“กลับได้แล้วคุณ”
“ดึกแล้วเหรอ”
“เปล่า คุณเมาแล้ว”
“เหรอ”
“อือ กลับก็ได้”
ใบหน้าหล่อเหลาส่ายเบาๆ ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยระวังตัวเลย เพราะแบบนี้ถึงถูกเขาหลอกขึ้นห้องไปได้ง่ายๆ สงสัยเขาคงต้องคอยตามเฝ้าไม่ให้แอบไปไหนคนเดียว ไม่อย่างนั้นคงได้โดนใครหลอกไปอีก
ชมพูแพรถูกร่างสูงกึ่งลากกึ่งจูงออกมาจากผับไปที่รถ หญิงสาวบ่นเล็กน้อยเมื่อถูกเขาจับยัดใส่รถ ก่อนที่เขาจะกลับไปฝั่งคนขับแล้วเคลื่อนตัวออกไป
“บ้านคุณอยู่ที่ไหน”
“ฉันอยู่คอนโด แถวนี้แหละ”
“ชื่อ”
“.....” หญิงสาวบอกชื่อคอนโดที่เธออยู่เสียงอ้อแอ้ ก่อนจะปรับเบาะนอนลง
“พูดจริง”
“อือ”
“บังเอิญไปหรือเปล่าเนี่ย” ชยกรพึมพำเบาๆ อย่างแปลกใจ แต่เมื่อหันไปมองคนข้างๆ ก็เห็นว่าเธอหลับไปแล้ว จึงหันมาตั้งสมาธิในการมองทาง เพราะเขาเองก็ดื่มไปนิดหน่อยเช่นกัน
“คุณ อยู่ชั้นไหน”
“ชั้น 19”
“แปลก อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น”
ร่างสูงที่เริ่มหงุดหงิดที่คนตัวเล็กยืนเอียงไปเอียงมาจึงอุ้มหญิงสาวขึ้น รอจนลิฟต์มาจอดที่ชั้น 19 ก็เดินออกมา
“ห้องไหน”
“ริมสุด ฝั่งขวา รหัสคือเลข 6 ตัวท้ายบัตรประชาชน” ชมพูแพรบอกเขาระหว่างที่ยังเอียงศีรษะซบกับบ่ากว้าง
เมื่อกดรหัสเข้าห้องเรียบร้อย ชยกรก็อุ้มร่างเล็กมาวางบนโซฟาตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่ในห้องรับแขก เขากวาดตามองสไตล์การแต่งห้องของหญิงสาวแล้วยิ้มมุมปากด้วยความพอใจ มันเรียบง่าย ไม่รก ไม่เยอะ ที่สำคัญหญิงสาวคนนี้เป็นระเบียบมาก ทุกอย่างถูกจัดเก็บเข้าที่เข้าทางหมด
“คุณ ลุกไปอาบน้ำแล้วไปนอน”
“อาบไป 2 รอบแล้ว”
“อาบใหม่”
“ขี้บ่นจัง เอาผ้าขนหนูกับชุดนอนในห้องให้หน่อย”
เสียงหวานใสเอ่ยแล้วยิ้มหวาน ชายหนุ่มชะงักไปก่อนจะยอมเดินเข้าไปในห้องนอน หยิบเอาผ้าเช็ดตัวกับชุดนอนในตู้เสื้อผ้าออกมาแล้ววางลงบนตักเจ้าของห้อง
“ไปอาบน้ำ”
“รู้แล้วน่า ขอบคุณที่มาส่งนะคะ”
“พี่หนึ่ง”
“คะ?”
“เรียกผมว่าพี่หนึ่ง คุณอายุน้อยกว่าผมหลายปี”
“อ้อ ค่ะ พี่หนึ่งค่ะ ขอบคุณพี่หนึ่งค่ะที่มาส่ง”
“จะบอกว่าผมก็อยู่ที่นี่ มันจะเหลือเชื่อไปไหม”
“ก็นิดหน่อยค่ะ”
“ผมอยู่ที่นี่ ชั้นนี้ ห้องตรงข้ามคุณ”
“พูดจริงพูดเล่น”
“จริง”
ภายในห้องเกิดความเงียบขึ้นมาเฉียบพลัน ทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ ชมพูแพรมองสำรวจสีหน้าเขาว่าพูดจริงหรือพูดเล่น แต่สิ่งที่เธอเห็นมีเพียงใบหน้าที่แสดงออกว่าเขาพูดจริง
“เอ่อ งั้นคุณ เอ้ย พี่หนึ่ง กลับห้องเถอะ” หญิงสาวพูดเสียงแผ่วเบา
“อือ รีบอาบน้ำแล้วรีบนอน ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ไปทำงานหรือเปล่า” ชายหนุ่มออกคำสั่งตามความเคยชิน แต่ก็ไม่วายมีคำถามตามวิสัยของหมอ
“พรุ่งนี้วันเสาร์ค่ะ ไม่ได้ไปทำงาน”
“ทำงาน 5 วันเหรอ”
“ค่ะ”
“งั้นอาบน้ำแล้วแต่งตัวให้เรียบร้อย เดี๋ยวผมเข้ามา”
“.....”
ชมพูแพรมองตามร่างสูงที่เปิดประตูออกจากห้องไปด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นแล้วรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะกลับออกมานอนเล่นอยู่ในห้องนอน เพราะไม่คิดว่าเขาจะกลับเข้ามาจริงๆ
ทางด้านชยกร หลังจากเขากลับมาที่ห้องของตัวเองก็รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ชายหนุ่มอยู่ในชุดกางเกงขายาวกับเสื้อยืดสีพื้นไม่มีลาย เขาหยิบโทรศัพท์แล้วเดินออกจากห้องของตัวเอง กลับไปที่ห้องฝั่งตรงข้ามของชมพูแพร
ชายหนุ่มกดรหัสแล้วเข้าห้องไปโดยที่ไม่จำเป็นต้องกดกริ่งเพราะเขาจำรหัสได้แล้ว แต่เมื่อเข้ามาในห้องก็ไม่เห็นร่างเล็ก จึงเดินไปเปิดประตูห้องนอนโดยไม่ได้เคาะ เพราะเขาบอกเธอไปแล้วว่าเขาจะกลับเข้ามา
“เฮ้ย กลับมาจริงดิ”
“อ้าว ก็บอกแล้วไงว่าจะกลับมา”
‘เฮ้ย เสียงใครอะ อีชมพูพาผู้เข้าห้อง’ เสียงพศินโวยวายดังออกมาจากในสาย
ชมพูแพรกำลังวิดีโอคอลอยู่กับพศินและปรางค์วลัย ดังนั้นเมื่อชยกรเข้ามาในห้องนอนแล้วเธอกับเขาคุยกัน เพื่อนทั้ง 2 คนก็จะได้ยินและเห็นท่าทางของเธอไปด้วย
“คุยกับใคร” เขาถามพลางก้าวเท้าเข้ามาใกล้เตียงนอน
“เพื่อนค่ะ”
หญิงสาวตั้งใจว่าจะกดวางสายแต่ก็ไม่ทัน เมื่อร่างสูงขึ้นมาบนเตียงของเธอแล้วชะโงกหน้าเข้ามาอยู่ในหน้าจอของเธอจนพศินกับปรางค์วลัยเห็นเขา
“สวัสดีครับ”
‘สวัสดีค่ะ พวกเราเป็นเพื่อนยัยชมพูค่ะ’ พศินบอกเขาเสียงหวาน
“ครับผม ผมเป็นสามีของชมพูครับ” ชยกรแนะนำตัวสั้นๆ แต่ทำเอาทั้ง 3 คนสะดุ้งโหยง
“เดี๋ยวนะ คุณเป็นสามีฉันเมื่อไหร่เนี่ย” ชมพูแพรถามเขาสีหน้าไม่เข้าใจ
“เมื่อคืน”
“.....” หญิงสาวเงียบลงทันที เรื่องนี้เธอเถียงเขาไม่ได้
‘อ๋อ วันไนท์ของยัยชมพู เฮ้ยยยยย’
ทางปลายสายโวยวายกันเสียงดังลั่น ชยกรรอจนเสียงเงียบลงก็ขยับเข้าไปใกล้ หยิบโทรศัพท์ของหญิงสาวเอามาถือไว้เอง ชมพูแพรจะแย่งคืนก็โดนรวบตัวเข้ามาในอ้อมแขนให้อยู่ในหน้าจอด้วยกัน
“ผมขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ผมชื่อ ชยกร หรือ หนึ่ง เป็นเจ้าของผับที่พวกคุณไปเมื่อวาน”
‘เห็นไหม ฉันบอกพวกแกแล้ว’ พศินส่งเสียงดีใจที่ตัวเองคิดถูก
‘แล้วคุณมาเจอยัยชมพูได้ยังไงคะ’ ปรางค์วลัยถามด้วยความสงสัย
“ก็พอดีเพื่อนพวกคุณไปโรงพยาบาลแล้วทำบัตรประชาชนตกเอาไว้ ผมเลยเรียกไปที่ผับ”
“เขาเป็นหมอน่ะ” ชมพูแพรเสริมคำพูดของเขาให้เพื่อนเข้าใจ
‘ห๊า’ พศินกับปรางค์วลัยอุทานด้วยความตกใจ
“แล้วก็อยู่ห้องตรงข้ามฉันด้วย” หญิงสาวพูดเสริมไปอีก ทำเอาเพื่อน 2 คนถึงกับพูดไม่ออก
‘บังเอิญไปไหม’ ปรางค์วลัยถามเสียงอ่อย เธอแทบไม่อยากเชื่อ
“อืม บังเอิญของบังเอิญ บังเอิญสุดๆ”
‘งั้นอยู่ด้วยกันไปเถอะ พวกเราไม่กวนแล้ว เจอกันวันจันทร์’ พศินรีบเอ่ยขอตัวเมื่อเห็นสายตาของหมอหนุ่มที่มองเพื่อนของพวกเธอ
หลังจากทั้งสองคนวางสายไปโทรศัพท์ก็ถูกวางลงบนโต๊ะข้างหัวเตียง ชมพูแพรมองเขาด้วยสายตาไม่เข้าใจ แล้วก็ต้องเหวออีกครั้งเมื่อร่างสูงเอนกายลงนอนหน้าตาเฉย
“นอนสิ ไม่นอนเหรอ”
“.....คุณก็กลับไปนอนห้องคุณสิ”
“เรียกผมว่าอะไร”
“.....พี่หนึ่งก็กลับไปนอนที่ห้องสิ”
“ไม่ล่ะ จะนอนนี่ ราตรีสวัสดิ์”
ใบหน้าหวานเหวอไปอีกครั้ง เมื่อเขาหลับตาลงแล้วหลับไปจริงๆ หญิงสาวกระพริบตาปริบด้วยความไม่เข้าใจ เธอลุกขึ้นไปปิดไฟดวงใหญ่แล้วกลับมานอน
“นอนเถอะ อย่าคิดอะไรเยอะเลย” เสียงนุ่มกระซิบแผ่วเบา พร้อมกับที่ร่างสูงพลิกกลับมากอดหญิงสาวเอาไว้
ชมพูแพรนอนตัวเกร็ง เธอไม่เข้าใจความคิดและการกระทำของเขา มันเป็นเพียงแค่คืนเดียวที่เธอกับเขามีความสัมพันธ์กัน สำหรับเธอแล้วอาจจะเสียดายอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้เสียใจ ยิ่งพอมารู้ว่าเป็นเขาก็ยิ่งไม่เสียใจ เพราะเขาดูไม่ใช่คนที่จะมีอะไรกับใครก็ได้ แต่สิ่งที่เธอไม่เข้าใจคือเขามาคอยตามเธอทำไม
หลังจากคิดนั่นคิดนี่อยู่นานก็ได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอทำให้รู้ว่าเขาหลับไปแล้ว หญิงสาวถึงค่อยผ่อนคลายความเกร็งแล้วหลับตาลง ไม่นานก็หลับสนิทไป
ความเงียบสงบยามค่ำคืนบวกกับความเย็นของเครื่องปรับอากาศ ทำให้สองร่างกอดก่ายกันอย่างไม่รู้ตัว ก่อนที่จะพากันสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“ครับ”
‘หมอคะ มีผ่าตัดด่วนค่ะ’
“แล้วหมอเจ้าของไข้ล่ะ”
‘ติดเคสค่ะ หมอเมฆก็อยู่ไกล เกรงว่าจะมาไม่ทันค่ะ’
“โอเค เดี๋ยวผมรีบไป”
ร่างสูงใหญ่ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ตั้งใจจะออกไปจากห้องเงียบๆ แต่ก็ไม่ทัน เมื่อเสื้อของเขาถูกจับเอาไว้
“ไปด้วยได้ไหมคะ”
“ไปทำไม นอนพักอยู่นี่แหละ”
“ไปด้วยค่ะ”
“.....ตามใจ ไปเถอะ เอาไปแต่โทรศัพท์กับกระเป๋าเงินก็พอ เดี๋ยวพี่ไปเอากุญแจรถก่อน”
“ค่ะ”
ชมพูแพรลุกขึ้นจากเตียง เธอเดินไปหยิบเสื้อชั้นในออกมาใส่ด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่เธอจะออกจากห้องไปหยิบกระเป๋าสะพายแล้วเอาโทรศัพท์กับกระเป๋าเงินใส่ลงไปแล้วเดินออกไปจากห้อง พอดีกับที่ชยกรออกมาจากห้องอีกฝั่งพอดี
ทั้งสองคนพากันลงไปที่รถ ชยกรรีบขับรถไปที่โรงพยาบาล คอนโดที่นี่อยู่ไม่ไกลโรงพยาบาลมากนัก จึงใช้เวลาไม่นานในการเดินทาง เมื่อมาถึงที่โรงพยาบาล เขารีบจอดรถแล้วเข้าไปด้านใน แต่ก็ยังไม่วายเป็นห่วงคนตัวเล็กที่มาด้วยกัน
“ไปเถอะค่ะ ชมพูจะไปซื้อขนมแล้วมานั่งเล่นแถวนี้แหละ” หญิงสาวชี้ไปที่เก้าอี้โซฟาที่อยู่ใกล้เป็นการบอกเขา
ชายหนุ่มพยักหน้ารับแล้วรีบวิ่งไปที่ลิฟต์ รอจนลิฟต์เปิดก็รีบก้าวเข้าไป สายตาคมมองร่างเล็กที่ยังยืนมองเขาอยู่แล้วพยักหน้าให้เขาสบายใจ
หลังจากที่ประตูลิฟต์ปิดลง ชมพูแพรก็เดินออกไปที่ร้านสะดวกซื้อที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของโรงพยาบาล ซื้อขนมและเครื่องดื่มหลายอย่าง ก่อนจะกลับมานั่งรออยู่ที่เก้าอี้โซฟา
“สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ พอดีมานั่งรอคุณหมอน่ะค่ะ”
“รอคุณหมอเหรอคะ คุณหมอท่านไหนคะ”
“คุณหมอหนึ่งค่ะ”
“เอ่อ คุณหมอไม่มีเวรนะคะ อ๋อ เคสผ่าตัดใช่ไหมคะ”
“ค่ะ”
“ถ้างั้นมีอะไรก็เรียกได้นะคะ”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเห็นหญิงสาวนั่งคนเดียวอยู่นานก็เดินเข้ามาสอบถาม จนเมื่อได้ความว่าเธอมารอคุณหมอหนุ่มสุดหล่อที่เพิ่งถูกตามมารับเคสผ่าตัดก็ยิ้มให้แล้วกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง แต่ก็ไม่วายคอยมองหญิงสาวเป็นระยะ
ชมพูแพรนั่งกินขนมแล้วนั่งเล่นโทรศัพท์รออยู่แบบนั้น จนกระทั่งใกล้สว่างก็เห็นร่างสูงเดินออกมาจากลิฟต์
“ไปเถอะ กลับบ้านกัน”
“ค่ะ”
หญิงสาวขยับตัวลุกขึ้น ดวงตากลมโตมองใบหน้าหล่อเหลาที่มีอาการเหนื่อยล้า เธอเดินตามเขาไปที่รถ แล้วเปิดประตูเข้าไปนั่ง แต่ก็ยังคอยมองเขาด้วยความเป็นห่วง
“ขับไหวใช่ไหมคะ”
“สบายมาก”
“ชมพูขับให้ไหม”
“วันนี้ไม่เป็นไร เอาไว้วันไหนเหนื่อยๆ จะให้ชมพาขับให้นะ”
“ค่ะ”
“กลับบ้านกัน”
เขาพูดจบก็เหยียบคันเร่งเคลื่อนตัวออกจากที่จอดรถไป โดยมีชมพูแพรนั่งคุยเป็นเพื่อนไปตลอดทาง
“นอนต่อเถอะ”
“แล้วพี่ล่ะ”
“คงนอนต่อได้สัก เดี๋ยวก็กลับไปโรงพยาบาล”
“อื้ม”
เมื่อกลับมาถึงที่ห้อง ชยกรแยกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะกลับเข้ามาในห้องของหญิงสาว เขารอให้เธอเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับมาที่เตียง เขาถึงได้ล้มตัวลงนอน
หญิงสาวตัวเล็กนอนอยู่สักพักก็หลับไปอีกครั้ง และหลังจากที่เธอหลับไป ท่อนแขนแข็งแรงก็โอบกอดร่างบอบบางเอาไว้ราวกับกลัวว่าเธอจะหายไป
คนตัวเล็กถูกอุ้มมาวางที่พื้นใต้ฝักบัว มือหนาเปิดน้ำให้ไหลลงมาชำระล้างคราบเหงื่อไคล มือใหญ่ลูบไล้เรือนกายบอบบาง ปลายนิ้วเขี่ยปลายยอดดอกบัวตูมอวบเล่นจนมันเป็นไต“พอแล้วค่ะ หมดแรงแล้วนะคะ” เจ้าของร่างบางจับมือหนาของสามี พึมพำพูดเบาๆ ตาใกล้จะปิดลงเต็มทีชยกรก้มลงอ้าปากงับปลายยอดสีชมพูสวยเบาๆ ลิ้นหนาไล้วนรอบๆ มือบีบเคล้นดอกบัวตูมอวบใหญ่ล้นมือรุนแรงจนเป็นรอยมืออีกข้างที่ว่างอยู่เคลื่อนลงไปที่ช่องทางชื้นแฉะ สอดลึกเข้าไปข้างในทีเดียว 2 นิ้ว ทำให้สายธารขาวขุ่นที่ยังค้างอยู่ข้างในไหลออกมาตามเรียวขาสวย“อื้ออออ” ร่างบางหงายเอนศีรษะ หลับตาครางเสียงแผ่ว“อีกสักรอบนะคะ” ฝ่ามืออบอุ่นเอื้อมปิดน้ำ ช้อนอุ้มร่างเล็กขึ้นพิงหลังกับผนัง แขนแกร่งช้อนใต้ขาเรียว พร้อมกับดันแก่นกายร้อนเข้าไปทีเดียวสุดลำในท่าอุ้มแตง“อ๊ายยยย” ชมพูแพรหวีดร้องเสียงดัง แขนคล้องคอหนาช่วยพยุงตัวเองใบหน้าหล่อเหลาโน้มตัวก้มหน้าไปแนบจุมพิตเร่าร้อน ลิ้นหนาสำรวจโพรงปากนุ่มจนทั่ว กระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กปลุกเร้าอารมณ์ สะโพกสอบขยับโยกเบาๆหญิงสาวร้องครางในลำคอ ท่านี้ลำเนื้อของเขาเข้าไปลึก จนเธอเสียววูบวาบไปทั้งตัว ในช่องท้องแน่นจนอึดอัด“รว
“ออกัสล่ะคะ” ชมพูแพรเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่เธอออกมาจากห้องน้ำ แล้วเจอสามีนั่งอยู่ในห้อง“หลับไปแล้วค่ะ” ชยกรบอกภรรยาสาวก่อนจะลุกไปโอบเอวบางเอาไว้หลวมๆหลังจากคลอดออกัสได้ไม่นาน รูปร่างของชมพูแพรก็เข้าที่อย่างรวดเร็ว อาจจะเพราะเธอดูแลลูกชายด้วยตัวเอง มีพี่เลี้ยงคอยช่วยหยิบจับบ้างเล็กน้อย กับนอนเป็นเพื่อนหนูน้อยยามค่ำคืนเท่านั้น“ชมพู ออกัส 3 ขวบแล้วนะ” มือหนาหมุนร่างคนตัวเล็กให้หันหน้ามาหาเขา ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงอ้อนๆ“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”“พี่ว่ามีน้องให้ออกัสได้แล้วมั้งคะ ออกัสจะได้มีเพื่อนไง”“แต่ออกัสยังเด็กอยู่เลย ถ้ามีน้องให้ออกัส ชมพูก็ต้องแบ่งเวลาให้น้อง ชมพูกลัวออกัสจะน้อยใจค่ะ”“ไม่หรอก พี่ว่าชมพูคิดมากไปนะ”“แต่.....”“ไม่แต่แล้วครับ ออกัสอยากมีน้องแล้วนะ”ชยกรช้อนอุ้มร่างบางที่สัดส่วนเต็มล้นขึ้นเดินตรงไปที่เตียง วางหญิงสาวลงเบาๆ ก่อนจะกระตุกกระโปรงชุดนอนตัวบางขึ้นเล็กน้อย ปลายนิ้วเกี่ยวแพนตี้ตัวจิ๋วออกอย่างรวดเร็ว“พี่หนึ่ง” เสียงหวานใสเอ่ยเรียกตั้งใจจะปรามสามี แต่ขาเรียวแยกออกจากกัน“ว่ายังไงคะ” ชยกรซุกใบหน้าลงดอมดมดอกไม้งามตรงหน้าอย่างหลงใหลลิ้นหนาร้อนผ่าวไล้เลียเกสรสีสวย
พยาบาลหลายคนที่เห็นภาพตรงหน้าต่างปิดปากด้วยความปลื้ม พวกเขาไม่ได้คิดว่าหญิงสาวคนนี้คือภรรยาของชยกร บุตรชายเพียงคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้เมื่อถึงเวลาเข้าห้องคลอด หลังจากที่ทำการบล็อกหลังเรียบร้อย ชยกรก็ถูกตามเข้ามาในห้องคลอด เขามีอาการตื่นเต้นเมื่อเห็นภรรยาสาวกำลังนอนรอคลอดอยู่บนเตียงร่างสูงเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ตรงเหนือศีรษะภรรยาสาวที่พยาบาลจัดเตรียมเอาไว้ให้ มือข้างที่ไม่ได้ติดที่วัดหัวใจกับที่วัดความดันสอดประสานจับมือใหญ่เอาไว้แน่น จนเมื่อหมอเข้ามาและทำการทดสอบว่ายาออกฤทธิ์เรียบร้อยแล้ว จึงเริ่มทำการผ่าคลอด“เป็นยังไงบ้างคะ”“คลื่นไส้ค่ะ”“อดทนอีกนิดเดียวนะ”“ค่ะ”ชมพูแพรเริ่มหน้าซีดเมื่ออยู่ๆ เธอก็มีอาการเวียนหัวรุนแรงและเริ่มหายใจไม่ออก“พี่หนึ่ง ชมพูหายใจไม่ออก”“แป๊บนะ คุณพยาบาลครับ คุณแม่หายใจไม่ออกครับ”“สักครู่นะคะ” พยาบาลหันไปมองหน้าจอแสดงผลของเครื่องต่างๆ ที่ติดตามตัวหญิงสาว ก่อนจะหยิบหน้ากากออกซิเจนมาและใส่ให้เธอ“คุณแม่ใส่หน้ากากออกซิเจนหน่อยนะคะ”หญิงสาวพยักหน้าและหลับตาลง เธอรับรู้แค่เพียงว่ามือของสามีกำลังบีบมือเธออยู่ ข้างใบหูของเธอมีเสียงกระซิบให้กำลังใจไ
เช้าวันต่อมา ชมพูแพรตื่นมาพร้อมกับอาการปวดเมื่อยตัวจากการรับศึกหนัก ยามที่เธอยังไม่ได้ตั้งครรภ์ก็ไม่ได้อ่อนเพลียขนาดนี้ อีกวันเธอยังสามารถลุกไปทำงานไหว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะอ่อนล้าไปหมด“ตื่นแล้วเหรอคะ”“.....” ดวงตากลมโตมองค้อนสามีด้วยความหมั่นไส้ เพราะเขาเล่นงานจนเธอแทบจะหลับคาอกเขาด้วยซ้ำ“อย่าเพิ่งงอนพี่เลยนะคะ กินข้าวเช้าบำรุงตัวเล็กก่อนค่อยงอนต่อนะ”“มันน่างอนนานๆนะคะ”“เอาน่า มาฮันนีมูนนะคะ จะขาดได้ยังไง”“ก็เกินไปค่ะ”“พี่ไม่ได้มีเวลาพาชมพูไปเที่ยวบ่อยนี่คะ สงสารพี่เถอะนะ”“ไม่ค่ะ”“ใจร้ายจัง เอาล่ะ ลุกมากินข้าวก่อนค่อยงอนต่อนะคะคนสวย”หญิงสาวถอนหายใจกับความมึนของสามี แต่ก็ยอมลงจากเตียงแล้วไปกินข้าวเช้าตามที่เขาบอกแต่โดยดี โดยมีสามีหนุ่มใส่เสื้อผ้าให้เธอหลังจากที่ก้าวเท้ามายืนชยกรพาหญิงสาวลงมากินข้าวที่ชั้นล่าง นั่งดื่มกาแฟเป็นเพื่อนเธอจนกระทั่งกินข้าวเสร็จ จึงเก็บล้างจานแล้วพากันออกไปเดินเล่นสองหนุ่มสาวเดินไปริมชายหาด ที่ที่เขาและเธอคิดว่ามันสวยที่สุด ท้องฟ้าเป็นสีคราม สวยงามอย่างที่หาได้น้อยครั้งจากในเมืองมือใหญ่จับจูงมือเล็กเดินเคียงข้างกัน ชยกรกับชมพูแพรยิ้มให้กันด้
วงแขนเรียวคว้าคอหนาเอาไว้แน่น เมื่อร่างเธอถูกอุ้มขึ้นโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ชยกรก้าวเท้าออกจากอ่างอาบน้ำมายืนหน้ากระจกบานใหญ่ตรงบริเวณพื้นที่อาบน้ำใต้ฝักบัวที่ส่องเห็นทั้งตัวภายในห้องน้ำ โดยที่ลำกายยังฝังอยู่ในช่องทางคับแน่นชมพูแพรหวีดเสียงแหลมเมื่อยามที่สามีก้าวเดิน มันเสียววูบจนเธอแหงนหน้ากัดปาก จิกเล็บลงบนท่อนแขนแน่น“ลองดูสิคะ สวยนะ ภาพที่มันกำลังอยู่ข้างใน” ดวงตากลมโตปรือขึ้นมองภาพในกระจกเป็นภาพที่ผู้หญิงคนหนึ่งโดนอุ้มกระเตงจากทางด้านหลัง ขาอ้าออกกว้างมีแขนสอดรับใต้ข้อพับขา โดยมีแท่งเนื้ออวบใหญ่สอดใส่คาอยู่ในร่างกาย กลีบดอกไม้คลี่ออกจากกันตามขนาดของลำเนื้อแข็งขึง ใบหน้าหวานแดงก่ำ ปรือตากัดปาก ราวกับเจนจัดเรื่องบนเตียง“ให้ตายเถอะ ยั่วเก่งจัง” เสียงนุ่มนวลครางกระเส่ากับภาพตรงหน้าเขาถอดถอนตัวเองออก ขยับร่างบางวางลงยืนกับพื้น จับสะโพกกลมให้แอ่นลอยขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะจับท่อนเนื้อลำใหญ่จ่อไปที่ปากทางคับแคบ หญิงสาวครางในลำคอ ก่อนจะร้องวี้ดออกมา เมื่อเขากดกระแทกท่อนเนื้อเข้าไปทีเดียวมิดลำ“อ๊ายยย เบาหน่อยค่ะ มันจุก”ร่างสูงย่อขาลง แอ่นสะโพกสอบในท่างัดขึ้นให้ปลายหัวหยักครูดกับข้างใน
หลายเดือนผ่านไป หลังจากที่เสร็จสิ้นพิธีหมั้นและงานเลี้ยงฉลองแต่งงาน บ้านที่ชมพูแพรกับชยกรปลูกเอาไว้ก็เสร็จพอดี ทั้งสองคนย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านใหม่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก ส่วนชมพูแพรก็ลาออกจากงานตามที่สามีและครอบครัวร้องขอหญิงสาวตามเขาไปโรงพยาบาลเกือบทุกวัน ส่วนใหญ่ก็ไปช่วยจัดการเรื่องเอกสารรวมถึงแปลงานจากหนังสือวิจัยที่อยู่ในงานที่ต้องทำของเขาด้วยชมพูแพรเป็นผู้หญิงรูปร่างบาง หน้าท้องของเธอจึงยังไม่นูนออกถึงแม้ว่าเธอจะตั้งครรภ์ได้ 16 สัปดาห์แล้วก็ตาม ยามที่เธอออกไปข้างนอกจะไม่มีใครมองออกเลยว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ หญิงสาวจึงต้องติดเข็มกลัดเอาไว้เพื่อความปลอดภัย“ไปไหนคะ” ชมพูแพรถามเขาหลังจากที่รถยนต์คันหรูเคลื่อนออกมาจากลานจอดรถของโรงพยาบาล แต่ไม่ได้ตรงกลับบ้านเหมือนดังเช่นทุกวัน“ไปฮันนีมูนค่ะ” เขาบอกเธอพร้อมกับยิ้มอบอุ่น“หืม พี่หนึ่งทำงานเกือบทุกวัน จะไปทำไมคะ น่าจะพักเหนื่อย”“ไม่ได้สิคะ พี่ก็อยากพาเมียพี่ไปเที่ยวบ้าง อยู่แต่บ้านกับโรงพยาบาล เดี๋ยวจะพาลเบื่อพี่เสียก่อน”“.....”“ล้อเล่นจ้ะ พี่เห็นชมพูไม่ได้ไปไหนนานแล้ว เลยจะพาไปเที่ยว”“ค่ะ” คนตัวเล็กพยักหน้ารับ ก่อนจะปรับเบ