นิ้วเรียวยาวได้ทีก็แทรกสอดผ่านเข้าไปภายในจนมิด ภัทรพิชาพยายามหนีบเกร็งขาขัดขืนเอาไว้แล้ว แต่มีหรือที่เธอจะสู้เรี่ยวแรงของเขาได้ เขายังคงขยับนิ้วมือเข้าออก ส่วนหัวแม่โป้งก็จัดการบี้คลึงลงไปบนเม็ดติ่งเกสรจนภัทรพิชาเกิดความรู้สึกบางอย่าง
"ยะ อย่านะคุณชิน อย่าทำแบบนั้น"
"ไม่ต้องแกล้งทำเป็นห้ามหรอกไพน์ ฉันรู้หรอกน่าว่าเธอน่ะอยากให้ฉันทำ"
"มะ ไม่จริงนะ ไพน์ไม่เคยคิดแบบนั้น อื้อ"
"งั้นเหรอ ถ้าอย่างงั้นเราก็ลองมาดูกันหน่อยว่าสิ่งที่เธอพูดกับสิ่งที่ฉันพูดนั้น แบบไหนมันจริงกว่ากัน"
แล้วน้ำเสียงคัดค้านที่แสนจะแผ่วเบาก็ค่อยหลุดหายจากไปจากริมฝีปากของภัทรพิชา หากแต่กลับเป็นเสียงหลุดครางแทบจะตลอดเวลาแทนยามที่นิ้วมือของชีวินกระทำการรุกรานรังแกเธอต่อ ชุดนอนตัวสั้นโดนถกขึ้นมาจากบริเวณเอวคอดก่อนที่จะถูกปลดออกไปทางศรีษะทันที หลังจากที่ตกอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ร่างงามที่โดนทาบทับจนเผยให้เห็นเนินเนื้อผิวขาวเนียนนั้นก็ได้แต่บิดดิ้นหนีจากการระรานของคนที่กำลังเป็นต่อเธออย่างไม่สามารถหลบหลีกได้
"คุณชิน พะ พอแล้วค่ะ"
"อย่ามา ที่ทำเป็นดิ้นเนี่ย คงเพื่ออยากที่จะเรียกร้องความสนใจจากฉันอีกล่ะสิ มารยาร้อยล้านเล่มเกวียนที่แม่ของเธอสอนมา จงอย่าได้คิดที่จะเอามาใช้กับฉันเด็ดขาด"
"ไม่ใช่นะคะคุณชิน คุณกำลังเข้าใจไพน์ผิด"
"ใส่อ่อยมายั่วขนาดนี้ ใครเชื่อก็บ้าแล้วไพน์"
ชีวินยังคงคร่อมทับร่างเธอเอาไว้ในขณะที่เขาลุกขึ้นยืนเพื่อจะปลดเข็มขัด จังหวะนั้นภัทรพิชาคิดว่ามันน่าจะเป็นทางรอดของเธอได้ จึงรีบลุกขึ้นจากเตียงนอนแล้วตั้งใจจะวิ่ง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอขาสั้นหรือว่าชีวินนั้นมือยาวขายาว เพียงแค่เธอลุกทำท่าจะก้าวขาเท่านั้นก็ถูกเขาตามมาตะครุบตัวเธอเอาไว้ จนทั้งสองร่างที่ต่างกำลังเปลือยเปล่าล้มลงไปบนที่นอนอีกครั้ง
"ว้าย ปล่อยไพน์นะคุณชิน"
"นี่เธอจะหยุดแล้วเลิกแสดงละครทำทีว่าเป็นเล่นตัวเพื่อใช้หลอกล่อผู้ชายได้หรือยัง ฉันก็กำลังจะสนองความต้องการของเธอให้อยู่แล้วนี่ไง เลิกทำเป็นแกล้งวิ่งหนี แล้วมานอนอ้าขาของเธอให้ฉันได้แล้ว! "
เพียะ!
เสียงตบจากมือเล็กที่กระทบเข้ากับแก้มสากของใบหน้าหล่อนั้นแรงพอที่จะทำให้ชีวินหยุดชะงักได้ แต่เพียงแค่ไม่ถึงเสี้ยววินาทีเขาก็พุ่งตรงเข้าหา ใช้มือบีบจับแก้มทั้งสองข้างของภัทรพิชาเอาไว้แล้วกระแทกริมฝีปากลงมาเต็มแรงจนเธอร้อง
"อื้อ"
"ชอบซาดิสม์ก็ไม่บอก"
น้ำตาเม็ดโตยังคงไหลฉ่ำลงมาที่สองข้างแก้มอย่างไม่ขาดสาย ราวกับว่าเรี่ยวแรงที่มีนั้นกำลังหมดไปยามที่เขาบังคับบีบแก้มของเธอเพื่อเปิดทางสะดวกให้กับลิ้นร้ายของเขาได้รุกล้ำเข้ามาภายในโพรงปากงาม
ชีวินบังคับจูบเธออย่างบ้าระห่ำ มือข้างที่ว่างอีกข้างบีบมาที่หน้าอกคู่งามอย่างเต็มไม้เต็มมือก่อนจะเค้นคลึงมันเล่น ยามใดที่เขาสะกิดเขี่ยวนตรงเม็ดจุก ยามนั้นภัทรพิชาก็อ่อนเปลี้ยเพลียแรงจนต้องหลุดครางออกมาเสียงหวาน ก่อนจะถูกฝ่ามือใหญ่เลื้อยตรงลงไปยังเป้าหมายด้านล่างที่เขามาดหมายอีกครา
อีกครั้ง เพียงแค่ปลายนิ้วของเขาสัมผัสลงไปบนพื้นที่ไวต่อความรู้สึก ภัทรพิชาก็หดงอขาขึ้นมาแนบชิดกับลำตัวเอาไว้เพื่อปิดบังการรุกราน แต่แรงของชีวินที่มีมากกว่านั้นทำให้เขายังคงสามารถแตะต้องตัวตนที่ภัทรพิชาพยายามปิดบังเอาไว้ต่ออีกจนได้ จนกระทั่งนิ้วร้ายได้สอดลึกผ่านร่องความอุ่นชื้นเข้าไปภายใน แน่นอนว่าสิ่งที่ภัทรพิชาทำได้คือเพียงปล่อยให้น้ำเสียงครวญครางแผ่วเบาเท่านั้นที่หลุดรอดออกมา
"อื้อ คุณชิน"
"เผยธาตุแท้ของเธอออกมาแล้วสินะ ไม่ต้องกลัวไปหรอก ฉันจะสนองความต้องการให้เธอเดี๋ยวนี้"
ชีวินผละกายออกจากร่างงามเล็กน้อยเพื่อเอื้อมไปหยิบสิ่งของบางอย่าง เขาใช้ปากและฟันฉีกแกะมันออกอย่างรวดเร็วแล้วจัดการสวมลงไปบนตัวตนที่กำลังผงาดตั้งเต็มที่ หลังจากที่สวมอุปกรณ์ป้องกันเสร็จ คราวนี้ก็ทาบทับตัวลงไปปรนเปรอจูบให้กับคนที่นอนมองเขามาด้วยสายตาเชิญชวนอย่างไม่รู้ตัวใหม่ พร้อมทั้งจับแก่นกายที่มันแข็งขืนจ่อไปที่กลางหว่างคู่หว่างขาสวยแล้วจึงได้พยายามดันมันเข้าไปภายใน
"อื้อ เจ็บนะ"
คนที่หมดหนทางสู้ร้องค้านทันทีที่เขาดึงดันที่จะสอดมันเข้ามาทั้งๆที่ดูแล้วว่ามันคงจะไม่สามารถสอดเข้ามาได้ง่ายๆ สะโพกงามกระถดถอยหนี แต่ชีวินก็ดึงมันกลับเข้ามาหาตัวแล้วพยายามจับยัดตัวเองเข้ามาใหม่
"ใจเย็นสิ รู้หรอกน่ะว่าของฉันใหญ่ อดทนเอาหน่อยก็แล้วกัน เธอคงเจ็บแค่ตอนเข้าเท่านั้นล่ะ เพราะหลังจากนั้นสิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอก็คงจะมีแต่คำว่า เสียว"
ภัทรพิชายทนตามอย่างที่ชีวินบอก ไหนๆก็คิดว่ายังไงเธอก็คงจะไม่สามารถร้องขอความเห็นใจจากเขาได้ ก็อยากจะขอหลับหูหลับตายอมรับในสิ่งที่มันกำลังจะเกิดเพื่อให้มันผ่านพ้นไป แต่ทำไมความเจ็บปวดที่มีมันกลับทวีความรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆราวกับพื้นที่ส่วนตรงนั้นของเธอมันกำลังจะฉีกขาดทุกครั้งที่ชีวินพยายามแทรกตัวเข้ามา
"ไม่เอาแล้ว คุณเอามันออกไปจากตัวไพน์ได้ไหม มันเจ็บมากๆจนไพน์ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ"
น้ำเสียงสะอื้นบวกกับสีหน้าที่แสดงออกว่าเจ้าตัวนั้นเจ็บปวดมากทำเอาชีวินชักเริ่มที่จะเห็นด้วยกับคำพูดของภัทรพิชา ทำไมพื้นที่ตรงส่วนนั้นของผู้หญิงคนนี้ถึงได้คับแน่นราวกับว่าไม่เคยมีใครแตะต้อง นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว เขาคิดว่ามันคงจะไม่ถึงขนาดที่ว่าตัวเองได้เปิดแจ็คพอร์ตมาเจอผู้หญิงบริสุทธิ์เข้าหรอกนะ
"อย่าบอกฉันนะว่าเธอไม่เคย"
สีหน้าฉงนระคนสงสัยพร้อมทั้งหยุดการขยับร่างกายของเขานั้นทำให้เธอดูเหมือนว่าจะมีความหวัง ชีวินจ้องหน้าเธอแบบจริงจังขมวดคิ้วเข้มตอนที่ถาม
"ถ้าไพน์ไม่เคย คุณจะยอมหยุดแล้วปล่อยไพน์ไปได้หรือเปล่า"
ภัทรพิชาถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา พยายามสื่อความสงสารเข้าไปในดวงตาคม ภายในใจหวังเพียงเพื่อให้ชีวินได้สติ แต่สิ่งที่เขาตอบกลับมาด้วยถ้อยคำและน้ำเสียงที่ปนไปกับการหัวเราะเยาะนั้นทำเอาเธอต้องสิ้นหวังจนน้ำตาไหลออกมาอีก
"ปล่อยทำไม ต่อให้เธอเคย หรือไม่เคยมาก่อน ฉันก็จะยังเอาเธออยู่ดี โทษฐานที่แม่ของเธอบังอาจอยากที่จะมายืนตรงที่ของแม่ฉัน รู้เอาไว้ว่าฉันจะไม่มีทางยอมให้อภัยใคร ไม่ว่าจะเป็นเธอหรือว่าแม่เธอ ตอบแทนความทรยศที่เธอสองแม่ลูกมีให้ แม่เธอเอาพ่อของฉัน ฉันก็จะแอบเอาเธอ แบบนี้มันก็แฟร์ๆดี สนุกจะตายไปเธอว่าไหม"
"ทำไมคุณถึงใจร้ายแบบนี้ อันที่จริงแม่ของคุณก็ตายไปแล้ว แล้วมันจะอะไรนักหนากับอีแค่การที่พ่อของคุณท่านอยากมีใครคนใหม่มาอยู่เคียงข้างแล้วเผอิญว่าคนๆนั้นเป็นแม่ของไพน์ คุณถึงกับต้องทำอะไรที่มันไม่ใช่ลูกผู้ชายแบบนี้กับไพน์เลยหรือไง"
"หุบปาก! เธอหยุดพูดจาก้าวก่ายแม่ฉันเดี๋ยวนี้เลยนะภัทรพิชา คืนนี้อย่าหวังว่าจะได้ลุกออกจากเตียงฉันไปได้ง่ายๆ เธอทำให้ฉันโกรธมากรู้ตัวหรือเปล่า อ้าขาออก ต่อให้เธอเจ็บจนทนไม่ไหว ฉันก็จะเอาเธอ"
พอเดินลงจากรถลงมาชีวินก็ตรงเข้ามาดึงแขนให้เธอเดินตามเขาเข้าไปในที่แห่งหนึ่งซึ่งมีลักษณะคล้ายกับคอนโดมิเนียมทั่วไป มือเขาข้างหนึ่งถือถุงกระดาษ ส่วนอีกข้างก็ดึงข้อมือของเธอเอาไว้ จนกระทั่งพาเธอเข้ามาหยุดยืนอยู่ที่ตรงหน้าลิฟท์ ทันใดนั้นถังขยะที่อยู่ใกล้มือก็ถูกเปิดออก ตามด้วยถุงชุดนักศึกษาสองถุงที่เตวิชญ์เป็นคนซื้อให้นั้นถูกยัดลงไปนอนในถังขยะเป็นที่เรียบร้อย"คุณชินนี่คุณทำบ้าอะไร นั่นมันที่พี่ต้าพึ่งซื้อให้ใหม่นะคะ"ด้วยความโมโหจึงทำให้ภัทรพิชาเสียงดังใส่เขา นาทีนี้เธอไม่กลัวเขาแล้ว ถ้าหากว่าชีวินจะกลายเป็นคนนิสัยเสียขึ้นมา อยู่ๆก็มาบังคับให้เธอไปซื้อชุดใหม่ พอมีคนซื้อให้ก็ปาทิ้งขว้างแบบไม่มีเหตุผล"แล้วไง อยากใส่นักหรือไงชุดที่ไอ้ต้าซื้อให้""ก็คุณเป็นคนที่อยากให้ไพน์ไปซื้อใหม่ชุดเองไม่ใช่หรือไง พี่ต้าก็อุตส่าห์ซื้อให้แล้ว อยู่ดีๆจะมาเอาชุดไปเฉยๆแบบนี้คุณบ้าไปแล้วเหรอคะ""ไม่ได้บ้า แต่แค่ไม่อยากให้เธอใส่ เรื่องชุดฉันเป็นคนบอกว่าให้เธอเปลี่ยน เพราะฉะนั้นฉันก็ต้องเป็นคนซื้อ ถามหน่อยซิว่ามันเกี่ยวอะไรกับไอ้ต้า ใครบอกให้มันเป็นคนเสนอหน้ามาซื้อชุดให้เธอ ไหนจะเรื่องที่เธอนั่งรถมากับไอ้ต้าสอง
ระหว่างทางชีวินไม่ค่อยเป็นอันขับรถนักเมื่อสายตาคอยเอาแต่จ้องมองเข้าไปภายในรถคันข้างหน้าที่มีเตวิชญ์ขับนำอยู่ก่อน ยิ่งพอรถของเตวิชญ์สามารถขับผ่านสัญญาณไฟจราจรไปได้ก่อนที่จะต้องติดไฟแดงเหมือนรถของเขา หัวคิ้วเข้มที่ขมวดยุ่งตั้งแต่ตอนแรกก็ยิ่งผูกเข้ากันเป็นปมยิ่งขึ้นอย่างไม่รู้ตัว "ดูพี่ต้าสิคะรีบขับพาไพน์เฉียดไฟแดงไปก่อนแบบนั้น สงสัยคงกลัวว่าพี่ชินจะตามทันแล้วไม่มีเวลาได้อยู่กับไพน์" "ไอ้ต้ามันขับรถบ้าอะไรของมัน วิ่งเฉียดไฟแดงไปแบบนี้ไม่รู้หรือไงว่าอันตราย"ชีวินยังตีโพยตีพายโวยวายเรื่องการขับรถของเตวิชญ์ต่อ วินาทีนั้นยอมรับว่าเขาใจหายวาบราวกับคนขวัญอ่อน หากว่าเกิดอะไรกับคนในรถคันนั้นขึ้นมา มีหวังเขาคงจะถูกผู้เป็นบิดาและแม่ของผู้หญิงคนนั้นเอาสืบสาวเอาเรื่องเข้าแน่ๆ จนกระทั่งสัญญาณไฟเขียวปรากฏขึ้นมา คันเร่งของรถบีเอ็มดับเบิลยูก็ถูกเหยียบเร่งตามไปติดๆ หากแต่ว่าเขาขับตามไปไม่ทัน จนไปถึงที่จอดรถในห้าง จึงได้เอาโทรศัพท์มือถือออกมากดโทรหาเตวิชญ์ทันที หากแต่ไม่มีคนรับ"ไอ้ต้ามันไม่ยอมรับโทรศัพท์ อินลองโทรหามันดูให้หน่อยสิครับ"พอบอกอินทุอรเสร็จ ตัวเองก็เปลี่ยนมากดโทรออกหาภัทรพิชา แต่กลายเป็นว
หลังจากเรียนเสร็จอินทุอรก็ขยั้นขยอให้เธอไปดูหนังพร้อมตัวเองและเตวิชญ์ ภัทรพิชาได้แต่อยากปฏิเสธให้มันจบๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไร จะให้บอกเพื่อนไปตรงๆเลยก็ไม่ได้ว่าตัวเธอเองก็กำลังถูกชีวินส่งข้อความมาตามตัวอยู่เหมือนกัน"นะไพน์ ไปดูหนังเป็นเพื่อนฉันกับพี่ต้าหน่อย อุตส่าห์โทรไปชวนพี่ชินเมื่อกี้ แต่พี่ชินดันบอกว่าติดธุระ ไปด้วยไม่ได้สะงั้น เซ็งจัง""เออะ อิน คือว่าฉัน..""แกห้ามปฏิเสธพี่ฉันนะไพน์ บอกไว้ก่อน รู้ไหมว่าพี่ต้าปกติมีแต่สาวๆพากันวิ่งเข้าหา ฉันก็พึ่งเห็นมีวันนี้นี่แหละที่ว่าคุณพี่ชายเทพบุตรสุดหล่อของฉันอยากจะจีบสาว"ภัทรพิชาฟังอินทุอรสาธยายความฮอตของญาติหนุ่มตัวเองแบบคิดว่าน่าจะเชื่อได้ เตวิชญ์ถือว่าเป็นคนที่หน้าตาและบุคลิกดีมากๆคนหนึ่ง การที่อินทุอรบอกว่าเขามีสาวๆวิ่งเข้าหามากมายนั้นมันคงไม่เกินจริงแน่นอน แต่ทำไมเรื่องอะไรแบบนี้มันต้องมาเกิดกับเธอ เตวิชญ์เป็นเพื่อนกับชีวิน ส่วนอินทุอรก็เป็นเพื่อนของเธอ ทุกอย่างมันดูยุ่งเหยิงวุ่นวายไปหมด"นี่ยายอิน เราเล่นมาพูดแบบนี้ต่อหน้าไพน์พี่ก็เขินแย่สิ""เขินทำไมล่ะคะพี่ต้า อยากจีบก็บอกว่าอยากจีบสิคะ เอาให้มันแมนๆหน่อย ยอมรับตรงๆไปเล
ภัทรพิชาถูกสั่งให้ขึ้นรถมากับคนที่ชวลิตบอกว่าไม่ยอมให้เธอติดรถมามหาวิทยาลัยด้วย รถของชีวินจอดรออยู่ห่างออกจากบ้านมาไม่ไกลเท่าไหร่ หากแต่เป็นเธอเองที่ไม่ทันได้สังเกตเพราะว่าเอาแต่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างตัวเองและเขา จนกระทั่งเดินเลยผ่านจึงถูกเขาเรียกและบังคับให้เธอต้องขึ้นรถมาเก๋งบีเอ็มดับเบิลยูสีดำเทาขับพาเธอทะยานสู่ท้องถนนในตอนเช้า ทุกอย่างดูเร่งรีบและยืดยาดในเวลาเดียวกัน จากที่นั่งเงียบมากันตลอดทาง อยู่ๆมือข้างที่ว่างอยู่ก็วางแหมะลงมาบนต้นขาขาวที่โผล่พ้นกระโปรงนักศึกษาของเธอออกมาในตอนที่รถจอดติดอยู่บนทางด่วน"คุณชิน"ชีวินหันมามองหน้าเธอแล้วยิ้มกึ่งเยาะที่ริมฝีปาก ภัทรพิชาจะรีบปัดมือใหญ่ที่กำลังลูบไล้บนต้นขาของตัวเองให้พ้นไปแต่เจ้าของมันกลับไม่ยินยอม"จับไม่ได้หรือไง""จับทำไมคะ"ภัทรพิชาหน้ายุ่งเพราะรู้ว่าชีวินกำลังจงใจแกล้งยั่วเธออยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะแอบชอบเขาอยู่จนยอมให้เกิดเรื่องราวลึกซึ้งเกินเลยขึ้นก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความชีวินจะทำอะไรกับเธอยังไงตอนไหนก็ได้"อยากจับ เห็นเธอใส่กระโปรงเสียสั้น เวลานั่งทีกระโปรงก็ถลกขึ้นมาจนเห็นขาขาวๆ ฉันก็เลยนึกว่าเธออยากจะใส่มายั่วฉัน""ไ
ภัทรพิชาตื่นขึ้นมาในตอนเกือบหกโมงเช้าเพื่อที่จะไปเตรียมตัวอาบน้ำไปเรียนด้วยอาการงัวเงียเพราะว่านอนไม่เต็มตื่น เมื่อคืนหลังจากที่เอาเปรียบเธอจนพอใจชีวินก็กลับออกไปในตอนตีสี่กว่าๆ ด้วยความเหนื่อยอ่อน ภัทรพิชาจึงทำได้แค่เพียงขยับเปลือกตา พยายามลืมตาขึ้นมาดูตอนที่ชีวินลุกขึ้นไปจากเตียงเท่านั้น และตัวเขาเองก็ไม่ได้หันกลับมามองเธอเลยเช่นกันหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็เดินหอบกระเป๋าลงไปข้างล่าง หางตาเหลือบไปเห็นแม่ของเธอกำลังจัดโต๊ะเตรียมอาหารเช้าเดินเข้าออกครัวอยู่ไวๆ ภัทรพิชาจึงเดินลงไปเห็นชวลิตนั่งอ่านหนังสือพิมพ์และยกกาแฟขึ้นจิบ ก่อนที่สายตาจะมองเลื่อนขยับไปเห็นว่าบนโต๊ะอาหารก็มีชีวินนั่งรออยู่ด้วยและเขากำลังมองมาทางเธอ"แต่งตัวเสร็จแล้วเหรอไพน์ มากินข้าวต้มหมูสับก่อนสิ แม่ตั้งโต๊ะเสร็จแล้วพอดี"ภัทรพิชาเดินตามหลังแม่ไปยังโต๊ะอาหารด้วยความรู้สึกหลากหลาย ชวลิตวางหนังสือพิมพ์ลงแล้วมองเธอลอดผ่านแว่นตามาพร้อมกับยิ้มให้ ในขณะที่ชีวินกลับทำหน้าตึงแล้วตามมาด้วยถ้อยคำถากถางตามแบบฉบับเขา"นี่ลูกสาวคนใหม่ของพ่อเขาชอบตื่นสายแล้วปล่อยให้คนอื่นนั่งรอบนโต๊ะอาหารแบบนี้ประจำเลยเหรอครับ""รอเรออะไรกั
ทันทีที่ถูกฉุดมาให้ลุกขึ้นนั่ง ชุดนอนกระโปรงสายเดี่ยวตัวบางถูกถอดออกจากทางศรีษะ เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เผลอสบตา ริมฝีปากของชีวินก็ตรงเข้ามาครอบลงบนริมฝีปากหวานทันควัน ลิ้นชื้นสอดมุดเข้าไปในโพรงปากนุ่มทันที เขาไม่มีรอจังหวะ ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งของเขาควานบีบคลึงไปบนเต้างามและบนสะโพกกลมกลึง ภัทรพิชายอมปล่อยให้ชีวินสัมผัสทุกอย่างบนร่างกายเธอได้ตามอย่างแต่ใจด้วยการตอบสนองเป็นท่าทางที่แสนจะเงอะงะ ปราศจากความรู้สึกต่อต้าน สองกายกอดรัดฟัดเหวี่ยงเข้าหาในขณะที่คนหนึ่งเปลือยเปล่าแล้ว หากแต่อีกคนยังคงอยู่ในชุดนักศึกษาครบชุด"ถอดเสื้อให้ฉัน"แม้ว่าจะรสจูบของเขาจะมีรสชาติมึนเมาจนเธอสมองเบลอ ลมหายใจคล้ายขาดห้วงจนเกือบจะหายใจหายคอไม่ทัน แต่ภัทรพิชาก็ยังคงพอมีสติหลงเหลืออยู่บ้างไม่มากก็น้อย สองมือสั่นเทารีบยกขึ้นไปแกะกระดุมเสื้อทีละเม็ดอย่างยากลำบาก เหตุผลก็เป็นเพราะว่ารสจูบที่ชักจะร้อนแรงมากขึ้นไปเรื่อยๆเมื่อชีวินตั้งใจจูบเอาแบบไม่มีความปราณียิ่งทำให้เธอสติหลุด"กระดุมแค่ไม่กี่เม็ด เธอจะใช้เวลาแกะจนถึงพรุ่งนี้เลยไหมไพน์ ชักช้า เอามือออก งั้นกระดุมเสื้อไม่ต้องละ เปลี่ยนเป็นมาถอดเข็มขัดกับกางเกงให้ฉ