“ตอนนี้พ่อดูอารมณ์ไม่ดีเลย เอาไว้วันหลังค่อยพาเธอมานะหมอ แต่ตอนนี้หมอรีบมาที่บ้านก่อนเถอะ พี่พายุมารอนานแล้ว” คำพูดของมารดาดูเปลี่ยนไปมาก ตั้งแต่นางรู้ว่าตัวเองกำลังจะได้เป็นคุณย่า แต่ทว่านางเองก็ยังไม่กล้าบอกเรื่องนี้ให้กับผู้เป็นสามีได้ทราบ “ตกลงครับแม่ ผมขอทานมื้อเช้าก่อนนะครับ พอดีว่าฝนเตรียมไว้ให้แล้ว อีกประมาณครึ่งชั่วโมงผมน่าจะไปถึง” “ก็ได้รีบมานะ ห้ามเลทเกินชั่วโมง แค่ครึ่งชั่วโมงที่หมอบอก คงต้องหายตัวมาแล้วมั้ง แค่นี้นะ” พอมารดากดตัดสาย นายแพทย์หนุ่มรีบเดินตรงไปที่โต๊ะอาหารทันที “ว้าว! น่าทานจังเลย คุณรู้หรือเปล่าผมชอบกินโจ๊กกับขิงซอยมาก แบบนี้ต้องให้รางวัลคุณแม่แล้วแหละ จุ๊บ” นายแพทย์เดินอ้อมมาที่ภรรยา ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปจุ๊บแก้มนวลขาวผ่องของเธอด้วย “พอได้แล้วค่ะ แก้มฝนช้ำหมดแล้ว ไปทานโจ๊กเลยค่ะ เดี๋ยวเย็นแล้วไม่อร่อยนะคะ” ฝนส
“ถึงกับจดทะเบียนกันเลยเหรอคะ นุชอยากจะเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นชัดๆ สักครั้ง ก่อนจะไปพบกับคุณลุงคุณป้า ทำไมเขาต้องหักหน้านุชแบบนี้ด้วย” หญิงสาวพูดออกมาพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้มสองข้าง ซึ่งเธอคิดว่าบิดามารดาของเขาคงไม่รู้เห็นเป็นใจด้วยอย่างแน่นอน เพราะภาพถ่ายเหล่านั้นไม่มีคนสูงวัยทั้งสองอยู่ในเฟรมด้วย “อย่าเสียน้ำตาให้กับผู้ชายแบบนั้น เดี๋ยวพ่อจะจัดการเอง” คราวนี้น้ำเสียงของชายสูงวัยฟังดูดุดันกว่าเดิมหลายเท่า แววตาของเขาดูเหี้ยมโหด เมื่อกำลังโกรธคนที่ทำให้ลูกสาวต้องเสียน้ำตา “ไม่ต้องหรอกค่ะคุณพ่อ เดี๋ยวนุชจัดการเอง นุชก็แค่อยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้น อยากรู้ว่าเธอมีดีอะไรทำไมพี่หมอถึงได้รักได้หลงขนาดนั้น” นุชวราซับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ก่อนที่เธอนั้นจะพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น เมื่อหญิงสาวอยากเอาคืนให้สาสมกับที่นายแพทย์จิรายุทำไว้กับเธอ “หมอพักอยู่กับผู้หญิงคนนั้นที่บ้านสวนชานเมือง แต่พ่อไม่เห็นด้วยกับลูกเลย ทำไมต้องพาใจไปเจ็บ ลูกจะทนเห็นภาพ
ภายในบ้านหลังโตอันโอ่อ่า การประดับประดาที่ดูสวยหรูมีสไตล์บ่งบอกถึงรสนิยมของผู้อาศัยได้เป็นอย่างดี เมื่อสิ่งตกแต่งไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ล้วนใช้ของที่มียี่ห้อราคาแพง ก่อนออกไปทำงานนายณัฐวุธเดินเข้ามาหาลูกสาวที่ห้องนั่งเล่นด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดี ดวงตาของชายสูงวัยดูมีแววดุดันราวกับจะฆ่าคนได้ ก่อนจะค่อยๆทอดถอนใจมองไปที่ลูกสาวอย่างไม่ไหวติง หลังจากที่นักสืบส่งภาพของนายแพทย์จิรายุมาให้ ซึ่งทุกภาพล้วนบีบหัวใจนายนัฐวุธ เมื่อเขาไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงให้นุชวราได้ช้ำใจน้อยที่สุด “อ้าว! ทำไมวันนี้คุณพ่อจะออกไปทำงานแต่เช้าจังเลยค่ะ ทานมื้อเช้ากับนุชก่อนสิ นะคะคุณพ่อนุชไม่อยากทานคนเดียว อย่าเห็นงานสำคัญกว่าลูกสาวตัวเองสิคะ” หญิงสาวยังคงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เอาแต่ใจ เมื่อถูกผู้เป็นบิดาตามใจจนเคยตัว “ได้สิ พ่อมีเรื่องสำคัญที่จะพูดกับลูกอยู่พอดีเลย” พูดจบประโยคชายสูงวัยก็ได้เดินนำหน้าลูกสาวไปที่ห้องอาหาร โดยที่แม่บ้านได้จัดแจงอาหารขึ
ฝ่ามือแกร่งลูบไล้ไปที่แผ่นหลังขาวผ่องของภรรยาสาว ก่อนที่เขานั้นจะค่อยๆ รูดซิปลงอย่างช่ำชอง ไม่นานเรือนร่างอรชรก็เปลือยเปล่า เมื่อชุดเจ้าสาวแสนสวยถูกชายตัวโตรวบลงไปกองไว้ที่พื้น พร้อมทั้งเสื้อสูทสีขาวของเขาตามด้วยเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนและกางเกงขายาว ซึ่งนายแพทย์จิรายุใช้เวลาเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว เรือนกายของคนคู่ก็ได้เปลือยเปล่าล่อนจ้อน พร้อมสำหรับการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนจะเป็นใจ หญิงสาวร่างเล็กถูกชายตัวโตรั้งขึ้นไปนอนราบกับเตียงขนาดคิงไซซ์ ขณะที่สายตาคมกวาดมองร่างอรชรด้วยแววตาที่หวานหยาดเยิ้ม พร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากผุดขึ้นมาด้วยความพึงพอใจ “คุณหมอวายุ” หญิงสาวใต้ร่างร้องเรียกชายตัวโตออกมาด้วยความเขินอาย เมื่อเรียนกายขาวผ่องของเธอประจักษ์ต่อสายตาคมแทบทุกซอกอณูรูขุมขน “เรียกทำไมครับ หืม เมียผมสวยและเซ็กซี่ขนาดนี้ใครจะอดใจไหว” คำพูดที่อ่อนโยนบวกกับแววตาที่หวานหยาดเยิ้ม ซิกแพคเป็นชั้นมวลกล้ามที่มัดแขนบ่งบอกให้ร
“พูดอะไร เดี๋ยวคนอื่นก็ได้ยินหรอก” มิรากระซิบกลับไป พร้อมกับการมองค้อน แต่ทว่าท่านประธานหนุ่มกลับรู้สึกชอบใจ “ผมไม่สน” คำพูดกับแววตาที่กวนๆ ทำให้หญิงสาวถึงกับถอนหายใจออกมา ก่อนที่เธอจะหันไปสนใจเพื่อนรัก ซึ่งกำลังเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับความรู้สึกยินดีกับเพื่อนรักของเธอ “ถึงหรือยังคะคุณหมอ” ฝนสุดาเอ่ยถามออกมา เมื่อเธออยากเปิดผ้าปิดตาเต็มที “อีกนิดเดียวครับ ทุกคนกำลังรอเราอยู่นะ” น้ำเสียงที่อ่อนโยนกับท่าทีที่คอยเอาใจ โอบประคองไม่ยอมห่างกาย จึงทำให้ฝนสุดายอมจำนนทำตามที่นายแพทย์บอกอย่างว่าง่าย เมื่อทั้งสองเดินเข้ามาถึง ทุกคนต่างก็ส่งยิ้มมาที่คนทั้งคู่ด้วยความรู้สึกยินดี หนึ่งในนั้นคือขวัญดาวน้องสาวของฝนสุดา หลังจากที่ออกฝึกงานหลายเดือน นายแพทย์จิรายุได้ตามตัวเธอมาเซอร์ไพรส์พี่สาวด้ว “ถึงแล้วครับ เดี๋ยวผมจะเปิดผ้าปิดตาออกให้ คุณค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ นะครับ” เมื่อนายแพทย์หนุ่มแกะผ้าปิดตาออก ฝนสุดาลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ
“นั่นก็ลูก ไหนจะหลานอีก สามีของฉันก็ห่วงแต่ชื่อเสียงอะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด แม่ปลงแล้ว หมอไม่ต้องห่วงแม่หรอกนะ ตอนนี้มันคงถึงเวลาที่หมอจะทำตามใจตัวเองเสียที หลังจากที่ทำเพื่อพ่อกับแม่ตั้งใจเรียนแพทย์ทั้งที่หมออยากเป็นนักออกแบบเหมือนพี่ชาย” “แม่รู้” นายแพทย์หนุ่มไม่คิดว่ามารดาของเขาจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ คงเป็นเพราะว่านางอยากอุ้มหลาน พอฝนสุดาตั้งครรภ์มารดาจึงไม่คิดหาทางกีดกันเขากับเธอ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนางคงไม่ยอมแน่ “ไม่มีอะไรที่แม่ไม่รู้หรอก แค่นี้นะหมอแม่ขอตัวไปพักสมองก่อน” “ขอโทษนะครับแม่ ที่ผมเป็นต้นเหตุให้แม่ต้องเครียดแบบนี้ แต่อย่าคิดมากนะครับ ผมเตรียมหาทางออกไว้แล้ว สวัสดีครับแม่ พักผ่อนเยอะๆ นะครับ” พูดจบประโยคนายแพทย์จิรายุก็กดวางสาย ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน เพื่อห่มผ้าให้กับฝนสุดา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาพร้อมจะแลกทุกอย่าง เพื่อให้ได้มาซึ่งภรรยาและครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ