“ขออภัยค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้...”นีลซึ่งอยู่ที่ชั้นล่างของบ้านเช่าพยายามโทรหาลูน่า ทว่า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เขาลองติดต่อเนลลี่ผ่านสร้อยคอของเธอ แต่ก็เปล่าประโยชน์เหมือนกันนีลตื่นตระหนก เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ลูน่าโทรหาเด็กชายให้มาช่วยหาภาพสเก็ตช์ที่บ้านซึ่งพวกเขาเช่าอยู่ นีลจงใจรีบหนีออกมาจากบ้านแอนน์ แล้วจู่ ๆ เขากลับติดต่อผู้เป็นแม่กับน้องสาวไม่ได้ซะอย่างนั้น?ด้วยความกังวลใจ นีลขมวดคิ้วเข้าหากันไม่ว่าลูน่าจะอยู่ที่บลูเบย์วิลล่า หรืออยู่ระหว่างทางขับรถ ก็ไม่น่าจะมีที่ไหนที่ไม่มีสัญญาณมือถือเมื่อทนไม่ไหวอีกต่อไป นีลจึงหยิบกุญแจและขึ้นไปชั้นบน เมื่อมาถึงเขาก็สังเกตเห็นใครคนหนึ่งกำลังยืนเฝ้าต้นทางอยู่บริเวณทางเข้าบ้าน ชายคนนั้นจ้องมาที่นีลอย่างดุร้ายนีลรีบทำเป็นเดินไปที่บ้านใกล้ ๆ เด็กน้อยยืนอยู่ตรงประตูของเพื่อนบ้านขณะพยายามโทรออกอีกหลายรอบเป็นไปตามคาด สัญญาณโทรศัพท์ถูกระงับนีลนึกเฉลียวใจทันที แม่กับเนลลี่อยู่ในห้องนั้น! ต้องมีใครบางคนขังทั้งสองจากทางด้านนอกพร้อมกับตัดสัญญาณโทรศัพท์!คนพวกนั้นพยายามจะทำอะไร? นี่ต้องเป็นฝีมือของออร่า กิบสันแน่ ๆ!
ยูริไม่ได้ถามอะไรขณะที่เขาแบกนีลขึ้นหลังแล้ววิ่งขึ้นไปยังชั้นบนเพราะว่ายูริยังแข็งแรงกำยำสมกับเป็นบอดี้การ์ดหนุ่มวัยแรกรุ่นทำให้พวกเขามาถึงยังชั้นเก้าได้อย่างปลอดภัยในเวลารวดเร็วเมื่อเท้าแตะถึงพื้นชั้นเก้า โทรศัพท์ของนีลก็ดังขึ้นทันที “หัวหน้า บ้านที่ให้ผมจับตามองไว้ตอนนี้เกิดไฟไหม้ครับ มีคนหลายคนยืนขวางบ้านไว้ไม่ให้ใครเข้า พวกมันเยอะมากผมสู้ไม่ไหวและเข้าไปไม่ได้เลย แต่ผมแจ้งกู้ภัยไปแล้ว จะให้ผมทำยังไงต่อ?”นีลใกล้หมดสติเต็มทนหายนะไม่เคยรอใครมีคนกันประตูอยู่ แต่บ้านกำลังไฟไหม้ เขาจะทำอย่างไรถ้าหาโจชัวไม่เจอ?นีลรีบสาวเท้ายาว ๆ ตรงไปยังห้องของคุณย่าลินช์ เขากัดฟันกรอดและไม่ลืมที่จะกำชับแซคว่า “ถ่ายรูปกับวิดีโอเอาไว้แล้วส่งรูปของพวกที่กันประตูอยู่แต่ละคนมาให้ชัด ๆ!”ไม่ว่ายังไงเขาจะทำให้พวกมันต้องชดใช้!ในขณะเดียวกันที่ห้องพักผู้ป่วย…หญิงสูงวัยยังคงนอนอยู่บนเตียงและจี้ถามโจชัว “โจชัว ถ้าแกไม่มีเหตุผลให้ย่าภายในวันนี้ ย่าจะไม่ปล่อยแกไปไหนทั้งนั้น”“คุณย่าคะ อย่ามัวแต่คาดคั้นเอาผิดจากพี่โจชัวเลยค่ะ ทั้งหมดมันเป็นความผิดของฉัน…”ร่างเพรียวบางของหญิงสาวนั่งอยู่ข้าง ๆ พลางใช้ท
กลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นไปในอากาศทั้งบ้านตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นควันจนทำให้หายใจไม่ออกบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยวัตถุไวไฟ มันกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีโดยเฉพาะภาพเขียนที่มีอยู่เป็นกองเปลวเพลิงลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ลูน่าไม่มีเวลาจะมาคิดว่าใครต้องการปลิดชีวิตเธอ รู้แค่ว่าต้องรอด! อย่างน้อยเนลลี่ก็ต้องรอด! เธอจัดการห่อตัวเนลลี่ไว้ด้วยผ้าเช็ดตัวชุบน้ำจนชุ่มลูน่าเจอเชือกอยู่ในห้องจึงคว้ามันมาผูกเข้ากับตัวลูกน้อย “หนูยังจำทักษะการเอาตัวรอดที่คุณลุงมัลคอล์มสอนเมื่อครั้งล่าสุดได้ไหม?”“จำได้ค่ะ” เนลลี่กอดลูน่าไว้ด้วยดวงตาที่เอ่อไปด้วยน้ำสีใส “แต่คุณแม่คะ ถ้าเราไม่ไปด้วยกันหนูขอยอมตายด้วยกันเสียยังดีกว่า หนูไม่อยากรอดไปคนเดียว!”“ฟังแม่นะเนลลี่ แม่จะหาวิธีตามลูกออกไปแน่นอน”ลูน่าสูดลมหายใจลึกรวบรวมสติแล้วกล่าว “ยังมีคนอยู่ข้างนอกนั่น แม่จะหย่อนหนูลงไปจากหน้าต่างตรงนี้ ที่ชั้นสามข้างล่างมีคู่รักสูงอายุอยู่ แม่จะหย่อนหนูลงไปตรงระเบียงห้องนั้น ให้พวกเขาพาหนูเข้าไปข้างใน จากนั้นติดต่อพี่ชายของลูกแล้วโทรหาตำรวจ จำไว้ให้ดีว่าก่อนที่ตำรวจจะมาถึงห้ามไปไหน ให้อยู่แต่ในบ้านของพวกเขา เข้าใจไหม?”ลูน่ากลั
มีเพียงภาพในความฝันเท่านั้นที่ลูน่าจะได้เห็นความห่วงใยและความอ่อนโยนของผู้ชายที่ชื่อโจชัวลูน่ามอบหัวใจให้โจชัวมาเป็นเวลาหลายปี แต่เขาไม่เคยตอบรับความรักจากเธอเลยสักครั้งแต่ถึงอย่างนั้นในความฝันนี้เธอก็สัมผัสได้ถึงความรักและความห่วงใยอย่างที่เธอเคยต้องการ “คุณจะไม่เป็นอะไร”ลูน่าอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น แต่เธอยังพอหลงเหลือสติพอให้ได้ยินเสียงทุ้มต่ำที่พร่ำบอกประโยคหนึ่งดังก้องอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมาลูน่ายิ้มอย่างขมขื่น จะดีแค่ไหนหากเธอตกอยู่ในห้วงความฝันนี้ต่อไปโดยไม่ตื่นขึ้นมาอีก...…ลูน่าตื่นขึ้นในเช้าวันถัดมา เธอค่อย ๆ เปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งจากการหลับใหลเป็นเวลานาน เมื่อได้สติจมูกก็พลันตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นยาฆ่าเชื้อคิ้วสวยขมวดมุ่นในขณะที่ลืมตาด้วยความยากลำบาก เธอพยายามฝืนตัวเองให้ลืมตาตื่นตอนนี้เธออยู่ในโรงพยาบาลและอยู่ในห้องไอซียูมีอีกคนอยู่ในห้องกับเธอ เป็นผู้ชาย เขาสวมหน้ากากออกซิเจนอยู่และนอนอยู่บนเตียงข้าง ๆ ในตอนนี้ดวงตาลึกล้ำนั่นปิดอยู่เผยให้เห็นคิ้วเรียวคมสวยได้รูปและแพขนตายาวแสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดผ่านหน้าต่างตกกระทบใบหน้าเย็นชาแข็งกระด้างให้ดูอ่อนลงโจชั
ลูน่าถูกเข็นกลับเข้ามาในห้องไอซียูอีกครั้งห้องไอซียูนี้เต็มไปด้วยหมอ ชายหนุ่มในชุดคลุมของโรงพยาบาลกำลังนอนอยู่บนเตียงด้วยท่าทีอ่อนแรง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง“พาเธอมาหาผม!”แม้ว่าน้ำเสียงเขาจะอ่อนแรงแต่กลับหนักแน่นและทรงพลังจนคนได้ยินแทบจะหายใจไม่ออกลูน่าค่อย ๆ ก้าวขาลงจากเตียงโดยมีพยาบาลคอยช่วยประคอง เธอเดินเข้าไปหาอีกคนช้า ๆ “ถามหาฉันเหรอคะ คุณลินช์?” เสียงของลูน่าทำให้โจชัวคิ้วกระตุกเขาหันกลับมามองเธอด้วยแววตาเย็นชาราวกับยอดน้ำแข็งที่เสียดแทงทะลุผู้ที่ได้มอง“เธอคือคนที่พูดกับฉันเมื่อกี้นี้เหรอ?”“ใช่ค่ะ”“ที่พูดแบบนั้นหมายความว่ายังไง?” แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธจนไฟแทบปะทุ “รู้หรือไงว่าลูน่า กิบสันอยู่ที่ไหน?”ลูน่ายกมือขึ้นกอดอกพลางมองใบหน้าแสนเย็นชาของชายหนุ่มอย่างไม่ใส่ใจ “ฉันไม่รู้ ก็แค่พูดไปอย่างนั้น คุณจะได้ตื่นเสียที”คิ้วสวยเลิกขึ้นพลางกล่าวต่ออย่างพอใจ “ดูเหมือนจะได้ผลดีเลยทีเดียว”“เธอ…!”โจชัวลงมาจากเตียงทันที เข็มที่ปักอยู่บนร่างของเขาถูกดึงกระชากออกอย่างแรงจนเลือดพุ่งกระฉูดไปทั่ว อุปกรณ์การรักษาที่เชื่อมต่อกับตัวเขาไว้พลันหล่นลงพื้นล้มระ
ลูน่ายิ้มให้พยาบาลสาวเล็กน้อยก่อนจะกลับมาที่เตียงแล้วถูกเข็นออกจากห้องไอซียู“ใช่ค่ะ” เธอถอนหายใจแล้วกล่าวเสริม “ฉันเคยได้ยินมานานแล้วว่าคุณลินช์ยังคงรักอดีตภรรยาของเขาอย่างสุดซึ้ง ตอนแรกคิดว่าไม่จริงเพราะสุดท้ายเขาก็หมั้นกับน้องสาวของภรรยาตัวเองหลังจากที่เธอตายไปไม่นาน นั่นมันเรียกว่ารักอย่างสุดซึ้งเสียที่ไหน ใช่ไหมล่ะคะ? แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า... เขาคงรักอดีตภรรยาจริง ๆ”ลูน่านอนเอนหลังพิงหัวเตียงขณะที่เธอฟังพยาบาลสาวพูด เมื่อได้ยินแล้วเธอก็อดยิ้มเยาะไม่ได้หากให้เธอเดานี่คงเป็นภาพลักษณ์ที่โจชัวต้องการให้ทุกคนเห็นว่าเขายังรักลูน่า กิบสันอยู่เต็มหัวใจ เขาโกหกเรื่องนี้มานานจนหลงอยู่ในคำโกหกนั่นเสียเองอีกทั้งยังไม่อนุญาตให้ใครหน้าไหนพูดถึงหรือทำร้ายลูน่า กิบสันอีกทว่าในตอนนั้นเขาเป็นคนเดียวที่ทำร้ายเธอมากที่สุดลูน่าหลับตาลงแล้วถอนหายใจพลางเงยหน้าขึ้น “ฉันหมดสติไปนานแค่ไหนคะ?”“สองวันค่ะ”“มีใครมาหาฉันไหมคะ?”“มีค่ะ” พยาบาลสาวกล่าวตอบขณะที่เธอสับเปลี่ยนสายน้ำเกลือ “มีเด็กผู้ชายและแม่ทูนหัวของเขามาเยี่ยมคุณ”กล่าวจบเธอก็แย้มยิ้มให้ลูน่า “เด็กน้อยหน้าตาดีทีเดียว ถ้ามีลูกสาวฉันก็
“คุณย่าทวดคะ!”เนลลี่กัดริมฝีปาก เธอจับนิ้วของลูน่าไว้ด้วยมือเล็กของเธอ “หนูบอกไปแล้วนี่คะ ว่าหนูต้องการให้คุณน้าเป็นคนดูแลหนูเท่านั้น! ถ้าคุณย่าทวดจะเป็นอย่างนี้ งั้นหนูไม่ชอบคุณย่าทวดแล้ว!”คุณย่าลินช์ลดความเย็นชาของตนเองลงและฝืนยิ้มออกมา “เนลลี่ ย่าบอกแล้วใช่ไหม หนูเป็นเจ้านาย จะไปทำตัวยึดติดกับคนรับใช้มากไม่ได้นะ”จากนั้นเธอก็มองพ่อบ้านอย่างเย็นชา “พาคุณหนูเจ้าหญิงน้อยออกไปเล่นซะสิ ฉันอยากคุยกับคุณลูน่าตามลำพัง”เนลลี่กัดริมฝีปาก เธอรู้ว่าบทสนทนาคงไม่เป็นประโยชน์อะไรมาก ดังนั้นเธอจึงรีบกอดแขนผอมบางของลูน่าไว้ในทันที“ไม่! หนูจะอยู่กับคุณน้า ใครมาแยกเราออกจากกัน หนูจะเกลียดคนคนนั้นตลอดไป!” สีหน้าของคุณย่าลินช์ดูน่าเกลียดน่ากลัวเมื่อเนลลี่พูดแบบนั้นออกมาโดยไม่ระมัดระวังโจชัวไม่ได้สนิทสนมใกล้ชิดกับผู้หญิงคนไหนมาตลอดหลายปีแล้ว คุณย่าลินช์ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าตัวเองจะได้มีโอกาสเห็นภาพคนทั้งสี่รุ่นพร้อมหน้าพร้อมตากันในตอนนี้อยู่ดี ๆ เหลนของเธอก็โผล่ออกมาอย่างไม่มีที่มาที่ไป คุณย่าลินช์จึงกลัวว่าจะเสียเธอไป ดังนั้นจึงดูแลเนลลี่ราวกับว่าเธอเป็นไข่ในหินถึงเธอจะยอมเนลลี่มาตลอด แต่
“ฉันแค่ชอบเนลลี่”“แค่ชอบเหรอ?” คุณย่าลินช์กล่าวเสียงต่ำอย่างเย็นชา “คงชอบพ่อมากกว่ามั้ง! ตอนที่ฉันไม่รู้ว่ามีเนลลี่อยู่ ฉันไม่รู้เลยว่าเธอชักจูงเก่งขนาดไหน เธอใช้ความรักและความผูกพันของเนลลี่มาอาศัยอยู่ในบลูเบย์วิลล่าอย่างหน้าไม่อาย เธอปลอบเนลลี่ไปด้วย อ่อยโจชัวไปด้วยน่ะสิ ถึงเธอจะมีหน้าสวย ๆ แต่จิตใจโสมมสิ้นดี!”ลูน่าคิดไว้แล้วว่าคุณย่าลินช์จะต้องพูดอย่างนั้น เธอหัวเราะเบา ๆ “คุณย่าลินช์ การคาดเดาของคุณย่าค่อนข้างมีตรรกะนะคะ แต่น่าเสียดายที่มันผิดหมดเลย”จากนั้นสายตาของลูน่าก็สะดุดเข้ากับสร้อยคอของคุณย่าลินช์ “คุณกิบสันมอบของขวัญให้คุณอีกแล้วเหรอคะ?”สร้อยคอครั้งนี้ก็มาจากชุดเดียวกันกับครั้งก่อน และแน่นอนว่าเป็นของปลอมอย่างไม่ต้องสงสัยคุณย่าลินช์กลอกตาอย่างเย็นชาใส่ลูน่า “ออร่าให้ฉันมา หล่อนตาถึงเรื่องพวกนี้มากกว่าเธอ! และที่สำคัญ ออร่าเป็นน้าแท้ ๆ ของเนลลี่ด้วย! เธอเอาชนะเรื่องนี้ไม่ได้หรอก! ถ้าให้ฉันเลือกระหว่างเธอกับออร่า ฉันก็ต้องเลือกออร่าเป็นหลานสะใภ้โดยไม่ลังเลใจแน่!”จากนั้นคุณย่าลินช์ก็ครางเสียงทุ้มต่ำ “สำหรับเธอ เธอควรรู้จักที่ต่ำที่สูง ที่เธอไปบลูเบย์วิลล่าก็เพื่อจง