Share

02 พลังแฝง [4/5]

Author: 816
last update Last Updated: 2025-03-28 09:51:50

“งั้นพี่รอสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมขอไปเอาอาหารที่ห้องเก็บของก่อน” หญิงสาวกล่าวขอบคุณอีกเล็กน้อย เฉินเฟิงพยักหน้ารับแล้วจึงออกไปทำตามที่พูด

หลังอิ่มหนำพวกเขาทั้งสามคนจึงมานั่งปรึกษากันอีกครั้ง เวลานี้ไม่มีบ้านหลังใหญ่ให้นอนอุ่นเหมือนก่อนอีกแล้ว ทั้งอาหารที่มีก็เพียงพอให้คนคนเดียวอยู่ได้ประมาณ 10 วันเท่านั้น แต่พวกเขามีถึง 3 คน...

ดาริณีเสนอว่าตัวเธอจะออกไปหาผักป่าในละแวกนี้มาปลูก ด้วยความที่เธอเติบโตมาในหมู่บ้านชนบทและเคยตามบิดาขึ้นเขาลูกนี้อยู่บ่อยครั้ง จึงพอคุ้นชินว่าผักชนิดไหนกินได้และมีหน้าตาเป็นอย่างไร

“แล้วบ้านของอาเฟิงล่ะ” จะปล่อยให้คนเลวพวกนั้นได้อยู่อย่างสุขสบายหรือ

“ผม…” เขาอยากแก้แค้น แต่ตอนนี้คงยังไม่สามารถทำได้

“เอ่อ... เราอยู่กันแบบนี้ก็ได้เนอะ พี่เองก็มีพละกำลังเพิ่มขึ้นมาก เดี๋ยวจะเป็นคนจัดการเรื่องปลูกผักปลูกหญ้าเอง” หญิงสาวอยากจะตีปากตัวเองที่ถามเรื่องนี้ออกไป บ้านหลังนั้นเป็นบ้านของเฉินเฟิงกับครอบครัว คราวที่ได้รู้ว่าชายหนุ่มสูญเสียบิดามารดาไปเพราะโรคร้าย คนในหมู่บ้านยังขนข้าวของมาเลี้ยงดูปูเสื่อเพื่อปลอบขวัญชายหนุ่มอยู่หลายวัน

“สักวันผมจะไปจัดการกับคนพวกนั้นให้ได้ครับ” แล้วทวงบ้านของเขาคืนมา

“ผมก็จะช่วยพี่ด้วย” เด็กชายดลเอ่ยอย่างหมายมาด ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้เขาเป็นเด็กละก็นะ ไม่อย่างนั้นจะอัดให้คลานกลับบ้านไม่ถูกเลย

“ขอบคุณครับ” เฉินเฟิงยิ้มตาปิด

พูดคุยกันแล้วก็ต้องลงมือทำ ดาริณีไม่ใช่แค่มีพละกำลังเพิ่มมากขึ้น แต่มากจนสามารถทำสิ่งที่คนปกติทั่วไปไม่สามารถทำได้

“อาเฟิง พี่ว่าจะเอาซุงท่อนนี้มาตัดทำเป็นรั้วไม้ล่ะ อาเฟิงคิดว่ายังไง” ดาริณีแบกท่อนไม้ขนาดใหญ่มาไว้ที่ลานบ้าน เขาจำได้ว่าเจ้าไม้ท่อนนี้เป็นต้นสนอายุหลายสิบปีขนาดสามคนโอบที่ถูกลมพายุเมื่อหลายเดือนก่อนพัดจนล้มทั้งราก...

โอเค

แฟนตาซีแล้วล่ะ แฟนตาซีจริง ๆ!!

“พี่ดา แบกมาได้ไงครับเนี่ย!”

“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ตอนแรกแค่ลองจับ ๆ ดู เลยอยากลองยกมันเล่น แต่ดันยกขึ้นซะงั้น พี่ก็เลยถือโอกาสลองแบกมันมา หนักพอ ๆ กับกระสอบข้าวเลย” ฮะ! ท่อนไม้ยักษ์เนี่ยนะ หนักเท่ากระสอบข้าว!

“ผ่าใช้ได้หลายท่อนเลยครับ” ทั้งยังเอามาสร้างเป็นกระท่อมชั่วคราวให้สองแม่ลูกได้ด้วย

“เนอะ เดี๋ยวพี่ไปขนมาเพิ่มก่อน พี่เห็นในห้องเก็บอุปกรณ์มีขวานอยู่ พี่จะจัดการผ่ามันเอง” หญิงสาวยิ้มกว้างรับงานแบกหามมาทำอย่างไม่เกี่ยงงอน เพราะในที่สุดเธอก็สามารถมีประโยชน์กับชายหนุ่มผู้มีพระคุณได้เสียที

“เดี๋ยวน้องดลไปเอาให้แม่เองครับ” เด็กชายตบอกรับหน้าที่ แม่เขาเป็นยอดมนุษย์แล้วเขาเองก็ต้องทำประโยชน์ให้กับพี่ชายบ้าง

“ถือระวังนะคะ” ดาริณีป้องปากเตือนเมื่อลูกชายตัวจ้อยวิ่งหายเข้าไปในห้องเก็บอุปกรณ์

“ให้น้องดลไปหยิบแบบนั้นจะดีเหรอครับ” เกิดทำขวานหลุดปักเท้าตัวเอง อ่า… เขาไปดูสักหน่อยดีกว่า

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ น้องดลรู้ว่าอะไรทำได้หรือทำไม่ได้ พี่เองก็มีเรื่องอยากปรึกษาอาเฟิงอยู่พอดี”

“ครับ?”

“อาเฟิงก็เห็นพลังของพี่แล้ว ถ้าหากว่าเราไปบุกเอาบ้านคืนมา…” เสียงของหญิงสาวขาดห้วงเมื่อเห็นชายหนุ่มเจ้าของบ้านส่ายศีรษะปฏิเสธ

“พี่ดาคงไม่ทันเห็นตอนพวกมันบุกเข้ามา จำได้ไหมครับว่าเราขนของไปขวางประตูเยอะมากเพราะกลัวซอมบี้ แต่พวกนั้นก็สามารถทำลายเข้ามาได้ง่าย ๆ แสดงว่าในหมู่พวกมันต้องมีคนที่มีพละกำลังไม่ต่างจากพี่เช่นกัน” อีกทั้งยังดูคุ้นเคยกับการใช้พลัง น่าจะผ่านสถานการณ์เฉียดตายมาพอสมควร กับพวกเขาที่หลายวันก่อนยังเป็นเพียงปุถุชนคนธรรมดา แม้จะได้พลังมาแต่ก็ยังไม่สามารถใช้ได้คล่องแคล่ว

“เราควรศึกษาพลังของเราให้รู้ลิมิตว่าใช้ได้มากแค่ไหน และอีกอย่างหนึ่งพวกเราต้องเรียนรู้ที่จะ…” ชายหนุ่มเม้มปากพูดคำต่อไปไม่ออก เขาย่อมรู้ว่าโลกนี้เปลี่ยนไปแล้ว ในภาพยนตร์แนวซอมบี้จะกี่เรื่องก็มีให้เห็นเป็นตัวอย่างตลอดว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดหลังวันสิ้นโลกไม่ใช่สัตว์ประหลาดอะไรทั้งนั้น แต่เป็นคนด้วยกันเองนี่แหละที่สามารถพรากชีวิตเราไปได้ง่ายที่สุด

ดูอย่างพวกเขาสิ อยู่บ้านดี ๆ ก็มีคนเข้ามาหาเรื่องถึงในบ้าน ถ้าไม่หนีออกมาก็ไม่อยากจะคิดสภาพเลยว่าตอนนี้จะเป็นอย่างไร ตัวเขาอย่างมากก็คงตาย ส่วนสองแม่ลูกอาจกลายเป็นของเล่นให้กับเจ้าพวกชั่วนั่น มีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย

“นั่นสิ ขอโทษนะ พี่คิดน้อยเกินไป” แค่เห็นว่าตนมีพลังก็เผลอลืมไปว่าถ้าตนมี เจ้าพวกนั้นก็คงมีเหมือนกัน “ว่าแต่ทำไมพี่ถึงไม่เปลี่ยนรูปลักษณ์อย่างอาเฟิงล่ะ มีแค่พลังที่เพิ่มขึ้นมา”

“เรื่องนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ” ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ถ้าเลือกได้เขาก็อยากจะมีพลังที่มีประโยชน์มากกว่าหูกระต่ายนี่ แม้จะรับเสียงได้ดีแต่ก็ยังไม่รู้ว่าในภายภาคหน้าจะสามารถทำประโยชน์อะไรได้อีกนอกจากหนีเร็ว

“แม่ครับ ผมได้ขวานมาแล้ว” เด็กชายดลอุ้มด้ามขวานแนบอก ดีที่ด้านคมมีปลอกหนังสีน้ำตาลครอบอยู่จึงไม่ต้องห่วงว่าความคมของมันจะบาดเด็กน้อย บทสนทนาจึงต้องหยุดลงเพียงเท่านี้ก่อน

“ขอบคุณมากเลยครับ ตอนที่แม่ผ่าไม้หนูก็ไปยืนอยู่ใกล้กับอาเฟิงนะครับ แม่กลัวเศษไม้จะโดนลูก”

“ครับ” เด็กชายรับคำอย่างเชื่อฟัง ส่งขวานเล่มโตให้มารดาเสร็จก็เดินมาหาพี่ชายที่กำลังเตรียมอุปกรณ์สำหรับทำแปลงปลูกผัก

“ผมช่วยนะครับ”

“เดี๋ยวพี่สอนเรารดน้ำดีกว่าเนอะ” ไม่ค่อยไว้ใจให้จับจอบจับเสียมเท่าไหร่ กลัวจะขุดโดนขาตัวเองเข้า

“ได้ครับ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วันสิ้นโลกของผม   97 ความลับ (3) [5/5]

    “คุยแต่เรื่องซีรีส์ไม่ก็พวกหนังฆาตกรรมสยองขวัญที่เข้าฉายก่อนวันสิ้นโลก แถมเป็นพวกสายโซเชียลเหมือนกันก็เลยค่อนข้างมีเรื่องคุยเยอะ” ผิดกับเขาที่ชอบดูพวกสตรีมเมอร์หรือไม่ก็เล่นเกมออนไลน์มากกว่า จึงไม่ค่อยเข้าใจคำสแลงที่มีความหมายยาก ๆ ที่ทั้งสองคนใช้พูดคุยตลอดการเดินทาง“ก็ทำตัวสมกับเป็นวัยรุ่นดี” โจเซฟไม่ได้ออกความเห็นหากทั้งสองคนจะสนิทกัน เหมือนไอซ์จะปรับปรุงทัศนคติและความคิดของตัวเองได้บ้างแล้ว ส่วนเลวี่ถึงจะมีทีโอที่เคยเป็นรูมเมตอยู่ในกลุ่มด้วย แต่เพราะความรู้สึกที่มีให้กันนั้นเป็นไปในลักษณะของการชอบพอ ย่อมต้องมีเรื่องที่ไม่สามารถพูดกับอีกฝ่ายได้ หากมีคนให้ปรับทุกข์เรื่องส่วนตัวหรือแม้แต่เรื่องของทีโอก็คงจะดีไม่น้อย“ก็ไม่ได้ว่าอะไร…” ปากบอกไม่ว่าอะไร แต่น้ำเสียงกลับเบาลง ทั้งยังก้มหน้า ใช้เท้าเขี่ยหิมะเล่นราวกับเด็กน้อย ที่ถูกเพื่อนหยิบของเล่นที่ตนถูกใจไปแล้วทำอะไรไม่ได้“อะไรกัน เหงาเหรอเจ้าหนูทีโอ” โจเซฟแกล้งแหย่“ไม่ได้เหงาสักหน่อย หมอนั่นมีเพื่อนเพิ่มก็ดีแล้ว จะได้บ่นผมน้อยลง” คนปากแข็งยังคงง้างเท่าไรก็ง้างลำบากอยู่วันยังค่ำ แม้จะเริ่มสำรวจท่าทีของเลวี่มากขึ้น แต่ความไม่กล้าที่บ

  • วันสิ้นโลกของผม   97 ความลับ (3) [4/5]

    พวกเขาเลือกที่จะจอดรถห่างจากหมู่บ้านครูเมตตาไปประมาณ 3 กิโลเมตร ให้พ้นระยะการได้ยินของมนุษย์กลายพันธุ์ พอเช็กว่าไม่มีคนหรือสัตว์ประหลาดอยู่ในละแวกนี้ถึงค่อยยอมให้ไอซ์ใช้พลังนำปลานกกระจอกออกมาจากมิติ จากนั้นดาริณีก็นำเชือกท้ายรถมาผูกปลาทั้งสองเข้าด้วยกันแล้วเดินลากมันไปยังทางเข้าหมู่บ้านด้วยตัวคนเดียว คนที่เหลือก็ช่วยกันกรุยทางไม่ให้หญิงสาวเดินลำบากวิทย์ตกใจแทบตายเมื่อเปิดประตูมาแล้วเจอสมาชิกในทีมของโจเซฟลากสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ติดมือกลับมาด้วย หลังจากพิจารณากันอยู่ครู่หนึ่งวิทย์ก็ขอให้ลากปลาพวกนี้ไปวางไว้ที่สนามหญ้าหน้าสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ด้วยความใหญ่โตใกล้เคียงกับรถบรรทุกขนาดเล็กของปลาบินทั้งสองตัว ย่อมดึงดูดความสนใจของเด็ก ๆ ในบ้านได้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ก็พยายามมาด้อม ๆ มอง ๆ เผื่อจะได้รับส่วนแบ่งมาสักคำสองคำเช่นกันเนื่องจากคนในค่ายของวิทย์นั้นมีเพิ่มมาพอสมควร อีกทั้งเด็กน้อยทั้งหลายก็ยังอยู่ในวัยกำลังโต ปลา 1 ตัวโดยไม่ตัดแบ่งสักส่วนจึงตกเป็นของหมู่บ้านครูเมตตาไปโดยปริยายจากนั้นก็ขอให้ไอซ์อยู่ที่บ้านครูเมตตาก่อนสักวันสองวัน พวกเขายังมีธุระที่ต้องไปต่อ ซึ่งไอซ์ก็ไม่ได

  • วันสิ้นโลกของผม   97 ความลับ (3) [3/5]

    ช่วงที่มีโรคระบาดนอกจากเชื้อไวรัสแล้ว สิ่งแปลกปลอมที่เรารับเข้ามาในร่างกายก็มีแค่วัคซีนที่รัฐบาลแจกจ่ายเท่านั้น“ถ้าใช่จริงเขาก็คงอยากจะยกระดับมนุษย์ให้พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งล่ะมั้ง” โจเซฟไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีที่มีคนบางกลุ่มคิดว่าพวกเขาเป็นหนูทดลองในกรงสีน้ำเงินใบนี้ “หรือตีความอีกอย่าง… คงมีคนหวังให้โลกวุ่นวายอย่างที่เป็นอยู่มาตั้งแต่แรก”“มีแต่เรื่องน่าปวดหัวทั้งนั้นเลย” เฉินเฟิงยกมือปิดตาแหงนคอพิงกับพนักโซฟา รู้สึกอ่อนล้าไปทั้งกายและใจ วันสิ้นโลกที่เขากำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว“เหมือนการรีเซตโลกใหม่” ทำลายระบบของมนุษย์ให้สิ้นซาก ให้สัตว์กลับมามีอำนาจปกครองถิ่นของตนอย่างที่เคยเป็นเมื่อครั้งอดีตกาล แบ่งพื้นที่อยู่อาศัยกันให้พอดีกับความต้องการ ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในมือให้คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะคุ้มได้ก่อนทีจะมองหาทรัพยากรชิ้นใหม่“...” สิงหาเป็นนักวิทยาศาสตร์ เขาย่อมเข้าใจดีว่าการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนั้นสำคัญมากแค่ไหน ปัญหาก่อนหน้านี้อาจไม่ได้ส่งผลกระทบในยุคสมัยของพวกเขามากนัก แต่คนที่จะรับกรรมก็คือเด็กรุ่นหลังที่ถูกผู้ใหญ่ถลุงทรัพยากรไปอย่างละโมบโลภมากการที่โลกร้

  • วันสิ้นโลกของผม   97 ความลับ (3) [2/5]

    “ตอนที่ผมยังเด็กและเป็นแค่นักหัดวิจัยโนเนมเมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อน มีโครงการหนึ่งที่โด่งดังมากในวงการนักวิทยาศาสตร์ เป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อนโดยเฉพาะ... พวกคุณรู้จักคำว่าโลกร้อนใช่ไหมครับ” สิงหาหันมาถามแขกก่อน เขาเคยได้ยินว่าชาวบ้านบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโลกร้อนคืออะไร ไม่รู้แม้กระทั่งว่าการกระทำของตนเองนั้นทำร้ายโลกที่เราอาศัยอยู่ไปมากน้อยแค่ไหน“เคยได้ยินสิ” มีการรณรงค์อยู่ทั่วทุกที่ ขอแค่เป็นคนที่อยู่ในโลกโซเชียลต้องมีผ่านตาสักครั้งแน่นอน“เพราะกิจกรรมในแต่ละวันของมนุษย์นั้นส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อโลกเพิ่มมากขึ้นในระดับที่เรียกได้ว่ามหาศาล พวกคุณคงเคยได้ยินเรื่องธารน้ำแข็งขั้วโลกที่ละลาย ทำให้แบคทีเรียที่เคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายล้านปีก่อนกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งใช่ไหมครับ นั่นนับเป็นข่าวใหญ่ที่สร้างความตระหนกให้กับพวกเรานักวิจัยเป็นอย่างมากโครงการที่กล่าวมาจึงถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเตรียมรับมือกับอนาคต ผมไม่รู้รายละเอียดเชิงลึกมากนัก รู้แค่ว่าหลังจากที่มีการคัดนักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งไปเข้าร่วมการประชุมที่ต่างประเทศ เมื่อพวกเขากลับมาก็ไม่ได้ออกมาเผยแพร่การประชุมก

  • วันสิ้นโลกของผม   97 ความลับ (3) [1/5]

    หัวหน้าหน่วยหรือคนที่ทำคุณประโยชน์ให้กับค่ายพันธมิตรจะมีสวัสดิการที่ทางค่ายมอบให้แตกต่างกันไป อย่างสิงหาที่เป็นถึงระดับหัวหน้าก็ได้รับเสบียงอาหาร แต้มคะแนนรายเดือน การเข้าถึงข้อมูลสำคัญ การรักษาพยาบาล และบ้านประจำตำแหน่งสิงหาไม่ค่อยได้เข้ามาที่บ้านหลังนี้บ่อยนัก ภายในบ้านจึงมีเฟอร์นิเจอร์เพียงไม่กี่ชิ้น เพราะเจ้าของบ้านมักจะหมกตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อเฝ้างานวิจัยมากกว่า เมื่อต้องต้อนรับแขกคนสำคัญ นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะจึงต้องผันตัวมาเป็นพ่อบ้านเต็มรูปแบบ“ชาล็อต ขอผ้าขนหนูแห้งหน่อย” ก่อนหน้านี้เด็กหนุ่มกำลังง่วนอยู่กับการถูพื้นด้วยน้ำอุ่น แต่เขาดันถอยหลังไปชนถังน้ำจนมันหกราดไปทั้งบ้านออด~“อ๊ะ มากันแล้ว” สิงหาสะดุ้งเฮือก รีบลุกขึ้นแล้วก้าวไปที่ประตูโดยลืมไปว่าพื้นในบ้านยังคงเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ และทันทีที่สลิปเปอร์สำหรับใส่ในบ้านเหยียบของเหลวลงไป…พรืด! ตุบมีแต่เสียงก็เดาได้ว่าเด็กหนุ่มได้ลื่นก้นกระแทกพื้นไปแล้วเรียบร้อย“ขอโทษครับ ให้แขกเห็นภาพไม่น่าดูซะแล้ว” สิงหาในสภาพเปียกโชกไปทั้งตัวเดินออกมาเปิดประตูรั้ว ฝ่ามือข้างหนึ่งลูบสะโพกตัวเองป้อย ๆ ผายมือให้แขกทั้งสามเดินเข้ามาในตัวบ้าน

  • วันสิ้นโลกของผม   96 ความลับ (2) [5/5]

    “เดี๋ยวผมลองไปถามท่านนายพลเอง” โจเซฟว่าจบก็เตรียมจะเดินไปที่หน่วยทหาร ไอซ์จึงรีบวิ่งตามไปติด ๆ“แน่ใจนะว่าดูแลไหว” นิโคลัสหันไปมองทีโอที่เสนอแผนการนี้ขึ้นมา“ก็ดูเหมือนจะสำนึกได้บ้างแล้ว คงไม่มาก่อเรื่องหรอกมั้ง” ทีโอยักไหล่“คิดยังไงถึงจะพาเขาไปด้วย” ปกติเห็นเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน มาวันนี้กลับเสนอให้ไปเยี่ยมบ้านกันเสียอย่างนั้น“ปลาบินสองตัวเลยนะพี่นิค แบ่งให้สามหมู่บ้านได้สบายเลย” แถมยังอยู่ในสภาพสดใหม่อีกต่างหาก“แต่นั่นเป็นผู้มีพลังมิติที่มีเพียงคนเดียวในค่ายนะ” เจ้ากระต่ายไม่คิดว่าท่านนายพลจะยอมให้หลานชายออกไปด้านนอกอีก“ก็ไม่แน่นะครับ ตอนนี้ขอแค่เป็นหัวหน้าเราไปพูด ผมคิดว่าท่านนายพลต้องฟัง ระหว่างที่พวกเราไปบ้านบนภูเขาก็ให้ไอซ์พักอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไปก่อน” ไม่ได้มีความคิดจะเปิดเผยเรื่องเส้นทางลับแลกเปลี่ยนสิ่งของหรือที่ตั้งของหมู่บ้านในสมาพันธ์ผู้รอดชีวิต“เนื้อปลาหลังรถเราก็มีพอแค่กินกันในบ้านบนภูเขา แต่ถ้ามีเยอะ ๆ คงพอแบ่งให้กับอีกสามหมู่บ้านได้แน่ หน้าหนาวแบบนี้อาหารยิ่งมีเยอะเท่าไรก็ยิ่งดี” เขาอยากให้เด็ก ๆ ที่บ้านรับเลี้ยงเด็กกำพร้าได้กินเนื้ออย่างเต็มปากเต็มคำเหม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status