ตอนที่ 10: ความจริงที่ถูกพันธนาการ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะที่ประจงนั่งอยู่ในห้องทำงาน สันต์ ผู้ช่วยคนสนิทรีบรายงานด้วยน้ำเสียงร้อนรน “พี่ประจง เราได้รับข้อมูลว่ามีการเคลื่อนไหวจากคนของสุริยัน พวกเขาส่งคนติดตามพี่และครอบครัว” “ฉันเดาไว้แล้ว” ประจงตอบเสียงเรียบ “พวกมันกลัวความจริงจะเปิดเผย แต่ฉันไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้” เขาลุกขึ้นหยิบเอกสารคดีดวงจันทร์จากโต๊ะ ก่อนจะสั่งการ “เพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยรอบบ้าน อย่าให้ใครเข้ามาได้ง่ายๆ” ในค่ำคืนที่เงียบสงัด รถยนต์คันหนึ่งแล่นมาจอดหน้าบ้านของประจง ชายชุดดำก้าวลงมาและพยายามแทรกตัวเข้ามา แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเจ้าหน้าที่ที่ประจงวางไว้รอบบ้านปรากฏตัวพร้อมอาวุธครบมือ “ถอยออกไปจะดีกว่า ถ้าไม่อยากให้ข่าวเรื่องนี้เล็ดรอดออกไป.” สันต์พูดเสียงหนักแน่น ชายชุดดำรีบล่าถอยไป แต่ประจงรู้ดีว่า นี่เป็นเพียงการข่มขู่เบื้องต้น เขาต้องเตรียมพร้อมสำหรับศึกใหญ่ที่กำลังจะมาถึง วันรุ่งขึ้น อาทิตย์ตัดสินใจออกจากบ้านเพื่อซื้อหนังสือเล่มใหม่ เขาเดินเข้าไปในร้านหนังสือเล็กๆ ที่เขากับดวงจันทร์เคยมาเป็นประจำ ขณะที่เขากำลังเลือกหนังสืออยู่ เขาเหลือบเห็นดาวเหนือกำลังยืนอ่านหนังสืออยู่ในมุมหนึ่ง “ดาวเหนือ..” อาทิตย์พึมพำกับตัวเอง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้เจอเด็กหนุ่มคนนี้ซ้ำๆ ดาวเหนือเหลือบเห็นอาทิตย์เช่นกัน เขาเผลอยิ้มออกมาและเดินเข้าไปหา “พี่อาทิตย์...เราพบกันอีกแล้วนะครับ” ดาวเหนือกล่าวด้วยน้ำเสียงร่าเริง อาทิตย์พยักหน้า “ใช่...ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะเล่นตลกกับเรา” ขณะสนทนา ดาวเหนือยื่นหนังสือเล่มหนึ่งให้อาทิตย์ “เล่มนี้ดีมากนะครับ พี่เคยอ่านมั้ยครับ” อาทิตย์รับมาและนิ่งไปชั่วครู่ นี่เป็นหนังสือที่เขาเคยให้ดวงจันทร์อ่านให้ฟังบ่อยๆ ความทรงจำเก่าๆ ถาโถมเข้ามา “เคย...” เขาตอบเบาๆ ก่อนจะมองดาวเหนือด้วยสายตาที่เริ่มเปลี่ยนไป ในอีกฟากหนึ่ง ประจงเริ่มตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสุริยัน เขาค้นพบว่าชายคนนี้มีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองที่ใช้อำนาจในทางที่ผิดมาหลายปี ประจงยังคงศึกษาคดีดวงจันทร์ เขาได้หลักฐานใหม่ที่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในคืนเกิดเหตุ เผยให้เห็นว่า สุริยันอยู่ในที่เกิดเหตุและพยายามปกปิดความผิด “ถึงเวลาที่ฉันจะต้องทำให้ทุกคนรู้ความจริง” ประจงพูดกับตัวเอง เขาสั่งทีมสืบสวนให้เริ่มกระจายข่าวนี้อย่างระมัดระวัง ในคืนนั้น หลังกลับจากร้านหนังสือ ดาวเหนือนั่งอยู่ในห้องนอน เขามองหนังสือเล่มที่เขาแนะนำให้อาทิตย์ด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ “ทำไมฉันถึงรู้สึกผูกพันกับเขา...เหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน” เขาหลับตาลงและฝันถึงภาพผู้หญิงคนหนึ่งอีกครั้ง ผู้หญิงที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอบอุ่น เธอยืนอยู่ข้างชายคนหนึ่งที่ดูคุ้นตา แต่เมื่อพยายามมองให้ชัดขึ้น ภาพนั้นกลับเลือนราง ขณะเดียวกัน อาทิตย์นั่งอยู่ปลายเตียงในสภาพเปลือยท่อนบน เขาหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาเปิดอ่าน ความทรงจำเกี่ยวกับดวงจันทร์กลับมาชัดเจนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับดาวเหนือ “จันทร์..หัวใจของคุณกำลังทำอะไรกับดาวเหนือ" การที่ดาวเหนือเลือกที่หยิบหนังสือเล่มนี้ให้เขา มันต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ ในเช้าวันถัดมา ประจงเรียกดาวเหนือมาพูดคุย “เหนือ พ่อมีข่าวดี เรากำลังจะได้หลักฐานสำคัญเกี่ยวกับคดีดวงจันทร์” “จริงหรอครับพ่อ” ดาวเหนือรู้สึกตื่นเต้น “ผมอยากให้ความยุติธรรมเกิดขึ้นกับเธอจริงๆ” ประจงพยักหน้า “แต่ลูกต้องระวังตัว ช่วงนี้อย่าไว้ใจใครง่ายๆ อีกฝ่ายคงไม่หยุดแค่การข่มขู่” ดาวเหนือรับคำ เขาเริ่มรู้สึกถึงความสำคัญของการค้นหาความจริง ไม่ใช่เพียงเพื่อดวงจันทร์ แต่เพื่อหัวใจที่เขาได้รับมา ในขณะเดียวกัน ดาวเหนือเดินเข้าไปในคาเฟ่เดียวกัน เขากำลังจะนั่งที่มุมโปรดของเขา เมื่อสายตาของเขาจับจ้องไปที่อาทิตย์ ที่นั่งอยู่เพียงลำพัง ทั้งสองสบตากันครู่หนึ่ง และในที่สุดดาวเหนือก็ตัดสินใจเดินเข้าไปที่โต๊ะของอาทิตย์ “พี่อาทิตย์...” เขาพูดเสียงเบา แต่มันเต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง อาทิตย์เงยหน้าขึ้นและมองหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า รู้สึกเหมือนกับว่ามีบางอย่างในตัวเขาเรียกร้องให้เขาเข้าใกล้ดาวเหนือ “ดาวเหนือ” อาทิตย์ถามต่อ เขาไม่สามารถห้ามความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นในใจ ดาวเหนือหลบสายตาไปชั่วขณะ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ อาทิตย์ “ผมไม่เคยรู้ว่า...หัวใจของเธอจะมีความสำคัญกับใครคนหนึ่งมากขนาดนี้” อาทิตย์รู้สึกถึงแรงกระเพื่อมในหัวใจของเขา เขาจำได้ว่าดวงจันทร์เคยบอกให้เขาอ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะมันเป็นเรื่องที่เธอชอบมาก ก่อนที่ทุกอย่างจะพังทลายลงเพราะอุบัติเหตุ “นาย...รู้สึกถึงดวงจันทร์บ้างมั้ย” อาทิตย์ถาม รู้สึกถึงแรงดึงดูดบางอย่างที่บังคับให้เขาถามคำถามนี้ ดาวเหนือมองไปข้างนอกหน้าต่างของคาเฟ่ เหมือนเขากำลังพยายามหาคำตอบในความเงียบ “ผมฝันถึงเธอทุกคืน...เหมือนเธอยังอยู่ข้างๆ ผม แต่...บางครั้งก็รู้สึกว่า...เธอมีบางอย่างที่ยังไม่บอกผม” อาทิตย์สัมผัสได้ถึงความจริงจังในคำพูดของดาวเหนือ และรู้สึกว่ามีบางอย่างเชื่อมโยงพวกเขาทั้งสองเข้าด้วยกันในทางที่เขายังไม่เข้าใจ ในอีกด้านหนึ่ง ประจงเริ่มต้นการเคลื่อนไหวที่เสี่ยงยิ่งขึ้นในการสืบสวนคดีของดวงจันทร์ เขาได้เบาะแสที่สำคัญจากแหล่งข่าวในวงการตำรวจ สุริยัน ไม่ใช่แค่ลูกนักการเมืองชั่ว แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายที่ใหญ่กว่านั้น ซึ่งใช้อำนาจเพื่อปกป้องตัวเองและครอบครัว “สุริยันไม่ใช่คนธรรมดา และเราต้องเตรียมตัวรับมือให้ดี” ประจงพูดกับสันต์ ลูกน้องใต้บังคับบัญชาที่เขาไว้ใจมากที่สุด "ครับพี่" สันต์รับคำ เขาตัดสินใจใช้เครือข่ายตำรวจที่ซื่อสัตย์ของเขาในการขุดคุ้ยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุริยัน รวมถึงข้อมูลที่เชื่อมโยงกับการปกปิดคดีของดวงจันทร์ ประจงตระหนักดีว่า การเดินหน้าสืบสวนในครั้งนี้อาจนำภัยมาสู่ตัวเขาและครอบครัว แต่เขาไม่ยอมให้ความยุติธรรมถูกบดบังอีกต่อไป และเขาจะไม่ยอมให้ดาวเหนือผิดหวังในตัวเขาเด็ดขาด หลังจากการพบกันที่ร้านหนังสือ อาทิตย์และดาวเหนือเริ่มนัดพบกันบ่อยขึ้น แม้จะไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจน แต่ทั้งสองรู้สึกถึงความสบายใจที่เกิดขึ้นเมื่ออยู่ใกล้กัน " พี่เคยคิดไหมว่า หัวใจของคนเราสามารถจดจำอะไรได้หลายอย่าง " ดาวเหนือถามขึ้นในขณะที่กำลังนั่งอยู่ในสวนสาธารณะ ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง " หึ..ไม่รู้สิ บางทีหัวใจอาจจะมีวิธีของมันในการจดจำอะไรบางอย่าง" อาทิตย์หันมองเด็กหนุ่ม คำถามที่เริ่มวนเวียนอยู่ภายในใจเขา ความผูกพันที่มองไม่เห็นระหว่างตัวเขากับคนข้างๆเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่เขาไม่แทนที่สังเกตเลยสักนิด ดาวเหนือมองชายหนุ่มด้วยความรู้สึกซับซ้อน เขาเริ่มรู้สึกถึงบางอย่างที่ไม่ใช่แค่ความผูกพันธรรมดาทั่วไป มันเหมือนความรู้สึกบางอย่างที่หัวใจของเขากำลังเรียกร้อง...ไม่สิ.. ต้องบอกว่ามันเป็นความรู้สึกของดวงดาวต่างหากคำเตือน : ฉากความสัมพันธ์ทางเพศอย่างโจ่งแจ้ง20++ยามพระอาทิตย์ตกดิน ค่ำคืนมิดมาเยือน สายลมพัดผ่านผ้าม่านมู่ลี่เข้าไปในห้อง ปรากฏร่างทั้งสองกอดนัวเนียกันอยู่บนเตียงกว้าง ริมฝีปากสัมผัสกันอย่างหยาบโลน มือแกร่งลูบไล้ไปตามร่างกายของคนรัก "อื้อ!.." ร่างขาวสะดุ้งเฮือกเมื่อคนพี่ลูบรั้งเสื้อสีขาวสะอาดตาขึ้นจนมากองที่ปลายคาง ก่อนถอนจูบออกเลื่อนลงไปครอบครองยอดอกสีเข้ม มีนิ้วมืออีกข้างก็ไปสะกิดยอดอกอีกข้างระรัว อาทิตย์รัวลิ้นลงยอดอกก่อนจะลากลิ้นลงมาหยุดอยู่สะดือแล้ววนจูบบริเวณนั้นหลายรอบ ใบหน้าเลื่อนขึ้นมาสบตาหวานฉ่ำของคนใต้ร่าง เอื้อมมือไปจับมือน้องมาดอมดมไล้สัมผัสตั้งแต่ปลายนิ้วจนถึงฝ่ามือแล้วก้มลงมาตะโบมจูบปากคนน้อง "อื้อ! " รสจูบที่หวานฉ่ำทำให้ดาวเหนือครางออกมา เรียวลิ้นของคนพี่ตวัดเกี่ยวพันอยู่ในปากของเขา มือเรียวยกมือขึ้นไปปลดซิปกางเกงให้คนด้านบน เสียงรูดซิปกางเกงดังขึ้น อาทิตย์รีบตะบบมือคนน้องไม่ให้มากไปกว่านี้ " ใจร้อน " คนพี่ว่าแต่ก็ยันตัวขึ้นไปถอดกางเกงออกตามใจคนน้อง เหลือเพียงกางเกงในสีดำสนิทติดท่อนล่างเอาไว้ ก่อนจะขยับตัวขึ้นคร่อมร่างน้องแล้วก้มลงไปจูบปากคนน้องหนักๆ " ชอบจ
ปัง!! ประตูห้องถูกปิดอย่างรุนแรงพร้อมร่างของทั้งสองนัวเนียกันอย่างไม่มีใครยอมใคร มือของดาวเหนือรุมปลดกระดุมเสื้อของคนพี่อย่างรวดเร็ว อาทิตย์ก็ไม่น้อยหน้าลอกคราบคนน้องจนตัวเปลือยเปล่าโดยที่ปากไม่ผละออกจากกันเลยแม้แต่น้อยริมฝีปากค่อยไปเลื่อนลงมาอยู่ที่ซอกคอพรมจูบไปทั่วจนขึ้นรอยๆ ประปราย ฝ่ามือกอบกุมแก่นกายขนากพอดีมือของคนน้องก่อนจะสาวขึ้นลงตามความยาวเรียงเสียงครางจากดาวเหนือได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ปากก็ค่อยๆ เลื่อนลงมาหยุดอยู่ตรงหน้าอก หัวนมสีเข้มเด่นชูชันล่อตาล่อใจ ลิ้นร้อนลากยาวไปวนหัวนมสีเข้ม อีกคนก็นิ้วมือของอาทิตย์เล่นงาน ดาวเหนือถูกเล่นงานทั้งบนทั้งล่างก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากส่งเสียงร้องคราง"อ๊า!" มือทั้งสองข้างขยุ้มผมคนพี่เพื่อระบายความเสียวซ่าน ก่อนจะใช่มือผลักอีกฝ่ายให้นอนราบกับพื้น ดาวเหนือนั่งคร่อมร่างสูงเอาไว้ นิ้วเรียวค่อยๆ ลากจากหน้าผาก จมูกโด่งสวย ริมฝีปากหนาเป็นทรงก่อนจะค่อยๆ เริ่มมาหยุดอยู่ตรงหัวเข็มขัด ในขณะที่เขาเปลือยเปล่าไปทั้งตัว แต่อีกคนกลับเปลือยแค่ท่อนบน ดาวเหนือจงใจบดสะโพกเสียดสีแก่นกายใหญ่ของอีกคนที่อยู่ใต้ร่มผ้าอย่างช้าๆ เรียกเสียงครางในลำคอของคนพี่ได้เป็นอย่าง
นับตั้งแต่นั้นมาอาทิตย์ก็เข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านของดาวเหนือและประจงกับดวงดาราก็รับรู้และอนุญาตให้ชายหนุ่มได้เข้ามาพักอาศัย ทางด้านอาทิตย์ไม่ต้องอาศัยอยู่ที่บ้านคนรัก เขาก็ไม่ได้นิ่งดูดาย วันไหนที่เขาว่างเขาก็จะลุกเข้าครัวมาทำอาหาร ด้วยฝีมือทำอาหารของเขาทำให้ผู้อาวุโสทั้งสองติดใจรถมือของอาทิตย์เป็นอย่างมาก แล้ววันไหนที่เลิกงานไม่ดึก หรือไม่ติดทำโอที เขาก็จะไปรับดาวเหนือที่มหาวิทยาลัยเป็นประจำ " มื้อเย็นของวันนี้เป็นอะไรดีครับ" ชายหนุ่มหันมาถามคนน้อง ในขณะที่กำลังขับรถกลับบ้าน " อืม....อะไรก็ได้ครับ ถ้าได้กินฝีมือพี่ ผมชอบกินทุกอย่างเลย" ได้ยินคำตอบของคนน้อง เขาก็ยิ้มบางๆ "ปากหวานแบบนี้ แสดงว่าอยากกินเมนูพิเศษแน่ๆ ใช้ไหม" ดาวเหนือหันไปมองชายหนุ่มด้วยสายตาซุกซน "ก็พี่ทำอะไรก็อร่อยนี่ครับ จะเมนูธรรมดาหรือพิเศษ ผมก็กินหมด""งั้นวันนี้พี่ขอลองทำแกงส้มชะอมกุ้งดีไหม หรืออยากกินแบบฝรั่งบ้าง" เขาถาม พร้อมเอื้อมมือมาปรับแอร์ให้เย็นขึ้น"แกงส้มก็ดีครับ ผมชอบกินชะอม แต่...ถ้าพี่เหนื่อยจากงาน ไม่ต้องทำก็ได้นะครับ เราสั่งอะไรง่ายๆ มากินก็ได้""ไม่เหนื่อยหรอก พี่อยากทำให้เหนือกับพ่อแม่ได้กินอาห
คิดถูกหรือคิดผิดนะ....เบื้องหน้าเขาคือบ้านเดี่ยสองชั้น พื้นที่ไม่กว้างมากนัก มีสนามหญ้าและต้นไม้ใหญ่คอยให้ร่มเงา บ้านของคนรักของเขาเอง อาทิตย์ ไม่กี่วันก่อนอยู่ดีๆชายคนรักก็พูดขึ้นมาว่า"ไปบ้านพี่ไหม" ครั้งแรกที่ได้ยินเขาก็รู้สึกแปลกใจที่คนพี่ชวนเขาไปที่บ้าน และเขาก็ตอบตกลงไปทันที "พร้อมไหมครับ" อาทิตย์จับมือคนน้องแน่น พลางมองเข้าไปในตัวบ้านด้วยสายตามุ่งมั่น "พร้อมครับ" ทั้งสองประสานมือเข้าหากัน ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน "แก..พามันมาที่นี่ทำไม" ศักดิ์ชาย บิดาผู้ให้กำเนิดของอาทิตย์พูดขึ้นเสียงเย็น "น้อง..ไม่ใช่'มัน'นะครับพ่อ เขาคือคนที่ผมรัก พี่ผมพาน้องมาในวันนี้ก็เพราะอยากให้พ่อได้สัมผัสน้อง ได้รู้จักน้องมากขึ้น" ชายหนุ่มพูดเสียงเข้มพลางกุมมือน้องแน่นขึ้น ศักดิ์ชายยืนขึ้นด้วยความโกรธ ใบหน้าของเขาแสดงถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก"เด็กผู้ชายเนี่ยนะ ที่แกบอกว่ารัก ทุเรศ" "พ่อครับ..ให้เกียรติน้องหน่อยครับ" "ให้เกียรติหรอ..หึ!" ศักดิ์ชายหัวเราะในลำคอ ยืนกอดอกมองดาวเหนือด้วยแววตาเหยียดหยาม จนอาทิตย์เอาตัวเข้ามาบังน้องไว้ "อย่าใช้สายตามองน้องแบบนี้นะครับ" "ทำไมฉันจะมองไม่ได้... เพ
หลังจากจบคลาส ดาวเหนือเดินออกมาพร้อมเพื่อนๆ ทั้งสามคน เหล่านิสิตคนอื่นๆก็ทยอยออกจากห้อง"พวกมึง...ไปไหนกันต่อป่ะ" ชาญหันมาถามเพื่อนๆ “ไว้คราวหน้าละกันนะ เราต้องกลับบ้านก่อน” ดาวเหนือออกตัวคนแรก เขาไม่อยากเถลไถลทำให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วง"กูต้องไปทำงานพิเศษว่ะ...ตังไม่พอใช้" สาลี่ยิ้มแหย เอามือเกาแก้มเบาๆ ช่วงนี้เธอใช้เงินมือเติบไปหน่อย ไม่กล้าโทรไปขอแม่อีกเลยต้องหางานพาร์ทไทม์ทำ"อะไรวะ....แล้วมึงล่ะวายุ" ชาญหันมามองความหวังเดียวของเขา ทว่า....."กูก็ต้องกลับไปอ่านหนังสืออ่ะ...ไปก่อนนะ" วายุโบกมือลาชาญ ก่อนจะเดินกลับหอพักทันที ชาญที่มองเพื่อนๆแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง เขาคร่ำครวญออกมา"พวกแม่ง...ทิ้งกูเฉย" ว่าจะชวนไปเที่ยวสักหน่อย ดันมีเพื่อนเป็นพวกเด็กอนามัยซะได้ เซ็งจัด....ดาวเหนือออกมารอรถรับส่งบริเวณหน้าตึก เสียงริงโทนโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูปรากฏชื่อ _อาทิตย์_ นิ้วเรียวกดรับสายด้วยรอยยิ้ม"ว่าไงครับ" "กลับบ้านยังครับ" ปลายสายถามขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยน"ยังครับ....รอรถรับส่งอยู่" "งั้น..รอแป๊บนึงเดี๋ยวพี่ไปรับ" "ไม่เป็นไรครับ....พี่พักเถอะ" "ไม่เป็
แสงแดดอ่อนๆ ทอดยาวลงบนพื้นถนนหน้ามหาวิทยาลัย ดาวเหนือยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่บริเวณจุดรับส่งนักศึกษา หลังจากร่ำลาเพื่อนสนิททั้งสามสาลี่ วายุ และชาญที่แยกย้ายกลับบ้านคนละทาง“ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะเหนือ อย่าลืมเอาหนังสือที่อาจารย์แนะนำมาให้ดูด้วยล่ะ” สาลี่โบกมือลาเพื่อนๆเป็นคนสุดท้าย แล้วขึ้นรถของวินมอเตอร์ไซค์กลับหอพัก“ได้สิ แล้วเจอกันนะ” ดาวเหนือโบกมือลาเพื่อนสาว หลังจากที่เพื่อนทุกคนกลับไปหมดแล้ว ก็เหลือแต่เขาที่นั่งรออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ดาวเหนือเอามือล้วงหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าแล้วส่งข้อความหาคนรัก"ถึงไหนแล้วครับ" รอไม่นานนักก็มีข้อความเด้งเข้ามา“ถึงแล้วครับ ออกมารอได้เลย”ดาวเหนือหันซ้ายหันขวา ก่อนจะเห็นรถคันคุ้นเคยขับเข้ามาเทียบตรงหน้า เขาเปิดกระจกลงพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นที่เขาไม่เคยเบื่อมอง“คนหล่อขึ้นรถได้ครับ” อาทิตย์โผล่หน้าออกมาเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มให้คนรักอย่างอบอุ่น“แล้วคนไม่หล่อต้องนั่งท้ายกระบะไหมครับ” คนน้องทำหน้าเข้ม นั่งกอดอกมองคนในรถอย่างท้าทาย“แบบนี้..ต้องนอนใต้กระโปรงรถครับ" ซึ่งคำพูดของคนพี่ ดาวเหนือก็หลุดยิ้มออกมา "กวนนักนะ" "แล้วคนหล่อจะขึ้นรถไม่ได้หรือยังครับ..หรือ