Home / อื่น ๆ / ลุงเหมือง ภารโรงพันล้าน / บทที่ 11 โรงเรือนแห่งการเรียนรู้ของลุงเหมือง

Share

บทที่ 11 โรงเรือนแห่งการเรียนรู้ของลุงเหมือง

Author: Bosskerr
last update Last Updated: 2025-06-12 23:52:19

เสียงนกกางเขนเรียกหาคู่ดังก้องในเช้าหลังฝนตกติดต่อกันหลายวัน ท้องฟ้าเริ่มเปิด แสงแดดสาดส่องลงมาอ่อน ๆ ลมที่เคยพัดพาโคลนตมในพายุได้แปรเปลี่ยนไปเป็นสายลมเย็นบาง ๆ ที่พัดผ่านยอดต้นมะละกอข้างบ้านของลุงเหมืองให้เอนไหวเล็กน้อย

ถึงแม้แปลงมะเขือเทศจะเสียหายหนักจากพายุครั้งใหญ่ในฤดูฝนที่ผ่านมา แต่จิตใจของลุงเหมืองกลับมั่นคงยิ่งกว่าเดิม

แทนที่จะมัวนั่งบ่นว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็คงจะดี แต่ลุงเหมืองกลับเลือกที่จะเอาประสบการณ์ครั้งนี้มาเป็นครูสอนบทเรียน

ในวันนั้นเอง ลุงเหมืองนั่งจิบกาแฟร้อนอยู่ในครัว พร้อมลูบสมุดบันทึกที่เต็มไปด้วยคราบดินและรอยนิ้วเปื้อนดิน เขาเปิดหน้าสุดท้ายขึ้นมา แล้วบรรจงเขียนด้วยดินสอไม้แท่งเดิม

‘สร้างโรงเรือน ด้วยสองมือเราเอง’

ความคิดนี้อาจจะดูใหญ่เกินตัว สำหรับชายวัยใกล้ห้าสิบอย่างลุงเหมือง แต่เขาไม่ได้กลัวหรือหวาดหวั่น สิ่งแรกที่ลุงเหมืองนึกถึงก็คือ โรงเรียนบ้านดอนแดงพัฒนา ที่เขายังทำงานเป็นภารโรงอยู่

หลังเลิกเรียนวันนั้น ลุงเหมืองเดินไปยังหลังโรงเก็บของเก่าหลังโรงเรียน ที่นั่นเต็มไปด้วยไม้กระดาน ผนังเก่าที่ถอดออกตอนรีโนเวตอาคารเรียน และเสาไม้ที่เคยเป็นโครงหลังคาโรงอาหารเก่าเมื่อหลายปีก่อน ของเหล่านี้เป็นไม้เก่า ๆ สิ่งของเก่า ๆ ที่ถูกทิ้งไว้ในโรงเก็บของมาหลายปี

“ไม้พวกนี้จะใช้ใหม่ได้อีกไหมนะ”

ลุงเหมืองพึมพำพลางเดินวนรอบกองของเก่าพวกนั้นซ้ำ ๆ หลายรอบ จนแน่ใจว่ายังมีไม้ที่แข็งแรงพอที่จะนำกลับไปใช้ได้

วันถัดมา ลุงเหมืองได้ขออนุญาตผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อขอนำไม้เก่าเก็บออกไปใช้ ถึงแม้ว่าไม้พวกนี้จะไม่ได้ถูกนำไปใช้งานแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็เป็นของทางโรงเรียน ลุงเหมืองจึงต้องทำให้ถูกต้อง ด้วยการขออนุญาตให้เรียบร้อยเสียก่อน

“ท่านผอ. ครับ จะเป็นอะไรไหมครับถ้าลุงอยากจะขอเอาไม้ที่โรงเก็บของไปใช้ พอดีลุงเห็นว่ามันเก็บมาหลายปีปล่อยไว้ก็มีแต่ปลวกขึ้น”

“เอาไปสิลุงเหมือง ไม้เก่าพวกนั้นที่โรงเรียนก็ไม่ได้ประโยชน์แล้ว เก็บไว้ก็มีแต่เรียกปลวก”

“ขอบคุณครับท่านผอ. หลังเลิกเรียนลุงจะขนกลับบ้านนะครับ”

“ตามสบายเลยลุงเหมือง”

ตอนเย็นหลังเลิกเรียนของวันนั้น ลุงเหมืองก็เริ่มทยอยขนไม้เหล่านั้นกลับบ้านด้วยรถเข็นสองล้อคู่ใจ หลังเลิกเรียนที่แพรจะแวะมาที่บ้านลุงเหมืองทุกวันก่อนจะกลับบ้านของตัวเอง เมื่อไม้กองไม้จึงเอ่ยถามขึ้น

“ลุงจะทำอะไรกับไม้พวกนี้เหรอคะ”

“ลุงจะสร้างโรงเรือน” ลุงเหมืองตอบเสียงเรียบแต่ชัดเจน

แพรยิ้มทันทีเมื่อได้ยิน เหมือนกับว่าเธอเองก็รอคำนี้มานาน

“เยี่ยมเลยค่ะ หนูจะช่วยเอง”

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ โรงเรือนแห่งการเรียนรู้ โรงเรือนที่ไม่มีแบบแผนพิมพ์เขียว ไม่มีสถาปนิก และไม่มีผู้รับเหมา แต่สิ่งที่มี ก็คือแรงใจจากชายวัยเกือบห้าสิบปี กับหญิงสาวผู้เชื่อมั่นในคำว่า ‘ทำได้’

ในสัปดาห์ถัดมาลุงเหมืองและแพรช่วยกันตอกเสาอย่างขะมักเขม้น พื้นที่หลังฟาร์มเหมืองแดงถูกจัดไว้สำหรับโรงเรือนหลังแรก

โรงเรือนนี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก กว้างสี่เมตร ยาวแปดเมตร ใช้เสาไม้สี่ต้นเป็นฐานหลัก ตอกไม้ระแนงพาดเป็นคาน แล้วกรุด้วยพลาสติกใสที่แพรช่วยสั่งซื้อมาจากทางออนไลน์ทำให้ได้ราคาถูกกว่าไปซื้อปลีกตามร้านค้าในเมือง แถมยังสั่งซื้อได้แบบส่งฟรี ทำให้ประหยัดได้ไปอีกทาง

ในตอนนี้ แพรกลายเป็นผู้ช่วยหลักของลุงเหมือง ผู้ช่วยที่ไม่ใช่แค่จับค้อนหรือช่วยส่งตะปู แต่เธอยังช่วยคิดคำนวณระยะ วางแบบแปลนอย่างง่าย ๆ ทำตารางรดน้ำ จัดระบบต่าง ๆ สำหรับโรงเรือน บางวันก็ถือกล้องมือถือมาถ่ายภาพความคืบหน้าไปด้วย

“ลุงคะ หนูมีไอเดีย” แพรพูดขณะที่ยกถังสีมาวางลงเพื่อลงมือทาไม้กันปลวก

“ไอเดียอะไรอีกล่ะหนูแพร” ลุงเหมืองหัวเราะเบา ๆ พลางถามกลับ

“หนูว่านะ เรามาสร้างเพจเฟซบุ๊กให้ฟาร์มของลุงกันเถอะค่ะเราถ่ายรูปอัปเดตโรงเรือน ลงรูปพืชผักที่เราปลูก แล้วก็เรื่องราวของมะเขือเทศแดงหวานทุกวัน”

“แล้วจะตั้งชื่อเพจว่าอะไรดีล่ะ” ลุงเหมืองเอ่ยถาม

แพรยิ้มส่งให้ลพางทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นิ้วเรียวเคาะลงที่ข้างขมับเบา ๆ พลางย่นคิ้ว

“ที่หนูคิดนะ ต้องเอาแบบเรียบ ๆ แต่จำง่าย หนูว่าตั้งชื่อว่า ‘เรือนแดงหวาน’ เป็นไงคะลุง”

ลุงเหมืองเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า

“ดีเลย ชื่อนี้เข้าโรงเรือนของเรากับพันธุ์มะเขือเทศที่ลุงปลูกด้วย ชื่อดี ๆ”

ในวันนั้นเองเพจเฟซบุ๊ก “เรือนแดงหวาน” ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น

รูปโปรไฟล์คือรูปแพรถ่ายโดยจัดฉากให้ลุงเหมืองยืนข้างโรงเรือนที่ยังสร้างไม่เสร็จ ส่วนรูปหน้าปกคือภาพต้นมะเขือเทศที่รอดจากพายุใหญ่ในช่วงฤดูฝน

โพสต์แรกของเพจเรือนแดงหวาน คือภาพไม้ที่กองพะเนิน พร้อมกับแคปชั่นว่า ลุงเหมืองกำลังเริ่มสร้างโรงเรือนจากไม้เก่า ๆ ที่ขอมาจากโรงเรียน เพื่อให้มะเขือเทศพันธุ์แดงหวานของเราเติบโตได้แม้ในวันที่ฝนตกหนัก

            ในวันแรกมีคนกดไลก์ไม่ถึงสิบคน ซึ่งก็เข้าใจได้เพราะเป็นเพจที่เพิ่งเปิดใหม่ จำนวนคนกดถูกใจ กดติดตามเพจก็ยังมีไม่มากแต่มีคอมเมนต์แรกที่คอมเมนต์เข้ามาจนทำเอาแพรน้ำตาซึม

“สู้ ๆ นะลุง หนูเป็นคนบ้านดอนแดงเหมือนกัน ตอนเด็กเรียนที่บ้านดอนแดงยังจำลุงได้ดี จนตอนนี้หนูเรียนจบมีงานทำแล้ว ดีใจด้วยที่ลุงมีฟาร์มเป็นของตัวเอง”

ในสัปดาห์ถัดมา แพรยังคงโพสต์รูปความคืบหน้าลงเพจทุกวัน มีทั้งคลิปตอกเสา ภาพที่แพรยืนบนเก้าอี้สูงตัดพลาสติก ภาพลุงเหมืองยืนเช็ดเหงื่อ ภาพมะเขือเทศที่เริ่มเพาะใหม่ในกระบะเพาะ

กระแสของเพจเรือนแดงหวานเริ่มขยายตัวอย่างช้า ๆ เพื่อนของแพรที่อยู่กรุงเทพฯ ช่วยแชร์โพสต์ไปยังกลุ่มต่าง ๆ ไม่กี่วันต่อมา จำนวนคนติดตามก็พุ่งจากหลักสิบเป็นหลักร้อย และจากหลักร้อยเป็นหลักพัน จากที่มีคอมเมนต์แค่คนสองคน ในตอนนี้เริ่มมีคนเข้ามาคอมเมนต์มากขึ้น และกดไลก์ กดแชร์มากขึ้น

“เห็นแล้วรู้สึกอบอุ่นใจมากเลยค่ะ”

“มะเขือเทศนี่สีแดงน่ากินสุด ๆ เลย”

“ขายไหมคะ อยากสั่งสักโลสองโล”

“จัดส่งไหมคะ อยู่เชียงใหม่แต่สนใจมะเขือเทศลุงมาก สีแดงลูกใหญ่ อยากลองกินค่ะ”

“ส่งปทุมธานีไหมครับ สนใจ”

แพรอ่านทุกคอมเมนต์ให้ลุงเหมืองฟัง บางคอมเมนต์ก็ทำให้เขาหัวเราะ บางคอมเมนต์ทำให้เขานิ่งคิด แล้วพึมพำว่า

“คนเมืองนี่ก็ยังอยากกินผักจากบ้านนอกเราเนาะ”

วันหนึ่ง หลังจากโพสต์อัปเดตโรงเรือนเสร็จ แพรนั่งเงียบอยู่ใต้ต้นขนุนข้างบ้านลุงเหมือง สายตาของเธอมองไปยังแปลงเพาะเมล็ดใหม่ที่กำลังเริ่มงอกงาม

“ลุง” แพรเรียกเสียงเบา

“ว่าไงหนูแพร”

“หนูมีอีกไอเดียนึงค่ะ”

“ไอเดียอะไรอีกล่ะ ขอแค่อย่าให้ต้องปีนหลังคาอีกก็พอนะ” ลุงเหมืองพูดติดตลกพลางหัวเราะ

แพรหัวเราะ “ไม่ใช่ค่ะ หนูว่า เราน่าจะลองขายมะเขือเทศทางออนไลน์ดูนะคะ เราแพ็กบรรจุใส่กล่องให้ดีเพื่อไม่ให้เสียหาย จัดส่งทางไปรษณีย์”

ลุงเหมืองเงียบไป สีหน้าย่นกำลังครุ่นคิดบางอย่าง

“ขายผ่านเฟซบุ๊กเนี่ยเหรอ”

“ใช่ค่ะ เพจเราเริ่มมีคนสนใจแล้ว ถ้าเราทำเป็นเซตเล็ก ๆ แล้วแพ็กใส่กล่องไปรษณีย์ ก็สามารถส่งได้ทั่วประเทศเลยนะ”

“มันจะไหวเหรอหนูแพร ลุงไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลยนะ ไอ้พวกเทคโนโลยีอะไรนี่ลุงก็ไม่เก่ง ทำไม่ค่อยเป็น”

“เราค่อย ๆ เรียนรู้ก็ได้ เหมือนที่ลุงเคยบอกไงว่า ต้นกล้ามันโตทีละวัน การขายของก็เหมือนกันแหละ”

ลุงเหมืองหัวเราะในลำคอ

“หนูแพรนี่พูดเหมือนลุงไม่มีผิดเลย”

“หนูก็เรียนรู้มาจากลุงนั่นแหละ”

ทั้งสองคนนั่งเงียบอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง มีเพียงเสียงจิ้งหรีดร้องระงม และลมเย็น ๆ ที่พัดผ่านแปลงมะเขือเทศต้นอ่อนและเหล่าพืชที่กำลังเติบโตภายในแปลงและภายใต้พลาสติกโรงเรือนหลังใหม่

ที่แห่งนี้มันไม่ใช่แค่โรงเรือน แต่มันคือห้องเรียนสำหรับการเรียนรู้ เป็นห้องเรียนของคนที่เชื่อว่า อายุไม่ใช่อุปสรรคสำหรับการเริ่มต้น ขอแค่เราพร้อมที่จะก้าวและเริ่ม ทุกอย่างย่อมเป็นไปได้เสมอ...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลุงเหมือง ภารโรงพันล้าน   บทที่ 32 คืนกลับสู่รากเหง้า

    เช้าวันใหม่ที่บ้านดอนแดงพัฒนา สายลมอ่อนพัดไหวผ่านยอดไม้ เสียงนกเอี้ยงร้องระงมรับแสงอาทิตย์ยามเช้าที่ทอแสงอุ่นพาดผ่านบ้านไม้หลังเก่าที่ยังตั้งอยู่ในบริเวณบ้านเดิมของลุงเหมืองถึงแม้จะมีบ้านหลังใหม่ทันสมัยที่อยู่ไม่ไกลออกไปนัก แต่ลุงเหมืองก็ยังคงเก็บบ้านไม้หลังนี้ไว้ด้วยความรัก ที่แห่งนี้เป็นเหมือนหัวใจอีกดวงของเขา เป็นสถานที่แห่งความทรงจำที่เขาอยู่มาตั้งแต่เกิดจนถึงวันที่ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ในชีวิต บ้านที่ไม่ว่าจะมองไปที่ตรงมุมไหน ก็จะเห็นบรรยากาศความอบอุ่นที่ตราตรึงในความทรงจำอยู่เสมอเสียงรถกระบะคันใหม่สีแดงเข้มแล่นผ่านถนนลูกรังหน้าโรงเรียนบ้านดอนแดงพัฒนา ชาวบ้านที่เดินผ่านไปมายกมือไหว้ทักทายลุงเหมืองด้วยรอยยิ้มที่แสนคุ้นเคย “กลับมากวาดโรงเรียนอีกแล้วเหรอลุงเหมือง”เสียงของคำชัยที่ยืนพิงเสาไม้หน้าร้านขายของชำเอ่ยทักขึ้นมาลุงเหมืองยิ้มกว้างตอบกลับ “ใช่ ต่อให้ก้าวหน้าไปได้ไกลก็ไม่ลืมจุดยืนเดิมของตัวเองหรอกคำชัย”โรงเรียนยังคงเหมือนเดิม เด็กนักเรียนยังใส่ชุดนักเรียนสีขาวสะอาดเดินเข้าแถวหน้าเสาธง เด็กบางคนเหลียวมองชายคนหนึ่งที่ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวธรรมดา ก้มหน้ากวาดพื้นทาง

  • ลุงเหมือง ภารโรงพันล้าน   บทที่ 31 ตำนานของหัวใจที่ไม่ยอมแพ้

    แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมาที่ลานหน้าบริษัท เหมืองแดง อินเตอร์เทรด จำกัด พนักงานในชุดยูนิฟอร์มสีแดงอิฐเดินเข้าออฟฟิศกันอย่างเป็นระเบียบ เสียงพูดคุยทักทายเบา ๆ ดังคลอท่ามกลางเสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว และกลิ่นดินหลังฝนเมื่อคืนที่เพิ่งหยุดตกโชยมาแตะจมูกภายในห้องประชุมใหญ่ของบริษัท ลุงเหมืองยืนอยู่หน้ากระดานไวท์บอร์ด มีแพรและหัวหน้าฝ่ายต่าง ๆ ล้อมวงนั่งอยู่ด้านหน้า“อาทิตย์หน้าลุงจะต้องไปญี่ปุ่นเพื่อบรรยายที่เวทีระดับโลกนะครับลุงเหมือง”หัวหน้าฝ่ายต่างประเทศพูดพลางเปิดแฟ้มงาน ลุงเหมืองพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งแต่มั่นคง“แต่ก่อนที่ลุงจะไป ลุงอยากให้พวกเรากลับมาทบทวนว่าเราเดินมาถึงจุดนี้ได้ยังไง และเราจะเดินต่อไปแบบไหน”แพรเสริมขึ้นทันที “ใช่ค่ะ ลุงเหมืองพูดถูกที่สุด ทุกวันนี้เราไม่ใช่แค่ฟาร์มเล็ก ๆ แล้ว แต่เป็นบริษัทส่งออกที่มีพันธมิตรในหลายประเทศ มีคนไว้วางใจในคุณภาพมะเขือเทศของเรา นอกจากมะเขือเทศแล้ว เรายังมีผักอื่น ๆ อีกปลูกเพิ่มอีกด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราต้องไม่ลืมว่าเราเริ่มจากตรงไหน”ลุงเหมืองหยิบแฟ้มเอกสารเล่มหนึ่งที่ปกข้างหน้ามีคำเขียนด้วยลายมือว่า “แผนชีวิตจากแปลงด

  • ลุงเหมือง ภารโรงพันล้าน   บทที่ 30 เกียรติยศของคนดินแดง

    เช้าวันหนึ่งในช่วงต้นฤดูหนาว แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านม่านหน้าต่างห้องทำงานของลุงเหมืองภายในสำนักงานใหญ่ของบริษัท เหมืองแดง อินเตอร์เทรด จำกัด บนโต๊ะไม้เรียงรายไปด้วยแฟ้มงาน ปากกา และหนังสือเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจเกษตรสมัยใหม่ แต่ท่ามกลางความเคลื่อนไหวที่แสนยุ่งของบริษัท ในเช้าวันนี้กลับมีจดหมายฉบับหนึ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษแพรเปิดซองจดหมายนั้นแล้วอ่านด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น"ลุง เป็นจดหมายเชิญจากสำนักงานเกษตรจังหวัด เขาเชิญลุงไปเป็นวิทยากรพิเศษในงานมหกรรมเกษตรประจำจังหวัดปีนี้ค่ะ"ลุงเหมืองเงยหน้าขึ้นจากงานในมือ เขามีสีหน้าประหลาดใจแต่ก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน"เขาเชิญจริงเหรอ นึกไม่ถึงเลยว่า เขาจะเห็นค่าคนบ้านนอกอย่างลุง รู้สึกเป็นเกียรติจริง ๆ"แพรยิ้มก่อนจะเอ่ยตอบกลับ "เขาไม่ใช่แค่เห็นนะคะลุง เขายังแนบมาด้วยว่า จะมอบใบประกาศเกียรติคุณให้ลุงในฐานะบุคคลต้นแบบเกษตรกรของจังหวัด และมอบโล่เกียรติคุณให้กับบริษัทของเรา ในฐานะบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอย่างซื่อตรงต่อผู้บริโภคด้วยค่ะ"ลุงเหมืองวางปากกาในมือลงแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย มีทั้งความภูมิใจ ทั้งความซาบ

  • ลุงเหมือง ภารโรงพันล้าน   บทที่ 29 ความหวังแห่งผืนดิน

    เช้าวันจันทร์อันเงียบสงบ แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านหน้าต่างบ้านไม้หลังเล็กในหมู่บ้านดอนแดงพัฒนา ในบ้านหลังเดิมที่ในตอนนี้เพิ่มเติมคือมีบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมตั้งอยู่บ้างกัน แม้จะปลูกบ้านหลังใหม่แล้ว แต่ลุงเหมืองก็ไม่ต้องรื้อบ้านไม้หลังเก่าออก นั่นก็เพราะที่นี่คือทุกความทรงจำวันนี้ลุงเหมืองตื่นขึ้นแต่เช้าตามนิสัยเดิม เขาเดินลงจากเตียง หยิบเสื้อเชิ้ตสีซีดที่รีดเรียบไว้เมื่อคืนขึ้นมาสวมใส่ แล้วเดินออกมายังเฉลียงหน้าบ้าน สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะกล่าวกับตัวเองเบา ๆ"อีกวันแล้วสินะ อีกวันของการได้สู้ต่อ"ถึงแม้วันนี้ลุงเหมืองจะไม่ต้องตอกบัตรเข้าโรงเรียนเหมือนสมัยก่อนตอนที่ยังเป็นภารโรง แต่กิจวัตรของเขากลับยุ่งยากกว่าเดิมนับสิบเท่า ตอนนี้เขาเป็นผู้นำของบริษัทใหญ่ เป็นเจ้าของแบรนด์มะเขือเทศที่มีชื่อเสียงไปไกลถึงระดับโลก เป็นแรงบันดาลใจของชาวบ้าน และก็ยังเป็นคนของชุมชนเสมอลุงเหมืองเดินไปยังกระถางต้นมะเขือเทศที่ตั้งเรียงไว้ข้างเฉลียง ยื่นมือไปลูบเบา ๆ ที่ใบเขียวชอุ่มและยิ้มอย่างพอใจ“ทุกอย่างเริ่มจากเจ้าพวกนี้สินะ”เช้าวันนั้น ในห้องประชุมใหญ่ของบริษัท เหมืองแดง อินเตอร์เทรด จำกัด สาขา

  • ลุงเหมือง ภารโรงพันล้าน   บทที่ 28 ลุงเหมือง มะเขือเทศพันล้าน

    เสียงเครื่องคัดแยกผลผลิตดังกึกก้องอยู่ในโรงงานบรรจุมะเขือเทศของบริษัท เหมืองแดง อินเตอร์เทรด จำกัด ลุงเหมืองในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวพับแขนก้าวเท้าเข้าไปตรวจดูผลผลิตที่เพิ่งถูกบรรจุลงกล่องส่งออกล็อตใหม่ด้วยสายตาพึงพอใจจากแปลงผักเล็ก ๆ หลังบ้าน หลังโรงประชุมของโรงเรียน จากฟาร์มขนาด 1 ไร่ในหมู่บ้านที่ไม่มีใครรู้จัก วันนี้ชื่อของ "เหมืองแดง" ถูกพูดถึงในวงการเกษตรอินทรีย์ทั้งในและต่างประเทศ ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ในหลายเมืองใหญ่ของโลกเลือกใช้มะเขือเทศพันธุ์แดงหวานตะวันออกที่ปลูกด้วยมือของผู้ชายคนหนึ่ง ที่เป็นอดีตภารโรงจากบ้านดอนแดงพัฒนา ผู้ซึ่งตอนนี้ได้กลายมาเป็นเจ้าของบริษัทส่งออกมะเขือเทศพันธุ์แดงหวานตะวันออกที่ผู้คนต่างรู้จัก“ลุงเหมืองครับ ออเดอร์จากดูไบรอบใหม่น่าจะส่งได้สัปดาห์หน้า ทีมคัดแยกอยากขอเพิ่มคนหน่อยครับ”เสียงของหัวหน้าฝ่ายโลจิสติกส์ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ลุงเหมืองพยักหน้าแล้วหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาจ่อปาก“ฝ่ายบุคคลครับ ช่วยจัดคนเพิ่มที่ไลน์คัดแยกดูไบรอบใหม่ด้วยนะครับ”พูดจบ เขาก็หันไปยิ้มกับพนักงานคัดแยกคนหนึ่ง“ขอบใจมากนะ ขยันขันแข็งกันจริง ๆ ขอบคุณที่สู้ด้วยกัน”“ด้วยความยิ

  • ลุงเหมือง ภารโรงพันล้าน   บทที่ 27 สารคดีจากบ้านดอนแดงพัฒนา

    เสียงรถตู้ของทีมงานจากต่างประเทศแล่นเข้ามาจอดที่หน้าฟาร์มเหมืองแดงในยามเช้าตรู่ แสงแดดอ่อนของวันใหม่สาดส่องลอดผ่านต้นมะม่วงหน้าบ้าน เสียงไก่ขันดังแว่วอยู่ลิบ ๆ แต่เสียงนั้นกลับเบาไปถนัดตา เมื่อเทียบกับความตื่นเต้นที่แผ่ซ่านไปทั่วหมู่บ้านดอนแดงพัฒนาในตอนนี้“ลุงเหมืองมาแล้ว สารคดีต่างประเทศมาแล้ว”เด็ก ๆ วิ่งกรูมาตามถนนดินแดงที่เคยเงียบเหงา ส่งเสียงร้องลั่นไปทั่วทั้งหมู่บ้านลุงเหมืองใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวดูสะอาดตา ตัดกับกางเกงผ้าสีเข้มยืนรออยู่หน้าฟาร์ม และมีแพรอยู่ข้าง ๆ ในชุดกระโปรงยาวลายดอกไม้เรียบง่าย ทั้งสองคนยิ้มแย้มแต่ในแววตากลับเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่ต่างจากวันแรกที่เริ่มเพาะเมล็ดพันธุ์มะเขือเทศลงดิน“ไม่คิดเลยนะคะว่าเราจะมาถึงวันนี้ได้” แพรพูดเบา ๆ“ลุงก็ไม่คิดเหมือนกัน แค่คิดว่าจะปลูกกินเอง ขายได้นิดหน่อยก็พอใจแล้ว”ทีมงานสื่อสารคดีจากญี่ปุ่นก้าวลงจากรถ เคย์โกะอยู่ข้างหน้าพร้อมส่งยิ้มให้อย่างอบอุ่น“อรุณสวัสดิ์ค่ะลุงเหมือง คุณแพร ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะคะ”“ยินดีต้อนรับครับคุณเคย์โกะ ยินดีต้อนรับทุกคน เชิญทางนี้ครับ”ลุงเหมืองกล่าวน้ำเสียงมั่นใจและหนักแน่น แม้ภายในจะยัง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status