INICIAR SESIÓN
“ครั้งแรก?” น้ำเสียงเข้มเอ่ยถามราบเรียบหลังจากสอดใส่แก่นกายเข้าไปในร่องรักคับแคบแล้วผ่านอะไรบางอย่าง เสียงกรีดร้องของคนใต้ร่างบวกกับเลือดสีแดงสดทำให้รู้ทันทีว่า…
เธอยังบริสุทธิ์ ชายหนุ่มขบกรามแน่นอย่างหัวเสีย ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าเคยผ่านเรื่องอย่างว่ามาแล้ว เริ่มเอะใจตั้งแต่ตอนแรกที่เธอปรนนิบัติอย่างเงอะงะด้วย มิหนำซ้ำเมื่อครู่เขายังสอดใส่แท่งร้อนเข้าไปโดยไม่ออมมือ อีกทั้งยังไม่มีน้ำหล่อลื่นช่วยเบิกทาง ถึงไม่ถามก็รู้ว่าเธอเจ็บมากแค่ไหน “ถ้าไม่โอเค ฉันหยุดให้ได้” ไม่อยากทรมานผู้หญิง แม้ตอนนี้อารมณ์กระสันกำลังทำงาน หากเธอต้องการให้หยุด เขาสามารถหยุดแล้วจัดการกับตัวเองได้ “มะ…ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวใต้ร่างบอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาคู่สวยเปียกชุ่มด้วยคราบน้ำตาที่เกิดจากความเจ็บปวด “ฉันจะไม่อ่อนโยน เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทัน” “ทะ…ทำต่อได้เลยค่ะ” แม้เจ็บก็ต้องอดทน เพราะมันคือหนทางเดียวที่ทำให้เธอได้เงิน นี่เป็นครั้งแรกที่ตัดสินใจเอาร่างกายเข้าแลกเงิน และคงเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะทำมัน… ปึก! ปึก! ปึก! แก่นกายขนาดใหญ่ถาโถมเข้าใส่ร่องรักอย่างหนักหน่วง เลือดสีแดงสดปนน้ำรักไหลผสมกันเป็นหนึ่งเดียว สายตาคมเข้มหลุบมองจุดเชื่อมเพื่อกระตุ้นอารมณ์กระสัน “อึก! อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ~” หญิงสาวจิกหมอนใบใหญ่แน่นเพื่อระบายอารมณ์ทุกอย่างออกมา ใบหน้าสวยหวานบิดเบี้ยวด้วยความทรมาน ขณะที่ริมฝีปากสีระเรื่อเผยอเปล่งเสียงคราง ลิ้นสากตวัดใส่ยอดอกจนแข็งเป็นไต แรงกระแทกรุนแรงทำให้ร่างบางโยกคลอน หญิงสาวเผลอฝากรอยเล็บไว้บนร่างกายกำยำ จนถูกคนบนร่างจับข้อมือแยกออกจากกันแล้วกดลงเตียงนอน เขาไม่เคยอนุญาตให้ใครทิ้งรอยไว้บนร่างกาย! แววตาดำมืดมองใบหน้าหญิงสาว โถมแรงทั้งหมดที่มีใส่อย่างไม่ปรานีเป็นการลงโทษ “ระ…แรงไปอึก!” มุมปากหยักได้รูปประตุกยิ้มพอใจ ภายในที่ตอดรัดแก่นกายจุดประกายความเสียวซ่านกระจายไปทั่วร่างกายจนต้องครางเสียงต่ำออกมา “มองหน้าฉัน!” หญิงสาวใต้ร่างมองหน้าคนตัวโตอย่างกล้าๆ กลัวๆ ก่อนหน้านี้ที่นั่งดื่มด้วยกันเขาดูนิ่งและเย็นชา ทว่าพอเข้าสู่เรื่อง ‘เซ็กซ์’ ชายคนนั้นถูกสลัดหายเพียงชั่วพริบตา เหลือเพียงเสืือผู้หิวโหยกำลังกลืนกินลูกแกะที่ไม่มีทางสู้… ปึก! ปึก! ปึก! “ขอแตกในตัวเธอได้ไหม” น้ำเสียงกระเส่ากระซิบลงข้างใบหูหญิงสาว “ได้ไหม…” ชายหนุ่มดึงสายตามามอง ราวกับโดนมนตร์สะกดให้เคลิ้มตาม หญิงสาวเผลอพยักหน้าเป็นการตอบตกลงกับอีกฝ่าย “แล้วฉันจะเพิ่มค่าตัวให้” ริมฝีปากหยักยิ้มพอใจ สะโพกแกร่งเคลื่อนไหวหนักหน่วงขึ้น ไม่นานร่างกายทั้งสองคนก็เกร็งกระตุกปลดปล่อยความสุขออกมาพร้อมกัน “อ๊า!” “อร๊าย!” ครั้งแรกที่เธอสัมผัสถึงความรู้สึกแบบนี้ มันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก พรึ่บ! หญิงสาวถูกพลิกขึ้นมาอยู่ด้านบนของชายหนุ่ม คนที่ยังไม่หายเหนื่อยมองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาด้วยความประหม่า “มันไม่จบแค่รอบเดียวหรอกนะ” “คะ?” “ทำให้ฉันสิ แล้วฉันจะเพิ่มค่าตัวให้เธออีก” “ทำ… แบบไหนคะ?” เจ้าของคำถามเอ่ยกับคนตรงหน้าด้วยท่าทางใสซื่อและไร้เดียงสา “แค่ขยับตัวขึ้นลง แบบนี้” เขาจับสะโพกเธอขยับขึ้นลงเป็นจังหวะ “ทำได้ใช่ไหม” หญิงสาวพยักหน้ารับ เริ่มเคลื่อนไหวร่างกายขึ้นลงตามที่อีกฝ่ายสอนอย่างเขินอาย ครั้งแรกที่แก้ผ้าต่อหน้าผู้ชายแล้วทำอะไรแบบนี้ด้วยกัน แม้รู้สึกละอายใจ ทว่าตัวเองกลับไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว ไม่เป็นไร… มันก็แค่ ‘เซ็กซ์’ ใครๆ ก็ทำกัน ผ่านคืนนี้ไปทุกอย่างก็จบแล้ว“เดินระวังนะครับ”“เบบี๋ประคองหนูทั้งวันแล้วนะ ให้หนูเดินเองเถอะ”“ไม่ได้ ท้องหนูโตมากแล้ว ให้เฮียประคองเนี่ยแหละดีแล้ว”เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ ต่อให้ท้องไม่โตใกล้คลอดเขาก็เดินประคองทุกวันอยู่แล้ว อาทิตย์หน้าก็ถึงกำหนดคลอดลูก บอกตามตรงว่าตื่นเต้นและกลัวในเวลาเดียวกัน ไม่เคยมีประสบการณ์คลอดลูกมาก่อน ค้นกูเกิลเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะมาก ซึ่งหลายคนบอกไม่เหมือนกันเลยสักคนคาร์มินประคองมิรามานั่งลงโซฟา ชายหนุ่มถอดรองเท้าออกให้ การกระทำของคนตัวโตเรียกรอยยิ้มจากภรรยาสาวได้ไม่ยากอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นเขาทำแบบนี้ให้“ขอบคุณเบบี๋นะคะ”คาร์มินเงยหน้าขึ้นมองภรรยาสาว“เบบี๋ดูแลหนูดีมากเลย ไม่คิดว่าชีวิตนี้หนูจะได้เจอผู้ชายแบบเบบี๋” แม้จุดเริ่มของความสัมพันธ์ไม่ได้ดีมากนัก ทว่าตอนจบของเรื่อง…เชื่อว่ามันสวยงามเสมอคุณคาร์มินดีกับเธอมากจริงๆ เขาดูแลและเอาใจใส่ในทุกเรื่อง แถมยังรู้ด้วยว่าเธอชอบหรือไม่ชอบอะไร ถ้าหากวันนั้นเธอกับเขาไม่ได้เจอกัน ก็คงไม่มีวันนี้“หนูรักเบบี๋นะคะ”“รักเหมือนกันครับ” เขามองมิราแล้วยิ้ม ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปสวมกอดเธอเอาไว้ด้วยความรักถ้าหากรู้ว่าจะรักมิรามากขนาดนี้ คงขอเธอเป็นแฟนไ
วันแต่งงาน “สวยจังเลยลูกสาวแม่” มะลิพูดกับลูกสาวในชุดเจ้าสีขาวสะอาดตาสวยงามด้วยรอยยิ้มและแววตาที่ปลื้มปิติจากเด็กน้อยในวันนั้นสู่เจ้าสาวในวันนี้…วันและเวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆ เผลอแป๊บเดียวมิราโตเป็นสาวแล้ว ความฝันของคนเป็นแม่ไม่ได้มีอะไรมากมายเลย แค่อยากเห็นลูกสาวได้เจอคู่ชีวิตที่ดีและได้อุ้มหลานเส้นทางแห่งการก้าวสู่คำว่า ‘สร้างครอบครัว’ คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของมิราและคาร์มิน หวังว่าทั้งสองคนจะจับมือกันผ่านอุปสรรคต่างๆ ในอนาคตไปได้ จะคอยดูลูกสาวเติบโตอยู่ไม่ไกล หันมาเมื่อไหร่ก็ยังเจอ“แม่ก็สวยเหมือนกันค่ะ”“ปากหวานจริงๆ เด็กคนนี้”“คิก แม่ว่าคนอื่นจะมองหนูยังไงบ้างคะ เพราะหนูอายุสิบแปด แต่กำลังแต่งงาน”“อีกไม่กี่เดือนลูกสาวแม่ก็สิบเก้าแล้วนะ” มะลิพูดเย้าแหย่ให้ลูกสาวไม่เครียด“มิราไม่ต้องสนใจสายตาคนอื่นหรอกว่าจะมองยังไง วันนี้หนูเป็นนางเอกของงาน สวยที่สุดในนี้ ต่อให้ลูกสาวแม่แต่งงานตอนอายุสิบแปดมันก็ไม่เห็นแปลกอะไรเลย เพราะมิราบรรลุนิติภาวะแล้ว อีกอย่าง ความคิดและทัศนคติของลูกยังเหมือนผู้ใหญ่คนนึง”“…”“หากตัดเรื่องอายุออกไป ลูกสาวแม่ก็เหมือนผู้ใหญ่คนนึงเลยแหละ เพราะฉะนั้นมิราไม่ต
วันรับปริญญาคาร์มินในชุดครุยรับปริญญากำลังยืนถ่ายรูปกับกลุ่มเพื่อนสนิท สายตาคมเข้มมองหาใครบางคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วย มีเพียงครอบครัวตัวเองและของเพื่อนสนิทเท่านั้น เมื่อเช้ามิราโทรมาบอกว่าอาจจะไม่ได้เข้าไปเพราะติดธุระสำคัญวันนี้เป็นวันสำคัญแต่คนสำคัญกลับยังไม่มา พอมองดูรอบข้างเห็นคิมหันต์และอนาคินกำลังถ่ายรูปคู่กับแฟนสาวมันกลับทำให้เขารู้สึกเศร้าขึ้นมารู้ว่ามิราติดธุระของตัวเอง ทว่าวันสำคัญทั้งที ก็อยากให้เธอได้อยู่ตรงนี้ด้วยกัน“มิราไม่มาเหรอวะ” ลูคัสเดินเข้าไปถามคาร์มิน“ไม่แน่ใจวะ เห็นบอกว่าวันนี้ต้องไปทำธุระสำคัญ”“เดี๋ยวก็มา” เพื่อนสนิทตบไหล่เบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหาครอบครัวตัวเองส่วนคาร์มินก็เดินเข้าไปหาพ่อ แม่ และน้องสาว“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะพี่คาร์มิน” คาร์เทียร์เอ่ยถามพร้อมกับอมยิ้ม แม้รู้อยู่แล้วว่าสาเหตุที่ทำให้พี่ชายทำหน้าหงอยแบบนี้มาจากอะไรเพราะว่าพี่สะใภ้ไม่อยู่ตรงนี้ยังไงล่ะ เลยทำให้แมวเย็นแถวนี้กลายเป็นแมวหงอย“พี่สะใภ้ของเทียร์ยังไม่มาเหรอคะ”“นั่นนะสิ ตั้งแต่มาถึง แม่ยังไม่เห็นหนูมิราเลย”“วันนี้มิราติดธุระสำคัญครับ ไม่รู้ว่าจะเสร็จตอนไหน บางทีอาจจะไม่ได้มา”“ลอง
“เบบี๋~ หนูมาแล้ว~” เสียงใสคุ้นเคยดังเข้ามาในโสตประสาทชายหนุ่มที่กำลังวุ่นวายอยู่กับงานตรงหน้า ความเครียดตึงเหมือนสมองบีบรัดแน่นหายไปในพริบตา เมื่อได้เห็นรอยยิ้มสดใสของแฟนสาวและเป็นคนเดียวกับ…แม่ของลูก“ซื้อของกินมาฝากด้วยค่ะ” คนตัวเล็กในชุดสบายๆ ชูถุงของกินเต็มสองมือขึ้นต่อหน้าคาร์มิน“ไปชอปปิงกับคาร์เทียร์สนุกไหม” วันนี้เขาออกมาบริษัทตั้งแต่สิบโมงเช้า ทำให้มิราต้องอยู่เพนท์เฮาส์คนเดียว ตอนแรกแอบกังวลว่าเธอจะเหงาหรือเปล่า โชคดีวันนี้คาร์เทียร์โทรมาขออนุญาตพามิราไปชอปปิงเป็นเพื่อน เขาเลยอนุญาตให้ไป เพราะไม่อยากปล่อยแฟนไว้คนเดียว“สนุกมากเลยค่ะ น้องสาวเบบี๋ชวนคุยเก่งมาก แถมยังพาหนูไปกินของอร่อยๆ เยอะแยะเต็มไปหมดเลย”“หึ เฮียดีใจนะที่เห็นหนูมีความสุข” คงสนุกเที่ยวเลยล่ะ ทั้งมิราและคาร์เทียร์มีอะไรหลายอย่างคล้ายกันมาก แตกต่างกันอยู่แค่ไม่กี่อย่าง“ยิ้มแบบนี้เยอะๆ นะครับ” รอยยิ้มของมิราเปรียบเสมือนยาชูกำลัง เห็นแบบนี้ทุกวันทำให้เขาหายเหนื่อยกับอะไรหลายๆ อย่างที่ทำมาทั้งวันเลยล่ะ…“เมื่อกี้เห็นเบบี๋สีหน้าไม่ค่อยดีเลย เป็นอะไรเหรอคะ”“เฮียแค่กำลังโฟกัสกับงาน” เวลากำลังโฟกัสกับอะไร สีหน้าของ
บรรยากาศภายในห้องอาหารของโรงแรมหรูระดับห้าดาวชื่อดังแห่งหนึ่งอบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มแห่งความสุข สองครอบครัวได้มาเจอกันเป็นครั้งแรกครอบครัวคาร์มินให้การต้อนรับครอบครัวมิราเป็นอย่างดี ทั้งหมดร่วมกันรับประทานอาหารเย็นท่ามกลามวิวตึกในยามค่ำคืนของเมืองกรุงเทพมหานครในห้องอาหารส่วนตัววีไอพีคาร์มินเป็นคนนัดทุกคนให้มารวมตัวกันเพื่อบอกเรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เจ้าตัวไม่ได้คิดมากอะไร แต่คนที่คิดมากเห็นจะเป็นแฟนสาวมากกว่า เมื่อคืนมิรานอนไม่หลับเพราะเอาแต่เครียดเรื่องนี้ และกลัวอะไรหลายๆ อย่างที่ยังไม่เกิดขึ้น“นัดเจอกันแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ จะได้ทำความรู้จักกับครอบครัวหนูมิราด้วย” เสียงนาร์มินพูดแล้วยิ้มให้ครอบครัวมิราอย่างเป็นมิตร“อะไรที่ทำให้ลูกนัดเจอพวกเราพร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้” มาร์คินหันไปถามลูกชายด้วยความอยากรู้“ที่ผมนัดทุกคนมาเจอกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาวันนี้ เพราะมีเรื่องสำคัญอยากจะบอกให้ทราบครับ”“เรื่องสำคัญอะไรเหรอ?” มะลิถามคาร์มินหันไปมองหน้ามิราพร้อมกับจับมือเล็กมากุมเอาไว้ แม้คนข้างกายไม่แสดงออกว่ากำลังวิตกกังวล แต่ลึกๆ เชื่อว่าเธอคงกำลังเป็นแบบนั้น“
“เบบี๋~” เสียงใสเจื้อยแจ้วเรียกแฟนมาแต่ไกล มิราเดินมานั่งบนตักอ้อนคาร์มินที่กำลังทำงานอยู่ ทำให้ชายหนุ่มต้องพักงานตัวเองเอาไว้ชั่วคราวเพื่อสนใจแฟนสาวก่อนเป็นอันดับแรก“ว่าไงครับ”“เบบี๋ไม่ปลุกหนูอีกแล้ว”“เฮียเห็นหนูหลับอยู่เลยไม่อยากรบกวน” ช่วงนี้มิรานอนกลางวันบ่อยมาก แถมยังขี้อ้อน และติดเขาแบบสุดๆ ไม่ใช่ว่าไม่ชอบที่เธอเป็นอย่างนี้ ชอบมากเลยล่ะ เพราะเมื่อก่อนมิราไม่ค่อยสนใจเขาเท่าไร อยากให้เป็นแบบนี้ไปนานๆ ตลอดไปเลยยิ่งดี…“แต่บางทีการตื่นขึ้นมาโดยไม่เห็นเบบี๋ มันก็รู้สึกแปลกๆ อยู่เหมือนกัน”“บางทีเฮียก็เดินเข้าไปดูหนูอยู่ แต่เห็นนอนหลับสบายเลยไม่กล้าปลุก”“เบบี๋ทำงานอยู่เหรอ?”“ใช่ครับ”“หนูลงไปซื้อชานมไข่มุกนะ เบบี๋จะเอาอะไรไหมเดี๋ยวซื้อมาให้”“ไปคนเดียว?”เธอพยักหน้าเป็นคำตอบ เห็นเขากำลังทำงานอยู่เลยไม่อยากชวนลงไปด้วย“เดี๋ยวเฮียลงไปเป็นเพื่อน”“เบบี๋ทำงานเถอะค่ะ หนูไม่อยากกวน”“เดี๋ยวไปเป็นเพื่อน”“ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูไปหยิบกระเป๋าตังค์ก่อนนะ”“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเฮียจ่ายให้”“เบบี๋จ่ายค่าชานมไข่มุกให้หนูเกือบทุกวัน หมดไปเยอะแล้วมั้ง ครั้งนี้หนูขอจ่ายเองดีกว่า”“เฮียจะจ่ายให้”“ตามใจเ







