“เอ่อ..พ่อหนุ่มทานหมดนี่ก็ต้องจ่ายเงินนะ”
หญิงชราก็เพิ่งเคยเห็นว่าคนที่ทานไวทานเยอะก็วันนี้นี่แหละอย่างมากสองถึงสามห่อก็อิ่มแล้วสำหรับการทานข้าวเหนียวของคนทั่วไปจนลืมบอกชายหนุ่มไปว่าถ้าจะชิมเยอะขนาดนี้ก็ต้องจ่ายเงินแล้วเพราะหญิงชราก็มองไม่ออกว่าชายหนุ่มในชุดคนป่วยจะมีเงินจ่ายไหมเลยรีบพูดขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้
“เงินเหรอครับ..เอ่อ..ผม”
ชายหนุ่มหยุดทานพร้อมทำหน้าครุ่นคิดถึงเรื่องเงินเพราะตั้งแต่เขาตื่นขึ้นมาก็มีแต่ตัวกับเสื้อผ้าในชุดผู้ป่วยเท่านั้นเอง
“เอ่อ..คุณ”
หลังจากที่หญิงสาวจัดการธุระของตัวเองเรียบร้อยแล้วก็รีบเดินออกมาหาชายหนุ่มที่สวนหย่อมทันทีเธอเห็นว่าเขากำลังนั่งอยู่กับหญิงชราคนหนึ่งและเขาก็กำลังทานอะไรสักอย่างอย่างเอร็ดอร่อยอีกด้วยเธอจึงต้องรีบเดินเข้าไปหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็วเพราะตอนนี้ยังให้เขาทานอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้และตัวเขาเองก็คงยังไม่รู้ตัวด้วย
“แม่หนูเป็นญาติของพ่อหนุ่มคนนี้ใช่ไหม...พอดีเขาทานไปข้าวเหนียวยายไปหลายห่อเลยจะ”
หญิงชราทำหน้าเหมือนเกรงใจหญิงสาวเพราะมันเหมือนเธอมาหลอกขายของคนป่วยเสียหลายห่อแต่อันที่จริงหญิงชราคิดว่าชายหนุ่มคงจะทานเพียงแค่ห่อสองห่อเท่านั้นเอง
“เอ่อ...เท่าไรคะยาย..”
“50 บาทจะ”
“นี่ค่ะ”
หญิงสาวจำต้องใช้มือจับมือของชายหนุ่มที่กำลังจะเอาข้าวเหนียวเข้าปากเอาไว้พร้อมกับหันมายิ้มให้กับหญิงชราพร้อมสอบถามว่าของที่ชายหนุ่มทานไปแล้วมันเป็นราคาเท่าไรพร้อมจ่ายเงินให้หญิงชราทันทีเมื่อหญิงชราได้รับเงินแล้วเธอจึงเดินออกไปจากตรงนั้นและเดินไปขายที่อื่นทันที
“คุณผมยังอยากทานอีก..”
ชายหนุ่มรู้สึกงงที่จู่ๆหญิงสาวมาจับมือของเขาเอาไว้ในขณะที่เขากำลังจะนำอาหารเข้าปากเขาจึงร้องทักเธอว่าอยากทานอีกเพราะตอนนี้เขายังไม่รู้สึกอิ่มเลยด้วยซ้ำ
“พอเลยคุณ..คุณพึ่งฟื้นขึ้นมาตอนนี้คุณยังต้องทานอาหารอ่อนๆอยู่นะ”
หญิงสาวนั่งลงที่ข้างๆชายหนุ่มพร้อมหันหน้ามามองเขาด้วยสายตาที่คาดโทษเพราะที่เขาทานข้าวเหนียวไปสี่ห้าห่อมันอาจจะทำให้เขามีอาการท้องอืดไข้ขึ้นเป็นได้
“เฮ้อ!!!...เดี๋ยวฉันพาคุณกลับไปนอนพักดีกว่า”
หญิงสาวเดินลากเสานำเกลือของชายหนุ่มเช่นเดิมพร้อมพาเขากลับมานอนพักที่เตียงผู้ป่วยขืนอยู่นานกว่านี้เธอคงได้โดนหมอตำหนิเอาแน่ว่าพาคนป่วยออกมาแล้วไม่ดูแลให้ดีไปทานของสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้
“ทานน้ำก่อนคุณ...เอามือมานี่”
เมื่อหญิงสาวพาชายหนุ่มมานอนพักที่เตียงเรียบร้อยแล้วเธอจึงหยิบแก้วนำพร้อมจับหลอดให้ชายหนุ่มดื่มเพราะเมื่อครู่เขายังไม่ได้ทานน้ำพร้อมขอมือของเขาที่เปื้อนเพราะจับอาหารทานอยู่เมื่อครู่มาเช็ดอย่างเบามือ
“คุณชื่ออะไรเหรอ..ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย”
ชายหนุ่มถามหญิงสาวด้วยสีหน้าสงสัยเพราะอยู่คุยกันตั้งนานสองนานเขายังไม่รู้จักชื่อเธอเลย
“จริงสิ...ฉันก็ลืมบอกคุณไปเลย..ฉันชื่อน้ำเมยแล้วคุณล่ะชื่ออะไร”
“เอ่อ...ผมก็ไม่รู้”
หญิงสาวลืมไปเสียสนิทว่ายังไม่ได้บอกชื่อของเธอให้เขาได้รู้จักเธอเลยแนะนำตัวเองพร้อมกับถามชายหนุ่มว่าเขาชื่ออะไรอันที่จริงในใจเธอก็รู้อยู่ว่าเขาให้คำตอบเธอไม่ด้แต่เธอแค่อยากจะลองแทรกคำถามไปเนียนๆเท่านั้นเผื่อว่าเขาจะตอบได้แต่หญิงสาวก็ได้คำตอบมาดังเดิมว่าไม่รู้
“เฮ้อ...ฉันว่าแล้ว...เอาแบบนี้นะฉันจะตั้งชื่อให้คุณเองโอเคไหม”
“อืมมม...ก็ดีเหมือนกันว่าแต่คุณจะให้ผมชื่ออะไร”
หญิงสาวทำท่าครุ่นคิดว่าเธอเองจะตั้งชื่อให้ชายหนุ่มว่าอะไรดีชายหนุ่มเองก็เห็นว่าตอนนี้เขายังจำชื่อตนเองไม่ได้ให้หญิงสาวเป็นคนตั้งให้ใหม่ก็ดีเหมือนกัน
“เมื่อกี้คุณชอบทานข้าวเหนียวหมูหยองมากใช่ไหม”
“ใช่คุณ...มันอร่อยมากตอนนี้ผมยังอยากทานอยู่เลย”
ชายหนุ่มทำสีหน้ามีความหวังเมื่อได้ยินหญิงสาวพูดถึงข้าวเหนียวหมูหยอง
“ไม่ต้องทำหน้าดีใจหรอกคุณฉันไม่ได้จะให้คุณทาน”
“อ้าว..แล้วคุณจะถามผมทำไม”
ชายหนุ่มมีสีหน้าที่ผิดหวังทันทีเมื่อได้ยินที่หญิงสาวบอกว่าไม่ได้ให้เขาทานแต่เธอกลับมาพูดถึงของที่เขาชอบเนี่ยนะ
“ถ้าคุณชอบทานข้าวเหนียวหมูหยอง...งั้นฉันเรียกคุณว่าหมูหยองดีไหมเข้ากับทรงผมคุณดีหัวหยองเหมือนกันเลย”
หญิงสาวจ้องหน้าของชายหนุ่มที่มองเธอตาแป๋วอยู่อย่างสงสัย
“โอเคไหมคุณ...หมูหยอง”
หญิงสาวฉีกยิ้มพร้อมตั้งคำถามให้ชายหนุ่มภาวนาในใจให้เขาโอเคกับเธอด้วยเพราะเธอเห็นว่าชื่อนี้มันเข้ากับเขาที่สุดแล้วชอบทานข้าวเหนียวหมูหยองแถมหัวยังหยิกหยองเหมือนกันอีกด้วย
“แต่ผมชอบข้าวเหนียวด้วยคุณไม่ต้องเรียกผมว่าข้าวเหนียวหมูหยองเหรอ”
ชายหนุ่มคิดว่าที่จริงเขาชอบทั้งข้าวเหนียวและหมูหยองซึ่งถ้าหญิงสาวจะเรียกชื่อเขาตามของที่เขาชอบก็ต้องเรียกว่าข้าวเหนียวหมูหยองสิถึงจะถูก
“ฮ่าๆๆ..มันยาวไปคุณ....เอาแค่หมูหยองพอเชื่อฉัน”
หญิงสาวถึงกับกลั้นขำไม่อยู่เลยจริงๆนี่ถ้าเธอเห็นว่าชายหนุ่มเป็นปกติดีเธอก็คงจะคิดว่าเขาคงจะกวนปรสาทเธอเล่นเป็นแน่แต่ตอนนี้เธอคิดว่าที่เขาพูดมาเมื่อครู่เขาน่าจะคิดจริง
“อ๋อ..อืมมเอางั้นก็ได้”
ชายหนุ่มพยักหน้าตอบหญิงสาวเป็นอันว่าเขาเข้าใจและโอเคกับชื่อนี้แล้ว
3วันต่อมา
“นี่คุณหมอให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วนะ”
เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆที่ชายหนุ่มนอนอยู่ที่โรงพยาบาลตอนนี้อาการของชายหนุ่มดีขึ้นอย่างมากแผลก็เริ่มแห้งดีแล้วก่อนกลับหมอได้ทำการตัดไหมแผลเย็บให้ชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่หญิงสาวรอรับยาพร้อมเคลียค่าใช้จ่ายทั้งหมดอย่างเดียวก็กลับได้
“อืมมมม...ผมยังไม่รู้เลยว่าออกจากโรงพยาบาลไปแล้วผมจะไปอยู่ที่ไหน”
ชายหนุ่มเปลี่ยนชุดที่หญิงสาวเตรียมมาให้เขาเรียบร้อยพร้อมนั่งทำหน้าเศร้าอยู่ที่เตียงเพราะตอนนี้เขายังนึกอะไรไม่ออกเกี่ยวกับตัวของเขาเองเลยแล้วถ้าหมอให้เขาออกจากโรงพยาบาลแล้วเขาจะไปอยู่ที่ไหนกัน
“ไม่ต้องทำหน้าเศร้าหรอกคุณ...ไหนๆฉันก็ช่วยคุณมาจนถึงตอนนี้แล้วฉันให้คุณพักอยู่กับฉันก่อนก็ได้แล้วถ้าเผื่อคุณจำได้ว่าคุณบ้านอยู่ที่ไหนหรือว่าพอจะมีญาติที่ไหนคุณก็มาบอกกับฉันก็แล้วกัน”
หญิงสาวเห็นสีหน้าของชายหนุ่มก็พอจะเดาออกว่าตอนนี้เขาคิดอะไรอยู่สีหน้าเขาบ่งบอกว่ากำลังเหมือนคนหมดหนทางเพราะว่าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองเลยเธอจึงพูดเพื่อให้เขาหมดกังวลว่าไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่อยู่เพราะเธอช่วยเขามาถึงขนาดนี้แล้วยังไงก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุด
“แอร๊...แอ้...”เด็กหญิงที่นอนกลิ้งคว่ำกลิ้งหงายอยู่ในเปลสีชมพูส่งเสียงทักทายคนมาใหม่ราวกับอยากที่จะร่วมวงสนธนาด้วย“ว่าไงจ้ะสาวน้อย...อาซื้อชุดสวยมาฝากเพียบเลยนะคะ...เราไปดูชุดสวยกันดีกว่าเนอะ”“แอร๊...อร้า..คิกๆๆ”ดาวลดาอุ้มหลานสาวของเธอออกมาจากเปลเด็กพร้อมไปนั่งที่โซฟาเล่นกันกับหลานสองคนอย่างไม่สนใจใครแล้วในตอนนี้เพราะว่าเธอคิดถึงมาก“น้องดาวท่าทางน่าจะเลี้ยงเด็กเป็นแล้วนะ...นายไม่คิดจะมีลูกบ้างเหรอ”มาคัสเห็นว่าทั้งสองแต่งงานกันมาตั้งนานแล้วก็ก็ไม่ยักจะเห็นมีลูกเสียทีและเขาก็เห็นว่าดาวลดาเองก็มีความพร้อมที่จะเป็นแม่คนมากแล้วด้วย“ใครว่าไม่อยากมีล่ะแต่ยังไม่มามากกว่าฉันเองให้หมอตรวจดูแล้วนะหมอบอกว่าร่างกายของดาวยังอ่อนแอคงต้องรอให้เธอแข็งแรงอีกนิดตอนนี้ชั้นก็พยายามบำรุงเธอทุกอย่างเลย”แดเนียลตอบมาคัสไปด้วยแววตาที่เศร้าหมองแต่เขาก็ยังพยายามฝืนยิ้มเขาเองอยากจะมีลูกใจจะขาดแต่ก็ต้องดูสุขภาพภรรยาของเขาด้วยตอนนี้เขาคิดว่าถ้าภรรยาเขาแข็งแรงเมื่อไรลุกก็คงจะมาเองตอนนี้เขาก็พยายามบำรุงหญิงสาวสุดขีด“จริงสิ...น้องดาวป่วยบ่อยตั้งแต่เด็กๆแล้วยังไงฉันก็เอาใจช่วยนายนะฉันไปอาบน้ำก่อนเชิญนายตามสบาย
“เดี๋ยวพ่อจะดูฤกษ์แต่งที่เร็วที่สุดให้แล้วกันนะเรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วง”“ครับคุณพ่อ”“หืมม...ฤกษ์แต่ง”ดาวลดาถึงกับทำหน้างงที่จู่ๆทั้งสองดูเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเสียอย่างนั้นตอนนี้เธอรู้สึกสับสนไปหมดแล้วอันที่จริงดนัยเองก็รู้สึกโกรธมากในครั้งแรกที่รู้เรื่องแต่พอมองเรื่องราวอย่างที่เขาเคยอาบน้ำร้อนมาก่อนเขาถือว่าชายหนุ่มมีความรับผิดชอบและใจถึงมากเลยทีเดียวที่กล้าเข้ามาพูดต่อหน้าเขาอย่างไม่ยำเกรงและที่เขายอมยกลูกสาวสุดที่รักให้ชายหนุ่มไปง่ายๆไม่ใช่เพราะว่าทั้งคู่เสียกันไปแล้วแต่เป็นเพราะว่าเขามองออกว่าลูกสาวของเขามีความสุขและยิ้มด้วยหัวใจเมื่ออยู่กับชายหนุ่มและเขารู้ดีว่าชายหนุ่มทำเรื่องแบบนี้ไปเพราะความเข้าใจผิดและยอมรับผิดอย่างลูกผู้ชายอีกอย่างเขาก็พร้อมที่จะยกลูกสาวของเขาให้ก็เพราะว่าเขารู้ว่าถ้าลูกสาวของเขาแต่งงานกับชายหนุ่มไปชีวิตของเธอไม่ลำบากแน่นอนเพราะชื่อเสียงของชายหนุ่มในแวดวงธุรกิจถือว่ารู้จักกันดีในฐานะนักธุรกิจหนุ่มที่เก่งและโปรไฟล์ดีอยู่ไม่น้อยคนเป็นพ่อออย่างเขาคงไม่ต้องห่วงอะไรมาก“ร้ายนักนะพี่แดนที่ทำให้พ่อดาวใจอ่อนได้”ดาวลดาอดแซวชายหนุ่มไม่ได้ที่ไม่รู้เข้าไปคุยกับ
“ถ้าดาวเดาไม่ผิดน่าจะเป็นไดอารีของเบลใช่ไหมคะ”ดาวลดาจำได้ว่าเบลลล่าจะชอบเขียนไดอารี่แทบจะทุกวันแถมยังมีหลายๆเล่มที่เป็นสีเดียวกันรูปแบบเดียวกันอีกด้วยเธอเห็นไดอารี่ในมือของชายหนุ่มมันทำให้เธอจำได้ทันทีว่าน่าจะเป็นของเพื่อนสาวเธอ“อืมม.เล่มนี้.เบลเขียนเกี่ยวกับตัวเธอและก็เพื่อนรักของเธอไว้อย่างละเอียดเลยหละ”แดเนียลกระซิบข้างหูของหญิงสาวว่ามันถูกต้องแบบที่เธอคิดและในไดอารี่ของน้องสาวของเขามันก็ทำให้เขาได้รู้เรื่องราวอะไรมากมายที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนอีกด้วย“อืมม..ละเอียด..เลย..เหรอคะ”ดาวลดารู้สึกหน้าร้อนผ่าวถ้าในไดอารี่มันเขียนละเอียดแสดงว่าตอนนี้ชายหนุ่มก็ต้องรู้ความลับของเธอแล้วล่ะสิ“เก่งนะเราปิดพี่ได้ตั้งนาน...แถมของขวัญวันวาเลนไทน์กับวันเกิดที่ส่งมาให้พี่ทุกปีก็เป็นฝีมือเราเองสินะ”แดเนียลเองสงสัยอยู่ตั้งนานว่าใครจะรู้วันเกิดของเขานอกเสียจากคนในครอบครัววันนี้มันทำให้เขารู้แล้วว่าคนที่อยู่เบื้องหลังนั้นเป็นใครเขายอมรับในหัวใจของหญิงสาวจริงๆที่ปกปิดความรู้สึกของตัวเองได้นานอย่างนี้ นี่ถ้าเกิดว่าหญิงสาวยอมบอกความในใจกับเขาตั้งแต่ตอนนั้นป่านี้เขาอาจจะขอเธอแต่งงานไปแล้วก็ได้เพราะว่าในต
“ปล่อยดาวเดี๋ยวนี้พี่แดนดาวจะกลับห้อง”ดาวลดาพยายามที่จะออกไปจากอ้อมกอดของชายหนุ่มเพราะเธอไม่ค่อยชอบสถานการณ์แบบนี้สักเท่าไร“ขอพี่อยู่แบบนี้สักพักได้ไหม...วันนี้พี่ไปจัดการกับคนที่มันทำร้ายเบลมา...พี่เกลียดมัน”แดเนียลรู้สึกโหยหาอ้อมกอดของหญิงสาวอย่างมากตอนนี้เขาอยากเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้เอได้ฟังว่าวันนี้เขาไปเจออะไรมาและเขารู้สึกอย่างไรเขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอยากที่จะคุยกับเธอแต่ที่เขารู้คือเขารู้สึกสบายใจเมื่อเขาได้กลับมาเห็นใบหน้าหวานๆของเธอรอเขาอยู่ที่บ้านทุกวัน“ดาวจะบอกพี่แดนเป็นครั้งสุดท้ายนะคะ...ว่าการแก้แค้นมันไม่ส่งผลดีต่อฝ่ายใดเลยสักนิด”ดาวลดาถึงกับถอนหายใจในความเจ้าคิดเจ้าแค้นของชายหนุ่มเธอรู้ว่าเขาโกรธที่มีคนทำกับน้องสาวของเขาแบบนั้นอันที่จริงก็ไม่ได้เป็นเพราะคนที่ทำร้ายเบลล่าเพียงฝ่ายเดียวแต่มันรวมกับเบลล่าหาทางออกโดยที่จะจบแบบนี้อีกด้วยที่จริงแล้วเธอเองก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดของเบลล่าที่เลือกทางนี้เพราะเธอคิดว่าถ้าหากเพื่อนสาวของเธอยอมสู้อีกสักนิดเธอว่าชีวิตของเพื่อนเธอตอนนี้คงจะมีแต่รอยยิ้มแน่นอนเพราะว่าเพื่อนสาวของเธอมีคนที่รักรออยู่มากขนาดนี้คนที่รักเธอจะทำให้เธอ
“ยอมออกมาแล้วเหรอวะไอ้หมาลอบกัด”เมื่อแม็คคาเอลเห็นแดเนียลเดินออกมาจากห้องได้เขาก็ส่งเสียงด่าทอชายหนนุ่มอย่างเสียงดังเพราะตอนนี้เขาโมโหสุดขีดที่เสียรู้ให้กับแดเนียลจนได้“ฉันไม่ใช่หมา...และฉันก็ไม่เคยทำร้ายใครก่อน...เพราะแกคนเดียวที่ทำให้น้องสาวฉันต้องตาย”แดเนียลตอบกลับอันธพาลตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นเพราะเขาไม่อยากให้เขาเกิดอาการโมโหขึ้นมาเพราะเขาอาจจะพลั้งมือฆ่าคนได้เขาไม่อยากให้มือของเขาต้องแปดเปื้อนเลือดคนสกปรกอย่างแม็คคาเอล“น้องแกมันอยากโง่มาให้ฉันข่มขืนเองทำไมล่ะ”แม็คคาเอลเองยังไม่หยุดที่จะพูดยั่วโมโหอีกฝ่ายเพราะเรื่องนี้ทำให้เขานึกสะใจอยู่ไม่น้อยที่กระตุกต่อมของแดเนียลได้เขาเกลียดแดเนียลที่ทั้งเด่นและดีกว่าเขาไปเสียทุกอย่างแถมตอนนี้เขายิ่งเกลียดเพิ่มขึ้นไปอีกเพราะแดเนียลทำให้เขาหมดตัวเหมือนหมาจนตรอก“หึ้ยยย...ไอ้สารเลว”ปลั้กกแดเนียลถึงขนาดฟิลขาดเมื่อแม็คคาเอลพูดถึงความเลวระยำที่ทำไว้กับน้องสาวของเขาชายหนุ่มพุ่งเข้าไปปล่อยหมัดใส่หน้าฝ่ายตรงข้ามอย่างหนักหน่วงและไม่มีความปราณีปลั้กก“ดีนะที่ฉลาดแล้วโง่อยู่ตั้งนาน”แม็คคาเอลเองก็ต่อยแดเนียลสวนกลับเหมือนกันแล้วก็ยังไม่พ้
“แต่ว่า...”น้ำเมยรู้ว่าเรื่องที่ชายหนุ่มพูดถึงมันคือเรื่องอะไรและเธอก็ไม่คิดจะต่อต้านเขาอีกด้วยแต่เรื่องที่เธอต้องยกมาค้านเขาก็คือตอนนี้เธอยังมีลูกน้อยอยู่ในท้องถ้าเกิดว่าเธอจะยอมตามใจชายหนุ่มมันจะเป็นผลกระทบอะไรต่อลูกในท้องหรือเปล่าเท่านั้นเอง“ไม่เป็นไรถ้าคุณกังวลเรื่องนั้นผมศึกษามาแล้วมันไม่มีผลต่อลูกของเราแน่นอน”มาคัสรู้ว่าสิ่งที่หญิงสาวจะพูดคืออะไรเขาจึงแย่งเธอพูดก่อนเพราะว่าเขารู้วิธีการดีว่าต้องเซฟอย่างไรเพราะเขาพอจะปรึกษาหมอมาบ้างและเขาก็อ่านสาระความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มาเยอะแล้ว“อื้มมมม”มาคัสเห็นว่าหญิงสาวส่งยิ้มให้เขาเป็นการอนุญาตแล้วชายหนุ่มจึงไม่รีรอเขาจู่โจมไปที่ริมฝีปากของเธออย่างหิวโหยจูบที่ดูดดื่มของเขาปลุกอารมณ์ของหญิงสาวได้ดียิ่งนักจูบนี้เองที่เขาโหยหามานานวันนี้เขาได้ครอบครองมันอีกครั้งตอนนี้ในหัวใจของเขามันมีความสุขจนแทบจะล้นทะลักออกมาแล้ว“อือ...อืมมมม”มือหนาของเขาค่อยๆสอดแรกเข้าไปบีบสองเต้างามของหญิงสาวที่อวบอิ่มและมีน้ำมีนวลเพราะว่ากำลังจะเป็นแม่คนมันช่างเต็มไม้เต็มมือของเขายิ่งนักชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะเลื่อนริมฝีปากมาขบเม้มดูดคลึงสองเต้างามสลับกันไปมาจนเรี