بيت / รักโบราณ / วาสนาดอกเหมยงาม / บทที่ 1 กลับมาพบครอบครัว

مشاركة

บทที่ 1 กลับมาพบครอบครัว

last update آخر تحديث: 2025-05-14 12:56:25

แคว้นจ้าว

จวนตระกูลไป๋

"คุณชายใหญ่ คุณชายรอง คุณหนูฟื้นแล้วเจ้าค่ะ"

อาจูสาวใช้น้อยรีบหันมาเอ่ยกับเจ้านายตนด้วยน้ำเสียงที่ดีใจอย่างสุดซึ้ง เมื่อไป๋หลงคุณชายใหญ่ และไป๋หลางคุณชายรองได้ยินว่าน้องสาวตนฟื้นแล้วก็กระโดดโลดเต้นดีใจด้วยความลิงโลด น้องเล็กฟื้นแล้ว ดียิ่งนัก หากน้องเล็กยังไม่ฟื้น หรือเกิดล้มป่วยหนัก ท่านพ่อท่านแม่ต้องทุบตีพวกเขาอย่างหนักเป็นแน่

ก่อนหน้านี้พวกเขาพาน้องสาวมาตกปลาที่ชานเมืองนอกเมืองหลวง เดิมทีไป๋เหม่ยเหมยไม่ค่อยชอบเรื่องพวกนี้ นางมักจะคบหากับเหล่าสตรีน้อย พูดคุยเรื่องเครื่องประทินโฉม เรื่องชุดที่จะตัดเย็บใหม่ช่วงฤดูใบไม้ผลิอันใดเทือกนั้น แม้จะมีวรยุทธ์ล้ำเลิศแต่ความรักสวยรักงามเยี่ยงสตรีอย่างไรน้องเล็กของพวกเขาก็ยังชื่นชอบอยู่เสมอ

แต่เพราะไม่ทันระวัง น้องเล็กจึงพลัดตกแม่น้ำและหมดสติไป พวกเขาตกใจจนแทบเป็นบ้า รีบพานางไปโรงหมอทันที

ไป๋เหม่ยเหมยที่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นก็พลันได้สติ นางค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา ภาพเบื้องหน้าคือหลังคาที่มุงด้วยใบจาก เมื่อหันไปมองโดยรอบก็พบกับไป๋หลงและไป๋หลางพี่ชายฝาแฝดของนาง และยังเห็นอาจูสาวใช้น้อยที่คอยรับใช้อยู่ข้างกายนางอีกด้วย

เดิมทีพวกเขาล้วนตายจากไปหมดแล้ว แต่เหตุใดจึง..

ภาพในอดีตวนย้อนกลับมาอีกครา หลังจากนางฆ่าตัวตายก็ได้เวียนว่ายตายเกิด ย้อนกลับมาเกิดใหม่ยังร่างของตนเองอีกครั้ง

ไป๋เหม่ยเหมยรู้สึกปวดหัวยิ่งนัก นางพยายามลุกขึ้นมานั่ง อาจูที่เห็นเช่นนั้นก็รีบเข้ามาประคองเจ้านายตน ไป๋หลงพี่ใหญ่รีบเอ่ยถามน้องสาวด้วยความเป็นห่วง

"น้องเล็ก เจ้าเจ็บตรงที่ใดอีกหรือไม่ หิวหรือไม่!"

ไป๋เหม่ยเหมยที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง

"เกิดเรื่องใดขึ้น เหตุใดข้าจึงมานอนอยู่ที่นี่ แล้วที่นี่คือที่ใดกัน?"

ไป๋หลางพี่รองรีบเข้ามาจับมือน้องสาวทันที

"เป็นความผิดของพวกพี่เองที่ชวนเจ้ามาตกปลา จนทำเจ้าตกน้ำ เจ้าก็บอกแล้วว่าไม่อยากมา แต่พวกพี่กลับบังคับเจ้ามาด้วย พวกพี่ขอโทษนะน้องเล็ก"

ไป๋เหม่ยเหมยเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ใจเต้นรัวแรง

ตกปลาอย่างนั้นหรือ?

ในชาติก่อน ตอนนางอายุสิบสี่ปี พี่ใหญ่และพี่รองพานางมาตกปลา แต่ทว่านางกลับพลัดตกน้ำจนล้มป่วยหนัก จำได้ว่าท่านพ่อและท่านแม่ดุด่าพี่ชายทั้งสองของนางเสียยกใหญ่

อยู่ๆไป๋เหม่ยเหมยก็ดวงตาแดงก่ำก่อนจะร้องไห้โฮออกมา สวรรค์! นางได้ย้อนเวลากลับมาในร่างของตนตอนอายุสิบสี่ ตอนที่นางยังไม่ถูกความรักที่แสนตื้นเขินของจินฟานฉุดลงนรก

ไป๋หลงและไป๋หลางที่เห็นว่าน้องสาวตนอยู่ๆก็ร้องไห้โฮจึงทำอันใดไม่ถูก รีบพากันเข้ามาเอ่ยปลอบยกใหญ่ ผ่านไปครู่ใหญ่ไป๋เหม่ยเหมยก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้พวกเขา ก่อนจะโผเข้าไปกอดพี่ชายทั้งสองเอาไว้แน่น

ชาติก่อนนางละเลยความรู้สึกของพวกเขามากเหลือเกิน นางเอาแต่ใจตนเอง ทั้งที่พวกเขาหวังดีกับนาง แต่นางกลับมองความหวังดีนั้นเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ

สุดท้ายแล้วพี่ชายสองคนที่รักนางมากกว่าสิ่งใด กลับต้องมาตายเพราะนาง

"น้องเล็กเจ้าหยุดร้องเถอะ เจ้ารอง ที่น้องเล็กร้องไห้คงเพราะหิวเป็นแน่ เร็วเข้า รีบไปซื้อซาลาเปามา เอาน้ำชามาด้วย!"

"ได้ๆ พี่ใหญ่ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ น้องเล็กเจ้ารอก่อนนะ"

ไป๋เหม่ยเหมยไม่รู้เช่นกันว่าเหตุใดนางจึงหยุดร้องไห้ไม่ได้ นางดีใจมาก ดีใจจนร้องไห้ออกมาราวกับคนบ้า

ไม่นานไป๋หลางก็กลับมาพร้อมซาลาเปาในมือ ส่วนไป๋หลงพี่ใหญ่ของนางก็รีบหาผ้ามาเช็ดน้ำตาให้กับน้องสาว

"น้องเล็กรีบกินเร็วเข้า"

ไป๋หลางเอาซาลาเปาป้อนให้นางกินทั้งที่นางยังคงร้องไห้อยู่ ไป๋เหม่ยเหมยเหมือนควบคุมตนเองไม่ได้ นางกัดกินซาลาเปาที่เขาป้อนให้อย่างไม่อิดออด กินไปก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นไป ไป๋หลงที่เห็นอย่างนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะหันไปเอ่ยกับไป๋หลาง

"น้องเล็กยังร้องไม่หยุดเลย นางน่าจะยังไม่อิ่ม เร็วเข้าอาหลาง รีบป้อนนางอีก"

ไป๋เหม่ยเหมยอยากจะเอาเท้าก่ายหน้าผากตนแล้ว

นางไม่ได้หิว นางแค่หยุดร้องไห้ไม่ได้!

สองพี่ชายฝาแฝดคนหนึ่งป้อนซาลาเปาคนหนึ่งป้อนน้ำชาให้น้องสาวที่ร้องไห้อย่างเป็นห่วงเป็นใย ไม่นานนักไป๋เหม่ยเหมยก็หยุดร้องไห้ พวกเขาจึงยิ้มตาหยี พลางคิดไปเองว่าคงเพราะน้องเล็กอิ่มแล้วจึงหยุดร้องไห้

เช่นนั้นต่อไปหากน้องเล็กร้องไห้อีกก็ให้หาของกินมายัดปากนาง นางจะได้หยุดร้องไห้

ดียิ่งนัก ช่างเป็นความคิดที่ดีจริงๆ

ไป๋เหม่ยเหมยยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาตน อาจเพราะตกน้ำจนสำลักทำให้นางรู้สึกแสบจมูกคล้ายจะเป็นหวัดขึ้นมา ท่านหมอจึงจัดยาเพิ่มให้นางอีกหลายเทียบ บอกให้ต้มดื่มเช้าเย็น ไม่เกินสามวันก็จะหายดี

เมื่อเห็นว่าน้องสาวปลอดภัยแล้ว พวกเขาสองพี่น้องจึงพาน้องสาวนั่งรถม้ากลับจวนตระกูลไป๋ในทันที

ระหว่างทางกลับ ไป๋เหม่ยเหมยยื่นมือไปเปิดผ้าม่านรถม้าออกเพื่อมองดูสิ่งต่างๆ เมืองหลวงยังคงเหมือนเดิมไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างยังคงงดงาม ไม่มีการนองเลือด ไม่มีการแย่งชิงบัลลังก์

ครอบครัวของนางยังคงสุขกายสบายดี

ไม่นานรถม้าก็หยุดลง สองพี่ชายฝาแฝดรีบประคองน้องสาวตนเดินเข้ามาในจวน ไป๋เหม่ยเหมยที่เห็นเช่นนั้นก็รีบบอกพวกเขาว่านางเดินได้พวกเขาไม่ต้องคอยประคองนางเหมือนคนป่วยเช่นนี้ สองพี่ชายจึงยอมปล่อยให้นางเดินเอง

เมื่อเข้ามาในจวนก็พบกับแม่ทัพใหญ่ไป๋บิดาของนางที่กำลังยืนจังก้าอยู่หน้าเรือนใหญ่ ในมือถือแส้เส้นหนึ่งเอาไว้ หน้าตาถมึงถึงพลางจ้องมองบุตรชายฝาแฝดสองคนของตนอย่างคาดโทษ

"ไป๋หลง ไป๋หลาง พวกเจ้าบังคับอาเหม่ยให้ออกไปเที่ยวเล่นอีกแล้วหรือ แล้วนั่นเกิดเรื่องใดขึ้นกับอาเหม่ย เหตุใดนางจึงมีสภาพเหมือนสุนัขตกน้ำเช่นนี้ ลูกบัดซบ ข้าให้เข้ากองทัพก็ไม่เอา ให้อ่านตำราเตรียมสอบก็หนีไปเที่ยวเล่น แล้วยังพาอาเหม่ยเสียคนไปด้วยอีก วันนี้หากข้าไม่ตีพวกเจ้าสองคนอย่างมาเรียกข้าว่าท่านพ่อ!"

แม่ทัพใหญ่ไป๋รีบเข้ามาดูบุตรสาวคนเล็กของตนด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ก่อนจะหันไปมองบุตรชายทั้งสองด้วยความโมโห ไป๋หลงและไป๋หลางที่เห็นว่าบิดาโกธรเกรี้ยวแล้ว จึงรีบคุกเข่าลงพลางสารภาพความผิดว่าตนทำน้องสาวตกน้ำ

استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق

أحدث فصل

  • วาสนาดอกเหมยงาม   ตอนจบ

    เช้าวันต่อมาไป๋เหม่ยเหมยก็ให้คนส่งจดหมายไปที่จวนกั๋วกง บอกว่าต้องการนัดพบกับเซวียหงเย่ที่โรงน้ำชาหงลู่ แต่ทว่ากลับไม่มีจดหมายตอบกลับ อีกทั้งคนยังหายหน้าหายตาไม่ยอมมาพบนางอีกด้วยเมื่อเอ่ยถึงโรงน้ำชาหงลู่แล้วก็พบว่ายามนี้ตลาดมืดถูกทางการทลายไปแล้ว เพราะมีการนัดพบและขายสินค้าผิดกฎหมาย จินฮ่องเต้จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น เจ้าของโรงน้ำชาคือขุนนางผู้หนึ่งที่เป็นสหายกับอดีตรองแม่ทัพจวง เขาถูกจับ กิจการโรงน้ำชาถูกขายทอดตลาดมีคหบดีผู้หนึ่งมาซื้อและเปิดกิจการอย่างถูกกฎหมายต่อไป๋เหม่ยเหมยร้อนใจยิ่งนัก นางนึกด่าทอตนเองในใจที่คืนนั้นไม่ตอบรับคำขอของเขาโดยเร็ว จะมัวคิดหาคำตอบใดให้มากความกันนะ!นางรู้ใจตนเองช้าไป กว่าจะรู้ว่านางหลงรักเขา ก็ทำให้คนโมโหหนีหายไปไม่มาพบหน้าเสียแล้วไป๋เหม่ยเหมยจูงเจ้าลูกหมีน้อยมาเดินเล่นในตลาดเพื่อแก้เบื่อ นางต้องการมาเดินเล่นเพื่อผ่อนหลาย จึงชวนจินหยวนเหนียงมาด้วย ส่วนหลินจื่อหยานั้นได้ยินว่าปวดหัวจึงไม่ได้มาเดินเล่นกับพวกนางนางนำเรื่องที่เกิดขึ้นเล่าให้จินหยวนเหนียงฟัง จินหยวนเหนียงฟังจบจึงเอ่ยกับนางทันที"ข้าควรสมหน้าเจ้าดีหรือไม่ คนเขาขอแต่งงานเจ้าก็ควรตอบรั

  • วาสนาดอกเหมยงาม   บทที่ 15 ปักปิ่น

    เรื่องราวเลวร้ายผ่านไปราวกับสายลมพัด ไม่นานทุกคนต่างลืมเรื่องเหล่านี้ไป ตั้งแต่เกิดเรื่องในครั้งนั้นสุขภาพของจินฮ่องเต้ก็ไม่ใคร่จะสู้ดีเท่าใดนัก เพราะเกรงว่าตนอาจจะจากไปก่อนจะได้ทำเรื่องสำคัญให้แล้วเสร็จ จึงทรงออกพระราชโองการแต่งตั้งจินเฉวียนขึ้นเป็นองค์รัชทายาท ที่ผ่านมาจินเฉวียนก็ได้พิสูจน์แล้วว่าตนเองนั้นเหมาะสมคู่ควรกับตำแหน่งนี้วันที่ทำพิธีแต่งตั้งองค์รัชทายาท เซวียหงเย่ก็มาร่วมงานด้วย เขามองญาติผู้น้้องตนคราหนึ่ง ดวงตาของชายหนุ่มเอ่อคลอ ตอนนี้ทุกคนในตระกูลเซวียยังอยู่ดีมีสุข ช่างนับว่าเป็นเรื่องที่ดียิ่ง"ญาติผู้พี่ ท่านดูสิ ข้าได้เป็นองค์รัชทายาทแล้ว เป็นเช่นไร ชุดที่ข้าสวมใส่หรูหราหรือไม่"จินเฉวียนยามนี้มีอายุเพียงสิบแปดปี ยังคงมีนิสัยของเด็กน้อยร่าเริงอยู่ เซวียหงเย่ยื่นมือไปจับไหล่น้องชายก่อนจะเอ่ย"เฉวียนเอ๋อร์ ต่อไปเจ้าต้องปกครองไพร่ฟ้าให้อยู่ร่มเย็น อย่าโลภมาก อย่าให้อำนาจบังตาจนเดินไปสู่ทิศทางที่ไม่ดี และต้องดูแลเสด็จป้าให้ดี เลือกสตรีที่ดีมาเป็นคู่ชีวิต ส่วนข้าจะสนับสนุนเจ้าตลอดไป เจ้าต้องมีชีิวิตต่อไปให้ดีรู้หรือไม่"อยู่ๆจินเฉวียนก็ดวงตาแดงก่ำขึ้นมา ทุกคำที่ญาติผู้พ

  • วาสนาดอกเหมยงาม   บทที่ 14 จินฟานเสียสติ

    ผ่านไปร่วมหลายวัน ในที่สุดฮ่องเต้ก็มีรับสั่งให้เหล่าขุนนางเข้าร่วมงานเลี้ยงที่ตนจัดขึ้น จินฮ่องเต้ชมชอบความสำราญที่ผ่านมาจึงมีรับสั่งให้จัดงานเลี้ยงอยู่หลายคราจวนตระกูลไป๋ก็มาร่วมงานเลี่ยงเช่นเดียวกัน เพราะเป็นงานที่เกี่ยวพันกับเชื้อพระวงศ์ ไป๋เหม่ยเหมยจึงต้องแต่งกายให้ประณีตเสียหน่อยสองวันก่อนจินหยวนเหนียงส่งจดหมายมาบอกนางว่า ได้สั่งให้นางกำนัลจัดที่นั่งให้พวกนางสามคนนั่งใกล้กันแล้ว ไป๋เหม่ยเหมยยิ้มออกมาคราหนึ่ง พลางถอนหายใจ ชาตินี้ศัตรูได้กลับกลายมาเป็นมิตร และศัตรูที่มีใจคิดชั่วก็เริ่มทะยอยตายจากไปทีละคนแล้วไม่นานก็มาถึงพระราชวังฤดูร้อน ไป๋เหม่ยเหมยเดินเข้าไปพร้อมครอบครัวของตน เมื่อเข้ามาถึงบิดาและพี่ชายก็แยกไปพบปะสหายของตน มารดานางก็ไปพบปะกับเหล่าฮูหยินจากจวนอื่นๆ ส่วนตัวนางนั้นถูกจินหยวนเหนียงและหลินจื่อหยาพาไปนั่งยังที่ๆถูกจัดเตรียมเอาไว้ เหล่าสตรีน้อยต่างมองไป๋เหม่ยเหมยด้วยแววตาริษยา แต่ไหนแต่ไรมีสตรีน้อยหลายคนที่อยากผูกมิตรกับจวิ้นจู่ แต่ทว่านางกลับหยิ่งยโสโอหังเพราะเห็นว่าตนเป็นเชื้อพระวงศ์ ไม่คิดจะสนิทสนมกับใครง่ายๆ แต่ยามนี้กลับสนิทกับไป๋เหม่ยเหมยและหลินจื่อหยา ช่างน่าโ

  • วาสนาดอกเหมยงาม   บทที่ 13 หาทางเข้าใกล้

    เช้าวันต่อมาตระกูลเจินก็วุ่นวายไม่น้อยเลย เนื่องจากอยู่ๆเจินหลิงก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย มารดาของนางไปแจ้งทางการแต่กลับไม่พบตัวบุตรสาว ด้านจินฟานเองก็ทำราวกับไม่มีอันใดเกิดขึ้นชายหนุ่มนั่งจิบชาอยู่ในจวนองค์ชายรอง สภาพจิตใจช่วงนี้ค่อนข้างไม่สู้ดีเท่าใดนัก เขารู้สึกว่าหลายอย่างที่ตนต้องการจะทำคล้ายไม่ราบรื่นเท่าที่ควร ราวกับว่ามีมือของใครบางคนยื่นเข้ามาคอยขัดขวางเขาอยู่ตลอดเวลาเขาและเจินหลิงเคยมีใจรักใคร่ต่อกันนั้นล้วนเป็นเรื่องจริง แต่การที่เขาเข้าหานางก็ล้วนมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง บิดาของนางมีอำนาจในราชสำนัก อีกทั้งยังรู้จักและสนิทสนมกับขุนนางฝ่ายบุ๋นมากหน้าหลายตา หากเขาแต่งกับนางแน่นอนว่าเหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นย่อมสนับสนุนเขา แต่กลับเกิดเรื่องไม่คาดฝัน บิดานางมาเกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน เมื่อบิดาของนางมาตายจากไป เช่นนี้แล้วจวนตระกูลเจินย่อมล้มลง นางก็ไม่มีประโยชน์อันใดต่อเขาอีกเดิมทีเขาไม่คิดจะทอดทิ้งนางให้ลำบาก แต่ผู้ใดจะรู้ว่านางจะกล่าววาจาข่มขวัญเขา แต่เขาไม่กลัวแม้แต่น้อย นางก็เป็นเพียงสตรีบอบบางนางหนึ่ง แม้แต่แรงเชือดไก่ยังไม่มีแล้วจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนมาต่อสู้กับเขาเพราะโทสะท

  • วาสนาดอกเหมยงาม   บทที่ 12 สังหารกันเอง

    เมื่อเสนาบดีเจินสิ้นชีพ คนตระกูลเจินก็เหมือนกับแพแตกไร้ซึ่งที่พึ่งพิง ผู้คนที่เคยเข้าหาเพื่อผลประโยชน์ล้วนมองสองแม่ลูกด้วยสายตาเวทนา แต่กลับไม่มีใครสักคนที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ไป๋เหม่ยเหมยที่ได้ทราบเรื่องนี้กลับไม่ได้เอ่ยสิ่งใด นางคิดเพียงว่ามันคือเวรกรรมที่เจินหลิงและคนตระกูลเจินล้วนต้องพบเจอชาติก่อนตระกูลไป๋บ้านแตกสาแหรกขาด คนตระกูลเจินล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องเสนาบดีเจินภายนอกดูเหมือนจะเป็นขุนนางที่เที่ยงตรงไม่สนใจฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่ว่าแท้จริงแล้วกลับลอบสนับสนุนองค์ชายรองอย่างลับๆ เสนาบดีเจินนั้นเป็นสหายสนิทกับรองแม่ทัพจวง ชาติก่อนนั้นคนทั้งสองต่างได้ผลประโยชน์ร่วมกันเสพสุขด้วยกัน แต่ชาตินี้เสนาบดีเจินกลับตกตายไปเสียก่อน และอีกไม่นานจินฟานและคนตระกูลจวงก็จะเป็นรายต่อไป!อยู่ๆไป๋เหม่ยเหมยก็นึกถึงคำพูดของเซวียหงเย่ขึ้นมาได้ เขาบอกนางว่าอีกสามวันจะมีเรื่องสนุกเกิดขึ้นกับตระกูลเจินแต่นี่ยังไม่ถึงสามวันเลยกลับพบว่าจวนตระกูลเจินเกิดเรื่องขึ้นเสียแล้วนับตั้งแต่เกิดเรื่องในวันนั้นนางก็ไม่ได้พบกับเซวียหงเย่อีก มีเพียงองค์รักษ์ของเขาที่ลอบนำยามาให้นางกลางดึก บอกว่าเป็นยาทาที่ดียิ่ง ให้ทาบริเว

  • วาสนาดอกเหมยงาม   บทที่ 11 ไฟไหม้จวน

    ปริศนาที่เซวียหงเย่ทิ้งเอาไว้นั้นทำให้ไป๋เหม่ยเหมยเกิดความสงสัยจนนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน ยามเช้าตอนตื่นนอนขึ้นมา ขอบตาของนางจึงคอนข้างดำคล้ำไม่น้อยเลย อาจูที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบเอาไข่ต้มมาให้เจ้านายอังใต้ขอบตา ไป๋เหม่ยเหมยลอบก่นด่าเซวียหงเย่ในใจ เพราะเขาแท้ๆ ทำให้ความอยากรู้อยากเห็นของนางกำเริบจนนอนไม่หลับหญิงสาวจัดการประทินโฉมให้หนาหน่อยเพื่อปกปิดรอยคล้ำใต้ดวงตา ก่อนจะเดินไปที่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งเมื่อหลายวันก่อนนางหมักสุราเอาไว้หนึ่งไห มันเป็นสุราสูตรหนึ่งที่นางไปขอซื้อมาจากร้านสุรา นางต้องจ่ายเงินมหาศาลเพื่อขอซื้อสูตรจากเขา และบอกว่าอยากเอาไปหมักให้ท่านแม่ได้ลองดื่ม ไม่คิดจะเอาไปเปิดขายเพื่อแข่งกับเขา ท่านลุงเจ้าของร้านสุราจึงยอมขายให้นาง สุรานี้หมักเพียงเจ็ดวันก็สามารถดื่มได้แล้ว ไป๋เหม่ยเหมยให้อาจูขุดมันขึ้นมาก่อนจะที่นางจะนำสุราไหนั้นไปที่เรือนใหญ่ยามเช้าวันนี้ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าเพื่อร่วมกินมื้อเช้าด้วยกัน เมื่อเห็นว่าบุตรสาวอุ้มไหสุรามาด้วยฮูหยินใหญ่ก็อารมณ์ดียิ่ง นางกอดไหสุราเอาไว้แน่น บอกว่าจะเก็บไว้กินเอง แม้กระทั่งสามีก็ไม่คิดจะแบ่งแม่ทัพใหญ่ไป๋รักใคร่ภรรยายิ่ง เขาบอกนางว่า

فصول أخرى
استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status