Share

ความเย็นชาที่เธอได้รับ

last update Last Updated: 2025-05-16 20:05:04

เช้าวันใหม่มาพร้อมกับอากาศเย็นสบาย หากแต่ในความรู้สึกของณิชชา กลับเหมือนต้องเดินอยู่ท่ามกลางหมอกหนา ความอึดอัดที่เกาะกุมหัวใจยังคงหนักอึ้ง เธอตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมนมกล่องและอาหารเช้าสำหรับลูก ๆ ด้วยความใส่ใจ แม้ในใจจะตระหนักดีถึงสถานะของตนเองในบ้านหลังนี้

เสียงฝีเท้าหนักๆ ก้าวเข้ามาในห้องอาหาร รามิลปรากฏตัวในชุดสูทสีเทาเข้ม ใบหน้าคมคายเรียบนิ่งราวกับรูปสลักหินอ่อน

"เด็ก ๆ ยังไม่ลงมาอีกหรือไง" เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบขณะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้หัวโต๊ะ

"กำลังล้างมือกันอยู่ค่ะ เดี๋ยวก็มาแล้ว" ณิชชาตอบกลับด้วยน้ำเสียงสุภาพ

รามิลกวาดสายตาไปทั่วโต๊ะอาหาร ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา "นมต้องอุ่นให้ได้อุณหภูมิพอดี ไม่เกิน 38 องศาเซลเซียส อาหารว่างควรมีผลไม้สดเพื่อเพิ่มวิตามิน ไม่ใช่แค่ขนมปังอย่างเดียว นี่เป็นสิ่งที่คนเป็นแม่ควรใส่ใจ หากคิดจะทำหน้าที่แม่ของลูก ๆ ผม"

ณิชชากล้ำกลืนความรู้สึกขุ่นเคืองลงไป พยักหน้ารับอย่างสงบเสงี่ยม เธอรู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะโต้แย้งใด ๆ

เด็ก ๆ วิ่งกรูเข้ามาในห้องอาหารด้วยท่าทีร่าเริง เมฆาเป็นคนแรกที่ส่งเสียงใส "คุณพ่ออออ"

รามิลยกมือขึ้นลูบศีรษะลูกชายคนเล็ก "กินให้อิ่ม อย่าซน"

วารินส่งยิ้มหวานให้ผู้เป็นพ่อ ส่วนภูผาเพียงพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะนั่งลงอย่างเงียบ ๆ ท่าทีของเขายังคงระมัดระวังและไม่ไว้ใจชายตรงหน้า

"คุณณิชชา" รามิลเอ่ยเรียกขึ้น ขณะที่เด็ก ๆ กำลังทานอาหารเช้ากันอย่างเอร็ดอร่อย

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยแววตาสงบ "คะ?"

"หลังจากนี้ หากต้องการพาเด็ก ๆ ออกไปข้างนอก ต้องแจ้งให้ผมทราบก่อนทุกครั้ง ผมไม่อนุญาตให้พาพวกเขาไปเดินเตร็ดเตร่โดยพลการ ไม่ใช่ว่าพอมีลูกแล้ว คุณจะใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความประทับใจให้กับคนรอบข้าง"

คำพูดของเขาทำให้หัวใจของณิชชาหล่นวูบ หากแต่เธอก็ยังคงรักษาท่าทีสงบและพยักหน้ารับ "ค่ะ ฉันจะระมัดระวัง"

ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆ แม่บ้านเปิดประตูเข้ามาด้วยท่าทีนอบน้อม ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มๆ

"คุณธัญรสามาเยี่ยมค่ะ บอกว่าอยากจะมาทักทายเด็ก ๆ"

ณิชชาเม้มปากแน่น มือที่ถือผ้ากันเปื้อนไว้แน่นขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่ร่างระหงในชุดเดรสสีครีมจะก้าวเข้ามาในห้องอาหาร พร้อมรอยยิ้มหวานฉ่ำที่งดงามบาดตา หากแต่แฝงไว้ด้วยพิษสง

"สวัสดีค่ะ คุณรามิล~ เด็ก ๆ อยู่ไหนกันคะ? พี่สาเอาของเล่นมาฝากเยอะแยะเลยนะคะ"

วารินหันไปมองหน้ามารดา ก่อนจะหันกลับมามองธัญรสาด้วยท่าทีลังเลเล็กน้อย ส่วนเมฆาวิ่งเข้าไปหาเธออย่างไม่ประสีประสา

"พ่อ คนนี้ใครฮะ เหมือนเมื่อวานจะโดนแม่ตบไปใช่ไหมฮะ"

ธัญรสาตาขุ่น แต่ก็กลบเกลื่อนไว้ด้วยรอยยิ้ม พร้อมย่อตัวลง ลูบศีรษะเด็กชายเบา ๆ ก่อนจะหันมาส่งยิ้มหวานให้ณิชชา ราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น "ป้าสาไงคะคนเก่ง  เพื่อนของคุณพ่อค่ะ เราเคยเจอกันแล้ว เมื่อวานนี้ป้าเข้าใจผิดกับแม่ของหนูนิดหน่อยเลยทะเลาะกัน แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วล่ะจ้ะ”

“จริงหรอฮับ ป้าสาไม่โกรธแม่ของเมฆหรอฮับ”

“ไม่โกรธจ้ะไม่โกรธ” พูดพลางเงยหน้ามองณิชชา “ขอโทษนะคะคุณณิชชา เมื่อวานฉันพูดจาไม่ดีเลย เพราะฉันร้อนใจที่รู้ว่าคุณรามิลพาผู้หญิงเข้ามาอยู่ในบ้าน เลยเผลออารมณ์ร้อนใส่ ที่คุณตบหน้าฉันก็สมควรแล้วล่ะค่ะ”

ณิชชาเหลือบตามองรามิลที่ยังคงนั่งเฉย ก่อนจะเหลือบมองธัญรสา แล้วพูดเสียงเรียบ

“ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ”

ภูผานั่งนิ่ง สีหน้าของเขาฉายแววไม่ไว้วางใจอย่างเห็นได้ชัด นัยน์ตาคมกริบจับจ้องมองธัญรสาอย่างระมัดระวัง

ธัญรสายิ้มหวาน เดินตรงเข้าไปหาวารินพร้อมกับกล่องของขวัญในมือ “นี่เป็นของขวัญจ้ะสาวน้อยของป้า รับไปสิจ๊ะ เป็นขนมอร่อยๆ ไปแบ่งกันกินกับน้องเมฆ พี่ภูนะคะ”

"คุณแม่ขา" เด็กหญิงหันไปหาณิชชา ส่งสายตาเว้าวอนขออนุญาตจากมารดา

"ขอบคุณสำหรับของขวัญนะคะ" ณิชชากล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะหันไปส่งยิ้มจาง ๆ ให้ลูกสาว "รับไว้สิลูก แล้วอย่าลืมขอบคุณป้าสาด้วยนะคะ"

“ขอบคุณค่ะป้าสา วาจะทานให้อร่อยเลยค่ะ” เด็กหญิงย่อตัวไหว้จนเข่าถึงพื้นแล้วรับกล่องมาด้วยรอยยิ้ม

ธัญรสาหัวเราะเบา ๆ อย่างเสแสร้ง เธอรู้ตัวดีว่าเมื่อนี้ทำผิดพลาดไปมาก...เธอไม่ควรแสดงท่าทางเกรี้ยวกราดชัดเจนจนดูเหมือนนางร้าย วันนี้เธอจึงแก้ไขใหม่ ด้วยการทำเหมือนเป็นคนรักเด็ก และเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอโทษณิชชาก่อน เธอมั่นใจว่าหากทำแบบนี้แล้วจะช่วยกู้คืนภาพลักษณ์นางฟ้าแสนดีในสายตาของรามิลได้สำเร็จ

"ดีจังเลยนะคะที่คุณณิชชายังอยู่ที่นี่ได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด ดูเหมือนคุณจะปรับตัวได้แล้วสินะคะ ใช่ไหมคะคุณรามิล"

ชายหนุ่มตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ โดยไม่แม้แต่จะหันมามองหน้าใคร "ตราบใดที่คุณณิชชายังเป็นแม่ของลูก ๆ ผม ผมก็ไม่มีเหตุผลที่จะไล่ไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณณิชชาจะมีสิทธิ์มีเสียงในทุกเรื่อง"

ประโยคนั้นเป็นเหมือนค้อนหนักที่ทุบลงบนหัวใจของณิชชาอีกครั้ง แต่เธอก็ยังคงสภาพใบหน้าเรียบเฉยไว้ ก่อนจะหันไปบอกลูก ๆ "ทานอาหารให้หมดนะคะ เดี๋ยวแม่จะไปล้างจานในครัว"

“อุ๊ย ! ล้างจานนั่นเป็นหน้าที่ของคนรับใช้ไม่ใช่หรือคะ” ธัญรสาเบิกกว้าง ทำท่าตกใจจนโอเวอร์ “คุณรามิลใช้งานคุณหนักเกินไปหรือเปล่าคะ”

“พอดีว่าฉันว่างน่ะค่ะเลยอยากทำ”

“ไม่จำเป็น” เสียงทุ้มตะคอกกลับ “อย่าทำให้ผมเสียหน้านะณิชชา เด็กๆ จะคิดยังไง หากคุณไปล้างจานงกๆ ในขณะที่เด็กๆ นั่งกินข้าวอยู่กับผม”

“ฉันอยู่ที่นี่ในฐานะแม่ของลูกเท่านั้นนี่คะ...”

“ใช่ ดังนั้นคุณควรรู้ด้วยว่าเวลาไหนควรทำอะไร นั่งลงแล้วกินข้าวซะ” เขาสั่งเหมือนเธอเป็นแค่มนุษย์ที่ไม่มีความรู้สึก

“นั่งสิฮับแม่ นั่งใกล้ๆ เมฆนี่” เมฆารีบลุกมาเลื่อนเก้าอี้ให้ผู้เป็นแม่ วารินตักชิ้นกุ้งทอดใส่จานให้แม่

“กินเยอะๆ นะคะแม่ แม่ชอบกินกุ้งมาก แต่กุ้งแพงเลยไม่ค่อยได้ซื้อกิน วายกกุ้งทั้งถ้วยนี้ให้แม่เลยค่ะ”

แม้ว่าหนูน้อยจะพูดด้วยความไร้เดียงสาและรักแม่ แต่ณิชชาก็ยังหน้าร้อนวูบด้วยความอาย เมื่อเหลือบไปเห็นสายตาขบขันของธัญรสา สัญชาตญาณความเป็นผู้หญิงด้วยกันทำให้เธอพอจะเดาออกว่าธัญรสาไม่ชอบเธอ และก็ไม่ชอบลูกของเธอด้วย ที่วันนี้มาทำดีด้วยก็คงเป็นเพราะเสแสร้งทั้งนั้น

“กินข้าวด้วยกันสิคุณสา” รามิลบอกกับคู่หมั้น

“อุ๊ย ไม่เป็นไรค่ะ พอดีสามีธุระด่วน แต่ผ่านบ้านคุณพอดี เลยเอาขนมมาให้เด็กๆ แล้วก็ขอโทษคุณณิชชาน่ะค่ะ เดี๋ยวฉันก็จะไปแล้ว”

“โอเค งั้นขับรถดีๆ ล่ะ”

“ค่ะ แล้วเจอกันใหม่นะคะ” ธัญรสายิ้มสดใส แต่เมื่อเดินออกมาที่ห้องโถง เจอแม่บ้านชื่อนารี เธอก็กระซิบบอกด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ

"อย่าลืมสิ่งที่ฉันเคยสั่งไว้ล่ะ หากมีโอกาสก็ช่วยทำให้คุณรามิลเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นไม่เหมาะสมที่จะดูแลเด็ก ๆ"

นารีก้มหน้ารับคำอย่างเงียบ ๆ

“เข้าใจแล้วค่ะคุณสา หากมีอะไรเดี๋ยวดิฉันจะโทรรายงานนะคะ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลูกแฝดสามของฉันคือความลับของท่านประธาน   เพียงคนเดียวที่เข้าใจ

    คืนนั้น ณิชชาแทบไม่ได้หลับเลย เธอนั่งเฝ้าลูก ๆ ที่เพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล นอนพักฟื้นอยู่ในห้องนอนส่วนตัว ร่างเล็ก ๆ ที่เพิ่งหายจากอาการป่วยยังดูอ่อนแรง หากแต่ก็ยังส่งยิ้มสดใสให้เธอเสมอ ราวกับต้องการบอกว่าพวกเขาไม่เป็นไรและไม่อยากให้เธอต้องเป็นห่วงหัวใจของคนเป็นแม่เจ็บปวดราวกับถูกกรีดเป็นริ้ว ๆ หากแต่ก็ไม่อาจเอ่ยคำใด หรืออธิบายความรู้สึกใด ๆ ให้ใครได้รับรู้เลย เธอทำได้เพียงกอดลูกๆไว้ และภาวนาให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปโดยเร็วเช้าวันถัดมา รามิลเดินเข้ามาในห้องอาหารด้วยสีหน้าเรียบนิ่งราวกับไร้อารมณ์ เขาไม่แม้แต่จะชายตามองเธอสักครั้ง ขณะที่ณิชชายกถาดอาหารเช้าไปวางตรงหน้าลูก ๆ“ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ผมจะให้แม่ครัวเป็นคนจัดเตรียมอาหารสำหรับเด็ก ๆ เอง คุณไม่จำเป็นต้องเข้ามาในครัวอีกต่อไป” เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ โดยไม่แม้แต่จะหันมามองหน้าเธอ“แต่ว่า…” ณิชชาพยายามจะค้านอย่างอ่อนแรง“อย่าได้คิดที่จะโต้แย้ง ผมไม่มีเวลามากพอที่จะมาเสี่ยงกับความสะเพร่าของใครบางคน” รามิลตัดบทอย่างเด็ดขาด น้ำเสียงของเขาเย็นชาและเฉียบขาดจนณิชชาไม่อาจโต้เถียงได้อีกถ้อยคำเหล่านั้นราวกับตอกย้ำว่าเธอเป็นเพียงค

  • ลูกแฝดสามของฉันคือความลับของท่านประธาน   เมื่อแฝดสามเข้าโรงพยาบาล !

    กลิ่นหอมหวานของขนมอบลอยคลุ้งไปทั่วห้องครัว ณิชชาบรรจงทำอาหารเช้าสำหรับลูก ๆ ทุกเช้าด้วยความใส่ใจ ราวกับเป็นกิจวัตรสำคัญที่ไม่อาจละเลย เธอผสมแป้งด้วยมือ คัดสรรวัตถุดิบทุกอย่างด้วยความระมัดระวังที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ในใจจะรู้ดีว่า ไม่มีใครในบ้านหลังนี้รับรู้ในความตั้งใจของเธอเลยก็ตามแต่สำหรับเด็ก ๆ แล้ว เธอปรารถนาให้ทุกคำที่พวกเขาได้ทานเข้าไป เปี่ยมไปด้วยความรักและความอบอุ่นจากผู้เป็นแม่“วันนี้แม่ทำเค้กกล้วยหอมด้วยนะลูก” เธอยิ้มละมุนขณะจัดขนมใส่จาน เตรียมเสิร์ฟพร้อมนมอุ่นหอมกรุ่นเด็กทั้งสามเดินลงมานั่งประจำที่ วารินส่งยิ้มหวานให้มารดา “วาอยากทานขนมฝีมือคุณแม่ทุกวันเลยค่ะ อร่อยที่สุดในโลก”“พี่ภูขออันที่กล้วยเยอะ ๆ นะฮะ เขาชอบกล้วย” เมฆาเอ่ยด้วยน้ำเสียงใสแจ๋วณิชชาหัวเราะเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู ก่อนจะจัดจานตามความต้องการของลูก ๆ อย่างใส่ใจ แล้วยกไปวางบนโต๊ะอาหารรามิลเดินเข้ามาในห้องอาหารพอดี นัยน์ตาคมกริบปรายมองอาหารเช้าบนโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจนัก เขาทิ้งตัวลงบนเก้าอี้อย่างเงียบ ๆ โดยไม่เอ่ยทักทายเด็ก ๆ หรือแม้แต่เธอ“เช้านี้ฉันทำเค้กกล้วยหอมค่ะ ไม่มีน้ำตาลมาก เด็ก ๆ จะได้ทานง่าย ๆ” ณิชชาอ

  • ลูกแฝดสามของฉันคือความลับของท่านประธาน   ความเย็นชาที่เธอได้รับ

    เช้าวันใหม่มาพร้อมกับอากาศเย็นสบาย หากแต่ในความรู้สึกของณิชชา กลับเหมือนต้องเดินอยู่ท่ามกลางหมอกหนา ความอึดอัดที่เกาะกุมหัวใจยังคงหนักอึ้ง เธอตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมนมกล่องและอาหารเช้าสำหรับลูก ๆ ด้วยความใส่ใจ แม้ในใจจะตระหนักดีถึงสถานะของตนเองในบ้านหลังนี้เสียงฝีเท้าหนักๆ ก้าวเข้ามาในห้องอาหาร รามิลปรากฏตัวในชุดสูทสีเทาเข้ม ใบหน้าคมคายเรียบนิ่งราวกับรูปสลักหินอ่อน"เด็ก ๆ ยังไม่ลงมาอีกหรือไง" เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบขณะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้หัวโต๊ะ"กำลังล้างมือกันอยู่ค่ะ เดี๋ยวก็มาแล้ว" ณิชชาตอบกลับด้วยน้ำเสียงสุภาพรามิลกวาดสายตาไปทั่วโต๊ะอาหาร ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา "นมต้องอุ่นให้ได้อุณหภูมิพอดี ไม่เกิน 38 องศาเซลเซียส อาหารว่างควรมีผลไม้สดเพื่อเพิ่มวิตามิน ไม่ใช่แค่ขนมปังอย่างเดียว นี่เป็นสิ่งที่คนเป็นแม่ควรใส่ใจ หากคิดจะทำหน้าที่แม่ของลูก ๆ ผม"ณิชชากล้ำกลืนความรู้สึกขุ่นเคืองลงไป พยักหน้ารับอย่างสงบเสงี่ยม เธอรู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะโต้แย้งใด ๆเด็ก ๆ วิ่งกรูเข้ามาในห้องอาหารด้วยท่าทีร่าเริง เมฆาเป็นคนแรกที่ส่งเสียงใส "คุณพ่ออออ"รามิลยกมือขึ้นลูบศีรษะลูกชายคนเล็ก "

  • ลูกแฝดสามของฉันคือความลับของท่านประธาน   อดีตสามีใจร้าย !

    หลังจากเหวี่ยงเธอเข้าไปในห้องแล้ว เขาก็ปิดประตูตามหลังดวงตาสีดำสนิทจับจ้องมองร่างบางที่เซถลาจนเกือบล้ม“นี่คุณ...ทำไมต้องรุนแรงกันด้วย” เธอตวาด“คุณเองก็ชอบไม่ใช่หรือไง ความรุนแรงน่ะ”“หมายความว่ายังไง”“เหอะ ! เมื่อกี้คุณตบสาทำไม”“สา ?” คิ้วเรียวขมวด “อ๋อ คงหมายถึงผู้หญิงที่มาแว้ดๆ ใส่ เหมือนฉันเป็นแค่ขยะเปียกนั่นน่ะเหรอคะ”“คุณพูดเกินไป สาไม่ได้พูดสักคำว่าคุณเป็นขยะ”“ค่ะ ไม่พูด แต่ทั้งน้ำเสียงทั้งแววตา มันก็แปลว่าฉันกับลูกเป็นขยะนั่นแหละค่ะ”“คุณคิดไปเอง สาเป็นคู่หมั้นผม ก็อาจจะมีบ้างที่ไม่พอใจที่อยู่ๆ ผมก็พาลูกกับผู้หญิงที่ผมเคยนอนด้วยมาอยู่ด้วยกันที่บ้าน ไม่มีผู้หญิงคนไหนพอใจหรอกนะ แต่สาเป็นคนมีเหตุผล ถ้าให้เวลาเขาสักระยะ สาจะเข้าใจ”“อ๋อค่ะ แฟนคุณเป็นแม่พระแสนดี ส่วนฉันเป็นนางมารร้ายสินะคะ” คำพูดของเธอแฝงแววเหยียดหยัน“คุณนี่มีนิสัยชอบคิดไปเองจริงๆ นั่นแหละ” ชายหนุ่มสบถ ขบกรามจนขึ้นสัน“เอาล่ะ เลิกยืดเยื้อเถอะค่ะ แล้วพูดมาตรงๆ จะบ่นจะว่าอะไรฉัน”“คุณไม่ควรตบสา”“แล้วการที่ผู้หญิงคนนั้นมาพูดจาเปรตๆ ต่อหน้าเด็ก มันเป็นเรื่องดีงั้นเหรอคะ ลูกฉันถึงจะยังเด็ก แต่เขาก็เริ่มรู้ความแล้

  • ลูกแฝดสามของฉันคือความลับของท่านประธาน   ร้ายมา...ฉันตบกลับ

    เช้าวันรุ่งขึ้น รามิลพาเด็ก ๆ ออกไปเที่ยวสวนสนุกตามสัญญา ทิ้งให้ณิชชาอยู่คฤหาสน์ตามลำพัง ความรู้สึกเดียวที่ครอบงำเธอคือความไม่สบายใจและความหวาดระแวง ถ้าไม่ใช่เพราะเธอกลัวว่าลูกจะโดนรามิลพรากไป เธอคงไม่มีวันพาเด็กๆ มาอยู่ในที่ที่น่าอึดอัดขนาดนี้ ถึงแม้ว่าหากไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ลูกจะเป็นสิทธิ์ของแม่เพียงคนเดียวก็ตาม แต่เธอรู้ทันผู้ชายอย่างเขาดี เขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ลูกไปแน่ และที่สำคัญ...ลูกเป็นสายเลือดของเขา และในคืนนั้นเมื่อห้าปีก่อน เขาก็ทำผิดต่อเธอจริงๆ ดังนั้นลูกก็ควรได้รับสิ่งที่ควรจะได้ เธอไม่คิดจะปิดโอกาสของลูกเมื่อกลับมาในตอนเย็น เด็ก ๆ เล่าถึงความสนุกสนานให้ณิชชาฟังอย่างตื่นเต้น ดวงตาของพวกเขาเป็นประกาย"คุณพ่อใจดีมากเลยฮับ!" เมฆากล่าว"ใช่ค่ะ คุณพ่อซื้อของเล่นให้พวกเราด้วยล่ะ" วารินเสริมภูผาพยักหน้า "ครับ ภูก็ได้ของเล่นเหมือนกัน"ณิชชามองลูก ๆ ด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน เธอไม่รู้ว่าควรจะดีใจที่ลูก ๆ มีความสุข หรือกังวลกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นกันแน่ในขณะนั้นเอง ธัญรสาก็ปรากฏตัวที่คฤหาสน์ด้วยสีหน้าที่บึ้งตึง เมื่อเห็นภาพพ่อลูกที่ดูสนิทสนมกัน หญิงสาวได้เดิ

  • ลูกแฝดสามของฉันคือความลับของท่านประธาน   ความไร้เดียงสาของสามแฝด

    เมื่อณิชชาเดินเข้าไปในห้องทำงานใหญ่โต รามิลนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน ดวงตาคมกริบจ้องมองมาที่เธออย่างอ่านไม่ออก"เชิญนั่ง" ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้นณิชชาทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามอย่างระมัดระวัง "ท่านประธานมีอะไรจะคุยกับฉันหรือคะ"“เลิกเรียกฉันว่าท่านประธานเถอะ ผมไม่ใช่เจ้านายของคุณแล้ว”หญิงสาวเม้มปากแน่น ก่อนจะตอบกลับ “ค่ะ คุณรามิลจะคุยอะไรคะ”"เรื่องลูก ๆ พวกเขาต้องได้รับการดูแลที่ดีที่สุด""ฉันก็ดูแลลูก ๆ ของฉันอย่างดีที่สุดมาตลอดห้าปี" ณิชชาตอบโต้ด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง"ผมจะ..." เขาพูดไม่ทันจบ เธอก็พูดสวน“ฉันพาลูกๆ มาอยู่ที่นี่ก็ถือว่าฉันยอมคุณมากแล้วนะคะ อย่าคิดทำอะไรให้มากนักเลย”“คุณรู้เหรอว่าผมจะพูดอะไร” คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูงข้างหนึ่ง“ฉันเคยทำงานกับคุณ รู้จักคุณดี พูดง่ายๆ ก็คือรู้ไส้คุณค่ะ คุณคงคิดว่าฉันคือภาระ ส่วนเด็กๆ น่ะ คุณอยากจะให้เขาเป็นคุณชายคุณหนู ของเล่นกองเท่าภูเขา ขนมของกินมากมาย กินทิ้งกินขว้างยังไงก็ไม่มีวันหมด

  • ลูกแฝดสามของฉันคือความลับของท่านประธาน   ใต้ชายคาไร้ใจ

    ณิชชานั่งกุมมือตัวเองแน่น ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความสับสนและความกังวล เธอไม่รู้ว่าควรจะเชื่อใจคำพูดของรามิลได้มากน้อยแค่ไหน แต่สิ่งที่ทนายพูดถึงเรื่องกฎหมายก็ทำให้เธออดหวั่นใจไม่ได้"คุณณิชชาครับ คุณรามิลต้องการที่จะให้โอกาสเด็ก ๆ ได้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุด ท่านสามารถมอบทุกสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ ทั้งการศึกษาที่ดี สังคมที่ดี และชีวิตที่สุขสบาย ดังนั้นพาลูกๆ ไปอยู่ที่บ้านพ่อของพวกเขาเถอะนะครับ" ทนายวรุตม์โน้มน้าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลหญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตากับรามิล แววตาของเขาในตอนนี้ไม่ได้แข็งกระด้างเหมือนเช่นเคย กลับฉายแววของความจริงจังและความปรารถนาบางอย่างที่เธออ่านไม่ออก"แล้วฉันล่ะคะ?" ณิชชาถามเสียงเบา "ฉันต้องอยู่ที่นั่นในฐานะอะไร?""คุณก็คือแม่ของลูก ๆ ของผม" รามิลตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ "คุณจะได้รับการเคารพและดูแลอย่างดีที่สุด ผมจะไม่ก้าวก่ายเรื่องการเลี้ยงดูเด็ก ๆ ของคุณ""คำพูดของคุณ ฉันจะเชื่อได้แค่ไหน" ณิชชาถามด้วยความไม่ไว้วางใจ"ผมรู้ว่าผมเคยทำลายความเชื่อใจของคุณ" รามิลตอบอย่างตรงไปตรงมา "แต่ผมหวังว่าเวลาและการกระทำของผมจะสามารถทำให้คุณเห็นความจริงใจของผมได้"ณิ

  • ลูกแฝดสามของฉันคือความลับของท่านประธาน   วันนี้ฉันไม่ต้องการคุณแล้ว

    "ลูก ๆ ของฉันมีความสุขดีอยู่แล้ว พวกเขาไม่ต้องการพ่อที่ไม่เคยมีตัวตนในชีวิตของพวกเขามาตลอดห้าปี" ณิชชาตอบโต้ทันที"แต่พวกเขาควรจะมีพ่อ และผมต้องการที่จะเป็นพ่อคนนั้น ผมอยากจะชดเชยเวลาที่ผมเสียไป ผมอยากที่จะ...""มันสายเกินไปแล้วค่ะ ท่านประธาน มันสายเกินไปมากแล้ว" ณิชชาตอบเสียงเด็ดขาด"ไม่สายเกินไปหรอก ถ้าคุณเปิดใจให้ผม ถ้าคุณให้โอกาสผมได้พิสูจน์ตัวเอง" รามิลยังคงยืนกราน"ฉันไม่เชื่อใจคุณ" หญิงสาวตอบตรง ๆ"ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็น ผมสัญญา"ทนายวรุตม์ก้าวเข้ามาพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่แฝงไปด้วยความกดดัน "คุณณิชชาครับ คุณรามิลต้องการที่จะพูดคุยถึงเรื่องการดูแลบุตรอย่างเป็นทางการ ท่านหวังว่าจะสามารถตกลงกันด้วยดีโดยไม่ต้องถึงศาล ท่านต้องการที่จะให้เด็ก ๆ ได้รับการเลี้ยงดูที่ดีที่สุด และท่านก็ยินดีที่จะให้คุณเป็นผู้ดูแลหลัก โดยที่คุณจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากคุณรามิล""คุณหมายความว่ายังไง" ณิชชาถามด้วยความสับสนระคนสงสัย"คุณรามิลต้องการที่จะสนับสนุนทางการเงินและการศึกษาของเด็ก ๆ อย่างเต็มที่ และท่านก็เคารพการตัดสินใจของคุณในการเลี้ยงดูพวกเขา ท่านเพียงแต่ต้องการที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในชีวิ

  • ลูกแฝดสามของฉันคือความลับของท่านประธาน   ต้องการสิทธิ์ความเป็นพ่อ

    บทที่ 5เช้าวันรุ่งขึ้น รามิลเดินทางไปยังร้าน ‘บ้านขนม ณิชชา’ อีกครั้ง ข้างกายเขามีทนายวรุตม์ยืนอยู่ด้วยท่าทีสุภาพ ราวกับเป็นเงาที่คอยสนับสนุนความต้องการของเจ้านายเมื่อรามิลก้าวเข้าไปในร้าน กลิ่นหอมหวานของขนมอบไม่ได้ทำให้บรรยากาศตึงเครียดลดลง ณิชชาก็ชะงักมือจากการจัดขนม ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความระแวงและไม่พอใจที่เห็นใบหน้าของผู้ชายที่เธอพยายามลืมเลือน ภูผามองหน้าชายแปลกหน้าด้วยความระมัดระวัง วารินจ้องมองด้วยความขี้สงสัย ส่วนเมฆาเกาะขาแม่แน่นด้วยท่าทีงอแง"ท่านประธาน คุณมาทำไมอีก หรือว่ายังอยากจะทำลายชีวิตของฉันอีกค " ณิชชาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา พยายามรักษาระยะห่างจากเขารามิลรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าด้วยคำพูดนั้น "ผมมาที่นี่เพื่อคุยกับคุณ...เรื่องลูกของเรา""ลูกของฉันค่ะ! พวกเขาเป็นชีวิตของฉัน เป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันมี คุณไม่มีสิทธิ์มาเรียกพวกเขาว่า ลูกของเรา" ณิชชาตอบโต้ทันที น้ำเสียงของเธอแข็งกร้าว"ณิชชา...ผมรู้ความจริงแล้ว" รามิลกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ต่ำลง "ผลตรวจ DNA ยืนยันแล้ว ผมคือพ่อของภูผา วาริน และเมฆา" ในเวลาที่พูด เขาได้หลุบตาลงมองเด็กๆ ทั้งสามคน...ไม่ใช่แค่เพียงภูผาที่หน้าตา

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status