Share

บทที่ 282

Author: ทองประกาย
"เหตุการณ์วันนี้มีคนเห็นมากมาย ในเจ็ดวันนี้ชิงเอ๋อร์จะต้องทนรับฟังคำซุบซิบนินทาสักเพียงใด? หากท่านออกคำสั่งประกาศว่าท่านกับชิงเอ๋อร์ถูกชะตากัน และได้หมั้นหมายกันแล้ว เช่นนี้ชิงเอ๋อร์ก็จะสบายใจขึ้น"

คำพูดของฮูหยินเมิ่งล้วนมีเหตุผล องค์ชายเจ็ดฉู่เลี่ยนคิดหาคำแย้งไม่ออก จึงแค่นหัวเราะเย็นชา ก้าวยาว ๆ มาหยุดเบื้องหน้าฮูหยินเมิ่งกับเมิ่งชิง "อยากแต่งงานกับข้านักหรือ ได้! ข้าตกลง!"

เขาเอ่ยอย่างดุดันแล้วสะบัดแขนเสื้อจากไป

ค่ำวันนั้น ข่าวการหมั้นหมายระหว่างองค์ชายเจ็ดฉู่เลี่ยนกับเมิ่งชิงก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งคฤหาสน์

เจียงซุ่ยฮวนนั่งจิบชาในห้อง เมื่อได้ยินเรื่องนี้จึงเอ่ยว่า "ดูท่าเมิ่งชิงก็ไม่โง่ รู้ว่าต่อไปคงหาคู่ครองยาก จึงฉวยโอกาสบีบให้ฉู่เลี่ยนแต่งงานด้วย นับว่าเป็นคนที่มีสติปัญญาดีทีเดียว"

ชุนเถาที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยว่า "ข้าได้ยินจากนางกำนัลที่รู้จักว่า หลังจากองค์ชายเจ็ดออกจากตำหนักซ่งหลง พระพักตร์เต็มไปด้วยความโกรธ หน้าตาบูดบึ้งราวกับถูกดองในไหผักดองมาสิบปี เหม็นเขียวไปหมด"

"ฉู่เลี่ยนแค่ลุ่มหลงในกามารมณ์ชั่วครู่ แต่ตอนนี้ต้องรับผิดชอบต่อเมิ่งชิง จะไม่โกรธจนตายก็แปลก" เจียงซุ่ยฮว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 283

    เมิ่งชิงกลืนน้ำลายด้วยความประหม่า นางรู้ว่าองค์ชายฉู่เลี่ยนมีใจให้เจียงเม่ยเอ๋อร์ แต่นางมิได้บอกเรื่องนี้แก่เจียงเม่ยเอ๋อร์ ผลคือเจียงเม่ยเอ๋อร์กลับมาหานางถึงที่เสียเอง นางฝืนใจเดินไปเปิดประตู ฝืนยิ้มออกมา "เม่ยเอ๋อร์ เจ้ามาแล้วหรือ ข้าเพิ่งจะคิดจะไปหาเจ้าพรุ่งนี้เชียว" เจียงเม่ยเอ๋อร์ไม่ตอบคำ เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบเฉยพลางประคองท้อง เมิ่งชิงเสมือนเอาหน้าร้อนไปแนบก้นเย็น ดวงตาหม่นลง ยื่นมือไปจับแขนของเจียงเม่ยเอ๋อร์ "เม่ยเอ๋อร์ เหตุใดเจ้าจึงไม่พูดจา?" ในชั่วขณะถัดมา เจียงเม่ยเอ๋อร์พลันสะบัดมือ ตบเข้าที่ใบหน้าของเมิ่งชิง เมิ่งชิงไม่ทันตั้งตัว ถูกตบจนชะงักงัน "เหตุใดเจ้าจึงตบข้า?" "ไม่ได้หรือ?" เจียงเม่ยเอ๋อร์ย้อนถาม ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ "เจ้ารู้ดีว่าฉู่เลี่ยนมีใจให้ข้า เหตุใดจึงใช้วิธีต่ำช้าเช่นนี้บีบให้ฉู่เลี่ยนแต่งงานกับเจ้า?" "แต่เจ้าก็แต่งงานกับฉู่เจวี๋ยไปแล้ว ต่อให้ฉู่เลี่ยนรักเจ้าสักเพียงใด เจ้าก็ไม่มีทางได้อยู่กับเขานี่!" เมิ่งชิงถามอย่างน้อยใจ เจียงเม่ยเอ๋อร์กลอกตา "ข้าอาจไม่ได้อยู่กับฉู่เลี่ยน แต่ข้าสามารถใช้เขาทำงานให้ข้าได้" "เจ้าจะยั่วยวนใครก็ได้ ทำไมต้อ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 284

    "หุบปาก!" เจียงเม่ยเอ๋อร์ฟาดมือลงบนโต๊ะอย่างแรง "ลูกข้าไม่ใช่ดาวอัปมงคล! หากเจ้ากล้าพูดเช่นนี้อีก ระวังข้าจะฉีกปากเจ้า!" เมิ่งชิงเอ่ยอย่างดูแคลน "เจ้าท้องโตถึงเพียงนี้ จะสู้ข้าไหวหรือ?" นางพูดพลางกระชากคอเสื้อของเจียงเม่ยเอ๋อร์ ลากกึ่งดึงไปที่ประตู แล้วปิดประตูอย่างแรง เจียงเม่ยเอ๋อร์มองประตูที่ปิดสนิทตรงหน้า ในใจยอมรับไม่ได้ เมิ่งชิงที่แต่ก่อนว่าง่ายนัก บัดนี้กลับกล้าพูดกับนางเช่นนี้ คงเป็นเพราะได้หมั้นหมายกับฉู่เลี่ยนกระมัง เช่นนี้ทั้งสองคนก็ถือว่าแตกหักกันอย่างสิ้นเชิงแล้ว "เมื่อเจ้าไร้น้ำใจ ก็อย่าโทษว่าข้าไร้คุณธรรม" เจียงเม่ยเอ๋อร์แค่นหัวเราะเย็นชา ก่อนหมุนตัวจากไป เจียงเม่ยเอ๋อร์กลับถึงห้องของตน พอเข้าประตู ฉู่เจวี๋ยก็เดินมาต้อนรับ เอ่ยอย่างอ่อนโยน "เม่ยเอ๋อร์ เจ้าไปไหนมา? ทำไมเพิ่งกลับมา?" "ออกไปเดินเล่น" เจียงเม่ยเอ๋อร์ตอบเสียงเย็น ถอดผ้าคลุมแล้วโยนให้ฉู่เจวี๋ย "เก็บให้ข้า" "ได้" ฉู่เจวี๋ยกลับไม่โกรธเลยแม้แต่น้อย ว่าง่ายเก็บผ้าคลุมเข้าตู้เสื้อผ้า เจียงเม่ยเอ๋อร์มองฉู่เจวี๋ย นับแต่นางใส่ยารักให้เขา ฉู่เจวี๋ยก็ยิ่งอ่อนโยนเอาใจนางมากขึ้น ไม่เคยปฏิเสธคำขอใด ๆ ของน

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 285

    เมื่อได้ยินคำว่า "จีกุ้ยเฟย" หัวใจของเจียงซุ่ยฮวนเต้นเร็วขึ้นมาก มาหลายวันแล้ว ในที่สุดก็มีโอกาสได้พบจีกุ้ยเฟยเสียที นางข่มความตื่นเต้นในใจ หันกายไปถามนางกำนัลอย่างสงบ "จีกุ้ยเฟยมีธุระอันใดกับข้าหรือ?" "เช้านี้พระนางรู้สึกไม่สบายพระวรกาย ทรงได้ยินว่าท่านมีวิชาแพทย์เชี่ยวชาญ จึงให้หม่อมฉันมาเชิญท่านไปเข้าเฝ้า" นางกำนัลค้อมกายกล่าว เจียงซุ่ยฮวนรู้สึกว่านางกำนัลผู้นี้คุ้นตา จึงถาม "ข้าเคยพบเจ้าหรือไม่?" นางกำนัลตอบอย่างนอบน้อม "บ่าวชื่ออาเซียง ก่อนการล่าสัตว์ฤดูใบไม้ร่วงจะเริ่ม บ่าวได้พบท่านในกระโจมของพระชายา ตอนนั้นพระชายาแห่งวังหนานหมิงทรงตีบ่าว ท่านยังให้ยาขี้ผึ้งแก่บ่าวกล่องหนึ่ง" "เป็นเจ้านี่เอง" เจียงซุ่ยฮวนนึกออกแล้ว ตอนนั้นเจียงเม่ยเอ๋อร์โกรธจนตีนางกำนัลผู้นี้ นางเห็นน่าสงสาร จึงให้ยาขี้ผึ้งไปกล่องหนึ่ง น่าแปลกไม่น้อยที่ดวงตาของนางกำนัลเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง วาจาก็สุภาพนอบน้อม "เป็นบ่าวเองเจ้าค่ะ ขอบคุณที่ท่านให้ยาขี้ผึ้งแก่บ่าว ใบหน้าของบ่าวหายดีภายในสองวัน" อาเซียงกล่าวพลางค้อมกายอีกครั้ง เจียงซุ่ยฮวนพาชุนเถามาถึงกระโจมของจีกุ้ยเฟยพร้อมกับอาเซียง จีกุ้ยเฟยกึ่งเอนก

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 286

    "พระสนมเข้าพระทัยผิดแล้ว หม่อมฉันเพียงแค่ยังไม่กระหายน้ำ เมื่อกระหายก็จะดื่มเอง" เจียงซุ่ยฮวนรู้สึกเก้อเล็กน้อยที่จีกุ้ยเฟยทายใจถูก จีกุ้ยเฟยเท้าคางมองนางถาม "อายุเท่าไรแล้ว? มีคู่ครองหรือไม่?" "หม่อมฉันอายุสิบเจ็ดเพคะ" เจียงซุ่ยฮวนเว้นจังหวะ "เพิ่งหย่าขาดจากฉู่เจวี๋ยไม่นานมานี้" "อ้า ดูสมองข้าสิ ฉู่เจวี๋ยแทบไม่เคยพาเจ้าเข้าวัง ข้าเกือบลืมไปว่าเจ้าเคยเป็นชายาของเขา" จีกุ้ยเฟยเคาะศีรษะตนเองเบา ๆ ขณะที่เจียงซุ่ยฮวนกำลังสงสัยว่าจีกุ้ยเฟยต้องการอะไร จีกุ้ยเฟยก็เปลี่ยนเรื่องกะทันหัน "เจ้ากับกู้จิ่นเป็นอย่างไรกัน?" "ได้ยินว่าพวกเจ้าไม่ลงรอยกัน แต่คราวก่อนที่ได้เห็นกับตา กลับรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเจ้าไม่ธรรมดา" น้ำเสียงของจีกุ้ยเฟยแฝงความนัยลึกซึ้ง เจียงซุ่ยฮวนคิดในใจว่าแย่แล้ว จีกุ้ยเฟยสายตาดีถึงเพียงนี้ ถึงกับมองออก นางนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วว่า "พระสนมสายพระเนตรดียิ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างหม่อมฉันกับองค์ชายเป่ยโม่ไม่ธรรมดาจริง ๆ" "หม่อมฉันเคยช่วยชีวิตองค์ชายเป่ยโม่ พระองค์เกิดใจรักหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันปฏิเสธ หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของพวกเราก็เริ่มแย่" พูดจบ เจียงซุ่ยฮวนก

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 287

    เมื่อตระหนักได้ว่าสีพระพักตร์ผิดปกติ จีกุ้ยเฟยจึงรีบเปลี่ยนสีพระพักตร์ และแกล้งถามอย่างไม่ใส่พระทัย "เช่นนี้แล้ว เจียงเม่ยเอ๋อร์ถูกแม่นมทิ้งหรือ?" "เพคะ แม่นมผู้นั้นรับใช้นายที่คลอดเจียงเม่ยเอ๋อร์แล้วไม่ต้องการ จึงสั่งให้แม่นมพานางไปฆ่า แต่แม่นมสงสาร จึงยกให้พ่อม่าย" เจียงซุ่ยฮวนพูดจนปากแห้งคอแห้ง จึงรินน้ำชาให้ตนเอง ขณะรินชา นางแอบมองจีกุ้ยเฟย เห็นพระพักตร์ของพระนางซีดขาว พระหัตถ์ทั้งสองกำแน่น พระนขาจิกเข้าไปในเนื้อก็มิได้รู้สึก มุมปากเจียงซุ่ยฮวนยกขึ้นเล็กน้อย ในที่สุดก็วางใจได้ก้อนใหญ่ สำหรับจีกุ้ยเฟย เจียงเม่ยเอ๋อร์ก็เปรียบเสมือนระเบิดเวลา อาจระเบิดเมื่อใดก็ได้ แต่ก่อนจีกุ้ยเฟยไม่ทรงทราบชาติกำเนิดที่แท้จริงของเจียงเม่ยเอ๋อร์ก็แล้วไป บัดนี้ทรงทราบแล้ว ย่อมต้องลงมือกับเจียงเม่ยเอ๋อร์แน่ เจียงซุ่ยฮวนรู้ว่า กลยุทธ์ยืมมือคนอื่นสังหารของนางสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง นางรินชาเสร็จ ยกขึ้นดมที่จมูก เมื่อไม่ได้กลิ่นผิดปกติจึงจิบอย่างวางใจ แล้วค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น นางทำเป็นเพิ่งสังเกตเห็นสีพระพักตร์ผิดปกติของจีกุ้ยเฟย จึงถามอย่างตกใจ "พระสนม เหตุใดสีพระพักตร์ของพระองค์จึงซีดเช่นนี้?

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 288

    บนเตียงมีคนนอนอยู่จริง ๆ ใบหน้าครึ่งหนึ่งซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม เห็นเพียงหน้าผากน้อย ๆ โผล่ออกมา เจียงซุ่ยฮวนกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว มือหนึ่งกำมีดผ่าตัดแน่น อีกมือหนึ่งหยิบสเปรย์ยาสลบจากห้องทดลอง เกรงว่านี่จะเป็นกลอุบายอีกครั้ง คนใต้ผ้าห่มราวกับไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของนาง ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มไม่ขยับเขยื้อน เจียงซุ่ยฮวนเอ่ยว่า "ข้าเป็นหมอหลวงที่จีกุ้ยเฟยเชิญมารักษาอาการท่าน เลื่อนผ้าห่มลงเถิด ข้าจะจับชีพจรให้" ผ้าห่มสั่นไหวเล็กน้อย คนข้างในไม่เพียงไม่เลื่อนผ้าห่มลง กลับยิ่งซุกตัวลึกลงไปใต้ผ้าห่ม พูดเสียงอู้อี้ "บ่าวไม่ขอตรวจ ท่านไปเถิด" "แน่ใจหรือ?" "แน่ใจ!" "ได้" เจียงซุ่ยฮวนไม่ซักไซ้ หมุนตัวเตรียมจากไปทันที "เช่นนั้นข้าจะไปทูลจีกุ้ยเฟยว่าเป็นเจ้าที่ไม่อยากรักษา ไม่ใช่ข้าไม่อยากรักษา" "เอ๊ะ!" คนใต้ผ้าห่มดึงผ้าห่มลง โผล่ศีรษะออกมาร้องเรียกเจียงซุ่ยฮวนไว้ เจียงซุ่ยฮวนหันกลับมาอย่างไม่แปลกใจ ดูจากการแต่งกายของคนบนเตียง เขาเป็นขันทีจริง ๆ อายุราวสามสิบกว่า หน้าตาค่อนข้างหล่อเหลา เพียงแต่สีหน้าดูอิดโรย หากไม่ดูเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ จะไม่มีทางรู้เลยว่าเป็นขันที เจียงซุ่ยฮวนจ้องม

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 289

    นางปล่อยข้อมือของสวี่เหนียน หยิบแอลกอฮอล์ฉีดพ่นที่ถุงมือ แล้วเงียบ ๆ หยิบหน้ากากอีกชิ้นมาสวม "เจ้าพับแขนเสื้อขึ้น" นางพูดกับสวี่เหนียนอย่างจริงจัง สีหน้าของสวี่เหนียนแข็งค้าง ค่อย ๆ พับแขนเสื้อขึ้น เห็นแขนของเขาเต็มไปด้วยผื่นแดงขึ้นหนาแน่น ดูน่าตกใจยิ่งนัก เจียงซุ่ยฮวนขมวดคิ้วแน่น ถาม "มีอาการอื่นอีกหรือไม่?" สวี่เหนียนตอบ "เมื่อไม่กี่วันก่อน หม่อมฉันปวดศีรษะอย่างรุนแรง ไม่เพียงแค่ศีรษะ รู้สึกปวดไปทั้งร่าง ระยะนี้ดีขึ้นบ้างแล้ว เพียงแต่ผื่นแดงบนตัวยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ" "อาการเริ่มปรากฏตั้งแต่เมื่อใด?" เจียงซุ่ยฮวนหยิบกระดาษและพู่กันออกมาจด สวี่เหนียนก้มหน้าครุ่นคิด กล่าว "ประมาณสิบวันก่อน" "ก่อนหน้านั้น คนที่เจ้าติดต่อด้วยมีอาการเช่นนี้หรือไม่? หลังป่วยแล้วได้ติดต่อกับใครบ้าง?" สีหน้าเจียงซุ่ยฮวนเลวร้ายยิ่ง มือเขียนอย่างรวดเร็ว "เจ้าคิดให้ดี อย่าให้ตกหล่นแม้แต่คนเดียว" สวี่เหนียนตกใจกับท่าทีของเจียงซุ่ยฮวน ถอยหลังเล็กน้อย นึกทบทวนอย่างตื่นตระหนก "ก่อนหน้านั้นบ่าวกลับบ้านเกิดเยี่ยมญาติ ก่อนจากมาพบว่าเพื่อนบ้านมีคนเป็นผื่นแดง ตอนนั้นบ่าวก็ไม่ได้ใส่ใจ" "วันรุ่งขึ้นหม่อมฉั

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 290

    เจียงซุ่ยฮวนไม่พูดจา ถอดชุดป้องกันออก แล้วหยิบแอลกอฮอล์มาฉีดพ่นตัวเองและชุดป้องกันอย่างแรง จนกระทั่งฆ่าเชื้อหมดจดแล้ว นางจึงถอนหายใจโล่งอก นางเดินไปหาทั้งสอง ถามอาเซียง "เสี่ยวหยางจื่ออยู่ที่ใด?" อาเซียงก้มหน้าไม่กล้าสบตาเจียงซุ่ยฮวน "บ่าวไม่ทราบเจ้าค่ะ" เจียงซุ่ยฮวนโกรธเล็กน้อย "สวี่เหนียนเป็นฝีดาษ โรคนี้ติดต่อง่ายมาก เสี่ยวหยางจื่อต้องติดเชื้อแน่ หากไม่รีบควบคุมก็จบเห็น ๆ! ยังจะปิดบังอะไรกันอีก?" อาเซียงอายุยังน้อย ได้ยินเช่นนั้นก็ร้องไห้ด้วยความตกใจ "ท่านหมอเจียง บ่าวรู้เพียงว่าเสี่ยวหยางจื่อถูกลากตัวไป นอกนั้นไม่รู้อะไรเลยเจ้าค่ะ" ขณะที่เจียงซุ่ยฮวนกำลังร้อนใจ เสียงของจีกุ้ยเฟยก็ดังมาแต่ไกล "อาเซียงไม่รู้จริง ๆ หากเจ้ามีคำถาม ถามข้าโดยตรงก็ได้" เจียงซุ่ยฮวนเงยหน้า เห็นจีกุ้ยเฟยค่อย ๆ เดินมา ร่างโฉมงามแต่สีหน้าไม่ค่อยดี "ท่านหมอเจียง เสี่ยวหยางจื่อตายแล้ว" จีกุ้ยเฟยยืนตรงหน้าเจียงซุ่ยฮวน พูดอย่างไม่ใส่ใจ "อาการของเสี่ยวหยางจื่อหนักกว่า เป็นได้ห้าวันก็ตาย" เจียงซุ่ยฮวนขมวดคิ้ว "มีคนอื่นติดเชื้อหรือไม่?" "ไม่มี" จีกุ้ยเฟยส่ายหน้า "หลังจากเสี่ยวหยางจื่อแสดงอาการเหมือน

Latest chapter

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 578

    ชายร่างยักษ์ถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำจนแทบดูไม่ออกว่าเดิมมีหน้าตาเป็นเช่นไรมิหนำซ้ำ เลือดกำเดายังไหลทะลักไม่หยุด แขนทั้งสองไร้ความรู้สึก แม้แต่จะเช็ดเลือดออกจากใบหน้ายังไม่อาจกระทำได้เขาจ้องเจียงซุ่ยฮวนด้วยสายตาเจ็บใจ “เมื่อครู่นั้น…”—พูดได้เพียงสองคำ เลือดกำเดาก็ไหลย้อนเข้าปาก เขาสะอึกแล้วถ่มถุยออกมา “แหวะ! แหวะ! ช่างน่าขยะแขยงนัก!”น้ำลายปนเลือดแทบจะพ่นใส่เจียงซุ่ยฮวน นางแสดงสีหน้ารังเกียจเดียดฉันท์ ยกมือบังคับศีรษะของเขาให้หันไปทางอัฒจันทร์น้ำลายและเลือดกระเซ็นกระจาย ผู้ชมพากันหวีดร้องหลบหนี บางคนร้องเสียงหลง โดยเฉพาะหญิงสาวในชุดชมพูผู้หนึ่งที่ทนไม่ไหว โยนผ้าเช็ดหน้าขึ้นเวที “เอาผ้านี่อุดจมูกเขาซะ ข้ายินดีให้หนึ่งพันตำลึง!”“ตกลง” เจียงซุ่ยฮวนก้มลงหยิบผ้าจากพื้น ยัดเข้าไปในรูจมูกของชายร่างยักษ์อย่างไม่ลังเลในที่สุดชายผู้นั้นก็หยุดพ่นน้ำลาย เขาพูดเสียงอู้อี้ผ่านผ้าที่ยัดจมูก “เมื่อครู่นั้นข้าแค่ประมาทไป หากเจ้ากล้าพอ จงต่อแขนข้าให้กลับเข้าที่ เราจะสู้กันใหม่!”เจียงซุ่ยฮวนทรุดกายนั่งลง บีบหัวเขาแนบพื้น “ข้ามิได้ว่างนัก หากเจ้าตอบคำถามของข้า ข้าจะ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 577

    บุรุษร่างยักษ์ร้องโอดโอย พลางยกมือกุมใบหน้า ถอยหลังเซถลาไปหลายก้าวพลันมีเสียงโห่ร้องอย่างขัดเคืองดังลั่นจากบนอัฒจันทร์“นี่มันเรื่องอะไร! ร่างกายใหญ่โตปานนี้ยังสู้หญิงไม่ได้อีกหรือ!”“ใช่แล้ว! อ่อนแอเกินไปแล้วกระมัง!”“ลุกขึ้นสิ! ข้าลงพนันหมดหน้าตักไว้กับเจ้าเลยนะ!”ดูท่าคนเหล่านี้ล้วนวางเดิมพันไว้ที่ชายร่างใหญ่ผู้นั้นทั้งสิ้นก็ไม่แปลก...ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ต่างกันลิบลับ ใครบ้างเล่าจะเชื่อว่าสตรีอย่างเจียงซุ่ยฮวนจะชนะเขาได้ชายร่างใหญ่เช็ดมุมปากของตนเอง เห็นรอยเลือดติดปลายนิ้วก็นัยน์ตาแข็งกร้าวขึ้นมา “ดูท่าข้าคงประเมินเจ้าต่ำไปเสียแล้ว”แต่เดิมเขาเข้าใจว่านางก็เป็นแค่หญิงชาวบ้านธรรมดา ไยเลย...ผ่านไปไม่กี่กระบวนท่า ก็รู้แล้วว่านางหาใช่คนที่เขาจะประมาทได้เจียงซุ่ยฮวนบิดข้อมือเบา ๆ พลางกล่าวเย้ยหยัน “ถูกแล้ว...เจ้ามันตาบอด”ชายร่างใหญ่ลุกพรวดขึ้นจากพื้น แผดเสียงคำรามแล้วพุ่งตรงเข้าหานางด้วยแรงทั้งหมดเจียงซุ่ยฮวนเบี่ยงกายหลบไปด้านข้าง มือข้างหนึ่งยันเสาเวทีไว้แล้วดีดตัวลอยขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะเหวี่ยงเท้าเข้าใส่ใบหน้าชายผู้นั้นอีกคราชายร่างยักษ์ล้มตึงลงกับพื้น เลือดกำเดาไห

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 576

    “สู้กัน! สู้กันสิ!”“ปลุกนางให้ลุกขึ้นมา!”“อย่าเสียเวลา! เร็วเข้า ให้หล่อนลุกขึ้นมาสู้!”เจียงซุ่ยฮวนรู้สึกตัวตื่นจากเสียงอึกทึกโกลาหลรอบกาย เสียงเหล่านั้นดั่งคลื่นซัดถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ประหนึ่ง...จะเร่งให้นาง...สู้รึ!?นางค่อย ๆ ลืมตาขึ้น พบว่าตนเองกำลังนอนคว่ำอยู่บนพื้นคล้ายลานประลอง ลานแห่งนี้เป็นวงกลม กว้างพอจะรองรับคนได้ราวสิบคนรอบลานประลองมีผู้คนมากมายนับร้อยราย กำลังส่งเสียงร้องตะโกนโห่อย่างบ้าคลั่งจากเครื่องแต่งกายดูแล้ว ล้วนเป็นบรรดาผู้มีฐานะจากเมืองหลวง สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น คำตะโกนเร่งเร้าดังไม่ขาดสายแรกเริ่ม เจียงซุ่ยฮวนยังงุนงงอยู่มาก นางเพิ่งอยู่หน้าจวนแท้ ๆ เหตุใดจึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้เล่า?เมื่อนางค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน ฝูงชนโดยรอบก็ยิ่งโห่ร้องเสียงดังกระหึ่มกว่าเดิม“เสียงหนวกหูเสียจริง”นางยกมือกุมขมับ พลางพิจารณาสภาพแวดล้อมรอบกายอย่างตั้งใจสถานที่แห่งนี้...ดูเหมือนจะคุ้นตาอยู่บ้างทันใดนั้น ดวงตาของเจียงซุ่ยฮวนเบิกโพลง ใช่แล้ว! นางจำได้ ที่นี่นางเคยมาเยือนเมื่อหลายปีก่อน เจ้าของร่างเดิมถึงกับวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนเพราะทนเห็นความโหดร้าย

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 575

    ปู้กู่ถูกคานไม้ที่ถล่มลงมาทับขาจน เจ็บมีสีหน้าบิดเบี้ยวไปทั้งใบหน้า องครักษ์ลับทั้งหลายเมื่อเห็นดังนั้นจึงกรูกันเข้าไป หวังจะยกคานไม้ออกให้พ้นจากขาของเขาทว่าเปลวเพลิงยังไม่สงบลงโดยสิ้นเชิง ความเสี่ยงที่จะเกิดไฟลุกซ้ำยังมีอยู่ทุกเมื่อ จึงจำต้องแบ่งกำลังครึ่งหนึ่งไว้ดับไฟ อีกครึ่งเข้าไปช่วยปู้กู่คานไม้ที่ถล่มลงมานั้นหนักหนายิ่งนัก แถมยังร้อนจนแทบจับต้องไม่ได้ การจะยกขึ้นจึงยากเย็นนัก ปู้กู่เหงื่อเต็มหน้า พร่ำครางเสียงต่ำ “อย่าห่วงข้าเลย รีบไปช่วยคนในเรือนก่อน!”องครักษ์ผู้หนึ่งวิ่งเข้าไปดูในเรือน แล้วรีบวิ่งกลับออกมารายงาน “ในเรือน...ไม่มีใครอยู่แล้ว!”“ว่าอะไรนะ!?” ปู้กู่กัดฟันกรอด “บัดซบ! ปล่อยให้มันหนีไปได้!”เจียงซุ่ยฮวนเมื่อได้ยินว่าข้างในว่างเปล่า ทั้งโกรธทั้งโล่งใจ โกรธที่หลี่ลี่หลบหนีไปได้ แต่โล่งใจที่เขายังมีชีวิตอยู่องครักษ์ที่อยู่ข้างกายนางเอ่ยถามอย่างเกรงใจ “พระชายา ขออนุญาตไปช่วยท่านปู้กู่ก่อนจะได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“ไปเถิด” เจียงซุ่ยฮวนก็เป็นห่วงปู้กู่ไม่น้อย หากปล่อยให้คานไม้นั้นกดทับอยู่นาน เกรงว่าจะยิ่งแย่ลง“ขอบพระคุณพระชายา กระหม่อมจะรีบกลับมาโดยเร็วพ่ะย่ะค่

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 574

    ครั้นได้ยินคำว่า “ไฟไหม้” ความง่วงที่ยังหลงเหลืออยู่ในห้วงนิทราของเจียงซุ่ยฮวนพลันสลายหายไปสิ้น หัวใจพลันเต้นโครมครามราวจะหลุดจากอกนางลุกพรวดจากที่นอน คว้าผ้าคลุมขนกระต่ายที่วางอยู่ข้างหมอนมาสวมอย่างลวก ๆ แล้วรีบลงจากเตียงในขณะเดียวกัน ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดอย่างรุนแรง หยิ่งเถาวิ่งพรวดเข้ามาทั้งที่ยังทรงตัวไม่ทันดี จึงพลาดล้ม “โครม” ลงกับพื้นหยิ่งเถาไม่ทันได้ลุกขึ้นก็รีบเงยหน้าร้องบอกเสียงลั่น “คุณหนู! รีบออกไปเถิด! ข้างนอกเกิดไฟขึ้นแล้ว!”เจียงซุ่ยฮวนรีบสวมรองเท้า ก้าวยาว ๆ ตรงเข้าไปฉุดหยิ่งเถาขึ้นจากพื้น แล้วจูงมือนางวิ่งออกไปทันทีมือของเจียงซุ่ยฮวนที่กำมือหยิ่งเถานั้นสั่นน้อย ๆ นางถามเสียงเร่งร้อน “เสี่ยวถังหยวนเล่า?”“คุณชายน้อยปลอดภัยดีเพคะ แม่นมเห็นก่อนจึงรีบพาออกไปหลบแล้วเพคะ” หยิ่งเถารีบตอบครั้นรู้ว่าลูกน้อยปลอดภัย เจียงซุ่ยฮวนจึงค่อยสงบลงเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามอีกครั้ง “แล้วไฟเกิดที่ใด?”“เป็นห้องพักของท่านอาจารย์เพคะ” หยิ่งเถาตอบเจียงซุ่ยฮวนถึงกับชะงัก ห้องของฉู่เฉินหรือ!? แล้วหลี่ลี่ก็ยังอยู่ในนั้นด้วย!นางจึงเร่งฝีเท้าวิ่งออกไป ทว่าเพิ่งออกจากประตู ก็มีควันไฟใน

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 573

    หากฝืนปลุกเขาขึ้นมาในยามนี้ เกรงว่าจะทำให้สติแตกเสียจนอาละวาดคลุ้มคลั่ง“ดูท่าคงต้องปล่อยให้ฟื้นขึ้นเองแล้วกระมัง” เจียงซุ่ยฮวนถอนหายใจอย่างจนปัญญา แล้วเอ่ยเรียกจากในห้องว่า “ปู้กู่ เข้ามาหาข้าสักประเดี๋ยวสิ”ปู้กู่เปิดประตูเข้ามาทันที “พระชายา มีสิ่งใดจะทรงบัญชาหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจียงซุ่ยฮวนชี้ไปยังบุรุษที่นอนอยู่บนพื้น “เจ้ารู้จักบุรุษผู้นี้หรือไม่?”ปู้กู่หลับตานิ่ง พยายามรื้อค้นความทรงจำอย่างเคร่งเครียด ทว่านึกอยู่เนิ่นนานก็ยังคิดไม่ออกเจียงซุ่ยฮวนจึงกล่าวเป็นเชิงเตือน “ชายผู้นี้ผิวขาวซีดผิดธรรมชาติ คงมิได้ออกไปพบแสงตะวันมาเป็นเวลานานแล้ว”ปู้กู่นั่งย่อตัวลง เพ่งพินิจใบหน้าของบุรุษผู้นั้นอย่างละเอียด กระทั่งครู่หนึ่ง ก็อุทานเสียงเบา “ซี้ด…”“นึกออกแล้วหรือ?” เจียงซุ่ยฮวนเอ่ยถามปู้กู่ชี้ไปที่บุรุษผู้นั้นด้วยแววตาตกตะลึง “ผู้นี้ชื่อหลี่ลี่ เมื่อสิบปีก่อน เคยเป็นหนี้หอพนันถึงหนึ่งแสนตำลึง แล้วบุกเข้าไปปล้นคฤหาสน์ของพ่อค้าผู้มั่งคั่ง”“หากเพียงแค่ปล้นก็คงไม่ถึงกับร้ายกาจนัก เขากลับอาศัยฝีมือที่เหนือกว่าฆ่าล้างทั้งครอบครัวพ่อค้านั้น รวมแล้วกว่ายี่สิบชีวิต”เจียงซุ่ยฮวนสีหน้าหม

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 572

    เจียงซุ่ยฮวนโดยสารรถม้ากลับถึงจวน พอเปิดม่านลงจากรถ ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นปู้กู่ยืนอยู่เบื้องหน้าพร้อมผู้ติดตามนับสิบคน“เหตุใดเจ้าจึงพาผู้คนมากมายมาด้วย?” นางเหลือบมองแคร่ไม้ด้านหลังพลางถามปู้กู่รีบเอ่ยอย่างร้อนรน “พระชายา พอได้ข่าวว่าเส้นทางขากลับถูกเฉียนจิงอี๋สกัดไว้ กระหม่อมก็ตั้งใจจะนำคนไปช่วย แต่ไม่นานก็ทราบว่าท่านเสด็จกลับมาเสียแล้ว”“อืม...ตอนนี้ไม่มีอันใดแล้ว ให้พวกเขาแยกย้ายกันไปเถิด” เจียงซุ่ยฮวนโบกมือ นางยังเร่งรีบอยากกลับเข้าเรือนเพื่อสอบปากคำฉู่เฉินตัวปลอมปู้กู่สั่งให้คนที่มาด้วยกันกลับไป ทว่าตนเองกลับยืนอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับเจียงซุ่ยฮวนจึงถามขึ้น “เหตุใดเจ้ายังไม่ไปเล่า?”ปู้กู่เอ่ยว่า “พระชายา ขอพระองค์โปรดแจ้งกระหม่อมเถิด เฉียนจิงอี๋ขวางรถพระองค์ไว้ด้วยเหตุใด?”เจียงซุ่ยฮวนเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วกล่าวทิ้งท้ายว่า “ข้ารู้สึกว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดา ที่สำคัญคือแววตาที่เขามองข้ามันช่างประหลาด เจ้ารีบส่งคนไปสืบข่าวเขาสักหน่อยเถิด”ปู้กู่สีหน้าหนักแน่น “เฉียนจิงอี๋ผู้นี้มิใช่คนธรรมดาแน่ หอพนันซิ่งหลงของตระกูลเขากระจายอยู่ทั่วแคว้นต้าเหยียน และเขาเอง...ดูเหมือนจะมีธ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 571

    เจียงซุ่ยฮวนยิ้มน้อย ๆ แล้วกดเสียงต่ำลงพลางกระซิบว่า “วางใจเถิด...ตอนนี้ไม่มีแล้ว”แววตาขององครักษ์ลับยังเต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าเจียงซุ่ยฮวนเพียงยิ้มอย่างเงียบงัน หาได้กล่าวคำใดอีกไม่นานนัก เฉียนจิงอี๋ก็เดินออกจากรถม้าด้วยท่วงท่าสงบ มือไพล่หลังไว้ ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้ากลับจางหายไปจนหมดสิ้น หางตายังพลันกระตุกเล็กน้อยเขาเห็นกับตาตนเองว่าเหล่าองครักษ์ลับจับคนยัดใส่รถม้า แล้วเขายังไล่ตามมาตลอดทางจากหอพนัน สายตาไม่เคยละไปที่อื่นเลยแม้แต่น้อยแต่เหตุใดคนผู้นั้นจึงหายไปเสียได้?เจียงซุ่ยฮวนยิ้มถาม “เห็นผู้ใดหรือไม่?”แววตาเฉียนจิงอี๋เย็นเยียบสั่นไหวเล็กน้อย ประหนึ่งกำลังครุ่นคิดบางสิ่งอยู่ เมื่อสบเข้ากับรอยยิ้มของเจียงซุ่ยฮวน เขาจึงยกยิ้มบาง ๆ “ขออภัยด้วยคุณหนู ข้าคงตาฝาดไป”เขาหยิบตั๋วเงินใบหนึ่งขึ้นมา แล้วยื่นสองมือส่งให้เจียงซุ่ยฮวน “เชิญคุณหนูรับของเล็กน้อยเป็นการขออภัย”ท่าทีของบุรุษผู้นี้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนัก ไม่เสียแรงเป็นทายาทหอพนันโดยแท้ ขณะที่เจียงซุ่ยฮวนกำลังจะเอื้อมมือไปรับ กลับพบว่าตั๋วเงินในมือเขานั้นมิใช่ใบละแค่แสนตำลึง...แต่เป็นถึงสองแสนตำลึงเจียงซุ่ยฮวนชักมือกลั

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 570

    ควันสีเทาลอยฟุ้งขึ้นมา ลูกประคำที่เฉียนจิงอี๋ปาออกไปยังคงสภาพสมบูรณ์ แต่กลับฝังลึกอยู่กลางหลุมใหญ่บนพื้นแค่ลูกประคำธรรมดา กลับสามารถก่อความเสียหายได้ถึงเพียงนี้ ต้องมีพลังภายในลึกล้ำถึงเพียงใดกันแน่สีหน้าของเจียงซุ่ยฮวนพลันเคร่งขรึม ขณะเดียวกัน เหล่าองครักษ์ลับที่ล้อมรถม้าอยู่ก็ล้วนตั้งท่าเตรียมพร้อมด้วยท่าทีตึงเครียดแต่ก่อนพวกเขาเคยได้ยินชื่อของเฉียนจิงอี๋มาบ้าง รู้เพียงว่าเขาเป็นทายาทของหอพนันซิ่งหลง เป็นผู้มีอุปนิสัยเงียบขรึม หาได้ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนบ่อยนักกระทั่งได้พบกับตัวจริงในวันนี้ จึงรู้ว่าบุรุษผู้นี้...มิใช่คนธรรมดาแน่นอน“แม่นางผู้นี้ ข้าไร้เจตนาจะสร้างความลำบากแก่ท่าน เพียงแต่ในฐานะทายาทของหอพนันซิ่งหลง ข้าย่อมไม่อาจเพิกเฉยมองลูกค้าถูกลักพาตัวไปต่อหน้าต่อตา...ท่านว่าใช่หรือไม่?” เฉียนจิงอี๋ยิ้มละไม รอยยิ้มนั้นดูสุภาพอ่อนโยน หากแต่แฝงไว้ด้วยแรงกดดันจาง ๆ อย่างยากจะหยั่งถึงองครักษ์ลับทั้งหกยังคงเฝ้ารอบรถม้า หนึ่งในนั้นค่อย ๆ ถอยหลังออกไป แล้วอาศัยจังหวะชุลมุนลับหายไปในพริบตาเฉียนจิงอี๋เห็นดังนั้น จึงหัวเราะพลางถามว่า “หืม? ถึงกับต้องไปตามกำลังเสริมเชียวหรือ? หรื

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status