Home / อื่น ๆ / ลุงเหมือง ภารโรงพันล้าน / บทที่ 10 สงครามในฤดูฝน

Share

บทที่ 10 สงครามในฤดูฝน

Author: Bosskerr
last update Last Updated: 2025-06-12 23:50:56

เสียงฟ้าร้องครืนครั่นดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้าสีหม่น บรรยากาศทั่วทั้งหมู่บ้านคล้ายกับถูกปกคลุมไปด้วยม่านสีเทาเข้ม ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ห้าแล้ว น้ำฝนไหลรินลงมาตามชายคา สาดซัดใส่พื้นดินจนเละเป็นโคลน และลมก็พัดแรงขึ้นทุกวันเหมือนกับว่าโกรธเคืองบางสิ่งบางอย่าง

ลุงเหมืองยืนมองฟาร์มเหมืองแดงจากใต้ชายคาบ้าน ร่างกายเปียกโชกจากฝนที่พึ่งกลับมาจากการตรวจแปลงตอนเช้า

“ห้าวันติด มันตกไม่หยุดเลยจริง ๆ” เขาพึมพำกับตัวเองพลางส่ายหัวไปมา

ต้นมะเขือเทศที่ออกผลแล้วหลายสิบต้นถูกลมแรงกระโชกพัดจนโยกซ้ายเอนขวาเหมือนจะหักคาแปลง ฝนตกกระหน่ำโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยสักนิด ใบไม้ปลิวว่อนร่วงหล่นจากต้นลงสู่พื้นอย่างไร้ความปรานี

ในคืนวันที่หก เสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาใกล้ ๆ ราวกับส่งสัญญาณสงครามจากฟากฟ้า พายุลมหมุนที่ตามมาต่อจากฝนได้กวาดเอาทุกอย่างที่ขวางหน้า ลุงเหมืองวิ่งออกไปถึงฟาร์มในความมืดโดยมีเพียงไฟฉายในมือ วิ่งฝ่าฝนและลมไปอย่างไม่คิดชีวิต

“ขอให้ไม่เป็นอะไรมากนะ” เขาท่องในใจมาตลอดทาง

แต่เมื่อมาถึง สิ่งที่เห็นตรงหน้ากลับทำให้หัวใจของลุงเหมืองแทบหยุดเต้น แปลงมะเขือเทศที่เคยเขียวชอุ่มมีดอกออกผลให้ชื่นชม กลายเป็นลานโคลนที่เต็มไปด้วยซากต้นไม้ที่ล้มระเนระนาด

ลูกมะเขือเทศสีแดงสุกงอมร่วงหล่นกระจัดกระจายบนพื้นดินที่เปียกชื้น บางต้นหักครึ่งกลางลำ บางต้นเกือบถอนรากถอนโคน ลุงเหมืองทรุดเข่าลงบนพื้นดินที่เปียกแฉะ แม้ว่าน้ำฝนจะซัดหน้าอย่างแรงเขาก็ไม่สนเลยแม้แต่น้อย ในใจหนักอึ้งยิ่งกว่าน้ำฝนทุกหยดที่เทลงมา

“นี่มันจบแล้วเหรอ..”

เช้าวันต่อมา

ท้องฟ้าสางด้วยแสงสีส้มอ่อน แต่กลับไม่มีความอบอุ่นเลยแม้แต่นิดเดียว ลุงเหมืองยังคงนั่งอยู่บนแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน สวมเสื้อเปียก ๆ จากเมื่อคืนที่ยังไม่ได้ถอด เปลือกตามีถุงใต้ตาที่เห็นได้ชัด บ่งบอกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา เขาไม่ได้นอนแม้แต่ชั่วโมงเดียว

“ลุง” เสียงของแพรดังมาจากหน้าบ้าน ก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งเข้ามาในสภาพที่เปียกเล็กน้อยจากละอองฝน

“เมื่อคืนฝนตกลมแรงมาก ฟ้าเปรี้ยง ๆ ตลอดทั้งคืนเลย วันนี้พอฝนซาลงหนูเลยรีบมาดู”

ลุงเหมืองไม่ตอบ ยังคงนิ่งเงียบอยู่ดั่งเดิมจนแพรต้องเอ่ยถามต่อ

“ลุงเหมือง ลุงไปดูแปลงมายังคะ”

แพรยังคงถาม พลางหอบหายใจเบา ๆ เพราะความเหนื่อยจากการที่รีบวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา ลุงเหมืองพยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนจะเปรยเสียงแหบต่ำออกมา

“ต้นมะเขือเทศพังหมดแล้ว ลูกก็หล่นเลอะโคลนไปหมด”

แพรนิ่งเงียบ ถึงแม้เธอจะคาดไว้บ้างแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจะรุนแรงขนาดนี้

“หนูขอโทษนะลุง”

“มันไม่ใช่ความผิดของหนูหรอก” ลุงเหมืองส่ายหน้า

“แต่ลุงก็ หมดแรงใจแล้ว”

ลุงเหมืองเงียบไปพักใหญ่ ก่อนที่แพรจะเอื้อมมือไปจับที่แขนของเขาเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น

“ลุงเหมือง ลุงรู้ไหมคะ ว่ามะเขือเทศที่พังไป มันยังไม่เท่ากับสิ่งที่ลุงสร้างมาในหัวใจของคนทั้งหมู่บ้าน ในหัวใจของลูกค้าที่รอกินมะเขือของลุง”

“แต่มันทดแทนกันได้เหรอ” ลุงเหมืองถามเสียงสั่น

“ไม่ได้ค่ะ แต่เชื่อหนูเถอะ ทุกคนจะไม่ยอมให้ลุงสู้คนเดียวแน่นอน”

ในจังหวะนั้นเอง เสียงประตูไม้ของบ้านก็ถูกเปิดออก ยายคำแดง หญิงชราร่างเล็กผิวเหี่ยวย่นแต่แววตากลับเด็ดเดี่ยวเดินออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมกับไม้เท้า

“แม่” ลุงเหมืองรีบลุกขึ้นไปประคองผู้เป็นแม่

“แม่รู้หมดแล้ว” ยายคำแดงพูดเสียงเรียบ

“ฝนฟ้ามันก็ดีแต่ตอนมันรินให้ต้นไม้โตแหละ พอเกรี้ยวกราดขึ้นมาทุกอย่างก็พังหมด นี่คือธรรมชาติ”

“แม่เห็นเอ็งทำสวนปลูกผักแล้วมีความสุข แม่ก็มีรอยยิ้มทุกวัน แต่วันนี้แม่ไม่อยากเห็นเอ็งต้องนั่งหน้างอไร้แรงใจแบบนี้”

ลุงเหมืองเงยหน้าขึ้นมองแม่ แววตาเหมือนเด็กเล็กที่กำลังขอโทษโดยไม่พูด

“ตอนแม่ยังสาวเคยปลูกข้าว” ยายคำแดงพูดต่อ

“อยู่ ๆ น้ำก็หลากท่วมนาก่อนเก็บเกี่ยว แทบอยากกระโดดลงคลองเพื่อตายหนีโลก แต่ก็ไม่ตาย เพราะอะไรรู้ไหม”

“เพราะหัวใจยายยังอยู่” แพรพูดเบา ๆ

“ใช่” ยายคำแดงยิ้ม

“เอ็งฟังแม่นะเหมือง หัวใจของคนปลูกสำคัญกว่าต้นกล้าเยอะเลยลูกเอ๊ย”

ลุงเหมืองหลุบตาลงต่ำ ยกมือไหว้แม่แนบอกพลางเอ่ยเสียงสั่นเครือ

“ฉันขอโทษนะแม่ ฉันแค่เหนื่อย”

“เหนื่อยก็พักก่อนลูก แต่จะถอยไม่ได้ เพราะฟาร์มนี้มันคือชื่อของแม่และของเหมือง จำไว้สิ คนเราเกิดมาต้องสู้”

เงียบไปอึดใจใหญ่และแล้วลุงเหมืองก็พยักหน้า เหมือนยอมรับบางอย่างกับตัวเอง

“หนูว่าเรายังพอฟื้นได้อยู่นะลุง” แพรพูดขึ้นบ้าง

“ต้นที่ไม่เสียหายมาก เรายังพอพยุงไว้ได้ แล้วก็ค่อยเพาะใหม่พร้อมกันอีกรอบ”

“แล้วบ่อน้ำยังอยู่ใช่ไหม” ยายคำแดงถาม

“ยังอยู่จ้ะยาย น้ำก็ยังพอมีในบ่อ”

“นั่นล่ะสิ่งที่แม่จะบอก มันคือชีวิต ในเมื่อมันยังอยู่ เราก็ยังสู้ได้ไม่ใช่เรอะ เอ็งอย่าท้อสิ” ยายคำแดงพูดพร้อมกับรอยยิ้มที่ลุงเหมืองไม่ได้เห็นมาหลายปี

ตลอดสัปดาห์นั้น ลุงเหมืองกับแพรช่วยกันลงแรงเก็บกวาด

ใช้ไม้ไผ่ทำโครงค้ำต้นมะเขือเทศที่ยังไม่ตาย เก็บลูกมะเขือเทศที่ยังพอกินได้มาทำซอส ส่วนต้นที่ล้มทั้งหมดก็นำมาสับทำปุ๋ยหมัก

ถึงแม้ว่าฝนจะยังตกทุกวัน แต่หัวใจของลุงเหมืองกลับไม่สั่นคลอนอีกแล้ว ลุงเหมืองใช้เวลาทำป้ายใหม่ บนป้ายเขียนว่า “ฟาร์มเหมืองแดง ฤดูที่สอง” ตัวหนังสือเขียนด้วยลายมือของตัวเอง ถึงแม้จะเบี้ยวไปหน่อย แต่ก็ภาคภูมิใจมากกว่าครั้งแรกเสียอีก

“ฤดูที่สองนี่แหละ ที่จะโตไปพร้อมหัวใจที่แข็งแรงกว่าเดิม”

            ลุงเหมืองหันไปบอกกับแพรที่ยืนอยู่ข้างกัน และแพรก็ส่งยิ้มให้แทนคำตอบ

“หนูจะอยู่ปลูกมะเขือเทศไปกับลุงทุกฤดูเลยค่ะ”

ถึงแม้ว่าพายุฝนจะทำให้แปลงปลูกพัง ทำให้ต้นมะเขือเทศล้ม ทั้งดอกทั้งผลร่วงหล่นเละไม่เป็นท่า แต่พายุฝนไม่ได้พังหัวใจของคนที่รักในสิ่งที่ทำไปด้วย หัวใจของลุงเหมืองยังคงอยู่ และสิ่งนี้ ก็คือสิ่งที่พายุฝนไม่มีวันพรากจากไปได้...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลุงเหมือง ภารโรงพันล้าน   บทที่ 32 คืนกลับสู่รากเหง้า

    เช้าวันใหม่ที่บ้านดอนแดงพัฒนา สายลมอ่อนพัดไหวผ่านยอดไม้ เสียงนกเอี้ยงร้องระงมรับแสงอาทิตย์ยามเช้าที่ทอแสงอุ่นพาดผ่านบ้านไม้หลังเก่าที่ยังตั้งอยู่ในบริเวณบ้านเดิมของลุงเหมืองถึงแม้จะมีบ้านหลังใหม่ทันสมัยที่อยู่ไม่ไกลออกไปนัก แต่ลุงเหมืองก็ยังคงเก็บบ้านไม้หลังนี้ไว้ด้วยความรัก ที่แห่งนี้เป็นเหมือนหัวใจอีกดวงของเขา เป็นสถานที่แห่งความทรงจำที่เขาอยู่มาตั้งแต่เกิดจนถึงวันที่ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ในชีวิต บ้านที่ไม่ว่าจะมองไปที่ตรงมุมไหน ก็จะเห็นบรรยากาศความอบอุ่นที่ตราตรึงในความทรงจำอยู่เสมอเสียงรถกระบะคันใหม่สีแดงเข้มแล่นผ่านถนนลูกรังหน้าโรงเรียนบ้านดอนแดงพัฒนา ชาวบ้านที่เดินผ่านไปมายกมือไหว้ทักทายลุงเหมืองด้วยรอยยิ้มที่แสนคุ้นเคย “กลับมากวาดโรงเรียนอีกแล้วเหรอลุงเหมือง”เสียงของคำชัยที่ยืนพิงเสาไม้หน้าร้านขายของชำเอ่ยทักขึ้นมาลุงเหมืองยิ้มกว้างตอบกลับ “ใช่ ต่อให้ก้าวหน้าไปได้ไกลก็ไม่ลืมจุดยืนเดิมของตัวเองหรอกคำชัย”โรงเรียนยังคงเหมือนเดิม เด็กนักเรียนยังใส่ชุดนักเรียนสีขาวสะอาดเดินเข้าแถวหน้าเสาธง เด็กบางคนเหลียวมองชายคนหนึ่งที่ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวธรรมดา ก้มหน้ากวาดพื้นทาง

  • ลุงเหมือง ภารโรงพันล้าน   บทที่ 31 ตำนานของหัวใจที่ไม่ยอมแพ้

    แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมาที่ลานหน้าบริษัท เหมืองแดง อินเตอร์เทรด จำกัด พนักงานในชุดยูนิฟอร์มสีแดงอิฐเดินเข้าออฟฟิศกันอย่างเป็นระเบียบ เสียงพูดคุยทักทายเบา ๆ ดังคลอท่ามกลางเสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว และกลิ่นดินหลังฝนเมื่อคืนที่เพิ่งหยุดตกโชยมาแตะจมูกภายในห้องประชุมใหญ่ของบริษัท ลุงเหมืองยืนอยู่หน้ากระดานไวท์บอร์ด มีแพรและหัวหน้าฝ่ายต่าง ๆ ล้อมวงนั่งอยู่ด้านหน้า“อาทิตย์หน้าลุงจะต้องไปญี่ปุ่นเพื่อบรรยายที่เวทีระดับโลกนะครับลุงเหมือง”หัวหน้าฝ่ายต่างประเทศพูดพลางเปิดแฟ้มงาน ลุงเหมืองพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งแต่มั่นคง“แต่ก่อนที่ลุงจะไป ลุงอยากให้พวกเรากลับมาทบทวนว่าเราเดินมาถึงจุดนี้ได้ยังไง และเราจะเดินต่อไปแบบไหน”แพรเสริมขึ้นทันที “ใช่ค่ะ ลุงเหมืองพูดถูกที่สุด ทุกวันนี้เราไม่ใช่แค่ฟาร์มเล็ก ๆ แล้ว แต่เป็นบริษัทส่งออกที่มีพันธมิตรในหลายประเทศ มีคนไว้วางใจในคุณภาพมะเขือเทศของเรา นอกจากมะเขือเทศแล้ว เรายังมีผักอื่น ๆ อีกปลูกเพิ่มอีกด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราต้องไม่ลืมว่าเราเริ่มจากตรงไหน”ลุงเหมืองหยิบแฟ้มเอกสารเล่มหนึ่งที่ปกข้างหน้ามีคำเขียนด้วยลายมือว่า “แผนชีวิตจากแปลงด

  • ลุงเหมือง ภารโรงพันล้าน   บทที่ 30 เกียรติยศของคนดินแดง

    เช้าวันหนึ่งในช่วงต้นฤดูหนาว แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านม่านหน้าต่างห้องทำงานของลุงเหมืองภายในสำนักงานใหญ่ของบริษัท เหมืองแดง อินเตอร์เทรด จำกัด บนโต๊ะไม้เรียงรายไปด้วยแฟ้มงาน ปากกา และหนังสือเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจเกษตรสมัยใหม่ แต่ท่ามกลางความเคลื่อนไหวที่แสนยุ่งของบริษัท ในเช้าวันนี้กลับมีจดหมายฉบับหนึ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษแพรเปิดซองจดหมายนั้นแล้วอ่านด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น"ลุง เป็นจดหมายเชิญจากสำนักงานเกษตรจังหวัด เขาเชิญลุงไปเป็นวิทยากรพิเศษในงานมหกรรมเกษตรประจำจังหวัดปีนี้ค่ะ"ลุงเหมืองเงยหน้าขึ้นจากงานในมือ เขามีสีหน้าประหลาดใจแต่ก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน"เขาเชิญจริงเหรอ นึกไม่ถึงเลยว่า เขาจะเห็นค่าคนบ้านนอกอย่างลุง รู้สึกเป็นเกียรติจริง ๆ"แพรยิ้มก่อนจะเอ่ยตอบกลับ "เขาไม่ใช่แค่เห็นนะคะลุง เขายังแนบมาด้วยว่า จะมอบใบประกาศเกียรติคุณให้ลุงในฐานะบุคคลต้นแบบเกษตรกรของจังหวัด และมอบโล่เกียรติคุณให้กับบริษัทของเรา ในฐานะบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอย่างซื่อตรงต่อผู้บริโภคด้วยค่ะ"ลุงเหมืองวางปากกาในมือลงแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย มีทั้งความภูมิใจ ทั้งความซาบ

  • ลุงเหมือง ภารโรงพันล้าน   บทที่ 29 ความหวังแห่งผืนดิน

    เช้าวันจันทร์อันเงียบสงบ แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านหน้าต่างบ้านไม้หลังเล็กในหมู่บ้านดอนแดงพัฒนา ในบ้านหลังเดิมที่ในตอนนี้เพิ่มเติมคือมีบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมตั้งอยู่บ้างกัน แม้จะปลูกบ้านหลังใหม่แล้ว แต่ลุงเหมืองก็ไม่ต้องรื้อบ้านไม้หลังเก่าออก นั่นก็เพราะที่นี่คือทุกความทรงจำวันนี้ลุงเหมืองตื่นขึ้นแต่เช้าตามนิสัยเดิม เขาเดินลงจากเตียง หยิบเสื้อเชิ้ตสีซีดที่รีดเรียบไว้เมื่อคืนขึ้นมาสวมใส่ แล้วเดินออกมายังเฉลียงหน้าบ้าน สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะกล่าวกับตัวเองเบา ๆ"อีกวันแล้วสินะ อีกวันของการได้สู้ต่อ"ถึงแม้วันนี้ลุงเหมืองจะไม่ต้องตอกบัตรเข้าโรงเรียนเหมือนสมัยก่อนตอนที่ยังเป็นภารโรง แต่กิจวัตรของเขากลับยุ่งยากกว่าเดิมนับสิบเท่า ตอนนี้เขาเป็นผู้นำของบริษัทใหญ่ เป็นเจ้าของแบรนด์มะเขือเทศที่มีชื่อเสียงไปไกลถึงระดับโลก เป็นแรงบันดาลใจของชาวบ้าน และก็ยังเป็นคนของชุมชนเสมอลุงเหมืองเดินไปยังกระถางต้นมะเขือเทศที่ตั้งเรียงไว้ข้างเฉลียง ยื่นมือไปลูบเบา ๆ ที่ใบเขียวชอุ่มและยิ้มอย่างพอใจ“ทุกอย่างเริ่มจากเจ้าพวกนี้สินะ”เช้าวันนั้น ในห้องประชุมใหญ่ของบริษัท เหมืองแดง อินเตอร์เทรด จำกัด สาขา

  • ลุงเหมือง ภารโรงพันล้าน   บทที่ 28 ลุงเหมือง มะเขือเทศพันล้าน

    เสียงเครื่องคัดแยกผลผลิตดังกึกก้องอยู่ในโรงงานบรรจุมะเขือเทศของบริษัท เหมืองแดง อินเตอร์เทรด จำกัด ลุงเหมืองในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวพับแขนก้าวเท้าเข้าไปตรวจดูผลผลิตที่เพิ่งถูกบรรจุลงกล่องส่งออกล็อตใหม่ด้วยสายตาพึงพอใจจากแปลงผักเล็ก ๆ หลังบ้าน หลังโรงประชุมของโรงเรียน จากฟาร์มขนาด 1 ไร่ในหมู่บ้านที่ไม่มีใครรู้จัก วันนี้ชื่อของ "เหมืองแดง" ถูกพูดถึงในวงการเกษตรอินทรีย์ทั้งในและต่างประเทศ ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ในหลายเมืองใหญ่ของโลกเลือกใช้มะเขือเทศพันธุ์แดงหวานตะวันออกที่ปลูกด้วยมือของผู้ชายคนหนึ่ง ที่เป็นอดีตภารโรงจากบ้านดอนแดงพัฒนา ผู้ซึ่งตอนนี้ได้กลายมาเป็นเจ้าของบริษัทส่งออกมะเขือเทศพันธุ์แดงหวานตะวันออกที่ผู้คนต่างรู้จัก“ลุงเหมืองครับ ออเดอร์จากดูไบรอบใหม่น่าจะส่งได้สัปดาห์หน้า ทีมคัดแยกอยากขอเพิ่มคนหน่อยครับ”เสียงของหัวหน้าฝ่ายโลจิสติกส์ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ลุงเหมืองพยักหน้าแล้วหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาจ่อปาก“ฝ่ายบุคคลครับ ช่วยจัดคนเพิ่มที่ไลน์คัดแยกดูไบรอบใหม่ด้วยนะครับ”พูดจบ เขาก็หันไปยิ้มกับพนักงานคัดแยกคนหนึ่ง“ขอบใจมากนะ ขยันขันแข็งกันจริง ๆ ขอบคุณที่สู้ด้วยกัน”“ด้วยความยิ

  • ลุงเหมือง ภารโรงพันล้าน   บทที่ 27 สารคดีจากบ้านดอนแดงพัฒนา

    เสียงรถตู้ของทีมงานจากต่างประเทศแล่นเข้ามาจอดที่หน้าฟาร์มเหมืองแดงในยามเช้าตรู่ แสงแดดอ่อนของวันใหม่สาดส่องลอดผ่านต้นมะม่วงหน้าบ้าน เสียงไก่ขันดังแว่วอยู่ลิบ ๆ แต่เสียงนั้นกลับเบาไปถนัดตา เมื่อเทียบกับความตื่นเต้นที่แผ่ซ่านไปทั่วหมู่บ้านดอนแดงพัฒนาในตอนนี้“ลุงเหมืองมาแล้ว สารคดีต่างประเทศมาแล้ว”เด็ก ๆ วิ่งกรูมาตามถนนดินแดงที่เคยเงียบเหงา ส่งเสียงร้องลั่นไปทั่วทั้งหมู่บ้านลุงเหมืองใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวดูสะอาดตา ตัดกับกางเกงผ้าสีเข้มยืนรออยู่หน้าฟาร์ม และมีแพรอยู่ข้าง ๆ ในชุดกระโปรงยาวลายดอกไม้เรียบง่าย ทั้งสองคนยิ้มแย้มแต่ในแววตากลับเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่ต่างจากวันแรกที่เริ่มเพาะเมล็ดพันธุ์มะเขือเทศลงดิน“ไม่คิดเลยนะคะว่าเราจะมาถึงวันนี้ได้” แพรพูดเบา ๆ“ลุงก็ไม่คิดเหมือนกัน แค่คิดว่าจะปลูกกินเอง ขายได้นิดหน่อยก็พอใจแล้ว”ทีมงานสื่อสารคดีจากญี่ปุ่นก้าวลงจากรถ เคย์โกะอยู่ข้างหน้าพร้อมส่งยิ้มให้อย่างอบอุ่น“อรุณสวัสดิ์ค่ะลุงเหมือง คุณแพร ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะคะ”“ยินดีต้อนรับครับคุณเคย์โกะ ยินดีต้อนรับทุกคน เชิญทางนี้ครับ”ลุงเหมืองกล่าวน้ำเสียงมั่นใจและหนักแน่น แม้ภายในจะยัง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status