“อื้ออ อ๊า ครูขา...อ๋อย...ซี๊ดส์...ช่วยจ๋าด้วย จ๋าไม่ไหวแล้วค่ะครู...อือ...ครูพายุ...คุณ...อ๊า...อัค...คี...จ๋าไม่ไหวแล้วค่ะ เสียว เสียวอูยย...” ความเสียวซ่านจากการช่วยตัวเองทำกายสวยบิดส่ายไปมาจนเกือบจะหล่นจากเตียงนอนเลยทีเดียว
กายล่อนจ้อนเปลือยเปล่าราวกับเจ็บปวดทรมาน แต่กระนั้นก็ไม่ยอมถอนนิ้วออก...
นิ้วกลางยังซอยกระทั้นถี่ ๆ เข้าใส่รูสวาทแดงเรื่อ เสียดสีซ้ำ ๆ ก่อนจะเกี่ยวงัดปุ่มจีสปอร์ตอย่างรุนแรงจนกายสวยสั่นระริก กดเกร็งไปทั้งตัว
“อ๊า...อ๊า...” เธอบิดแอ่นช่วงกลางลำตัวราวกับเจ็บปวดเหลือแสน ขณะน้ำสวาทฉีดพล่านออกมาราวกับฉี่แตก “โอ๊วว...ซี๊ดส์”
ใบหน้าสวยเหยเก ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น หายใจแรงจนอกสะท้อนราวกับเหน็ดเหนื่อยสาหัส
“อืมมม...” เธอทิ้งตัวนอนแผ่เพื่อผ่อนคลายอารมณ์กระสันซ่าน ราวห้านาทีก็ลุกเข้าห้องน้ำ เพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียนในเช้าวันนี้
ที่ห้องเรียน...
แม้จะไม่สนิทกันสักเท่าไหร่ แต่วันนี้เธอเดินไปนั่งลงใกล้ ๆ กับหลานสาวของครูพายุ เพื่อจะสอบถามถึงพี่ชายฝาแฝดอีกคนของเขา
“เราไปสมัครเรียนเทควันโดที่โรงเรียนของลุงเก๋มาล่ะ เรียนสนุกมากเลย ลุงเก๋สอนดีมาก”
“จริงเหรอ” เกดลดาตื่นเต้นไปด้วย “บอกรึเปล่าว่าเป็นเพื่อนเก๋ ลุงจะได้ให้ส่วนลด”
“ไม่เป็นไรหรอก เราไม่อยากใช้เส้น ว่าแต่ ครูพายุมีฝาแฝดด้วยใช่มั้ย”
“ใช่ ลุงพายุมีฝาแฝด จ๋าเคยเจอเหรอ”
“เจอครั้งหนึ่งที่โรงเรียน หน้าตาเหมือนกันมากเลยนะ แยกแทบไม่ออกเลย”
“อืม เหมือนมาก แต่นิสัยต่างกันอยู่นะ ลุงพายุเป็นคนใจเย็น แต่ลุงอัคคีเป็นคนใจร้อน”
เธอเชื่อเลยล่ะ...คิดว่านอกจากจะใจร้อนแล้ว เขายังหื่นขนาดหนักอีกด้วย ไม่อย่างนั้น คงไม่กระโจนใส่เธอแบบไม่ยั้ง ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเธอเข้าใจผิด
“ลุงอัคคีของเก๋เขาทำงานอะไรเหรอ”
“เป็นผู้จัดการผับน่ะ”
“อ้อ” เธออยากจะถามต่อว่าเขาแต่งงานหรือยัง แต่ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวเพื่อนสงสัยเอาได้ว่าทำไมเธอถึงสนใจลุงอัคคีซึ่งไม่ควรมีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอเลย !!!
ขึ้นครู...
การมาโรงเรียนเทควันโดในครั้งที่ 4 ของเธอ มันเป็นอะไรที่...ตื่นเต้นแทบบ้า!
อารมณ์ความรู้สึกของคู่รักที่มาเจอกัน หลังจากมีเซ็กส์ครั้งแรกกัน มันคงประมาณนี้สินะ
เอาจริง...ระหว่างเรียนฝึกเทควันโด ที่มีนักเรียนมากกว่าสิบคนร่วมชั้น แต่เธอกลับรู้สึกเหมือนมีแค่เธอกับครูพายุเพียงสองคนเท่านั้น
แต่กระนั้นก็ไม่กล้าจะสบตาเขาเลย เพราะรู้สึกเขินอายและเร่าร้อนระคนกันอย่างบอกไม่ถูก
แม้คนที่เธอมีเซ็กส์ด้วยเมื่อคืนนี้จะไม่ใช่ครูพายุ แต่ทั้งคู่ก็เหมือนกันมากจนแยกกันไม่ออก ราวกับเธอมีเซ็กส์กับครูพายุไปด้วยอย่างไรอย่างนั้น
กระแทกจนหนำใจก็ยกร่างสวยขึ้นตะบันเด้าในท่าลิงอุ้มแตง เดินวนไปจนทั่วห้องจนไปหยุดอยู่หน้าแท่นทำพิธี สะบัดสะเอวเร่งเร้าจนร่างเธอแทบหลุดลอย ความสุขเสียวพุ่งฉีดออกมาอย่างเนืองนอง“โอววว” ทั้งคู่เสร็จเสียวพรั่งพร้อม ปลดปล่อยกำหนัดใคร่อย่างมโหฬาร อะดรีนาลีนหลั่งกระจายในทุกอณูเนื้อ เลือดลมสูบฉีดตั้งแต่หัวจดปลายเท้า“เสร็จมั้ยครับ” เขากระซิบถามเธอพยักหน้า หายใจติดขัด ดังลั่น “โอยยน้าเดชขา หนูเสร็จจนจะหมดแรงแล้ว”“ฮึ! แบบนี้เหรอหมดแรง อย่างหนูคงต่อได้ทั้งคืน”“ตายจริง เวลาเท่าไหร่แล้วคะ”“ทุ่มครึ่งเอง”“แม่จะสงสัยเอาได้ค่ะ ปล่อยหนูก่อนซี”“ไม่อยากปล่อย อยากคาไว้อย่างนี้ทั้งคืน”“หืมม จะไหวหรือคะ”“ไหวซี” เขายิ้มร้าย พาร่างระทวยของเธอมาหย่อนลงบนฟูกแข็ง แล้วนอนคร่อมสวมกอดแนบชิด นัวเนียนวดเน้นสัมผัสดวงตาสองคู่ประสานกันอย่างมีความหมาย หัวใจดิ้นเดือดเต้นหนักด้วยกันทั้งคู่“มีความสุขมั้ย” สัปเหร่อเอ่ยถาม“มีความสุขสิคะ ของน้าทั้งร้อนทั้งแรง ทำหนูร้อนไปทั้งตัวเลย”“อยากทำอีก”“เอาไว้วันหลังนะคะ”“น้าชักติดใจหนู”เธอเองก็เช่นกัน “เอาไว้เราหาเวลามาเจอกันอีกนะคะ เพราะหนูเองก็...”“ชอบล่ะสิ”“ชอบมากเลยค
“ของน้ามีอาคม หนูต้องทนหน่อย ฤทธิ์มันเยอะ ถ้าหนูทนได้ เดี๋ยวของหนูจะแกร่ง ใครได้ทำกับหนูจะติดใจจนถอนตัวไม่ขึ้น”“อื้อ อ๊า...หนูจะทนค่ะ หนูจะทน” ไม่ใช่เพียงเพราะต้องการให้เขาลงคาถามหาเสน่ห์ให้ แต่เพราะความอยากรู้อยากลองและหิวกระหายรสใคร่ต่างหากเล่า ที่ทำให้เธอสู้ไม่ถอย !!!“อู๊วส์”อัตราการเต้นของหัวใจแทบระเบิดอยู่รอมร่อ เมื่อลำเอ็นดุดันกระหน่ำอย่างทารุณโหดเหี้ยมไร้ความปรานีต่อช่องทางสวาท“โอ๊วววส์ อู๊วส์ น้าเดช อื้อ เจ็บ อูยย น้าเดชขา หนูร้อนไปหมดแล้ว ร้อนไปทั้งตัวเลย”ความร้อนราวกับไฟแผดเผา ลามเลียตอดไล้ช่องเนื้อนุ่มจนร้อนฉ่าแดงเรื่อไปทั้งยวงสวาท พิษสงของดุ้นยักษ์ทำให้เธอทรมานทั้งวิญญา ความแกร่งกล้ากำยำขย้ำเขมือบอย่างโหดร้าย ทะลวงกระแทกซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่สนความเจ็บปวดแสบสันต์“อ๊า อ๊า อะ อะ อะ อะ....” เสียงร้องครางระงมของเด็กสาวคงลั่นไปถึงปาช้า เพราะฝูงหมาวัดต่างพากันเห่าหอนโหยหวนยิ่งกว่าฤดูติดสัตว์ หรือเทศกาลผสมพันธุ์ของพวกมันเสียอีก “อื้อ อื้อ อื้อ...”วินาทีนี้...เธอรู้สึกเหมือนร่างกำลังแหลกหรือไม่ก็ถูกฉีกออกเป็นชิ้นเป็นท่อน ความดุเดือดซาดิสม์ของลำเอ็นสัปเหร่อส่งให้กายเธอดีดดิ้นล
เมื่อเขาสั่ง เธอก็ทำตามด้วยความเต็มใจ เปิดอ้าเส้นทางสวาทให้นิ้วกลางของเขายัดแยงสอดใส่เข้ามาในรูสวาทนุ่มนิ่ม แล้วตะบันเด้าเข้าใส่ปุ่มคริสอย่างรุนแรงถี่ยิบ พร้อมกับใช้ปากลิ้นดูดเมียเม็ดกระสันเสียวไปด้วยอย่างเมามมันส์หรรษา“อ๊าน้าเดช อื้อ อูย หนูไม่ไหวแล้ว หนู อื้อ ไม่ไหว โอยเสียว เสียวเม็ด อูยยย...”เม็ดกระสันเสียวที่ถูกปลุกเร้าด้วยลิ้นจนเต้นระริก ร่องรักภายในกระตุกสั่นตอบรับการถาโถมจากปลายนิ้วกลางอย่างสุขสม ก่อนน้ำสวาทจะแตกพลั่กออกมาราวกับฉี่ราดไม่หยุดไม่หย่อน“โอ้วววส์...อู๊วส์ ซี๊ดส์” น้ำสวาทที่ทะลักออกมาทำให้ใบหน้าของสัปเหร่อเปียกฉ่ำไปหมด กลิ่นสาวคาวคลุ้งส่งให้กำหนัดร้อนของเขายิ่งทบทวี“น้ำหนูปริมเยอะจริงๆ”สายตาของเขาบอกว่าไม่เคยเจอของใครขนาดนี้มาก่อนเลย มันเหมือนเขาได้เจอเนื้อคู่อย่างไรอย่างนั้น“หนูบอกแล้วไง”แค่โดนลิ้นน้ำก็ทะลักออกมาจนทำให้ใบหน้าคร้ามเปียกฉ่ำไปหมด“เช็ดหน้าหน่อยสิคะ แล้วก็ เอาผ้าขนหนูมาวางไว้ใกล้มือหน่อยก็ดีค่ะ”“ไม่เป็นไร แบบนี้สิ น้าชอบ” เขายืนขึ้นประกบร่างสาว จัดการถอดเสื้อยืดออกทางศีรษะ กระชากบราเซียหลุดจากสองเต้า ดันร่างเปลือยเปล่าอรชรให้นอนลงบนฟูกแข็งขนาดส
“น้าไม่ชอบความวุ่นวายน่ะ”“ดีเลยค่ะ เหมาะแก่การทำพิธี”เดชฤทธิ์ยิ้มกริ่ม เปิดประตูบ้านให้เด็กสาวก้าวเข้าไปข้างในด้วยความเต็มใจ บ้านหลังน้อยคลับคล้ายรีสอร์ทที่มีเพียงห้องนอนและห้องน้ำเท่านั้น ฟูกนอนขนาดสี่ฟุตวางแนบกับพื้นตรงกลางห้อง ตรงมุมห้องมีแท่นทำพิธีไสยศาสตร์แบบจัดเต็มทั้งอุปกรณ์และเครื่องมือทางไสยเวทย์ รวมทั้งหัวกะโหลกขาวโพลนหนึ่งหัวดูน่ากลัวไม่น้อยกลิ่นธูปเทียนและน้ำมันหอมคละคลุ้งกระจัดกระจาย กลิ่นบุหรี่ใบจากยาเส้นและกลิ่นเหล้าขาวตลบอบอวลไปทั้งห้อง บ่งบอกว่าเจ้าของบ้านเป็นคนคลั่งในเรื่องไสยเวทย์และภูติผีปีศาจ“ดูขลังดีนะ” ปริศนารู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย ระหว่างรอสัปเหร่อเดชหรืออาจารย์เดชฤทธิ์เข้าไปล้างคราบใคร่บนลำดุ้นออกในห้องน้ำ เพื่อจะได้มาเล่นเซ็กส์กับเธอต่อบนฟูกแข็งหน้าแท่นทำพิธีหลายครั้งที่เธอถามตัวเองว่าเธอมั่นใจใช่มั้ยที่จะยกพรหมจรรย์บริสุทธิ์ให้แก่สัปเหร่อเดชจอมไสยเวทย์ จะยินยอมให้ลำเอ็นขนาดสิบห้านิ้วเชยชิมความสาวแรกรุ่นอย่างหนำใจโดยไม่เสียดาย“ฉันต้องผ่านมันไปได้” ยอมทำกับเขาเพราะอยากลงคาถามหาเสน่ห์ อยากลงพิธีเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ตัวเอง หรือเพราะความร่านกามกันแน
“หนูเห็นเหรอ...”เขาถามเธอตรงๆคนต้องตอบอึกอักใจอยู่ไม่น้อย และไม่กล้าสบดวงตาดุดันร้อนแรงคู่นั้น“เอ่อ เปล่านะคะ”เขายิ้มมุมปาก เห็นท่าทางเขินอายของเด็กสาวแล้วก็พอจะเดาได้ไม่ยาก “มันเป็นการทำพิธีส่งวิญญาณให้ผู้หญิงที่ตายโดยไม่ได้แต่งงานน่ะ เธอจะได้ขึ้นสวรรค์อย่างมีความสุข”“อย่างนั้นหรือคะ??” แทนที่จะมองหน้า แต่สายตากลมแป๋วอยากรู้อยากเห็นดันกดต่ำลงมองแก่นกายกำยำที่ถูกซ่อนไว้ในกางเกงขาก๊วยสีน้ำเงินอย่างไม่ปลอดภัยสักเท่าไหร่ เพราะมันยังตุงโตดิ้นส่ายเรียกร้องจะออกมาด้านนอกทุกลมหายใจ“ไหนบอกไม่เห็น” เขาแสร้งเย้า แววตาวาววิบระยิบระยับเพราะเห็นชัดว่าสายตาของเด็กสาวกำลังสนใจอะไร แน่นอน ของเขามันใหญ่ยาวเกินพิกัด หากหญิงนางใดได้เห็นเป็นต้องตาลุกตาโตกันทั้งนั้นปริศนาถึงกับหน้าเหวอ “ก็...เห็นนิดหน่อยค่ะ”“เห็นไอ้นั่นของน้าแล้วใช่มั้ย”“เอ่อ” เห็นเต็มสองตาเลยล่ะ “เปล่าค่ะ หนูไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ไม่เห็นเลยค่ะ”“ลำเอ็นของน้าลงคาถาอาคมไว้แล้วนะ ใครเห็นเข้าจะไม่เป็นอันทำอะไรเลยล่ะ มันจะตามหลอกหลอนจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ”“จริงหรือคะ???”“จริงสิ แต่หนูปริมคงไม่ต้องกังวลอะไร เพราะหนูปริมยังไม่เห็นใช่มั้
ก๊อก ก๊อก....“โอ๊ะ...” เธอจึงรีบลากผ้าห่มขึ้นคลุมปกปิดเอ็นอุ่นแข็งโด่ของพี่ชายไว้ เพื่อไม่ให้แม่จับได้ว่าเธอเพิ่งทำอะไรลงไป แน่นอน ถึงแม้เขาจะไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ แต่เขาก็เป็นลูกชายของสามีใหม่แม่ ที่แม่เลี้ยงดูเขามาแต่เล็กแต่น้อย แม่รักเขาเหมือนลูกแท้ ๆ นั่นแหละ ในขณะที่เธอไม่เคยมองเขาเป็นพี่ชาย แต่แอบชอบเขามาตลอด“ยัยปริม เช็ดตัวให้พี่ปอนด์เสร็จรึยัง”ปริศนาเช็ดปากอย่างเร็วก่อนหันไปยิ้มให้แม่ด้วยหน้าตาแอ๊บแบ๊วตามถนัด “เสร็จแล้วจ๊ะ”“งั้นแกไปทำธุระให้แม่หน่อยสิ เอายาไปให้หลวงตาที่วัดหน่อย เอาไปฝากไว้ที่มัคนายกก็ได้” หลวงตาซึ่งเป็นพ่อของแม่นั่นแหละ หรือก็คือตาของเธอนั่นเอง ท่านบวชเป็นพระมาสองพรรษาแล้ว นับตั้งแต่ที่ยายเสียไปเมื่อสามปีก่อน แกก็ตั้งใจจะตายในผ้าเหลือง “ถุงยาวางอยู่ที่โต๊ะกินข้าวน่ะ”“ได้จ๊ะแม่”“รีบไปรีบมานะ เอ๊ะ! ทำไมทำน้ำนองเต็มพื้นเลย สงสัยน้ำจะหก เดี๋ยวแม่เช็ดเอง”เธอตกใจตาเหลือก ตอนนี้กางเกงขาสั้นเธอก็เปียกอยู่นะ “เอ่อแม่ พอดีหนูทำน้ำในกาละมังหกน่ะ แม่ไม่ต้องเช็ดหรอก เดี๋ยวหนูจัดการเอง”“แกรีบเอายาไปให้หลวงตาเถอะ เดี๋ยวจะค่ำมืดซะก่อน พ่อแกก็ไม่อยู่ ไปงานศพเพื่อนที่ต่างอำ