Masukพิมพ์นาราหอบหายใจจนตัวโยน ร่างเธอสั่นระริกด้วยความเสียดเสียว ก่อนที่จะหวีดร้องเมื่อถึงจุดหมายปลายทางอย่างรุนแรง
กันต์ถอนกายออกห่าง เขากดร่างเธอให้คุกเข่ากับปลายเตียง ก่อนจะดึงเอวของเธอมาหาแล้วสอดกายเข้าหาทางเบื้องหลัง ใบหน้าของเธอเชิดขึ้นด้วยความซ่านกระสัน เธอร้องครางเสียงหลงแทบไม่เป็นภาษา ร่างกายสั่นเทิ้มจากจังหวะรักที่รุกเร้าเข้ามาอย่างหนักหน่วง
เขาสอดมือเข้าใต้ร่างก่อนจะบีบเคล้นปทุมถันอวบเต็มที่สั่นไหวไปมาตามแรงกระแทก สะโพกของเธอถูกดึงมาด้านหลังให้สอดรัดครั้งแล้วครั้งเล่า ยอดอกถูกนิ้วแกร่งสะกิดหนักๆ จนขนลุกซู่ เธอส่ายหน้าไปมาด้วยความทรมานแสนหวาน
กันต์สอดมือเข้าใต้รักแร้สาว เขาดึงร่างเธอมาแนบชิด แผ่นหลังเนียนเสียดสีกับทรวงอกแกร่งของเขา ใบหน้าของเธอเชิดขึ้น ก่อนที่เขาจะจับคางสวยมาทางด้านหลังและบดจูบอย่างหนักหน่วง
พิมพ์นาราจูบตอบเขาอย่างไม่ประสีประสาเช่นเดิม เธอสัมผัสได้ถึงลิ้นหนาที่รุกรานเข้ามาเกี่ยวกระหวัดรัดรึง ความสากร้อนและหอมหวานทำให้เธอต้องเผลอคราง ก่อนจะหอบหายใจหนักๆ เมื่อเขาปลดปล่อยริมฝีปากเป็นอิสระ
ส่วนกลางร่างกายสาวแยกออกจากกัน เข่าบอบบางแทบจมหายไปกับพื้นเตียงเมื่อถูกกระแทกเข้ามาหาด้วยความเสียวซ่าน ร่างกายของเธอแนบชิดกับร่างกายของเขา มือหนาขยำเคล้นคลึงทรวงอวบหนักๆ ก่อนที่เขาจะยกแขนข้างหนึ่งของเธอพาดบ่าและไถลใบหน้าไปขม้ำดูดทรวงสวย
“อ๊ะ อ๊า...” เสียงของเธอสั่นระริกเมื่อเขากระแทกเป็นจังหวะถี่ยิบ ร่างอวบซบลงกับที่นอนเมื่อเขาปลดปล่อยเป็นอิสระ เขาตามติดมาฝังกายเข้าหาอย่างไม่ปรานี ใบหน้าของเธอซุกกับหมอนเหงื่อท่วมท้นสะโพกขาวผ่องลอยเล่นขึ้นรับจังหวะรักที่เชื่อมประสานกันอยู่
พิมพ์นาราจิกมือกับหมอนใบโตอย่างรุนแรง เมื่อเขาฝังกายเข้ามาหนักหน่วงแม่นยำ เธอหวีดร้องร่างสั่นระริก ผวาขึ้นอย่างสุขสมรุนแรง
กันต์กระแทกสะโพกหนักหน่วงอีกหลายครั้งก่อนจะกอดรัดเธอแนบแน่น เขาคำรามเสียงดังอย่างกระสันซ่านเมื่อตามเธอไปติดๆ
พิมพ์นารารับรู้ว่าเขาวนเวียนอยู่กับร่างกายของเธอ และเธอก็ยินยอมพร้อมใจ
หญิงสาวหลับลงทันทีที่ทุกอย่างมาถึงจุดแห่งความหฤหรรษ์เป็นลำนำสุดท้าย ร่างอวบถูกดึงไปกอดแนบอกอย่างหวงแหนทะนุถนอม...
พิมพ์นาราสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะหอบหายใจอย่างรุนแรง เหงื่อของเธอไหลโซมไปทั่วกาย
..นี่เธอฝันอีกแล้วเหรอ ขนาดว่าหนีมาหลบอยู่ที่นี่แล้ว ความฝันเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ยังตามหลอกหลอนเธอไม่หาย
ร่างอ่อนแรงเดินโซซัดโซเซออกมาข้างนอก จำได้ว่าเพื่อนสนิทของเธอก็อยู่ด้วยกัน แต่ไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว
เดินมาถึงห้องครัวก็เจอกับซุปร้อนๆ กลิ่นหอมกรุ่นอยู่ในหม้อ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นคนทำขึ้นมา เพราะความหิวและร่างกายที่อ่อนล้าเต็มที ทำให้เธอรีบจัดการกับซุปหม้อนั้นจนเกลี้ยง
พอกินอิ่มแล้วความรู้สึกที่พยายามวิ่งหนี ตามมาจู่โจมอย่างหนักและยิ่งหนักหน่วงกว่าเดิมเสียอีกเมื่อคิดว่าเมื่อคืนไม่น่าไปแย่งเหล้าแก้วนั้นดื่มเลย เพิ่งมารู้ตัวว่าเหล้าแก้วนั้นมีสิ่งเจือปนก็ตอนนี้เอง เพราะเธอคงไม่เมาเหล้าจนไปปล้ำผู้ชาย หรือโดนลากไปง่ายๆ แน่ แต่เมื่อคืนเธอยินยอมพร้อมใจไปกับ... เขา
กันต์... ผู้กำกับหนุ่มไฟแรงที่เธอเห็นเขาบ่อยๆ เพราะเขามาทำงานอยู่ในไร่องุ่นของพี่ชาย เธอไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเขาแม้แต่น้อย แค่นึกชื่นชมเขาที่เป็นคนรุ่นใหม่อนาคตไกล แม้บางครั้งจะแอบหมั่นไส้เขาอยู่เหมือนกันและเขาเองก็เอ็นดูเพื่อนรักของเธอมากๆ ด้วย
“ทำไมซวยแบบนี้นะ” พิมพ์นาราซบหน้ากับฝ่ามือ แม้จะรู้สึกดีที่พี่ชายไม่โดนยัยดาราวดีจับเป็นสามีเพราะยานรกนั่น แต่เธอกลับซวยเสียเอง บางทีพี่ชายโดนจับก็อาจจะหาทางหนีทีไล่ได้ เพราะยังไงก็เสียหายน้อยกว่า แต่เธอน่ะสิ เป็นผู้หญิง พรหมจรรย์ที่เสียไปก็เรียกคืนไม่ได้ แล้วไหนจะยังความอับอายขายหน้าอีก เธอจะสู้หน้าใครได้
ยิ่งกับกันต์แล้ว เธอแอบหนีมาตั้งแต่ตื่นนอนขึ้นมาบนเตียงแล้วพบว่านอนเปลือยอยู่กับเขา เธอไม่กล้าสู้หน้าเขา ทั้งเจ็บทั้งอาย สารพัดปนเปกันไปหมด ยิ่งถ้าพี่ชายรู้เข้า เธอยังไม่รู้เลยว่าจะทำยังไงดี
พอเจอพี่ชายกับเพื่อนรักเข้า พิมพ์นาราจึงต้องแกล้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนเย็นเธอช่วยบัวบูชาทำอาหารด้วยจิตใจที่เลื่อนลอย พอโดนทักก็บอกว่าเพลียนิดหน่อย บัวบูชาคิดไปว่าเพราะไม่สบาย แต่จริงๆ เธอมีเรื่องให้ต้องคิดตลอดเวลา
เสียงของพี่ชายที่ดังเข้ามาหลังจากที่เธอกับเพื่อนรักจัดโต๊ะอาหารเสร็จ ทำให้พิมพ์นาราต้องปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เพราะความที่มัวแต่คิดเรื่องของตัวเอง เลยไม่ได้สนใจว่าเพื่อนรักและพี่ชายมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อกันบ้าง
แต่อีกเสียงที่ดังตามหลังพี่ชายเข้ามาทำให้พิมพ์นาราตัวแข็งทื่อ เธอคิดว่าตัวเองเป็นใบ้ เมื่อโดนจ้องเอาจ้องเอาเหมือนเขาจะสื่อความหมายอะไรบางอย่าง
กว่าจะรับประทานอาหารเสร็จเล่นเอาเธอเกร็งไปหมด เอาแต่หลบหน้าหลบตาตลอดเวลา คิดแต่จะหนีเข้าห้อง ไม่คิดว่าพี่ชายจะใช้ให้เธอไปส่งอีตานั่นที่หน้าบ้านอีก
อกอวบๆ ของเธอนุ่มหยุ่น เขาฟอนเฟ้นมันอย่างย่ามใจ ก่อนจะป้อนเข้าปากดูดเม้มรวบรัดอย่างหิวกระหาย กันต์รู้สึกได้ถึงส่วนล่างที่คุกรุ่นแทบปะทุออกมา เขาอยากเล้าโลมอีกหน่อยแต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ มือหนาเลื่อนไปแยกเรียวขาของเธอออกห่าง ก่อนจะกดกายเข้าหา“อ๊า...” กันต์ครางเสียงดังพอๆ กับคนใต้ร่างที่หวีดร้องออกมา พร้อมกับจิกมือกับแขนแกร่งด้วยความเจ็บเสียวที่ผสมปนเปกันไปหมดความคับแน่นที่ได้รับและความฝืดเคืองที่เขาไม่สามารถดุนดันเข้าไปได้ทำให้กันต์นิ่วหน้า เขาไม่ได้รู้สึกผิดหรืออยากล่าถอย ไม่ใช่เพราะไม่เป็นสุภาพบุรุษ แต่ในอารมณ์เช่นนี้ เขาถอยไม่ได้จริงๆ“อื้อ... เจ็บ”เธอถอยสะโพกหนีในขณะที่กันต์ตามติด เขาดึงสะโพกของเธอมาหา กระชับเอาไว้อย่างมั่นคง พิมพ์นาราจิกมือกับไหล่กว้าง เธอหวีดร้องอีกครั้ง ผวาร่างกอดรัดร่างสูงเพรียวเอาไว้เต็มอ้อมแขน เมื่อเขากดกายลงมาจนหมดสิ้น ผ่านเยื่อพรหมจรรย์ที่เก็บรักษามาตลอดระยะเวลายี่สิบปีกันต์นิ่วหน้าเพราะถูกโอบรัดอย่างรุนแรง เขาแช่กายทิ้งเอาไว้แล้วค่อยๆ ปรับตัว ก่อนจะเริ่มขยับ เสียงครวญครางที่ดังอย่างต่อเนื่องมาพร้อมกับเสียงเนื้อกายที่กระแทกกระทั้นเข้าหากันอย่างแนบชิด
“เลิกกอดฉันได้แล้วค่ะ” เธอพยายามตะกายร่างลุกขึ้น แล้วใครๆ ก็วิ่งมาดูกันต์ล้อมหน้าล้อมหลัง พิมพ์นาราถูกผลักออกนอกวงล้อม“เป็นยังไงบ้างพิมพ์” บัวบูชารีบวิ่งมาถามเพื่อนรักอย่างเป็นห่วง“ไม่เป็นอะไรจ้ะ ไปเถอะ”“อ้าวคุณ อ้าว...” กันต์ได้แต่ยกมือค้างกลางอากาศ เหมือนเขาจะช่วยแต่เธอไม่ซาบซึ้งเลยสักนิด หลังจากวันนั้นก็ไม่ค่อยได้เห็นหน้าเธออีกเลย...เจอกันอีกครั้ง ได้แค่แอบมอง...กันต์ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากพันกร เจ้าของไร่องุ่นที่มีอัธยาศัยดี เขาแอบฝากเนื้อฝากตัวเป็นว่าที่น้องเขยอยู่ลึกๆ ในใจ ถึงจะยังจีบน้องสาวไม่ได้ก็เถอะ ชีวิตของเขามีผู้หญิงมากมายล้อมหน้าล้อมหลัง แต่ผู้หญิงที่เห็นแล้วปิ๊ง เรียกว่าเธอรู้สึกน่ารักในสายตาเขานั้นไม่มี แม้แต่แฟนเก่าก็คบกันเพราะต้องเจอกันบ่อยๆ แต่เธอก็เลือกคนอื่น ซึ่งเขาก็ไม่ได้โทษใคร เพราะความรักมันเกิดจากคนสองคนผู้กำกับหนุ่มก็ขำๆ ตัวเองเหมือนกันที่ดันมาชอบยัยเด็กสาวอวบระยะสุดท้ายที่มองยังไงเขาก็คิดว่าน่ารัก น่าหยิกและน่าขย้ำ เขาชอบเธอตั้งแต่แรกเห็น อาจเพราะรอยยิ้มสดใส ความขี้เล่นกวนๆ ที่เขามักเห็นเวลาเธออยู่กับเพื่อนรักอย่างบัวบูชา ทำให้เขานึกเอ็นดู ชีวิ
“ครับ”“นี่ค่าขนมนะครับ”“ครับ” กันต์มองตามร่างเล็กไปจนสุดตา เห็นอีกฝ่ายวิ่งเข้าไปใกล้ถึงที่หมาย เขาก็โดนเรียกไปอีกด้าน กันต์หันหลังให้ แต่ก็ยังอยู่ในรัศมีที่เด็กชายตัวน้อยจะบอกพิมพ์นาราให้ว่าเขาฝากดอกกุหลาบไปให้ เธอคงรู้นะว่าเขาจะเริ่มต้นจีบเธอ“นั่นดอกกุหลาบคุณกันต์ให้เอาไปไหนจ๊ะ” ดาราวดีเอ่ยถามเด็กชายตัวน้อย เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในสายตาของเธอโดยตลอด“เอาไปให้ผู้หญิงที่นั่งกินขนมอยู่ตรงโน้นครับ” เด็กน้อยตอบอย่างใสซื่อ“เอาอย่างนี้นะจ๊ะ พี่ให้เงินเพิ่มอีก หนูเอาดอกกุหลาบไปให้ผู้หญิงคนนั้นแล้วบอกว่า ผู้ชายคนโน้นให้เอามาให้” ดาราวดีชี้ไปที่ตากล้องร่างยักษ์ ตัวดำ หัวฟู ที่กำลังแบกหามขนของอยู่อีกด้านเพื่อช่วยทีมงาน“แต่พี่ชายคนโน้นบอกว่า...” เด็กน้อยมีท่าทีลังเล“พี่ให้เพิ่มอีกดีไหม”ดาราวดียัดเงินใส่มือเด็กน้อยเด็กชายจึงพยักหน้าเข้าใจ“สร้างความร้าวฉานคืองานของเรา ฮ่าๆๆๆ”ดาราวดีหัวเราะชอบใจ ก่อนจะปิดปากและขบขัน เธอไม่ชอบพิมพ์นาราเพราะอีกฝ่ายทำสีหน้าไม่ดีกับเธอ ยิ่งรู้ว่าเป็นเพื่อนกับบัวบูชา ยัยดาราดาวรุ่งที่ใครๆ ก็อยากดัน เธอยิ่งหมั่นไส้ กันต์ก็เถอะ อ่อยแทบแย่เขาก็ไม่สนใจ แต่ดันไปชอบยัย
“แรงๆ ได้ไหม ขอแรงๆ”กันต์ถามเสียงแหบพร่าพิมพ์นาราพยักหน้าเหมือนต้องมนต์สะกด เธอเสียวซ่านจนแทบขาดใจกันต์กดร่างเธอไปกับหัวเตียง เธอเลยอยู่ในท่านั่งพิงหัวเตียง แยกขาอ้ากว้าง ในขณะที่เขาตามมากระแทกเสียเต็มรัก พิมพ์นารามองภาพกลางกายที่สอดประสานกันอยู่ก็หน้าแดง กันต์ชอบทำให้เธอรู้สึกเสียวซ่านและขัดเขินในเวลาเดียวกันภาพที่แก่นกายของเขาดันเข้าออกไม่หยุดยั้งทำให้เธอร้องครางทุกครั้งที่เขาเชื่อมกายเข้าหา เขาขยับกายเข้าออกโดยเร่งจังหวะเร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อยๆ พิมพ์นาราครวญครางไม่ได้ศัพท์ ก่อนที่เธอจะผวากอดเขาแน่น ตอดรัดเขาด้วยความสุขสม ในขณะที่กันต์บดกายเข้าหาเธอ ให้เธอดูดกลืนธารร้อนของเขาจนหมดสิ้นกันต์จูบหน้าผากเธอหนักๆ พิมพ์นาราทุบอกเขา เลยโดนอุ้มไปอาบน้ำทั้งท่านั้น กว่าจะอาบน้ำเสร็จก็ปาเข้าไปอีกเป็นชั่วโมง ออกมาจากห้องน้ำนั่นแหละ ถึงได้รับประทานอาหารกันอย่างจริงๆ จังๆ เสียที“ป้อนไหมคะ” เธอยื่นหน้าไปถาม“จะเอาใจพี่เหรอ”“ชอบไหมล่ะคะ”“ชอบ มาสิ มานั่งเก้าอี้ตัวเดียวกัน”“พิมพ์ตัวหนักนะคะ”“นั่งตรงนี้ครับ” กันต์แยกขาออกตบเบาๆ ในส่วนของเก้าอี้ที่ยื่นออกไป ให้เธอมานั่งตรงนั้น พอเธอนั่งเขาก็โอบ
เขาดึงสายตากลับมามองสะโพกผายน่าขย้ำของเธอ แล้วกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากอย่างปัจจุบันทันด่วน ทั้งกลมกลึงและต้นขาอวบนั้นก็น่าลูบไล้ แน่ละอารมณ์ของเขาจินตนาการไปเรื่อย อยากมองลึกเข้าไปให้มากว่านั้น เพราะภายในซุกซ่อนสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำให้เขาครางแทบขาดใจเมื่อซุกไซ้เข้าไปหาและร่างกายเชื่อมประสานติดกันกันต์กลืนน้ำลายติดๆ กันอีกครั้ง เขารู้สึกว่ายิ่งกลืนน้ำลายลำคอก็ยิ่งแห้งผาก..เอาแล้วสิ ทำไมต้องมาเกิดมีอารมณ์อยากปล้ำเมียเอาตอนนี้ด้วยนะ แล้วทุกครั้งเขาก็รู้สึกตื่นเต้น รู้หรอกว่าเธอยินยอมพร้อมใจ แต่วันนี้เธอบอกว่าจะให้รางวัลเขา เขาก็เลยคาดหวังอยู่บ้างกับสิ่งที่เธอนำมาล่อลวงหัวใจให้เขาคิดตามเขาอยากดึงเธอมากอดเสียเดี๋ยวนี้ แต่ก็อยากให้เธอลองเป็นคนรุกก่อนบ้าง มันคงจะตื่นเต้นดีหรอกนะ เขาไม่ได้ทะลึ่งหรือลามก เพราะเขาคิดกับเมียของเขาคนเดียวเท่านั้นเขาอยากจูบเธอตอนนี้และกอดรัดเอาไว้แนบอก พิมพ์นาราเป็นคนขี้เล่น เธอเหมือนเด็กที่อยากรู้อยากเห็นอยู่เสมอ ตอนนี้เขาอยากให้เธอซุกซนกับเขาเสียจริง“อุ๊ย!” เธออุทานเมื่อเขาสัมผัสร่างกาย เนื่องจากกำลังยืนคิดอะไรเพลินๆ แล้วเขาก็อดใจไม่ไหวจนได้“กอดหน่อย คนตัวหอม
พิมพ์นารายืนรอสามีมารับอยู่หน้ามหาวิทยาลัย ส่วนบัวบูชานั้นมีงานถ่ายแบบต่อ เจ้มิ้นต์มารับออกไปตอนเลิกเรียน คนอยากเจอหน้าลูกแอบคิดถึงเจ้าตัวน้อยตอนอาจารย์สอบวิชาสุดท้าย กลับบ้านไปคงได้เล่นกันจนหลับไปเหมือนเคยรถของสามีมาจอดเทียบตรงหน้าที่เธอยืนอยู่ คนขับรถวิ่งลงมาเปิดประตูรถให้ พิมพ์นาราสอดตัวเข้าไปนั่งในรถ และแทบกรีดร้องอย่างดีใจที่เห็นสามีกับลูกสาวตัวน้อยอยู่ในรถด้วย“พี่กันต์ พายัยหนูมาด้วยเหรอคะ”“ใช่ อยากให้ใครบางคนเซอร์ไพรส์ สอบเสร็จแล้วใช่ไหม”“ใช่ค่ะ ทำข้อสอบได้ด้วยค่ะ สงสัยวิชานี้ได้เต็มค่ะ คิกๆ”“ขี้โม้...”กันต์บีบจมูกอีกฝ่ายอย่างเอ็นดูพิมพ์นาราหอมแก้มย้วยๆ ของบุตรสาว อีกฝ่ายกระดี๊กระด๊าดีใจที่เห็นมารดา พิมพ์นารายิ้มกว้าง นั่งเล่นกับลูกอย่างสบายอารมณ์ กันต์เป็นผู้ชายน่ารัก เขารักลูกและรักเธอ ดูแลไม่เคยขาดตกบกพร่อง กลับมาจากข้างนอกเขาก็ต้องไปหาลูกก่อน เขาเล่นกับลูกจนหลับไปเหมือนๆ กับเธอ ชอบซื้อของเล่น เสื้อผ้า พาลูกไปเที่ยวและไม่เคยให้เธอต้องรับภาระอะไรคนเดียวเขาน่ารักเสมอ น่ารักเสมอต้นเสมอปลาย และยิ่งน่ารักขึ้นในทุกๆ วัน“แต่ถ้าสอบได้คะแนนเต็มจริงๆ จะให้รางวัลหนักๆ เลย”“ราง







