"แล้วหนูมุกละครับ?" อลันถามไปอย่างนั้น แต่เมื่อกี้นี้เขาเห็นเธอตั้งแต่รถเลี้ยวเข้ามาแล้วว่าเธอยืนอยู่หน้าบ้าน แว็บแรกเขาดีใจคิดว่าเธอออกมายืนรอรับเขา แต่แล้วจู่ๆ เธอก็วิ่งกลับเข้าบ้านไปทันที เฮ้ย!
"สงสัยจะลืมของเห็นบอกว่ามีธุระสำคัญต้องออกไปข้างนอก...วิ่งขึ้นห้องไปแล้ว" เอกวุฒิเลือกที่จะตอบและให้อีกเหตุผลอื่นไป แต่ทั้งสองต่างก็เข้าใจในการกระทำของหนูมุกดี อลันขมวดคิ้วทันทีและขอตัวไปหาต้นเหตุของการมาเมืองไทยครั้งนี้
แกร๊ก...แกร๊ก หนูมุกหันไปมองตามเสียงลูกบิดประตูทันที และไม่ทันที่เธอจะวิ่งไปยับยั้งประตูก็ถูกผลักเข้ามา พร้อมกับที่อลันเดินผ่านประตูเข้ามาและปิดประตูลงพร้อมกับยืนขวางประตูด้วยรอยยิ้ม และโชว์พวงกุญแจที่เกี่ยวไว้กับนิ้วและควงเล่นอย่างท้าทายหญิงสาวตรงหน้า อลันคาดไว้อยู่แล้วว่าหนูมุกต้องล็อคห้องจึงแวะไปหยิบกุญแจก่อน
หนูมุกมองภาพนั้นอย่างไม่ชอบใจแต่ก็ไม่โวยวายอะไร อลันจ้องตาเธอและไล่ลงมาที่จมูกปากและรูปร่างที่สมส่วนเอวคอดสะโพกกลมงอน ขาเล็กเรียวยาวภายใต้กางเกงยีนส์สีซีดเข้ารูปนั้น สามปีแล้วที่เขาไม่ได้เจอและได้ยินเสียงเธอแบบตรงๆ มีแต่ภาพแอบถ่ายในกิจกรรมต่างๆ ของเธอจากลูกน้องของพ่อที่เขาขอให้ส่งมาคอยติดตามดูแลเธออยู่ห่างๆ อลันยังยืนอยู่ที่เดิม ทั้งๆ ที่ใจอยากจะดึงร่างบางเข้ามากอดและทำอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย แต่เขาก็ต้องยับยั้งช่างใจไว้ เพราะตอนนี้หญิงสาวตรงหน้าดูจากท่าทางและแววตาตอนนี้แล้วเธอคงยอมเขาหรอกนะ แต่เขาก็ใช่ว่าจะยอมแพ้
"คิดถึงจัง" หนูมุกหลี่ตามองผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่วางใจ กับคำทักทายที่พึ่งเข้าหูไปหมาดๆ
จะมาไม้ไหน หนูมุกคิดในใจ เข้มแข็งไว้ หนูมุกเธอตอกย้ำเตือนสติของตัวเอง ความรู้สึกที่ได้รับเมื่อสามปีก่อนเธอไม่เคยลืม 'จูบแรก' เขาได้จูบแรกของเธอไปแล้ว หลังจากนั้นสิ่งที่เธอได้รับตอบแทนคือความห่างเหินหลบหน้า หนูมุกยอมรับว่าเสียใจเป็นอย่างมาก หลังจากคืนนั้นเมื่อสามปีก่อนที่เขาสอนให้เธอรู้จักสิ่งที่เรียกว่า 'จูบ' เขาทำกันอย่างไรและเขาก็ขอตัวออกไปทำงาน
หนูมุกยังจำความรู้สึกนั้นได้ว่ามันเป็นอย่างไร เธอทั้งตกใจและตื่นเต้นอย่างที่สุดเป็นประสบการณ์ใหม่แต่ก็ทำให้เธอรู้สึกดี เพราะคนที่ให้ประสบการณ์นี้คือชายที่เธอทั้งรักและบูชาเป็นที่สุด คืนนั้นกว่าเธอจะหลับลงได้ก็ผ่านไปหลายชั่วโมง พี่อลันก็ยังไม่กลับมาจนเธอเผลอหลับไปและมาตื่นในตอนเช้าไร้ซึ่งเงาและร่องรอยการกลับเข้ามานอนของอลัน
แต่นั่นหนูมุกยังไม่ได้รู้สึกแย่แต่อย่างใด มันหลังจากนั้นต่างหากที่เขาให้เธอกลับประเทศไทยพร้อมคุณพ่อคุณแม่ และตลอดเวลาที่เหลืออยู่ที่นั่นเธอมั่นใจเลยว่าพี่อลันหลบหน้าเธอ เขาไม่กลับมานอนที่บ้านอ้างว่าต้องทำงานจะกลับมาเฉพาะเวลาทานมื้อเช้ากับมื้อเย็นเท่านั้น และบอกแต่เพียงว่าต้องกลับไปดูงาน การกระทำแบบนั้นของเขาทำให้หนูมุกรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าที่สุด
หลังจากที่เธอกลับมาเมืองไทยครั้งนั้น เธอก็พยายามที่จะใช้ชีวิตให้เป็นปกติทั้งในด้านความรู้สึกและกิจวัตรที่ตลอดสิบเจ็ดปี พี่อลันจะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจกับเธอทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องเรียนที่บางอย่างที่เธอไม่เข้าใจก็จะถามเขาตลอด แม้จะห่างกันคนละทวีปแต่ก็เหมือนอยู่ใกล้กัน อลันจะมีเวลาให้กับเธอทุกครั้งยามที่เธอต้องการเขา พี่อลันของหนูมุก
อลันสังเกตว่าเหมือนหนูมุกเหม่อๆ กำลังตกอยู่ในภวังค์คิดอะไรอยู่ ก็เลยค่อยๆ ขยับเดินเข้าไปหา แต่แค่เพียงก้าวที่สองหนูมุกได้สติกลับมา พร้อมถอยห่างเขาไปสองก้าวทันทีเพื่อรักษาระยะห่างไว้ อลันหยุดการลุกล้ำและจ้องมองเข้าไปในดวงตานั้นอย่างท้าทาย
หนูมุกก็ไม่ยอมแพ้เมื่อเจอสายตาท้าทาย ถ้าหลบตาก็จะหาว่าเธอกลัว อลันก้าวเข้าไปหาหนูมุกอีกหนึ่งก้าวและเป็นไปตามที่คาด หนูมุกถอยหนึ่งก้าว แต่ก็ไม่ยอมละสายตาจากกันและกัน และเหมือนเดิมอลันทำเหมือนเดิมหนูมุกก็สนองกลับเหมือนเดิม อลันยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากตามเอกลักษณ์นิสัยของเขาที่ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้
หนูมุกเอะใจกับรอยยิ้มนั้น แต่ช้าไปแล้วเมื่อคราวนี้อลันเปลี่ยนเป็นก้าวยาวๆ และเร็วขึ้น หนูมุกตกใจถอยหลังแต่ได้แค่เพียงก้าวเดียวเธอก็หงายหลังลงสู่พื้นผิวผ้าปูที่นอนที่เก็บเรียบร้อยแล้วนั้นทันที
"ว้าย!!!!" หนูมุกร้องออกมาด้วยความตกใจ และร้องออกมาอีกครั้งเมื่อเขาตามลงมาใช้ทั้งแขนขากำยำรวมถึงตัวเขาทั้งตัวกักขังตัวเธอไว้ใต้ร่างเขาตาจ้องตากันโดยที่ใบหน้าห่างกันแค่หายใจรดกัน อลันลดสายตาลงมามองที่ปากบางสีชมพูอ่อนๆ ด้วยลิปสติกบางๆ เขาค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ด้วยวัตถุประสงค์เดียวที่ตลอดสามปีมานี้ต้องหักห้ามใจ ทั้งๆที่โหยหาเป็นที่สุด
"อืม!...ปล่อยนะ" ประโยคแรกในรอบสามปีที่หนูมุกพูดกับเขา เพื่อมาขวางกั้นการบรรลุวัตถุประสงค์ของเขา
"ยอมพูดออกมาจนได้" หนูมุกเสมองไปทางอื่นทันที เพราะตอนนี้ผิวหน้าอมชมพูของเธอแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด เพราะเสียงกระซิบที่ตอบกลับมานั้นห่างริมฝีปากเธอแค่มดวิ่งผ่านได้เท่านั้น หนูมุกเม้มปากแน่นตามสัญชาติญาณโดยทันทีพร้อมกับกลั้นหายใจไว้
"โอ้ย!...มุกไม่สู้แล้ว...คนบ้า!...ปล่อยเค้านะ" หนูมุกร้องโวยวายอย่างโมโห เพราะเธอรู้ว่าการแข่งขันครั้งนี้ไม่มีทางจบอย่างสวยงามแน่นอน และถ้าขืนเธอยังดันทุรันสู้ต่อไปก็มีแต่จะขาดทุน "ยอมแพ้ก่อนสิ...พี่ถึงจะปล่อย" อลันที่ยังคงรัดวงแขนไม่ยอมปล่อย หนูมุกให้เป็นอิสระ และยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้กับแก้มใสที่แดงขึ้นเรื่อยๆ "เอาหน้าออกไปเลยนะ!..." หนูมุกพยายามหลบใบหน้าที่หวังจะเข้ามาหอมแก้มเธออีกครั้งต่อหน้าสายตาหลายคู่ของคนทั้งห้องนอกจากแอลแล้วไม่มีใครฟังบทสนทนาของหนูมุกกับอลันรู้เรื่อง เพราะตลอดเวลาทั้งคู่พูดคุยกันด้วยภาษาไทย "หืม?..." อลันย้ำถามด้วยเสียงในคอ "ก็ได้!...มุกแพ้แล้ว...ปล่อยได้แล้ว" หนูมุกพูดและขยับตัวเพื่อต้องการอิสระ อลันยิ้มอย่างพึงพอใจและกำลังจะปล่อยร่างเล็กให้เป็
"ไม่ได้" อลันตอบกลับพร้อมกับคว้าแขนหนูมุกทันที "อุ้ย!...ปล่อยนะ..." หนูมุกที่ตั้งรับไม่ทันกับการจู่โจมของอลัน เธอพยายามขัดขืนดึงแขนออกจากมือใหญ่พร้อมกับร้องโวยวาย และเมื่อสายตามองหาตัวช่วย เธอกลับไม่เห็นแม้แต่เงาของใครเลย อลันที่เริ่มรำคาญกับความพยศของหนูมุกเขาช้อนตัวหนูมุกกลายเป็นว่าหนูมุกอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างรวดเร็ว "หยุดดิ้นได้แล้ว...เดี๋ยวก็ได้ตกบันได...แข้งขาหักกันทั้งคู่หรอก" อลันที่อุ้มตัวหนูมุกเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง "ก็ปล่อยมุกสิ..." "เรานี้นะ...มันน่าจับกดให้จมเตียงสักสองวันสองคืน...อยากรู้นักว่ายังจะมีแรงแผลงฤทธิ์ได้อีกมั้ย" "บ้า!...คนลามก...อย่าคิดทำอะไรมุกนะ...มุกจะฟ้องคุณแม่หนูนาด้วย" หนูมุกรู้ดีคนที่
"พอดีผมมาทำธุระด่วนนะครับ" "ธุระด่วน!...อะไรคะ...บอกฉัตรได้มั้ย?" "ผมมารับเจ้าสาวของผมนะครับ" อลันตอบด้วยเสียงราบเรียบ แต่ทำให้คนฟังตรงหน้าเขาถึงกับอึ้ง! นิ่งไปแล้วและรวมถึงคนที่หลบอยู่ด้านหลังเขาด้วยที่ตกใจไม่แพ้กันกับคำตอบของพี่ชายท้องชนกัน "เอ่อ!...นะ...ไหนคะ?" ปกฉัตรที่เข้าสู่ภาวะช็อคก็ยังมีกำลังที่พยายามจะถามออกไปด้วยความอยากรู้ "นี่ครับ!" อลันพูดพร้อมกับคว้าร่างบางที่อยู่ในอาการตกใจเข้ามาไว้ในอ้อมแขนเบียดสีข้างของทั้งคู่ไว้แน่น หนูมุกที่ยังอยู่ในภาวะอึ้งๆ งงๆ ก็หันไปมองผู้หญิงตรงหน้าที่มองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแต่ก่อนที่คนที่สำรวจเธอจะได้ทันพูดอะไร... "ขอตัวก่อนครับ!" อลันพูดตัดบทและเดินต่อไปโดยที่มีหนูมุกขยับเด
เพื่อให้มาตอบสนองความต้องการของเธอและเขาเอง ก็ไม่โง่ที่จะเอาเรื่องของเธอไปป่าวประกาศ เพราะถ้าเขาหาวิธีจัดการกับเธอถูกวิธีก็เป็นการเดินหน้าทางธุรกิจได้อีกมาก "พี่ไม่ห้ามอดัมหรอกเรื่องของคริสติน่า...เพราะพี่รู้ว่าอดัมสามารถจัดการได้อยู่แล้ว...ข้อดีของคริสติน่าคือเธอจะไม่ติดตามนายแน่นอน..." อลันวางสายหลังจากที่คุยกับอดัมเป็นที่เข้าใจ และเขาก็ไม่คิดว่าจะต้องมีปัญหา เพราะอดัมมีอะไรในตัวมากมายเกินกว่าที่คนวัยเดียวกันจะมีสาเหตุและเหตุผลในความสามารถของอดัมนั้นคนในครอบครัวทุกคนจะรู้ดี ไม่งั้นอายุเพียงยี่สิบปีอดัมสามารถเข้ารับตำแหน่งเป็นหัวหน้าแก้งมาเฟียคุมคนที่อยู่วงการนี้มานานกว่าอายุเขากับอดัมรวมกันเสียอีกณ สนามบิน ภูเก็ต : "สวัสดีครับคุณอาวุฒิ" เอกวุฒิหันไปตามเสียงทักทาย "อ้าว...คุณเขตต์...เป็นไงมาไงครับ" เอกวุฒิทักกลับผู้ที่อ่อนวัยกว่า "ผมมาท
หนูมุกกับความรู้สึกจะเรียกว่าใหม่ก็คงจะไม่ใช่ แต่ทุกครั้งที่ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นมันทำให้หัวใจของเธอพองโตร่างกายของเธอเรียกร้องหามัน และเมื่อลิ้นของอลันเข้ามาอยู่ในโพรงปากเธอ มันกลับทำให้เธอรู้สึกอยากจะกักเก็บลิ้นของเขาไว้และให้เขาหยอกล้อเธอแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่อยากให้มันจบลงเลย อลันรู้สึกถึงการตอบสนองกลับของหนูมุก ใจหนึ่งเขาอยากจะหยุดเพราะเส้นแบ่งของเวลาที่คอยแต่จะร้องเตือนเขาขยายวงกว้างมากขึ้นว่ายังไม่ใช่เวลานี้ แต่อีกความรู้สึกที่ตีตื้นเข้ามาคือเรียกร้องให้เขา 'อย่า'หยุด แม้แต่หนูมุกเองตอนนี้เธอจะรู้ตัวมั้ยว่าเธอกำลังเรียกร้องว่า 'อย่า'หยุดเช่นกัน เพราะร่างกายเธอตอบสนองเขาอย่างอัตโนมัติ แขนเล็กที่โอบคอเขานั้นรัดแน่นดั่งกับว่าถ้าเธอเผลอหรือคลายอ้อมแขนแล้วเขาจะหายไป จึงทำให้อดัมยังคงสานต่อการดื่มกลืนกิน น้ำผึ้งในโพรงปากหวานละมุนอย่างต่อเนื่อง สองมือใหญ่ของอลันเลื่อนลงมาเรื่อยๆ เขาล้วงมือเข้าไปในเสื้อ เพื่อต้องการพบเจอกับบาง
"เชิญสุภาพสตรีก่อนครับ" อลันตอบกลับมาพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม หนูมุกมองรอยยิ้มนั้นแล้วทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ อย่างไงไม่รู้ อลันยืนกอดอกมองหนูมุกเตรียมพร้อม ใส่ผ้ากันไฟและหมวกกันน๊อคและเข้าไปในรถรอสัญญาณ เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อสัญญาณออกตัว รถคันดังกล่าวก็พุ่งตัวอย่างรวดเร็ว การแข่งครั้งนี้จะวิ่งเพียงแค่สามรอบและใครทำเวลาได้ดีที่สุดและแน่นอนหนูมุกจะต้องมีเวลาต่ำกว่าอลันมากกว่าสองนาทีเธอถึงจะชนะ อลันเมื่อเห็นว่ารถของหนูมุกใกล้มาถึงจะครบรอบ เขาขยับเดินไปใกล้ให้อยู่ในระยะที่หนูมุกขับผ่านและจะต้องเห็นเขา "พี่อลัน!...เป็นอะไรครับ" นายเติ้ลเพื่อนของปิ่นมุกเสียงดังขึ้นมา เมื่อจู่ๆ อลันก็ล้มลงเข่าชันกับพื้นข้างหนึ่งฝ่ามือข้างหนึ่งยันพื้นไว้ส่วนมืออีกข้างก็กดเข้ากับหน้าท้องของตัวเอง แอลเองก็รีบเข้าไปพยุงอลันแต่ก็ยังช้ากว่าอลันที่เข่าเขาลงถึงพื้นแล้ว