนจะตามด้วยกางเกงที่เขานั้นเตะไปด้านข้าง จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเธอแล้วก็ยืนเอามือกุมท่อนเอ็นของเขาเอาไว้แบบอายๆ“เอามือออกไปค่ะ ของดีๆใครเขาปิดกันล่ะ…อืม…แบบนี้ค่อยดูดีหน่อย…แต่มุกยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนะคะ ทำไมมันถึงได้เริ่มแข็งเร็วแบบนี้ล่ะคะเนี่ย….” มุกดามองไปที่ท่อนเอ็นของเขาที่มันค่อยๆชูชันอย่างแข็งขัน แล้วเธอ
ด้านมารียาและมุกดาพอหนุ่มๆวางสายไปพวกเธอก็ออกจากห้องมาหากันทันที ก่อนจะทำหน้าเซ็งๆแล้วก็พยักหน้าใส่กันแบบรู้กันว่าหนุ่มๆนั้นไม่กลับบ้านเหมือนกัน“เฮ้อ…คาถาเรียกผัวของพี่คงเสื่อมแล้วล่ะ วันนี้ผัวเมินซะงั้น…” มารียาเดินมานั่งที่โซฟาแล้วก็เอนตัวนอนลงไปแบบคนหมดแรง แล้วเธอก็เอ่ยพูดกับน้องสาวไปด้วยเสียงอ่อน“เขาไม่ได้เมินเราหรอกค่ะพี่มีน เขาก็แค่ยังกลับมากันไม่ได้ก็เท่านั้นเอง…คุณฮัสลานเขาก็คงอยากจะกลับมาหาพี่มีนนั่นแหละค่ะ แต่วันนี้เพื่อนเขาจัดงานให้เขาก็คงจะไม่กล้ากลับเร็วน่ะค่ะ พี่มีนอย่าคิดมากเลยนะคะ” มุกดาพูดปลอบใจพี่สาวไปแล้วก็เข้าไปนั่งข้างๆพี่สาวแล้วเธอก็เอนตัวนอนพิงโซฟาเช่นกัน“พี่ก็เข้าใจเขานั่นแหละ แค่อดที่จะบ่นไม่ได้เฉยๆ คอยดูนะ ถ้าเขากลับมาล่ะพี่จะจับมัดแล้วก็ลงโทษเขาให้หนำใจพี่เลย” มารียาพูดออกมาอย่างมาดมั่นว่าเธอจะทำอะไรกับเขา หากเขานั้นกลับมาแล้ว“หึๆ พี่มีนดูหื่นมากเลยนะคะเนี่ย แล้วก็ต่างจากเมื่อก่อนลิบลับเลย เพราะตอนนี้มุกว่าพี่มีนดูเก่งเรื่องบนเตียงมากเลย ฮ่าๆ ” มุกดาพูดแซวพี่สาวไปอย่างขำๆ เพราะสีหน้าและคำพูดของพี่สาวมันทำให้เธอนั้นอดขำไม่ได้“เราไม่ต้องมาแซวพี่เลย คนเราม
ด้านฮัสลานก็โทรหามารียาทันที เพราะเขาต้องบอกให้เธอรู้ว่าเขานั้นยังกลับตอนนี้ไม่ได้ เขาก็เลือกที่จะวีดีโอคลอไปหาเธอ “ว่าไงคะที่รัก… “ มารียาเอ่ยพูดออกไปพร้อมกับยิ้มใส่เขาแบบยั่วยวน ฮัสลานก็มองเมียรักที่เอ่ยพูดกับเขาเสียงหวาน แล้วเขาก็เห็นเธอทำผมลอนและใส่หมวกตำรวจอย่างเซ็กซี่เลย ทำไมเธอต้องมายั่วเขาวันนี้ด้วยนะ“มีน…ทำไมคุณใจร้ายกับผมจัง คุณก็รู้ว่าผมมางานปาร์ตี้สละโสดกับพวกเพื่อนๆของผม ทำไมคุณต้องมาใส่ชุดยั่วผมวันนี้ด้วยหึ….” ฮัสลานพูดบอกไปด้วยใบหน้าเศร้าๆ ที่เธอนั้นมาใส่ชุดเซ็กซี่ยั่วยวนเขาในวันที่เขานั้นไม่สามารถปลีกตัวกลับไปได้“ก็ฉันอยากจะใส่นิคะ คุณไม่ชอบเหรอคะ งั้นต่อไปฉันจะไม่ใส่แบบนี้ยั่วคุณอีก ชิ” มารียาพูดตอบเขาไปแบบงอนๆที่เขามาว่าให้เธอแบบนี้“ผมไม่ได้พูดสักคำเลยนะว่าผมไม่ชอบน่ะ คุณก็รู้ว่าผมชอบที่คุณยั่วยวนผมแบบนี้ที่สุด แต่ทำไมต้องเป็นคืนนี้ด้วยหึ” ฮัสลานพูดตอบไปตรงๆ เพราะเขาน่ะชอบสุดๆเลย แต่ที่ไม่ชอบคือตอนนี้เขาไปหาเธอไม่ได้“ก็ฉันอยากให้คุณกลับบ้านไวๆไงคะ วันนี้คุณไปปาร์ตี้สละโสดกับเพื่อนๆของคุณ ฉันก็ไม่รู้ว่าคุณจะเจอผู้หญิงสวยๆเยอะแค่ไหน ฉันก็ต้องใส่ชุดเซ็กซี่เรียกคุณกล
พอราชิดพูดจบแล้วสาวก็ค่อยๆเดินเข้ามาพวกเขาแบบคนล่ะคนเลย ราชิดก็นั่งยิ้มอย่างชอบใจ ส่วนอัสลานก็เอนตัวไปไปด้านหลังแบบไม่สู้ที่พวกเธอนั้นมาเต้นใกล้ๆหน้าเขาแบบนี้ ส่วนจาซุสก็มองแบบอึ้งๆแล้วก็กลืนน้ำลายลงคอไปแบบเสือหัวเลย ส่วนปรมินทร์ก็นั่งนิ่งๆเกรงๆแล้วกำหมัดแน่นอย่างแข็งใจไม่ให้ตัวเขานั้นหลงใหลมัวเมาไปกับสาวๆพวกนี้“อื้อหือ….นมมาทั้งเต้าเลย…พะ พอแล้ว…อือ…คุณปาล์ม..ช่วยผมหน่อย…” จาซุสพูดออกไปเมื่อผู้หญิงที่มาเต้นใส่เขานั้นก้มลงมาส่ายนมใส่หน้าของเขา จนเขานั้นหลับตาไม่มองทันที เพราะเห็นแล้วมันใจไม่ดีเอาซะเลย จนเขานั้นต้องยกมือขึ้นห้าม แล้วเธอก็เข้ามาจับมือของเขาแล้วก็มานั่งตักของเขาจนเขานั้นกัดฟันแล้วหลับตาต่อไปแบบตัดใจ เพราะถ้าเขาเห็นเดี๋ยวสันดานเลวๆของเขาก็มาอีก“อื้อ….ช่วยอะไรล่ะครับ ผมยังเอาตัวเองไม่รอดเลยเนี่ย…ผมว่าโชว์แบบนี้ผมไม่ไหวนะครับ…บอกเพื่อนคุณให้พอแค่นี้ได้ไหม…ผมท่องชื่อเมียผมในหัวไม่ไหวแล้วครับเนี่ย….อย่าให้สาวๆมายั่วกันแบบนี้เลย…” ปรมินทร์พูดบอกไปเพราะเขาก็ถูกหญิงสาวคนนี้หันก้นให้แล้วเธอก็เต้นส่ายตูดใส่เขาจนเขานั้นเห็นไปยันซอกน้อยที่มีบีกินีปิดไว้แค่หมิ่นเม่อย่างเลี่ยงไม่ได้
“เห้ย….ว่าที่เจ้าบ่าวมาแล้วโว้ยทุกคน….เฮ….” เสียงของราชิดพูดออกมาพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นมาอย่างเฮฮา เพื่อนๆคนอื่นก็พากันหามาหาฮัสลานแล้วก็เอ่ยยินดีด้วย จนฮัสลานนั้นพยักหน้าหงึกๆด้วยรอยยิ้มขอบคุณ แล้วเขาก็เจอเพื่อนๆนั้นให้ดื่มเหล้ายินดีจนเขานั้นถึงกับทำมือขอผ่านเลย เพราะไม่งั้นเขาได้เมาตั้งแต่ยังไม่เริ่มงานแน่“ฮ่าๆ เจอไปหลายแก้วเลยล่ะสิวะ…ไง…ชอบปาร์ตี้ที่ฉันจัดให้แกไหมวะฮัสลาน…” ราชิดพูดแล้วหัวเราะออกมาเพราะเขานั่งมองเพื่อนหนุ่มดื่มเหล้าที่เพื่อนๆเอาไปให้นั้นอย่างขำๆเลยทีเดียว“อืม…ก็ต้องชอบสิวะแกตั้งใจทำให้ฉันขนาดนี้แล้วนิ ขอบใจมากนะราชิด…พรึบ…” ฮัสลานพูดบอกไปก็เข้าไปกอดเพื่อนหนุ่มอย่างขอบคุณที่มันทำให้เขาแบบนี้ เขาก็ซาบซึ้งใจกับน้ำใจของเพื่อนมาก“แกจะสละโสดมีเมียทั้งทีก็ต้องทิ้งทวนเสือร้ายหน่อยสิวะ…วันนี้ฉันเตรียมสาวๆมาเอนเตอร์เทรนว่าที่เจ้าบ่าวอย่างแกโดยเฉพาะเลยนะโว้ย…” ราชิดถอนกอดจากเพื่อนหนุ่มแล้วพูดบอกไปพร้อมกับยักคิ้วใส่แบบเจ้าเล่ห์เลยทีเดียว“ไม่เอาๆ….ถ้าเมียฉันรู้เดี๋ยวจากงานแต่งงานจะกลายเป็นงานศพของฉันแทนสิวะ แค่ดื่มกับเพื่อนๆอย่างพวกแกก็พอแล้ว แกไม่ได้เอาสาวๆมาเอนเตอร์เทรนอ