ซาเฟียร์มองตามแผ่นหลังแกร่งไปจนสุดสายตา กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่หอมฟุ้งผ่านหน้าเมื่อสักครู่เริ่มจางหาย ไม่นานเกินรอก็มีกลิ่นหอมของอาหารที่ลอยมาแตะจมูกแทน
คนหิวลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ขาสวยก้าวออกไปที่เบื้องหน้าอัตโนมัติ หิวเกินกว่าจะปากแข็งและทนหิวได้จริงๆ หนุ่มหล่อปรายตามองคนตัวเล็กเพียงนิดขณะหยิบถ้วยข้าวสวยออกมาจากตู้เย็น เปิดฝาก่อนจะนำเข้าไมโครเวฟ จากนั้นก็หันไปจัดการกับไข่เจียวบนกระทะที่สุกและฟูได้ที่ ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั้งห้องครัว "ซานย์ทำอาหารเก่ง หมอนั่นคงทำให้เธอกินอยู่บ่อยๆ" ซาเฟียร์พยักหน้าน้อยๆ เมื่อเขาเอ่ยถึงพี่ชายของเธอ "เฮียซานย์เก่งทุกอย่าง เป็นหมอผ่าตัดที่เก่งมาก และเป็นผู้บริหารของโรงพยาบาลที่ไม่เคยเอาเปรียบใครเลย ทุกคนรักเฮียและชื่นชมเฮีย เฮียมักช่วยคนอยู่เสมอ" "เธอก็ควรเอาแบบอย่างพี่ชายของเธอ ซานย์เล่าเรื่องราวในครอบครัวให้ฉันฟังอยู่บ้าง ในเมื่อคนเราไม่สามารถฆ่าแกงกันให้ตายเหมือนผักปลาได้ง่ายๆ เธอก็ควรเข้มแข็งและดูแลตัวเองให้ดี เพราะหากเธอเก่งและแกร่งได้แบบนั้น ซานย์คงจะสบายใจขึ้นเยอะเลย" "..." "นี่ข้าวของเธอ" ข้าวสวยร้อนๆ ถูกเทใส่จานกระเบื้องอย่างดี ขณะที่อีกจานเป็นไข่เจียวหอมๆ วางตรงหน้า "ขอบคุณค่ะ มีพริกน้ำปลาด้วยไหมคะ" คนฟังปรายตามองเพียงนิด ก่อนจะหมุนตัวกลับไปที่ตู้เย็นตามเดิม "มีแต่แบบซองสำเร็จรูป ฉันไม่เคยทำอาหารที่นี่ อาหารพวกนี้ฉันซื้อมาไว้เผื่อเธอ แต่เท่าที่เห็น เธอคงไม่คิดที่จะแตะต้องมัน" คุณหนูไฮโซ น้องสาวมาเฟียใหญ่ที่เคยมีใครต่อใครเอาอกเอาใจและดูแล หากซาเฟียร์ไม่ใช่น้องสาวของซานย์ เพื่อนรักที่เคยคบหากันมานาน ซ้ำล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้เขาพึ่งจะขอความช่วยเหลือจากซานย์ เรื่องห้องพักที่ดีที่สุดของโรงพยาบาลชื่อดังที่รักษาเฉพาะทางในโรคที่พ่อของไอติม ซึ่งเป็นแฟนภูพิงค์น้องชายของเขาเป็นอยู่ บางทีเขาและเธออาจจะไม่ได้เจอกัน เขาดันขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ในตอนที่เพื่อนกำลังมีปัญหา หรือแท้ที่จริงซานย์เลือกเขาให้เป็นคนที่รับฝากน้องสาว อันนี้เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน! "เอาเป็นว่าเรื่องอาหารหนูจะไม่ทำให้คุณลำบาก หนูจะแก้ปัญหาให้กับตัวเองก็แล้วกัน ขอบคุณสำหรับอาหารวันนี้ค่ะ" คำพูดประชดประชันและน้ำเสียงเย่อหยิ่งส่งผลให้คนฟังเค้นเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ เอาเถอะ เอาที่เธอสบายใจ! ภพนิพิฐขยับเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับหญิงสาวก่อนจะหย่อนสะโพกลงนั่ง 'ออสติน' ลูกติดของเมียใหม่พ่อของซานย์และซาเฟียร์ถึงกับคลุ้มคลั่งเมื่อหญิงสาวผู้เป็นเป้าหมายหายไป ซานย์ย้ำชัดเจนก่อนที่เขาจะส่งโทรศัพท์ให้ซาเฟียร์ว่าออสตินไม่มีทางยอมแพ้ ในเมื่อพ่อแท้ๆ ของซานย์และซาเฟียร์ไฟเขียวในความต้องการที่ออสตินมีต่อซาเฟียร์ ออสตินคงพร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ตัวซาเฟียร์กลับไป กวางน้อยเนื้อหอมที่พร้อมทั้งรูปลักษณ์และสมบัติ ไม่แปลกหากเธอจะเป็นที่ต้องการของมาเฟียอย่างออสติน! "กฎข้อที่หนึ่งระหว่างที่ฉันยังต้องดูแลเธอ ห้ามเธอไปไหนโดยที่ไม่บอกให้ฉันรู้เป็นอันขาด" ขนตางามงอนที่โอบล้อมลูกตากลมสวยตวัดขึ้น แม้จะไม่พอใจที่เวลาที่เธออยากทำอะไรเธอจำเป็นต้องรายงานเขาทุกอย่าง แต่เพียงแค่คิดว่าสิ่งเหล่านี้มันอาจจะเกิดขึ้นเพียงแค่เวลาสั้นๆ หญิงสาวตอบตกลงทันที "ค่ะ" "กฎข้อที่สอง เชื่อฟังฉัน เพราะซานย์ให้สิทธิ์ฉันเป็นผู้ปกครองของเธอแต่เพียงผู้เดียว" "ค่ะ" ตอบออกไปก่อนจะก้มหน้างุด ตักไข่เจียวหอมๆ คลุกข้าว เป่าเบาๆ ก่อนจะยัดเข้าปากในเวลาต่อมา "ข้อที่สามเป็นข้อสุดท้าย เธออาจจะมีเวลาอยู่ที่นี่ไม่นาน ไม่จำเป็นต้องไปทำความรู้จักกับใครให้ลึกซึ้งนัก เพราะเธอไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นที่เธอเพิ่งรู้จักแท้จริงแล้วเขาต้องการอะไร ในเมื่อเธอมาอยู่ที่นี่แค่ชั่วคราวเท่านั้น ก็ไม่มีความจำเป็นต้องสนิทสนมและอยากรู้จักใครให้มากมาย ทั้งฉันและซานย์คงไม่สนุกหากเธอถูกคนที่พึ่งรู้จักหลอกขึ้นมา" "รับทราบค่ะ หนูจะไม่ไว้ใจใครง่ายๆ" "ดี หวังว่าคืนแรกของการไม่มีพี่ชายนอนอยู่ด้วยของคนที่บอกว่าตัวเองไม่เด็กแล้วจะราบรื่นโดยไม่ติดขัดอะไร" เป็นอีกครั้งที่ซาเฟียร์สบตากับเจ้าของดวงตาคมกริบมีเสน่ห์คู่นั้น เมื่อไม่มีทางเลือก สุดท้ายหญิงสาวก็เลือกที่จะตอบรับออกไปเบาๆ วันต่อมา ปิ๊งป่อง~ ปิ๊งป่อง~ เสียงหน้าห้องส่งผลให้คนที่ตื่นเช้าเพราะเสียงนาฬิกาปลุกมองไปยังประตู ขาสวยก้าวออกไปที่เบื้องหน้าอัตโนมัติ ในยามที่มองผ่านช่องตาแมวเล็กๆ ที่ประตูแล้วพบหญิงสาวในชุดเรียบร้อยที่เป็นแบบฟอร์มของร้านอะไรสักอย่าง ซาเฟียร์กระชากประตูให้เปิดออกทันที "สวัสดีค่ะ" หญิงสาวตรงหน้าประตูทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ซาเฟียร์แจกจ่ายความสดใสด้วยการส่งยิ้มกลับไป "ดิฉันมาจาก Uniform by suda ค่ะ คุณซานย์ให้ส่งเสื้อผ้าพวกนี้ให้คุณซาเฟียร์ค่ะ" "อ๋อ..." ชื่อพี่ชายของเธอที่ได้ยิน ส่งผลให้ความเงียบเหงาที่พบเจอตลอดค่ำคืนที่ผ่านมาจางหายไปชั่วขณะ มือเรียวยื่นออกไปรับของอย่างรวดเร็ว "นี่เป็นนามบัตรของทางร้าน หากคุณซาเฟียร์ต้องการอะไรเพิ่มเติม ติดต่อกลับไปได้เลยนะคะ" "ขอบคุณมากนะคะ" เจ้าของคำพูดยิ้มกว้าง รอยยิ้มมีเสน่ห์และลักยิ้มเล็กๆ บนมุมปาก แม้ผู้หญิงด้วยกันยังแอบอิจฉาความสวยราวกับตุ๊กตารูปปั้นของซาเฟียร์ "...จะมีใครบ้างน๊าที่รู้ใจหนูได้เท่าเฮีย" ซาเฟียร์ตรวจสอบของที่ถูกส่งมา ชุดนักศึกษาหลายต่อหลายตัวพร้อมทั้งรองเท้า ไซส์ของเธอพอดิบพอดี ความสั้นความยาวแบบที่เธอชอบเป๊ะ เฮียไม่เคยลืมว่าเธอชอบอะไร แม้ในตอนที่ไม่ได้ไปซื้อด้วยกันก็ยังเลือกได้ถูกใจ คนตัวเล็กเผลอคิดถึงพี่ชายจนน้ำตาคลอเบ้า แต่พอบอกตัวเองว่าไม่นานเกินรอทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ซาเฟียร์สะบัดศีรษะเพื่อขับไล่ความรู้สึกท้อ เธอจะรออยู่ตรงนี้อย่างเข้มแข็ง จะไม่ปล่อยให้ตัวเองเสียใจเพราะที่ผ่านมา พี่ชายของเธอไม่เคยปล่อยให้เธอไปเผชิญกับความรู้สึกนั้นเลย! แกร๊ก~ เสียงปลดล็อกประตูเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตส่งผลให้คนตัวเล็กที่กำลังกรีดอายไลเนอร์บนขอบตาถึงกับชะงัก ความเคยชินที่เข้าออกห้องชุดคอนโดนี้เป็นประจำทุกวันทำให้ผู้มาใหม่ลืมตัวเช่นกัน "โทษที คราวหลังฉันจะรอให้เธอมาเปิดประตูให้ก็แล้วกัน" คนฟังเม้มปาก ลิปกลอสบนกลีบปากนุ่มช่วยเพิ่มสีสันจางๆ ทว่าลงตัวบิดไปมาเบาๆ "ชุดนักศึกษาพวกนี้..." "เฮียซานย์สั่งจากทางร้านและให้นำมาส่งที่นี่ค่ะ" หางคิ้วเข้มกระตุกเบาๆ แวบหนึ่งที่หนุ่มหล่อปรายตามองกระโปรงทรงเอที่สั้นเพียงต้นขากับเสื้อนักศึกษาที่ฟิตจัด รองเท้าผ้าใบสีขาวที่เธอสวมใส่มันทำให้เขาแยกไม่ออกว่าสรุปยัยเด็กนี่เป็นคนแบบไหนกันแน่ "หนูจะจำกฎที่คุณให้ไว้ให้ขึ้นใจ หนูจะใช้ชีวิตของหนูโดยที่ไม่ผิดกฎของคุณ" "เธอเข้าใจอะไรง่ายขึ้นนะ" "เฮียซานย์อยากให้หนูอยู่ตรงนี้ หนูก็จะอยู่แบบไม่ดื้อ เชื่อว่าไม่นานเฮียซานย์ก็จะมารับหนูกลับไป หนูจะพยายามไม่ทำให้คุณรู้สึกรำคาญ แต่ถ้าวันไหนรำคาญ คุณก็ทนเอาหน่อยก็แล้วกัน" คนฟังตวัดสายตาขึ้นจ้อง สุดท้ายก็เป็นคนตัวเล็กที่เบือนหน้าหลบสายตา ซาเฟียร์โน้มตัวไปคว้ากระเป๋าสะพายข้างขึ้นมาคล้องบ่า ไม่นานก็หันกลับมาหาคนตัวโตตามเดิม "หนูเรียบร้อยแล้วค่ะ" "กินข้าวแล้ว?" "ยังค่ะ แต่เดี๋ยวหนูจะจัดการตัวเอง" ภพนิพิฐไม่ได้ตอบรับอะไรต่อจากนั้น แต่เลือกที่จะหมุนตัวเดินออกจากห้องแล้วเดินนำไปที่ลิฟท์ มุ่งตรงไปยังที่จอดรถเพื่อไปมหาวิทยาลัย รถยนต์ของภพนิพิฐบ่งบอกว่าฐานะของเขาคงดีอยู่ไม่น้อย การแต่งกายดูภูมิฐาน อีกทั้งความลงตัวของใบหน้ายังดูดีมาก แทบไม่อยากเชื่อว่าเขาจะไม่มีใคร "นี่คือโทรศัพท์เครื่องใหม่ของเธอ ในนี้มีเบอร์โทรของฉัน เธอสามารถกดโทรออกได้ตลอด" "ขอบคุณค่ะ" ซาเฟียร์รับโทรศัพท์เครื่องใหม่มากุมเอาไว้ด้วยรอยยิ้มสดใสประดับใบหน้า เพียงแต่คิดถึงใบหน้าของพี่ชาย คำสั่งก็ลอยมาทันที "อย่าคิดที่จะโทรหาซานย์เด็ดขาด ถ้าอยากคุย ต้องรอให้หมอนั่นติดต่อกลับมาเอง" "หมายความว่าโทรศัพท์เครื่องนี้หนูใช้โทรหาคุณได้แค่คนเดียวงั้นเหรอคะ" ไร้เสียงตอบรับ มีเพียงรถหรูที่กำลังเคลื่อนตัวออกไปอย่างเชื่องช้า ใบหน้าหล่อเหลายังคงราบเรียบตามเดิม ----- ภาวนาให้ที่มหา'ลัย มีหนุ่มๆ ถูกใจน้องเยอะๆ 55555"มากินข้าว" เจ้าของคอนโดหรูร้องบอกคนที่หน้าตึงเพราะไม่พอใจขณะวางจานลงบนโต๊ะสำหรับทานอาหารซาเฟียร์สูดลมหายใจเข้าปอดหนักๆ ทั้งที่อยากประชดประชันกลับไปว่าไก่ย่างส้มตำที่ซื้อมาเธอไม่อยากกินแล้วแต่พอคิดได้ว่าแค่นี้เขายังรำคาญเธอจะแย่ หากเธอทำตัวมีปัญหา เขาคงเกลียดเธอมากกว่านี้!หญิงสาวจำต้องเดินกลับมาที่โต๊ะอาหารอย่างจำใจ มือเรียวตั้งท่าจะคว้าถุงส้มตำมาแกะ ทว่าเธอช้ากว่าคนตัวโต เข้ารั้งถุงส้มตำเข้าหาตัวก่อนจะเป็นฝ่ายลงมือแกะด้วยตัวเองภาพซ้อนของเฮียซานย์ประเดประดังเข้ามาในหัว เฮียซานย์มักทำแบบนี้ แบบที่ผู้ชายตรงหน้าของเธอกำลังทำเฮียซานย์ชอบเอาใจน้อง ชอบเป็นฝ่ายลงมือทำทุกอย่างให้น้อง เธออาจจะเคยชินกับภาพแบบนั้นมากกว่าการถูกต่อต้านแบบนี้"มองอะไร" ในยามถูกถามและถูกดวงตาคมกริบจ้องมอง ซาเฟียร์เบือนหน้าออกไปทางอื่นทันที"หนูแค่คิดถึงพี่ชายของหนู ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ!" คนฟังเค้นเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆเขาเองก็มีงานที่ต้องทำ ไม่ได้ชอบมาตามเอาอกเอาใจใครเหมือนกัน!มหาวิทยาลัย"ไอศกรีมกะทิสดร้านนี้ รสชาติเด็ดว่าไม่ได้เลยนะ" "เพราะกินเก่ง กินไม่เลือกไงล่ะตัวถึงกลมแบบนี้""ไอ้บ้าซันนี่!" ซาเฟียร์อมย
"...ขอบคุณนะคะ" ความน่ารักในแบบของซาเฟียร์ที่มักเอ่ยคำว่าขอบคุณเสมอเมื่อจ่ายตังค์และรับของจากทางร้านทั้งที่เธอเป็นผู้อุดหนุน ส่งผลให้คนขายยิ้มกว้าง ความสวยสะดุดตาและความน่ารักในแบบที่หญิงสาวแสดงมันออกมา ส่งผลให้คนที่พึ่งรับเงินมองตามแม้กระทั่งแผ่นหลังบางที่หันเดินออกไปซาเฟียร์มองถุงไก่ย่างที่ถูกห่อหุ้มด้วยฟอยล์อย่างมิดชิด สีสันของส้มตำช่างจัดจ้านขาสวยที่ก้าวไปที่เบื้องหน้าเกือบถึงตัวคนที่กำลังนั่งคอย ทว่า ดวงตากลมสวยกลับสะดุดกับบางสิ่งบางอย่างเข้าอย่างจังบนหน้าจอโทรศัพท์ที่สว่างชัดและสะอาดสะอ้านโชว์รูปผู้หญิงคนหนึ่งที่เห็นว่าสวมผ้ากันเปื้อนในมือถือจานอาหารซาเฟียร์เผลอจ้องมองหนุ่มหล่อที่พี่ชายของเธอฝากฝังเธอไว้ที่เขาเพียงนิดเห็นว่า ดวงตาคมกริบจ้องมองภาพนั้นไม่วางตา!"...เรียบร้อยแล้วใช่ไหม" นิ้วยาวกดปิดหน้าจอเมื่อรู้สึกตัวว่าถูกจ้อง พร้อมกับหยัดตัวลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง ซาเฟียร์พยักหน้ารับเบาๆในหัวกำลังประมวลคำถาม! เขาชอบผู้หญิงที่ชอบทำอาหาร? หรือชอบผู้หญิงคนนั้นที่เธอเห็นเขาหยุดมอง!คอนโด N. "หนูซื้อส้มตำมาสองถุง อยู่ทานด้วยกันนะคะ" "อืม" มีเสียงตอบรับเบาๆ ก่อนที่ขายาวจะตรงไ
มหาวิทยาลัยดวงตากลมสวยเปี่ยมเสน่ห์ไล่มองไปตามตึกชั้นสูงของอาคารเรียนหลายต่อหลายคณะสายตาหลายคู่หันมาหยุดมองที่ซาเฟียร์ด้วยความสนใจ และเห็นว่า สายตาของคนเหล่านั้นจะชัดเจนขึ้นในยามที่ร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีดำสนิทของเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเดินลงจากรถแล้วอ้อมมาฝั่งเดียวกันกับเธอ สีหน้าเรียบเฉยมันทำให้เขาดูน่าสนใจขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว"ศิลปกรรม ชอบวาดรูป?""ชอบภาพวาดค่ะ แต่หนูวาดไม่เก่ง ถนัดการออกแบบสื่อโฆษณามากกว่า" ภพนิพิฐพยักหน้ารับเบาๆ ขณะที่เดินเข้าไปภายใต้อาคารขนาดใหญ่ สายตาคมกริบไม่หยุดมองที่ผู้หญิงคนไหนเลยในช่วงเวลาที่ภพนิพิฐเข้าหาผู้บริหารของมหาวิทยาลัยชื่อดัง เขาดูเป็นผู้ใหญ่ที่กว้างขวาง รู้จักคนค่อนข้างเยอะ ไม่ได้ถูกสอบถามให้มากความว่าเพราะอะไรเธอจึงย้ายออกจากมหาลัยเดิมแล้วมาเรียนที่นี่กลางเทอมแบบกระทันหัน แต่เป็นแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน เพราะเฮียซานย์บอกเสมอว่าเธอไม่ควรเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครฟัง"เธอโอเคใช่ไหม" เอ่ยถามขณะที่เดินออกมาจากห้องผู้บริหาร ซาเฟียร์พยักหน้ารับเบาๆ เธออยากมีเพื่อนดีๆ คุยเก่งๆ สักคนสองคน เพราะนั่นเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เธอไม่รู้สึกเหงา ขณะที่รอเวลาให้เฮียซาน
ซาเฟียร์มองตามแผ่นหลังแกร่งไปจนสุดสายตา กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่หอมฟุ้งผ่านหน้าเมื่อสักครู่เริ่มจางหาย ไม่นานเกินรอก็มีกลิ่นหอมของอาหารที่ลอยมาแตะจมูกแทน คนหิวลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ขาสวยก้าวออกไปที่เบื้องหน้าอัตโนมัติ หิวเกินกว่าจะปากแข็งและทนหิวได้จริงๆ หนุ่มหล่อปรายตามองคนตัวเล็กเพียงนิดขณะหยิบถ้วยข้าวสวยออกมาจากตู้เย็น เปิดฝาก่อนจะนำเข้าไมโครเวฟ จากนั้นก็หันไปจัดการกับไข่เจียวบนกระทะที่สุกและฟูได้ที่ ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั้งห้องครัว "ซานย์ทำอาหารเก่ง หมอนั่นคงทำให้เธอกินอยู่บ่อยๆ" ซาเฟียร์พยักหน้าน้อยๆ เมื่อเขาเอ่ยถึงพี่ชายของเธอ "เฮียซานย์เก่งทุกอย่าง เป็นหมอผ่าตัดที่เก่งมาก และเป็นผู้บริหารของโรงพยาบาลที่ไม่เคยเอาเปรียบใครเลย ทุกคนรักเฮียและชื่นชมเฮีย เฮียมักช่วยคนอยู่เสมอ" "เธอก็ควรเอาแบบอย่างพี่ชายของเธอ ซานย์เล่าเรื่องราวในครอบครัวให้ฉันฟังอยู่บ้าง ในเมื่อคนเราไม่สามารถฆ่าแกงกันให้ตายเหมือนผักปลาได้ง่ายๆ เธอก็ควรเข้มแข็งและดูแลตัวเองให้ดี เพราะหากเธอเก่งและแกร่งได้แบบนั้น ซานย์คงจะสบายใจขึ้นเยอะเลย" "..." "นี่ข้าวของเธอ" ข้าวสวยร้อนๆ ถูกเทใส่จานกระเบื้องอย่างดี ขณะที่อี
"มานี่" ข้อมือของซาเฟียร์ถูกกระชากอย่างแรง ส่งผลให้ร่างบอบบางที่บนเนื้อตัวฉีดน้ำหอมพรมร่างจนหอมฟุ้งปลิวตามแรงดึง บ่อยครั้งที่หญิงสาวนิ่วหน้า หากเทียบระหว่างผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของเธอในตอนนี้กับเฮียซานย์ผู้แสนดี ซานย์อบอุ่นกว่าเยอะ เยอะจนเขาคนนี้ไม่อาจเทียบติดได้เลย ปึก~ "โอ๊ย หนูเจ็บนะ" มือเรียวยกขึ้นลูบก้นของตัวเองป้อยๆ เมื่อถูกผลักเข้าใส่โซฟา ขณะที่คนลากเธอให้กลับขึ้นมายังห้องพักอีกครั้งได้แต่เท้าสะเอวมอง "ที่นี่ในเวลากลางคืนมันอันตรายสำหรับเธอเกินไป ถ้าจะให้แนะนำ เธอไม่ควรออกจากที่นี้หลังเวลาสองทุ่ม" "อะไรนะคะ แบบนี้มันไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ" "ฉันยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากพี่ชายของเธอ ฉันไม่รู้ว่าการที่ซานย์เดินทางมาส่งเธอด้วยตัวเอง มันทำให้เกิดปัญหาเพราะฝ่ายนั้นสงสัยหรือเปล่า เราต้องรอคำตอบ เพราะฉันไม่อยากเสี่ยงจนกลายเป็นคนผิดคำพูดกับเพื่อนตัวเอง" "หนูออกห่างเฮียซานย์มาไกลขนาดนี้แล้ว หมายความว่าการมาอยู่ที่ประเทศไทยหนูจะยังไม่มีอิสรภาพเหมือนเดิมงั้นเหรอคะ" "คนที่ดูแลเธอคือฉัน ฉันต้องทำทุกอย่างให้มันรอบคอบและรัดกุมที่สุด" "ไม่เลยค่ะ พี่ภพไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้น" "เอา
"เป็นผู้ปกครองอย่างนั้นเหรอคะ" ซาเฟียร์ขบกลีบปากของตัวเองอย่างแรง ที่ผ่านมาเธอมีเฮียซานย์เป็นผู้ปกครองแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น เฮียซานย์เป็นทุกอย่าง จัดการได้ทุกเรื่อง เฮียเป็นมากกว่าพี่ชาย เป็นดั่งพ่อที่ดีที่สุดของเธอ ใครเหรอจะมาทำหน้าที่นี้แทนเฮียได้ดีไปกว่าตัวของเฮียเอง "หน้าที่ของผู้ปกครองคือต้องทำอะไรบ้างเหรอคะ" ซาเฟียร์เชิดหน้าถาม ท่าทางไม่ยี่หระ ไม่แยแส เอาง่ายๆ คือเพื่อนของพี่ชายแค่ทำทุกอย่างตามหน้าที่ เขาไม่ได้ใจดีกับเธอเหมือนที่พี่ชายของเธอบอกเอาไว้เลย "ทำทุกอย่างที่พี่ชายเธอเคยทำ" "เฮียซานย์ตามใจหนูทุกอย่าง เฮียให้ทุกอย่างที่หนูขอ แน่ใจเหรอคะว่าพี่ภพทำได้ทุกอย่างเหมือนเฮีย" "เคยรู้รึเปล่าว่าการได้ทุกอย่างเพราะนิสัยเอาแต่ใจตัวเองบางครั้งมันอาจจะทำให้พี่ชายของเธอเหนื่อยใจ" "...เฮียบอกเหรอว่าเฮียเหนื่อยใจเพราะหนู" "ไม่จำเป็นต้องบอก เพราะฉันโตกว่าเธอและมีความคิดมากกว่าเธอ" "..." "ขณะที่ซานย์กำลังลำบากเพราะมีคนปองร้าย เธอเองก็อย่าหวังว่าจะได้อยู่ที่นี่อย่างสุขสบาย เธอควรโตเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถช่วยเหลือตัวเองและสามารถเอาตัวรอดด้วยตัวเองได้แล้ว ฉันนี่แหละจะเป็นคนฝึกเธอเอง!