LOGINวันต่อมาหลังจากเกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นที่โรงแรมเยว่หมิงอัน ก็แทบจะไม่มีใครในปักกิ่งที่ไม่รู้เรื่องเลวๆที่เฉินเหม่ยลี่ได้กระทำเอาไว้ แต่ทางหลีเหว่ยขอความช่วยเหลือจากตำรวจให้ข่าวเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงแรมเยว่หมิงอันเมื่อคืน ไม่ให้พูดถึงคดีเก่าที่เขากับลู่หลินถูกวางยาเพราะไม่อยากให้ชื่อเสียงของลู่หลินเสียหาย ซึ่งทางตำรวจเข้าใจพร้อมร่วมมือเป็นอย่างดี
“พวกหลานนี่ทำเรื่องอันตรายลับหลังพวกเราแบบนี้ไม่ดีเลยจริงๆนะ” ปู่เมิ่งเอ่ยขึ้น ในขณะที่วันนี้ได้เชิญครอบครัวสกุลเสิ่นมาทานข้าวเย็นด้วยกันที่บ้านสกุลเมิ่งอย่างพร้อมหน้า
“นั่นสิ มันอันตรายมากเลยนะเสี่ยวเหว่ย โชคดีที่หลินเอ๋อไม่เป็นอะไร” คุณนายเมิ่งกล่าวเสริมขึ้นอีกคน
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณอาเมิ่ง พี่ไฉ่หง ตอนนี้หลินเอ๋อก็สบายดีทุกอย่างไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียหายอะไรเลยนี่คะ” คุณนายเสิ่นแม่ของลู่หลินกล่าวขึ้น
“นั่นสิครับ อีกอย่างผมเชื่อใจเสี่ยวเหว่ย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาย่อมปกป้องคุ้มครองลู่หลินได้เป็นอย่างดีแน่” นายท่านเสิ่นกล่าวเสริมอีกคน ส่วนลี่เฉินที่นั่งอยู่ด้ว
หลังจากฮันนีมูนที่ยูนนาน ท่องเที่ยวไปในเมืองสวยๆจนพอใจราวสองอาทิตย์ก็ถึงเวลาที่หลีเหว่ยกับลู่หลินจะกลับมาหาลูกชายสองคนซึ่งผลัดกันอยู่ที่บ้านสกุลเมิ่งและบ้านสกุลเสิ่นคนละหนึ่งสัปดาห์แล้ว ลี่หยางทำหน้าที่ไปรับห่าวหรานและหลิวเหว่ยกลับจากบ้านสกุลเสิ่นเพราะก่อนหน้านี้พวกเขาไปพักที่บ้านสกุลเมิ่งมาแล้ว เมื่อกลับมาถึงบ้านริมน้ำของตัวเองก็พบว่าพ่อกับแม่ของพวกเขากลับมาจากการฮันนีมูนพร้อมทำมื้อเย็นให้ทุกคนรวมทั้งลี่หยางรออยู่ก่อนแล้ว “สวัสดีครับพ่อ สวัสดีครับแม่ เป็นยังไงบ้างไปฮันนีมูนรอบนี้สนุกไหมครับ” หลิวเหว่ยเอ่ยถามลู่หลินกับหลีเหว่ย “ก็สนุกดีนะลูกเอาไว้ ถ้าลูกๆอยากไปคราวหน้ารอช่วงโรงเรียนปิดเทอมแล้วเราค่อยไปด้วยกันนะทั้งครอบครัวเลยนะ”หลีเหว่ยตอบบุตรชาย “แล้
หลีเหว่ยขับรถพาลู่หลินออกมาเที่ยวชมความงดงามทางธรรมชาติของหุบเขาและสายน้ำนีจูที่พาดผ่านเมืองซวนเหว่ย ก่อนจะตรงไปยังร้านอาหารท้องถิ่นเนื่องจากเลยเวลาเที่ยงมาเล็กน้อยแล้ว หลีเหวยพาลู่หลินมายังร้านอาหารท้องถิ่นร้านหนึ่งที่เขาค้นหาข้อมูลเจอว่าเป็นร้านอาหารขึ้นชื่อเป็นที่นิยมของคนในท้องถิ่นที่มีรสชาติในแบบดั้งเดิมซึ่งเขาคิดว่าภรรยาต้องชอบแน่ “ร้านนี้ดูเก่าแก่เป็นแบบท้องถิ่นขนานแท้เลยนะคะ”ลู่หลินเอ่ย พร้อมกับมองดูสภาพแวดล้อมโดยรวม ซึ่งเหมือนมาทานอาหารที่บ้านเพื่อนยังไงอย่างงั้น บรรยากาศของร้านเหมือนเป็นบ้านไม้หลังหนึ่งที่ค่อนข้างกว้างขวางกว่าบ้านทั่วไปที่ใช้อยู่อาศัยมี โต๊ะไม้ให้นั่งอยู่ราวสิบโต๊ะด้วยกันและส่วนใหญ่ก็เต็มหมด โชคดีที่มีคนเรียกเก็บเงินพอดีลู่หลินกับหลีเหว่ยจึงมีที่นั่ง “ที่รักเดี๋ยวผมจะสั่งอาหารให้คุณเอง ระหว่างนี้ทานของว่างรอง
หลังจากลู่หลินแต่งงานกับหลีเหว่ยมาได้กว่า 8 ปี ตอนนี้เธอก็มีบุตรชายให้เขาด้วยกัน 2 คนแล้ว คนโตอายุราว 8 ขวบชื่อเมิ่งห่าวหรานเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายปีที่ 1 ส่วนคนเล็กอายุ 7 ขวบชื่อเมิ่งหลิวเหว่ยเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้นปีที่ 3 ซึ่งนับว่าโตมากพอที่จะปล่อยให้พ่อกับแม่ออกไปฮันนีมูนรอบที่ห้าที่หกกันได้โดยที่ไม่ต้องห่วงกังวลมากนักดังนั้นครั้งนี้หลีเหว่ยจึงอยากจะพาลู่หลินไปเยือนทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ มณฑลยูนนานที่ลู่หลินสนใจอยากจะไปดูวิธีการทำแฮมยูนนานและพวกการถนอมอาหารแบบดั้งเดิมมานานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเยือนเสียที เนื่องจากหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบของตนเองรวมทั้งหลีเหว่ยด้วยโดยเฉพาะช่วงที่มีบุตรชาย 2 คนในระยะแรกที่เรียกได้ว่ามีบุตรหัวปีท้ายปีลู่หลินใช้เวลาส่วนใหญ่ในการดูแลบุตรชายด้วยตัวเอง ทุ่มเทความรักแรงกายแรงใจทั้งหมด แม้นจะมีพี่เลี้ยงมาคอยช่วยเลี้ยงดูอยู่แล้ว แต่ลู่หลินก็ยังคงดูแลบุตรชายอย่างใกล้ชิดอยู่ดี ทำให้ไม่สามารถตัดใจไปที่ไหนไกลๆได้ แต่นั่นก็เป็นความสุขและความเต็มใจที่เธอยินดีทำยิ่งนักยูนนานอยู่ห่างจากปักกิ่งราวสองพันกิโลเมตร
วันต่อมาหลังจากเกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นที่โรงแรมเยว่หมิงอัน ก็แทบจะไม่มีใครในปักกิ่งที่ไม่รู้เรื่องเลวๆที่เฉินเหม่ยลี่ได้กระทำเอาไว้ แต่ทางหลีเหว่ยขอความช่วยเหลือจากตำรวจให้ข่าวเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงแรมเยว่หมิงอันเมื่อคืน ไม่ให้พูดถึงคดีเก่าที่เขากับลู่หลินถูกวางยาเพราะไม่อยากให้ชื่อเสียงของลู่หลินเสียหาย ซึ่งทางตำรวจเข้าใจพร้อมร่วมมือเป็นอย่างดี“พวกหลานนี่ทำเรื่องอันตรายลับหลังพวกเราแบบนี้ไม่ดีเลยจริงๆนะ” ปู่เมิ่งเอ่ยขึ้น ในขณะที่วันนี้ได้เชิญครอบครัวสกุลเสิ่นมาทานข้าวเย็นด้วยกันที่บ้านสกุลเมิ่งอย่างพร้อมหน้า“นั่นสิ มันอันตรายมากเลยนะเสี่ยวเหว่ย โชคดีที่หลินเอ๋อไม่เป็นอะไร” คุณนายเมิ่งกล่าวเสริมขึ้นอีกคน“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณอาเมิ่ง พี่ไฉ่หง ตอนนี้หลินเอ๋อก็สบายดีทุกอย่างไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียหายอะไรเลยนี่คะ” คุณนายเสิ่นแม่ของลู่หลินกล่าวขึ้น“นั่นสิครับ อีกอย่างผมเชื่อใจเสี่ยวเหว่ย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาย่อมปกป้องคุ้มครองลู่หลินได้เป็นอย่างดีแน่” นายท่านเสิ่นกล่าวเสริมอีกคน ส่วนลี่เฉินที่นั่งอยู่ด้ว
พนักงานเสิร์ฟพาร์ทไทม์ที่เหม่ยลี่ซื้อตัวเอาไว้ นำแก้วเครื่องดื่มผสมยาชั่วร้ายที่เหม่ยลี่มอบให้เดินตรงไปที่ลู่หลินทันทีที่ได้รับสัญญาณจากเธอ“คุณผู้หญิงคะ รับเครื่องดื่มไหมคะ” พนักงานสาวถาม ในขณะเดียวกันบนถาดก็มีน้ำส้มเหลืออยู่เพียงแก้วเดียวเท่านั้น“ขอบใจจ้ะ” ลู่หลินกล่าวขอบคุณแล้วก็ยกแก้วน้ำส้มมาถือเอาไว้ในมือ ซึ่งเมื่อเหม่ยลี่เห็นแล้วก็ยิ้มด้วยความยินดีที่เหยื่อตกหลุมพรางเธออีกครั้ง‘ครั้งนี้ฉันไม่ปล่อยแกไปแน่นังลู่หลิน’ เหม่ยลี่คิดพร้อมยิ้มอย่างร้ายกาจหลังลู่หลินรับเครื่องดื่มมาแล้วก็หันหลังกลับไปสนใจขนมตรงหน้าต่อก่อนจะยกแก้วน้ำส้มขึ้นมาจิบนิดหนึ่ง ซึ่งเหม่ยลี่เห็นแล้วก็อารมณ์ดียิ่งนัก จากนั้นก็ส่งสัญญาณให้สาวเสิร์ฟคนเดิมคอยจับตาลู่หลินเอาไว้ ส่วนเธอจะหาทางหลอกล่อหลีเหว่ยไปทางอื่นไม่นานนักลู่หลินก็เริ่มมีอาการมึน รู้สึกง่วงและอ่อนเพลียขึ้นมาทันที สาวเสิร์ฟคนเดิมรีบตรงเข้าไปช่วยพยุงเธอเอาไว้ ส่วนเหม่ยลี่ก็ทำทีเข้าไปดึงความสนใจของหลีเหว่ย โดยเอาเรื่องงานโครงการก่อสร้างห้างสรรพสินค้าใหม่ของสกุลเฉินมาอ้าง ทำให้ค
ลู่หลินยื่นมือไปจับหน้าหลีเหว่ยซึ่งเธอยอมรับเป็นคนรักแล้วด้วยความเต็มใจ จากการกระทำที่เขาแสดงออกมาให้เห็นว่าเขาให้ความสำคัญและรักเธอมากแค่ไหน ช่วงนี้หลีเหว่ยเองก็มีโปรเจคงานก่อสร้างของรัฐบาลที่ต้องจัดการ ทำให้เขาค่อนข้างยุ่งและเหนื่อยไม่น้อย แต่เขาก็ยังแบ่งเวลามาอยู่กับเธอ บางครั้งบางคราวยังทำซุปบำรุงร่างกายมาส่งให้เธอถึงภัตตาคารเสิ่นอันด้วยตัวเอง ทั้งๆที่ภัตตาคารหรือบ้านของเธอไม่ได้ขาดของบำรุงพวกนี้เลยสักนิด“หลีเหว่ย ขอบคุณนะคะที่แสดงให้ฉันเห็นว่าคุณมีความจริงใจต่อฉัน แต่ฉันเองก็อยากให้คุณคิดห่วงตัวเองบ้าง อย่าได้ฝืนร่างกายจนเกินไป ช่วงนี้คุณมีโปรเจคใหญ่ที่ต้องดูแล ไม่จำเป็นต้องเอาใจใส่มาพบฉันทุกวันก็ได้ค่ะ” ลู่หลินกล่าวด้วยความสงสารคนตัวโต“ฉันไม่ได้ฝืนอะไรเสียหน่อย แล้วที่ฉันมาเจอกับเธอทุกวันเป็นความต้องการจากใจของฉันล้วนๆ การได้อยู่กับเธอเป็นช่วงเวลาพักผ่อนที่ดีที่สุดของฉันเลยล่ะ”“ปากหวานจริงๆนะคะ”“งั้นต้องลองชิมดูหน่อยแล้ว” พูดจบหลีเหว่ยก็เอื้อมมือมาเชยคางเธอขึ้นมาก่อนจะกดริมฝีปากหยักหนาลงไปบนกลีบปาก







