ซาเฟียร์มองตามแผ่นหลังแกร่งไปจนสุดสายตา กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่หอมฟุ้งผ่านหน้าเมื่อสักครู่เริ่มจางหาย ไม่นานเกินรอก็มีกลิ่นหอมของอาหารที่ลอยมาแตะจมูกแทน
คนหิวลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ขาสวยก้าวออกไปที่เบื้องหน้าอัตโนมัติ หิวเกินกว่าจะปากแข็งและทนหิวได้จริงๆ หนุ่มหล่อปรายตามองคนตัวเล็กเพียงนิดขณะหยิบถ้วยข้าวสวยออกมาจากตู้เย็น เปิดฝาก่อนจะนำเข้าไมโครเวฟ จากนั้นก็หันไปจัดการกับไข่เจียวบนกระทะที่สุกและฟูได้ที่ ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั้งห้องครัว "ซานย์ทำอาหารเก่ง หมอนั่นคงทำให้เธอกินอยู่บ่อยๆ" ซาเฟียร์พยักหน้าน้อยๆ เมื่อเขาเอ่ยถึงพี่ชายของเธอ "เฮียซานย์เก่งทุกอย่าง เป็นหมอผ่าตัดที่เก่งมาก และเป็นผู้บริหารของโรงพยาบาลที่ไม่เคยเอาเปรียบใครเลย ทุกคนรักเฮียและชื่นชมเฮีย เฮียมักช่วยคนอยู่เสมอ" "เธอก็ควรเอาแบบอย่างพี่ชายของเธอ ซานย์เล่าเรื่องราวในครอบครัวให้ฉันฟังอยู่บ้าง ในเมื่อคนเราไม่สามารถฆ่าแกงกันให้ตายเหมือนผักปลาได้ง่ายๆ เธอก็ควรเข้มแข็งและดูแลตัวเองให้ดี เพราะหากเธอเก่งและแกร่งได้แบบนั้น ซานย์คงจะสบายใจขึ้นเยอะเลย" "..." "นี่ข้าวของเธอ" ข้าวสวยร้อนๆ ถูกเทใส่จานกระเบื้องอย่างดี ขณะที่อีกจานเป็นไข่เจียวหอมๆ วางตรงหน้า "ขอบคุณค่ะ มีพริกน้ำปลาด้วยไหมคะ" คนฟังปรายตามองเพียงนิด ก่อนจะหมุนตัวกลับไปที่ตู้เย็นตามเดิม "มีแต่แบบซองสำเร็จรูป ฉันไม่เคยทำอาหารที่นี่ อาหารพวกนี้ฉันซื้อมาไว้เผื่อเธอ แต่เท่าที่เห็น เธอคงไม่คิดที่จะแตะต้องมัน" คุณหนูไฮโซ น้องสาวมาเฟียใหญ่ที่เคยมีใครต่อใครเอาอกเอาใจและดูแล หากซาเฟียร์ไม่ใช่น้องสาวของซานย์ เพื่อนรักที่เคยคบหากันมานาน ซ้ำล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้เขาพึ่งจะขอความช่วยเหลือจากซานย์ เรื่องห้องพักที่ดีที่สุดของโรงพยาบาลชื่อดังที่รักษาเฉพาะทางในโรคที่พ่อของไอติม ซึ่งเป็นแฟนภูพิงค์น้องชายของเขาเป็นอยู่ บางทีเขาและเธออาจจะไม่ได้เจอกัน เขาดันขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ในตอนที่เพื่อนกำลังมีปัญหา หรือแท้ที่จริงซานย์เลือกเขาให้เป็นคนที่รับฝากน้องสาว อันนี้เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน! "เอาเป็นว่าเรื่องอาหารหนูจะไม่ทำให้คุณลำบาก หนูจะแก้ปัญหาให้กับตัวเองก็แล้วกัน ขอบคุณสำหรับอาหารวันนี้ค่ะ" คำพูดประชดประชันและน้ำเสียงเย่อหยิ่งส่งผลให้คนฟังเค้นเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ เอาเถอะ เอาที่เธอสบายใจ! ภพนิพิฐขยับเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับหญิงสาวก่อนจะหย่อนสะโพกลงนั่ง 'ออสติน' ลูกติดของเมียใหม่พ่อของซานย์และซาเฟียร์ถึงกับคลุ้มคลั่งเมื่อหญิงสาวผู้เป็นเป้าหมายหายไป ซานย์ย้ำชัดเจนก่อนที่เขาจะส่งโทรศัพท์ให้ซาเฟียร์ว่าออสตินไม่มีทางยอมแพ้ ในเมื่อพ่อแท้ๆ ของซานย์และซาเฟียร์ไฟเขียวในความต้องการที่ออสตินมีต่อซาเฟียร์ ออสตินคงพร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ตัวซาเฟียร์กลับไป กวางน้อยเนื้อหอมที่พร้อมทั้งรูปลักษณ์และสมบัติ ไม่แปลกหากเธอจะเป็นที่ต้องการของมาเฟียอย่างออสติน! "กฎข้อที่หนึ่งระหว่างที่ฉันยังต้องดูแลเธอ ห้ามเธอไปไหนโดยที่ไม่บอกให้ฉันรู้เป็นอันขาด" ขนตางามงอนที่โอบล้อมลูกตากลมสวยตวัดขึ้น แม้จะไม่พอใจที่เวลาที่เธออยากทำอะไรเธอจำเป็นต้องรายงานเขาทุกอย่าง แต่เพียงแค่คิดว่าสิ่งเหล่านี้มันอาจจะเกิดขึ้นเพียงแค่เวลาสั้นๆ หญิงสาวตอบตกลงทันที "ค่ะ" "กฎข้อที่สอง เชื่อฟังฉัน เพราะซานย์ให้สิทธิ์ฉันเป็นผู้ปกครองของเธอแต่เพียงผู้เดียว" "ค่ะ" ตอบออกไปก่อนจะก้มหน้างุด ตักไข่เจียวหอมๆ คลุกข้าว เป่าเบาๆ ก่อนจะยัดเข้าปากในเวลาต่อมา "ข้อที่สามเป็นข้อสุดท้าย เธออาจจะมีเวลาอยู่ที่นี่ไม่นาน ไม่จำเป็นต้องไปทำความรู้จักกับใครให้ลึกซึ้งนัก เพราะเธอไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นที่เธอเพิ่งรู้จักแท้จริงแล้วเขาต้องการอะไร ในเมื่อเธอมาอยู่ที่นี่แค่ชั่วคราวเท่านั้น ก็ไม่มีความจำเป็นต้องสนิทสนมและอยากรู้จักใครให้มากมาย ทั้งฉันและซานย์คงไม่สนุกหากเธอถูกคนที่พึ่งรู้จักหลอกขึ้นมา" "รับทราบค่ะ หนูจะไม่ไว้ใจใครง่ายๆ" "ดี หวังว่าคืนแรกของการไม่มีพี่ชายนอนอยู่ด้วยของคนที่บอกว่าตัวเองไม่เด็กแล้วจะราบรื่นโดยไม่ติดขัดอะไร" เป็นอีกครั้งที่ซาเฟียร์สบตากับเจ้าของดวงตาคมกริบมีเสน่ห์คู่นั้น เมื่อไม่มีทางเลือก สุดท้ายหญิงสาวก็เลือกที่จะตอบรับออกไปเบาๆ วันต่อมา ปิ๊งป่อง~ ปิ๊งป่อง~ เสียงหน้าห้องส่งผลให้คนที่ตื่นเช้าเพราะเสียงนาฬิกาปลุกมองไปยังประตู ขาสวยก้าวออกไปที่เบื้องหน้าอัตโนมัติ ในยามที่มองผ่านช่องตาแมวเล็กๆ ที่ประตูแล้วพบหญิงสาวในชุดเรียบร้อยที่เป็นแบบฟอร์มของร้านอะไรสักอย่าง ซาเฟียร์กระชากประตูให้เปิดออกทันที "สวัสดีค่ะ" หญิงสาวตรงหน้าประตูทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ซาเฟียร์แจกจ่ายความสดใสด้วยการส่งยิ้มกลับไป "ดิฉันมาจาก Uniform by suda ค่ะ คุณซานย์ให้ส่งเสื้อผ้าพวกนี้ให้คุณซาเฟียร์ค่ะ" "อ๋อ..." ชื่อพี่ชายของเธอที่ได้ยิน ส่งผลให้ความเงียบเหงาที่พบเจอตลอดค่ำคืนที่ผ่านมาจางหายไปชั่วขณะ มือเรียวยื่นออกไปรับของอย่างรวดเร็ว "นี่เป็นนามบัตรของทางร้าน หากคุณซาเฟียร์ต้องการอะไรเพิ่มเติม ติดต่อกลับไปได้เลยนะคะ" "ขอบคุณมากนะคะ" เจ้าของคำพูดยิ้มกว้าง รอยยิ้มมีเสน่ห์และลักยิ้มเล็กๆ บนมุมปาก แม้ผู้หญิงด้วยกันยังแอบอิจฉาความสวยราวกับตุ๊กตารูปปั้นของซาเฟียร์ "...จะมีใครบ้างน๊าที่รู้ใจหนูได้เท่าเฮีย" ซาเฟียร์ตรวจสอบของที่ถูกส่งมา ชุดนักศึกษาหลายต่อหลายตัวพร้อมทั้งรองเท้า ไซส์ของเธอพอดิบพอดี ความสั้นความยาวแบบที่เธอชอบเป๊ะ เฮียไม่เคยลืมว่าเธอชอบอะไร แม้ในตอนที่ไม่ได้ไปซื้อด้วยกันก็ยังเลือกได้ถูกใจ คนตัวเล็กเผลอคิดถึงพี่ชายจนน้ำตาคลอเบ้า แต่พอบอกตัวเองว่าไม่นานเกินรอทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ซาเฟียร์สะบัดศีรษะเพื่อขับไล่ความรู้สึกท้อ เธอจะรออยู่ตรงนี้อย่างเข้มแข็ง จะไม่ปล่อยให้ตัวเองเสียใจเพราะที่ผ่านมา พี่ชายของเธอไม่เคยปล่อยให้เธอไปเผชิญกับความรู้สึกนั้นเลย! แกร๊ก~ เสียงปลดล็อกประตูเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตส่งผลให้คนตัวเล็กที่กำลังกรีดอายไลเนอร์บนขอบตาถึงกับชะงัก ความเคยชินที่เข้าออกห้องชุดคอนโดนี้เป็นประจำทุกวันทำให้ผู้มาใหม่ลืมตัวเช่นกัน "โทษที คราวหลังฉันจะรอให้เธอมาเปิดประตูให้ก็แล้วกัน" คนฟังเม้มปาก ลิปกลอสบนกลีบปากนุ่มช่วยเพิ่มสีสันจางๆ ทว่าลงตัวบิดไปมาเบาๆ "ชุดนักศึกษาพวกนี้..." "เฮียซานย์สั่งจากทางร้านและให้นำมาส่งที่นี่ค่ะ" หางคิ้วเข้มกระตุกเบาๆ แวบหนึ่งที่หนุ่มหล่อปรายตามองกระโปรงทรงเอที่สั้นเพียงต้นขากับเสื้อนักศึกษาที่ฟิตจัด รองเท้าผ้าใบสีขาวที่เธอสวมใส่มันทำให้เขาแยกไม่ออกว่าสรุปยัยเด็กนี่เป็นคนแบบไหนกันแน่ "หนูจะจำกฎที่คุณให้ไว้ให้ขึ้นใจ หนูจะใช้ชีวิตของหนูโดยที่ไม่ผิดกฎของคุณ" "เธอเข้าใจอะไรง่ายขึ้นนะ" "เฮียซานย์อยากให้หนูอยู่ตรงนี้ หนูก็จะอยู่แบบไม่ดื้อ เชื่อว่าไม่นานเฮียซานย์ก็จะมารับหนูกลับไป หนูจะพยายามไม่ทำให้คุณรู้สึกรำคาญ แต่ถ้าวันไหนรำคาญ คุณก็ทนเอาหน่อยก็แล้วกัน" คนฟังตวัดสายตาขึ้นจ้อง สุดท้ายก็เป็นคนตัวเล็กที่เบือนหน้าหลบสายตา ซาเฟียร์โน้มตัวไปคว้ากระเป๋าสะพายข้างขึ้นมาคล้องบ่า ไม่นานก็หันกลับมาหาคนตัวโตตามเดิม "หนูเรียบร้อยแล้วค่ะ" "กินข้าวแล้ว?" "ยังค่ะ แต่เดี๋ยวหนูจะจัดการตัวเอง" ภพนิพิฐไม่ได้ตอบรับอะไรต่อจากนั้น แต่เลือกที่จะหมุนตัวเดินออกจากห้องแล้วเดินนำไปที่ลิฟท์ มุ่งตรงไปยังที่จอดรถเพื่อไปมหาวิทยาลัย รถยนต์ของภพนิพิฐบ่งบอกว่าฐานะของเขาคงดีอยู่ไม่น้อย การแต่งกายดูภูมิฐาน อีกทั้งความลงตัวของใบหน้ายังดูดีมาก แทบไม่อยากเชื่อว่าเขาจะไม่มีใคร "นี่คือโทรศัพท์เครื่องใหม่ของเธอ ในนี้มีเบอร์โทรของฉัน เธอสามารถกดโทรออกได้ตลอด" "ขอบคุณค่ะ" ซาเฟียร์รับโทรศัพท์เครื่องใหม่มากุมเอาไว้ด้วยรอยยิ้มสดใสประดับใบหน้า เพียงแต่คิดถึงใบหน้าของพี่ชาย คำสั่งก็ลอยมาทันที "อย่าคิดที่จะโทรหาซานย์เด็ดขาด ถ้าอยากคุย ต้องรอให้หมอนั่นติดต่อกลับมาเอง" "หมายความว่าโทรศัพท์เครื่องนี้หนูใช้โทรหาคุณได้แค่คนเดียวงั้นเหรอคะ" ไร้เสียงตอบรับ มีเพียงรถหรูที่กำลังเคลื่อนตัวออกไปอย่างเชื่องช้า ใบหน้าหล่อเหลายังคงราบเรียบตามเดิม -----ภาวนาให้ที่มหา'ลัย มีหนุ่มๆ ถูกใจน้องเยอะๆ 55555
สวนหลังบ้าน"มีมี่ มี่จ๋า~""ก๊อดๆ~" เสียงตอบรับจากนกแก้วซันคอนัวร์ที่เลี้ยงไว้ในบ้านยังเรียกความสนใจจากไอเดียได้เหมือนทุกครั้งมีมี่ นกแสนรู้ที่ถูกฝึกและเลี้ยงดูมาตั้งแต่เป็นลูกป้อนโบยบินออกจากกรงแล้วมาเกาะที่บ่าของซาเฟียร์ ดวงตากลมใสแป๋วคล้ายกับตาของเด็ก ปากสีดำวาววับท้าทายให้ซาเฟียร์โน้มริมฝีปากไปจุ๊บเบาๆ ที่ปากของนก ไอเดียส่งเสียงเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบใจ"มาแอบอยู่ตรงนี้นี่เอง" ภพนิพิฐเดินตามมาสมทบ วงแขนอบอุ่นและแข็งแรงโอบที่เอวภรรยาเอาไว้หลวมๆ ดวงตาคมกริบกวาดมองที่ใบหน้าของผู้เป็นภรรยาในระยะใกล้ สลับกับการหันมองลูกน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่เช่นกัน"ไอเดียรักมีมี่เหรอลูก มี่เอ้ย""ก๊อดๆ~" เจ้านกน้อยยังคงส่งเสียงเบาๆ พร้อมกับการเอียงคอมองผู้ที่เป็นเจ้าของของมัน ดีแล้วที่เจ้านกแสนรู้ไม่ส่งเสียงกรีดร้อง เพราะหากได้ส่งเสียง รับรองว่าเสียงจะก้องกังวาลไปทั่วทั้งบริเวณมือเล็กป้อมๆ ของไอเดียยกขึ้นไปลูบเบาๆ ที่หัวนก ความเมตตาอารี เด็กน้อยได้มาจากทั้งผู้เป็นพ่อและคนเป็นแม่ สัตว์เลี้ยงตัวเล็กสัมผัสกับกลิ่นเจ้าของตัวน้อย ในอนาคตหากไอเดียเดินมาเล่นที่สวน เป็นไปได้ว่านกน้อยที่อยู่ในกรงสวยงาม
ภายในห้องครัว"คนสวยของแด๊ดดี้ทำอะไรอยู่ครับ""อันดาเช็ดจานให้หม่ามี๊ค่ะ""เก่งจังเลยค่ะ ลูกสาวของแด๊ดดี้เก่งที่สุดเลย" เวลาที่อยู่กับลูกๆ และภรรยา ภูมิรพีอ่อนโยนเสมอ ประกายตาคู่นี้ยังคงเด็ดเดี่ยวและมั่นคง รักที่มีต่อภรรยายังคงเป็นรักที่ยิ่งใหญ่ ส่วนลูกๆ ก็ยังคงเป็นรักที่บริสุทธิ์ของเขาเช่นเดิม"หม่ามี๊ท้องโตแล้ว องศาจะช่วยหม่ามี๊ล้างจานครับ""องศาล้างจาน อันดาเช็ดจานให้แห้งนะ" แด๊ดดี้และหม่ามี๊มองหน้ากัน การที่เด็กสองคนซึ่งเติบโตในเวลาเดียวกัน ใช้ชีวิตในแบบเดียวกันและอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เข้าอกเข้าใจกันดี มันเป็นอะไรที่ทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่โคตรสบายใจ"แด๊ดดี้ภูมิใจในตัวลูกๆ ที่สุดเลย" องศายิ้ม อันดาเองก็ยิ้มเช่นกัน"ลูกๆ ของแด๊ดดี้ รู้หรือเปล่าครับว่าอาภพและอาภูเกี่ยวข้องอะไรกับแด๊ดดี้""คูมย่าบอกว่า น้องของแด๊ดดี้อันดาต้องเรียกว่าคูมอาค่ะ""เก่งมากครับ อาภพกับอาภูเป็นน้องชายของแด๊ดดี้ แด๊ดดี้รักน้องของแด๊ดดี้มากๆ เพราะเราเป็นพี่น้องกัน เป็นสายเลือดเดียวกัน เป็นคนที่คอยช่วยเหลือกันเวลาที่คนใดคนหนึ่งลำบาก จำไว้นะลูก การมีพี่น้องที่รักกัน มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ" เปี่ยมรักอมยิ้มอย่างมีความ
Special 5 "สวัสดีค่ะพี่ภูมิ สวัสดีค่ะพี่ภู แด๊ดดี้" หญิงสาวในชุดนักศึกษายกมือไหว้ทุกคนก่อนจะยิ้มให้คนสุดท้ายที่เธอเอ่ยถึง ภพนิพิฐรั้งเอวคอดกิ่วเข้ามาหา จังหวะที่คืนไอเดียสู่อ้อมกอดของผู้เป็นแม่ ปลายจมูกโด่งแอบกดลงที่ขมับบาง สูดดมกลิ่นหอมจากเรือนร่างของภรรยาสาวเข้าจนเต็มปอดอย่างเคยชิน "แด๊ดดี้อาบน้ำให้ลูกแล้วเหรอคะ หอมเชียว" "เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวพี่ตามเข้าไปนะ" "ได้ค่ะ" ซาเฟียร์แจกจ่ายรอยยิ้มให้กับทุกคนเฉกเช่นทุกครั้ง คล้อยหลังจากพี่สะใภ้ ภูพิงค์เปิดประเด็นขึ้นมาด้วยความไว "น่าอิจฉาคนที่เมียยังใส่ชุดนักศึกษานะ คงเห็นแล้วใจสั่นเป็นบ้า" ภูพิงค์กดยิ้มที่มุมปากพลางปรายตามองเจ้าของหญิงสาวคนที่พึ่งจะอุ้มลูกออกไป ในขณะที่อีกด้าน ภูมิรพีเลือกที่จะเค้นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ "เหมือนว่าจะไม่ได้น่าอิจฉาเท่าไหร่หรอก มึงมองไม่เห็นความกังวลที่อยู่ในสายตาของพี่มึงหรือไง" คนที่กำลังถูกพูดถึงกดปลายลิ้นที่มุมปาก คนหนึ่งช่างเปิดประเด็น ส่วนอีกคนก็ช่างสังเกตซะเหลือเกิน "ต่อหน้าพี่ต่อหน้าน้องทำเป็นจูบขมับ อยู่กันสองต่อสองนี่เตียงไม่ยับเลยเหรอวะ" "ทะลึ่งละ คนรักกัน ไม่จำเป็นต้องเอาก็รักอยู่ดี"
"หนูไม่อยากให้แด๊ดดี้เหนื่อยนี่คะ""ไม่เหนื่อยหรอกน่า ลูกและเธอเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับพี่นะ อย่าคิดมาก" ซาเฟียร์สอดแขนเข้าไปโอบกอดที่เอวสอบ ใบหน้าสะสวยเชิดขึ้นเพื่อมองใบหน้าหล่อเหลา รอยยิ้มแห่งความสุขประดับขึ้นบนใบหน้างดงาม"หนูโชคดีจัง แด๊ดดี้ของหนูน่ารักที่สุด แด๊ดดี้ทำให้หนูรักจนไม่รู้จะรักยังไงแล้ว" คนฟังอมยิ้ม อาศัยจังหวะที่รถติดสัญญาณไฟกดริมฝีปากลงบนหน้าผากมนเบาๆ"สายหรือยัง พอมีเวลาให้พี่สักหน่อยไหม" แก้มของคนฟังแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ซาเฟียร์กัดปากของตัวเองเบาๆ เธอเข้าใจทันทีว่าผู้เป็นสามีต้องการสื่ออะไร"เพราะแบบนี้ใช่ไหมล่ะถึงเลือกที่จะฝากลูกไว้กับคุณย่าแล้วก็มาส่งที่หนูที่มอ.เอง""ฉลาดจัง พี่ขอเวลาสักหนึ่งชั่วโมงได้ไหมล่ะ""แค่พี่ใช้เส้นสายในเรื่องการเรียนของหนู หนูก็รู้สึกไม่ดีแล้วนะ" ภพนิพิฐระบายรอยยิ้มออกมาถ้าจะให้พูดกันตามความรู้สึก เขาไม่ได้ติดขัดไม่ว่าเธอจะเรียนจบที่ระดับชั้นไหน เหตุผลที่เขายอมให้เธอกลับไปเรียนอีกครั้งเพราะเขาแค่อยากตามใจเธอ อยากเปิดโอกาสให้เธอได้ทำในสิ่งที่เธออยากทำทุกอย่าง ถึงยังไงซะเขาก็ไม่มีวันปล่อยให้เธอต้องลำบากอยู่แล้ว เธอไม่จำเป็นต้องใช้
Special 4 "แอะ~" น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความอารมณ์ดีดังออกมาจากเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มที่อยู่ในชุดบอดี้สูทสีครีม ผิวของคนตัวน้อยขาวจั๊ว บ่งบอกว่าได้มาทั้งของพ่อและของแม่ ในส่วนของใบหน้าแม้จะออกมาทิศทางของผู้เป็นแม่มากกว่า ถึงอย่างนั้นคนเป็นพ่อก็ยังพยายามโต้เถียงว่าบุตรสาวหน้าตาเหมือนตนเองอยู่ไม่น้อย แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าหนูน้อยไอเดียจะหน้าตาเหมือนใคร ไม่ว่าจะได้พ่อหรือว่าได้แม่มา สุดท้ายก็ลงตัวจนหาที่ติไม่ได้เลย ลมเย็นๆ ในเวลาเช้าลอยกระทบลงมาบนเสี้ยวใบหน้าหล่อเหลา สุดท้ายกลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่ค่อนข้างคุ้นเคยซึ่งส่งกลิ่นมาจากในห้องนอนก็เรียกสายตาคมกริบให้ตวัดกลับไปมองที่ทิศทางด้านในตามเดิม ความหวงแหนผุดขึ้นเมื่อหน่วยตาคมประสานเข้ากับเรือนร่างของภรรยาสาว ซาเฟียร์กลับไปเรียนหนังสืออีกครั้งหลังให้นมลูกจนครบสามเดือน มีการวางแผนทุกอย่างเอาไว้อย่างชัดเจน ในช่วงพักกลางวันคนตัวเล็กจะกลับมาให้นมบุตรที่บ้าน เพราะเหตุผลนี้และอีกเหตุผลคือได้ตกปากรับคำเอาไว้แล้วตั้งแต่ต้น พ่อของลูกจึงยินดีกับการไปเรียนในครั้งนี้ของผู้เป็นเมีย "ทำไมต้องใส่กระโปรงสั้นขนาดนี้" คนที่อุ้มลูกคาอกมองหญิงสาวที่อยู่ในชุดนักศ
Special 3ภายในบ้านหลังใหญ่ของอัศวราชเต็มไปด้วยความคึกคัก ภายนอกตัวบ้านคุณปู่ภีมพลซึ่งเป็นที่รักของหลานๆ เก็บกวาดต้นไม้ที่เฉาตาย พร้อมกับการลงต้นไม้ปลูกใหม่ ความขยันนี้ไม่ได้มีที่มาที่ไปไกลเท่าไหร่นัก สุดท้ายหลานๆ นั่นแหละที่เป็นแรงผลักดันให้คุณปู่จัดการทุกอย่าง เป็นแรงผลักดันที่ทำให้ขยันมากยิ่งๆ ขึ้นไป"น้องไอเวียนหัวเหรอลูก แม่ลืมบอกว่าแม้แต่ผักบางชนิด หากมันจะแสลงมันก็แสลงขึ้นมาดื้อๆ เลยนะ" เบญญาถามสะใภ้คนเล็กอย่างไอติม คุณแม่หลังคลอดยังคงสวยสดไม่เปลี่ยน ไอติมหน้ายังสดใส เป็นเรื่องปกติที่คล้อยหลังจากช่วงหลังคลอดในช่วงเดือนแรกผ่านพ้นไป จะมีการเริ่มทานอาหารที่มีประโยชน์และเพิ่มน้ำนมให้มากขึ้น เรื่องของอาหารแสลงจึงเป็นสิ่งที่ควรระวังมากเช่นกัน"ไอเวียนหัวนิดหน่อยค่ะแม่" "แม่ว่าพักก่อนนะ เดี๋ยวแม่ดูแลอิคคิวให้เอง" คุณย่ายังคงเป็นที่รักของลูกๆ ยังเป็นคนที่คอยช่วยเหลือดูแลหลานๆ อยู่เสมอเด็กชายองศา เด็กหญิงอันดาตอนนี้อยู่ในวัยสองขวบเศษ ช่างพูดช่างคุยช่างสงสัย จากนั้นก็เป็นน้องไอเดียลูกสาวของคุณพ่อภพและคุณแม่ซาเฟียร์ที่ลืมตาดูโลกและเข้ามาอยู่ในบ้านอัศวราชเป็นหลานคนที่สาม หนึ่งสัปดาห์ต่