โนเนจัง
เพนส์เฮาส์
"แลนด์ดิ้งรึยัง..."
(แลนด์แล้วจ้า มารับได้เลย)
"โอเค อยากลองรถใหม่พอดี"
หลังวางสายฉันหยัดลุกจากโซฟาไปคว้าหมวกกันน็อกเดินไปที่ลิฟต์ ก่อนจะกดลงไปชั้นจอดรถส่วนตัวของตัวเองเพื่อควบบิ๊กไบค์ Ducati Street Fighter V4s คู่ใจ ปอยผมยาวถูกสบัดไปข้างหลังลวกๆ เพื่อสวมหมวกกันน็อค ก่อนจะดึงถุงมือจากเสื้อหนังมาใส่ทีละข้างให้กระชับมือ
"โคตรเท่"
ฉันพูดกับตัวเองแล้วยิ้มที่มุมปาก หลังจากนั้นก็กดปุ่มสตาร์ทระเบิดเสียงท่อดังกระหึ่มทั่วบริเวณ
'บรึ้นนนนน บรึ้นนนนน'
"คุณแทนขวัญครับ!"
"คุณแทนขวัญ!"
บอดี้การ์ดที่พึ่งมาถึงวิ่งมาล้อมรถบิ๊กไบค์ฉันทันที เวร น่ารำคาญเป็นบ้า! ทำไมฉันต้องเกิดมาเป็นลูกสาวมาเฟียด้วยวะ กฎเกณฑ์เยอะกว่ากฎหมายประเทศไทยซะอีก
"หลบ"
"ถ้าคุณแทนขวัญจะออกไปข้างนอก พวกผมต้องนำขบวนนะครับ"
ฉันเปิดหมวกกันน็อกขึ้นด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะคว้าปืนที่เหน็บข้างเอวออกมาตั้งลำ 'แกร๊ก' และเล็งไปที่คนขวางทางอย่างเอาจริง
"ถ้าไม่หลบ...ฉันยิงเรียงคนแน่"
"แต่คุณแทนขวัญ... มันอันตรายนะครับ ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาท่านเอาผมตายแน่ๆ ผมไหว้ล่ะครับ ลงจากรถนะครับ"
"หลบ!"
บอดี้การ์ดมองหน้ากันด้วยความลังเล ฉันรู้ว่าตัวเองกำลังทำให้คนพวกนี้ลำบากใจ แต่แล้วไงล่ะ? ฉันสะดวกใจที่จะทำแบบนี้ อยากมีอิสระ และโลดแล่นบนท้องถนนกับรถคันโปรดของตัวเอง มันผิดตรงไหน?
"ไม่หลบใช่ไหม ได้!"
ฉันถามเสียงแข็งเมื่อร่างสูงที่สวมชุดสูทไม่ยอมหลีกทางให้ และเมื่อไม่มีเสียงตอบกลับมาเท่านั้นแหละ ปลายกระบอกปืนของฉันก็เล็งไปที่ขาผู้โชคดีทันที
'ปัง!'
"อ๊าก"
"แกคือคนที่ถูกเลือก" ฉันเก็บปืนไว้ที่เดิมตบฝาหมวกกันน็อคลง 'กึก!' ก่อนจะกำครัชเข้าเกียร์ และออกรถฝ่าฝูงบอดี้การ์ดไปอย่างรวดเร็วเพื่อตรงไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ
การเฉิดฉายบนท้องถนน และขับรถด้วยความเร็วเกินกำหนดเป็นสิ่งที่ฉันฝันมาตลอด ตอนนี้มือขวาจึงบิดไม่ยั้ง ก่อนจะเหลียวมองเพียงนิดและปรับแฮนด์แทรกผ่านรถแต่ละคันไปอย่างโฉบเฉี่ยว
ฉันชอบความเร็ว ชอบผาดโผน ชอบทุกๆอย่างที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ชอบกัน และนิสัยก็ไม่ได้ดีมาก แทบจะได้ฉายา 'เด็กเวร' ด้วยซ้ำ
ซึ่งฉันไม่แคร์...
ใครด่าฉันก็แค่ถวายลูกปืนใส่ปากมันเท่านั้นแหละ
สนามบินสุวรรณภูมิ
ฉันจอดรถถอดหมวกกันน็อคออกแล้วสบัดผมยาวสลวยของตัวเองให้เข้าทรง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวที่นักบินสาวสวยลากกระเป๋าออกมายืนงงเป็นไก่ตาแตก
"ว้อท เดอะ ฟัค! อะไรของแกเนี่ย รถคันใหม่ฉันนึกว่าเฟอรารี่ ลัมโบร์กินี อะไรก็ได้ที่รถสี่ล้อ แกขับบิ๊กไบค์มารับฉันเนี่ยนะ"
ฉันวางหมวกกันน็อคแล้วพยักหน้าตอบ เจ้ซีลีนเป็นลูกพี่ลูกน้องฉันเอง นางเป็นนักบินผู้ช่วยที่กัปตันอยากหิ้วไปควบบนเตียงบ่อยๆ
"ขึ้นรถสิ"
ฉันบอกเธอด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนจะส่งหมวกกันน็อคของตัวเองให้
"แล้วแกไม่ใส่หมวกกันน็อคเหรอ?"
"ไม่ล่ะ เจ้ใส่เถอะฉันสบายๆ"
"ไม่ได้!"
"ได้ ขึ้นมาสักทีเดี๋ยวรปภ.ก็มาไล่หรอก ฉันสัญญาว่าจะขับไม่เร็ว ส่วนเจ้ก็เอากระเป๋าวางบนตักกอดแน่นๆ"
เจ้ซีลีนส่ายหน้าเอือมระอา แต่เมื่อหันไปเห็นรถคันอื่นๆรอจอดเทียบรับผู้โดยสารยาวเฟื้อย ก็จำใจก้าวขึ้นซ้อนบิ๊กไบค์ของฉันแล้วยกกระเป๋าวางไว้บนขา
ฉันหันไปสวมหมวกกันน็อคให้ และล็อคสายแน่น เผลอสบตากันแว๊บนึงจนเจ้แกหลุดขำออกมา
"ฮ่าๆ เหมือนแฟนกันเลยอ่ะ แกเป็นผู้หญิงจริงๆป่ะเนี่ย"
"ผู้หญิงดิ มีหอย"
"หอยใหญ่ หรือหอยเล็ก"
"ใหญ่ และสวยด้วย จับแน่นๆนะรถมันแรง"
พี่สาวฉันพยักหน้าหนึ่งครั้งแล้วจับชายเสื้อฉันไว้ ส่วนแขนอีกข้างโอบกอดกระเป๋านักบินแน่น ก่อนที่ฉันจะสตาร์ทรถแล้วบึ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ผมยาวพลิ้วไปตามลม ตาหรี่ลงเล็กน้อยเพราะแดด
จนเราสองคนจอดรถติดไฟแดง เจ้ซีลีนก็โน้มมาบอกอะไรบางอย่าง
"มีคนมองเราด้วย มองอย่างสนอกสนใจ" ฉันสบัดผมไปข้างหลังเชิดหน้าขึ้น การถูกมองเป็นเรื่องธรรมดาของคนสวย และเท่อย่างฉัน
"ให้มองไปเถอะ ไม่ได้แอ้มหรอก"
"แต่ฉันว่าได้แอ้มนะ"
"ทำไม? ใครจะกล้ายุ่งกับลูกสาวมาเฟีย แค่พูดชื่อพ่อพวกผู้ชายก็วิ่งหางจุกตูดแล้ว" คราวนี้เจ้ซีลีนสะกิดไหล่ฉันรัวๆ
"ตำรวจกำลังถือใบสั่งมาน่ะ"
"ห๊ะ!"
'ปี๊ดๆ ปี๊ดๆ'
"น้องบิ๊กไบค์คันนั้นขับมาจอดตรงนี้เดี๋ยวนี้ ทำไมไม่ใส่หมวกกันน็อค?!" ฉิบหายแล้วไง
ฉันเม้มปากแน่นมองไปที่ตัวเลขสีแดงที่เวลาลดลงเรื่อยๆ ขณะที่หูพยายามฟังเสียงตำรวจที่กำลังเดินมา
เจ้ซีลีนสะกิดแล้วสะกิดอีกให้ฉันยอมจอดรถรับข้อกล่าวหา แต่มันจะเป็นแบบนั้นไม่ได้ ถ้าฉันโดนจับเพราะรถบิ๊กไบค์พ่อต้องฆ่าฉันแน่นอน
ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง...
ไฟเขียว!
'บรึ้นนนนนนนนน'
"กรี๊ดดดดดดดแทนขวัญ แกหนีตำรวจเหรอ?!"
"จับแน่นๆ"
"หนีทำไม โอ๊ยหอยแหกแน่ๆ ตำรวจไล่ด้วย จอดเถอะนะฉันยังอยากมีอนาคตที่ดี"
ฉันไม่ฟังพี่สาวตัวเอง ยิ่งหล่อนกรี๊ดยิ่งบึ่งรถบิ๊กไบค์ซอกแซกผ่านรถตามท้องถนนเพื่อให้ถึงบ้านเจ้ซีลีนให้เร็วที่สุด ผมยาวๆเริ่มยุ่ง ความร้อนของอากาศทำให้เหงื่อผุดขึ้นตามขมับเป็นเม็ดๆ
แต่ขณะที่หนีตำรวจพ้นนั่นเอง ก็มีรถหรูคันนึงขับออกมาจากซอยตัดหน้าฉัน
"เฮ้ย!"
'โคร่ม!'
ฉันกำเบรคสุดความสามารถ แต่ด้วยความเร็วของรถทำให้เบรคไม่ทัน ล้อหน้าได้จุ๊บเข้ากับรถลัมโบร์กินีคันนั้นเป็นที่เรียบร้อย
และฉันก็รีบค้ำรถไว้อย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เจ้ซีลีนตกลงไป
"กรี๊ด อะไรกันเนี่ย"
เจ้ซีลีนบ่นก่อนจะก้าวลงจากรถไปยืนถือกระเป๋าริมถนน แต่ฉันไม่จบแค่นี้หรอก แม่งขับรถประสาอะไรไม่ดูตาม้าตาเรือ จึงเดินไปถอดหมวกกันน็อคที่อยู่ในหัวพี่สาวออกมา และถือมันก้าวดุ่มๆ ไปทุบฝากระโปรงรถคันนั้นเต็มแรง
'ปึง!'
"ลงมา"
"แทนขวัญ แกทำอะไรของแก" เจ้ซีลีนร้องห้าม ขณะที่ตามองรอบๆอย่างหวาดหวั่น แต่ฉันไม่สนหรอกนะตำรวจมาก็ไม่กลัวแล้วด้วย ได้รถเวรนี่มันขับรถตัดหน้าฉันก่อน
"บอกให้ลงมาไงวะ ขับรถประสาอะไร!?" ฉันตวาดกร้าวเสียงดัง เตรียมง้างมือฟาดหมวกกันน็อคลงอีกครั้ง แต่ประตูก็เปิดออกมาซะก่อน
ประตูปีกนกสวิงขึ้นสองข้างพร้อมขายาวๆที่ก้าวลงมา ฝั่งนู้นเป็นเป็นผู้หญิงหน้าตาดี ส่วนฝั่งคนขับเป็นผู้ชายร่างสูงสวมสูทเนี้ยบ และหน้าตาดีมาก
ฉันคุ้นหน้าเขา แต่ความโมโหตอนนี้มันไม่มีอารมณ์นึกชื่อหมาที่ไหนหรอกนะ
ฉันทิ้งหมวกกันน็อคลงพื้น เดินไปคว้าคอเสื้อเขาทันที
"ขับรถประสาอะไรวะ!?"
"ขับรถปกติ แต่ตรงนี้เขตชุมชนเธอขับเร็วเอง..." เขาตอบด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง สองมือสอดล้วงกระเป๋ากางเกง และกดตาต่ำมองมือฉัน
"เห็นๆอยู่ว่าออกจากซอยไม่ดูรถ..." ก่อนจะพูดจบฉันเว้นช่วง และตวัดตามองไปที่สาวร่างเล็กอีกฝั่ง
"อ๋อ...หรือมัวแต่บีบนมกันอยู่"
"บีบ...นม?"
สิบแปดปีต่อมา....กว่าจะผ่านมาได้สิบแปดปี เจ็บไม่รู้กี่ครั้ง หลั่งน้ำตาไม่รู้กี่รอบ แต่ฉันกับลูกๆก็ผ่านมันมาได้อย่างลุ้นระทึก ทำไมถึงเป็นแบบนั้นน่ะเหรอ...ก็เพราะตอนที่ภาขวัญโตพลังเธอยิ่งกว่าวันเดอร์วูแมน บ้านคฤหาสน์ดรากอนสุดยอดแห่งความโกลาหล พายุ ภาขวัญถือปืนของเล่นไล่ยิงกันในบ้าน ใช้ตู้ แจกัน โซฟาเป็นที่กำบังจากกระสุนยางส่วนภาคิณพยายามวิ่งห้าม เพราะทุกๆครั้งที่เล่นแบบนี้ต้องมีของแตกหรือพัง เมื่อก่อนฉันก็บ่นนั่นแหละแต่ตอนนี้รู้สึกแก่เลยปล่อยวาง แต่ความดื้อของลูกไม่ได้ลดน้อยลงเลยนะคะ พวกเขาแค่พูดรู้เรื่องขึ้นเท่านั้น "มาม๊าคะ...หนูเจอผู้ชายคนนึงหล่อมาก!"ฉันยกนิ้วชี้แตะริมฝีปากภาขวัญทันที พายุอยู่บ้าน ภาคิณอยู่บ้าน รวมถึงพี่องศาก็อยู่ที่ห้องทำงาน พูดเรื่องผู้ชายให้ได้ยินไม่ได้"แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าห้ามพูดเรื่องนี้ที่บ้าน ถ้าอยากพูดพูดกับแม่ข้างนอก" ภาขวัญทำหน้ายู่ "ได้ค่ะ แต่มาม๊าช่วยอะไรหนูหน่อยได้ไหมคะ?" พอภาขวัญพูดแบบนั้น ซานิที่พึ่งกลับจากมหาวิทยาลัยด้วยกันก็จับมือเธอทันที "อย่าเลยแก""เอาน่าซานิ ม๊าฉันเข้าใจ""จะให้แม่ช่วยอะไร?" ฉันถาม"สั่งบอดี้การ์ดของดรากอนหรือไลออน ไปขู่
หนึ่งปีต่อมาพายุ ภาคิณ 5 ขวบภาขวัญ 7 เดือน"ภาขวัญคลานมานี่ คลานมาๆ" พายุอยู่อีกมุมบ้าน กำลังปรบมือเรียกน้องสาวที่กำลังตั้งท่าคลานให้ไปหาตัวเอง บ้านหลังใหญ่อาณาจักรมาเฟียองศา ทุกพื้นที่ถูกบุไปด้วยเบาะนุ่ม และสร้างประตูเล็กกั้นบันไดไม่ให้เด็กแสบอย่างภาขวัญคลานไปถึงแทนขวัญเป็นแบบไหน ภาขวัญคูณสอง นอกจากจะหน้าตาเหมือนฉันอย่างกับโคลนนิ่ง นิสัยก็ปังมาก เอาแต่ใจ งอแงเก่ง และดื้อจนฉันอยากจะยีหัวตัวเอง อย่าเผลอเชียว แอบคลานไปทุกที่และก็ชอบเล่นซ่อนแอบให้ฉันปวดประสาท ถ้าเดินได้ฉันคงไม่ต้องทำอะไรแล้วล่ะ นั่งจ้องลูกทั้งวันกลัวลูกหาย เพราะพี่องศารักภาขวัญมาก เห่อมาก ตอนที่ภาขวัญคลานและล้มตุ๊บใส่ของเล่น ลูกไม่ร้อง แต่พ่อน้ำตาซึมและทิ้งของเล่นแข็งๆหมดบ้านเครียดกันเป็นอาทิตย์"ภาขวัญมาเร็วววววว" ภาขวัญหัวเราะคิกๆแล้วคลานไปหาพี่ชายอีกมุม ซึ่งฝั่งนู้นก็ปรบมือเร่งอย่างครึกครื้น ลืมบอกไปว่าภาขวัญมีฟันกระต่ายสองซี่ขึ้นแล้วนะคะ เวลาหัวเราะหรือยิ้มแฉ่งนี่น่าเอ็นดูมาก"มาเลยภาขวัญ!""พายุอย่าเร่งน้อง" ภาคิณปราม เพราะก่อนหน้ามันมีเหตุเกิดมาแล้ว เล่นกันแบบนี้เชียร์กันสุดเสียงแล้วภาขวัญก็คลานจนแขนล้าล้มหน
หลังจากได้รับโฉนดที่ดินหลักร้อยล้านมาครอง ไม่นานฉันกับพี่องศาก็ขอตัวกลับ แต่พายุไม่ได้อยู่ที่นี่คนเดียว เพื่อความเท่าเทียมภาคิณขออยู่กับพี่ชายด้วย เขาให้เหตุผลว่าตัวเองไปไหนต้องมีพายุไปด้วยตลอด เลยไม่อยากให้พี่น้อยใจหรือแยกจากกัน น่าเอ็นดูมาก ฉันกับพี่องศาได้ยินน้ำตาแทบไหล ประทับใจที่พี่น้องรักใคร่กลมเกลียวเพราะจากที่ไปอ่านมาจากเว็บไซต์ลูกรักที่ตั้งบอร์ดปรึกษาหารือเรื่องลูกแฝด ปัญหาโลกแตกคือเด็กชอบทะเลาะกัน ยิ่งเป็นเพศเดียวกันยิ่งแล้วใหญ่ จิกหัวตบ แย่งของเล่น สารพัด!"ไม่มีลูกก็เหงาเหมือนกันนะคะ กลับรถไปรับดีไหม?"พี่องศาหันมายิ้ม"ติดแค่ลูกเหรอครับ ไม่ติดพี่บ้างเหรอ?" "ติดค่ะ ถ้าลืมพี่องศาไว้บ้านพ่อก็จะกลับรถไปรับเหมือนกัน" เขาจับมือฉันไปหอมฟอดใหญ่แล้วกุมไว้บนตัก และหลังจากนั้นก็ไม่ปล่อยมือเลย แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะหน้าขบวนรถมีรถนำอยู่แล้ว ฉันกับพี่องศาจึงขับรถไปเรื่อยๆ สวีทกันสองคนจนถึงบ้าน...ต้องอาบน้ำเตรียมเข้านอน มาเฟียหนุ่มก็บุกมาก่อกวนฉันถึงในห้องน้ำ เขานั่งซ้อนหลังฉันถูหลังให้ ชโลมครีมอาบน้ำที่หัวไหล่แล้วนวดเบาๆ นี่มือจับปืนจับดาบมาเหรอเนี่ย...นุ่มจัง"รู้
"แม่! ลูกหนูล่ะ!"ทันทีที่ตื่นขึ้นมาฉันไม่สนใจเลยว่าตัวเองอยู่ที่ไหน พอเจอหน้าแม่ก็รีบจับแขนท่านถามทันที "ใจเย็นๆแทนขวัญ พายุไม่ได้เป็นอะไรเลย บอดี้การ์ดรับไว้ทันแถมพายุยังมีความสุขดีไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน""เฮ้ออออ"ฉันยกมือทาบอกถอนหายใจโล่ง ก่อนจะหันไปมองรอบๆห้องแล้วเห็นพี่องศาและพ่อยืนอยู่ ส่วนพายุหลับอยู่ที่โซฟา ภาคิณยืนมองฉันตาละห้อย โถ่...คนพี่ดื้อจนแรงหมด คนน้องก็น่าเอ็นดูเหลือเกิน"พ่อว่าเราต้องจัดการพายุแล้วแทนขวัญ" อยู่ๆพ่อฉันก็พูดขึ้นมา"พะ พ่อหมายความว่ายังไงคะ?""ระหว่างที่ลูกท้อง ให้พายุไปอยู่กับพ่อช่วงเสาร์อาทิตย์"ฉันมองพี่องศาทันที ซึ่งเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย จันทร์ถึงศุกร์ถามว่าพายุดื้อไหม ดื้อค่ะ แต่ไม่ได้เอาพลังทั้งหมดมาใช้กับความดื้อขนาดนี้ แต่ถ้าไปอยู่กับพ่อฉัน...ชั้นล่างก็เป็นบ้านพี่แทนคุณ พายุต้องไปป่วนบ้านนั้นเล่นกับเดนิสจนบ้านพังแน่ๆ"คงไม่ชวนเดนิสเล่นซนนะคะ" "ไม่หรอกแทนขวัญ...เดนิสเป็นเด็กผู้หญิงลูก รายนั้นเล่นแต่ตุ๊กตา" แม่ฉันตอบด้วยรอยยิ้ม ตอนที่ฉันเป็นลมทุกคนคงประชุมกันแล้วสินะ สงสัยคงต้องเป็นแบบนั้นแล้วล่ะ ช่วงนี้ฉันท้องอ่อนๆอยู่ด้วยวิ่งตามจับพายุไม่ไหว
[SPECIAL]แทนขวัญ x องศาสองคนนั้นคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายออกเยี่ยมราษฎรรึไง รู้แล้วว่ารักกัน รักมาก ขอแสดงความยินดีด้วย เจ้ซีลีนโชคดีมากจริงๆ แผนทั้งหมดพี่โซ่บอกพวกเราหมดแล้วเขาตั้งใจกับเรื่องนี้มาก ตอนที่พนักงานเอาดอกกุหลาบมาวางอย่างทำเวลา เราทุกคนข้างล่างก็คอยช่วยกำกับ"เหลือคู่เราแล้วนะครับ" ฉันหันไปมองพี่องศาแล้วยิ้มให้เขา เหลือคู่เราอะไร...คู่เราน่ะสมหวังกันตั้งนานแล้ว เหลือแค่ส่งท้ายเล็กๆน้อยๆให้ทุกคนแฮปปี้เอนดิ้งเท่านั้น"คู่เราต้องฉลองด้วยไหมคะ?""ครับ...แต่ฉลองกันสองคน หนูสะดวกไหม?" สะดวกที่สุด ฉันไม่ได้ตอบพี่องศาด้วยคำพูด แต่ใช้สายตาเป็นคำตอบแทน ซึ่งแค่มองตาก็รู้ใจ... หลังจากนั้นพี่โซ่กับเจ้ซีลีนก็เสด็จลงมาขอบคุณทุกคน ก่อนจะดื่มพูดคุยกันนิดหน่อยแล้วแยกย้ายกันกลับ แต่กว่าฉันจะลากสองแฝดกลับบ้านได้ยากมากๆ อยู่ๆลูกชายฉันก็ติดลมเล่นกับซีล นั่งคุยกันเป็นตุเป็นตะราวกับมีธุรกิจพันล้านจะสร้างด้วยกัน"เดี๋ยวซานิออกมาต้องน่ารักมากแน่ๆ" มีคนคลั่งรักน้องด้วย แต่พายุไม่ยอมแพ้"น้องภาขวัญออกมาก็น่ารักเหมือนกัน เป็นเจ้าหญิงน้อยของพวกเรา" ใช่ค่ะ น้องสาวคนเล็กของสองแฝดชื่อภาขวัญ
อยากได้อะไรพ่อก็ตามใจทุกอย่าง นี่แหละตาซีล หลังจากนั้นสองสามวันลูกชายฉันก็เป็นฝ่ายโทรไปชวนญาติสนิทมิตรสหายของเขาด้วยตัวเอง โดยมีพ่อเป็นคนต่อสายให้"มาเยยนะ มีเหล้า มาเมากัน" ไม่ได้! ไปเอาคำพูดพวกนี้มาจากปู่แน่ๆเลย โทรชวนตามากินเหล้าตั้งวงบ่อย คำพูดของตาซีลทำให้คนในบ้านขำจนปวดท้อง หนักสุดคือคุณปู่ท่านถึงกับเดินออกไปขำนอกบ้าน"ซีลยังพูดเรื่องเหล้าไม่ได้นะลูก ยังเด็กอยู่เลย""ก็ฉลองต้องมีเหล้าไม่ใช่เหรอครับ" พี่โซ่จะขำ แต่พอฉันตวัดตามองเขาก็รีบปิดปากไว้ "เหล้าสำหรับผู้ใหญ่ค่ะ ซีลโตก่อนนะ ตอนนั้นแม่จะไม่ห้ามเลย" ซีลพยักหน้าหงึกๆ แต่ก็ไม่ได้จำคำสอนของฉันเลย เขายกหูโทรศัพท์พูดต่อแถมพูดมากกว่าเดิมอีก"มานะพายุ เหล้าดีๆเยอะแยะไปหมด โอเคๆโทรชวนเพิร์ลก่อน อย่าลืมมานะ พรุ่งนี้นะ" ฉันกุมขมับ เจ้าเด็กพวกนี้ชอบคุยกันเกินอายุจริงๆ•••งานเลี้ยงฉลองฉันดูออกว่าลูกชายชอบการปาร์ตี้ ชอบเพื่อนฝูง พายุกับภาคิณมาถึงนี่รีบออกตัวไปชวนนั่งและชี้สั่งให้แม่บ้านเสิร์ฟของว่างให้ เราจัดงานกันช่วงเย็นที่หน้าบ้านตัวเอง ซึ่งมีน้ำพุกามเทพแผลงศรตระหง่านอยู่หน้าบ้าน ตัวนี้พี่โซ่เขาเป็นคนเลือกเอง บอกว่ามันคล้ายกับควา