แชร์

02 พลังแฝง [5/5]

ผู้เขียน: 816
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-28 09:52:28

เสียงผ่าไม้ดังสนั่นลั่นเขาเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าหญิงสาวได้เริ่มงานของตนเองแล้ว ชายหนุ่มจึงพาเด็กน้อยไปยังด้านหลังที่เป็นแปลงปลูกผัก กลายเป็นว่าพวกเขาสลับบทบาทหน้าที่ในบ้านได้ทันทีหลังเห็นพละกำลังของกันและกัน

“ดีที่บนเขายังพอมีผักป่าให้เราเก็บ ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้แล้วล่ะ ว่าจะกินอยู่กันยังไง” เฉินเฟิงลากพืชผักที่ไปหามากองไว้ตรงลานโล่งที่ถางจนเตียน

“เดี๋ยวน้องดลช่วยพี่โกยดินมากองรวมกันตรงนี้นะครับ” เริ่มจากปลูกหัวมันสำปะหลังให้รอดก่อน จากนั้นก็เป็นเผือกและต้นหอม อย่างหลังนี่เขาน่าจะเป็นคนนำขึ้นมา จำได้ว่าเคยหยิบเมล็ดผักโปรยไว้หวังให้มันขึ้นเองตามธรรมชาติ ดูเหมือนจะเหลือผู้ชนะแค่เพียงชนิดเดียวนั่นก็คือต้นหอม

อย่างนี้จะเรียกผักป่าได้อีกเหรอ?

“ผมไม่ชอบต้นหอมเลยอะ” น้องดลเบะปากเมื่อเห็นพี่ชายกำลังขุดหลุมปลูกต้นอะไรบางอย่างอีกมุมหนึ่ง พอเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็คือต้นหอมที่เด็กชายชอบเขี่ยไว้ข้างจาน

“เวลานี้เลือกกินไม่ได้หรอก อีกหน่อยอาหารกระป๋องในบ้านก็จะหมดลง” ชายหนุ่มพูดสอนทั้งมือยังคงขุดปลูกไปเรื่อยจนเสร็จ

“จะไม่มีรถขายกับข้าวผ่านหน้าบ้านแล้วเหรอครับ”

“ถ้ามีก็ดีสิ”

“แล้วผักพวกนี้จะกินได้เมื่อไหร่เหรอครับ” เด็กชายดลมองดูกองดินที่ด้านในมีต้นมันสำปะหลัง ต้นเผือก และต้นหอมของพี่ชาย

“นั่นสินะ” กว่าจะได้กินคงเป็นเดือน

อยากให้โตเร็ว ๆ กว่านี้จัง

พรึ่บ!

ต้นหอมที่เคยเหี่ยวแห้งเพราะถูกถอนออกมาจากจุดที่มันเกิดพลันชูใบขึ้นจนสุดราวกับกำลังฟื้นคืนชีวิต ตรงลำต้นก็ปรากฏหน่อสีม่วงเข้ม

“หัวหอม!” เฉิงเฟิงดึงต้นหอมที่เพิ่งลงดินไม่ถึงนาทีขึ้นมาดูอย่างไม่เชื่อสายตา ใบด้านบนยังเขียวและส่วนรากก็มีหัวหอมลูกอวบอยู่

“พี่เฟิง ๆ ลองกับเผือกด้วยสิ” เด็กชายดลรู้สึกอัศจรรย์ใจมากและอยากจะเห็นอีกสักครั้ง ชายหนุ่มเองอยากรู้เหมือนกัน รีบพาตัวเองไปยังต้นเผือกที่ถูกถอนมาจากริมน้ำตกทันที ความสูงเดิมของมันเพียงแค่หัวเข่า

เจ้ากระต่ายขาวรวบรวมสมาธิหลับตาลงนึกถึงการกระทำเมื่อไม่กี่นาทีก่อนว่าตนได้ทำอะไรลงไปบ้าง เขาวางมือเอาไว้ที่ใบต้นหอม จากนั้นก็คิดว่าอยากให้มันโตขึ้น

จงโตขึ้น

พรึ่บ!

ต้นเผือกที่เดิมมีความสูงแค่เข่ากลับค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นจนมีขนาดเท่ากับเอวของชายหนุ่มในเวลาไม่กี่วินาที

“สุดยอด!!” เด็กชายดลตะโกนร้องลั่น นี่มัน! นี่มัน!

เวทมนตร์!

ไม่สิ!! พลังพิเศษ!

เขาเองก็มีพลังพิเศษเฉกเช่นเดียวกับดาริณี!!

“พี่เฟิงเหมือนตัวการ์ตูนที่ดลอ่านเลย! ใช้พลังไม้ได้ด้วย!!” เด็กชายร้องบอกด้วยดวงตาเป็นประกาย

“พี่ว่าเหมือนพลังพฤกษามากกว่านะ” ดูครอบคลุมแถมไม่เหมือนพวกตัวละครสายฮีโร่มากนัก

“จริงด้วย พี่ทำให้มันโตนี่นา พลังไม้ต้องควบคุมไม้ใช้โจมตี” เด็กชายพยักหน้าเห็นด้วย เขายังอ่อนหัดนัก

“ควบคุม... โจมตี” นัยน์ตาแดงสว่างวาบ

“พี่เฟิง ๆ ผมขอลองขุดเผือกเลยได้ไหมครับ” ต้นใหญ่ขนาดนี้ ต้องให้หัวเผือกใหญ่มากแน่ ๆ

“อะ อืม ดลขุดเลยครับ” เฉินเฟิงปล่อยให้เด็กชายเป็นคนดึงทึ้งต้นเผือกต้นนั้นด้วยตัวเอง ส่วนเขาก็ไปทดสอบกับต้นมันสำปะหลังต่อ

ต้นมันสำปะหลังที่ถูกตัดเป็นท่อนเสียบดินไว้ก็พลันสูงใหญ่เลยหัวชายหนุ่มไปเกือบเมตร

“อู้หูวว สูงมากเลยพี่” สูงกว่าต้นมันสำปะหลังในไร่ของพ่อเขาอีก

เฉินเฟิงมองฝ่ามือตนเองอย่างเลื่อนลอย พลางนึกถึงเจ้าพวกที่มาบุกบ้าน

คนพวกนั้นมีรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปเหมือนเขาและก็มีพลังทางกายภาพ แต่บางคนก็ดูเหมือนจะไม่มี

ถ้าหากว่าเขาสามารถใช้พลังนี้โจมตีอีกฝ่ายได้ละก็…

แต่... ก่อนหน้านั้นก็ต้องรู้ลิมิตในการใช้ก่อน เขาไม่เชื่อหรอกว่าพลังจะสามารถใช้ได้แบบไม่มีหมดสิ้น คนธรรมดาวิ่งยังเหนื่อย แต่พลังที่ไม่รู้จักนี้ ถ้าไม่ใช้ให้คล่องเขาคงพลาดท่าเข้าสักวัน

คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มก็ทดสอบกับต้นไม้ใบหญ้ารอบ ๆ อีกหลายครั้งจนทำให้บริเวณนี้เหมือนป่าดงดิบขนาดย่อม มีทั้งต้นไม้สูงหลายคนโอบและพืชตระกูลเฟิร์นที่สูงเลยหัวมนุษย์โดยมีเด็กชายดลตามเก็บผลผลิตที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้อย่างขะมักเขม้น

ลองใช้พลังอีกหลายต่อหลายครั้ง และครั้งสุดท้ายเขาใช้กับต้นไม้สักต้นหนึ่งให้เปลี่ยนไป จากเดิมที่ใหญ่ประมาณท่อนขาผู้ชายก็ขยายแผ่กิ่งก้านสาขาไปทั่วอาณาบริเวณ ลำต้นเองก็ต้องให้ผู้ชายกว่าสามถึงสี่คนโอบถึงจะได้รอบ เฉินเฟิงชื่นชมภาพสวยงามไม่รับรู้ได้ถึงความเหน็ดเหนื่อยที่เริ่มมาเยือนทีละนิด ความตื่นเต้นมากล้นทำให้หัวใจเต้นตึกตักจนลืมสิ่งที่ต้องการจะพิสูจน์ เจ้ากระต่ายมองภาพตระการตานี้ด้วยอารมณ์ที่อธิบายไม่ถูก เหมือนกับว่าเขาห่างไกลจากสามัญสำนึกที่เข้าใจมาตลอดชีวิต 25 ปีมากขึ้นทุกที เขายังเรียกตัวเองว่าเป็นมนุษย์ได้อยู่จริง ๆ น่ะหรือ?

“อึก” แต่ยังไม่ทันคิดอะไรอีก ทั้งสมองและร่างกายต่างรู้สึกหนักอึ้งราวกับมีใครใช้ค้อนทุบศีรษะ ความเจ็บปวดแล่นริ้วไปตั้งแต่ท้ายทอยมาถึงขมับ และทัศนวิสัยเองก็ถูกบีบให้แคบลงจนกระทั่งมืดสนิท

ตุบ

“พี่เฟิง!!” เด็กชายดลที่มัวแต่สนใจกับหัวเผือกที่ตนขุดขึ้นมาได้หันไปมองพี่ชายที่ล้มไปกับพื้น กรอบหน้าชื้นไปด้วยเหงื่อราวกับเพิ่งไปออกกำลังกายหนักมา พยายามปลุกก็แล้ว ตะโกนเรียกก็แล้ว แต่อีกฝ่ายก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมา

“พี่เฟิงเป็นลมครับแม่!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • วันสิ้นโลกของผม   148 วันที่โลกยังไม่สิ้นสุด [5/5] [End]

    “แม่เองก็อยากรู้เหมือนกัน” กิ่งแก้วพยักหน้าเห็นด้วย ตอนนี้สถานการณ์กลับมาสงบสุขลงแล้ว แต่ลูกชายเธอก็ยังคงขลุกตัวอยู่กับการฝึกฝน บางวันก็วิ่งโร่ไปล่าหนูกลายพันธุ์ถึงนิคมอุตสาหกรรม หากมีแฟนเป็นตัวเป็นตนก็คงช่วยปรามได้บ้าง“ผมออกไปเดินเล่นดีกว่า” ชายหนุ่มค่อยๆ กระถดตัวไปทางประตูบ้าน ก่อนจะวิ่งหนีหายไปด้วยความรวดเร็ว“ทีอย่างนี้ล่ะ เร็วเชียว” กิ่งแก้วส่ายหน้า“ฮ่าๆ อย่าไปบังคับน้องเลยครับ ถึงเวลาจะมีเดี๋ยวก็มีเองแหละ” เจ้ากระต่ายหัวเราะร่วนกับปฏิกิริยาของกรที่ดูเหมือนจะยังไม่อยากมีแฟน“หรือไม่ก็อาจจะกำลังมีคนคุยๆ อยู่แต่ไม่กล้าเปิดตัวหรือเปล่า” ต่างกับนิโคลัสที่มองอีกมุมแก้มแดงๆ นั่นหลบไม่พ้นสายตาของเขาหรอก“เอ๊ะ ลูกคนนี้ แอบมีแฟนแล้วไม่บอกแม่เหรอ กิ่งไปก่อนนะยาย” หันไปร่ำลาคุณยายแล้วถกผ้าถุงออกจากบ้านมองหาเจ้าลูกตัวแสบทันที“พี่นิคไปรู้อะไรมาครับเนี่ย” เฉินเฟิงเชื่อว่าคนรักไม่มีทางพูดไปเรื่อยเปื่อยแน่“รอดูไปก่อน ไม่แน่ว่าหลังเรากลับมาจากไปเยี่ยมบ้านพี่ กรอาจกล้าเปิดตัวกับแม่ก็ได้” คุณหมอหมีไม่อยากเฉลย เผื่อเจ้าตัวยังไม่พร้อมส่วนเมื่อสักครู่ก็ถือว่าสร้างสีสันให้คนป่วย ดูสิ คุณยายร้านขา

  • วันสิ้นโลกของผม   148 วันที่โลกยังไม่สิ้นสุด [4/5] [End]

    “น่องไก่นั่นผมมองไว้นานแล้วนะพี่ อย่าแย่งดิ” ทีโอใช้ส้อมจิ้มน่องไก่ที่หงส์เตรียมตักเข้าจานของตน“อะไร อย่ามาโมเมนะ” หงส์เองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน ถึงสงครามครั้งนี้จะไม่มีมังคุดเข้าร่วมกลั่นแกล้งด้วย เธอก็ไม่คิดจะรามือ เวลาเห็นทีโอทำหน้าเหมือนได้รับความไม่เป็นธรรมแล้วตลกดีเธอเห็นแล้วว่าทีโอจ้องน่องไก่ชิ้นนี้ตาเป็นมันนานแล้ว และเธอกับตุ่นเองก็มีในจานอยู่คนละน่อง เจ้าเด็กนี่เลยอนุมานไปว่าชิ้นที่ยังลอยเท้งเต้งนั้นจะต้องตกเป็นของตนเอง“พี่หงส์ พี่อย่ามาแกล้งผม ในจานพี่ก็ยังมีน่องไก่ ทำไมไม่แบ่งให้น้องให้นุ่ง” ทีโองอแงกระเง้ากระงอดทั้งที่มือยังใช้ส้อมจิ้มน่องไก่ไว้ไม่ผละไปไหน“เล่นกันเป็นเด็กๆ ไปได้” โจเซฟส่ายศีรษะเอือมระอา ตั้งแต่รวมกลุ่มกันมา สองคนนี้ต้องมีปากเสียงตอนกินอาหารได้ทุกมื้อ“เนื้อส่วนอื่นของไก่ก็ยังเหลืออีกตั้งเยอะ” เลวี่ดุคนรักเสียงจริงจังทั้งที่มืออีกข้างก็กำลังถือน่องไก่กัดเข้าปากคำใหญ่“คนที่ได้กินน่องไก่ชิ้นที่สามแล้วกล้าตักเตือนกูเหรอ ฮะ?” ทีโอเค้นเสียงลอดไรฟัน เพราะน่องไก่ชิ้นแรกถูกคนรักแย่งไปจากช้อน เขาถึงต้องเล็งชิ้นใหม่ไม่ใช่หรือไง“...” เลวี่ลอยหน้าลอยตาไม่รู้ไม่ชี้“ท

  • วันสิ้นโลกของผม   148 วันที่โลกยังไม่สิ้นสุด [3/5] [End]

    พูดคุยอัปเดตสภาพบ้านแต่ละหลังอีกเล็กน้อย ทุกคนก็แยกย้ายกันไปเก็บข้าวของส่วนตัวบ้านใครบ้านมัน พลายวารีกึ่งวิ่งกึ่งกระโดดนำพี่ชายไปยังโรงนอนที่ถูกปรับปรุงใหม่“โห บ้านดูเป็นบ้านมาก” เฉินเฟิงเปิดประตูเข้ามาพบกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นโซฟา โต๊ะรับแขก หรือแม้แต่ตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่“เกรงใจพี่พิมแย่” นิโคลัสลูบเนื้อไม้เรียบสนิท มันถูกขัดจนมันและลงน้ำยาป้องกันแมลงไว้เรียบร้อย“ไว้เราออกไปเยี่ยมแม่ของพี่นิคก็ขนของฝากกลับมาให้มากหน่อยดีไหมครับ” เฉินเฟิงเสนอ“เป็นความคิดที่ดี” คุณหมอหมีเห็นด้วย อย่างน้อยก็คงได้พวกเครื่องนุ่งห่มสวยๆ กลับมาให้เหล่าหญิงสาวได้เลือกชม ยิ่งหน้าหนาวในประเทศ T ตอนนี้หนาวไปถึงกระดูก ไปประเทศ A น่าจะได้เสื้อกันหนาวคุณภาพดีมาเพิ่ม“เฮ้อ… ในที่สุดก็ได้กลับบ้านสักที” เฉินเฟิงวางกระเป๋าไว้มุมห้องแล้วเดินไปทิ้งตัวนอนลงบนเตียง “หือ พี่พิมเปลี่ยนฟูกที่นอนให้ด้วย” จำได้ว่าก่อนไปทำภารกิจ ที่นอนไม่ได้นิ่มขนาดนี้“ไว้ทำเตาผิงไว้ในห้องด้วยดีกว่า” ฤดูหนาวที่ผ่านมาต้องพึ่งพาพลังพิเศษระหว่างการนอนหลับ แต่ถ้ามีเตาผิงอยู่ก็ไม่ต้องกังวลว่าห้องจะไม่อบอุ่น“หวา เหมือนบ้

  • วันสิ้นโลกของผม   148 วันที่โลกยังไม่สิ้นสุด [2/5] [End]

    “ยินดีต้อนรับกลับนะคะ”แอ๊ว!ทันทีที่รถจอดบริเวณตีนภูเขาก็พบพิมพาและพลายวารียืนรออยู่“พี่พิม~ คิดถึงจังเลยค่ะ” กวางสาวก้าวลงจากรถพร้อมกับอุ้มเด็กหญิงพลอยใสตามลงมา“ปลอดภัยกันสินะคะ” พิมพาโล่งอกเมื่อกวาดตามองคร่าวๆ แล้วไม่พบว่ามีใครได้รับบาดเจ็บกลับมา “น้องพลอยไม่ดื้อไม่ซนใช่ไหมคะ”“หนูเป็นเด็กดี ฮึก เป็นเด็กดีจริงๆ นะ ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีด้วย ฮือๆ” เด็กหญิงโผเข้ากอดมารดาแน่น พลอยใสไม่เคยห่างจากแม่นานขนาดนี้มาก่อน แต่เพราะตนเลือกที่จะอาสาออกไปสู้กับซอมบี้เองจึงไม่อาจงอแงร้องไห้คิดถึงบ้านได้เหมือนเด็กทั่วไปมาวันนี้ได้กอดคนที่เฝ้าคิดถึงอยู่ทุกวันก็พาให้น้ำตาไหลออกมาเป็นสาย“จ้ะ แม่รู้แล้ว แม่ภูมิใจในตัวหนูมากๆ เลยนะ” พิมพาย่อตัวช่วยเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าเนียนใส ใจจริงเธอไม่อยากให้ลูกสาวออกไปเผชิญกับอันตรายเลย แต่เพราะเชื่อว่าการได้ออกไปในยามที่มีสมาชิกคนอื่นๆ ไปด้วยย่อมปลอดภัยกว่า จึงวางใจให้ลูกสาวออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้เต็มที่ ส่วนเธอก็จะปกป้องบ้านไว้รอต้อนรับทุกคน“แล้วสงคราม…” พิมพาผละจากลูกสาวมามองหน้าสมาชิกคนอื่นๆ “จบแล้วจริงๆ ใช่ไหมคะ”เธออยากได้รับคำยืนยันต่อหน้ามากกว่าคำ

  • วันสิ้นโลกของผม   148 วันที่โลกยังไม่สิ้นสุด [1/5] [End]

    กลุ่มทหารรับจ้างไม่ได้เดินทางโดยใช้เส้นทางเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน ส่วนหนึ่งเพราะต้องการขับรถที่นำมาด้วยกลับไปจอดไว้ยังตีนภูเขา และอีกเหตุผลก็เพราะมังคุดตัวโตขึ้นเล็กน้อย บริเวณท้องของมันไม่สามารถผ่านประตูทางเข้าได้ ทุกคนจึงลงความเห็นให้เดินทางโดยใช้ถนนเส้นหลักแทน“ต้องลดความอ้วนแล้วหรือเปล่านะ” เฉินเฟิงมองพุงกลมของมังคุดด้วยความหนักใจ ช่วงบนเดินผ่านทางเข้าได้ไม่มีปัญหา แต่พอถึงช่วงกลางลำตัวกลับเข้าไม่ได้ เขาเลี้ยงเจ้าตัวนี้ดีเกินไปหรือเปล่านะ?กี๊ซ (มังคุดไม่อ้วนนะ)แร็กคูนที่ถูกแปะป้ายไว้บนหน้าผากว่าอ้วนรีบแย้ง ถ้าให้มันงดอาหาร มันยอมอยู่ที่ค่ายพันธมิตรต่อยังดีกว่า… แล้วค่อยกลับบ้านตอนท้องอิ่ม“ไม่อ้วนตรงไหนกันฮึ” เฉินเฟิงจ้องมองพุงกลม หลักฐานสำคัญที่จำเลยดิ้นไม่หลุดกี๊ซ (นี่เป็นพลังงานสำรองต่างหาก)เจ้าตัวโตแอ่นพุงไม่ยอมรับว่าหน้าท้องส่วนนี้เป็นไขมันที่เกิดจากการกินล้วนๆ“เอาเถอะ จะยอมเชื่อก็ได้” ในเมื่อเจ้าตัวไม่ให้ความร่วมมือ เจ้ากระต่ายก็ล้มเลิกความตั้งใจที่จะลดพุงเด็กดื้อนิโคลัสยกยิ้มมุมปากมองคนรักกับเจ้าตัวโต้เถียงกันเรื่องน้ำหนักเกินมาตรฐานไปตลอดทาง กระทั่งใกล้ถึงหมู่บ้านด้วงส

  • วันสิ้นโลกของผม   147 ชีวิตที่ต้องเดินต่อ [5/5]

    “พวกนาย…” ผู้ถูกขนานนามว่าเทพเซียนเดินดินเกือบน้ำตาร่วงด้วยความซาบซึ้ง ยังดีที่เก๊กขรึมฮึบไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นอาจมีสักขีพยานนับแสนเห็นท่านเทพหลั่งน้ำตา“เจอแบบนี้เขินเลยนะคะเนี่ย” แก้มใสของดาริณีขึ้นสีแดงระเรื่อ ทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย เทียบกันแล้วเธอเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาที่อยากจะปกป้องลูกชายและเพื่อนพ้อง ไม่ได้มีใจคิดอยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์มากมายถึงเพียงนั้นหนักเข้าหน่อยก็มีคนชูลังกระดาษที่มีชื่อของใครสักคนเขียนอยู่“อ๋า… มีชื่อของพี่ด้วย” เหมือนแฟนคลับไปตามดาราตามงานอีเวนต์เลย“วีรกรรมพี่ดาไม่ใช่ย่อยเลยนะคะ รับความรู้สึกอยากขอบคุณจากพวกเขาเถอะค่ะ” หงส์เอ่ยให้กำลังใจ ทั้งที่ไม่ได้เป็นทหารแต่ก็สามารถยืนหยัดต่อสู้กับซอมบี้และสัตว์กลายพันธุ์ได้โดยไม่ทำให้ทีมเสียสมดุลกลับกัน... หากขาดดาริณีไป สงครามอาจจบล่าช้ากว่าที่คิดก็เป็นได้ดาริณีเม้มปากขัดเขิน ใบหน้าสวยก้มมองพื้นไม่กล้าสบตาใคร กระทั่งโจเซฟกอบกุมมือเรียวไว้ เธอถึงเงยหน้ามองสบตากับสามีร่วมทุกข์ร่วมสุขแค่ได้เห็นสายตาที่บอกว่าภูมิใจที่มีเธออยู่เคียงข้าง ความมั่นใจที่หล่นหายไปก็พลันเอ่อล้นออกมากี๊ซ! (ขอบคุณทุกคนนะครับ ขอบคุณครับ มั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status