Home / รักโบราณ / วัตถุโบราณตระกูลหลี่ / ตอนที่ 1 พลังพิเศษเพิ่มพูน

Share

ตอนที่ 1 พลังพิเศษเพิ่มพูน

last update Last Updated: 2024-12-23 15:16:38

1 เดือนต่อมา

ณ โรงพยาบาลเอกชน ฝูต้า

“คุณหนูใหญ่ ไม่ลองทบทวนเรื่องกลับไปพักที่บ้านสักอาทิตย์อีกรอบหรือครับ” คำเรียกขานพาให้มือที่กำลังสาละวนเปิดดูข้อความในโทรศัพท์มือถือชะงักไปชั่ววินาที

“ลุงหย่งอันคะ อีก 2 อาทิตย์ก็ถึงวันเปิดเทอมแล้ว หนูยังไม่ได้ทำรายงานกับการบ้านเลยค่ะ ไปพักที่โรงเรียนน่าจะทำงานได้สะดวกกว่า”

ฝูหย่งอัน มองคุณหนูน้อยที่ตนกับภรรยาช่วยกันดูแลมาตั้งแต่ยังเป็นทารกตัวแดงด้วยสายตาอึดอัดและสงสารเห็นใจ คนในบ้านหลี่มีใครไม่รู้บ้างว่าคุณหนูใหญ่รักครอบครัวขนาดไหน ปิดเทอมแต่ละครั้งก็ตั้งตารอที่จะได้กลับบ้าน

ครืด!

ประตูทางด้านหลังเปิดออก เสียงทรงพลังของหญิงวัยกลางคนดังมาก่อนเจ้าตัว

“ตาแก่ ยืนนิ่งอยู่ทำไมไม่ช่วยคุณหนูเก็บของฮ๊า หลบไปไม่ต้องแล้วเดี๋ยวฉันทำเอง” ร่างท้วมกระฉับกระเฉงของหงหนิวอี หันไปขึงตาใส่พ่อบ้านตระกูลหลี่สามีของตนอย่างไม่พอใจ

“คุณหนูเหม่ยถิง เดี๋ยวป้าเก็บให้เองค่ะ ไปไป นั่งพักก่อน ลุกขึ้นมาทำไมคะเนี่ย วันนี้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วก็จริง แต่ร่างกายยังผ่ายผอมขนาดนี้เดี๋ยวเกิดเป็นลมขึ้นมาจะทำยังไงคะ”

เสียงอ่อนโยนแตกต่างกับเสียงคำรามก่อนหน้าเป็นคนละคน ไล่ต้อนหลี่เหม่ยถิงไปนั่งยังโซฟาในห้องพัก แล้วเดินกุลีกุจอรีบไปเก็บข้าวของบนเตียงใส่กระเป๋าเดินทาง

หลี่เหม่ยถิงยกยิ้มบางเบาอย่างอ่อนใจ ใช้สายตาหลังแว่นสายตากรอบหนามองออร่าสีเขียวเรืองจากตัวของผู้สูงวัยกว่าทั้งคู่ด้วยสายตาอบอุ่น

หลังจากฟื้นคืนสติเมื่อหนึ่งเดือนก่อน หลี่เหม่ยถิงค้นพบว่าความสามารถพิเศษของเจ้าตัวดูจะทรงพลังมากขึ้น ตั้งแต่เล็กเด็กสาวมักจะมองเห็นมวลพลังงานเปล่งออกมาจากสิ่งของและผู้คน เพียงแต่เมื่อก่อนจะเห็นเป็นเพียงมวลอากาศคล้ายหมอกขาว แต่มาตอนนี้เห็นสีที่แตกต่างชัดเจน หากเข้าไปใกล้ในระยะที่สัมผัสได้ความรู้สึกของเจ้าของจะถูกส่งผ่านมายังตัวเธอได้อีกด้วย

ออร่าของผู้คนหากมีความรู้สึกดีหรือมีมิตรไมตรีจะเป็นสีเขียวเข้มอ่อนตามความล้ำลึกของความรู้สึก หากคนที่มุ่งร้ายหรือไม่เป็นมิตรจะมีสีแดง สำหรับคนที่ผ่านไปมาไม่มีความรู้สึกใดให้แก่กันออร่าจะเป็นสีใสรอบตัวเสมือนน้ำขังในอ่างแก้ว

นอกจากออร่าของคนยังเห็นถึงความเจ็บป่วยที่ผิดแผกของร่างกายเป็นสีเหลืองอมส้ม อย่างในโรงพยาบาลนี้เธอเดินไปเจอคนที่เป็นโรคหัวใจก็จะมีออร่าสีเหลืองแสดงความผิดปกติบริเวณหน้าอก เพียงแต่ไม่สามารถบอกได้ว่าป่วยเป็นอะไรเท่านั้น

ความสามารถที่เพิ่มขึ้นนี้ได้รับช่วงต่อจากพี่เหม่ยถิงทั้งสองก่อนดวงจิตของเธอจะถูกดึงกลับมาห้วงเวลาและมิติต้นกำเนิด

“หวังว่าพี่ทั้งสองจะได้ไปเกิดใหม่มีชะตาชีวิตที่ดีกว่าเดิม ไม่ต้องห่วง ฉันจะใช้ชีวิตให้ดี ไม่ให้โศกนาฏกรรมของพวกพี่เกิดขึ้นกับฉันได้แน่”

“คุณหนูคะแวะไปบอกลาคุณผู้ชายก่อนเถอะนะคะ ทางนี้เดี๋ยวป้าจัดการให้เอง” ป้าหนิวอีหันมาพูดก่อนที่จะเดินวนสำรวจความเรียบร้อยเผื่อหลงลืมอะไรไว้ในห้องพักพิเศษนี้

เฮ้อ!

ถอนหายใจยืดยาวแล้วสูดลมเข้าปอดเฮือกใหญ่ แม้อยากจะหลีกเลี่ยงเพียงใด แต่ที่สุดแล้วก็คงหนีความจริงไม่พ้น สู้เผชิญหน้าให้มันจบ ๆ ไปดีกว่า

“คุณ…แม่กับน้องรองอยู่กับคุณพ่อหรือเปล่าคะ” หลี่เหม่ยถิงเอ่ยถามลอย ๆ เหมือนไม่ได้ตั้งใจมากนัก คำเรียกขานคนเป็นแม่แผ่วเบา

“อยู่ครับ คุณนายกับคุณหนูรองมาพร้อมเหล่า หลิวเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนครับคุณหนูใหญ่”

“อืม…ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวหนูกลับมาแล้วเราออกเดินทางทันทีเลยแล้วกันนะคะ”

ขาเรียวยาวก้าวออกเดินออกจากห้องไม่ถึง 20 เมตร ก็ถึงห้องพิเศษที่คุณพ่อหลี่ซีซวนกำลังเข้าพักรักษาตัวนานกว่า 3เดือนอยู่

“คิก คิก หนูกำลังจะเปิดเทอมแล้วนะคะ ต่อไปก็มาอยู่กับคุณพ่อทั้งวันไม่ได้แล้ว คิดถึงคุณพ่อแย่เลยค่ะ” เสียงหวานดุจนกขมิ้นของหลี่เหม่ยหลินเอ่ยอ้อนดังมาจากในห้อง

“หลินเออร์ อ้อนพ่อจะขออะไรอีกใช่ไหมเราน่ะ ใช้เงินให้มันเพลา ๆ หน่อย คุณก็อย่าตามใจลูกรองให้มากนักดูอย่างถิงเออร์สิรู้จักใช้เงินไม่ฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อ” เสียงทุ้มแหบเอ่ยตำหนิภรรยาที่ยืนอยู่ข้างเตียง

“ค่ะ…เดี๋ยวกลับไปฉันจะอบรมลูกของเราให้ดี” ตงหรูอี้ขบฟันลงด้านในกระพุ้งแก้ม มือกำสายกระเป๋าแน่นขึ้นจนเล็บมือจิกลงด้านในอุ้งมือ

หึ...ไม่ว่าลูกของฉันทำอะไร ไม่มีทางสู้ลูกนังแพศยาในสายตาคุณได้เลยรึไง ดวงตาคมเฉี่ยวหรุบต่ำปกปิดแววตาขึ้งโกรธไว้มิดชิด

“คุณพ่ออย่าตำหนิคุณแม่เลยค่ะ หลินเออร์ไม่ได้จะขออะไรจริง ๆ นะคะ เพราะพี่ใหญ่กำลังจะกลับไปเรียนแล้ว โรงเรียนหนูก็กำลังจะเปิดเทอม หนูก็แค่รู้นึกเหงาน่ะค่ะ” หลี่เหม่ยหลินก้มหน้าลงต่ำ แพขนตากระพือถี่เหมือนพยายามระงับหยาดน้ำทางหางตา ไหล่ลู่ห่อตัวดูน่าสงสารทำให้หลี่ซีซวนใจอ่อนยวบลง เอื้อมมือออกไปตบลงบนหลังมือลูกสาวคนเล็กปลอบใจ

“เอาเถอะ พวกลูกก็โตแล้วทำอะไรก็ต้องรู้จักคิดให้รอบคอบ เงินทองนั้นหายาก แม้บ้านเราจะมีเหลือใช้แต่ถ้าไม่รู้จักหาให้เพิ่มพูนมันจะมีวันหมดได้”

“คุณพ่อคะ” หลี่เหม่ยถิงร้องเรียกออกไปพร้อมก้าวขาเข้าไปในห้อง หลังจากคิดว่าชมดูฉากละครครอบครัวสุขสันต์ของสองแม่ลูกมาพอควรแล้ว

พอได้ลอบสังเกตดูกิริยาท่าทางของน้องสาวร่วมบิดาแต่ที่ตอนนี้รู้แล้วว่าไม่ได้ร่วมมารดาอย่างหลี่เหม่ยหลินโดยตัดความรักของพี่สาวที่เคยบดบังสายตาออก ต้องลอบอุทานในใจ ‘นี่มันนังดอกบัวขาว ที่มีกลิ่นชาเขียว

“อ้าว ถิงเออร์มาหาพ่อแล้วเหรอลูก ทำไมไม่มาเยี่ยมพ่อบ้างเลย” คุณพ่อพูดเหมือนไม่รู้ว่าหลี่เหม่ยถิงประสบอุบัติเหตุ เธอจึงหันไปมองน้องสาวและคุณแม่ ใช้สายตาสื่อความไม่เข้าใจไถ่ถาม

“ลูกใหญ่รายงานและการบ้านเยอะน่ะค่ะคุณ ไหนจะงานของสภานักเรียนที่บรรดาอาจารย์มอบหมายมาให้ ฉันเลยให้ลูกจัดการงานอยู่ที่บ้าน” คุณแม่ทำท่าลุกลี้ลุกลนพูดเหมือนออกตัวแทนหลี่เหม่ยถิง คงไม่อยากให้คุณพ่อกังวลเรื่องเกิดอุบัติเหตุจนนอนโคม่า

หากเป็นเมื่อก่อนเธอคงคิดเช่นนั้นและคงอดดีใจไม่ได้ แต่ลองพิจารณาให้ดีมันเหมือนกับคุณแม่คนดีกำลังบอกว่าขนาดพ่อป่วยหลี่เหม่ยถิงยังไม่สนใจจะมาเยี่ยม แต่มัวสนใจแต่เรื่องของตัวเอง

บราโว! นี่มันยอดเยี่ยมจริง ๆ ดอกบัวขาวรุ่นใหญ่ ได้เปิดหูเปิดตาเรียนรู้เข้าให้แล้ว

“ถึงหนูไม่ได้มาเยี่ยม แต่หนูก็ฝากน้องรองกับคุณแม่มาดูแลคุณพ่อตลอดนะคะ ปลาหลีฮื้อผัดเปรี้ยวหวานของโปรดของคุณพ่อหนูก็ฝากป้าหนิวอีทำมาให้ ใช่ไหมคะคุณแม่” หลี่เหม่ยถิงพูดปดหน้าตายชนิดหนังตาไม่กระตุกปากไม่เบ้ ลมหายใจยังลื่นไหล เน้นคำว่าแม่ในลำคอหนัก ๆ

ฮึ! คิดว่าเล่นงิ้วเป็นกันแค่สองคนแม่ลูกรึไง อย่างน้อยอายุดวงจิตของเธอรวมเวลาที่ท่องมิติก็เท่ากับอายุ 30ปีแล้ว

รอยยิ้มแข็งค้างบนใบหน้าของติงหรูอี้กับหลี่เหม่ยหลินเกือบทำเธอหลุดเสียงหัวเราะออกมา สองแม่ลูกมองหน้ากันด้วยความคาดไม่ถึง

“นี่นังงะ…โอ๊ย”

ยังคงเป็นขิงแก่ที่เผ็ดร้อนกว่า ก่อนหลี่เหม่ยหลินจะหลุดคำพูดไม่น่าฟัง มือขวาของติงหรูอี้ก็หยิกเข้าที่เอวด้านหลังจนสาวน้อยวัย 15 ปีหลุดอุทานออกมาด้วยความเจ็บ

‘นี่คงคิดจะเรียกเธอว่านังโง่สินะ แสดงว่าน้องสาวที่รักคนนี้รู้ดีมาตั้งนานแล้วว่าเธอไม่ใช่ลูกของติงหรูอี้’

“ใช่แล้วค่ะคุณ ลูกใหญ่คอยให้แม่นมหงทำของโปรดมาให้คุณอยู่ตลอด ส่วนลูกรองก็เป็นห่วงคุณมากเลยพยายามเรียนรู้วิธีทำน้ำแกงไก่ตุ๋นโสมมาบำรุงร่างกายคุณพ่อ ลองชิมดูสิคะ” มือเรียวขาวผ่องดันเอวคอดเล็กในชุดกระโปรงแขนพองสีแดงสดใสทันสมัยไปด้านหน้า

“คุณพ่อลองชิมดูสิคะ หลินเออร์เคี่ยวอยู่หน้าเตานานเลยนะคะกว่าจะพอกินได้น่ะค่ะ ถึงไม่อร่อยแต่คุณพ่อต้องชมว่าอร่อยนะคะ คิกคิก…พี่ใหญ่ก็ลองชิมดูสิคะ”

หลี่เหม่ยถิงที่เลือกจุดยืนเยื้องไปทางปลายเท้าของเตียง เพราะอยากมองเห็นทุกคนได้โดยไม่ต้องกวาดสายตา เห็นทั้งการแลกเปลี่ยนสายตาของแม่ลูก น้องสาวที่ขึงตาแข็งแต่ปากกลับพูดจาอ่อนหวานเรียกเธอไปกินน้ำแกง พูดจบก็กลอกตาเบะปากแล้วกลับมาพยายามตีหน้าใสซื่อ

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเธอที่ไม่เคยเห็น ไม่สิก็เห็นแต่ไม่เคยนำมาใส่ใจเพราะไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยกับน้องสาว พอม่านหมอกที่บังตาเปิดออกทุกอย่างมันดูชัดเจน

หลี่เหม่ยหลินนั้นยังเด็กจึงเก็บอาการหลบซ่อนไม่ได้ดีเท่าติงหรูอี้ รายหลังนี้ทำความหนักใจให้เธอไม่น้อยเพราะตอนนี้เธอยังเด็กยังหักกับอีกฝ่ายไม่ได้ เป็นเธอที่จะเสียเปรียบเอง

‘คงต้องทำตัวเชื่องเชื่อเหมือนเดิมไปก่อน’ แค่คิดก็หน่ายใจปนขยะแขยงแล้ว

‘หึ อยากได้พี่สาวที่รัก ลูกสาวที่เชื่อฟังนักใช่ไหม หวังว่าในอนาคตจะรับความรักสุดซึ้งจากเธอไหวก็แล้วกัน’ รอยยิ้มแสยะยกขึ้นเพียงเสี้ยววินาที ส่วนแววตาแค้นเคืองภายใต้กรอบแว่นสายตาสีดำหนาแถมยังมีผมหน้าม้ายาวบดบังดวงตาคู่สวยยิ่งไม่มีใครมองเห็น

ความจริงหากจากนี้ต่อไปสองแม่ลูกนี่จะไม่มาวุ่นวายคิดร้ายกับเธอ หลี่เหม่ยถิงคงจะยอมปล่อยให้เรื่องราวที่ผ่านไปแล้วผ่านเลยไป เพราะถึงอย่างไรก็ถือว่ามีบุญคุณเลี้ยงดูอุ้มชูกันมา

แต่ถ้ายังคิดร้ายกันไม่หยุดก็อย่าหาว่าเธออกตัญญู!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วัตถุโบราณตระกูลหลี่   บทส่งท้าย (2)

    ตอนนี้ความกระสันต์สูงเสียดฟ้าจนอยากจะพุ่งตัวตนเข้าฝากฝังในช่องทางรักหวานฉ่ำแล้วปลดปล่อยตัวตนไปกับความปรารถนาอันลิงโลดนี้“ภรรยา…ช้าหน่อยครับ เดี๋ยวสามีทนไม่ไหวน้องจะเจ็บ” เสียงกระซิบแหบพร้าทุ้มก้องอยู่ริมหูเล็ก คนฟังรู้สึกว่ามันเซ็กซี่ทั้งยังอ้อยอิ่งราวกับตั้งใจออดอ่อยใส่กันแทนที่จะช้าลง ดวงตาดอกท้อของคนตัวเล็กกลับร้อนผ่าว ฝ่ามือขาวกดลงกลางหน้าอกกว้างให้ชายหนุ่มเอนตัวลงเท้าแขนกับโต๊ะกรุกระจก สะโพกอวบตั้งใจบดขยี้ให้ส่วนอวบนูนของวัยสาวถูไถกับส่วนหัวมังกรแดงก่ำที่โผล่พ้นขอบกางเกงในผ้าไหมขึ้นมา“ซี๊ด...อาห์”ได้ยินเสียงสูดปากพร้อมครางกระเส่าของคนตัวโตยิ่งทำให้หญิงสาวฮึกเหิมลำตัวเล็กเอนลงต่ำใช้ใบหน้าซุกลงดอมดมผิวเนื้อเรียบตึง จูบบ้างเลียบ้าง มือก็ลูบวนกดไปทั่วผิวเนื้อท่อนบนมือหนึ่ง อีกมือกลัวจะว่างจึงใช้ท้องนิ้วสะกิดยอดอกสีน้ำตาลอ่อนจนมันหดเกร็งฝ่ามือหยาบกร้านของคนด้านล่างยกขึ้นนวดคลึงภูเขาหิมะที่มียอดอิงเถาปัดผ่านกล้ามท้อง หญิงชายทั้งสองต่างนวดคลึงฟอนเฟ้นเรือนร่างเกือบเปลือยของกันและกันน้ำหนักมือเคล้นแรงขึ้นตามแรงอารมณ์ที่เดือดพล่าน ผิวเนื้อสะโพกปลิ้นออกมาตามง่ามนิ้วเรียวยา

  • วัตถุโบราณตระกูลหลี่   บทส่งท้าย (1)

    หลังบอกกล่าวกราบไหว้บรรพบุรุษของเจ้าสาว ยกน้ำชาให้กับผู้ใหญ่เริ่มจากพ่อ ปู่และอาจารย์ ฉินเฟยหลงก็อุ้มเจ้าสาวขึ้นรถท่ามกลางความเงียบ... พรืด... และเสียงสูดน้ำมูกของเกาอี้ “ฮึก...คุณหนูออกเรือนแล้ว” ไป๋จื้อหยางที่น้ำตาคลอมองขบวนรถขับออกไปจากบ้านตระกูลไป๋เก็บอารมณ์กลับแทบไม่ทัน มองสภาพบอดี้การ์ดร่างใหญ่ยักษ์กำลังยกผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาหัวไหล่สั่น ผ้าเช็ดหน้ามีคราบปริศนาเกาะหนึบ วงล้อมจึงแตกกระเจิงไปคนละทาง ทั้งผู้เฒ่าไป๋ ผู้เฒ่าติง ไป๋จื้อหยาง แม้แต่จ้าวลี่จูยังถอยเท้าเงียบ ๆ ส่วนเพื่อนอย่างหยางฝูเหว่ยเดินหนีไปนานแล้วตั้งแต่บอดี้การ์ดหนุ่มน้ำตาคลอ “เอ่อ...แต่อีกไม่กี่วันประธานก็กลับมาแล้วนะคะ” จ้าวลี่จูพูดความจริงที่ทุกคนลืมนึกไป ใช่... แต่งงานแล้วอย่างไร... อีกไม่กี่วันก็กลับมาอยู่ด้วยกัน เพียงแค่มีคนตามมาอยู่ด้วยอีกคน มีตะเกียบกับถ้วยข้าวเพิ่มมาอีกชุด เกาอี้เองที่ถูกอารมณ์อ่อนไหวพาไปก็หยุดร้องอ้าปากค้าง ฟืดดดดด... “นั่นสิ! เราก็ยังทำหน้าที่เดิม” คิดได้แล้วสั่งน้ำมูกที่เหลือเดินจากไปอย่างร่าเริง ไป๋จื้อหยางกับคนงานในบ้านถูกเบรกอารมณ์ก็แยกย้ายกันไป ทางด้านขบวนรั

  • วัตถุโบราณตระกูลหลี่   ตอนที่ 75 ยกน้ำชา (2)

    3 วันต่อมา ลู่เจียจิ่วเป็นย่านเศรษฐกิจการเงินของเซี่ยงไฮ้ ทุกพื้นที่มีค่ายิ่งกว่าทองคำ บริษัทข้ามชาติ ตึกสูงเสียดฟ้า บ่งบอกเม็ดเงินลงทุนมหาศาลที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดโดยปกติเวลาของผู้คนที่ทำงานในย่านนี้เป็นเงินเป็นทอง มีแต่ความเร่งรีบ วันนี้กลับต่างออกไปเพราะมีสิ่งที่น่าสนใจกว่าการทำเงินเกิดขึ้นที่ตึกเฮยอวิ๋นทีมมหรสพ กลองและปี่พาทย์ในชุดถังจวงสีแดงตั้งขบวนหน้าตึก ดนตรีถูกบรรเลงอย่างคึกคักตลอดระยะที่เริ่มมีการยกหีบสิ่งของออกมาจากประตูใหญ่ของตึก ขึ้นไปยังรถบรรทุกสีขาวปิดทึบที่ผูกซิ่วฉิวหน้ารถ พนักงานออฟิศของบริษัทต่าง ๆ ยินยอมเข้างานสายแต่ไม่กล้าเดินเบียดแทรกแถวเข้าไปในตัวอาคาร ได้แต่ยืนรักษาระยะอยู่ด้านนอก“นายครับได้เวลาแล้ว” ฉินเฟยหลงเดินออกมาจากลิฟต์ส่วนตัวด้วยชุดพิธีการสีแดง ใบหน้ามีรอยยิ้มน้อย ๆ ประดับตลอดเวลาเจ้าบ่าวเดินนำขบวนไปขึ้นรถด้านนอก“เตรียมเคลื่อนขบวนไปรับเจ้าสาวได้!” ผู้นำพิธีการตะโกนเตือนเมื่อได้เวลาสมควร รถดนตรีที่มีเสาไม้ติดป้าย ‘ซวงสี่’ จึงกระหึ่มอีกระลอกขบวนรถหรูที่ถูกเปลี่ยนเป็นสีแดง 9 คัน เริ่มเคลื่อนตามออกไปติด ๆ คันนำหน้าเป็นรถสปอร์ตเปิดประทุนผูกซิ่วฉิวผ

  • วัตถุโบราณตระกูลหลี่   ตอนที่ 75 ยกน้ำชา (1)

    รถของตระกูลไป๋ต้องเบรกกะทันหันเมื่อเลี้ยวเข้ามายังลานจอดรถ จู่ ๆ รถที่จอดอยู่หลายคันก็พร้อมใจกันถอยหลังจนมาล้อมกรอบรอบตัวรถของพวกเขาเป็นวงกลมปัง ปัง ปัง!สถานการณ์ยิ่งไม่ปกติเมื่อมีชายในชุดสูทนับรวมได้ 8 คน ลงมาจากที่นั่งข้างคนขับของรถที่ล้อมรถตระกูลไป๋อยู่กรี๊ด...“หลบเร็ว ตีกันแล้ว แจ้งตำรวจ!”“หนีเร็วเข้า อย่าไปยุ่ง”ไป๋จื้อหยางกอดลูกสาวแน่น“สืออิงติดต่อบอดี้การ์ดมาที่นี่ด่วน!”บอดี้การ์ดตระกูลไป๋ รวมถึงหยางฝูเหว่ยและเกาอี้ไม่ได้ตามมาเพราะเป็นเวลากลางวันและสถานที่อยู่ใจกลางเมือง ไป๋จื้อหยางจึงคิดว่าไม่น่าจะมีใครกล้าเล่นสกปรกไป๋เหม่ยถิงมองออร่าสีเขียวจากบุรุษบางคนที่ลงจากรถ ลองพิจารณาใบหน้าหลังแว่นกันแดดดี ๆ เหมือนจะเคยผ่านตามาบ้าง จึงนั่งนิ่งอยู่กับที่ใบหน้าเฉยเมย‘เฮียหลงกำลังจะทำอะไร?’“ถิงเออร์ลูกนั่งรอในรถ พอจะออกไปเจรจาดูสักหน่อยว่าผู้มาต้องการอะไร”ไม่ทันที่เธอจะห้ามคุณพ่อก็จับประตูรถเตรียมก้าวออกไป ประจวบเหมาะกับคนด้านนอกเริ่มเคลื่อนไหวพร้อมกันพรึ่บ! ปุ้ง ปุ้ง ปุ้ง!ท้ายรถที่ล้อมกรอบทั้งหมดเปิดออก มีเสียงพลุขนาดเล็กแตกกระจายพร้อมสายรุ้งและกระดาษสีปลิวว่อน กุหลาบหลากสีถู

  • วัตถุโบราณตระกูลหลี่   ตอนที่ 74 เตรียมงาน  (2)

    3 วันต่อมาตึกเซี่ยอวิ๋น 8 โมงเช้า“ฮ้าว...เหล่าจงนายมาสักที ข้าจะได้กลับไปนอนยาว ๆ” พนักงานรักษาความปลอดภัยของตึกกะกลางคืนทักเพื่อนที่มาเปลี่ยนกะแล้วเตรียมจะกลับเข้าไปตึกเซี่ยอวิ๋น“!!!”ตอนเปิดตาที่ปิดปากหาวยาว เขาตกใจจนขวัญเกือบกระเจิงเพราะบอดี้การ์ดในชุดฝึกสีดำราว 20 กว่าคนมายืนออกันเงียบ ๆ ตรงลานกว้าง แถมไฟของตึกก็ยังไม่เปิดจึงเห็นเป็นเงาตะคุ่ม“ตกใจหมดนึกว่าโจรปล้นตึก! พวกพี่ลงมาทำอะไรกันครับ” บอดี้การ์ดก็เป็นรุ่นพี่ที่ร่วมฝึกซ้อมกันทุกวัน ผลัดกันเปลี่ยนมาเฝ้าตึกกับออกไปทำภารกิจด้านนอกถ้าสังเกตดีต ๆ จะเห็นว่าเหล่าบอดี้การ์ดมีถุงใส่ของติดมือมาด้วย พอคนออกจากลิฟต์เที่ยวสุดท้ายครบก็กระจายกำลังกันเดินออกไปด้านนอกตึก‘ชุนเหลียน’ กลอนคู่มงคลแผ่นยาวสีแดง ที่เขียนด้วยมือจากปรมาจารย์ด้านการคัดอักษร ถูกติดตรงประตูทางเข้าตึกก่อนเป็นที่แรก ตามด้วยตัวอักษร ‘ฝู’ ที่แปลว่าความสุขติดกลับหัวตรงประตูกระจกสองด้านด้านนอกผ้าแดงและโคมกระดาษถูกนำไปห้อยประดับตามต้นไม้ตรงสวนหย่อมก่อนเข้าตัวตึกจนดูสดใสมีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้นซิ่วฉิวฮวามีชายยาวถูกนำไปแขวนอยู่เหนือประตูทางเข้าตึกด้านหน้า ด้านในมีทีมบอดี้การ

  • วัตถุโบราณตระกูลหลี่   ตอนที่ 74 เตรียมงาน (1)

    บ้านตระกูลไป๋ วันต่อมาอีก 1 อาทิตย์ ก็จะเป็นวันยกน้ำชาของทายาทตระกูลไป๋ ห้องนอนของไป๋เหม่ยถิงจะถูกปรับปรุงใหม่ สร้างตู้เก็บเสื้อผ้าเพิ่มเติมสำหรับฉินเฟยหลงห้องก็เปลี่ยนสีการตกแต่งใหม่ เป็นสีไม้กับครีม พรมเป็นสีน้ำตาลอ่อน เฟอร์นิเจอร์ใหม่ถูกสั่งเข้ามา วันนี้จะมีช่างกับทีมตกแต่งภายในเข้ามาทำในส่วนของบิวท์อิน“ประธานคะ มานั่งทำอะไรตรงนี้คะ แล้วดูแบบห้องที่ตกแต่งใหม่หรือยังคะ” จ้าวลี่จูเดินเข้าบ้านมาเห็นประธานสาวนั่งเท้าคางไร้ชีวิตชีวาอยู่ตรงโซฟารับแขก“ไม่ต้องดูหรอก ทำตามแบบไปนั่นล่ะ ฉันนั่งสะสมพลังอยู่น่ะไม่ต้องให้ใครมารบกวนนะ”ไป๋เหม่ยถิงโบกมือเอื่อย ๆ ตาปรือทำท่าจะปิด ไหนเลยสะสมพลังงานอะไร ทำท่าจะหลับอยู่เดี๋ยวนี้ที่เธอบอกว่าสะสมพลังนั้นพูดจริงแม้ลี่จูจะมองอย่างไม่เชื่อถือแล้วถอนหายใจ เลขาสาวไม่อยากต่อบทสนทนารีบไปดูช่างตกแต่งภายในต่อว่าที่เจ้าสาวปิดตาเอนหลังเข้ามุมพิงตัวกับแขนโซฟา รับรู้ถึงกระแสลมอุ่นจากหยกจักรพรรดิที่ค่อย ๆ ไหลผ่านจากต้นคอลงสู่ท้องน้อย เข้าสู่แสงสีขาวนวลขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียวใบหน้าเรียบเฉยเปิดรอยยิ้มอ่อนโยน เมื่อรับรู้ความรู้สึกทั้งหมดนี้“คุณหนูครับ เจ้านายส่งช

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status