หลังจากที่ทำใจกล้าเดินเข้าไปแย่งแก้วเหล้าของเขามาเทลงพื้น ผลลัพท์ก็คือเธอถูกชีวินฉุดกระชากลากตัวเข้ามาในบ้านแล้วพาตรงขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านที่ไม่ใช่ทางไปห้องนอนของเธอ ภัทรพิชาพยายามที่จะแกะข้อมือของตัวเองออกแล้ว แต่ว่ามือของชีวินนั้นก็ยิ่งแข็งแกร่งราวกับปลอกเหล็ก จนกระทั่งถูกดึงมาจนถึงยังหน้าประตูห้องนอนของเขา เธอจึงได้ถูกเขาผลักเข้าไปข้างในเต็มแรง
"คุณชิน นี่คุณจะทำอะไร"
ภัทรพิชาพยายามตั้งสติ ในขณะที่ชีวินกำลังเมามาย จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ บางทีเธออาจจะต้องใช้ความสามารถมากหน่อยในการพูดเรียกสติของเขาให้กลับคืนมา ไม่เช่นนั้นใครกันที่จะสามารถรับรองได้ว่าเธอจะยืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างปลอดภัย
"อยากรู้จริงๆเหรอว่าฉันพาเธอเข้ามาในนี้ทำไม ไหนเธอลองเดาดูสิ"
อยู่ๆใบหน้าหล่อเหลาที่ดูเคร่งเครียดก็เปลี่ยนมาเป็นยิ้มเยาะ จากที่ตอนแรกคิดว่าจะต้องพูดเตือนสติเขาให้ได้ แต่พอเอาเข้าจริงเวลาที่ร่างสูงใหญ่หนึ่งร้อยแปดสิบเจ็ดเซ็นติเมตรขยับเข้าหา หัวใจดวงน้อยของภัทรพิชาก็เริ่มหวาดหวั่น
"คุณเมามากแล้ว ไพน์ว่าคุณไปอาบน้ำก่อนดีกว่านะคะ จะสดชื่นแล้วหลับสบาย"
สายตาที่ชีวินมองเธอแบบนี้ภัทรพิชารู้สึกไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย เท้าเล็กค่อยขยับก้าวถอยหลังหนีเมื่อเห็นท่าทีคุกคามที่คนตรงหน้าทำใส่ มิหนำซ้ำอยู่ๆเสื้อยืดที่อยู่บนตัวของชีวินก็ถูกเจ้าตัวถอดออกจนเผยให้เห็นเรือนร่างที่สมบูรณ์แบบ จนภัทรพิชาได้แต่ตกใจจนต้องรีบเบือนหน้าหนีเสมองไปทางอื่น
"อยากให้อาบ งั้นเธอก็ช่วยอาบให้ฉันหน่อยสิ หรือว่าเธออยากจะอาบด้วยกัน"
เพียงเท่านั้นข้อมือเล็กก็ถูกชีวินตรงเข้ามาจับเอาไว้ ภัทรพิชาลองที่จะแกะมันออก แต่กลับถูกเขาดึงตัวเธอเข้าไปกอดจนใบหน้าเธอปะทะเข้ากับหน้าอกแกร่งเต็มแรง ณ ตอนนั้นภัทรพิชาจึงได้ยอมรับกับตัวเองว่าเธอชักเริ่มรู้สึกกลัวเขาขึ้นมา
"คุณชิน นี่คุณเป็นอะไร"
"จนขนาดนี้แล้วเธอก็ยังจะทำตัวใสซื่อบริสุทธิ์หลอกฉันต่อได้อีกอย่างงั้นเหรอไพน์ หรือว่าแม่เธอสั่งสอนมาว่าให้เธอทำกับฉันแบบนี้ เพื่อที่ว่ามันจะสามารถใช้จับฉันได้ง่ายๆ แต่ขอโทษทีฉันไม่ได้โง่พอที่จะถูกหลอกได้ง่ายๆเหมือนพ่อ เธออาจจะต้องใช้ความพยายามมากหน่อยถ้าอยากจะทำแบบนั้นจริงๆ"
"คุณชิน คุณกำลังพูดบ้าอะไร ไพน์ไม่เข้าใจ"
"หึ ไม่เข้าใจ แต่ดูชุดที่เธอใส่ออกมาหาฉันสิ ชุดนอนซาตินสายเดี่ยวสั้นเหนือเข่าบางเบาสีชมพู คงกะว่าแค่ถลกขึ้นแล้วจะได้ไม่ต้องถอดเลยใช่ไหมล่ะ ก็ง่ายดีนะ เริ่มเลยหรือเปล่าล่ะ"
ยิ่งชีวินพูดภัทรพิชาก็ยิ่งงง ทั้งในด้านคำพูดและการกระทำของเขาที่เริ่มรุกรานเธอหนักเข้า ฝ่ามือเขาข้างหนึ่งเลื่อนขยับลงมาลูบสัมผัสลงไปบนเนินสะโพก ลมหายใจเจือด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์เข้มข้นผสมด้วยกลิ่นนิโคตินจากบุหรี่ เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าชีวินแตะต้องของแบบนี้ด้วย
"คุณชินปล่อยไพน์ นี่คุณเมามากแล้วนะคะ"
"ถ้าหากอยากให้ฉันปล่อย ฉันก็จะปล่อย แต่ว่าไม่ใช่ตรงนี้ แต่เป็นที่บนเตียง"
"หมายความว่ายังไง"
"ไหนๆแม่เธอกับพ่อของฉันก็พากันไปฮันนีมูนแล้ว ฉันว่าเราเองก็ลองทดลองมาเข้าหอกันดูหน่อยเป็นไง จะได้ไม่เสียเที่ยวที่แม่เธออุตส่าห์เปิดทางสะดวกให้"
แล้วหลังจากนั้นร่างของภัทรพิชาก็ลอยหวือขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนแกร่งแบบที่ไม่ทันตั้งตัว ด้วยความตกใจจึงได้ร้องว้ายออกมาเสียงดัง ก่อนที่จะรีบใช้ทั้งสองแขนโอบรอบลำคอของคนที่อุ้มเธอไว้ด้วยความกลัวตก
"ว้าย คุณชิน"
ชีวินเดินอุ้มร่างงามของคนในอ้อมแขนตรงดิ่งเข้าไปตรงที่ที่มีเตียงนอนขนาดกว้างตั้งอยู่ เขาไม่ได้นุ่มนวลกับเธอเลยสักนิด ภัทรพิชาถูกโยนลงไปกลางเตียง จนกระโปรงชุดนอนตัวที่ใส่อยู่เปิดร่นขึ้นไปกองบนต้นขาขาว แถมยังมีสายตาวาวของคนที่ยืนยิ้มเยาะก็มองมาดูเธอถอยร่นอย่างน่าสะใจ
"หึ ลูกไม้สีขาว ก็ดีนะฉันชอบ"
ชีวินไม่คิดรอช้า ร่างใหญ่ขยับโถมตัวเข้าไปดึงข้อขาของภ้ทรพิชาเอาแล้วก่อนจะดึงเข้ามาหาตัว พอถูกจับได้เสียงหวีดว้ายก็หลุดออกมาจากปากไม่หยุด จนในที่สุดก็มีฝ่ามือใหญ่ตามเข้ามาประกบปิดปากเธอเอาไว้แล้วผลักตัวเธอให้ล้มหงายหลังนอนลง
"อื้อ อื้อ ไอ่อ๊ะอุนอิน (ไม่นะคุณชิน)"
ภัทรพิชาร้องขอ หากแต่ชีวินกลับกำลังอารมณ์มืดบอดจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ใบหน้าหล่อขมวดคิ้มเข้มเข้าหากันจนเป็นปมเมื่อเห็นน้ำตาของคนใต้ร่างเริ่มจะไหล ถึงแม้ว่าอาจเป็นเพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เขาหยุดชะงัก แต่พอนึกได้ขึ้นว่าเวลาที่เขาร้องไห้ ก็ไม่เห็นจะมีใครสนใจความรู้สึกเขาเลย นั่นจึงทำให้เขาไม่ได้คิดสนใจแล้วเริ่มคุกคามเธอต่อ
"จะมัวมาทำเป็นเสแสร้งแกล้งร้องไห้ออกมาไปทำไมกัน ในเมื่อสิ่งที่ฉันทำอยู่ในตอนนี้นี่มันคือสิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่เหรอหรือไง ไม่ต้องกลัวหรอก ยังไงคืนนี้ฉันก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจ"
ทันทีที่พูดจบ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียดก็ซุกไซ้ลงมาที่ต้นคอขาว สองข้อมือถูกจับมัดไปไพล่กันเอาไว้ที่เหนือศรีษะ ชีวินทั้งจูบและกัดเม้มที่ข้างลำคอเธอเสียแรง จนผิวเนื้อบริเวณนั้นเริ่มเกิดเห็นเป็นรอยขึ้นมา
ภัทรพิชาทั้งดิ้นทั้งร้องไห้ไปด้วย หวังเพียงแค่ว่าเขาอาจที่จะเห็นใจ แต่เปล่าเลยเมื่ออยู่ๆมือข้างที่ปิดปากเธอเอาไว้นั้นเลื่อนลงไปกอบกุมที่บริเวณหน้าอก แล้วริมฝีปากของเขาก็ประกบทาบทับลงมาปิดปากเธอไว้อีกทีจนคนที่กำลังไร้ทางสู้อยู่ยิ่งตกใจ ดวงตากลมโตนั้นเปิดลืมขึ้น ร่างกายหยุดดิ้นไปชั่วขณะ ขนาดที่ว่าตอนที่ชีวินลูบมือจากหน้าอกลงไปยังบริเวณหน้าท้องแบนราบเธอก็ยังไม่รู้สึกสึกตัว
จูบแรกของเธอถูกเขาขโมยไปอย่างซึ่งหน้า ลิ้นร้อนที่สอดเข้าไปภายในโพรงปากหวานยังคงขมปร่าไปด้วยรสชาติของแอลกอฮอล์และบุหรี่ จนกระทั่งถูกเขาลูบสัมผัสลงไปบนความเกลี้ยงเกลากลางกาย ยามที่ชีวินไล้นิ้วร้ายลงไปท่ามกลางรอยแยกที่ปิดสนิทนั่นแหละ คนที่ปล่อยใจไปกับรสจูบดิบเถื่อนถึงได้รู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง
"อื้อ อื้อ"
พอเดินลงจากรถลงมาชีวินก็ตรงเข้ามาดึงแขนให้เธอเดินตามเขาเข้าไปในที่แห่งหนึ่งซึ่งมีลักษณะคล้ายกับคอนโดมิเนียมทั่วไป มือเขาข้างหนึ่งถือถุงกระดาษ ส่วนอีกข้างก็ดึงข้อมือของเธอเอาไว้ จนกระทั่งพาเธอเข้ามาหยุดยืนอยู่ที่ตรงหน้าลิฟท์ ทันใดนั้นถังขยะที่อยู่ใกล้มือก็ถูกเปิดออก ตามด้วยถุงชุดนักศึกษาสองถุงที่เตวิชญ์เป็นคนซื้อให้นั้นถูกยัดลงไปนอนในถังขยะเป็นที่เรียบร้อย"คุณชินนี่คุณทำบ้าอะไร นั่นมันที่พี่ต้าพึ่งซื้อให้ใหม่นะคะ"ด้วยความโมโหจึงทำให้ภัทรพิชาเสียงดังใส่เขา นาทีนี้เธอไม่กลัวเขาแล้ว ถ้าหากว่าชีวินจะกลายเป็นคนนิสัยเสียขึ้นมา อยู่ๆก็มาบังคับให้เธอไปซื้อชุดใหม่ พอมีคนซื้อให้ก็ปาทิ้งขว้างแบบไม่มีเหตุผล"แล้วไง อยากใส่นักหรือไงชุดที่ไอ้ต้าซื้อให้""ก็คุณเป็นคนที่อยากให้ไพน์ไปซื้อใหม่ชุดเองไม่ใช่หรือไง พี่ต้าก็อุตส่าห์ซื้อให้แล้ว อยู่ดีๆจะมาเอาชุดไปเฉยๆแบบนี้คุณบ้าไปแล้วเหรอคะ""ไม่ได้บ้า แต่แค่ไม่อยากให้เธอใส่ เรื่องชุดฉันเป็นคนบอกว่าให้เธอเปลี่ยน เพราะฉะนั้นฉันก็ต้องเป็นคนซื้อ ถามหน่อยซิว่ามันเกี่ยวอะไรกับไอ้ต้า ใครบอกให้มันเป็นคนเสนอหน้ามาซื้อชุดให้เธอ ไหนจะเรื่องที่เธอนั่งรถมากับไอ้ต้าสอง
ระหว่างทางชีวินไม่ค่อยเป็นอันขับรถนักเมื่อสายตาคอยเอาแต่จ้องมองเข้าไปภายในรถคันข้างหน้าที่มีเตวิชญ์ขับนำอยู่ก่อน ยิ่งพอรถของเตวิชญ์สามารถขับผ่านสัญญาณไฟจราจรไปได้ก่อนที่จะต้องติดไฟแดงเหมือนรถของเขา หัวคิ้วเข้มที่ขมวดยุ่งตั้งแต่ตอนแรกก็ยิ่งผูกเข้ากันเป็นปมยิ่งขึ้นอย่างไม่รู้ตัว "ดูพี่ต้าสิคะรีบขับพาไพน์เฉียดไฟแดงไปก่อนแบบนั้น สงสัยคงกลัวว่าพี่ชินจะตามทันแล้วไม่มีเวลาได้อยู่กับไพน์" "ไอ้ต้ามันขับรถบ้าอะไรของมัน วิ่งเฉียดไฟแดงไปแบบนี้ไม่รู้หรือไงว่าอันตราย"ชีวินยังตีโพยตีพายโวยวายเรื่องการขับรถของเตวิชญ์ต่อ วินาทีนั้นยอมรับว่าเขาใจหายวาบราวกับคนขวัญอ่อน หากว่าเกิดอะไรกับคนในรถคันนั้นขึ้นมา มีหวังเขาคงจะถูกผู้เป็นบิดาและแม่ของผู้หญิงคนนั้นเอาสืบสาวเอาเรื่องเข้าแน่ๆ จนกระทั่งสัญญาณไฟเขียวปรากฏขึ้นมา คันเร่งของรถบีเอ็มดับเบิลยูก็ถูกเหยียบเร่งตามไปติดๆ หากแต่ว่าเขาขับตามไปไม่ทัน จนไปถึงที่จอดรถในห้าง จึงได้เอาโทรศัพท์มือถือออกมากดโทรหาเตวิชญ์ทันที หากแต่ไม่มีคนรับ"ไอ้ต้ามันไม่ยอมรับโทรศัพท์ อินลองโทรหามันดูให้หน่อยสิครับ"พอบอกอินทุอรเสร็จ ตัวเองก็เปลี่ยนมากดโทรออกหาภัทรพิชา แต่กลายเป็นว
หลังจากเรียนเสร็จอินทุอรก็ขยั้นขยอให้เธอไปดูหนังพร้อมตัวเองและเตวิชญ์ ภัทรพิชาได้แต่อยากปฏิเสธให้มันจบๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไร จะให้บอกเพื่อนไปตรงๆเลยก็ไม่ได้ว่าตัวเธอเองก็กำลังถูกชีวินส่งข้อความมาตามตัวอยู่เหมือนกัน"นะไพน์ ไปดูหนังเป็นเพื่อนฉันกับพี่ต้าหน่อย อุตส่าห์โทรไปชวนพี่ชินเมื่อกี้ แต่พี่ชินดันบอกว่าติดธุระ ไปด้วยไม่ได้สะงั้น เซ็งจัง""เออะ อิน คือว่าฉัน..""แกห้ามปฏิเสธพี่ฉันนะไพน์ บอกไว้ก่อน รู้ไหมว่าพี่ต้าปกติมีแต่สาวๆพากันวิ่งเข้าหา ฉันก็พึ่งเห็นมีวันนี้นี่แหละที่ว่าคุณพี่ชายเทพบุตรสุดหล่อของฉันอยากจะจีบสาว"ภัทรพิชาฟังอินทุอรสาธยายความฮอตของญาติหนุ่มตัวเองแบบคิดว่าน่าจะเชื่อได้ เตวิชญ์ถือว่าเป็นคนที่หน้าตาและบุคลิกดีมากๆคนหนึ่ง การที่อินทุอรบอกว่าเขามีสาวๆวิ่งเข้าหามากมายนั้นมันคงไม่เกินจริงแน่นอน แต่ทำไมเรื่องอะไรแบบนี้มันต้องมาเกิดกับเธอ เตวิชญ์เป็นเพื่อนกับชีวิน ส่วนอินทุอรก็เป็นเพื่อนของเธอ ทุกอย่างมันดูยุ่งเหยิงวุ่นวายไปหมด"นี่ยายอิน เราเล่นมาพูดแบบนี้ต่อหน้าไพน์พี่ก็เขินแย่สิ""เขินทำไมล่ะคะพี่ต้า อยากจีบก็บอกว่าอยากจีบสิคะ เอาให้มันแมนๆหน่อย ยอมรับตรงๆไปเล
ภัทรพิชาถูกสั่งให้ขึ้นรถมากับคนที่ชวลิตบอกว่าไม่ยอมให้เธอติดรถมามหาวิทยาลัยด้วย รถของชีวินจอดรออยู่ห่างออกจากบ้านมาไม่ไกลเท่าไหร่ หากแต่เป็นเธอเองที่ไม่ทันได้สังเกตเพราะว่าเอาแต่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างตัวเองและเขา จนกระทั่งเดินเลยผ่านจึงถูกเขาเรียกและบังคับให้เธอต้องขึ้นรถมาเก๋งบีเอ็มดับเบิลยูสีดำเทาขับพาเธอทะยานสู่ท้องถนนในตอนเช้า ทุกอย่างดูเร่งรีบและยืดยาดในเวลาเดียวกัน จากที่นั่งเงียบมากันตลอดทาง อยู่ๆมือข้างที่ว่างอยู่ก็วางแหมะลงมาบนต้นขาขาวที่โผล่พ้นกระโปรงนักศึกษาของเธอออกมาในตอนที่รถจอดติดอยู่บนทางด่วน"คุณชิน"ชีวินหันมามองหน้าเธอแล้วยิ้มกึ่งเยาะที่ริมฝีปาก ภัทรพิชาจะรีบปัดมือใหญ่ที่กำลังลูบไล้บนต้นขาของตัวเองให้พ้นไปแต่เจ้าของมันกลับไม่ยินยอม"จับไม่ได้หรือไง""จับทำไมคะ"ภัทรพิชาหน้ายุ่งเพราะรู้ว่าชีวินกำลังจงใจแกล้งยั่วเธออยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะแอบชอบเขาอยู่จนยอมให้เกิดเรื่องราวลึกซึ้งเกินเลยขึ้นก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความชีวินจะทำอะไรกับเธอยังไงตอนไหนก็ได้"อยากจับ เห็นเธอใส่กระโปรงเสียสั้น เวลานั่งทีกระโปรงก็ถลกขึ้นมาจนเห็นขาขาวๆ ฉันก็เลยนึกว่าเธออยากจะใส่มายั่วฉัน""ไ
ภัทรพิชาตื่นขึ้นมาในตอนเกือบหกโมงเช้าเพื่อที่จะไปเตรียมตัวอาบน้ำไปเรียนด้วยอาการงัวเงียเพราะว่านอนไม่เต็มตื่น เมื่อคืนหลังจากที่เอาเปรียบเธอจนพอใจชีวินก็กลับออกไปในตอนตีสี่กว่าๆ ด้วยความเหนื่อยอ่อน ภัทรพิชาจึงทำได้แค่เพียงขยับเปลือกตา พยายามลืมตาขึ้นมาดูตอนที่ชีวินลุกขึ้นไปจากเตียงเท่านั้น และตัวเขาเองก็ไม่ได้หันกลับมามองเธอเลยเช่นกันหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็เดินหอบกระเป๋าลงไปข้างล่าง หางตาเหลือบไปเห็นแม่ของเธอกำลังจัดโต๊ะเตรียมอาหารเช้าเดินเข้าออกครัวอยู่ไวๆ ภัทรพิชาจึงเดินลงไปเห็นชวลิตนั่งอ่านหนังสือพิมพ์และยกกาแฟขึ้นจิบ ก่อนที่สายตาจะมองเลื่อนขยับไปเห็นว่าบนโต๊ะอาหารก็มีชีวินนั่งรออยู่ด้วยและเขากำลังมองมาทางเธอ"แต่งตัวเสร็จแล้วเหรอไพน์ มากินข้าวต้มหมูสับก่อนสิ แม่ตั้งโต๊ะเสร็จแล้วพอดี"ภัทรพิชาเดินตามหลังแม่ไปยังโต๊ะอาหารด้วยความรู้สึกหลากหลาย ชวลิตวางหนังสือพิมพ์ลงแล้วมองเธอลอดผ่านแว่นตามาพร้อมกับยิ้มให้ ในขณะที่ชีวินกลับทำหน้าตึงแล้วตามมาด้วยถ้อยคำถากถางตามแบบฉบับเขา"นี่ลูกสาวคนใหม่ของพ่อเขาชอบตื่นสายแล้วปล่อยให้คนอื่นนั่งรอบนโต๊ะอาหารแบบนี้ประจำเลยเหรอครับ""รอเรออะไรกั
ทันทีที่ถูกฉุดมาให้ลุกขึ้นนั่ง ชุดนอนกระโปรงสายเดี่ยวตัวบางถูกถอดออกจากทางศรีษะ เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เผลอสบตา ริมฝีปากของชีวินก็ตรงเข้ามาครอบลงบนริมฝีปากหวานทันควัน ลิ้นชื้นสอดมุดเข้าไปในโพรงปากนุ่มทันที เขาไม่มีรอจังหวะ ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งของเขาควานบีบคลึงไปบนเต้างามและบนสะโพกกลมกลึง ภัทรพิชายอมปล่อยให้ชีวินสัมผัสทุกอย่างบนร่างกายเธอได้ตามอย่างแต่ใจด้วยการตอบสนองเป็นท่าทางที่แสนจะเงอะงะ ปราศจากความรู้สึกต่อต้าน สองกายกอดรัดฟัดเหวี่ยงเข้าหาในขณะที่คนหนึ่งเปลือยเปล่าแล้ว หากแต่อีกคนยังคงอยู่ในชุดนักศึกษาครบชุด"ถอดเสื้อให้ฉัน"แม้ว่าจะรสจูบของเขาจะมีรสชาติมึนเมาจนเธอสมองเบลอ ลมหายใจคล้ายขาดห้วงจนเกือบจะหายใจหายคอไม่ทัน แต่ภัทรพิชาก็ยังคงพอมีสติหลงเหลืออยู่บ้างไม่มากก็น้อย สองมือสั่นเทารีบยกขึ้นไปแกะกระดุมเสื้อทีละเม็ดอย่างยากลำบาก เหตุผลก็เป็นเพราะว่ารสจูบที่ชักจะร้อนแรงมากขึ้นไปเรื่อยๆเมื่อชีวินตั้งใจจูบเอาแบบไม่มีความปราณียิ่งทำให้เธอสติหลุด"กระดุมแค่ไม่กี่เม็ด เธอจะใช้เวลาแกะจนถึงพรุ่งนี้เลยไหมไพน์ ชักช้า เอามือออก งั้นกระดุมเสื้อไม่ต้องละ เปลี่ยนเป็นมาถอดเข็มขัดกับกางเกงให้ฉ