หน้าหลัก / รักโบราณ / วาสนานี้เป็นของข้า / ๓๔ บุตรสาวหน้าตาคล้ายนาง

แชร์

๓๔ บุตรสาวหน้าตาคล้ายนาง

ผู้เขียน: วอลจู
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-25 19:48:11

ต้นฤดูไม้ใบผลิอากาศหนาวเริ่มคลายลงบ้างแล้ว ในขณะที่ช่วงยามนี้จวนชินอ๋องกำลังวุ่นวายบ่าวรับใช้และหมอหญิงหลาย สิบคนต่างกำลังเดินเข้าออกจากเรือนหลักหนึ่งทำหน้าที่ของตนเองเพียงเพราะฮั่วซูเม่ยสตรีของเซียนหยางชินอ๋องเจ็บท้องใกล้จะ คลอดแล้ว

“อดทนอีกนิดเพคะ” ชิงอันพลางเอ่ยบอกอาการเป็นระยะ

ฮั่วซูเม่ยนอนอยู่บนเตียง สภาพใบหน้าหน้าซีดเซียวไร้สีเลือดฝาด “มารดาจะตายแล้ว!”

นางรู้สึกหน่วงที่ท้องและเจ็บจริง ๆ

“ใจเย็นเถอะ ๆ อีกไม่นาน” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นปลอบใจเซียนหยางยืนอยู่ข้างๆ เตียง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลกระวนกระวายและไม่สามารถทำอะไรได้มากนอกจากจับมือนาง ไว้แน่นราวกับหวังว่าจะช่วยแบ่งเบาความเจ็บปวดนั้นได้

เซียนหยางเห็นสภาพของนางเช่นนี้มาสองชั่วยามได้แล้ว หากเขาเจ็บแทนได้คงดีไม่น้อย

“เมื่อไหร่นางจะคลอด”

“…..”

หมอหญิงสามสี่คนที่ตรวจดูอาการพอได้ยินน้ำเสียงทุ้มของชินอ๋องเอ่ยขึ้นนิ่ง ๆ จึงสะดุ้งตาม ๆ กัน “อีกไม่นานเจ้าค่ะ"

อีกไม่นาน?

“ข้าถามว่าเมื่อไหร่” สายตาคมกริบพลันปรายไปมอง ฉายความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

“เกรงว่าทารกน้อยผู้นี้คงจะตัวใหญ่ไม่น้อยถึงขั้นไม่ยอมออกเลยทำให้หวางเฟยเจ็บปวดไม่น้อย”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๓๖ ครอบครัวพร้อมหน้า

    ผู้ใดกันเอ่ยปากจะเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนบุตรสาวให้ดีไม่ตามใจนางจนเสียคนเกรงว่าคงเป็นฮั่วซูเม่ยกระมังที่หูฝาดได้ยินผิดไปเอง หากเอ่ยถึงเซียนหยางคนผู้นั้นน่ะหรือ…นางไม่เคยเห็นเขาปฏิเสธอาหนี่ว์เลยแม้แต่สักครึ่งคำด้วยซ้ำ“ท่านพ่อ!”น้ำเสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยขึ้นเสียงดังพลางกระโดดวิ่งเต้นตามหาผู้เป็นบิดาของตน“ท่านพ่ออยู่ที่ใดเพคะ!”“ท่านพ่อเจ้าค่ะ!”ฮั่วซูเม่ยถอนหายใจเฮือกใหญ่ พอนางได้ยินน้ำเสียงเช่นนี้พลันรู้สึกปวดหัวตุบ ๆ ขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ “อาหนี่ว์! เสียงเจ้าดังจนทำเขาตกใจตื่นแล้ว”“เอะ! แอ้ๆๆ แอ้!” เสียงของเด็กทารกในห่อผ้าสะดุ้งพลันหวีดร้องไห้จ้าด้วยความตกใจเมื่อถูกรบกวน“น้องข้าตื่นแล้วหรือ” ซูหนี่ว์หยุดชะงักก่อนตะโกนถามออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ก็ใช่น่ะซิ!” ฮั่วซูเม่ยตะโกนตอบ“ชู่ว์~~ เข้าใจนางหน่อยอาหยวน พี่สาวของเจ้าก็เป็นคนเสียงดังเช่นนี้” ฮั่วซูเม่ยพลางอุ้มเด็กน้อยในห่อผ้าขึ้นแนบอก เกลี้ยกล่อมให้หยุดร้องไห้“ท่านแม่!”ซูหนี่ว์ปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ตรงหน้ามารดา สายตาของนางมองเลยสอดส่องเข้าไปในห่อผ้าอย่างไม่วางตา “ส่งมาให้ข้าเถอะ”“…..”“แอ้! แอ้ๆๆๆ” ทารกยังคงตะเบ่งเสียงร้องไม่

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๓๕ บทสรุปของทุกอย่าง

    ‘หนึ่ง…คำนับฟ้าดิน’‘สอง…คำนับบิดามารดา’‘สาม…คำนับกันและกัน’‘ส่งตัวเข้าหอ’เสียงของแม่สื่อร้องตะโกนดังก้องประกาศขั้นตอนพิธีการสำคัญต่าง ๆ ตามหน้าที่ขนบธรรมเนียมผ่านมาเกือบปีแล้วในที่สุดก็ถึงเวลาเหมาะสมสำหรับ งานมงคลสมรสอย่างเป็นทางการเสียทีระหว่างเซียนหยางชินอ๋องและฮั่วซูเม่ยโดยมีฟ่านฮองเฮาจื่อฮ่องเต้เป็นผู้จัดการให้ทั้งสิ้นไม่ว่าจะสามหนังสือหรือหกพิธีการจัดแจงตามให้เหมาะสมในเมื่อฮั่วซูเม่ยตัดขาดไม่เกี่ยวข้องออกจากจวนสกุลฮั่วมานานแล้ว ดังนั้นฟ่านฮองเฮาจึงเป็นแม่งานฝ่ายเจ้าสาวให้ส่วนเซียนหยางชินอ๋องนั้นแม้ตอนแรกเขาเอ่ยปากว่าจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเองทว่ากับถูกจื่อฮ่องเต้ข่มขู่หากไม่ได้ทำให้น้องชายร่วมอุทรผู้เดียวเกรงว่าตอนตายลงโลงไปคงไม่หลับตาแน่เป็นเช่นนี้แล้วคนทั้งคู่จึงไม่สามารถเอ่ยขัดได้เลยแม้แต่สักครึ่งคำจื่อฮ่องเต้นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรสวมใส่อาภรณ์สีทองแล้วยังปักด้วยดิ้นทองเป็นลวดลายมังกรน่าเกรงขามอีกหน เคียงข้างด้วยฟ่านฮองเฮาสวมใส่อาภรณ์ที่ตัดเย็บอย่างประณีตในชุดสีทองประดับลวดลายสวยงามเช่นกันเหล่าขุนนางสูงต่ำทั้งหลายและแขกมากมายต่างรายล้อมอยู่รอชื่นชมความงดงามของคู่บ่า

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๓๔ บุตรสาวหน้าตาคล้ายนาง

    ต้นฤดูไม้ใบผลิอากาศหนาวเริ่มคลายลงบ้างแล้ว ในขณะที่ช่วงยามนี้จวนชินอ๋องกำลังวุ่นวายบ่าวรับใช้และหมอหญิงหลาย สิบคนต่างกำลังเดินเข้าออกจากเรือนหลักหนึ่งทำหน้าที่ของตนเองเพียงเพราะฮั่วซูเม่ยสตรีของเซียนหยางชินอ๋องเจ็บท้องใกล้จะ คลอดแล้ว“อดทนอีกนิดเพคะ” ชิงอันพลางเอ่ยบอกอาการเป็นระยะฮั่วซูเม่ยนอนอยู่บนเตียง สภาพใบหน้าหน้าซีดเซียวไร้สีเลือดฝาด “มารดาจะตายแล้ว!”นางรู้สึกหน่วงที่ท้องและเจ็บจริง ๆ“ใจเย็นเถอะ ๆ อีกไม่นาน” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นปลอบใจเซียนหยางยืนอยู่ข้างๆ เตียง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลกระวนกระวายและไม่สามารถทำอะไรได้มากนอกจากจับมือนาง ไว้แน่นราวกับหวังว่าจะช่วยแบ่งเบาความเจ็บปวดนั้นได้เซียนหยางเห็นสภาพของนางเช่นนี้มาสองชั่วยามได้แล้ว หากเขาเจ็บแทนได้คงดีไม่น้อย“เมื่อไหร่นางจะคลอด”“…..”หมอหญิงสามสี่คนที่ตรวจดูอาการพอได้ยินน้ำเสียงทุ้มของชินอ๋องเอ่ยขึ้นนิ่ง ๆ จึงสะดุ้งตาม ๆ กัน “อีกไม่นานเจ้าค่ะ"อีกไม่นาน?“ข้าถามว่าเมื่อไหร่” สายตาคมกริบพลันปรายไปมอง ฉายความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด“เกรงว่าทารกน้อยผู้นี้คงจะตัวใหญ่ไม่น้อยถึงขั้นไม่ยอมออกเลยทำให้หวางเฟยเจ็บปวดไม่น้อย”

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๓๓ วันส่งท้ายปี

    พอได้ยินประโยคนี้แล้วฮั่วซูเม่ยตกใจเล็กน้อยก็จะปรายสายตาเหลียวไปมองเซียนหยางอยู่ข้าง ๆ ที่เอ่ยแทรกขึ้น“เกรงว่าคงทำให้พี่สะใภ้ผิดหวังแล้ว” เซียนหยางไม่มีทางยอมแน่ บุตรของเขาที่กำลังเกิดจากฮั่วซูเม่ยสมควรเรียกเขาว่าบิดาแค่เพียงผู้เดียวเท่านั้นสีหน้าของฟ่านฮองเฮาผิดหวังเล็กน้อย “เช่นนั้นหรือ” นางมีความรู้สึกเอ็นดูเด็กน้อยผู้นี้ตั้งแต่ในครรภ์จริง ๆ ดูท่าแล้วออกมาคงหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มไม่น้อย“คงไม่เป็นอันใดกระมัง” นางหันไปพูดกับเซียนหยางก่อนจะปรายสายมากลับมามองสตรีตรงหน้าฮั่วซูเม่ยถือวิสาสะจับมือของฟ่านฮองเฮาไว้ก่อนจะวางลงบนท้องของตนเอง “ไฉนเจ้าเด็กนี้เขาจะไม่ดีใจกันมีท่านป้าเป็นถึงฮองเฮางดงามเพียงนี้” นางไม่ได้คิดมากอันใดอยู่แล้ว เพียงแค่มีคนเอ็นดูเจ้าเด็กคนนี้ตั้งแต่ในครรภ์ก็นับว่าเกินไปสักหน่อยแล้วจื่อฮ่องเต้พลางเดินเข้ามาโอบไหล่ภรรยาไว้ “หากเจ้าอยากมีนักเช่นนั้นให้ข้าลงมือได้เลยหรือไม่”ไฉนนางจะไม่อยากมีกัน…ว่ากันตามตรงแล้วเขาและนางก็ตบแต่งกันมาหลายปีแล้ว แต่กลับไม่มีวี่แววเลยว่าผู้เป็นภรรยาจะตั้งครรภ์เสียทีด้วยสุขภาพของนางที่เป็นอยู่ตอนนี้ฟ่านฮองเฮาส่ายหน้าพลางถอนหายใจ “สุขภาพข

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๓๒ เริ่มเข้าที่เข้าทาง

    “กลับมาแล้วหรือ”ฮั่วซูเม่ยรออยู่ในเรือนไม่ยอมนอนอยู่นานสองนานพอเห็นประตูถูกผลักเข้ามาปรากฏเรือนร่างกำยำคุ้นเคย นางจึงปากถามพลางลุกเดินเข้าไปหาเซียนหยางพลันถอยหลังหนี“ข้าบอกแล้วอย่างไรว่าไม่ต้องรอ ไฉนยังไม่นอนอีก” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างเรียบนิ่ง สายตาคมกริบไล่สำรวจนางตั้งแต่บนลงร่างจงใจยั่วยวนเขาหรอกหรือ?อาภรณ์ชุดนอนผืนบางแนบสนิทไปกับเรือนร่างจนมองเห็นส่วนโค้งเว้าทุกส่วน เรือนผมดำปล่อยสยายยาวอยู่หลัง“บอกแล้วอย่างไรว่าจะรอ” ใบหน้าคนงามระบายยิ้มกว้าง นางมองเข้าไปในนัยน์ตาคมกริบคู่นั้นจึงเห็นความรู้สึกผิดที่ถูกกลบเกลื่อนเอาไว้เล็กน้อย“……” “ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือไม่” ฮั่วซูเม่ยเดินไปอีกครั้งแต่เซียนหยางก็พลันถอยห่างอีก นางจึงขมวดคิ้วมุ่นทันทีคราแรกที่บุรุษผู้นี้ทำเช่นนี้นางจึงคิดเสียว่าเขาอาจจะตกใจก็ได้ ทว่าพอเป็นเช่นนี่ฮั่วซูเม่ยรู้ว่าเริ่มไม่ปกติแล้ว“เนื้อตัวข้าสกปรกยังไม่ทันได้อาบน้ำ” เซียนหยางเอ่ยอย่างเร่งรีบเกรงว่านางจะเข้าใจผิดเอาได้หาว่าเขารังเกียจฮั่วซูเม่ยไล่สายตาสำรวจสังเกตจึงพบว่าฝ่ามือของบุรุษผู้นี้นั้นมีคราบสีแดงคลายเลือดแห้งติดอยู่ ดวงตาเมล็ดซิ่งค่อย ๆ เงยขึ้นส

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๓๑ เป็นรองเพียงนาง

    การแต่งงานของฮั่วซูเม่ยและเซียนหยางถูกจื่อฮ่องเต้กำหนดไว้ล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงอย่างไรเซียนหยางก็เป็นน้องชายร่วมอุทรผู้เดียวของจื่ออ๋องเต้ย่อมต้องจัดอย่างยิ่งใหญ่ไม่น้อยหน้าผู้ใดแน่จื่ออ๋องเต้นั่งพูดคุยอยู่จวนชินอ๋องต่อราวหนึ่งก้านธูปเห็นว่าคงรบกวนเวลาพักผ่อนของน้องสะใภ้มากเกินไปจึงไม่รั้งอยู่ต่อ “วันหน้าเจ้าก็พานางเข้าวังไปพบพี่สะใภ้เสีย”ฮั่วซูเม่ยระบายยิ้มจาง ๆ “เกรงว่าคงจะรบกวนฝ่าบาทเกินไปแล้วเพคะ”“เหอะ! รบกวนอันใดกันนับว่าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”ในความคิดของนางจื่อฮ่องเต้ผู้นี้เป็นถึงผู้ปกครองแคว้นเหนือกว่าผู้คนหลายพันหลายหมื่นชีวิตแต่กลับไม่หยิ่งทะนงถือตัวเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกประหม่าในคราแรกจึงคลายลงไปหมดสิ้นเซียนหยางกำลังจะอ้าปากปฏิเสธแล้วแต่พอเหลียวเห็นรอยยิ้มของสตรีข้างกายเป็นอันต้องกลืนคำพูดนั้นลงท้องไป เกรงว่าหากนางอยู่แต่จวนคงเบื่อหน่ายไม่น้อยได้พูดคุยกับผู้อื่นคงดี“เจ้าอยากไปหรือไม่”ฮั่วซูเม่ยพลางทำท่าครุ่นคิดสักเล็กน้อย “หากเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วเช่นนั้นข้าสมควรต้องคารวะพี่สะใภ้เสียหน่อยแล้ว”“ดี!” จื่อฮ่องเต้ตอบรับหัวเราะเบา ๆ “นางต้องเอ็นดูเจ้าเหม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status