‘พี่ไปทำงานก่อนนะชมพู เจอกันตอนเย็นครับ รหัสห้องพี่เปลี่ยนไปใช้รหัสเดียวกับชมพูแล้ว เผื่ออยากเข้าไปสำรวจอะไรก็เข้าไปได้เลยนะ อย่าซนล่ะ’
“เดี๋ยวนะ ทำไมทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะเนี่ย”
เสียงหวานใสพึมพำเบาๆ หลังจากที่เธอเห็นกระดาษที่ชยกรเขียนข้อความแปะเอาไว้ที่ประตูห้องนอน เมื่อเธอตื่นแล้วจะเปิดประตูออกไปก็จะเจอข้อความของเขาก่อนเป็นอย่างแรก
หญิงสาวออกจากห้องนอนมาก็เจออาหารเช้าที่เขาซื้อเอาไว้ให้วางอยู่บนโต๊ะ พร้อมด้วยกุญแจสำรองของห้องเขากับกุญแจรถวางอยู่คู่กัน ชมพูแพรมองแล้วอมยิ้ม ทำเหมือนเธอจะหนีเที่ยงอย่างนั้นแหละ เตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้พร้อมเลย
ถ้วยจานที่เก็บอยู่ในชั้นวางถูกหยิบออกมาที่โต๊ะ มือเล็กแกะอาหารที่เขาซื้อเอาไว้ให้เทใส่จานแล้วนั่งลงจัดการเงียบๆ ก่อนจะกดรับสายเมื่อมีสายเรียกเข้าดังมาจากโทรศัพท์
“ไง”
‘ตื่นเช้าจังวะ แล้วนี่กินอะไรเนี่ย’
“มื้อเช้า คุณหมอเขาเตรียมเอาไว้ให้”
‘ต๊าย ดูแลดีดั่งเมียแต่ง’
“พูดมากน่า ว่าแต่มีอะไร”
‘โทรมาเช็กดูเฉยๆ ว่ายังอยู่ดีไหม หรือตายคาเตียงไปแล้ว’
“ยัยบ้า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นย่ะ แถมเมื่อคืนต้องบึ่งไปโรงพยาบาลเพราะมีเคสผ่าตัดด่วนอีกต่างหาก ตื่นเช้ามาก็ไม่อยู่แล้ว ออกไปโรงพยาบาลแต่ก็ยังไม่วายเตรียมมื้อเช้าเอาไว้ให้” ชมพูแพรเล่าให้เพื่อนฟังพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ
‘แต่งเลยค่ะ’
“เว่อร์น่า ฉันกินข้าวก่อน วันนี้พวกแกไปไหนไหมเนี่ย”
‘ไม่ไปอะ ขี้เกียจ ฉันโทรหาไอ้ตูนมันก็ว่าไม่ไป จะนอน’
“อือ ฉันก็ว่าเดี๋ยวกินเสร็จจะนั่งรออาหารย่อยสักพักก็จะนอนต่อ”
‘นี่ แม่คุณ มีผัวเป็นหมอ แถมเป็นเจ้าของผับ แม่คุณก็อย่าขี้เกียจสิยะ’
“ไม่ใช่ผัวย่ะ”
‘กล้าพูดเนอะ คุณหมอเขาตามเฝ้าแกขนาดนี้ คิดว่าจะหนีรอดเรอะ’
“บ้า คิดเยอะ แค่บังเอิญอยู่ห้องตรงข้ามกันเฉยๆ เหอะ”
‘เหรอ หลอกใครก็หลอกได้ แต่หลอกตัวเองไม่ได้นะหล่อน ฉันไม่กวนละ จะนอนต่อ บาย’ พศินพูดจบก็วางสายไป
ชมพูแพรคิดตามที่เพื่อนพูดก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ ลุกขึ้นเก็บล้างถ้วยจานแล้วกลับมานั่งเล่นที่โซฟา
“สวัสดีค่ะ”
‘ตื่นหรือยัง พี่โทรมาปลุกหรือเปล่า’
“เปล่าค่ะ ตื่นแล้วค่ะ”
‘โอเค งั้นพี่รบกวนหน่อย ชมพูเอาแฟ้มเอกสารในห้องมาให้พี่ที่โรงพยาบาลหน่อย น่าจะวางอยู่บนโต๊ะทำงาน’
“ต้องใช้กี่โมงคะ ชมพูยังไม่ได้อาบน้ำเลย”
‘ใช้ตอนเข้าประชุมบ่ายโมงจ้ะ’
“โอเคค่ะ งั้นเดี๋ยวชมพูอาบน้ำก่อน”
‘เอารถคันไหนมาก็ได้ ใช้ได้หมด คันที่วางกุญแจไว้ให้หรือเอากุญแจคันอื่นในห้องก็ได้ กุญแจแขวนเรียงไว้อยู่ข้างประตูห้องทำงาน’
“ค่าๆ”
ชมพูแพรวางสายหลังจากที่ชยกรสั่งงานเสร็จ หญิงสาวได้แต่ทำหน้าไม่เข้าใจ ที่จริงแล้วเขาไม่ควรไว้ใจเธอขนาดนี้ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน ถ้าหากเธอเป็นคนไม่ดีเขาจะทำยังไง แต่ก็คงอย่างที่เขาว่ากัน ว่า sex มันทำให้คนที่ไม่รู้จักกันมารู้จักกันได้ แล้วก็ทำให้คนที่รู้จักกัน สนิทกัน กลายเป็นคนไม่รู้จักได้เหมือนกัน
หญิงสาววางโทรศัพท์ไว้บนโซฟาแล้วลุกขึ้นยืน บิดกายคลายความเมื่อยก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ใช้เวลาไม่นานก็กลับออกมาแต่งตัว วันนี้เธอเลือกใส่ชุดเดรสแขนกุดกระโปรงยาวคลุมเข่าสีชมพู กับรองเท้ารัดส้นสีขาวและเลือกใช้กระเป๋าสะพายข้างใบเล็กสีขาว
เมื่อแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็คว้ากุญแจรถที่เขาวางเอาไว้ให้ออกจากห้องไปยังห้องฝั่งตรงข้าม กดรหัสที่เพิ่งเปลี่ยนมาใช้รหัสเดียวกับห้องของเธอ แล้วเปิดเข้าไปช้าๆ
ห้องสีขาวที่เฟอร์นิเจอร์และข้าวของถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ โต๊ะทำงานที่ตั้งอยู่กินพื้นที่เกือบทั้งห้อง คอนโดแห่งนี้มีห้องนอน 2 ห้อง ห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำอยู่ภายใน ส่วนห้องนอนเล็กจะอยู่ด้านหนึ่งติดกับห้องนอนใหญ่คล้ายทรงตัวแอล โซนรับแขกจะอยู่ตรงข้ามกับห้องนอนเล็ก และโซนครัวจะอยู่ด้านริมประตู ซึ่งชมพูแพรใช้ห้องนอนเล็กปิดห้องนอนใหญ่เอาไว้เฉยๆ แต่ของชยกรเขาใช้ห้องนอนใหญ่ แล้วเอาห้องนอนเล็กทำเป็นห้องทำงาน
“แฟ้มบนโต๊ะทำงาน” เสียงหวานใสพึมพำระหว่างเปิดประตูเข้าไปในห้องเล็กเป็นที่แรก แล้วเธอก็เดาไม่ผิด
มือเล็กหยิบแฟ้มเอกสารเล่มใหญ่ขึ้นมาถือ สายตากวาดมองไปรอบห้องที่มีแต่ชั้นหนังสือเรียงกันตั้งอยู่ โชคดีที่มันเป็นชั้นสีขาวจึงไม่ได้ดูน่าอึดอัดเท่าไหร่ คนตัวเล็กออกมาจากห้องแล้วปิดประตูห้องทำงานเอาไว้ตามเดิม ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“ชมพูมาถึงแล้วค่ะ”
‘ขึ้นมาบนชั้น 10 เลย บอกพนักงานด้านหน้าว่ามาหาพี่’
“ค่ะ”
ชมพูแพรขับรถคันหรูมาถึงโรงพยาบาลก็เข้าจอดรถในที่จอดของบุคลากรเพราะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำรถของชยกรได้ เธอลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในอาคาร หยิบโทรศัพท์มากดโทรหาชายหนุ่มที่สั่งให้เธอมาที่นี่ ก่อนที่จะได้คำตอบแล้วกดวางสาย
หญิงสาวขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 10 ตามที่เขาบอก เมื่อมาถึงก็พบว่าชั้นนี้เป็นชั้นของผู้บริหาร เดินผ่านประตูกระจกบานแรกเข้าไปจะมีโต๊ะพนักงานอยู่ 4 ตัว พวกหล่อนรับงานด่านหน้าเพื่อแยกงานเอกสารไปยังแผนกต่างๆ ของโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่แผนกต่างๆ ที่มาส่งเอกสาร จะต้องมาที่ห้องนี้เพื่อเอาเอกสารมาให้พวกหล่อนจัดแยก
“สวัสดีค่ะ มาพบคุณหมอหนึ่งค่ะ”
“ได้นัดไว้ไหมคะ”
“นัดค่ะ ชื่อชมพูแพรค่ะ”
“อ๋อ คุณหมอแจ้งแล้วค่ะ เชิญด้านในเลยค่ะ”
หญิงสาวที่ดูอาวุโสสุดที่นั่งอยู่ด้านในลุกออกมาสอบถามหญิงสาว เมื่อพบว่าเธอคือคนที่เจ้านายรออยู่ก็ผายมือแล้วเดินนำหญิงสาวเข้าไปด้านใน
พนักงานสาวผายมือไปทางด้านขวาของชมพูแพรซึ่งเป็นประตูกระจกอีกบาน หญิงสาวรอให้หล่อนเดินนำไปก่อนถึงเดินตามหลัง เมื่อเดินพ้นประตูเข้ามาก็จะพบว่าด้านในเป็นห้องทำงานทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีพนักงานนั่งทำงานกันอยู่หลายคน พวกเขามองหญิงสาวแปลกหน้าด้วยสีหน้าประหลาดใจ
หญิงสาวเดินตามหลังพนักงานตรงไปตามทางเดินเรื่อยๆ จนสุดทางเดิน ถึงได้เห็นว่ามีห้องอีกห้องหนึ่ง ประตูห้องมีชื่อและตำแหน่งของชยกรติดอยู่
“ขออนุญาตค่ะ คุณชมพูแพรมาแล้วค่ะ”
“เชิญครับ”
พนักงานสาวเปิดประตูออกกว้างแล้วผายมือให้ชมพูแพรเดินเข้าไปด้านในก่อนจะปิดประตูลงแล้วเดินกลับออกไป
“เอาแฟ้มมาแล้วค่ะ” เสียงหวานใสเอ่ยเป็นประโยคแรกหลังจากเห็นหน้าเขา พร้อมกับก้าวยาวๆ ไปที่หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ แล้วนั่งลงบนเก้าอี้
“ขอบใจจ้ะ กินอะไรมาหรือยัง”
“กินเช้ามาแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับมื้อเช้านะคะ”
“จะเที่ยงอยู่แล้ว ลงไปหาอะไรกินหน่อยไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“พี่มีประชุมบ่าย รอกลับพร้อมกันสิ วันนี้ไม่ได้ไปไหนไม่ใช่เหรอ”
“ก็.....ค่ะ ไม่ได้ไปไหนค่ะ”
“รอแป๊บนะ พี่เคลียร์งานอีกหน่อย เดี๋ยวลงไปกินข้าวกัน กินที่โรงอาหารของพยาบาลได้ไหม”
“กินที่ไหนก็ได้ค่ะ.....ถ้ามีขนม” หญิงสาวพูดเล่นตามนิสัยของเธอ
“มีสิ ถ้าไม่มีก็จะสั่งเปิดร้านขนมให้” เขาพูดน้ำเสียงจริงจัง
“เกินไปค่ะ พี่หนึ่งทำงานเถอะ ชมพูไปนั่งเล่นที่โซฟาดีกว่า”
ชมพูแพรลุกจากเก้าอี้ เธอเดินสำรวจรอบห้องด้วยความอยากรู้ ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากนอกจากชั้นหนังสือ ห้องน้ำส่วนตัวของเจ้าของห้อง และห้องนอนสำหรับพักผ่อนเวลาอยู่เวร
หญิงสาวหยิบหนังสือวิจัยบนชั้นหนังสือเล่มหนึ่งติดมือมานั่งที่โซฟา มันเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เธอเปิดอ่านเรื่อยๆ ด้วยความสนใจ
“อ่านรู้เรื่องด้วยเหรอ” ชยกรเอ่ยถามหญิงสาวเสียงนุ่มนวล
“พอรู้เรื่องค่ะ สำนวนสวยมากนะคะ แต่เนื้อเรื่องในการวิจัยขอผ่านเลยค่ะ ชมพูไม่ค่อยรู้เรื่องการแพทย์เท่าไหร่” ชมพูแพรตอบเขาทั้งที่ยังไม่เงยหน้าขึ้น
“มันเป็นภาษาอังกฤษทั้งเล่มเลยนะ”
“ชมพูจบเอกอังกฤษค่ะ”
“หืม เก่งนะเนี่ย”
“พี่หนึ่ง ชมพูทำงานที่ศูนย์วิจัยของมหาวิทยาลัยนะ” หญิงสาวเงยหน้าบอกเขา
“อ้าวเหรอ สนใจมาทำงานที่นี่ไหม”
“อย่าเลยค่ะ ทำที่เดิมสนุกดี แถมรอผ่านโปรก็บรรจุเป็นข้าราชการด้วยนะคะ”
“ก็ดีนะ เมียทำงานราชการ ผัวเป็นทั้งหมอ ทั้งเปิดผับ”
“พี่หนึ่ง.....” ชมพูแพรเรียกชื่อเขาอย่างอ่อนใจ
“หรือพี่พูดผิด” เขาทำไม่รู้ไม่ชี้
“ไม่พูดด้วยแล้วค่ะ”
หญิงสาวเปิดอ่านงานวิจัยในมือต่อไปโดยไม่สนใจเขาอีก ชยกรอมยิ้มแล้วก้มหน้าทำงานต่อ ไม่นานก็กดพักหน้าจอแล้วลุกออกจากเก้าอี้ เดินมาหยิบกระเป๋าสะพายที่หญิงสาววางเอาไว้บนโต๊ะแล้วพาเธอออกจากห้องไป
“กินอะไร”
“อยากกินก๋วยเตี๋ยว”
“ร้านนี้อร่อย”
เมื่อลงมาที่ห้องอาหารของโรงพยาบาล ชยกรพาหญิงสาวเดินดูร้านต่างๆ ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเมื่อหญิงสาวบอกว่าอยากกิน
ชมพูแพรพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปสั่งก่อนจะมองหน้าเขา เมื่อพนักงานเห็นว่าเธอมากับชยกรก็มองเธอด้วยความแปลกใจ
“พี่หนึ่งกินอะไร”
“เกาเหลาก็ได้”
พนักงานลงมือทำเกาเหลาหลังจากที่วางชามก๋วยเตี๋ยวให้หญิงสาวบนถาด จนเมื่อได้อาหารครบแล้วชายหนุ่มก็วางกระเป๋าเงินลงบนมือเล็ก แล้วยกถาดอาหารออกไป
ชมพูแพรมองกระเป๋าเงินในมือ เธอจะหยิบเงินของตัวเองออกมาจ่ายก็ไม่ได้เพราะกระเป๋าของเธออยู่ที่เขา จึงต้องเปิดกระเป๋าเงินสีดำออก หยิบธนบัตรออกมาส่งให้พนักงานแล้วเดินออกมา
ดวงตากลมกวาดมองหาร่างสูง เมื่อเห็นเขานั่งลงที่โต๊ะริมกระจกก็เดินไปหย่อนตัวนั่งลงตรงข้ามเขา
“ดื่มน้ำอะไร เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้”
“น้ำอัดลมค่ะ”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะเปิดกระเป๋าเงินหยิบธนบัตรออกมา แล้ววางมันไว้บนโต๊ะเหมือนเดิมก่อนจะเดินออกไป
ไม่นานร่างสูงก็เดินกลับมาพร้อมกับแก้วน้ำอัดลมและน้ำเปล่าของตัวเอง เขาหย่อนตัวนั่งลงแล้วลงมือจัดการมื้อเที่ยงท่ามกลางสายตาอยากรู้ของพนักงาน รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ที่พบเห็น
“ไง ไอ้หมอหนึ่ง” เมฆาเข้ามาทักทายชยกรเหมือนดังเช่นทุกวัน
“.....ไง ไอ้หมอเมฆ”
“อ้าว สวัสดีครับ” เมฆาที่เพิ่งหย่อนตัวนั่งลงข้างชยกรเอ่ยทักทายหญิงสาวตรงหน้า
“สวัสดีค่ะ” ชมพูแพรยิ้มให้เขาอย่างขบขันเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของเขา
“ผมชื่อเมฆครับ เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของไอ้หมอหนึ่ง”
“ชมพูค่ะ”
“นี่เมียกู จบนะ” ชยกรรีบเอ่ยขัดเมื่อเห็นเมฆาจะถามอย่างอื่นกับชมพูแพร ทั้งหญิงสาวและเมฆาสะดุ้งโหยง มองหน้ากันแล้วยิ้มแหย
“กูไปซื้อข้าวก่อนดีกว่า เดี๋ยวมา” เมฆาพูดจบก็รีบลุกออกไปซื้อข้าวกับน้ำเปล่า แล้วรีบกลับมานั่งกับทั้งสองคน
“คุณหมอเมฆสนิทกับพี่หนึ่งเหรอคะ” ชมพูแพรเอ่ยถามด้วยความอยากรู้
“ครับผม เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ไฮสคูลเลย” เขาบอกเธอหลังจากเคี้ยวข้าวหมดปาก
“เมื่อก่อนพี่หนึ่งก็เงียบๆ แบบนี้เหรอคะ”
“เงียบกว่านี้ครับ นี่พูดมากขึ้นเยอะแล้ว”
“แล้วดุแบบนี้ไหมคะ”
“อันนี้ไม่สามารถตอบได้เลย เพราะมันนิ่งอย่างเดียว ไม่แสดงออกอะไรเลย” เมฆาตอบพลางชำเลืองมองเพื่อนด้วยแววตาหยอกล้อ
“กินเสร็จยัง ไม่เสร็จเดี๋ยวกูจะได้ช่วยป้อน” ชยกรขัดจังหวะด้วยความหมั่นไส้
“ไม่ต้องๆ กูกินเองได้” เมฆารีบส่ายหน้าก่อนจะตักข้าวเข้าปาก
“ชมพูกินขนมไหม มีร้านขนมหวานอยู่นะ”
“เดี๋ยวชมพูเดินไปดูเองค่ะ”
หญิงสาวรีบบอกเมื่อเห็นร่างสูงทำท่าจะลุกขึ้น หญิงสาวทำท่าทางขอกระเป๋าคืน แต่เขาก็ไม่ยอมส่งให้ จึงหยิบกระเป๋าเงินสีดำที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วเดินออกไป
“หยิบจับกระเป๋าเงินกันได้ด้วย” เมฆาแซวเพื่อนด้วยน้ำเสียงล้อเลียน
“เอ้า กูให้เมียกูจับ ไม่แปลก”
“ถ้าจำไม่ผิด สาวน้อยวันนั้นนี่”
“เออ”
“จริงจัง?”
“รอวันแต่ง”
“เข้ สงสัยกูต้องรีบหาเมียบ้างละ”
ชยกรส่ายหน้าเบาๆ กับความกวนประสาทของเมฆา ก่อนที่เขาจะต้องเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อชมพูแพรเดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับขนมหวาน
ทั้งสามคนนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกินเสร็จจึงแยกย้ายกันกลับห้องทำงาน ชยกรให้ชมพูแพรนั่งเล่นรอที่ห้องระหว่างที่เขาไปประชุม ก่อนที่จะออกจากห้องไป
คนตัวเล็กถูกอุ้มมาวางที่พื้นใต้ฝักบัว มือหนาเปิดน้ำให้ไหลลงมาชำระล้างคราบเหงื่อไคล มือใหญ่ลูบไล้เรือนกายบอบบาง ปลายนิ้วเขี่ยปลายยอดดอกบัวตูมอวบเล่นจนมันเป็นไต“พอแล้วค่ะ หมดแรงแล้วนะคะ” เจ้าของร่างบางจับมือหนาของสามี พึมพำพูดเบาๆ ตาใกล้จะปิดลงเต็มทีชยกรก้มลงอ้าปากงับปลายยอดสีชมพูสวยเบาๆ ลิ้นหนาไล้วนรอบๆ มือบีบเคล้นดอกบัวตูมอวบใหญ่ล้นมือรุนแรงจนเป็นรอยมืออีกข้างที่ว่างอยู่เคลื่อนลงไปที่ช่องทางชื้นแฉะ สอดลึกเข้าไปข้างในทีเดียว 2 นิ้ว ทำให้สายธารขาวขุ่นที่ยังค้างอยู่ข้างในไหลออกมาตามเรียวขาสวย“อื้ออออ” ร่างบางหงายเอนศีรษะ หลับตาครางเสียงแผ่ว“อีกสักรอบนะคะ” ฝ่ามืออบอุ่นเอื้อมปิดน้ำ ช้อนอุ้มร่างเล็กขึ้นพิงหลังกับผนัง แขนแกร่งช้อนใต้ขาเรียว พร้อมกับดันแก่นกายร้อนเข้าไปทีเดียวสุดลำในท่าอุ้มแตง“อ๊ายยยย” ชมพูแพรหวีดร้องเสียงดัง แขนคล้องคอหนาช่วยพยุงตัวเองใบหน้าหล่อเหลาโน้มตัวก้มหน้าไปแนบจุมพิตเร่าร้อน ลิ้นหนาสำรวจโพรงปากนุ่มจนทั่ว กระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กปลุกเร้าอารมณ์ สะโพกสอบขยับโยกเบาๆหญิงสาวร้องครางในลำคอ ท่านี้ลำเนื้อของเขาเข้าไปลึก จนเธอเสียววูบวาบไปทั้งตัว ในช่องท้องแน่นจนอึดอัด“รว
“ออกัสล่ะคะ” ชมพูแพรเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่เธอออกมาจากห้องน้ำ แล้วเจอสามีนั่งอยู่ในห้อง“หลับไปแล้วค่ะ” ชยกรบอกภรรยาสาวก่อนจะลุกไปโอบเอวบางเอาไว้หลวมๆหลังจากคลอดออกัสได้ไม่นาน รูปร่างของชมพูแพรก็เข้าที่อย่างรวดเร็ว อาจจะเพราะเธอดูแลลูกชายด้วยตัวเอง มีพี่เลี้ยงคอยช่วยหยิบจับบ้างเล็กน้อย กับนอนเป็นเพื่อนหนูน้อยยามค่ำคืนเท่านั้น“ชมพู ออกัส 3 ขวบแล้วนะ” มือหนาหมุนร่างคนตัวเล็กให้หันหน้ามาหาเขา ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงอ้อนๆ“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”“พี่ว่ามีน้องให้ออกัสได้แล้วมั้งคะ ออกัสจะได้มีเพื่อนไง”“แต่ออกัสยังเด็กอยู่เลย ถ้ามีน้องให้ออกัส ชมพูก็ต้องแบ่งเวลาให้น้อง ชมพูกลัวออกัสจะน้อยใจค่ะ”“ไม่หรอก พี่ว่าชมพูคิดมากไปนะ”“แต่.....”“ไม่แต่แล้วครับ ออกัสอยากมีน้องแล้วนะ”ชยกรช้อนอุ้มร่างบางที่สัดส่วนเต็มล้นขึ้นเดินตรงไปที่เตียง วางหญิงสาวลงเบาๆ ก่อนจะกระตุกกระโปรงชุดนอนตัวบางขึ้นเล็กน้อย ปลายนิ้วเกี่ยวแพนตี้ตัวจิ๋วออกอย่างรวดเร็ว“พี่หนึ่ง” เสียงหวานใสเอ่ยเรียกตั้งใจจะปรามสามี แต่ขาเรียวแยกออกจากกัน“ว่ายังไงคะ” ชยกรซุกใบหน้าลงดอมดมดอกไม้งามตรงหน้าอย่างหลงใหลลิ้นหนาร้อนผ่าวไล้เลียเกสรสีสวย
พยาบาลหลายคนที่เห็นภาพตรงหน้าต่างปิดปากด้วยความปลื้ม พวกเขาไม่ได้คิดว่าหญิงสาวคนนี้คือภรรยาของชยกร บุตรชายเพียงคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้เมื่อถึงเวลาเข้าห้องคลอด หลังจากที่ทำการบล็อกหลังเรียบร้อย ชยกรก็ถูกตามเข้ามาในห้องคลอด เขามีอาการตื่นเต้นเมื่อเห็นภรรยาสาวกำลังนอนรอคลอดอยู่บนเตียงร่างสูงเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ตรงเหนือศีรษะภรรยาสาวที่พยาบาลจัดเตรียมเอาไว้ให้ มือข้างที่ไม่ได้ติดที่วัดหัวใจกับที่วัดความดันสอดประสานจับมือใหญ่เอาไว้แน่น จนเมื่อหมอเข้ามาและทำการทดสอบว่ายาออกฤทธิ์เรียบร้อยแล้ว จึงเริ่มทำการผ่าคลอด“เป็นยังไงบ้างคะ”“คลื่นไส้ค่ะ”“อดทนอีกนิดเดียวนะ”“ค่ะ”ชมพูแพรเริ่มหน้าซีดเมื่ออยู่ๆ เธอก็มีอาการเวียนหัวรุนแรงและเริ่มหายใจไม่ออก“พี่หนึ่ง ชมพูหายใจไม่ออก”“แป๊บนะ คุณพยาบาลครับ คุณแม่หายใจไม่ออกครับ”“สักครู่นะคะ” พยาบาลหันไปมองหน้าจอแสดงผลของเครื่องต่างๆ ที่ติดตามตัวหญิงสาว ก่อนจะหยิบหน้ากากออกซิเจนมาและใส่ให้เธอ“คุณแม่ใส่หน้ากากออกซิเจนหน่อยนะคะ”หญิงสาวพยักหน้าและหลับตาลง เธอรับรู้แค่เพียงว่ามือของสามีกำลังบีบมือเธออยู่ ข้างใบหูของเธอมีเสียงกระซิบให้กำลังใจไ
เช้าวันต่อมา ชมพูแพรตื่นมาพร้อมกับอาการปวดเมื่อยตัวจากการรับศึกหนัก ยามที่เธอยังไม่ได้ตั้งครรภ์ก็ไม่ได้อ่อนเพลียขนาดนี้ อีกวันเธอยังสามารถลุกไปทำงานไหว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะอ่อนล้าไปหมด“ตื่นแล้วเหรอคะ”“.....” ดวงตากลมโตมองค้อนสามีด้วยความหมั่นไส้ เพราะเขาเล่นงานจนเธอแทบจะหลับคาอกเขาด้วยซ้ำ“อย่าเพิ่งงอนพี่เลยนะคะ กินข้าวเช้าบำรุงตัวเล็กก่อนค่อยงอนต่อนะ”“มันน่างอนนานๆนะคะ”“เอาน่า มาฮันนีมูนนะคะ จะขาดได้ยังไง”“ก็เกินไปค่ะ”“พี่ไม่ได้มีเวลาพาชมพูไปเที่ยวบ่อยนี่คะ สงสารพี่เถอะนะ”“ไม่ค่ะ”“ใจร้ายจัง เอาล่ะ ลุกมากินข้าวก่อนค่อยงอนต่อนะคะคนสวย”หญิงสาวถอนหายใจกับความมึนของสามี แต่ก็ยอมลงจากเตียงแล้วไปกินข้าวเช้าตามที่เขาบอกแต่โดยดี โดยมีสามีหนุ่มใส่เสื้อผ้าให้เธอหลังจากที่ก้าวเท้ามายืนชยกรพาหญิงสาวลงมากินข้าวที่ชั้นล่าง นั่งดื่มกาแฟเป็นเพื่อนเธอจนกระทั่งกินข้าวเสร็จ จึงเก็บล้างจานแล้วพากันออกไปเดินเล่นสองหนุ่มสาวเดินไปริมชายหาด ที่ที่เขาและเธอคิดว่ามันสวยที่สุด ท้องฟ้าเป็นสีคราม สวยงามอย่างที่หาได้น้อยครั้งจากในเมืองมือใหญ่จับจูงมือเล็กเดินเคียงข้างกัน ชยกรกับชมพูแพรยิ้มให้กันด้
วงแขนเรียวคว้าคอหนาเอาไว้แน่น เมื่อร่างเธอถูกอุ้มขึ้นโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ชยกรก้าวเท้าออกจากอ่างอาบน้ำมายืนหน้ากระจกบานใหญ่ตรงบริเวณพื้นที่อาบน้ำใต้ฝักบัวที่ส่องเห็นทั้งตัวภายในห้องน้ำ โดยที่ลำกายยังฝังอยู่ในช่องทางคับแน่นชมพูแพรหวีดเสียงแหลมเมื่อยามที่สามีก้าวเดิน มันเสียววูบจนเธอแหงนหน้ากัดปาก จิกเล็บลงบนท่อนแขนแน่น“ลองดูสิคะ สวยนะ ภาพที่มันกำลังอยู่ข้างใน” ดวงตากลมโตปรือขึ้นมองภาพในกระจกเป็นภาพที่ผู้หญิงคนหนึ่งโดนอุ้มกระเตงจากทางด้านหลัง ขาอ้าออกกว้างมีแขนสอดรับใต้ข้อพับขา โดยมีแท่งเนื้ออวบใหญ่สอดใส่คาอยู่ในร่างกาย กลีบดอกไม้คลี่ออกจากกันตามขนาดของลำเนื้อแข็งขึง ใบหน้าหวานแดงก่ำ ปรือตากัดปาก ราวกับเจนจัดเรื่องบนเตียง“ให้ตายเถอะ ยั่วเก่งจัง” เสียงนุ่มนวลครางกระเส่ากับภาพตรงหน้าเขาถอดถอนตัวเองออก ขยับร่างบางวางลงยืนกับพื้น จับสะโพกกลมให้แอ่นลอยขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะจับท่อนเนื้อลำใหญ่จ่อไปที่ปากทางคับแคบ หญิงสาวครางในลำคอ ก่อนจะร้องวี้ดออกมา เมื่อเขากดกระแทกท่อนเนื้อเข้าไปทีเดียวมิดลำ“อ๊ายยย เบาหน่อยค่ะ มันจุก”ร่างสูงย่อขาลง แอ่นสะโพกสอบในท่างัดขึ้นให้ปลายหัวหยักครูดกับข้างใน
หลายเดือนผ่านไป หลังจากที่เสร็จสิ้นพิธีหมั้นและงานเลี้ยงฉลองแต่งงาน บ้านที่ชมพูแพรกับชยกรปลูกเอาไว้ก็เสร็จพอดี ทั้งสองคนย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านใหม่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก ส่วนชมพูแพรก็ลาออกจากงานตามที่สามีและครอบครัวร้องขอหญิงสาวตามเขาไปโรงพยาบาลเกือบทุกวัน ส่วนใหญ่ก็ไปช่วยจัดการเรื่องเอกสารรวมถึงแปลงานจากหนังสือวิจัยที่อยู่ในงานที่ต้องทำของเขาด้วยชมพูแพรเป็นผู้หญิงรูปร่างบาง หน้าท้องของเธอจึงยังไม่นูนออกถึงแม้ว่าเธอจะตั้งครรภ์ได้ 16 สัปดาห์แล้วก็ตาม ยามที่เธอออกไปข้างนอกจะไม่มีใครมองออกเลยว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ หญิงสาวจึงต้องติดเข็มกลัดเอาไว้เพื่อความปลอดภัย“ไปไหนคะ” ชมพูแพรถามเขาหลังจากที่รถยนต์คันหรูเคลื่อนออกมาจากลานจอดรถของโรงพยาบาล แต่ไม่ได้ตรงกลับบ้านเหมือนดังเช่นทุกวัน“ไปฮันนีมูนค่ะ” เขาบอกเธอพร้อมกับยิ้มอบอุ่น“หืม พี่หนึ่งทำงานเกือบทุกวัน จะไปทำไมคะ น่าจะพักเหนื่อย”“ไม่ได้สิคะ พี่ก็อยากพาเมียพี่ไปเที่ยวบ้าง อยู่แต่บ้านกับโรงพยาบาล เดี๋ยวจะพาลเบื่อพี่เสียก่อน”“.....”“ล้อเล่นจ้ะ พี่เห็นชมพูไม่ได้ไปไหนนานแล้ว เลยจะพาไปเที่ยว”“ค่ะ” คนตัวเล็กพยักหน้ารับ ก่อนจะปรับเบ