“ รินทร์จ๊ะ ทางนี้จ๊ะ” นายตำรวจหนุ่มโบกมือให้สัญญาณ
“ ขอโทษนะคะ มาสาย รถติดจังเลย” หลังจากรับประทานอาหารเสร็จนายตำรวจหนุ่มชวนให้ตรีรินทร์มานั่งเล่นที่สวนหน้า ร้านอาหาร “ รินทร์จ๊ะพี่มีของจะให้” แหวนเพชรวงกำลังน่ารักถูกยื่น มาข้างหน้าท่ามกลางความตกใจของตรีรินทร์ “ พี่โต” “พี่รู้ว่าอาจเป็นการจู่โจมแต่รินทร์น่าจะรู้ว่าพี่รักรินทร์มานานแล้ว อายุพี่ก็พอสมควรแล้วหน้าที่การงานพี่ก็พร้อม พี่สอบเทียบได้ยศนายร้อยตามที่ปฏิญาณไว้แล้ว พี่ฝันมาตลอดตั้งแต่พี่สอบติดนายสิบตำรวจ พี่ฝันมาตลอดว่าถ้าพี่สอบเทียบได้ยศนายร้อยพี่จะให้แม่มาขอรินทร์ ผ่านมาหลายปีรินทร์ก็รู้พี่พยายามเพื่อรินทร์มาตลอด อยากให้รินทร์ภูมิใจในตัวพี่แม้จะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ตอนนี้พี่ทำสำเร็จแล้วนะรินทร์ พี่ก็เลยอยากขอให้รินทร์มาร่วมสร้างครอบครัวกับพี่ได้ไหมรินทร์” โตมรใช้สายตาจ้องมองตรีรินทร์อย่างอ่อนหวาน ตรีรินทร์รู้สึกอึดอัดจะบอกตรงๆไปได้ไหมว่าเธอไม่ได้คิดกับเค้ามากไปกว่าพี่ชายคนสนิท แต่เมื่อนึกถึงที่ความพยายามตลอดมาของชายหนุ่ม ทำให้ตรีรินทร์ไม่อาจจะทำร้ายความรู้สึกของชายหนุ่มได้ “ขอเวลารินทร์หน่อยนะคะพี่โต รินทร์ยังไม่พร้อม รินทร์เพิ่งเริ่มทำงานยังไม่ได้บรรจุด้วยซ้ำ รออีกหน่อยนะคะ” ตรีรินทร์พยายามหาทางออก ตรีรินทร์ยื่นแหวนคืนให้นายตำรวจหนุ่ม “ถ้างั้นพี่ฝากแหวนไว้ที่รินทร์ก่อน ถ้าวันไหนตัดสินใจได้แล้วค่อยมาบอกพี่พี่จะได้ให้แม่ไปขอ” “เอาอย่างงั้นเหรอคะ” “ครับผม” นายตำรวจหนุ่มหัวเราะประสานเสียงกับตรีรินทร์ ตรีรินทร์สอดแหวนไว้ที่กระเป๋าเสื้อแจ็คแก็ตตัวเก่งพร้อมกับก้มมองนาฬิกา “รินทร์รีบไปไหนหรือเปล่า” “รินทร์มีนัดไปเจ้าของบ้านไปเก็บงานอีกสามสี่จุด ไม่นานหรอกค่ะประมาณชั่วโมงครึ่งก็เสร็จ” “งั้นพี่ไปส่งนะ แล้วเลิกงานไปดูหนังตอนเย็น แล้วพี่จะได้กลับเข้าเวรตอนดึก นะรินทร์นะ คราวก่อนก็ไม่ได้ดูจนจบทีหนึ่งแล้ว พี่รออยู่ในรถนะจ๊ะรินทร์ ตั้งแต่รินทร์ทำงานไม่ค่อยมีเวลาให้พี่เลย” “โอเคค่ะ ตามใจพี่โต” รถเลี้ยว เข้าบริเวณ เรือนหลังเล็กพิพัฒนพงค์ ธมกานต์ตั้งใจมาดักรอพบหญิงสาว เมื่อทราบจากเลขาตนเองว่าตรีรินทร์จะมาเก็บภาพ แต่เมื่อมองเห็นคนที่มาส่งหญิงสาวอย่างใกล้ชิดก็ทำให้ธมกานต์กัดฟันมือกำแน่นด้วยความไม่พอใจ ยิ่งภาพที่มองเห็นทำให้ธมกานต์เตะเก้าอี้ข้างตัวจนล้มไม่เป็นท่า โตมรยื่นมือมาจับมือของตรีรินทร์ “รินทร์จ๊ะ พี่รักรินทร์มากนะ” ตรีรินทร์ดึงมือกลับ พร้อมกับพูดว่า ”ค่ะ พี่โตบอกรินทร์หลายหนแล้ว” ตรีรินทร์เดินเข้าบ้านอย่างเหม่อลอยพยายามถามหัวใจตนเองว่ารู้สึกอย่างไรกับนายตำรวจหนุ่ม คำตอบที่ได้มาก็ยังเหมือนเดิมกับที่หลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ต้องยอมรับว่านายตำรวจหนุ่มมีความพยายามมากจนเธอไม่อาจจะทำร้ายจิตใจได้ ตรีรินทร์คิดไปมาอย่างว้าวุ่นหัวใจ เธอมีอยู่สองทางเลือก..หนึ่ง ตัดสินใจบอกไปเลยว่าเราคิดกับพี่โตแค่พี่ชายแล้วขอให้พี่โตคิดกับเราเป็นน้องสาว กับอีกข้อหนึ่งยอมแต่งงานเพื่อความดีเห็นแก่ความรักที่เค้ามีต่อเรา สักวันเราคงรักเค้าได้เอง ตรีรินทร์คิดไปมาอย่างสับสน จนกระทั่งเดินมาถึงกลางห้องมองไปรอบๆ เห็นความเปลี่ยนแปลงของบ้านไปมากกว่าเจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็นต์แล้วเหลืออีกนิดหน่อย งานกับลูกค้าจอมเบ่งก็จะจบลง ตรีรินทร์รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูกว่าทำไม ตรีรินทร์เริ่มเก็บภาพไปเรื่อยๆจนรู้สึกถึงความอึดอัด จึงถอดเสื้อแจ็คเก็ตพาดวางไว้ที่โซฟาก่อนจะเก็บภาพต่อไปอีกเรื่อยๆ พอได้ยินเสียงฝีเท้าก็รู้สึกตกใจหันไปมอง “อุ๊ย คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันนึกว่าผีหลอกตอนกลางวัน” ตรีรินทร์โวยวาย “ ประสาท ผีที่ไหนมี” “ คุณมาทำไรที่นี่ค่ะ คุณรสไม่บอกคุณเหรอว่าฉันจะขอแค่มาเก็บภาพ” “บอกถึงได้มานี่ไง แล้วนี่คุณอายุเท่าไหร่แล้ว” “บ้า มาถามเรื่องอายุทำไม” “ทำเป็นอินโนเซ้นท์ต้องให้แฟนมาส่ง จะอ้วก ไปบอกเค้ากลับไป ผมไม่ชอบให้คนแปลกหน้ามาจอดรถในบ้านผม” เสียงธมกานต์ดังกึกก้อง “คนบ้าไม่มีเหตุผล ฉันแค่มาทำงานแป๊บเดียว เดี๋ยวเรามีนัดกินข้าวกันเค้าก็ต้องรอ ถ้าคุณไม่สะดวกให้เค้ารอในบ้าน ฉันจะให้เค้าไปรอนอกบ้านก็ได้” “นอกบ้านก็ไม่ได้” “เอ๊ะ คุณจะหาเรื่องหรือไง” “บอกให้เค้ากลับไป แล้วบอกเลิกนัดด้วย ผมมีธุระจะคุยเรื่องงานกับคุณ” “ไม่ได้หรอก ฉันผิดนัดเค้าไม่ได้” “ คุณเห็นเรื่องส่วนตัวสำคัญกว่างานหรือยังไง ต้องให้ผมรายงานคุณพงค์ด้วยไหม” “ไม่ต้องมาขู่” “ผมไม่ขู่ แต่ผมเอาจริง” “ทีหลังมาทำงานบ้านผม อย่าให้แฟนมาส่งอีกผมไม่ชอบ คุณโตแล้วนะตรีรินทร์ ก็แค่มาทำงานบ้านผมเนี่ย ต้องดัดจริตให้แฟนมาส่ง ผมจะอ้วก” ตรีรินทร์รู้สึกถึงแรงกดดันในใจ กลั้นความโกรธจนรู้สึกตนเองหน้าร้อนไปหมด “บ้า ประสาท คุณนี่ขวางโลกจริงๆ คนเค้ารักกันจะช่วยดูแลซึ่งกันและกันบ้างผิดอะไรด้วยเหรอ” “ไม่ผิดหรอกถ้าไม่ใช่ต่อหน้าต่อตาผม ผมไม่ชอบถ้าคุณไม่สะดวกมาเอง ผมจะให้คนขับรถไปรับพอใจไหม” ตรีรินทร์หน้างอปากยื่นจมูกเชิด “ว่าไงจะไปบอกเค้าหรือให้ผมโทรหาคุณพงค์ว่าคุณไม่ว่าง” “ตกลงฉันไปบอกก็ได้แล้วรีบๆ คุยงานมาล่ะ” ตรีรินทร์เดินออกไปบริเวณใต้ต้นไม้ที่ตำรวจหนุ่มจอดรถอยู่ “เสร็จแล้วเหรอรินทร์ ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลย” “พี่โตคะ รินทร์ขอเลื่อนนัดไปก่อนนะคะ รินทร์มีงานต้องคุยกับลูกค้าอีกหลายชั่วโมงค่ะ ขอโทษนะคะแล้วรินทร์จะโทรไป” นายตำรวจหนุ่มกระฟัดกระเฟียด “ อีกแล้วนะรินทร์ รินทร์ผิดนัดพี่อีกแล้ว งาน งาน งาน รินทร์เห็นงานสำคัญกว่าพี่ใช่ไหม เบื่อจริงๆใครจะเหมือนพี่ไหมเนี่ย โธ่เว้ย” นายตำรวจหนุ่มออกรถไปด้วยความโกรธ ตรีรินทร์ยืนงงกับพฤติกรรมของนายตำรวจหนุ่มก่อนจะหันหลังกลับเข้าบริเวณบ้าน ธมกานต์ยืนรอด้วยรอยยิ้มเยาะที่สามารถจัดการกับศัตรูหัวใจไปได้ “เราจะคุยเรื่องอะไรกันคุณ” ธมกานต์พยายามหาหัวข้อที่จะคุยเดินไปเดินมา ก่อนจะจะนั่งลงที่โซฟาตัวที่ตรีรินทร์พาดเสื้อแจ็คเก็ตไว้ธมกานต์รู้สึกเหมือนนั่งทับอะไรก็เลยฉวยขึ้นมาดู ‘เสื้อแจ็คเก็ตทำไมแข็งอย่างงี้วะ’ เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อข้างหน้าหยิบออกมาดู ท่ามกลางความตกตะลึงของตรีรินทร์ “ไม่มีมารยาทนะคุณ เรื่องอะไรมาค้นกระเป๋าฉัน” “ช่วยไม่ได้วางไว้ไม่เป็นทางเอง” ธมกานต์เปิดกล่องดู ดวงตาลุกวาวด้วยความโกรธ “ แหวนอะไร” “เรื่องของฉันเอามานี่” ธมกานต์เอามือหลบพร้อมกับเปิดดู “กระจอก เม็ดนิดเดียว” “นิดเดียวแต่มันมีคุณค่าทางใจรู้ไหม คุณไม่รู้หรอกเพราะไม่เคยรู้ถึงคุณค่าสิ่งใดที่ได้มา” “ ขอคืนค่ะ” ตรีรินทร์แบมือแต่ธมกานต์ทำสิ่งไม่คาดฝันกว่าด้วยขว้างออกทางหน้าต่าง “ ว้าย คนบ้า ทำแบบนี้ได้ไง” “ มานี่ออกไปข้างนอกกับผม” “ ไปไหน ฉันไม่ไป” “นี่คุณจะพาฉันไปไหนบ้าไปแล้วหรือไงไหนจะคุยกันเรื่องงาน ถ้าไม่คุยเรื่องงานฉันจะกลับบ้านแล้วล่ะ” “ หุบปาก หนวกหู” เสียงธมกานต์ตะโกน “ ไม่งั้นผมมีวิธีปิดปากคุณ” ตรีรินทร์ใจเต้นตึกตักทั้งโกรธและกลัวในพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูกค้าหนุ่ม “แหวนหมั้นหรือแหวนแต่งงาน” เงียบ ตรีรินทร์กอดอกมองไปทางหน้าต่างนอกรถ “ ผมถามไม่ได้ยินหรือไง จะกวนอารมณ์ผมไปถึงไหนเนี่ย” “ ก็คุณบอกให้ฉันหุบปาก ฉันก็ทำแล้วไงจะเอาอะไรอีก” ตรีรินทร์กระแทกเสียงตอบ “ แหวนหมั้นหรือแต่งงาน” “ แหวนแต่งงาน” ตรีรินทร์กระชากเสียงตอบ ธมกานต์ใจหายวาบบอกกับตัวเองว่า ‘ฝันไปเถอะว่าคุณจะได้แต่งกับแฟน ผมจะทำทุกวิถีทางให้ได้คุณมาตรีรินทร์’ ธมกานต์บอกกับตัวเองอย่างหนักแน่นบ่ายวันเสาร์ตรีรินทร์ง่วนอยู่กับเตาอบอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวตะโกนออกมา“ คุณกานต์ขามานี่หน่อย รินทร์อยากได้คอมเม้นต์ค่ะ”ธมกานต์วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับเดินเข้าบริเวณครัว“ มีอะไรให้สามีช่วยหรือครับ ภรรยาคนสวย”“ ช่วยชิมหน่อยสิคะ รสไหนอร่อย รสกาแฟ รสช้อคโกแล็ตชิบ หรือรสเนย”“ รินทร์ ตั้งแต่คุณทำผมชิมมาหลายสิบอันแล้วนะเนี่ย จนผมชักมึนกับรสคุกกี้ของคุณแล้วแต่ถ้าคุณจะหาคนชิมนะ โน่นไอ้กรณ์ ขานั้นนะชอบขนมทุกชนิด มันบ้าขนม เชื่อไหม เคยไปกินบุฟเฟ่เค้กมันกินได้สิบสองอัน พวกผมสามก้อนก็จะอ้วกแล้ว”“ แหม คุณเนี่ยไม่ร่วมมือเลย”“ อย่าพึ่งงอนสิจ๊ะคนสวย ผมลองทานอีกสามชิ้นก็ได้”ธมกานต์มองภรรยาสาวที่ขะมักเขม้นเรียงคุกกี้ลงขวดแก้วอย่างทะนุถนอม“เก็บเอาไว้ทานคราวหน้า ใส่ขวดไว้ให้น่ารับประทาน”ตรีรินทร์อธิบายพร้อมกับเรียงขนมลงขวดด้วยความระมัดระวังเช้าวันอาทิตย์ตรีรินทร์ก้มลงหอมแก้มสามีหนุ่ม พร้อมกับกระซิบว่า “ รินทร์ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะคะ บ่ายนี้คุณไปตีกอล์ฟกับพวกพี่หมอใช่ไหม ถ้ารินทร์มาไม่ทัน เจอกันเย็นนี้นะคะ”ธมกานต์งัวเงียพร้อมกับหรี่ตามองนาฬิกาแปดโมงเช้าปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันเดียวที่เขาแ
อลงกรณ์นั่งดูกีฬาในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงรถจอดบริเวณหน้าบ้านสักพักร่างคุณหญิงแพรวก็นวยนาดเข้ามาพร้อมสายตาเข้มที่พร้อมจะอาละวาด“ ใช้ไม่ได้เลยแก เสียมารยาทกับลูกเพื่อนแม่มากเลยนะกรณ์แม่ผิดหวังในตัวลูกมาก ปากคอเราะร้ายเฮ๊อ แม่กลุ้มใจในตัวลูกมาก กรณ์เมื่อไหร่จะเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีแม่มีแกคนเดียวที่เป็นความหวังแม่อยากมีหลาน แล้วนี่แกก็ทำลายความหวังแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”คุณหญิงแพรวพูดเสียงเครือน้ำตาไหล“ แม่ก็รู้ว่าผมยังอยากมีอิสระ อยากทำงาน สร้างอนาคตด้วยตัวเองอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมแม่หรือแม่อยากให้เหมือนคราวก่อน” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำเอาอลงกรณ์ใจอ่อนยวบอลงกรณ์ถอนใจก่อนจะเข้ามากอดคุณหญิงพร้อมกับพูดว่า“ โอเคครับแม่ ผมจะลองพยายามทำตามที่แม่บอกอีกครั้ง” อลงกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจคุณหญิงแพรวยิ้มถูกใจพร้อมกับกอดลูกชาย ลูบหลังไปมาอย่างเอาใจหอพักเด่นชัยอลงกรณ์เคาะประตูห้อง อาร์มเดินมาเปิดประตูห้องอย่างงัวเงีย“ อ้าวคุณ มีอะไรหรือเปล่า มาซะดึกเชียว”“ ขอโทษที่มารบกวนคุณ แต่คืนนี้ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ” อลงกรณ์กอดอาร์มแน่นเลขาหนุ่มขมวดคิ
“ แม่ตี พ่อทำไมครับ”“ ก็พ่อดื้อ แล้วแกล้งแม่ กริชต้องช่วยแม่นะจ๊ะ”เด็กชายกริชชัยเข้ามากอดผู้เป็นแม่ ท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของธมกานต์ที่ลูกชายผันตัวไปอยู่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกจะช่วยพ่อไง”กริชชัยกอดพร้อมซบที่หน้าอกแม่ “ กริชรอพ่อกับแม่ไปรับตั้งนาน นี่จะเที่ยงแล้วนะครับพ่อกับแม่ยังไม่ตื่นอีก”ตรีรินทร์ใบหน้าร้อน พร้อมกับแก้ตัวเบาๆ “ แม่ขอโทษจ๊ะ งั้นขอแม่อาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราไปเชียงใหม่กันบ่ายนี้ดีไหม กริชจะได้ไปเยี่ยมน้ำหวานเพื่อนลูกด้วยไง”เด็กชายกระโดดรอบเตียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของพ่อและแม่ที่บ่งบอกว่า รักลูกเต็มเปี่ยมภูเก็ตร่างชายหนุ่มสองคนที่ก่ายเกยกันอย่างแนบแน่น อาร์มขยับตัวเบาๆแต่ก็ต้องถูกดึงให้เข้ามาในอ้อมกอด“ เช้าแล้วเราตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ”“ อืม ขอต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากไปเลย ผมอยากนอนกอดกับคุณอีกสักพัก เราไปตอนบ่ายๆ ก็ได้มีเวลาอีกวันหนึ่ง ค่ำๆวันอาทิตย์ค่อยกลับคุณไม่ได้รีบไปไหนนี่” อลงกรณ์จูบเบาๆที่ไหล่ของเลขาหนุ่มก่อนกระซิบเบาๆ“ ผมเคยนึกว่าทำไมผมถึงนอนกับน้องปรางไม่ได้ มาวันนี้ผมรู้จักตัวเองอย่างเต็มร้อยเมื่อก่อนผมคิดว่าผมสามาร
“ อาร์มก็เช่นกัน ขอบคุณนะครับ ที่ไม่รังเกียจคนอย่างอาร์ม แล้วยังให้ความรู้สึกดีๆ อีกอาร์มรู้สึกซาบซึ้งมาก”“ ผมคิดว่าผมรักคุณแล้วล่ะ อาร์ม ทำยังไงดี” อลงกรณ์พูดเสียงอ้อแอ้“ อาร์มก็รักคุณ”อลงกรณ์ยกมือเลขาหนุ่มพร้อมกับจูบที่ใจกลางอุ้งมือ ทำให้อาร์มขนลุกไปทั่วร่างกายเลขาหนุ่มประคองชายหนุ่มเข้าห้อง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเดินไม่ค่อยมั่นคง“ เมาหรือเปล่า คุณ”“ เมารักคุณไง อาร์ม”“ บ้า คุณเนี่ย พูดอะไร เมาแล้วไปนอน เถอะ อาร์มไปส่งคุณที่ห้อง”อลงกรณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จริงๆ ไวน์แค่สามสี่แก้วทำอะไรตนไม่ได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาอาร์มวางร่างหนักอึ้งลงบนที่นอน แต่ก็ถูกดึงจนล้มไปด้วยกัน ก่อนที่อลงกรณ์จะพลิกตัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเลขาหนุ่ม ที่ตอนนี้อยู่ในอาการตื่นตะลึง“ คืนนี้นอนกับผมห้องนี้นะ ผมอยากนอนกับคุณ” อลงกรณ์ปิดปากตัวเอง ลงที่ริมฝีปากบางก่อนที่มือก็เริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อาร์มยอมให้ถอดเสื้อผ้าแต่โดยดีพร้อมกับช่วยปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ก่อนที่ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติอาร์มพึ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ความรู้สึกมันอ่อนหวานและซาบซ่าส์ จนตัวเองแทบจะนอนไม่หลับร่างของชาย
“ งั้นเดี๋ยวผมโทรเคลียร์กับเจ้ากรณ์ดีกว่า”“ ไม่ต้องค่ะ รินทร์อยากให้คุณกรณ์แปลกใจ”“ เชื่อรินทร์สิคะว่างานไม่เสีย แล้วคุณกรณ์ก็จะไม่โกรธคุณแน่นอน”ธมกานต์ถอนใจยาว พูดจริงๆ ตัวเองก็ชักไม่อยากไป เพราะร่างนุ่มนุ่มของภรรยาที่วันนี้มาโหมดหวานเซ็กซี่ ซ่าส์ สงสัยวันนี้ธมกานต์จะเดินตามเกมภรรยาคงจะมีความสุขไม่น้อย“ รินทร์ถูหลังให้นะคะ”“ จ๊ะ ที่รัก”“ แหม พอถูหลังให้หน่อยหวานเชียว ถามจริงๆ หวานแบบนี้มากี่คนแล้ว”ตรีรินทร์ถามพร้อมกับกลั้นใจฟังคำตอบ“ หวานกับรินทร์แค่คนเดียว เชื่อไหมไม่เคยหวานแบบนี้กับใครสักคน”ตรีรินทร์ใจเต้นแรงฟังแล้วเต็มตื้นหัวใจก่อนที่หญิงสาวจะผลักให้ชายหนุ่มนั่งแล้วตนเองย้ายไปนั่งข้างหลัง หญิงสาวชโลมสบู่พร้อมกับถูหลังไปมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ“ ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดนะเนี่ยที่มีภรรยามาช่วยถูหลังให้”“ จริงเหรอค่ะ เอ แบบนี้จะมีของรางวัลหรือเปล่า”“ อยากได้อะไรล่ะ ผมให้คุณได้ทุกอย่างเว้นดาวและเดือน”“ ยังนึกไม่ออก ไว้นึกออกจะบอกนะคะ แต่คุณกานต์สัญญาแล้วว่าจะไม่เบี้ยว”“ ไม่เบี้ยวจ๊ะ”ตาจ้องตา ธมกานต์หันมาจูบปากพร้อมกับหมุนตัวเองในอ่างจนน้ำกระเพื่อม“ ทนไม่ไ
“ อ๋อ ตอนนี้ผมจะไปหาคุณต้องมีธุระด้วยหรือไง” น้ำเสียงเริ่มขุ่น“ คุณเนี่ย ชอบตีความหมายอะไรผิดๆเมื่อวันก่อนผมถามให้คุณกลับบ้านเพราะกลัวว่าจะดึกแล้วเดินทางลำบาก คุณแม่คุณจะเป็นห่วงคุณก็ตีความหมายว่าผมขับไล่ ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักนิด วันนี้ผมก็ถามตามปกติธรรมดาคุณก็ตีความหมายไปอีกอย่าง ผมชักมึนกับคุณแล้วนะเนี่ย” เลขาหนุ่มอธิบายยาวอลงกรณ์นิ่งฟังแล้วยิ้มยวน ๆ “ ผมมันเป็นแบบนี้แหละ ทนๆ หน่อยแล้วกัน ยังต้องรบกันอีกยาว”เลขาหนุ่มค้อนชายหนุ่มเบาๆ ก่อนอมยิ้ม“ คุณทำอาหารและขนมอร่อยมาก เรียนมาหรือไง”“ บ้านผมมีแต่ผู้ชายหมด ผมเป็นลูกชายคนเล็ก ก็เลยต้องช่วยแม่เข้าครัวตั้งแต่เด็ก มันเป็นความเคยชินส่วนขนมก็หัดทำตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทำขายหารายได้พิเศษเป็นค่ารถเมล์ไงคุณ ก็ผมมันคนจน”เลขาหนุ่มเล่ายาว“ นี่ขอร้องล่ะ ถ้าจะคบกันต่อไปไอ้รวยจนเนี่ยเลิกพูดได้ไหม รำคาญ” อลงกรณ์เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ พูดความจริงเล่าความจริงก็โกรธพิลึกคน” เลขาหนุ่มยักไหล่ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนกวนๆ ในทีทำเอาอลงกรณ์ตะลึงในความน่ารักขี้เล่นของอีกฝ่าย รถติดไฟแดงตาจ้องตาในระยะใกล้กันแค่ไม่กี่คืบอลงกรณ์มองริมฝี