ตอนที่ 6: เบาะแสและความผูกพันที่มองไม่เห็น
หลังจากที่ประจงรับปากจะช่วยลูกชาย เขาเริ่มสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับคดีอุบัติเหตุของดวงจันทร์ ด้วยประสบการณ์หลายปีในฐานะตำรวจที่มีจิตสำนึกและความยุติธรรม ประจงรู้ดีว่าคดีนี้ถูกปิดเงียบเพราะแรงกดดันจากเบื้องบน เขาเริ่มต้นด้วยการค้นหาข้อมูลในระบบของตำรวจเกี่ยวกับคดีนี้ ซึ่งไม่ยากเกินความสามารถของเขา แม้คดีนี้จะไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของเขาโดยตรง แต่ประจงพบรายงานที่ระบุชื่อของผู้ต้องสงสัย: “นายสุริยัน อัครเมธี” ลูกชายของนักการเมืองคนดังที่มีชื่อเสียงในวงการว่าเป็นคนซื่อสัตย์ แต่ในความเป็นจริงกลับมีอำนาจมืดแฝงอยู่ ขณะที่ประจงอ่านรายงาน เขาก็พบจุดแปลกประหลาด รายงานทั้งหมดดูเหมือนจะถูกจัดทำอย่างเร่งรีบ หลักฐานบางส่วนที่ควรมีในคดี เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิดและคำให้การของพยาน กลับไม่มีการบันทึกในไฟล์ "มันมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ" ประจงพึมพำกับตัวเอง เขาโทรหาเพื่อนตำรวจรุ่นน้องที่เคยดูแลคดีนี้ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม “สันต์ นายยังจำคดีรถชนที่มีชื่อดวงจันทร์ได้ไหม?” ปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงอึดอัด "พี่ครับ ผมแนะนำว่าอย่ายุ่งกับเรื่องนี้เลย มัน... มันซับซ้อนเกินไป มีคนใหญ่คนโตเข้ามาเกี่ยวข้อง พวกเขากดดันให้เราปิดคดีโดยไม่มีการสอบสวนเพิ่มเติม" "แต่คนตายไม่ได้รับความยุติธรรม นายไม่คิดเหรอว่ามันผิดปกติหรอ" สันต์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนตอบ "พี่พูดถูก แต่ผมกลัว ถ้าพี่จะทำเรื่องนี้ต่อ ผมแนะนำให้ระวังตัวด้วย" พูดจบปลายสายก็ตัดสายอย่างรับร้อนด้วยกลัวว่าตัวเองจะเดือดร้อน เมื่อสายถูกตัดประจงก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากสืบจากอำนาจที่เขามี ให้มันรู้ไปว่าอำนาจของเขากับอิทธิพลของพวกมันใครจะใหญ่กว่ากัน ในขณะเดียวกัน อาทิตย์ยังคงรู้สึกถึงความว่างเปล่าที่ดวงจันทร์ทิ้งไว้ แต่ในช่วงหลัง เขาเริ่มคิดถึงชายหนุ่มแปลกหน้าที่เจอในร้านหนังสือ ดาวเหนือ อาทิตย์นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นของตัวเอง มองหนังสือที่ดาวเหนือหยิบยื่นให้ในวันนั้น ความบังเอิญหรือความตั้งใจ เขาไม่แน่ใจ “ทำไมเขาถึงเลือกเล่มนี้...” อาทิตย์พึมพำ เขาเปิดหน้าหนังสือและเห็นข้อความที่ดวงจันทร์เคยเขียนไว้บนหน้ากระดาษ "ถึงคนที่ฉันรัก: ทุกคำในหนังสือเล่มนี้คือเสียงของหัวใจฉัน" ข้อความนั้นเหมือนสะกิดใจเขาให้กลับไปหาดาวเหนืออีกครั้ง วันรุ่งขึ้น อาทิตย์ตัดสินใจกลับไปที่ร้านหนังสือเดิม หวังว่าจะเจอชายหนุ่มคนนั้นอีกครั้ง แต่เขาเดินวนอยู่ในร้านนานเกือบชั่วโมงก็ไม่มีวี่แววของดาวเหนือ “เขาเป็นใครกันแน่…” - ที่บ้านของครอบครัวดาวเหนือ ประจงเรียกดาวเหนือเข้ามาพูดคุยในห้องทำงานหลังจากได้ข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับคดี “พ่อเจออะไรบางอย่างเกี่ยวกับคดีของดวงจันทร์ แต่ลูกต้องสัญญาก่อนว่าจะระวังตัว” ประจงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “พ่อเจออะไรครับ?” ดาวเหนือถามด้วยความตื่นเต้น “คนขับรถที่ชนเธอชื่อสุริยัน เป็นลูกชายนักการเมืองใหญ่ คดีนี้ถูกกดดันให้ปิดเร็วมาก และไม่มีหลักฐานอะไรเหลืออยู่เลย ทุกอย่างดูเหมือนถูกจัดฉาก” ดาวเหนือรู้สึกโกรธและผิดหวัง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมความอยุติธรรมถึงเกิดขึ้นได้ง่ายดายแบบนี้ “พ่อ ผมอยากช่วยเธอ ผมอยากให้ความยุติธรรมกลับมาหาเธอ” “พ่อเข้าใจลูก แต่ลูกต้องระวัง เพราะคนพวกนี้มีอำนาจมาก” "ผมจะระวังตัวครับ พ่อไม่ต้องเป็นห่วง" ในเย็นวันหนึ่ง ดาวเหนือไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะเพื่อสงบจิตใจ เขาหยุดเดินเมื่อเห็นชายคนหนึ่งนั่งอยู่ที่ม้านั่ง มองออกไปที่ทะเลสาบ เป็นอาทิตย์นั่นเอง เขามาที่นี่เพราะต้องการรำลึกถึงความทรงจำเก่าๆ กับดวงจันทร์ ดาวเหนือรู้สึกบางอย่างในใจที่ทำให้เขาตัดสินใจเดินเข้าไปทัก “คุณ...” ดาวเหนือพูดขึ้นเบาๆ อาทิตย์หันมามอง รู้สึกประหลาดใจที่เห็นดาวเหนืออีกครั้ง “เราพบกันอีกแล้ว” อาทิตย์พูดพลางยิ้มเล็กๆ ดาวเหนือพยักหน้า ก่อนจะถาม "คุณมาที่นี่บ่อยหรอครับ" “ ที่นี่มีความทรงจำของใครบางคนที่ผมไม่อยากลืม” คำพูดของอาทิตย์ทำให้ดาวเหนือรู้สึกถึงความเศร้าในน้ำเสียงของเขา แต่ก่อนที่บทสนทนาจะยาวไปกว่านี้ ดาวเหนือก็ตัดสินใจลุกขึ้น “ผมต้องไปแล้ว” อาทิตย์มองตามหลังดาวเหนือไป ความรู้สึกบางอย่างเริ่มชัดเจนขึ้นในใจ เขารู้สึกว่าดาวเหนืออาจเกี่ยวข้องกับดวงจันทร์ ไม่ทางใดก็ทางนึง ตกดึก ดาวเหนือนั่งอ่านข้อมูลเกี่ยวกับดวงจันทร์อีกครั้ง เขาเริ่มสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากลในรายงาน เขาตัดสินใจค้นข่าวเก่าๆ เกี่ยวกับสุริยัน และพบว่ามีข่าวลือเกี่ยวกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมของเขา แต่ทั้งหมดถูกปิดข่าวอย่างรวดเร็ว ในใจดาวเหนือเริ่มเกิดคำถามขึ้นว่า ทำไมเธอต้องเสียชีวิตเพราะคนที่ไร้ความรับผิดชอบพวกนี้ “คุณดวงจันทร์... ผมสัญญาว่าจะทำให้คุณได้รับความยุติธรรม” ชายหนุ่มให้สัญญาอย่างหนักแน่นคำเตือน : ฉากความสัมพันธ์ทางเพศอย่างโจ่งแจ้ง20++ยามพระอาทิตย์ตกดิน ค่ำคืนมิดมาเยือน สายลมพัดผ่านผ้าม่านมู่ลี่เข้าไปในห้อง ปรากฏร่างทั้งสองกอดนัวเนียกันอยู่บนเตียงกว้าง ริมฝีปากสัมผัสกันอย่างหยาบโลน มือแกร่งลูบไล้ไปตามร่างกายของคนรัก "อื้อ!.." ร่างขาวสะดุ้งเฮือกเมื่อคนพี่ลูบรั้งเสื้อสีขาวสะอาดตาขึ้นจนมากองที่ปลายคาง ก่อนถอนจูบออกเลื่อนลงไปครอบครองยอดอกสีเข้ม มีนิ้วมืออีกข้างก็ไปสะกิดยอดอกอีกข้างระรัว อาทิตย์รัวลิ้นลงยอดอกก่อนจะลากลิ้นลงมาหยุดอยู่สะดือแล้ววนจูบบริเวณนั้นหลายรอบ ใบหน้าเลื่อนขึ้นมาสบตาหวานฉ่ำของคนใต้ร่าง เอื้อมมือไปจับมือน้องมาดอมดมไล้สัมผัสตั้งแต่ปลายนิ้วจนถึงฝ่ามือแล้วก้มลงมาตะโบมจูบปากคนน้อง "อื้อ! " รสจูบที่หวานฉ่ำทำให้ดาวเหนือครางออกมา เรียวลิ้นของคนพี่ตวัดเกี่ยวพันอยู่ในปากของเขา มือเรียวยกมือขึ้นไปปลดซิปกางเกงให้คนด้านบน เสียงรูดซิปกางเกงดังขึ้น อาทิตย์รีบตะบบมือคนน้องไม่ให้มากไปกว่านี้ " ใจร้อน " คนพี่ว่าแต่ก็ยันตัวขึ้นไปถอดกางเกงออกตามใจคนน้อง เหลือเพียงกางเกงในสีดำสนิทติดท่อนล่างเอาไว้ ก่อนจะขยับตัวขึ้นคร่อมร่างน้องแล้วก้มลงไปจูบปากคนน้องหนักๆ " ชอบจ
ปัง!! ประตูห้องถูกปิดอย่างรุนแรงพร้อมร่างของทั้งสองนัวเนียกันอย่างไม่มีใครยอมใคร มือของดาวเหนือรุมปลดกระดุมเสื้อของคนพี่อย่างรวดเร็ว อาทิตย์ก็ไม่น้อยหน้าลอกคราบคนน้องจนตัวเปลือยเปล่าโดยที่ปากไม่ผละออกจากกันเลยแม้แต่น้อยริมฝีปากค่อยไปเลื่อนลงมาอยู่ที่ซอกคอพรมจูบไปทั่วจนขึ้นรอยๆ ประปราย ฝ่ามือกอบกุมแก่นกายขนากพอดีมือของคนน้องก่อนจะสาวขึ้นลงตามความยาวเรียงเสียงครางจากดาวเหนือได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ปากก็ค่อยๆ เลื่อนลงมาหยุดอยู่ตรงหน้าอก หัวนมสีเข้มเด่นชูชันล่อตาล่อใจ ลิ้นร้อนลากยาวไปวนหัวนมสีเข้ม อีกคนก็นิ้วมือของอาทิตย์เล่นงาน ดาวเหนือถูกเล่นงานทั้งบนทั้งล่างก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากส่งเสียงร้องคราง"อ๊า!" มือทั้งสองข้างขยุ้มผมคนพี่เพื่อระบายความเสียวซ่าน ก่อนจะใช่มือผลักอีกฝ่ายให้นอนราบกับพื้น ดาวเหนือนั่งคร่อมร่างสูงเอาไว้ นิ้วเรียวค่อยๆ ลากจากหน้าผาก จมูกโด่งสวย ริมฝีปากหนาเป็นทรงก่อนจะค่อยๆ เริ่มมาหยุดอยู่ตรงหัวเข็มขัด ในขณะที่เขาเปลือยเปล่าไปทั้งตัว แต่อีกคนกลับเปลือยแค่ท่อนบน ดาวเหนือจงใจบดสะโพกเสียดสีแก่นกายใหญ่ของอีกคนที่อยู่ใต้ร่มผ้าอย่างช้าๆ เรียกเสียงครางในลำคอของคนพี่ได้เป็นอย่าง
นับตั้งแต่นั้นมาอาทิตย์ก็เข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านของดาวเหนือและประจงกับดวงดาราก็รับรู้และอนุญาตให้ชายหนุ่มได้เข้ามาพักอาศัย ทางด้านอาทิตย์ไม่ต้องอาศัยอยู่ที่บ้านคนรัก เขาก็ไม่ได้นิ่งดูดาย วันไหนที่เขาว่างเขาก็จะลุกเข้าครัวมาทำอาหาร ด้วยฝีมือทำอาหารของเขาทำให้ผู้อาวุโสทั้งสองติดใจรถมือของอาทิตย์เป็นอย่างมาก แล้ววันไหนที่เลิกงานไม่ดึก หรือไม่ติดทำโอที เขาก็จะไปรับดาวเหนือที่มหาวิทยาลัยเป็นประจำ " มื้อเย็นของวันนี้เป็นอะไรดีครับ" ชายหนุ่มหันมาถามคนน้อง ในขณะที่กำลังขับรถกลับบ้าน " อืม....อะไรก็ได้ครับ ถ้าได้กินฝีมือพี่ ผมชอบกินทุกอย่างเลย" ได้ยินคำตอบของคนน้อง เขาก็ยิ้มบางๆ "ปากหวานแบบนี้ แสดงว่าอยากกินเมนูพิเศษแน่ๆ ใช้ไหม" ดาวเหนือหันไปมองชายหนุ่มด้วยสายตาซุกซน "ก็พี่ทำอะไรก็อร่อยนี่ครับ จะเมนูธรรมดาหรือพิเศษ ผมก็กินหมด""งั้นวันนี้พี่ขอลองทำแกงส้มชะอมกุ้งดีไหม หรืออยากกินแบบฝรั่งบ้าง" เขาถาม พร้อมเอื้อมมือมาปรับแอร์ให้เย็นขึ้น"แกงส้มก็ดีครับ ผมชอบกินชะอม แต่...ถ้าพี่เหนื่อยจากงาน ไม่ต้องทำก็ได้นะครับ เราสั่งอะไรง่ายๆ มากินก็ได้""ไม่เหนื่อยหรอก พี่อยากทำให้เหนือกับพ่อแม่ได้กินอาห
คิดถูกหรือคิดผิดนะ....เบื้องหน้าเขาคือบ้านเดี่ยสองชั้น พื้นที่ไม่กว้างมากนัก มีสนามหญ้าและต้นไม้ใหญ่คอยให้ร่มเงา บ้านของคนรักของเขาเอง อาทิตย์ ไม่กี่วันก่อนอยู่ดีๆชายคนรักก็พูดขึ้นมาว่า"ไปบ้านพี่ไหม" ครั้งแรกที่ได้ยินเขาก็รู้สึกแปลกใจที่คนพี่ชวนเขาไปที่บ้าน และเขาก็ตอบตกลงไปทันที "พร้อมไหมครับ" อาทิตย์จับมือคนน้องแน่น พลางมองเข้าไปในตัวบ้านด้วยสายตามุ่งมั่น "พร้อมครับ" ทั้งสองประสานมือเข้าหากัน ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน "แก..พามันมาที่นี่ทำไม" ศักดิ์ชาย บิดาผู้ให้กำเนิดของอาทิตย์พูดขึ้นเสียงเย็น "น้อง..ไม่ใช่'มัน'นะครับพ่อ เขาคือคนที่ผมรัก พี่ผมพาน้องมาในวันนี้ก็เพราะอยากให้พ่อได้สัมผัสน้อง ได้รู้จักน้องมากขึ้น" ชายหนุ่มพูดเสียงเข้มพลางกุมมือน้องแน่นขึ้น ศักดิ์ชายยืนขึ้นด้วยความโกรธ ใบหน้าของเขาแสดงถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก"เด็กผู้ชายเนี่ยนะ ที่แกบอกว่ารัก ทุเรศ" "พ่อครับ..ให้เกียรติน้องหน่อยครับ" "ให้เกียรติหรอ..หึ!" ศักดิ์ชายหัวเราะในลำคอ ยืนกอดอกมองดาวเหนือด้วยแววตาเหยียดหยาม จนอาทิตย์เอาตัวเข้ามาบังน้องไว้ "อย่าใช้สายตามองน้องแบบนี้นะครับ" "ทำไมฉันจะมองไม่ได้... เพ
หลังจากจบคลาส ดาวเหนือเดินออกมาพร้อมเพื่อนๆ ทั้งสามคน เหล่านิสิตคนอื่นๆก็ทยอยออกจากห้อง"พวกมึง...ไปไหนกันต่อป่ะ" ชาญหันมาถามเพื่อนๆ “ไว้คราวหน้าละกันนะ เราต้องกลับบ้านก่อน” ดาวเหนือออกตัวคนแรก เขาไม่อยากเถลไถลทำให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วง"กูต้องไปทำงานพิเศษว่ะ...ตังไม่พอใช้" สาลี่ยิ้มแหย เอามือเกาแก้มเบาๆ ช่วงนี้เธอใช้เงินมือเติบไปหน่อย ไม่กล้าโทรไปขอแม่อีกเลยต้องหางานพาร์ทไทม์ทำ"อะไรวะ....แล้วมึงล่ะวายุ" ชาญหันมามองความหวังเดียวของเขา ทว่า....."กูก็ต้องกลับไปอ่านหนังสืออ่ะ...ไปก่อนนะ" วายุโบกมือลาชาญ ก่อนจะเดินกลับหอพักทันที ชาญที่มองเพื่อนๆแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง เขาคร่ำครวญออกมา"พวกแม่ง...ทิ้งกูเฉย" ว่าจะชวนไปเที่ยวสักหน่อย ดันมีเพื่อนเป็นพวกเด็กอนามัยซะได้ เซ็งจัด....ดาวเหนือออกมารอรถรับส่งบริเวณหน้าตึก เสียงริงโทนโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูปรากฏชื่อ _อาทิตย์_ นิ้วเรียวกดรับสายด้วยรอยยิ้ม"ว่าไงครับ" "กลับบ้านยังครับ" ปลายสายถามขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยน"ยังครับ....รอรถรับส่งอยู่" "งั้น..รอแป๊บนึงเดี๋ยวพี่ไปรับ" "ไม่เป็นไรครับ....พี่พักเถอะ" "ไม่เป็
แสงแดดอ่อนๆ ทอดยาวลงบนพื้นถนนหน้ามหาวิทยาลัย ดาวเหนือยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่บริเวณจุดรับส่งนักศึกษา หลังจากร่ำลาเพื่อนสนิททั้งสามสาลี่ วายุ และชาญที่แยกย้ายกลับบ้านคนละทาง“ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะเหนือ อย่าลืมเอาหนังสือที่อาจารย์แนะนำมาให้ดูด้วยล่ะ” สาลี่โบกมือลาเพื่อนๆเป็นคนสุดท้าย แล้วขึ้นรถของวินมอเตอร์ไซค์กลับหอพัก“ได้สิ แล้วเจอกันนะ” ดาวเหนือโบกมือลาเพื่อนสาว หลังจากที่เพื่อนทุกคนกลับไปหมดแล้ว ก็เหลือแต่เขาที่นั่งรออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ดาวเหนือเอามือล้วงหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าแล้วส่งข้อความหาคนรัก"ถึงไหนแล้วครับ" รอไม่นานนักก็มีข้อความเด้งเข้ามา“ถึงแล้วครับ ออกมารอได้เลย”ดาวเหนือหันซ้ายหันขวา ก่อนจะเห็นรถคันคุ้นเคยขับเข้ามาเทียบตรงหน้า เขาเปิดกระจกลงพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นที่เขาไม่เคยเบื่อมอง“คนหล่อขึ้นรถได้ครับ” อาทิตย์โผล่หน้าออกมาเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มให้คนรักอย่างอบอุ่น“แล้วคนไม่หล่อต้องนั่งท้ายกระบะไหมครับ” คนน้องทำหน้าเข้ม นั่งกอดอกมองคนในรถอย่างท้าทาย“แบบนี้..ต้องนอนใต้กระโปรงรถครับ" ซึ่งคำพูดของคนพี่ ดาวเหนือก็หลุดยิ้มออกมา "กวนนักนะ" "แล้วคนหล่อจะขึ้นรถไม่ได้หรือยังครับ..หรือ