หากพระเจ้ากำหนดพรหมลิขิตในเส้นทางรักครั้งนี้ ได้โปรดอย่าใจร้ายกับพวกเขานักเลย ความรักที่มีแต่ความซับซ้อนหากจุดจบคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นเช่นไรโปรดติดตาม #สุดขอบฟ้านับดาว
View Moreตอนที่ 1 เราสองคนไม่รู้จักกันดีที่สุดแล้ว
บนโลกใบนี้ต่างมีสิ่งลึกลับที่ซับซ้อนให้เราออกค้นหาอีกมากมายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด นั้นคุณเชื่อเรื่องสิ่งลี้ลับที่มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าหรือไม่ ถ้าหากคุณเชื่อคุณอาจจะถูกกล่าวหาว่าเป็นคนงมงายกับพลังงานที่ไม่มีอยู่จริงแต่ถ้าหากผมบอกว่าเป็นหนึ่งในพลังงานนั่นล่ะ คุณคิดเห็นเช่นไร? “ไอ้นับดาว นับ ดาว!” “ห๊ะ ว่าไง” “เหม่ออะไรของดาวเนี่ย เลิกงานแล้ว ถึงเวลากลับบ้านๆ” และเป็นอีกเช่นเคยเสียงของเพื่อนสนิทของผมได้เรียกให้ออกจากความคิด “วันศุกร์แล้วเว้ยย กลับกัน รถต้องติดมากแน่ๆ”หนึ่งหรือหนึ่งเดียวเพื่อนสนิทที่อยู่มาด้วยกัน เราสองคนมีชีวิตที่คล้ายๆ กันถึงเป็นเพื่อนกันได้จนถึงทุกวันนี้ ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ ผมมีชื่อว่านับดาวหรือใครต่างก็เรียกสั้นๆ ว่าดาว แต่ชื่อนี้ผมไม่อยากให้ใครเรียกเลยจริงๆ เพราะเก็บเอาไว้ให้คนๆ หนึ่งที่ใจร้ายกับผมมากๆ เลย แต่ก็แปลกใจมากเลยล่ะครับเพราะผมก็รอให้เขากลับมาใจร้ายอีกครั้ง ผมเคยมีความรักเราสองคนคบหากันมานานเกือบสามปีแต่แล้วเขาคนนั้นก็ได้หายจากผมไปแบบไร้ร่องรอย ไม่ว่าผมจะตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอเลย และดูเหมือนครอบครัวของเขาคนนั้นก็ได้หายจากไปจากชีวิตผมจนน่าแปลกใจ นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วล่ะครับที่ไม่ได้เจอเขา และหวังว่าสักวันผมกับเขาได้กับมาเจอกันอีกครั้ง ถ้าหากมีวันนั้นอยู่จริงผมอยากจะถามเขาสั้นๆ ว่าเขาหายไปไหน ทำไมถึงทิ้งผมไป? “แล้วจะไปไหนต่อ?”คำถามจากหนึ่งทำให้ผมถอนหายใจออกมาอีกรอบ “ไปมหาลัยล่ะมั้ง คาเฟ่เปิดใหม่ ไปด้วยกันไหม?” “ไปทำไมทุกวันอ่ะ ไม่เบื่อเหรอ หรือไปติดเด็กมหาลัย!”ความคิดอกุศลก็มีแค่หนึ่งนี่แหละครับ คิดมาได้ยังไงว่าผมจะไปหาเด็ก “บรรยากาศดีเฉยๆ หนึ่งไม่อยากกลับไปเป็นเด็กเหรอ วัยนั้นสนุกจะตาย”จริงๆ แล้วชีวิตวัยเรียนของผมไม่ได้สบายแบบเพื่อนรุ่นเดียวกันหรอกครับเพราะผมเป็นเด็กกำพร้าครอบครัวทิ้งผมไว้คนเดียวเพียงลำพังหน้าศูนย์กำพร้าแห่งหนึ่งในเมืองหลวง “จะว่าไปมันก็ผ่านมาสองปีแล้วนี่นา ที่พวกเราเรียนจบมา”หนึ่งเดียวพูด “อือ ฝนจะตกแล้วหนึ่งรีบกลับเถอะเดี๋ยวรถจะติดเอาเพราะต้องกลับบ้านไปหาพ่อแม่เย็นวันศุกร์ใช่ไหม?” “เออว่ะ นั้นเราไปก่อนนะ ดาวก็อย่าตากฝนนะรู้ไหม”หนึ่งเดียวคว้ากระเป๋าพร้อมวิ่งหากจุกตูดออกไปแล้วล่ะครับ ทิ้งไว้เพียงผมที่นั่งเก็บกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวไปคาเฟ่ในมหาลัยใกล้ๆ บริษัท Happy milk café “Happy milk ยินดีต้อนรับค่ะ วันนี้รับโกโก้เย็นทานเช่นเดิมไหมคะ”เสียงพนักงานต้อนรับอย่างเป็นกันเองเมื่อเห็นนับดาวเดินเข้ามาในร้าน “เหมือนเดิมครับ” “ทั้งหมด 160 บาท รับใบเสร็จแล้วรอสักครู่นะคะ”เมื่อจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยแล้วนับดาวได้เดินไปยังจุดรอรับเครื่องดื่ม เย็นวันศุกร์กับท้องฟ้าที่เริ่มมืดเพราะเมฆฝนจึงทำให้ลูกค้าในร้านไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ถ้าเทียบกับวันที่อากาศสดใสกว่านี้ ในทุกๆ วันนับดาวมักจะเดินมาสั่งเครื่องดื่มแล้วก็ไปนั่งทานตรงเก้าอี้ภายในสวนของทางมหาลัยที่เปิดให้นักศึกษาหรือบุคคลภายนอกมาพักผ่อนหย่อนใจ “คิวที่ 105 ได้แล้วค่ะ”เสียงพนักงานเรียกทำให้นับดาวต้องหลุดจากความคิดอีกก่อนจะเดินไปรับเครื่องดื่มแล้วเดินไปยังสวนที่พูดถึง “เห่ออ สบายใจจัง”ลมยามเย็นถึงแม้เมฆฝนกำลังจะเทลงมาแต่ไม่ได้ทำให้คนตัวเล็กหวั่นใจเลยสักนิด พร้อมดูดโกโก้แสนอร่อยในมือ “ไม่อยากกลับไปห้องเลย พระเจ้าครับอย่าฉี่รดลงมาได้ไหม ผมอยากนั่งตรงนี้ต่อ”นับดาวเงยหน้าขึ้นบนฟ้าพร้อมเอ่ยปากขอ “ฮ่า ฮ่า แปลกจังนะคุณ ห้ามพระเจ้าฉี่ มีแต่เมฆฝนก่อตัวรวมกัน ฝนเลยตกต่างหากไม่มีหรอกพระเจ้าฉี่ลงมาน่ะ”เสียงบุคคลมาใหม่ทำให้นับดาวหันไปมองด้วยความไม่พอใจ “อะไรของคุณอาจารย์เนี่ย มาขัดความสบายใจของผมทำไม” “ไม่ไปหาที่หลบฝนเหรอ?” “เรื่องของผมเถอะน่า แล้วไม่กลับบ้านเหรอครับคุณอาจารย์” “ผมมีสอนภาคค่ำต่อ แล้วคุณล่ะ วันศุกร์แล้วทำไมไม่รีบกลับบ้านไปทำอย่างอื่น?” “ไม่ ผมอยากมานั่งตรงนี้ สบายใจของผม คุณอาจารย์ยุ่งอะไรด้วยเนี่ย” “ผมว่า ผมเคยบอกชื่อคุณไปแล้วนะ ทำไมถึงเรียกว่าคุณอาจารย์ล่ะ?”เป็นอีกครั้งที่อาจารย์ตรงหน้าถามด้วยความสงสัย “ไม่เอาอ่ะ ก็คุณดูสุภาพเกินผมอยากเรียกอาจารย์นำหน้าดีกว่า” “ดื้อ” “…”ประโยคนี้สำหรับคนรักกันไม่ใช่เหรอ เหตุใดอาจารย์หนุ่มตรงหน้าถึงมาพูดกับนับดาวแบบนี้ “โทษที ใบหน้า คำพูดของคุณมันเหมาะกับคำนี้จริงๆ นะ”เมื่อเห็นอีกคนนิ่งเงียบไป อาจารย์หนุ่มก็รีบแก้ตัวด้วยความเขินอาย “ผมโตแล้วนะ ไม่ได้เด็กแล้วที่จะมาดื้อ”ถ้าหากการปั้นปากขึ้นด้านบนด้วยความหงุดหงิดเป็นกีฬานับดาวคงได้รับเหรียญทองแล้วจริงๆ “เราสองคนเจอกันตรงนี้แทบทุกวันเลย อีกอย่างผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลยนะครับไม่คิดจะบอกผมหน่อยเหรอ”คนโตกว่าถามทุกครั้งที่เจอแต่อีกคนไม่ยอมบอกชื่อเล่นให้เขาฟังเลย “อย่ารู้จักกันเลย ผมว่าเราสองคนเป็นคนแปลกหน้านี่แหละดีแล้ว” “แล้วถ้าหากผมอยากรู้จักคุณล่ะ”เป็นอีกครั้งที่อาจารย์หนุ่มถามเพราะพวกเขาสองคนพบเจอกันตรงสวนหย่อมพักผ่อนแห่งนี้นานนับหลายสัปดาห์ แต่ก็ไม่ได้ทำความรู้จักกันจริงๆ เสียที “อ้าว ไปไหนครับ?”อาจารย์หนุ่มรีบถามเมื่อเห็นคนตัวเล็กกว่าสะพายกระเป๋าเตรียมเดินออกไป “…..”นับดาวไม่ได้ตอบคำถามและรีบเดินออกมาจากเก้าอี้ในสวนหย่อมอย่างเร็วที่สุดโดยไม่หันกลับไปมองอาจารย์หนุ่มคนเดิมอีกเลย “อะไรของเขานะ แต่ผมชื่อน่านฟ้านะครับ หวังว่าเราจะเจอกันอีกนะ”อาจารย์น่านฟ้าตะโกนชื่อตนเองตามหลังคนที่เดินจากไปถึงแม้ว่าจะไม่ได้ยินก็ตามได้แต่หวังว่าเราสองคนจะได้เจอกันอีกนะ 1 อาทิตย์ต่อมา บริษัท xxx วันศุกร์ 31/07/25xx “ดาว มึงโดนอีกแล้วเหรอวะหัวหน้ามึงคนดีของมึง”หนึ่งเดียวเดินเข้ามาที่โต๊ะทำงานของเพื่อนเมื่อได้ยินข่าวซุบซิบภายในออฟฟิศว่านับดาวโดนต่อว่าเรื่องงานในที่ประชุม “อือ ชินแล้ว”เสียงถอนหายใจของผมดังขึ้นเป็นรอบที่สิบของวันก็ว่าได้ ตั้งแต่เปลี่ยนหัวหน้าคนใหม่ผมมีความรู้สึกว่าเขามีความอคติอะไรบางอย่างในตัวผมเลยครับ แต่ก็ปล่อยผ่านเพราะสุดท้ายต่างก็ต้องการให้งานออกมาดีที่สุดอยู่แล้วเรื่องจุกจิกเช่นนี้ผมไม่คิดจะสนใจอยู่แล้ว “มึงจะทนได้ไหวเหรอวะ ความกดดันที่เขาสะสมให้มึงมันจะไม่ดีเอานะ” “ไม่เป็นไรเลย แค่นี้กูสบายมาก” “วันศุกร์แล้ว วันนี้ไปหาอะไรอร่อยๆ กินกัน กูเลี้ยงมึงเอง”ผมรู้ว่าหนึ่งเดียวพยายามทำให้ผมไม่คิดมาก แต่ผมไม่อยากรบกวนมันหรอกครับเรื่องแค่นี้เอง ใครบ้างทำงานไม่เคยโดนหัวหน้าด่า ถ้าไม่มีเลยคนนั้นก็คงเป็นยอดมนุษย์แล้วล่ะ “ไม่เป็นไรมึง เย็นนี้มีแผนแล้ว”ผมปฏิเสธเพื่อนไป เพราะวันนี้ร้าคาเฟ่ที่ผมไปประจำเขาจัดโปรโมชั่นพิเศษซึ่งผมตั้งใจจะไปหาซื้อเค้กมาตุนไว้ในช่วงวันหยุด “คาเฟ่อีกละ มีอะไรให้มึงไปหนักหนาเนี่ย”หนึ่งเดียวมันบ่นผมอีกตามเคยที่ทุกวันศุกร์ไม่เคยไหนกับมัน “เรื่องของกูนี่แหละ ทำงานๆ เดี๋ยวหัวหน้าก็มากินหัวอีกหรอก”ผมไล่ไอหนึ่งเดียวกลับไปที่โต๊ะทำงานเพราะมันทำงานคนละแผนกถ้าหากเดินมาคุยและนานเช่นนี้จะทำให้ดูไม่ดียิ่งช่วงนี้ผมโดนหัวหน้าเพ่งเล็งเป็นพิเศษด้วย “นับดาว พี่ออมเรียก”รุ่นพี่ในแผนกเดินมาตามผมตามคำสั่งหัวหน้า “ครับ”ผมตอบกลับพร้อมด้วยใบหน้าเหนื่อยหน่ายเล็กน้อยอีกทั้งต้องเตรียมใจที่จะเผชิญความกดดัน และได้แต่ท่องในใจว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็เลิกงานแล้วผมจะได้เป็นอิสระกลับไปพักผ่อนแล้ว “มาแล้วครับ”นับดาวเดินเข้ามาในห้องของหัวหน้าฝ่าย “นับดาว งานที่พี่ให้ไป ทำถึงไหนแล้ว”หัวหน้าของนับดาวเอ่ยคำถามทันที “ผมยังไม่เริ่มเลยครับ”นับดาวตอบ “คุณทำงานแบบนี้ไง พี่ถึงต้องคอยด่าและต่อว่าคุณตลอด เมื่อไหร่คุณจะทำให้พี่สบายใจสักที” “แต่พี่ออมพึ่งสั่งผมเมื่อชั่วโมงที่แล้วนะครับ ผมก็มีงานอื่นที่ต้องเคลียร์ไม่ได้มีงานนี้งานเดียว อีกอย่างมันมีเวลาอีก สองวันก่อนส่งเสนออีกรอบนะครับ”นับดาวตอบกลับไป “นี่คุณ! กล้าเถียงหัวหน้าเหรอคะ นั้นพี่ขอสั่งให้ทำงานนี้ให้เสร็จภายในวันนี้ ถ้าไม่เสร็จก็ไม่ต้องกลับบ้านค่ะ พี่จะเอาภายในวันนี้” “ครับ”ดูเหมือนยิ่งเถียงงานก็ยิ่งเพิ่ม สิ่งที่นับดาวทำได้ดีที่สุดคือการพยักหน้ารับแล้วยอมรับชะตากรรมของตัวเองเท่านั้น “ออกไปทำงานของคุณได้แล้วค่ะ”นับดาวเดินออกมาจากห้องทำงานก่อนจะเดินมามายังโต๊ะทำงานของตนเอง สายตานับหลายสิบคู่จ้องมองมาที่นับดาวเพราะห้องของหัวหน้าไม่ได้เก็บเสียง ดังนั้นเหตุการณ์เมื่อครู่ทุกคนได้ยิน 2 ชั่วโมงผ่านไป “นับดาว งานเสร็จยัง ไปกินข้าวเที่ยงกัน”หนึ่งเดียวเดินมาหาเพื่อน “มึงไปก่อนเลย งานกูยังไม่เสร็จว่ะ”นับดาวเร่งหาข้อมูลที่พี่ออมต้องการจึงไม่อยากพักเบรกในตอนนี้ “เออๆ กูจะไปสั่งข้าวมึงจะกินอะไร กูจะซื้อมาให้เลย” “ข้าวผัดแล้วกันง่ายๆ ดี”หนึ่งเดียวพยักหน้ารับแล้วรีบเดินออกไปซื้อข้าวมื้อเที่ยงให้กับเพื่อนรักของตน “นับดาว งานสรุปภาพรวมเดือน กรฏาคม พี่ขอก่อนบ่ายสองนะคะ เพราะต้องเข้าประชุมด่วนกับผู้บริหาร”เสียงที่นับดาวไม่อยากได้ยินมากที่สุดคือพี่ออมที่เอาแต่สั่งงานแสนโหดให้แก่เขา “ครับ”แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องก้มหน้ารับชะตากรรมตนเองเพราะเมื่อช่วงเช้าเผลอเถียงไปยกใหญ่ แต่ก็เอาเถอะขอแค่ผ่านวันนี้ไปก็พอเพราะต้องเริ่มใหม่ในทุกๆ วันอยู่แล้วเพราะฉะนั้นความเครียดในวันนี้ให้มันจบเพียงวันนี้ไม่ควรสะสมไปวันพรุ่งนี้ 17.00 น. “เสร็จสักที”นับดาวมองผลงานของตนในหน้าจอคอมพิวเตอร์พร้อมยิ้มอย่างภูมิใจที่อย่างน้อยๆ เขาก็ทำงานให้หัวหน้าเสร็จถึงแม้ว่าจะไม่ได้พักเที่ยงเลยก็ตาม ข้าวที่หนึ่งเดียวซื้อให้ตอนมื้อเที่ยงยังคงตั้งไว้อยู่ที่เดิม “กินสักหน่อยดีกว่า”นับดาวถือถุงกล่องข้าวก่อนจะเดินไปยังโรงอาหารของบริษัทเพื่อนั่งทานข้าวมื้อเที่ยงและเย็นในมื้อเดียวกัน “ไอ้ดาว แอบอยู่นี่เอง มึงรู้ไหม พี่ออมตามหามึงไปทั่วเลย”หนึ่งเดียวเดินตามหาเพื่อนจนเจอที่โรงอาหารซึ่งกำลังนั่งทานข้าวอยู่ “คงเรียกให้แก้งาน แต่กูไม่แก้ละถึงเวลาเลิกงานแล้ว ไม่ทำโอทีฟรีด้วย วันจันทร์ค่อยว่ากัน”นับดาวถือว่าตอนนี้เป็นนอกเวลางานแล้วเพราะฉะนั้นเขาจะไม่กลับไปแตะงานอีกเด็ดขาด “เออๆ แต่เขาก็กลับไปแล้วล่ะ พอไม่เจอมึง”หนึ่งเดียวพูดต่อ “อือ จะ ห้าโมงครึ่งยัง กูต้องไปหยิบคิวซื้อเค้ก” “มึงนี่นะ ก่อนจะถามเวลา กินข้าวให้มันหมดก่อน”นับดาวรีบตักข้าวคำสุดท้ายเข้าปากก่อนจะเก็บกล่องโฟมใส่ข้าวไปทิ้งเพราะต้องรีบไปหยิบบัตรคิวซื้อขนมเค้ก “ฝนจะตกอีกแล้วมึงเอาร่มไปด้วยไหม”หนึ่งเดียวตะโกนตามหลังเพื่อถามเพื่อนที่รีบก้าวเดินไปคาเฟ่ในมหาลัยใกล้ๆ “ไม่ๆๆๆ ไปแล้ว จะไม่ทันเอา”นับดาวกึ่งเดินกึ่งวิ่งเพราะกลัวไม่ทันและเมื่อมาถึงก็ต้องใจหายเพราะมีคนต่อคิวรอเยอะจนแอบท้อ เค้กที่เขาชอบทานจัดโปรโมชั่นและกลัวว่ามันจะหมดไปเสียก่อน “หานี่อยู่เหรอ”เสียงทุ้มดังจากด้านหลังนับดาวทำให้อีกคนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนแววตาเป็นประกายเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือคนตรงหน้า “นี่!! คุณอาจารย์ เหมาเค้กมาหมดเลยเหรอ” “ใจเย็นๆๆ ผมซื้อมาเผื่อคนแถวนี้ ก็ห้าโมงผมไม่เจอคุณมายืนต่อแถวนี่นา ก็เลยซื้อเผื่อไว้ให้ แต่ก็ไม่คิดว่าคุณจะมาจริงๆ ผมดีใจนะที่ได้เจอคุณอีก” “คุณอาจารย์รู้ได้ไงว่าผมชอบเค้กรสชาตินี้” “ก็ผมเห็นคุณถือมันทุกวันตอนเย็น ใครไม่รู้สิแปลก”น่านฟ้าพูด “เออคุณ กินเค้กทุกวันแบบนี้มันไม่ดีต่อสุขภาพนะ” “ผมก็กินนิดหน่อยแล้วออกกำลังกายนะ”เพราะเค้กคือสิ่งโปรดปรานมากที่สุดเพราะฉะนั้นใครก็มาห้ามไม่ได้ “ฝนตกแล้วหาที่หลบฝนเถอะ”คนโตกว่าถือวิสาสะคว้าแขนเล็กให้วิ่งไปหาที่หลบฝนกับเขาเพราะขืนตากฝนคงมีป่วยกันแน่นอน “ตกหนักเลยแหะ”นับดาวลูบแขนของตนเองเบาๆ เพื่อไล่หยดน้ำฝนที่เกาะอยู่ “อ๊ะ ทำไรครับ”คนตัวเล็กกว่าถามเสียงหลงพร้อมมองเสื้อคลุมตัวใหญ่ที่คลุมไหล่ของตนอยู่ “คุณจะหนาวเอา” “ขอบคุณครับ”และทั้งสองคนก็เงียบไปไม่มีเสียงใดๆ หลุดออกมามีเพียงสายฝนที่กำลังเทลงมา จนเวลาผ่านไปไม่มีวี่แววว่าฝนจะหยุดได้เลย “น่านฟ้า ชื่อของผม”แต่แล้วน่านฟ้าก็ทนไม่ไหวจึงต้องชวนคุยเพราะบรรยากาศจะเงียบและชวนอึดอัดเกิน “อายุเท่าไหร่เหรอครับ”เป็นครั้งแรกที่น่านฟ้ารู้สึกใจเต้นแรงเป็นพิเศษเพราะคนข้างกายยอมปริปากพูดกับเขาดีๆ “32 ปี เป็นอาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ แล้วคุณล่ะครับ” “ทำไมถึงอยากเป็นอาจารย์เหรอครับ”คนตัวเล็กไม่ตอบคำถามกลับกับกลายเป็นฝ่ายตั้งคำถามออกไป “ความชอบล่ะมั้ง ผมชอบสอนหนังสือคนอื่น โตมาเลยเป็นอาจารย์” “ดีแล้วล่ะครับ พ่อแม่คุณคงภูมิใจ ฝนหยุดตกแล้วผมต้องขอตัวก่อนขอบคุณสำหรับเค้กที่ซื้อให้นะครับ”นับดาวพูดพร้อมถอดเสื้อคลุมตัวหนาส่งคืนเจ้าของแล้วเตรียมเดินออกไป “เดี๋ยวสิ ขี้โกงหนิ คุณถามแต่ผม แต่ผมไม่ได้คำตอบจากคุณเลย” “นับดาว ผมชื่อนับดาวครับ แต่เราสองคนอย่ารู้จักกันเลย มันอาจจะมีเรื่องราวที่ทำให้พวกเราต้องเสียใจทั้งคู่ก็ได้ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น ขอตัวนะครับ” TBCตอนที่ 6 เดทแรกของเราสอง (?)วันเสาร์ 09.00“รีบไปไหนน่ะลูก”เสียงคุณแม่เอ่ยปากทักลูกชายที่ดูรีบร้อนคล้ายจะออกไปด้านนอก“พอดีมีนัดน่ะครับ วันนี้ผมกลับช้านะ”น่านฟ้าพูดพร้อมยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินไปยังรถที่ถูกเตรียมเอาไว้โดยคนรับใช้พร้อมขับออกไป ปล่อยให้คุณพ่อและคุณแม่ยืนมองด้วยความงุนงงเช้าวันนี้คงเป็นวันที่สดใสมากกว่าที่ผ่านมาเพราะน่านฟ้าได้ไปตามนัดหมายคนสำคัญที่เฝ้ารอมานานนับเดือน กว่าจะมีวันนี้ได้เขาเองก็ทรมานไม่น้อย หลายคนอาจจะงงว่าทำไมน่านฟ้าไม่คิดจะตามหาคนรักเก่าและเลือกจะเชื่อคำพูดของแม่ น่านฟ้าเองก็อยากจะตามหาแต่ในเมื่อเขาเลือกจะทิ้งช่วงนอนป่วยติดเตียงเพื่อไปมีชีวิตที่สบายไม่ต้องมาดูแลเขาเหตุผลเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่ทำให้น่านฟ้าไม่หันกลับไปมองรักเก่า และอีกอย่างชีวิตในตอนนี้เขาได้พบเจอความรักอย่างนับดาวจึงคิดว่าควรอยู่กับปัจจุบันดีกว่า หากวันหนึ่งเขาบังเอิญได้พบเจอกับคนเก่าก็คงได้แต่แสดงความยินดีที่ไปมีชีวิตใหม่และก็ขอบคุณที่ทิ้งกันไป ทำให้เขาได้เจอความรักครั้งใหม่อย่างนับดาว“รออยู่ตรงที่เดิมสินะ”น่านฟ้าสลัดความคิดในอดีตทิ้งก่อนจะพูดเบาๆ กับตนเองเมื่อเดินมาแล้วมาเจอนับดาวซ
ตอนที่ 5 แฟนเก่าที่หายตัวไปของนับดาววันศุกร์ 10:00วันนี้ยังคงเป็นอีกหนึ่งวันที่แสนน่าเบื่อสำหรับคนทำงานเพราะอากาศที่ไม่เป็นใจสายฝนเทลงมาตั้งแต่เช้าตรู่จนตอนนี้ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดเลย น่านฟ้าต้องตื่นตั้งแต่เช้าเพราะเขามีคลาสสอนนักศึกษา ด้วยสภาพแวดล้อมฝนตกหนักแบบนี้ทำให้นักเรียนของตนหลายคนมาสายหรือเลือกจะลาหยุด เขาเข้าใจดีเพราะสมัยเขายังเป็นเด็กก็เคยทำเช่นนั้นมาก่อน“วันนี้ฝนตกผมไม่เช็คชื่อก็แล้วกัน แต่รอบหน้าต้องเข้าเรียนให้ครบกันด้วยนะครับ”น่านฟ้าเริ่มสอนและนักเรียนกลับชอบวิชานี้เป็นอย่างมากเพราะบางครั้งการใช้จิตวิทยาในการสื่อสารย่อมเป็นผลดีและอีกทั้งการเดาใจมนุษย์เป็นสิ่งที่ท้าทายในความสามารถมากจริงๆและมันก็ช่างแปลกเพราะน่านฟ้ามีทักษะการสื่อสารเป็นอย่างดีแต่ทำไมเวลาอยู่กับนับดาวถึงใช้ไม่ได้ผลกันนะ สงสัยเจอกันรอบหน้าต้องใช้หัวใจสื่อสารกันเสียแล้วแต่อีกคนจะยอมให้เขาเจอหรือเปล่านั่นก็อีกเรื่อง“อาจารย์คะ สไลด์สอนหมดแล้ว อาจารย์จะปล่อยเลยไหมคะ”นักศึกษาถาม“เหลือเวลาอีก 20 นาทีพวกคุณอยากรู้เรื่องไหนบ้างล่ะ หรือหิวข้าวอยากเลิกเร็ว?”“หิวข้าวครับ อาจารย์”และเสียงส่วนมากลงมติกันว่าขอเลิกเ
ตอนที่ 4 แฟนเก่าที่ทิ้งไปเช้าวันต่อมา8.30 น.เช้าวันนี้เป็นอีกวันที่แสนหนักหน่วงสำหรับนักศึกษาทุกคนเนื่องจากเป็นวันสอบปลายภาคก่อนจะปิดการศึกษา และน่านฟ้าต้องมาคุมสอบแต่ระหว่างทางที่เดินไปห้องสอบนั้นได้เจอกับนักศึกษาภาควิชาของตน“อาจารย์คะ ข้อสอบยากไหม”นักศึกษาคนหนึ่งเดินเข้ามาถามเพราะตอนนี้ยังคงเหลือเวลาก่อนจะเข้าห้องสอบ“ตามที่ผมสอนนอกจากพวกคุณหลับและแอบเล่นโทรศัพท์ในคาบผมจึงทำไม่ได้”“โหห จาร พวกผมนิสัยดีสุดแล้วคร้าบ”นักศึกษาผู้ชายอีกคนพูดขึ้น“อ้อ มึงๆ รู้หรือเปล่า รุ่นพี่ปี 4 คณะวิศวะ ที่มาเรียนกับพวกเราเขาเสียชีวิตแล้วนะ”เสียงนักศึกษาพูดกันทำให้น่านฟ้าสนใจเป็นอย่างมาก“คนไหนเหรอ”น่านฟ้าถาม“คนนั้นที่ชอบนั่งหลบมุมอ่ะค่ะอาจารย์ ที่เขามาเรียนได้สองคาบแล้วก็ถอนวิชานี้ไป”เพราะวิชาของน่านฟ้าเป็นวิชาทั่วไปสำหรับเก็บหน่วยกิตวิชาเสรีจึงมีนักศึกษาต่างคณะมาเรียนบ่อย“ครับ เข้าห้องสอบกันเถอะ ถึงเวลาแล้ว”น่านฟ้าพูด ก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปทำหน้าที่ของตนเองต่อและพยายามไม่คิดมากกับสิ่งที่ได้ยิน จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงนักศึกษาต่างก็ทยอยส่งข้อสอบเพราะหมดเวลาแล้ว อาจารย์หนุ่มเก็บข้อส
ตอนที่ 3 สายฝนกับการรอคอยวันศุกร์สุดสัปดาห์ของใครหลายมาถึงวันนี้ท้องฟ้าอากาศไม่เป็นใจสำหรับคนที่ออกไปทำกิจกรรมเท่าไหร่นักเพราะเมฆฝนกำลังก่อตัวขึ้นอีกแล้ว หลังจากสอนนักศึกษาในวิชาประจำของตนเสร็จเรียบร้อย น่านฟ้ารีบเดินกลับมายังห้องทำงานเพื่อเคลียร์งานที่ค้างคาเอาไว้ส่งกับภาควิชาที่สังกัดอยู่พร้อมจิตใจกำลังจดจ่อไปยังสวนและค่าเฟ่เพื่อหวังจะพบเจอกับคนตัวเล็กอีกครั้ง“เสร็จเรียบร้อย”น่านฟ้ามองผลงานของตนก่อนจะส่งอีเมล์ให้กับทางหัวหน้าภาควิชาพร้อมเก็บกระเป๋าเตรียมตัวเลิกงาน“อาจารย์น่านฟ้า รีบไปไหนครับเนี่ย เย็นนี้พวกผมไปร้านอาหารย่านบรรทัดทองกัน กะจะชวนอาจารย์ไปด้วย”เสียงของเพื่อนร่วมงานทัก“พอดีผมรีบไปทำธุระน่ะครับ ไว้วันหลังนะ”น่านฟ้าพูดพร้อมเดินออกไปจากห้องทำงานทิ้งไว้แต่เพื่อนร่วมงานที่มองมาอย่างงุนงง พักหลังมานี้ชวนไปไหนน่านฟ้าก็ไม่ได้ไปกับพวกเขาเลยแต่สำหรับน่านฟ้านั้นเขาไม่ได้สนใจว่าเพื่อนร่วมงานจะมองยังไงเพราะสุดท้ายคนสำคัญคงเป็นนับดาวคนที่เขาเฝ้าคิดถึงนานนับอาทิตย์และอยากถามไถ่อีกคนว่าหายไปไหน ทำงานเหนื่อยไหม ได้ตากฝนบ้างหรือเปล่าเมื่อมาถึงก็เจอคาเฟ่ที่กำลังจัดโปรโมชั่นเค้กสูตรพ
ตอนที่ 2 อดีตของอาจารย์หนุ่มบริษัท“เช้าวันจันทร์ผ่านไป เมื่อไหร่จะถึงวันศุกร์สักที”เสียงของหนึ่งเดียวบ่นข้างๆจนแอบรำคาญเล็กน้อยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะสิ่งที่มันพูดคือเรื่องจริง ผมเองก็รอวันศุกร์เพราะเป็นวันแห่งสุดสัปดาห์ที่ชอบที่สุด “ดาว มึงไปไหนต่อ”“กูน่าจะลับหอเลย”ผมตอบหนึ่งเดียวไป แต่ความจริงวันนี้ผมไม่มีแผนจะไปไหนหรอกครับอาจจะไม่มีที่ไปก็ว่าได้“เออๆ อีก 20 นาทีก็เลิกงานละ งานมึงเสร็จแล้วใช่ไหม”หนึ่งดียวถามพร้อมจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ของผม“วันนี้พี่ออมลา กูเลยสบายหน่อยไม่มีงาน ไม่วุ่นวาย”การทำงานมันไม่ได้ยากหรอกหากเราเข้าใจจุดงานตนแต่สำหรับผมสิ่งที่มันยากคือหัวหน้านั่นแหละครับวุ่นวายรายวันจนผมรู้สึกปวดหัวและอยากถึงเวลาเลิกงานเร็วๆ“อือ กูคงไปโรงพยาบาล”“หือ ไปหาใคร”ผมเอียงคอถามเพื่อนสนิทเพราะสงสัยว่ามีใครป่วยหรือเปล่าแต่ก็ไม่ได้คำตอบเพราะหนึ่งเดียวมีสายเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของมันก่อนและเดินออกไปจากโต๊ะทำงานผมทำเหมือนการพูดคุยเมื่อครู่มีผมเป็นอากาษเท่านั้น17:00 น.มหาวิทยาลัย“เอาล่ะเด็กๆ ท้ายคาบตามสัญญาจะมีสอบเก็บคะแนน”สิ้นเสียงอาจารย์ประจำวิชานักศึกษาต่างพากันร้องอย่างคร่ำคร
ตอนที่ 1 เราสองคนไม่รู้จักกันดีที่สุดแล้วบนโลกใบนี้ต่างมีสิ่งลึกลับที่ซับซ้อนให้เราออกค้นหาอีกมากมายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด นั้นคุณเชื่อเรื่องสิ่งลี้ลับที่มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าหรือไม่ ถ้าหากคุณเชื่อคุณอาจจะถูกกล่าวหาว่าเป็นคนงมงายกับพลังงานที่ไม่มีอยู่จริงแต่ถ้าหากผมบอกว่าเป็นหนึ่งในพลังงานนั่นล่ะ คุณคิดเห็นเช่นไร?“ไอ้นับดาว นับ ดาว!”“ห๊ะ ว่าไง”“เหม่ออะไรของดาวเนี่ย เลิกงานแล้ว ถึงเวลากลับบ้านๆ” และเป็นอีกเช่นเคยเสียงของเพื่อนสนิทของผมได้เรียกให้ออกจากความคิด“วันศุกร์แล้วเว้ยย กลับกัน รถต้องติดมากแน่ๆ”หนึ่งหรือหนึ่งเดียวเพื่อนสนิทที่อยู่มาด้วยกัน เราสองคนมีชีวิตที่คล้ายๆ กันถึงเป็นเพื่อนกันได้จนถึงทุกวันนี้ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ ผมมีชื่อว่านับดาวหรือใครต่างก็เรียกสั้นๆ ว่าดาว แต่ชื่อนี้ผมไม่อยากให้ใครเรียกเลยจริงๆ เพราะเก็บเอาไว้ให้คนๆ หนึ่งที่ใจร้ายกับผมมากๆ เลย แต่ก็แปลกใจมากเลยล่ะครับเพราะผมก็รอให้เขากลับมาใจร้ายอีกครั้งผมเคยมีความรักเราสองคนคบหากันมานานเกือบสามปีแต่แล้วเขาคนนั้นก็ได้หายจากผมไปแบบไร้ร่องรอย ไม่ว่าผมจะตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอเลย และดูเหมือ
Comments