“โน้ต ตอนไปซ้อมรอเราด้วยนะจะได้ไปด้วยกัน” เชอร์รี่เพื่อนในคณะและตำแหน่งดาวคณะคู่กับวรงกรณ์ เดินเข้ามาบอกชายหนุ่มรูปหล่อพ่อรวยที่ตัวเองหมายปองจองเอาไว้ในใจตั้งแต่แรกเห็น ใครๆก็รู้ว่าท่ีบ้านของวรงกรณ์รวยแค่ไหนถ้าได้เป็นสะใภ้บ้านนี้สบายไปทั้งชาติ อีกแค่สองวันก็จะถึงวันประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัยแล้ว ที่จริงเขาไม่ได้อยากเป็นเลยแต่เพื่อนๆและรุ่นพี่ต่างลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าต้องเป็นวรงกรณ์เท่านั้นที่จะเหมาะสมกับตำแหน่งนี้เลยทำให้ปฏิเสธไม่ได้ เลยต้องปล่อยให้เลยตามเลยและอีกอย่างเขาหมั่นไส้เดือนคณะแพทย์เพื่อนใหม่ของพู่กันเพื่อนรักวัยเด็กของเขาด้วยที่ทำตัวสนิทกับเพื่อนเขามากเกินไป ขยันเป็นข่าวเพจคิ้วท์บอยเหลือเกินพลอยจะทำให้เฮียเนมเข้าใจเพื่อนเขาผิด
"ได้ซิ เชอร์รี่ก็เตือนเราอีกทีแล้วกันนะเผื่อเราลืมดูเวลา” วรงกรณ์บอกเพื่อนสาวอีกทีก่อนที่จะต้ังใจเรียนต่อ โดยที่พยายามที่จะไม่สนใจหญิงสาวที่มองเขาอย่างเคลิบเคลิ้ม
“โอเคนั่นเเหละ น้องโน้ตเดินช้ากว่าอีกนิดนึง นิดเดียวค่ะ โอเคดีค่ะ เลิศค่ะลูกชาย” เสียงของพี่เลี้ยงคณะวิศวะเชียร์เดือนคณะในระหว่างซ้อม เรื่องหุ่น และบุคลิกภาพของวรงกรณ์ไม่น่าเป็นห่วงเพราะเจ้าตัวหุ่นดีมากอยู่แล้วแค่ปรับการเดินให้ช้าลงเท่านั้น ก็จะเพอร์เฟค
ชายหนุ่มเป็นที่ต้องตาของใครหลายๆคนทั้งผู้หญิง ผู้ชาย รุ่นพี่ รุ่นเดียวกัน ด้วยความที่หน้าตาคมและท่าทางหยิ่งไม่สนใครดูเข้าถึงยาก บางทีดูหล่อทรงแบด ไหนจะฐานะทางบ้านอีก ทำให้เป็นที่ดึงดูดของทุกคน
ตอนเย็นของทุกเย็นหลังเลิกเรียนวรงกรณ์ต้องอยู่ซ้อมทุกเย็นอีกแค่สองวัน หลังวันประกวดหวังว่าทุกอย่างนี่จะดีขึ้นเขาเพลียมากเลยตอนนี้อยากพักผ่อนมากการซ้อมทำเขาหมดพลังงานไปเยอะ
“คิวต่อไปน้องเชอร์รี่ค่ะ ขึ้นซ้อมเลยค่ะลูกสาว” เสียงพี่เลี้ยงสาวสองยังคงดังต่อเนื่อง
วันประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัยก็มาถึงวันนี้ตัวแทนจากคณะต่างๆ ท้ังหญิงและชายเข้ามาแต่งตัวแต่งหน้าเพื่อออกไปโชว์ความหล่อความงามและความสามารถให้ประจักษ์แก่สายตาของคณะกรรมการ และทุกคนที่มาร่วมเชียร์และให้กำลังใจตัวแทนคณะตัวเอง กิตติภพตื่นเต้นมากเพราะพอกวาดสายตามองไปรอบๆ ที่เค้าจัดไว้ให้ตัวแทนและพี่เลี้ยงแต่ละคณะเก็บตัวอยู่มีแต่คนหล่อๆ สวยๆ ท้ังนั้น เขาไม่รู้จะเอาอะไรไปสู้กับคนอื่นความสามารถที่จะต้องแสดงโชว์ก็ธรรมดาเหลือเกิน กวาดตามองไปรอบๆ สายตาของเขาก็บังเอิญไปประสานกับสายตาคมของเดือนตัวแทนของคณะวิศวะอีกฝ่ายมองเขาไม่ยอมหลบ เขาจึงต้องเป็นฝ่ายหลบแล้วเสมองไปทางอื่นแทน ทำไมพอสบกับสายตาคมของเขาคนนั้นแล้วเรารู้สึกใจสั่นยิ่งกว่าตอนที่อยู่กับพู่กันเสียอีกหรือเรากลัวเขา ดูเขามีอำนาจอย่างไงไม่รู้
วรงกรณ์มองตัวแทนของคณะแพทย์ด้วยความหมั่นไส้ ถึงอีกคนจะดูขาวหล่อแบบเกาหลีที่เป็นที่นิยมในสมัยนี้และเป็นที่กรี๊ดกร๊าดของสาวๆ ตอนนี้ก็เถอะ ดูยังไงก็ไม่เหมาะกับพู่กันเพื่อนรักของเขาอยู่ดี วันนี้แหละเขาจะเอาชนะเดือนแพทย์ให้ดูที่จริงก็ไม่ได้อยากได้ตำหน่งตำแหน่งอะไรหรอกแต่หมั่นไส้คน
“โน้ตมาแต่งหน้ามาลูก พี่จีจี้รอหนูอยู่ใกล้จะถึงเวลาแล้ว” วรงกรณ์ก้มลงมองนาฬิกาเห็นว่าเพิ่งจะสี่โมงเย็นการประกวดเริ่มหกโมงเย็นนี่มันใกล้จะถึงเวลาตรงไหน แต่ยังไงเขาก็เลือกเดินเข้าไปนั่งลงเก้าอี้เล็กตามที่พี่เลี้ยงบอกเพื่อให้เค้าแต่งหน้าให้
“แล้วน้องเชอร์รี่คนสวยยังไม่มาอีกเหรอเนี่ย ใครก็ได้ช่วยตามให้หน่อยซิ เค้าจะประกวดกันอยู่แล้ว”
พี่เลี้ยงคนอื่นๆดังโหวกเหวกประสานงานกัน จริงสิดาวคณะคู่เขายังไม่มาเลย แต่ร่างสูงก็ไม่มีเวลาสนใจเพราะโดนพี่เลี้ยงที่รอแต่งหน้าสั่งให้นั่งตรงๆ ให้เขาแต่งหน้าให้
“โห้ พระเจ้ารักมากสิท่า ท่านถึงได้ให้เบ้าหน้าฟ้าประทานมาซะขนาดนี้ ไม่ต้องแต่งอะไรมากมายเลยหล่อมากๆลูกเจ๊” พี่จีจี้ที่แต่งหน้าให้กับเขาในวันนี้เอ่ยพูดออกมาพร้อมกับจับใบหน้าหันไปมาเหมือนกับกำลังสำรวจสินค้าอะไรอยู่สักอย่าง
“หล่อมากลูกชาย ภูมิใจในคณะตัวเองสุดๆ ตำแหน่งเดือนมหาลัยจะไปไหนเสียต้องตกเป็นของวิศวะเท่านั้น” เสียงพี่จีจี้บีบให้เล็กน่ารักอย่างมีจริตเอ่ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูจะภาคภูมิใจ ในฝีมือการแต่งหน้าของตนเองและความหล่อของเดือนคณะ
“สวัสดีค่ะพี่ๆ น้องเชอร์รี่ขอโทษนะคะที่มาช้า พอดีมีอุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะ” เชอร์รี่มาถึงก็รีบขอโทษขอโพยเหล่ารุ่นพี่ที่รอเธอทั้งโทรตามโทรจิก พอมาถึงเธอก็ถูกจับมานั่งใกล้ๆกับวรงกรณ์
“มานั่งให้ไวเลยยัยลูกสาว พี่ๆจะได้แต่งหน้าให้เดี๋ยวไม่ทัน” พี่เลี้ยงบอกดาวคณะที่ชอบทำตัวเด่นมีปัญหามาไม่ตรงเวลาตลอดระยะเวลาที่ซ้อมกันมา พวกนางเองก็เบื่อ
ด้านฝั่งคณะแพทย์โต๊ะที่โดนดัดแปลงให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่ตอนนี้มีเครื่องสำอางวางไว้เกลื่อนเต็มไปหมด กระจกบานยาวถูกจัดตั้งขึ้นพร้อมกับหลอดไฟหลายดวงที่ถูกเปิดเอาไว้สะท้อนคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจน
“มาๆ น้องบอมมานั่งที่เก้าอี้เลยลูก มาแต่งหน้ากับพี่มอลลี่เร็วลูกเดี๋ยวเจ๊ไปดูชุดให้ว่าเรียบร้อยดีไหม” เสียงใสๆของพี่เคที่พี่สายรหัสและพี่เลี้ยงคณะแพทย์เรียกกิตติภพพร้อมกับเข้าไปจับแขนของเดือนแพทย์มานั่งแต่งหน้าเพื่อเข้าประกวดเป็นหน้าเป็นตาให้คณะเรียกสติของชายหนุ่มให้ละสายตาจากคู่แข่งฝั่งคณะวิศวะ ร่างบางนั่งที่เก้าอี้ที่มีพี่มอลลี่พี่เลี้ยงสาวสองนั่งรออยู่
“หลับตาค่ะลูก ไม่ต้องกลัวพี่มอลลี่ทำมิดีมิร้ายนะ พี่เคที่เฝ้าอยู่หนูวางใจได้ยกเว้นว่าพวกเจ๊จะฮั้วกันกินหนูนั่นก็อีกอย่าง 555” เสียงพี่เลี้ยงอีกคนบอกหนุ่มหล่อทำให้กิตติภพแอบขำในใจเพราะพี่ๆทั้งสองน่ากลัวพอๆกันทั้งคู่ รอไม่นานเครื่องสำอางที่ถูกวางไว้ตรงโต๊ะด้านหน้าก็ถูกเอามาปัดๆถูๆตกแต่งบนใบหน้าของเขา
“ต๊าย ตาย นึกว่าดาราเกาหลีมาจากไหนหล่อมากลูก น้องบอมของเจ๊ ดูซิผิวก็ดีหน้าก็หล่อ โอ๊ย หัวใจเจ๊เทให้หมดตักเลย ลืมตาได้แล้วครับสุดหล่อ อยากปรับตรงไหนอีกไหมลูก”
สิ้นเสียงของพี่มอลลี่ที่อนุญาตให้ลืมตาได้ กิตติภพก็ลืมตามองตัวเองในกระจก ใบหน้าขาวเนียน จมูกโด่งถูกแต่งเติมให้มีสีสันขึ้นมาเพียงนิดเดียวเหมือนไม่ได้แต่งอะไร ทำให้เจ้าของใบหน้าพอใจมากเพราะเขาไม่อยากจะแต่งหน้าจนดูไม่เหมือนตัวจริงหาหน้าเดิมไม่ได้
“บอมว่าโอเคแล้วนะครับ พี่มอลลี่แต่งหน้าเก่งมากๆเลยครับ ขอบคุณมากนะครับพี่”
“ตายแล้วเหมือนกับไอดอลเกาหลีไม่มีผิด ดูทั้งหล่อทั้งสวย ดูโอปป้าในคนๆเดียวกัน โอ๊ยอยากชอบผู้ชายแล้วเนี่ย”
กิ่งก้อยดาวคณะแพทย์ที่คู่กับกิตติภพชมเพื่อนไม่หยุด เธอมองอีกคนซ้ายทีขวาที ทำไมมันถึงได้ดูดีแบบไร้ที่ติไปหมดแบบนี้นะ เสียดายที่เธอเป็นสาวสวยที่ชอบผู้หญิงสวยเหมือนกันไม่งั้นจะชอบเพื่อนหรือจะจีบเพื่อนเป็นเมียดี
“ก็แหม่ น้องบอมน่ะเบ้าหน้าน้องเค้าดีอยู่แล้ว แต่งนิดเติมหน่อยก็ดูดีแล้ว เจ๊แทบไม่ต้องทำอะไรมากเลย” พี่มอลลี่ถ่อมตัวแต่ก็อดที่จะมองผลงานตัวที่ไม่ต้องทำอะไรมากมายอย่างชื่นชม
“มาเขยิบมาใกล้ๆเจ๊ เดี๋ยวเจ๊เซ็ตผมให้” สเปรย์เซ็ตผมถูกใช้กับเส้นผมดกสีน้ำตาลเข้มของกิตติภพ ทำให้ใบหน้าที่หล่ออยู่แล้วหล่อขึ้นไปอีก จนพี่เลี้ยงพากันกรี๊ดกร๊าด
“มาเร็วเสร็จแล้วก็มา ถ่ายรูปกันหน่อย” รูปหลายต่อหลายรูปทั้งรูปเดี่ยว รูปคู่ รูปรวมของทีมงานถูกบันทึกไว้ด้วยกล้องคุณภาพดีเพื่อส่งไปให้ส่วนกิจกรรมของมหาวิทยาลัย
“อ้าวเด็กๆทุกคนเตรียมตัวขึ้นเวทีนะครับ เดี๋ยวพี่จะเชิญขึ้นไปทีละคณะก่อนตามที่ซ้อมนะ เดินให้เสร็จก่อนแล้วรอบต่อไปค่อยขึ้นไปโชว์ความสามารถ” รุ่นพี่ที่ทำหน้าที่ในการจัดงานแจ้งแก่ตัวแทนดาวเดือนให้เตรียมตัวขึ้นเวที
“เฮ้ยยยยย”วรงกรณ์ที่อาบน้ำเสร็จกำลังจะหันมาเช็ดตัวก็พบเจ้าของห้องยืนทำหน้ายักษ์ไม่พอใจอยู่“ไอ้บ้า ไอ้ลามกจะหันมาทำไม ทำไมไม่รู้จักแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน”“เมาจนเพี้ยนรึไง ใครเค้าอาบน้ำแล้วไม่ถอดเสื้อผ้ากัน อยากจะดูก็บอกดีๆ จะเอาให้ดู ไม่เห็นต้องมาแอบดู พอโดนจับได้แล้วทำเป็นโมโหโวยวายกลบเกลื่อน”กิตติภพถึงกับโมโหที่โดนว่าเพี้ยนแล้วก็ขี้ตู่หาว่าแอบมองอีก จึงถลาเข้าไปทุบคนที่ยืนเปลือยอยู่ในห้องน้ำ แต่ด้วยฤทธิ์น้ำเมาเลยทำให้อาการที่ยังเวียนหัวทรงตัวไม่อยู่จนเกือบล้ม แขนแข็งแรงของวรงกรณ์คว้าไปช้อนเอาคนที่เสียหลักจะล้มให้ทรงตัวขึ้นยืน ก่อนที่จะหัวเราะในลำคอ“อยากอาบน้ำก็ไม่บอก มาเดี๋ยวอาบให้ก็ได้” แขนแกร่งดึงเอาอีกคนมาไปในโซนอาบน้ำก่อนที่จะเปิดเรนชาวเวอร์แล้วกดเอาครีมอาบน้ำมาถูไปทั่วตัวคนเมา“นี่ ปล่อย ไม่อาบปล่อยยยย อย่าถู อ๊าาา อย่าลูบ อึมมมมม ปล่อยยยย กู อึมมม ”จากที่ตั้งหน้าตั้งตาถูครีมอาบน้ำไปทั่วตัวขาวของกิตติิภพ พอได้ยินเสียงครางของคนโดนถู ไหนจะกางเกงในสีขาวที่เปียกน้ำตอนนี้บางมากจนเห็นเจ้าหนูน้อยที่ตอนแรกนอนสงบนิ่งอยูในนั้นเริ่มผงกหัวขึ้น ทำเอาตัวตนที่ตื่นง่ายๆของ วรงกรณ์ลุกฮือ
“นี่บอมวันนี้บอมต้องไปกินเลี้ยงสายตระกูลกับวันเกิดของพี่เคที่ไหม” พนัชกรถามเพื่อนหลังจากที่เพิ่งเรียนคาบสุดท้ายของวันเสร็จ “ใช่ พู่กันก็ต้องไปเหมือนกันไม่ใช่เหรอ เพราะพี่ดาวก็ไปเลี้ยงตระกูลรวมกับพี่เคที่เหมือนกัน” “ใช่ไง งั้นพู่กันไม่เอารถไปดีกว่าจะได้ดื่มให้เต็มที่ขากลับขอคุณปู่นอนคอนโดบอมนะ ให้พู่กันนอนด้วยนะ” “ได้เลยไม่มีปัญหา คุณปู่อาทิตย์จะยอมหรือเปล่า ไหนจะเป็นข่าวซุบซิบในเพจอีก เดี๋ยวมีคนเข้าใจผิดบอมไม่รู้ด้วยนะบอกไว้ก่อน” “ปู่น่ะยอมอยู่แล้วไม่่มีปัญหา นี่ใคร พู่กันหลานรัก ส่วนเรื่องคนเข้าใจผิดน่ะพู่กันตั้งใจให้เข้าใจผิดเองแหละ เป็นข่าวกับบอมดีจะตายไม่เสียหาย” “พู่กันเดี๋ยวเมา พอแล้วกินเยอะแล้วนะ” กิตติภพท้วงเพื่อนเพราะอีกฝ่ายเริ่มเมาแล้วพู่กันคงเครียดช่วงนี้เพราะบอกว่าจะอยู่ห่างๆจากพี่เนมทำตัวกินเหล้ายังกับคนอกหัก ส่วนเขาก็เริ่มเวียนหัวแล้วเหมือนกันคิดว่าอีกไม่นานน่าจะเมาแล้วเหมือนกัน แล้วเมากันสองคนใครจะดูแลใคร “ก็มันอร่อยนี่ บอมบอมชิมดูซิมอร่อยนะ” แก้วไวน์ถูกยื่นมาให้กิตติภพ แต่เขาส่ายหน้าปฏิเสธไม่รับไว้พลางผลักออกจากหน้าตัวเอง ถึงมันจะอร่อยแต่ฤทธ
หลังจากจบการออกค่ายอาสากิตติภพก็กลับมาใช้ชีวิตปกติ ตอนเช้าตั้งใจเรียน ไปไหนมาไหนก็ไปกับพู่กันเพื่อนสนิท เมื่อก่อนเคยคิดไปเองว่าเขานั้นรักพู่กันเพื่อนสนิทแต่พออีกฝ่ายบอกรักพี่เนมคนเดียวตัวเองก็ไม่รู้สึกเจ็บกลับอยากให้เพื่อนสมหวังในความรัก แต่ในใจเขากลับมีอีกคนที่เคยมากวนอารมณ์ให้นึกถึงตลอดเวลาว่าง หลังจากที่กลับมาจากค่ายอาสาก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย ตอนหลังเลิกเรียนเขาก็ขับรถกลับคอนโดที่อยู่ใกล้ๆมหาวิทยาลัยบางวันก็อ่านหนังสือ บางวันเบื่อก็เล่นเกมส์ และก็มี เชน ศิริโรจน์ หนุ่มเภสัชที่เข้ามาหาที่คณะบ่อยๆ บางทีก็ทักมาทางไลน์แต่ก็ไม่ทุกวัน กับเชนเขาก็ไม่ได้คิดถึงไม่ได้ตื่นเต้นเวลาอยู่ใกล้เหมือนใครบางคน แล้วจะยังไงแล้ววะเราหรือเราจะชอบผู้ชายจริงๆกิตติภพคิดในใจ “นี่บอมคิดอะไรอยู่เห็นนั่งเม่อนานแล้ว” พนัชกรถามเพื่อนสนิทที่เห็นนั่งเอามือเท้าคางท่านี้นานแล้ว ขนาดถามก็นิ่งไปใช่จะได้คำตอบ “บอมบอม ได้ยินเราไหม” ไม่ใช่แค่เรียกอย่างเดียว พนัชกรยังจับแขนข้างที่กิตติภพเอาเท้าคางไว้ดึงออกจนอีกคนที่โดนแกล้งเสียหลักเกือบคางกระแทกกับโต๊ะ “พู่กัน อ่ะ แกล้งเราทำไม ขี้แกล้งนะเดี๋ยวนี้ ดีนะที่หน้าห
“อุ้ยต๊าย ตาย หน่วยแพทย์กลับมาแล้ว น้องบอมลูกชายเจ๊หิวหรือยังเนี่ยแดดก็ร้อน น่าสงสารจังเลยดูซิผิวขาวๆ แดงหมดเลย” เสียงของเจ๊แนนนี่หัวหน้าแม่ครัวดังขึ้นด้วยความดีใจที่เพื่อนๆ หน่วยแพทย์ที่ไปออกหน่วยในหมู่บ้านเดินทางกลับมา จะได้ทานข้าวพร้อมกันเสียที พอได้ยินชื่อของคนที่เขายังไม่ได้เห็นหน้าตั้งแต่เช้าวรงกรณ์ก็เงยหน้าขึ้นมองพอดี ก็เห็นเดือนเภสัชยื่นแก้วน้ำเย็นให้คนที่โดนแดดจนหน้าแดง ทำให้เขานึกหงุดหงิดเล็กน้อยอีกคนก็เหลือเกินอ่อยมากยิ้มหวานให้เจ้าของแก้วน้ำจนหวานหยด สรุปว่ามาออกค่อยนี่ตกผู้ชายไปกี่คนแล้วก็ไม่รู้พอมาถึงกลุ่มของกิตติภพนำโดยพี่เคที่ก็พากันไปตักเอาข้าวมาราดกับแกงและผัดผักทานเป็นกับข้าวง่ายที่กิตติภพไม่เคยได้กินแต่ก็คิดว่ามันอร่อยมาก การมาออกค่ายครั้งนี้เขารู้สึกดีมากที่ได้มีโอกาสช่วยเหลือคนอื่นที่มีโอกาสน้อยกว่าตนเอง พอทานข้าวเสร็จพักให้หายเหนื่อย แดดไม่จัดแล้วพวกผู้ชายก็พากันเริ่มก่อสร้างกันอีกวันนี้การทำงานเป็นไปด้วยความรวดเร็วแม้ตอนแรกจะขลุกขลักเพราะต่างคนต่างไม่เคยทำงานร่วมกันมาก่อน แต่พอทำไปสักพักเริ่มรู้ใจกันเข้าขากันแล้วงานก็เริ่มเร็วขึ้นในที่สุดวันแรกก็สร้างห้องน้ำช
กิจกรรมอย่างหนึ่งที่เลี่ยงไม่ได้ของเด็กมหาลัยคือการออกค่ายอาสา ครั้งนี้ก็เช่นกันสโมสรนักศึกษาเขาจัดไปออกค่ายอาสาที่แถวจังหวัดแม่ฮ่องสอนซึ่งเขาขอความร่วมมือให้ดาวเดือนมหาวิทยาลัยและรองดาวเดือนไปทำกิจกรรมด้วยเพื่อโปรโมทสถาบันไปด้วย วรงกรณ์ก็ยินดีที่จะไปร่วมกิจกรรมด้วยและที่หนีไม่พ้นก็เป็นเชอร์รี่ที่ไม่จำเป็นต้องมาก็ได้แต่ก็ยังขอที่จะติดตามมาด้วย ส่วนรองทั้งดาวและเดือนอย่างกิ่งก้อยและกิตติภพก็ให้ความร่วมมือเช่นกันก่อนที่จะมากิตติภพได้โทรคุยกับที่บ้านแล้วเพราะเห็นว่าอยู่เขตภาคเหนือใกล้บ้านตัวเอง ซึ่งพ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงก็ดีใจมากจึงวางแพลนไว้ว่าจะไปเยี่ยมลูกชายที่มาออกค่ายอาสา แต่โดนลูกชายเบรคเสียก่อนในวันที่จะต้องเดินทางทุกคนเอาสัมภาระของตัวเองมาไว้ที่รถส่วนของต่างๆ ที่นำไปออกค่ายครั้งนี้ทางคณะเลือกที่จะสร้างห้องน้ำและโรงอาหารให้กับโรงเรียนบนดอย โดยหัวหน้าคณะนักศึกษาได้ติดต่อซื้อวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างในเขตพื้นที่ไว้และให้เขาเอาไปส่งไว้ที่โรงเรียนแล้วเลยไม่จำเป็นตัองขนอะไรมาก นอกจากของใช้ส่วนตัวและของที่รับบริจาคเพิ่มเช่น เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม หนังสือเมื่อทำการเช็คชื่อกับรุ่นพี่แล้วกิต
หลังวันประกวดผ่านพ้นไป ทั้งดาวเดือนของทุกคณะที่ขึ้นประกวดก็เป็นที่รู้จักและจับตามองมากขึ้นไม่ว่าจะขยับไปทำกิจกรรมไหนๆ อย่างของวรงกรณ์ก็มีแต่สาวๆ และหนุ่มร่างบางสายรับทั้งหลายเข้าหาเข้ามาอยากสานสัมพันธ์มากมาย แต่คนที่เป็นข่าวด้วยบ่อยสุดคงหนีไม่พ้นดาวคณะคู่กันอย่างเชอร์รี่เพราะถือว่าเรียนด้วยกันและได้ใกล้ชิดหนุ่มหล่อมากกว่าใครๆ รวมถึงข่าวที่เกิดขึ้นส่วนมากเชอร์รี่เป็นคนส่งข่าวเองทั้งนั้นเพื่อที่จะสกัดดาวรุ่งคู่แข่งทั้งหลาย ซึ่งวรงกรณ์ก็รู้ดีแต่ไม่ได้ว่าอะไรเพื่อนถือว่าเอาไว้เป็นไม้กันหมาก็ยังดี เพราะเค้าก็ยังไม่ได้คิดจะรักใครคบใครสักคนทางด้านกิตติภพก็มีข่าวทั้งกับสาวๆโดยเฉพาะกิ่งก้อยดาวคณะคู่กัน แต่ทุกคนหารู้ไม่ก่ิงก้อยนั่นไม่ได้ชอบผู้หญิงถึงแม้เธอจะหน้าหวานเหมือนนางในวรรณคดี แต่ใจจริงเธอกลับชอบผู้หญิงด้วยกันและตอนนี้กำลังตามจีบดาวมหาลัยอยู่ และคนที่กิตติภพเป็นข่าวด้วยบ่อยที่สุดคือเพื่อนสนิทของเขาอย่างพนัชกรทำเอาแม่ยกสายวายลงเรือลำนี้กันค่อนข้างมากกว่าเป็นข่าวกับกิ่งก้อยทั้งได้แรงเชียร์จากเพจคิ้วท์บอยลงข่าวเกือบทุกวัน คนที่ตามข่าวบ่อยๆก็เป็นใครไม่ได้นอกจากเนย วราภรณ์ เจ้าแม่สายวาย แต่ค