LOGINไปรญากลับมาถึงบ้านซึ่งเป็นห้องเช่าในอพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่ง หญิงสาวอาศัยอยู่กับมารดาชาวไทยส่วนบิดาเป็นใครนั้นเธอไม่เคยรู้ ปัทมาแม่ของไปรญาเลี้ยงดูลูกสาวมาเพียงลำพังด้วยการทำงานรับจ้างเป็นแม่บ้าน จนกระทั่งเมื่อปลายปีที่แล้วได้ถูกรถชนจนทำให้ขาหักเดินไม่ได้อยู่หลายเดือน เงินทองที่มีอยู่ก็เริ่มร่อยหรอไม่พอใช้ ไปรญาจึงต้องมาทำงานพิเศษในบาร์ช่วงกลางคืนหลังเลิกเรียน เพื่อหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษามารดาและจ่ายค่าเล่าเรียน ตอนมาสมัครงาน โทนี่ บราว เสนอให้เธอทำงานเป็นโคโยตี้เพราะเห็นว่ารูปร่างหน้าตาของไปรญาสวย แต่หญิงสาวเลือกทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ในครัวแทน แม้จะได้เงินน้อยกว่าและต้องทำงานหนักมากก็ตาม
“หนูกลับมาแล้วค่ะแม่”
ไปรญาเปิดประตูเข้ามาในห้อง พร้อมตะโกนทักทายมารดาเหมือนเช่นทุกวัน แม่ของเธอจะไม่ยอมนอนจนกว่าเธอจะกลับมา และมักเตรียมอาหารไว้ให้ ระหว่างรอก็ถักไหมพรมทำงานฝีมือไปด้วย เป็นอีกหนึ่งรายได้ที่สามารถทำได้
“แม่อยู่ไหนคะ อยู่ในห้องหรือเปล่าคะ”
ไปรญาเดินเข้ามาในห้องมองหามารดา ซึ่งปกติจะนั่งรออยู่หน้าทีวี แต่วันนี้ไม่มีร่างคุ้นตาอยู่ที่เดิม เลยเดินเข้าไปในห้องนอนเพราะคิดว่ามารดาอาจจะนอนพักอยู่ แต่บนเตียงก็ไม่มีร่องรอยการนอน จึงเดินไปหาในห้องน้ำที่เปิดประตูแง้มไว้ ก่อนจะกรีดร้องด้วยความตกใจเมื่อพบร่างของผู้เป็นแม่นอนแน่นิ่งบนพื้นห้องน้ำ ศีรษะมีเลือดไหลออกมาแดงฉาน
“กรี๊ด แม่คะ แม่เป็นอะไร!”
หญิงสาวรีบเข้าไปประคองมารดา เขย่าเรียกให้ตื่นแต่อีกฝ่ายนอนหลับตาแน่นิ่งไม่ไหวติง หัวใจคนเป็นลูกหล่นไปกองกับพื้น รีบโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลทันที
ไปรญาตามมารดามาที่โรงพยาบาล นั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินจนหมอออกมา
“อาการของแม่คุณต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน เพราะศีรษะมีเลือดคั่งจากการล้มฟาดพื้นอย่างรุนแรง”
“ค่ะหมอ ทำยังไงก็ได้ ช่วยรักษาแม่ของฉันให้ปลอดภัยก็พอ ช่วยแม่ของฉันด้วยนะคะหมอ”
ไปรญาอ้อนวอนนายแพทย์ผู้รักษา เธอมีแม่เพียงคนเดียวหากเสียท่านไปคงไม่เหลือใครแล้วในโลกนี้
“ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดค่อนข้างสูง หากคุณยินยอมให้ผ่าตัดเราจะทำการผ่าตัดทันที”
แน่นอนว่าการผ่าตัดมีความเสี่ยงสูงค่ารักษาย่อมแพงไปด้วย ไปร ญาพยักหน้ารับ เธอคงต้องทำทุกอย่างเพื่อหาค่ารักษามาจ่าย เพื่อแลกกับชีวิตมารดา หญิงสาวนั่งคิดหาหนทางเพื่อจะหาเงินก้อนนี้อยู่นาน ความคิดหนึ่งวาบเข้ามาในสมอง ริมฝีปากอิ่มแย้มกว้างอย่างดีใจเมื่อมองเห็นหนทาง
ไปรญาเดินออกมาจากโรงพยาบาลด้วยความอ่อนล้า ก่อนจะโบกแท็กซี่ไปยังที่ทำงานเพื่อเข้าพบเจ้าของบาร์
“คุณโทนี่คะ ฉันจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อเป็นค่าผ่าตัดให้แม่ ฉันขอเบิกเงินค่าจ้างล่วงหน้าได้ไหมคะ แล้วฉันจะทำงานชดใช้ให้”
ไปรญาเข้าไปพบโทนี่ บราว เพื่อขอเบิกเงินค่าจ้างล่วงหน้ามาจ่ายค่าผ่าตัดให้มารดา
“เธอเพิ่งทำงานกับเราได้แค่หกเดือน ตามกฎต้องทำงานอย่างน้อยหนึ่งปีถึงจะมีสิทธิ์เบิกเงินหรือกู้ยืมเงินได้” โทนี่บอกพนักงานของตน
“ได้โปรดเถอะค่ะ แม่ฉันต้องผ่าตัด หากไม่มีเงินก้อนนี้ไปจ่าย แม่ฉันอาจจะตาย ช่วยฉันได้ไหมคะ”
ไปรญาอ้อนวอนขอความเห็นใจ เธอมองไม่เห็นทางใดที่จะหาเงินมารักษาแม่ นอกจากขอกู้ยืมจากที่ทำงาน
“ฉันช่วยได้แค่บางส่วน หากเธอต้องการเงินมากๆ ฉันแนะนำให้เธอเปลี่ยนตำแหน่งจากแม่บ้านไปเป็นโคโยตี้สักเดือน รายได้ของสาวโคโยตี้เดือนหนึ่งมากกว่าเธอทำงานแม่บ้านทั้งปีอีกนะ ถ้ายิ่งมีคนชอบมากเธอจะได้ค่าทิป ค่าดริ๊งเยอะจนเธอคาดไม่ถึงเชียวแหละ สวยๆ แบบเธอคนคงติดกันเกรียว”
คำแนะนำของเจ้าของบาร์ทำให้ไปรญาคิดหนัก เธอรู้ดีว่าอาชีพโคโยตี้ทำรายได้มากมายแค่ไหน เธอไม่คิดทำเพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน งานแม่บ้านก็พออยู่พอใช้จ่ายแล้วในสถานการณ์ปกติ แต่ในยามนี้เธอจำเป็นต้องหาเงินมาจ่ายค่ารักษามารดา ซึ่งไม่รู้ว่าต้องใช้เงินมากแค่ไหน เหมือนถูกบีบให้หลังชนฝาหากไม่ทำก็คงไม่มีทางใดหาเงินได้มากพอ
“ตกลงค่ะ ฉันขอเป็นโคโยตี้สักเดือนนะคะ ถ้าหาเงินได้พอค่ารักษาแม่ ฉันจะเลิกทำแล้วกลับมาทำงานแม่บ้านเหมือนเดิม”
ไปรญาตัดสินใจเลือกชีวิตของแม่มากกว่าศักดิ์ศรีของตัวเอง เธอจะมีศักดิ์ศรีไปเพื่ออะไรหากไม่มีแม่อยู่ข้างๆ หญิงสาวยอมทำงานที่ตัวเองไม่ชอบสักระยะเพื่อหาเงิน หากเก็บเงินได้มากพอจ่ายค่ารักษาเธอจะเลิกทำงานนี้ทันที
แต่หญิงสาวไม่รู้หรอกว่า อำนาจของเงินตรามันพลิกชีวิตและความเชื่อของคนเราได้มากแค่ไหน เมื่อหลงเข้ามาในวังวนนี้แล้ว ก็ยากจะถอนตัวออกไปได้ง่ายๆ
อาชีพโคโยตี้เป็นความท้าทายของไปรญาเมื่อต้องไปเรียนเต้นกับครูสอนของบาร์ ด้วยความตั้งใจและสมองไวทำให้หญิงสาวสามารถเต้นได้พลิ้วในเวลาไม่นาน สามารถขึ้นเวทีครั้งแรกได้ในเวลาแค่เจ็ดวัน
“ครูคะปลายตื่นเต้นจังเลยค่ะ”
หญิงสาวจับมือครูสอนเต้น ขณะกำลังจะขึ้นเวทีครั้งแรกในฐานะสาวโคโยตี้คนใหม่ของซัคคิวบัสบาร์ ตอนทำงานเป็นแม่บ้านเธอเคยแอบดูสาวๆ โคโยตี้เต้นกัน พอต้องมาเต้นเองกลับใจสั่นไปหมด
“เธอไปอยู่ที่ไหนนะไปรญา ยายตัวแสบ ยายผู้หญิงตัวร้ายกาจ เธอทำให้ฉันแทบคลั่งตายแล้วรู้ไหม”เอนริโก้สาดเหล้าลงคอ ขณะพาตัวเองมายังงานเลี้ยงของเฟอร์นันโด เบอร์นี่ นักธุรกิจใหญ่ผู้มีอิทธิพลสูงคนหนึ่งของประเทศ เฟอร์นันโดมีบริษัทในเครือมากมาย ทั้งโรงแรมและห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก ติดอันดับเศรษฐีคนหนึ่งของโลกในคืนนี้เป็นงานวันเกิดของเฟอร์นันโด บรรดานักธุรกิจน้อยใหญ่ต่างมาร่วมอวยพรวันเกิด เอนริโก้ได้รับบัตรเชิญผ่านคารอส เบอร์นี่ หลานชายคนเดียวของเฟอร์นันโด เขากับคารอสร่วมหุ้นทำโรงงานผลิตเบียร์แห่งใหม่ด้วยกันเมื่อหลายเดือนก่อน คารอสมีกิจการอีกอย่างคือ บาร์โคโยตี้ ชื่อซัคคิวบัสบาร์ ซึ่งเคยเชิญเขาไปดื่มกินเลี้ยงต้อนรับพร้อมกับของอภินันทนาการคือหญิงสาวสองคนให้เขาเชยชม และนั่นทำให้เขาได้พบกับไปรญาผู้หญิงตัวแสบ ที่ทำให้เขากลายเป็นคนร้ายกาจ ถึงขั้นบังคับขู่เข็ญเพื่อจะได้ครอบครองเธอ แล้วเธอก็หนีเขาไป ปล่อยให้เขาบ้าคลั่งตามหาเธอราวกับคนไร้สติอยู่ร่วมสามเดือน แม้จะหาผู้หญิงกี่คนมานอนด้วยก็ไม่มีใครทดแทนหญิงสาวได้ เขาไม่รู้สึกอิ่มเอมเหมือนเคย หิวกระหายไม่สิ้นสุด“คุณเอนริโก้ ยินดีที่ได้เจอ
“มันจำเป็นค่ะแม่ ทำงานในครัวเงินมันน้อย หนูเลยขอไปทำงานเป็นโคโยตี้แทน ขอโทษนะคะแม่ที่ไม่ได้บอกแม่ก่อน”“แม่รู้ว่าหนูทำเพื่อแม่ ช่างมันเถอะ มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ใครจะว่าอะไรเราไปห้ามความคิดเขาไม่ได้”ปัทมาเพิ่งรู้ว่าลูกไปเป็นสาวโคโยตี้ในบาร์ เพื่อหาเงินมารักษาเธอ หัวใจคนเป็นแม่ปวดร้าวจนชอกช้ำไปหมด เมื่อได้ยินพนักงานของโรงพยาบาลพูดถึงลูกสาวของเธอด้วยคำพูดไม่ให้เกียรติ แถมยังอัดคลิปมาให้กันดูเป็นที่ครื้นเครง หลายคนรู้จักไปรญาเพราะมาเยี่ยมเธอทุกวัน นั่นทำให้การนินทาว่าร้ายเกิดขึ้นในหมู่พยาบาลที่คอยดูแลเธอ โดยเฉพาะพยาบาลชาวเอเชียชาติเดียวกับเธอ ถึงกับออกปากตำหนิว่าลูกสาวของเธอสิ้นคิด ไปทำงานน่าอับอายแบบนั้นได้อย่างไร“พวกที่โรงพยาบาลบอกแม่หรือคะ พวกนั้นมีสิทธิ์อะไรมาวิจารณ์การทำงานของคนอื่น”ไปรญาโมโหขึ้นมา นึกเจ็บใจพวกปากบอนที่นำเรื่องนี้มาพูดให้มารดาฟัง เธอเพิ่งเริ่มทำงานแค่คืนเดียวเรื่องก็รู้ถึงหูคนที่นี่แล้ว มิน่าเขาถึงว่าปากกาสั้นกว่าปากคน“ช่างมัน แม่รู้ว่าลูกของแม่เป็นคนยังไง ต่อไปนี้แม่จะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกลูกของแม่ได้อีก”ปัทมาสงสารลูกสาวมาก เพราะเธอลูกถึงได้โดนคนว่าแบบนั้น เธอ
“เอาอะไรอีกไหม เดี๋ยวจะสั่งเพิ่มให้”เอนริโก้ซ่อนรอยยิ้มขันไว้ เขามองใบหน้าสวยใสด้วยแววตาเอ็นดู ขนาดยัดไปจนเกลี้ยงพุงน้อยก็ไม่ป่องขึ้นเลย เอาไปเก็บไว้ตรงไหนหมด“ฉันอิ่มแล้ว ยาอยู่ไหนคะ” ไปรญาส่ายหน้า ถามหายา“อยู่บนหัวเตียง มียาแก้อักเสบกับยาแก้ไข้ กินตามข้างซองที่หมอระบุนะ” เอนริโก้ชี้มือไปยังที่วางยาไปรญาลุกไปหยิบมาอ่านดู แล้วก็กินยาตามหมอสั่ง จากนั้นก็นอนลงบนเตียง ไม่สนใจเจ้าของห้องสักนิด ราวกับว่าเขาไม่ได้สำคัญพอที่เธอจะใส่ใจ“หลับหนีฉันอีกแล้ว ตามสบายนะ ฉันจะทำงานเหมือนกัน”เอนริโก้ปล่อยคนป่วยให้นอนหลับตามสบาย ตัวเขาลุกมาทำงานที่ห้องทำงานติดกัน ถึงจะเป็นวันหยุดแต่เขาต้องสะสางงานที่ค้างไว้ ชายหนุ่มนั่งทำงานเพลินจนมีโทรศัพท์เข้ามา“คุณเอนริโก้ครับ เกิดเรื่องที่โรงงานที่เยอรมันครับ เครื่องจักรพังเสียหายและคนงานที่ดูแลได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้โกลาหลกันมาก ทางตำรวจก็จะขอเข้ามาตรวจสอบ และขอพบเจ้าของครับ”เลขาของเขาโทรมารายงานเหตุด่วน ซึ่งโรงงานผลิตเบียร์ของเขากำลังจะถูกตรวจสอบ นั่นทำให้เอนริโก้ต้องรีบขึ้นเครื่องบินส่วนตัวเดินทางไปดูความเสียหายทันที ปล่อยไปรญาทิ้งไว้ที่ห้องเพียงลำพัง โดยลืม
“อูย เจ็บ ทำไมเจ็บแบบนี้นะ” เธอร้องครางน่าสงสาร“ครั้งแรกมันก็เจ็บแบบนี้แหละ ฉันให้หมอมาดูอาการเธอแล้วนะ หมอเพิ่งกลับไปบอกว่าให้เธอกินยาตามที่หมอจัดให้ จนกว่าจะหายดี”เขาเว้นคำสั่งพิเศษไว้ เผื่อหญิงสาวจะหายเร็วจะได้ไม่มีข้ออ้างอิดออด“ฉันจะกลับบ้าน ช่วยบอกคนรถให้ไปส่งฉันด้วย”ไปรญาอยากกลับไปบ้านของเธอ เมื่อหมดพันธะต่อกันเธอไม่ควรอยู่ต่อ เมื่อคืนมันก็มากพอแล้วกับความสูญเสียที่ไม่อาจเรียกคืน หากอยู่ต่อเธออาจจะไม่เหลือแม้แต่ศักดิ์ศรี“พักก่อนเถอะ เธอยังป่วยอยู่นะอย่าเพิ่งกลับไปเลย”เอนริโก้คัดค้านไม่ยอมให้เธอกลับ เขาวางแผนให้เธออยู่ที่นี่จนหายดี แล้วจะยื่นข้อเสนอใหม่ให้เธอยอมเป็นนางบำเรอให้เขาต่อไป เขามีเงินมากมายพอจะจ่ายให้เธออยู่กับเขาไปได้นานเท่าที่เขายังต้องการเธอ จ่ายแค่ไหนเขาก็ยินดีหากมันแลกกับการได้มีเธออยู่ใต้ร่างเขาทุกค่ำคืน“ข้อตกลงเราสิ้นสุดแล้ว ฉันอยากกลับบ้าน” เธอไม่ยอม“เธอต้องการเท่าไหร่ สำหรับการอยู่กับฉันต่อ”เขาจ้องหน้าคนดื้อ ยื่นข้อเสนอให้อย่างใจป้ำ เธออยากเรียกเท่าไหร่ก็เรียกมา เขามีปัญญาจ่าย“บ้า เมื่อคืนยังไม่พอใจอีกหรือไง ไหนบอกว่าจะปล่อยฉันไป อย่ามาหาเรื่องกักตัวฉ
“อืม คนสวยขี้เซาจริง อ๊ะ ตัวรุมๆ หรือว่าจะไม่สบาย”เอนริโก้นิ่วหน้าเมื่อสัมผัสถึงความร้อนจากกายสาว มันร้อนผิดปกติราวกับเธอจะเป็นไข้ เขาเอามือมาทาบหน้าผากเธอวัดกับหน้าผากตัวเอง ก่อนจะถอนหายใจแรง สงสัยเธอจะบอบช้ำจนไข้ขึ้น สาเหตุคงมาจากเขานี่แหละที่ไม่หยุดตัวเองกินแล้วกินอีก จนเธอสะบักสะบอม ก็ครั้งแรกนี่นะย่อมต้องมีอาการอะไรบ้าง คิดแล้วแสนภูมิใจที่ได้เป็นคนแรกของเธอ เอนริโก้ก้มลงจุมพิตริมฝีปากอิ่มอย่างอดใจไม่อยู่ ดูดดื่มความหวานจนพอใจจึงผละออกก่อนที่เขาจะเลยเถิดซ้ำเติมคนป่วยมากกว่านี้“เรียกหมอให้ด้วย เอาหมอผู้หญิงนะ” เขายกโทรศัพท์บอกลูกน้องให้ตามหมอมาดูอาการของหญิงสาว เจาะจงเอาหมอผู้หญิงเพราะไม่ไว้ใจให้หมอผู้ชายเห็นเรือนร่างโสภานี้ เขาจะเก็บเธอไว้ดูคนเดียว ไม่มีทางให้ผู้ชายหน้าไหนเห็นรูปร่างเธอหรอกเอนริโก้จัดการนำผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวทำความสะอาดคราบคาวความรักที่เปรอะเปื้อนร่างกายเธอ กุหลาบสาวคงระบมมากมันแดงก่ำบวมเล็กน้อย มีคราบเลือดหยดเปื้อนผ้าปูเป็นดวงเล็กๆ บ่งบอกว่าเธอบริสุทธิ์ผุดผ่องเพียงใด ตามเนื้อตัวก็มีรอยแดงเป็นจ้ำจากฝีมือของเขา ที่ยับยั้งความหื่นของตัวเองไม่ไหว พอเห็นรอยบนตัวเธอก
“โอ้ว เธอจะเป็นคนคุมเกมเหรอสาวน้อย เอาเลยแสดงฝีมือให้ฉันดูเลยที่รัก”เอนริโก้ยิ้มกว้าง มองร่างงามที่เก้ๆ กังๆ อยู่เหนือร่างของตนอย่างตื่นเต้น ลุ้นให้เธอพยายามเรียนรู้บทสวาทด้วยตัวเอง และหญิงสาวไม่ทำให้เขาผิดหวัง ไปรญาจับแท่งทวนที่ผลุดออกใส่กลับเข้าที่เดิม แล้วเริ่มต้นโยกขย่มลงมา“อ๊ะ มันเสียวจัง อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ”สาวเจ้าเพิ่งลองควบขับม้าหนุ่มด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก ยังกำหนดจังหวะได้ไม่เก่ง พอถูกเขาเด้งสวนขึ้นมาถึงกับครางอู้ หลับตาโยกย้ายส่ายสะโพก กระแทกกระทั้นบดอัดลงมาเต็มความสามารถ แล้วก้ร้องครางเมื่อความเสียวพุ่งปรี๊ดจนสมองเบลอไปหมด ไม่คิดว่าตัวเองจะร่านร้อนจนกลายมาเป็นคนหิวสวาทได้แบบนี้“โอ้วเยี่ยมมาก แบบนั้นแหละคนสวย แรงๆ อู้ว”เอนริโก้ส่งเสียงเชียร์มือใหม่หัดควบด้วยความพอใจ เขามองร่างงามที่โยกขยับเหนือร่างด้วยสายตาหื่นกระหาย ยามนี้เธอสวยเหลือเกิน สวยเหมือนนางฟ้า และเร่าร้อนเหมือนนางมารยั่วสวาท ภายในกายสาวก็แน่นหนึบตอดรัดเขาจนแทบจะขาดใจตาย ยามที่ความอ่อนนุ่มร้อนผ่าวครูดผ่านลำกาย มันให้ความรู้สึกสุดพิเศษ เธอทำให้เขาหลงใหลได้ในเวลาเพียงไม่นาน รสชาติพิศวาสก็รัญจวนใจกว่าหญิงใดที่เคยเสพสวาทม







