สองชั่วโมงต่อมา
เพ็ญพักตร์ก็มาถึงคอนโดของลูกสาวคนโตที่ซื้อไว้ให้น้องๆได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพแบบสบายๆ และเธอนั้นก็หนักใจมากกับสิ่งที่ลูกสาวคนเล็กทำกับมารียาน่ะ มันเกินที่เธอจะรับได้จริงๆ
“ไหน…ยัยมุก แกอยู่ไหน ออกมาคุยกับแม่เดี๋ยวนี้นะ แกมันชอบทำแต่เรื่องงามหน้าจริงๆ…ยัยมุก…แกยังมีหน้ามานอนหลับสบายใจอีกเหรอห้ะ…ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้…ยัยมุก…” เพ็ญพักตร์เดินเข้ามานห้องแล้วร้องเรียกลูกสาวไป ก่อนจะเดินเข้าไปทางห้องนอนของลูกสาวคนเล็ก พร้อมกับเข้าไปเรีบกมุกดาให้ตื่นขึ้นมาทันที
“อื้อ…แม่…อะไรของแม่เนี่ย เข้ามาแล้วก็เอะอะโวยวายทำไมเนี่ย…อย่าบอกนะว่าพี่มีนมันโทรไปฟ้องแม่แล้วน่ะ” มุกดาลุกขึ้นมานั่งด้วยสีหน้าบึ้งตึง ก่อนจะเอ่ยพูดออกไปเมื่อเห็นท่าทีของแม่ของเธอแล้ว เธอก็เดาได้เลยว่าพี่สาวตัวดีของเธอต้องรีบแจ้นไปฟ้องแม่แน่ๆ ไม่งั้นแม่ของเธอคงไม่ท่อเอาตัวเองมาจากนนทบุรีหรอก
“ยัยมุก…แกนี่มันไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสิ่งที่ตัวเองทำเลยใช่ไหมว่ามันผิดน่ะ…แกนอนกับแฟนพี่สาวของตัวเองได้ยังไงห้ะ แกทำลงไปได้ยังไง…” เพ็ญพักตร์พูดออกไปก็เอามือจิ้มที่หัวของลูกสาวอย่างเหลืออด
“ก็คงจะเชื้อแรงแบบแม่มั้งคะ เพราะแม่เองก็นอนกับพี่เขยตัวเองเหมือนกันนิคะ แม่ถึงได้พ่อมาเป็นสามี ทั้งๆที่พ่อก็เป็นผัวของพี่สาวของแม่เองแท้ๆ…หนูจะทำบ้างแล้วมันผิดตรงไหนล่ะคะ…” มุกดาพูดตอบไปด้วยสีหน้าที่มองผู้เป็นแม่แบบจดจ้อง เพราะสิ่งที่เธอพูดมันคือความจริงทุกอย่าง
“เพี๊ยะ! ยัยมุก แกพูดแบบนี้กับแม่ได้ยังไงห้ะ…นี่ฉันเป็นแม่ของแกนะ…” เพ็ญพักตร์ตบหน้าของลูกสาวคนเล็กของเธออย่างทนไม่ไหวกับคำพูดคำจาที่ไม่น่ารักเอาซะเลย
“ก็มันจริงนิคะ…แม่เองก็ทำแบบนี้กับพี่สาวตัวเองเหมือนกัน แล้วทำไมแม่ไม่รู้สึกผิดกับพี่สาวตัวเองบ้างล่ะคะ หนูก็เห็นแม่ใช้ชีวิตอยู่กินกับพ่อมาจนมีลูกอย่างหนูขึ้นมานี่ไง…” มุกดาพูดออกไปแล้วมองแม่ของเธออย่างก้าวร้าว
“เพี๊ยะ! แม่ไม่เคยแย่งสามีของพี่สาวของตัวเองแบบที่ลูกทำ ที่แม่ยอมแต่งงานอยู่กินกับพ่อของลูกก็เพราะว่าแม่ไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนอื่นมาเป็นแม่เลี้ยงของมีน…แม่ทำตามคำขอครั้งสุดท้ายของพี่สาวของแม่…แม่ได้ทำผิด แต่แม่กำลังทำในสิ่งที่พี่สาวของแม่ฝากฝังเอาไว้ต่างหาก แม่ไม่ได้เลวเหมือนลูก…ที่จงใจแย่งแฟนของพี่สาวตัวเอง…และแม่ก็ไม่เคยสั่งสอนให้ลูกทำเรื่องเลวๆแบบนี้ด้วย…” เพ็ญพักตร์พูดออกไปอย่างอธิบายให้ลูกสาวเข้าใจ
“อ่อ งั้นหนูก็ไม่ได้เกิดมาจากความรักของแม่กับพ่อสินะคะ แม่ถึงได้รักพี่มีนมากกว่าหนูที่เป็นลูกสาวแท้ๆของแม่…ตั้งแต่เด็กจนโต อะไรๆแม่ก็เอาแต่ตามใจพี่มีนพี่กวาง แต่กับหนู ไม่ว่าจะทำอะไรแม่ก็ด่าก็ว่าตลอด เพราะแบบนี้เองสินะคะ แม่ไม่ควรจะเกิดลูกเลวๆแบบหนูมาเลย แม่จะได้ไม่ต้องเสียใจแบบตอนนี้…” มุกดาพูดออกไปอย่างเสียใจ เพราะคำตอบของแม่มันยิ่งทิ่มแทงบาดแผลในใจของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“หยุดพูดประชดแม่นะมุก…ลูกเอาแต่พูดว่าแม่รักแต่พี่มีนพี่กวาง งั้นลูกก็คิดเอาละกันว่าตั้งแต่เด็กจนโตมีอะไรที่ลูกอย่างได้แล้วแม่ไม่หามาให้บ้าง ที่แม่ดุแม่ว่าลูกน่ะก็เพราะลูกทำตัวไม่น่ารัก แม่ก็สั่งสอนเพื่อที่ลูกจะได้ไม่ทำอีก แม่ไม่คิดว่าสิ่งที่แม่ทำเพราะห่วงใยลูก จะทำให้ลูกคิดแบบนี้…” เพ็ญพักตร์พูดตอบไปด้วยเสียงสั่นเครืออย่างเหนื่อยใจ
“ห่วงใยเหรอคะ การที่แม่มาด่ามุกแบบนี้เขาเรียกว่าห่วงใยเหรอคะ…หึ…ยังไงแม่ก็เห็นพี่มีนเขาดีกว่ามุกอยู่ดี” มุกดาพูดออกไปแบบไม่สนใจคำพูดของผู้เป็นแม่
“งั้นลูกก็คิดดูเอาเองก็แล้วกันว่าที่ลูกอยู่สุขสบายมีกินมีใช้เงินไม่ขาดมือแบบนี้มันมาจากใคร ถ้าไม่ใช่จากพี่กวางแล้วก็พี่มีนที่เขาพยายามส่งเสียให้ลูกเรียน เพื่อหวังให้ลูกได้ดิบได้ดีในวันหน้าน่ะ ถ้าพวกเราทุกคนไม่รักมุก แล้วพวกเราจะทำแบบนี้ไปทำไมกัน ” เพ็ญพักตร์พูดออกไปด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วเธอก็เห็นว่าลูกสาวทำหน้าสลดลง
“ไปขอโทษพี่มีนเขาซะ ยังไงเราก็ทำผิดกับพี่เขา…ส่วนกับปาล์มเราก็เลิกซะ อย่าทำให้พี่สาวของลูกต้องเสียใจไปมากกว่านี้เลย” เพ็ญพักตร์พูดบอกไปอีกครั้ง เพราะไม่อยากให้ลูกสาวมีปัญหากัน
“ไม่ค่ะ…มุกไม่ขอโทษ…แล้วมุกก็ไม่เลิกกับพี่ปาล์มเขาด้วย เพราะตอนนี้มุกท้อง…ถ้าแม่จะให้มุกเลิกกับพี่ปาล์ม มุกก็จะเอาเด็กออก” มุกดาพูดบอกไปแบบนั้นเพื่อไม่ให้แม่ของเธอมาบีบบังคับเธอ
เพ็ญพักตร์ได้ยินแบบนั้นถึงกับเข่าอ่อนเลยทันที เพราะตอนนี้ลูกสาวของเธอยังเรียนไม่จบเลย แล้วยังมาท้องกับแฟนของมารียาอีก ทำให้เธอนั้นพูดไม่ออกเลย ก่อนจะเป็นลมล้มพับลงไปอย่างรับไม่ได้
หลายวันต่อมา ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รัฐดูไบ…
ร่างสูงใหญ่ของฮัสลานทายาทคนเดียวของนายบิลลาและนางอามูนีก็ได้เดินเข้ามาในคฤหาสน์หลังใหญ่ ซึ่งเป็นบ้านของตระกูลบรูฮัมนีที่อยู่ในย่านของบ้านมหาเศรษฐีที่รวยติดอันดับต้นๆในนครดูไบ ก็กำลังเดินเข้ามาในบ้านแล้วก็พบกับผู้หญิงที่ยืนเรียงหน้ากระดานยิ้มให้เขาอยู่ด้วยสีหน้าแปลกใจ
“นี่มันอะไรกัน ทำไมผู้หญิงพวกนี้ถึงเขามายืนอยู่ในบ้านฉันแบบนี้ห้ะอาลี…” ฮัสลานหันไปถามลูกน้องคนสนิทของตัวเองแบบงงๆ เพราะถ้าเป็นสาวใช้ก็คงไม่สวยกันขนาดนี้มั้ง แล้วดูสายตาของแต่ล่ะคนสิ มองเขามาเหมือนอ่อยเหมือนยั่วยวนแบบสุดๆ จนเขานั้นทำหน้ายิ้มแบบกลัวๆออกไปเลยทีเดียว
“ไม่รู้เหมือนกันครับนาย หรือว่านายหญิงท่านจะรับสมัครคนใช้เพิ่ม” อาลีเอ่ยตอบไปแบบไม่รู้เพราะเขาก็กลับมาพร้อมกับฮัสลานแล้วเขาจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าผู้หญิงที่มายืนเรียงกันตรงนี้เป็นใครกัน
“คนใช้อะไรจะสวยกันขนาดนี้วะ…ดูจากการแต่งตัวแต่งหน้าแบบนี้แล้วฉันว่าไม่น่าใช่ว่ะ” ฮัสลานพูดไปแบบพิจารณาก่อนจะมองทำหน้าเกร็งๆเมื่อถูกผู้หญิงพวกนี้มองอย่างหิวกระหายแบบนี้แบบนี้ไม่น่าจะมาสมัครเป็นคนใช้แล้วล่ะ
“ยินดีต้องรับกลับบ้านจ้ะลูกรักของแม่….จุ๊บ…จุ๊บ…” อามูนีเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นแล้วก็เอ่ยพูดกับลูกชายไปอย่างดีใจที่ลูกชายนั้นกลับบ้านแล้ว หลังจากที่ไปตระเวนทำงานไปทั่วเอเชียมาเกือบเดือน เธอก็เข้าไปกอดแล้วหอมแก้มลูกชายอย่างคิดถึงทันที
“ครับแม่…ว่าแต่ผู้หญิงพวกนี้ใครครับ ทำไมมายืนเรียงกันตรงนี้ล่ะครับ…คนใช้ใหม่ของแม่หรือครับ…” ฮัสลานเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัย
“ฮ่าๆ คนใช้อะไรกันล่ะลูก นี่น่ะคือสาวๆที่แม่หามาให้ลูกโดยเฉพาะเลยนะฮัสลาน ลูกชอบคนไหนเลือกมาเลยลูกแม่ จะเอาหลายๆคนก็ได้นะแม่ไม่ว่า..เพราะแม่ตั้งใจพาพวกเขามาให้ลูกเลือกโดยเฉพาะเลย…” อามูนีพูดออกไปแล้วก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ออกไป เพราะลูกชายของเธอไม่ยอมแต่งงานสักที ทำให้เธอที่อยากจะมีหลานนั้นต้องหาผู้หญิงมาให้ลูกชายทำลูกเองซะเอง
“แม่ครับ ผมไม่ได้ต้องการเรื่องพวกนี้สักหน่อย แม่ให้ผู้หญิงพวกนี้กลับไปเถอะครับ ผมไม่ชอบแล้วก็ไม่ถูกใจใครเลยสักคน…” อัสลานพูดตอบไปแบบไม่สนใจ เพราะเขาไม่ได้ฝักใฝ่เรื่องพวกนี้ ทำไมแม่ของเขาต้องทำแบบนี้ด้วยนะ
“ไอช่า พาผู้หญิงพวกนี้ออกไปก่อน ฉันจะคุยกับลูกชายของฉันเป็นการส่วนตัว” เสียงเข้มๆของอามูนีพูดออกไปพร้อมกับเปลี่ยนสีหน้าจากยิ้มแย้มเมื่อกี้มาทำหน้าดุๆทันที
“ค่ะนายหญิง…พวกเธอ ตามฉันมาเดี๋ยวนี้… อาลี แกก็อีกคน ตามแม่มา…” ไอช่าแม่บ้านคนสนิทของอามูนีพูดออกไปด้วยสีหน้าดุๆ แล้วก็เดินนำทุกคนอีกฝั่งของคฤหาสน์หลังนี้ เพื่อให้นายหญิงของเธอได้คุยกับลูกชายเป็นการส่วนตัว
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับนาย โชคดีนะครับ” อาลีพูดไปก็ยิ้มแห้งให้เจ้านายของเขาไปอย่างรู้เลยว่าเจ้านายของเขาโดนแน่ๆวันนี้ จากนั้นเขาก็เดินตามแม่และผู้หญิงพวกนั้นออกไป
“ไหนบอกแม่มาสิว่าทำไมเราถึงไม่เลือกผู้หญิงพวกนั้น สวยๆกันทั้งนั้นเลย ไม่มีใครที่ลูกสนใจบ้างเลยเหรอฮัสลาน ” อามูนีเอ่ยถามลูกชายออกไปด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะผู้หญิงที่เธอหามาน่ะก็ออกจะสวยกันทั้งนั้น
“ก็แล้วทำไมแม่ต้องมาผู้หญิงพวกนี้มาให้ผมด้วยล่ะครับ” ฮัสลานถามกลับไปอย่างอยากรู้เช่นกัน เพราะปกติแม่ของเขาไม่ใช่คนที่จะมาหาผู้หญิงให้เขาแบบนี้เลย กลับกัน ท่านออกจะหวงเขามากเลยด้วยซ้ำ
“ในเมื่อลูกไม่คิดจะแต่งงาน ลูกก็ต้องมีลูกเพื่อสืบทายาทให้กับตระกูลของเรา…ตอนนี้มันถึงเวลาที่ลูกจะทำเพื่อครอบครัวของเราแล้วฮัสลาน…ลูกจำสัญญาที่ลูกให้พ่อกับแม่ตอนที่ลูกไม่ยอมแต่งงานกับเรติยาได้ไหม” อามูนีพูดออกไปด้วยสายตาที่มองลูกชายแบบจดจ้อง เพราะเธอจะไม่ยอมใจอ่อนให้ลูกชายอีกแล้ว ในเมื่อไม่อยากจะแต่งงานก็ต้องมีทายาทให้กับตระกูลตามที่เคยสัญญาเอาไว้
“ผมเข้าใจแล้วครับ….แต่ผมจะหาผู้หญิงมาเป็นแม่ของลูกของผมเอง…แม่หยุดหาผู้หญิงมาให้ผมเลือกเถอะครับ…” ฮัสลานพูดบอกไปอย่างเข้าใจ เพราะมันเป็นเรื่องที่เขาจะต้องทำ แต่เขาไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ก็เท่านั้น
“อืม…ถ้าลูกเข้าใจและยอมทำตามสัญญา แม่ก็จะไม่วอแลหรือวุ่นวาย แต่ภายในสองปีนี้ลูกจะต้องมีทายาทสืบตระกูลของเราให้ได้ ไม่อย่างนั้นพ่อกับแม่ก็คงจะต้องหาภรรยาสักคนให้กับลูก และครั้งนี้เราจะไม่ตามใจลูกอีก เข้าใจไหมฮัสลาน” อามูนีพูดบอกไปแบบจริงจัง เพราะมันถึงเวลาที่ลูกชายของเธอจะต้องมีทายาทแล้ว
“ครับแม่…ผมเข้าใจแล้วครับ…งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ฮัสลานพูดบอกไปเสียงอ่อน ก่อนจะเดินเลี่ยงออกไป เพราะการมีทายาทมันคือสิ่งที่เขาจะต้องทำเพื่อครอบครัว
“เฮ้อ…นี่ถ้าเป็นลูกชายบ้านอื่นก็คงจะมีลูกเป็นโขยงแล้วล่ะมั้ง…” อามูนีก็มองตามลูกชายไปแล้วถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ เพราะที่ผ่านมาลูกชายของเธอก็มีผู้หญิงเข้ามาพัวพันอยู่ตลอด แต่ทำไมไม่มีใครที่จะเอาชนะใจลูกชายของเธอได้เลยสักคน จะพลาดท้องสักคนเลยก็ไม่ ไม่รู้ว่าลูกชายของเธอจะเซฟตัวเองอะไรนักหนา อามูนีคิดไปแบบอดไม่ได้
เพราะด้วยความที่เธอมีลูกชายกับสามีแค่คนเดียวทำให้เธอนั้นตามใจลูกชายมาก แม้กระทั่งเรื่องแต่งงานเธอก็ไม่เคยบังคับฝืนใจให้ลูกแต่งงานกับคนที่ไม่รัก ทำให้ฮัสลานนั้นครองตัวเป้นหนุ่มโสดเนื้อหอมอยู่จนอายุป่านนี้
“เป็นยังไงบ้างครับนาย นายหญิงท่านว่ายังไงบ้าง…”อาลีที่เห็นเจ้านายเดินมาที่ห้องทำงานแล้วก็เอ่ยถามออกไปด้วยสีหน้าอยากรู้ เพราะเขาไม่ได้อยู่ฟังด้วย
“จะว่ายังไงล่ะวะ ก็บอกให้ฉันมีลูกน่ะสิ…แม่ง…ฉันนึกภาพตัวเองมีลูกไม่ออกเลยว่ะ” ฮัสลานพูดออกไปแล้วทำหน้าครุ่นคิดแบบอดไม่ได้ว่าถ้าเขามีลูกแล้วมันจะเป็นยังไง เพราะขนาดอุ้มเด็กเขาก็ยังอุ้มเด็กไม่เป็นเลยซ้ำ
“นึกออกไม่ออกแต่นายก็ต้องรีบหาผู้หญิงมาเป็นแม่ของลูกแล้วล่ะครับ…เพราะกว่าจะท้องมันไม่ใช่ง่ายๆเลยนะครับ” อาลีพูดออกไปตามความคิดของเขา
“จะไปยากอะไรล่ะก็ใช้วิธีทางการแพทย์สิ…ฉันไม่มานอนมีอะไรกับใครจนท้องได้ขนาดนั้นหรอก แกไปหาผู้หญิงมารับหน้าที่แม่ของลูกฉันละกัน…ฉันจะต้องเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อม…สวย…ฉลาด…รูปร่างดี…และไม่มีพันธะผูกพันกับเด็ก หากเด็กคลอดแล้ว” ฮัสลานพูดบอกไปเพราะเขาต้องการแค่ลูก ไม่ได้ต้องการแม่ของลูกมาด้วย
“อ่าว..นี่นายจะเอาแค่ลูกไม่เอาเมียด้วยหรอกเหรอครับ…โอเคครับ เดี๋ยวผมจะหาผู้หญิงมาให้” อาลีถามออกไปด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ไม่ดีกว่า ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ไหนๆเขาก็ต้องมาอุ้มท้องลูกของฉัน งั้นฉันจะพิจารณาแม่ของลูกฉันเอง นายไปประกาศรับสมัครก็พอ แล้วฉันจะเป็นคนสัมภาษณ์เอง…” ฮัสลานพูดบอกไปเพราะเขาควรจะเลือกด้วยตัวเอง ไม่ใช่ให้ลูกน้องหาใครก็ได้มา
“ครับนาย ผมจะจัดการให้รวดเร็วที่สุดครับ…” อาลีพูดตอบไปอย่างเข้าใจ คราวนี้คงต้องเกิดเรื่องป่วนๆขึ้นแน่ๆ เพราะเจ้านายเขามาตรฐานสูงลิ่วแบบนี้แล้วเขาล่ะนึกภาพตอนที่เจ้านายเขาไปสัมภาษณ์หาผู้หญิงมาอุ้มท้องให้ไม่ได้เลยว่ามันจะเป็นยังไงน่ะ
ณ ประเทศไทย สนามบินสุวรรณภูมิพอมารียารู้ว่าน้องสาวของเธอนั้นท้องกับปรมินทร์แล้วเธอก็ตัดสินใจที่จะไปอยู่ดูไบกับกวินตาลูกพี่ลูกน้องอีกคนของเธอ ซึ่งก็เป็นลูกของเพ็ญพักตร์น้าแท้ๆของเธอนั่นแหละ แต่กวินตานั้นรักและจริงใจกับเธอมากกว่ามุกดาที่เป็นน้องล่ะแม่ของเธอซะอีก“มีน หนูแน่ใจนะว่าจะไปอยู่กับยัยกวางที่ดูไบจริงๆน่ะ…” เพ็ญพักตร์เอ่ยถามหลานสาวออกไปด้วยสีหน้าเศร้าๆ เพราะถ้าลูกสาวตัวดีของเธอไม่ทำเรื่องไร้ยางอายแบบนั้น มารียาก็คงไม่ตัดสินใจไปดูไบกะทันหันแบบนี้“ค่ะน้าเพ็ญ…มีนไม่อยากจะอยู่ที่นี่แล้ว…มีนอยากจะไปเปิดหูเปิดตาทำงานในที่ใหม่ๆบ้าง เพราะมีนก็คงทนอยู่ที่นี่ไม่ได้ถ้าต้องเจอสองคนนั้น…” มารียาพูดออกไป เพราะถ้าเธออยู่เธอก็จะได้เห็นปรมินทร์และมุกดาวนเวียนอยู่รอบๆตัวเธอ และมันก็คงทำให้เธอทำใจไม่ได้ง่ายๆ เธอจึงเอาตัวเองหลีกหนีสองคนนี้ไปอยู่ที่ที่สบายใจจะดีซะกว่า“น้าขอโทษนะมีน น้าเลี้ยงลูกไม่ดีเองมันถึงได้ไม่รักดีแบบนี้…ถ้าหนูตัดสินใจแล้วน้าก็จะไม่ห้าม ตามใจเราก็แล้วกันว่าจะอยู่ที่ไหน..” เพ็ญพักตร์ลูบผมของมารียาอย่างเอ็นดู เพราะมารียาน่ะน่าสงสารมาก แม่ก็ตายตั้งแต่เธอเกิด ส่วนพ่อก็พึ่งจะเสียไ
เจ็ดชั่วโมงต่อมา…กวินตาก็ไปรับมารียาที่สนามบินแล้วเธอก็พาน้องสาวมาเดินทางมายังคฤหาสน์ของจาซุสที่เธออาศัยอยู่ตอนนี้ทันที ซึ่งมันใหญ่โตจนมารียานั้นมองด้วยความตื่นตาตื่นใจเลยทีเดียว“เข้าบ้านกันเถอะ พี่ให้แม่บ้านเตรียมห้องพักให้มีนแล้วแล้ว…ป่ะ…” กวินตาพูดบอกไปด้วยเสียงอ่อนโยนกับน้องสาวของเธอ“พี่กวางคะ ทำไมบ้านคุณจาซุสเขาใหญ่แบบนี้ล่ะคะ ไหนพี่บอกว่าเขาเป็นแค่นักธุรกิจธรรมดาไงคะ อยู่คฤหาสน์ในดูไบนี่คงไม่ใช่นักธุรกิจธรรมดาแล้วมั้งคะพี่…” มารียาถามไปเพราะพี่สาวเธอเคยบอกว่าจาซุสนั้นเป็นแค่นักธุรกิจธรรมดาๆเท่านั้น“อ่อ เขาก็พอมีในระดับนึงนั่นแหละ แต่ว่าที่นี่ยังมีคนที่รวยแล้วก็ยิ่งใหญ่กว่าเขาอีกเยอะ เพราะฉะนั้นที่นี่เขาก็เป็นแค่นักธุรกิจธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นแหละ เดี๋ยวไว้เราอยู่ที่นี่ไปอีกสักพักเดี๋ยวเราก็รู้เองแหละน่า” กวินตาพูดบอกไป เพราะยังมีคนที่รวยกว่าจาซุสอีกเยอะ แค่น้องสาวของเธอยังไม่ได้ไปเปิดหูเปิดตาเท่านั้น“แล้วพี่กวางพามีนมาอยู่ด้วยแบบนี้คุณจาซุสเขาไม่ว่าเหรอคะพี่..” กวินตาเอ่ยถามออกไปอย่างเกรงใจ เพราะอยู่ๆเธอก็มาอาศัยอยู่กับพี่สาวกะทันหัน เธอก็ไม่รู้ว่าผู้ชายของพี่สาวนั้นจะโอเคหร
ด้านมารียาที่มาอยู่ที่ดูไบได้หลายวันแล้วเธอก็เริ่มจะเข้าใจวัฒนธรรมของที่นี่แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นประเทศมุสลิมที่ค่อนข้างเปิดกว้างเลยทีเดียว เธอล่ะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมดูไบถึงเป็นเมืองที่เจริญแบบนี้ หลังจากที่เธอนั้นไปตระเวนเที่ยวกับพี่สาวของเธอมา“กลับมากันแล้วเหรอ ผมอยากจะเจอพวกคุณสองคนอยู่พอดีเลย…พรุ่งนี้เพื่อนผมจัดงานแข่งรถที่ทะเลทราย คุณสองคนอยากจะไปด้วยไหม” จาซุสเอ่ยถามออกไป เพราะไม่รู้ว่าสองสาวจะสนใจหรือเปล่า“ไปสิคะ ฉันอยากจะไปเห็นทะเลทรายแบบกว้างๆใหญ่ๆค่ะ” มารียารีบตอบไปแบบดีใจด้วยสายตาลุกวาว จนจาซุสนั้นอมย้ำขำๆ เพราะมันเหมือนกับตอนที่เขาชวนกวินตาไปเที่ยวทะเลทรายยครั้งแรกเลย เธอก็ดีใจแบบนี้แหละ แต่พอจบทริปนั้นเขาชวนเธอทีไรเธอก็ปฏิเสธเขาทุกทีเพราะอากาศมันค่อนข้างจะร้อนมากเลยทีเดียว“แต่มันร้อนมากเลยนะมีน…มันไม่ได้ไปแบบสบายๆอย่างที่เราคิดเลยนะ พี่ว่าเราไม่ไปดีกว่ามั้ง” กวินตาพูดออกไปด้วยสีหน้าที่ขยาดเต็มที เมื่อได้ยินคำว่าทะเลทราย“ไปเถอะค่ะพี่กวาง มีนมาดูไบทั้งทีก็ต้องไปให้ถึงทะเลทรายสิคะ น่านะ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเองค่ะ อดทนเพื่อน้องหน่อยนะคะ นะคะพี่สาวคนสวย…”มารียาพูดอ้อนๆอย่างขอ
ส่วนฮัสลานเองก็มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาจดจ้อง เพราะเขาจำได้เลยว่าเธอคือผู้หญิงไทยคนนั้นที่เอากระเป๋ามาให้เขาที่สนามบินตอนนั้น เขาไม่คิดเลยว่าจะมาเจอเธอที่นี่อีก ยิ่งในกระโจมส่วนตัวของราชิดแล้วเขาก็ยิ่งแปลกใจ“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ทันระวังเอง…” มารียาพูดภาษาอังกฤษบอกไปแล้วก้มหน้าลงทันที เพราะการแต่งตัวของชายคนนี้บ่งบอกเลยว่าเขานั้นไม่ใช่คนธรรมดา แต่ให้ตายเถอะ ทำไมผู้ชายประเทศหน้าคมเข้มหล่อกันขนาดนี้เนี่ย…ฮัสลานก็มองหน้าสวยๆของเธอแล้วเขาก็ตัดใจทำหน้านิ่งๆแล้วเดินผ่านเธอไปแบบไม่พูดตอบอะไร ก่อนจะเข้าไปหาเพื่อนๆของเขาที่นั่งอยู่เนื่องจากตอนนี้ทุกคนกำลังมองเขากันอยู่ เขาไม่สามารถแสดงท่าทีสนใจอะไรเธออย่างออกนอกหน้าได้ เพราะมันจะไม่ใช่ผลดีกับผู้หญิงคนนี้เองมารียาก็มองตามแบบหมั่นไส้ขึ้นมาทันทีเลย เพราะเธออุตส่าห์ขอโทษเขาแล้ว จะพูดตอบมาสักหน่อยมันจะตายหรือไง มารียาคิดไปก็ทำหน้ามึนตึงแล้วเดินออกไปจากกระโจมนี้ทันที“ยัยมีน รอพี่ด้วย” กวินตาเรียกน้องสาวแล้วก็รีบตามออกไปทันทีด้านฮัสลานก็เดินเข้าไปหาเพื่อนสนิทของเขาทั้งสองด้วยสีหน้าคมเข้ม จนราชิดและจาซุสนั้นมองแล้วก็ยิ้มพร้อมกับลุกขึ้นมาทักทายเพื่อนห
พอออกมาด้านนอกแล้วฮัสลานก็มองหาผู้หญิงคนนั้นทันที แต่ด้วยความที่คนเยอะทำให้เขานั้นต้องใช้สายตาสอดส่องหาเธออยู่นานทีเดียว ก่อนจะเห็นเธอไปยืนถ่ายรูปอยู่อูฐอย่างเพลิดเพลิน ทำให้เขามองแล้วก็ยิ้มกับความน่ารักของเธอ“อยากจะขี่ไหมคุณ” ฮัสลานเดินเข้าไปยืนด้านหลังเธอแล้วเอ่ยพูดออกไปแบบนิ่งๆ ทำให้มารียาหันมามองทันทีเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆด้านหลัง“คุณ…อ่อ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันแค่จะถ่ายรูปเฉยๆ ไม่ได้อยากจะขี่มันหรอกค่ะ ขอบคุณนะคะ” มารียาพูดบอกไปแล้วมองเขาแบบนิ่งๆ เพราะก่อนหน้านี้เธอพูดด้วยแล้วยังทำหยิ่งใส่เธออยู่เลย ทำไมอยู่ๆถึงเข้ามาคุยกับเธอได้“ผมฮัสลาน เป็นเพื่อนของจาซุส” ฮัสลานเห็นเธอตอบมาแบบนั้นก็แนะนำตัวเขาไปทันที เผื่อเธอจะเคยได้ยินชื่อของเขามาบ้าง“ค่ะ…ฉันมารียาค่ะ เรียกง่ายๆว่ามีนก็ได้ค่ะ…ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้ว งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” มารียาพูดตอบไปก็จะเดินเลี่ยงออกไป เพราะเธอไม่อยากจะพูดคุยอะไรกับเขาเลย ถึงเขาจะหล่อปานไหนก็เถอะ แต่เมื่อกี้ใครบอกให้เขาหยิ่งไม่ตอบเธอเองล่ะ มาตอนนี้เธอไม่ได้อยากจะเสวนาด้วยแล้ว“เดี๋ยวสิ ผมมาขอบคุณคุณที่ช่วยเอากระเป๋ามาคืนตอนที่เราเจอกันที่สนามบินด้วย” ฮัสลานพูดบอกไป
พอฮัสลานมาเตรียมตัวที่จะแข่งรถแล้วก็เชคความเรียร้อยด้วยตัวเองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ก่อนจะไปนั่งกับเพื่อนๆของเขาที่เชครถรอเสร็จแล้ว“จาซุส ฉันจะถามแกเรื่องของผู้หญิงที่ชื่อมารียาหน่อย เขาไม่ได้เป็นเด็กของแกใช่ไหม” ฮัสลานเอ่ยถามเพื่อนหนุ่มตรงๆเพื่อเป็นการบอกให้เพื่อนหนุ่มรู้ว่าเขานั้นสนใจเธออยู่“อืม…เขาเป็นน้องสาวของผู้หญิงของฉันเอง ทำไมวะ อย่าบอกนะว่าแกสนใจเขาน่ะ” จาซุสตอบไปแล้วก็เอ่ยถามเพื่อนหนุ่มทันที“ใช่…ฉันอยากจะได้ผู้หญิงคนนี้ไปเป็นแม่ของลูกฉัน…” ฮัสลานพูดบอกไปตรงๆ เพราะเขาคิดว่าเขาอยากจะได้เธอไปเป็นแม่ของลูกเขา ที่เขากำลังเฟ้นหาอยู่ในขณะนี้“เดี๋ยวนะโว้ย…ฉันเข้าใจว่าตอนนี้แกกำลังหาผู้หญิงไปเป็นแม่ของลูกแก แต่แกเห็นแค่นี้แกก็จะเลือกมีนแล้วเหรอวะ…ไหนแกบอกว่าผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่ของลูกแกต้องเพียบพร้อมตามข้อกำหนดที่แกตั้งไว้ไง” จาซุสที่รู้ว่าเพื่อนหนุ่มกำลังหาผู้หญิงไปทำหน้าที่มีลูกให้อยู่แล้วนั้นถึงกับทำหน้าตกใจทันที เพราะไม่คิดว่าเพื่อนหนุ่มจะเลือกมารียา เพราะเท่าที่เขารู้มารียานั้นตรงข้ามกับข้อกำหนดของเพื่อนหนุ่มทุกอย่างเลย“มารียาเป็นข้อยกเว้น…ฉันจะเสนอเงินให้เขาจำนวนหนึ่ง เพื
จากนั้นทั้งสามหนุ่มก็ไปขึ้นรถแล้วก็ขับรถไปที่จุดปล่อยตัวทันที และสายตาของฮัสลานก็มองไปทางที่นั่งเชียร์ด้านข้างอย่างอยากเห็นมารียา แล้วมันก็ทำให้เขาต้องหน้าบึ้งทันที เมื่อเขาเห็นเธอกำลังนั่งอยู่กับผู้ชายฝรั่งคนนหนึ่งอยู่ และเธอก็ยังถ่ายรูปกับผู้ชายคนนั้นแบบสนิทสนมด้วย“แป้น!...มองอะไรวะฮัสลาน จะแข่งแล้วนะโว้ย มีสติหน่อยสิวะ” ราชิดที่จอดอยู่ข้างๆรถของอัสลานพูดไปเพราะตอนนี้ใกล้จะปล่อยตัวแล้วแต่เพื่อนเขายังมองไปทางข้างสนามอยู่เลย“เออๆ ฉันเข้าใจแล้ว” ฮัสลานหันมาตอบเพื่อนหนุ่มแล้วก็มองไปทางข้างหน้าแล้วก็เบิ้ลคันเร่งแบบพร้อมไป แล้วเขาก็แลสายตาไปมองทางมารียาอีกครั้งด้วยสีหน้าหงุดหงิดใจ ก่อนจะกัดฟันไว้แน่นอย่างโมโหพอสาวๆโบกธงสัญญาณแล้วเขาก็เหยียบรถแบบสุดเท้าอย่างรวดเร็วราวกับว่าเขานั้นกำลังระบายอารมณ์หมองขุ่นไปกับการแข่งในครั้งนี้ ราชิดและขาซุสเองก็ออกตัวตามเพื่อนหนุ่มไปติดๆ ส่วนบาซิมก็ออกตัวไปพร้อมกับฮัสลานและก็ค่อนข้างจะสูสีกันมาก ทำให้คนทั้งสนามนั้นพากันมองอย่างลุ้นว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะในวันนี้“รถของคุณฮัสลานนำโด่งเลย คุณจาซุสจะชนะไหมเนี่ย ไหนจะรถของคุณบาซิมอีก เฮ้อ…” กวินตาพูดออกไปแบบลุ้น
วันต่อมา….มารียาก็เดินทางไปสมัครงานตามบริษัทที่เธอหาเอาไว้จนครบแต่เธอก็ไม่ได้ถูกเลือกเลยสักที่ ทำให้เธอนั้นเลือกที่จะมาสมัครงานที่บริษัทของฮัสลานตามที่เขาแนะนำเอาไว้ เพราะตอนนี้เธอไปสมัครมาแล้วทุกที่จนเหลือแค่ที่นี่ที่เดียวแล้ว“สวัสดีค่ะ ฉันมาสมัครงานน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าต้องไปกรอกเอกสารสมัครงานที่ไหนคะ” มารียาเดินเข้าไปถามพนักงานประชาสัมพันธ์หน้าบริษัทด้วยหน้าตาใสซื่อพอพนักงานประชาสัมพันธ์เห็นหน้าของผู้หญิงที่มาถามก็ยิ้มให้ทันที เพราะเธอจำใบหน้าสวยๆของสาวเอเชียคนนี้ได้ทันที เพราะเลขาของท่านประธานได้เอารูปมาให้พวกเธอดูตั้งแต่เช้าแล้วว่าหากผู้หญิงคนนี้มาสมัครงาน ให้พาไปที่ห้องสัมภาษณ์งานของบริษัท“ไปยื่นเอกสารที่ห้องสัมภาษณ์งานได้เลยค่ะ เอาเอกสารมาครบใช่ไหมคะ” พนักงานเอ่ยถามออกไปด้วยรอยยิ้ม เพราะผู้หญิงคนนี้จะต้องไม่ธรรมดาแน่“เอามาครบแล้วค่ะ แล้วห้องสัมภาษณ์งานอยู่ตรงไหนเหรอคะ” มารียาตอบไปก็เอ่ยถามทันที เพราะเธอมาที่นี่ครั้งแรกเธอจะไปรู้ได้ยังไงว่าห้องสัมภาษณ์อยู่ที่ไหน บริษัทก็ใหญ่โตออกขนาดนี้“รอสักครู่นะคะ ฉันขอแจ้งทางห้องสัมภาษณ์ก่อน….” พนักงานสาวชาวอาหรับพูดตอบไปก็กดโทรศัพท์แจ้งไป
สี่ชั่วโมงผ่านไป…ณ เวลาเที่ยง…มารียาก็ตื่นขึ้นมาแล้วด้วยสภาพที่อ่อนแรงเพราะเธอถูกฮัสลานจับกดอ้าขาเอาไม่รู้กี่รอบ ไหนจะถูกเขาขึ้นขาหยั่งยังไม่พอ เขายังมาพาเธอนั่งชิงช้าห้อยเพื่อกระแทกเธอแรงๆอีก แต่ล่ะอย่างที่เขาเอากับเธอน่ะล้วนแต่ทำให้เธอนั้นอ่อนแรงทั้งนั้น และตอนนี้เธอก็ไม่อยากลุกขึ้นจากเตียงเลย“ตื่นแล้วเหรอคุณ…ผมจะมาเรียกคุณไปทานอาหารพอดีเลย นี่เที่ยงแล้วด้วยลุกมาทานอะไรหน่อยไป…คุณจะได้มีแรงสู้กับผมอีก…เอะ…หรือว่าคุณลุกไม่ไหว ให้ผมเอามาให้คุณทานในนี้ไหม…ผมยินดีบริการเลยนะ…” ฮัสลานพูดบอกไปแล้วก็มองเธอด้วยยิ้ม เพราะเขาเห็นหน้าสวยๆของเธอทำหน้างอนใส่เขาแบบนี้แล้วมันโคตรน่ารักเลย“ไม่ต้อง…ฉันไม่อยากจะกินอะไรทั้งนั้นแหละ…คุณออกไปซะ ฉันไม่อยากจะเห็นหน้าคุณ” มารียาพูดออกไปแบโกรธๆเขา ก่อนจะเมินหน้าไม่สนใจเขา เพราะเธอโกรธที่เขาทำกับเธอแบบนี้“ยังไม่ทันจะท้องเลยนะคุณก็เบื่อหน้าผัวตัวเองแล้วเหรอ ถ้าท้องขึ้นมาจะขนาดไหนเนี่ยหึ….” ฮัสลานแกล้งพูดหยอกเย้าเธอไป เมื่อเธอทำท่าทีหมางเมินกับเขา“คุณฮัสลาน ทำไมคุณมันหน้าด้านขนาดนี้หึ…ฉันพูดด่าอะไรไปคุณไม่คิดจะสะทกสะท้านอะไรบ้างเลยหรือไง หรือว่าหน้าคุณมัน
มารียาก็ถูกเขากระหน่ำท่อนเอ็นใส่แบบไม่ยั้งจนเธอนั้นเสียวและจุกที่ท้องน้อยเลย เธอก็ส่ายหน้าไปมาอย่างทรมานเลยทีเดียว จะหยุดเขาก็ทำไม่ได้เพราะเขาเอามือกดขาของเธอไว้ แต่เธอจะไม่ยอมให้เขากดขี่ข่มเหงเธอแบบนี้อีกแล้ว“เอาสิ…อ้ะ อ้ะ ไปนอนโรงพยาบาลบาลก็ดี ฉันจะได้หลุดพ้นจากการทำลูกของคุณสักที….โอ๊ย….ซี๊ด….อ้ะ อ้ะ….” มารียาร้องครางตอกกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้“โอว์….ฟัก….ต่อให้คุณจะไปนอนที่โรงพยาบาล ผมก็จะตามไปกระแทกหอยคุณให้ได้ ผมจะทำให้คุณครางลั่นโรงพยาบาลเลยมารียา….อ่าส์….ซี๊ด….ตับ ตับ ตับ….” ฮัสลานพูดบอกไปก็กัดฟันจนกรามขึ้นเป้นสันเลยทีเดียว จากนั้นเขาก็ส่งท่อนเอ็นใส่ร่องสาวเธอแบบรัวๆเลยทีเดียว“อ้ะ…คุณมันใจร้าย…อ้ะ อ้ะ…” มารียาพูดต่อว่าเขาไปก็ร้องครวญครางอย่างทรมานใต้ร่างของเขา เพราะไม่ว่าจะยังไงเขาก็ยังคงไม่ลดละกับการที่จะมีอะไรกับเธอเลย“คุณนั่นแหละที่บังคับให้ผมต้องใจร้ายกับคุณแบบนี้…อ่าส์…ซี๊ด….ถ้าคุณอยากให้ผมใจดีด้วยก็พูดให้รู้เรื่องหน่อย อ่าส์…ไม่ใช่มาเถียงผัวตัวเองฉอดๆแบบนี้ ตับ ตับ ตับ….โอว์…ซี๊ด….” ฮัสลานพูดบอกเธอไปก็ถอนท่อนเอ็นออกจากร่องสาวของเธอแล้วเขาก็เอาหมอนมารองก้นของเธอไว้สูง แล้
มารียาก็ดิ้นพล่นขึ้นมาทันทีเพราะมันสั่นแรงและยังถูไถที่ติ่งเสียวของเธออีก เธออยากจะเอามือไปจับมันออกแต่มันก็ไม่สามารทถได้เพราะทั้งมือทั้งเท้าต่างก็ถูกล็อคไปหมดแล้ว ทำให้เธอนั้นกำหมัดแน่นเลยทีเดียวจนตัวเธอนั้นเด้งหน้าอกขึ้นแล้วดิ้นไปมาอย่างทรมาน“อื้อ….อือ…อ้ะ….อ้ะ….” มารียาร้องครางออกมาอย่างทนไม่ไหวอีกต่อไป เมื่อตอนนี้ร่างกายของเธอมุนถูกรุกรานอย่างหนัก เพราะเธอพึ่งเสร็จไปเมื่อกี้การที่เธอถูกเล่นเสียวต่ออีกทำให้มันทรมานมาก“หึๆ…ดูสิมีนว่าตอนนี้คุณน่ะกำลังเสียวมากแค่ไหน ดูตัวเองในกระจกนั่นสิ….โคตรยั่วเลย….” ฮัสลานพูดไปก็กดปรับเก้าอี้ให้มันเป็นนั่งเอนพิงลงไป แล้วมันก็ทำให้มารียานั้นได้เห็นตัวเองอย่างชัดเจนเลย จนเขานั้นทนไม่ไหวต้องถอดกางเกงแล้วเอาท่อนเอ็นใหญ่ออกมา แล้วเอามือรูดชักเบาๆอย่างทนไม่ไหว เพราเห็นแค่นี้เขาก็อยากจะเสียบเธอแล้ว แต่ไม่ก่อน เขายังอยากจะทรมานตัวเองไปพร้อมๆกับเธอด้วยมารียาได้ยินแบบนั้นก็มองตัวเองที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เอนเบาะนี้ราวกับในหนังโป๊แนวซดิตส์เลย แล้วดูร่องสาวและตูดของตัวเองตอนนี้สิ มันถูกเติมเต็มไปด้วยของเล่นที่ฮัสลานนั้นเอามายัดเยียดใส่ในตัวเธอ และมันก็กำลังสร
“ในเมื่อคุณพึ่งเข้าห้องแดงของผมเป็นครั้งแรก งั้นก็เอาแบบเบาๆไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวคุณจะหาว่าผมใจร้ายกับคุณอีก…หึๆ…” ฮัสลานพูดไปก็หยิบไข่สั่นแบบอัตโนมัติออกมาจากลิ้นชัก แล้วก็ตามด้วยลูกตุ้มพวงขนกระต่ายและก็ผ้าปิดตาสีขาว ที่สามารถทำให้เธอเห็นแบบลางๆตอนนี้ที่ถูกปิดตาได้“ฉันไม่เล่นอะไรกับคุณทั้งนั้นแหละคุณฮัสลาน คุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้นถ้าคุณปล่อยฉันเมื่อไหร่ ฉันจะเล่นงานคุณให้หนักเลย…” มารียาพูดออกไปก็พยายามดิ้นขัดขืน แต่เธอข้อมือของเธอก็ถูกเขาล็อคเอาไว้อย่างแน่นหนาจริงๆ“ก่อนที่คุณจะได้เล่นงานผม ผมก็คงจะเล่นงานคุณหนักๆไปแล้วล่ะ คุณจะเอาแรงที่ไหนมาเล่นงานผมหึ เอาตัวเองให้เดินออกจากห้องนี้ให้ได้ก่อนเถอะ เพราะวันนี้ผมจะเอาจนคุณขาถ่างจนหุบไม่ลงเลย หึๆ…” ฮัสลานพูดไปก็เอาของทีเขาเลือกมาไปวางไว้บนเตียงแล้วเขาก็มองเธอแบบเจ้าเล่ห์“วันนี้ไม่ได้ มันก็ต้องมีวันอื่นอยู่ดี ฉันไม่ยอมปล่อยให้คุณรังแกฉันฝ่ายเดียวหรอก” มารียาพูดบอกไปพร้อมกับสายตาที่มองเขาแบบไม่พอใจ“ปากดีจริงเลยนะคุณเนี่ย ดี!... ในเมื่อคุณคิดจะเอาคืนผม งั้นผมก็ไม่เกรงใจอะไรคุณแล้วล่ะ…ตรงนี้มันคงไม่เหมาะกับคุณ…ผมว่าไปตรงเก้าอี้
“มันก็แค่การตัดสินใจของคุณคนเดียว ครอบครัวคุณไม่ได้รับรู้ด้วยเลย คุณมาพูดเองเออเองแบบนี้จะให้ฉันเชื่ออะไรหึ…ครอบครัวคุณก็คงไม่ต่างจากครอบครัวของคุณจาซุสเขาหรอก คุณไม่ได้ต้องมาหลอกฉันซะให้ยากเลย ฉันไม่หลงเชื่อคุณหรอกคุณฮัสลาน” มารียาพูดไปพร้อมกับยืนยันว่าเธอไม่เชื่อเขา เพราะขนาดพี่สาวของเธอที่อยู่กับจาซุสมาสองปี ยังต้องยอมแพ้กลับไทยไปเลย แล้วเขาที่รวยกว่าจาซุสล่ะ จะไปเหลืออะไรกัน“แต่ครอบครัวผมกับครอบครัวของจาซุสมันคนล่ะครอบครัวกันนะคุณ คุณจะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ ครอบครัวของผมไม่ได้สนใจเรื่องความแตกต่างทางสังคมหรือเชื้อชาติอะไรเลย ที่ครอบครัวผมสนใจมีอย่างเดียวเลยคือเรื่องทายาท และมันก็เป็นต้นเหตให้เราสองคนมาเถียงกันอยู่ตอนนี้ ดังนั้นเรื่องแต่งงานของคุณกับผมมันจะไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้าคุณท้องลูกของผม คุณจะกลายเป็นเมียแล้วก็แม่ของลูกผมอย่างถูกต้องทันที ถ้าคุณไม่เชื่อก็ลองดูก็ได้” ฮัสลานพูดอธิบายบอกไปแบบตรงๆ เพราะครอบครัวของเขานั้นอยากให้เขามีเมียมีลูกจะตายไป แต่ในกรณีของมารียา เธอจะต้องท้องก่อนเขาถึงจะมีอะไรไปต่อรองกับพ่อแม่ของเขาเพื่อรับเธอมาเป็นภรรยาอย่างถูกต้อง“ฉันต้องท้องฉันเท่าน
ณ เพ้นท์เฮ้าท์ของฮัสลานในเวลาต่อมาฮัสลานก็เดินเข้ามาในบ้านแบบเงียบๆไม่พูดคุยอะไรกับมารียาเลยทำให้มารียานั้นเดินตามเขาแล้วมองแบบงงๆว่าเขาโกรธอะไรเธอ ทั้งที่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าโกรธงอนกันเลยสักนิดเดียว“คุณฮัสลาน คุณมีอะไรไม่พอใจฉันคุณก็พูดมาเถอะค่ะ ไม่ใช่มาเงียบใส่กันแบบนี้ฉันไม่ชอบ…เราไม่ใช่เด็กๆกันแล้วนะคะ” มารียาเอ่ยพูดออกไปแล้วมองตามเข้าไปด้วยสีหน้าจดจ้อง เพราะเธอทนให้เขาเงียบใส่เธอ ทำเหมือนเธอไม่มีตัวตนแบบนี้ไม่ได้ เธอไม่อยากจะใช้สงครามประสาทกับเขาหรอกนะ“รู้ด้วยเหรอว่าเราไม่ใช่เด็กๆกันแล้ว แล้วคุณคิดบ้าอะไรอยู่หึถึงได้คิดจะฉีดยาคุมกำเนิดโดยไม่บอกผมเลยสักคำน่ะ ถ้าผมไม่โทรหา ป่านนี้คุณก็คงฉีดมันไปแล้วสินะ” ฮัสลานหันไปพูดตอบเธอด้วยสีหน้าโกรธๆอย่างอดไม่ได้“อ่อ ที่โกรธอยู่นี่เพราะฉันไม่ได้บอกคุณเรื่องนี้เหรอคะ ฉันคิดว่ามันไม่ได้สำคัญอะไรฉันก็เลยไม่ได้บอกคุณน่ะค่ะ อีกอย่างนี่มันก็เป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่ไม่ได้กินยาคุมเป็นประจำแบบฉัน และถ้าฉันฉีดมันแล้ว มันก็ดีกับเราทั้งคู่ไม่ใช่เหรอคะ…” มารียาพูดบอกไปแล้วมองสบตากับเขาอย่างอ่อนโยน“มันไม่ได้ดีกับผมเลยมารียา ผมต้องการที่จะมีลูกกับ
ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นครดูไบมารียาก็แอบปลีกตัวจากฮัสลานตอนที่เขานั้นไปประชุมข้างนอก ออกมาที่โรงพยาบาลใกล้ๆกับบริษัทของเธอ เพราะเธอได้โทรนัดเวลาเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ทำให้มาถึงเธอก็ได้เข้าพบหมอได้เลย“คุณแน่ใจนะคะว่าจะฉีดยาคุมกำเนิดน่ะ” หมอหนุ่มเอ่ยถามออกไปกับคนไข้อย่างต้องการความแน่ใจ“แน่ใจค่ะ ฉันไม่อยากจะท้องตอนนี้ คุณหมอฉีดได้เลยค่ะ” มารียาพูดบอกไปเพราะเธอไม่ค่อยได้ทานยาคุมทุกวัน เธอจึงตัดสินใจมาฉีดยาคุมกำหนดเพื่อป้องการไม่ให้เธอพลาดตั้งท้องขึ้นมาแบบพี่สาวของเธอ เนื่องจากฮัสลานนั้นแทบจะไม่เคยปล่อยข้างนอกเลยนับตั้งแต่มีอะไรกันมา เขาจะปล่อยในแทบทุกครั้ง ทำให้เธอกลัวว่าเธอจะพลาดท้องกับเขาขึ้นมา เธอจึงตัดปัญหาด้วยการฉีดยาคุมซะเลย จะได้ไม่ต้องมาเจอปัญหาในภายหลัง“โอเคครับ งั้นเรามาทำความเข้าใจกับการฉีดยาคุมกันก่อนนะครับ ฉีดครั้งเดียวจะสามารถคุมกำเนิดได้นานถึง 3 เดือน ตอนนี้ถ้าคนไข้ทานยาคุมกำเนิดแบบแผงอยู่ก็ให้เลิกทานได้เลยนะครับ” หมอหนุ่มพูดบอกไปแล้วก็ยิ้ม“ค่ะคุณหมอ…” มารียาพยักหน้าตอบไปแบบเข้าใจที่หมอพูด“หลังฉีดอาจจะประจำเดือนไม่มาไม่ต้องตกใจนะครับ มันเป็นผลข้างเคียงจากการฉีกน่ะครับ
“อืม….รู้จักขอโทษก็ดี มีอะไรก็เข้าไปคุยกันในบ้าน ฉันไม่อยากมาเถียงกับแกให้อายเพื่อนบ้านหรอกนะยัยมุก…” กวินตาพูดออกไปแล้วเธอก็เดินเข้าไปในบ้านทันที เพราะถึงมุกดาจะก้าวร้าวยังไง เธอก็ยังเป็นน้องสาวของเธออยู่“ไปลูก พี่เขาให้เข้าบ้านแล้วก็ทำตัวดีๆหน่อย อย่าไปทำให้พี่เขาโมโหอีก ป่ะ” เพ็ญพักตร์พูดบอกไปแล้วก็พยักหน้าใส่ลูกสาวให้เดินตามเธอเข้าไปมุกดาก็ทำหน้าบึ้งๆออกไป ก่อนจะเดินตามพี่สาวและแม่เข้าไปในบ้าน พอเข้ามาด้านในเธอก็เห็นว่ามีสนามหญ้ากว้างไปจนสุดข้างบ้านเลย มันก็ไม่ได้เล็กแบบที่เธอคิดเลย พี่สาวของเธอคงซื้อไว้สำหรับลูกที่จะเกิดมาแน่ๆ“แม่คะ นี่พี่กวางเขาจะกลับมาอยู่ไทยถาวรแล้วเหรอคะ ถึงได้ซื้อบ้านอยู่แบบนี้น่ะ…แล้วผู้ชายของพี่กวางล่ะคะ เขามาด้วยไหม…” มุกดาเข้าไปกระซิบถามแม่ของเธออย่างอยากรู้ เพราะอยู่ๆก็กลับมากะทันหันแถมยังซื้อบ้านเป็นหลังอยู่อีก แบบนี้มีแววว่าจะอยู่ยาวไหมล่ะ“เขาไม่ได้มาด้วยเพราะยัยกวางเลิกกับเขาแล้ว ก็เลยตัดสินใจกลับมาอยู่ไทยแล้วก็จะไม่กลับไปดูไบอีก…เพราะฉะนั้นแกก็อย่าไปถามอะไรพี่แกเรื่องนี้ล่ะ…”เพ็ญพักตร์พูดบอกไปตามตรง เพราะเธอไม่อยากจะให้กวินตาคิดมากอีก“เลิกกันแล
หลายวันผ่านไปจาซุสก็ถูกครอบครัวของเขาบังคับให้มาดูตัวว่าที่เจ้าสาวของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะตอนนี้งานแต่งงานของเขานั้นได้ถูกกำหนดไว้ให้จัดแต่งในเดือนหน้านี้แล้ว มันจึงทำให้เขานั้นนั่งทำหน้าเซ็งๆอย่างอดไม่ได้ เพราะเขาต้องกล้ำกลืนฝืนทนกับการที่ต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก เขาก็ไม่รู้ว่ามันจะไปรอดได้ยังไงกัน“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยได้ไหมจาซุส แกจะมาทำให้พ่อกับแม่ขายหน้าทางนู้นเขาไม่ได้นะ ถ้าพวกเขามาแกต้องยิ้มแย้มเขาใจไหม” จามีลพูดบอกลูกชายของเขาไปขณะที่นั่งรออีกฝ่ายมาอยุ่ในร้านอาหารหรู“ผมมาตามที่พ่อแม่ต้องการแล้ว ยังจะให้ผมยิ้มแย้มอะไรอีกครับ ผมไม่ได้ยินดีที่จะได้แต่งงานสักหน่อย…”จาซุสพูดบอกไปตรงๆอย่างอดไม่ได้ เพราะใครจะไปยิ้มออกกันถูกบังคับให้แต่งงานขนาดนี้“ไม่ยินดีแต่ลูกก็ต้องแต่ง แม่ไม่ยอมให้ลูกไปคว้าเอาผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาเป็นเมียหรอกนะ ลูกสะใภ้ของตระกูลเราจะต้องมีฐานะเหมาะสมกันเท่านั้น แล้วหนูอาย่าน่ะเขาก็ฐานะเหมาะสมกับเรา แถมหน้าตาก็สวยมากเลยด้วย สวยกว่านางบำเรอของลูกซะอีก ” ชามาเอ่ยพูดกับลูกชายของเธอไป เพราะลูกสะใภที่เธอหามาให้ลูกชายน่ะสวยมาก“สวยกว่าแต่ก็ไม่ได้แปลว่าจ