Home / รักโบราณ / วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท / ตอนที่ 10 ทุกอย่างไม่เป็นดังหวัง

Share

ตอนที่ 10 ทุกอย่างไม่เป็นดังหวัง

last update Last Updated: 2025-05-07 19:01:45

“ทำไมทุกอย่างถึงกลับตาลปัตรไปเช่นนี้” เหวิ่นลี่หยาคิดในใจอย่างเคียดแค้น ปลายนิ้วจิกลงในฝ่ามือจนรู้สึกเจ็บ ความไม่พอใจและความริษยาแล่นพล่านไปทั่วร่างราวกับเปลวไฟที่ไม่มีวันดับ

นางไม่เคยคิดเลยว่าพี่สาวอย่าง เหวิ่นจือหยู จะได้รับพระราชโองการจากฮ่องเต้ให้แต่งงานกับองค์ชายหลี่หยวนเจ๋อ เหวิ่นลี่หยามั่นใจว่านิสัยเกรี้ยวกราดและเอาแต่ใจของพี่สาวจะทำลายโอกาสนี้ไปเอง แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตรไม่เพียงแค่การหมั้นหมายสำเร็จเท่านั้น แต่ยังมีพระราชโองการให้เร่งจัดงานแต่งงานให้เร็วขึ้นอีก ทุกอย่างราวฟ้าผ่าลงมากลางใจ เหวิ่นลี่หยาก็รู้สึกเหมือนสิ่งที่ควรเป็นของนางถูกขโมยไปต่อหน้าต่อตา

นางเดินวนไปมาภายในเรือนพัก ริมฝีปากบางกัดแน่นเพื่อต้องการสะกดกลั้นความคับแค้นใจ

“ทำไมถึงต้องเป็นเหวิ่นจือหยู ทำไมนางถึงได้รับทุกอย่าง ทั้งๆ ที่นางไม่สมควรได้รับ เพียงเพราะนางเป็นลูกภริยาเอกเท่านั้นเองหรือ”

ความริษยาเกาะกินใจจนใบหน้าที่เคยอ่อนหวานแปรเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยว นางพึมพำต่อหน้ากระจกบานสูง

“นางไม่สมควรได้เป็นพระชายา ไม่สมควรได้ครอบครององค์ชายแม้แต่น้อย” เสียงของนางแผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่อัดแน่นราวกับจะระเบิดออกมา

ขณะที่เหวิ่นลี่หยากำลังจมอยู่ในห้วงความคิด สาวใช้ของนางก็เข้ามาอย่างเร่งรีบ “คุณหนูเจ้าคะ ข้าเห็นองครักษ์เฟิ่งมาพบคุณหนูจือหยูเจ้าค่ะ เขามาแจ้งกำหนดการเข้าเฝ้าองค์ชายเจ้าค่ะ”

คำรายงานนั้นทำให้เหวิ่นลี่หยาชะงัก นางหยุดเดิน หันขวับไปมองสาวใช้ด้วยแววตาที่เปล่งประกายเจ้าเล่ห์ “องครักษ์เฟิ่งอย่างนั้นหรือ”

นางรู้ดีว่า องครักษ์เฟิ่ง เป็นคนสนิทที่องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อไว้วางใจ หากนางสามารถทำให้องครักษ์ผู้นี้อยู่ข้างนางหรือช่วยสนับสนุนบางสิ่ง มันอาจเป็นกุญแจสำคัญในการพลิกสถานการณ์ให้นางจะยึดสิ่งที่ต้องการกลับคืนมาได้

“ข้าจะไปดักรอพบองครักษ์เฟิ่ง” เหวิ่นลี่หยาสั่งเสียงเฉียบพลัน ก่อนจะรีบจัดเสื้อผ้าและเตรียมตัวให้งดงามที่สุด

องครักษ์เฟิ่งกำลังจะเดินทางกลับ เมื่อเหวิ่นลี่หยาปรากฏตัวตรงทางเดินในสวน นางยิ้มอย่างอ่อนหวาน กล่าวทักทายด้วยท่าทางที่อ่อนโยนและอ่อนน้อมออกมา แต่ในแววตานั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เพราะนางรู้ดีว่าเขามีอิทธิพลและความใกล้ชิดกับองค์ชายมากเพียงใด

“องครักษ์เฟิ่ง โปรดรอก่อนเจ้าค่ะ”

องครักษ์หนุ่มหยุดเท้า หันมามองเหวิ่นลี่หยาด้วยสีหน้าสงบนิ่ง เขาทำความเคารพเบาๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่ม

“คุณหนูเหวิ่น มีสิ่งใดให้ข้าช่วยหรือ”

เหวิ่นลี่หยายิ้มอ่อนโยนและก้าวเข้ามาใกล้ “องครักษ์เฟิ่ง ข้าดีใจที่ได้พบท่าน ข้าขอรบกวนเวลาสักครู่ได้หรือไม่เจ้าคะ พอดีข้ามีเรื่องจะปรึกษากับท่าน”

องครักษ์เฟิ่งพยักหน้าเบาๆ นางจึงชวนเขานั่งลงที่ศาลากลางสวน พร้อมกับเริ่มต้นบทสนทนาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและสุภาพ

“ข้าได้ยินว่าท่านเป็นคนที่องค์ชายทรงไว้วางใจมาก”

เขาเพียงพยักหน้ารับ ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ ขณะที่สายตาเฉียบคมของเขาจับจ้องเหวิ่นลี่หยาราวกับอ่านความนัยในคำพูดว่านางต้องการสื่ออะไร

“ข้าอยากปรึกษาเรื่องงานแต่งงานของพี่สาวข้ากับองค์ชาย” ไม่นานเหวิ่นลี่หยาเริ่มเข้าประเด็น นางถอนหายใจเบาๆ ราวกับกำลังหนักใจ

องครักษ์เฟิ่งเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ท่านกังวลเรื่องใดหรือคุณหนูเหวิ่น”

“ข้ากังวลว่าอาจเกิดปัญหาในอนาคต”

คำพูดของเหวิ่นลี่หยาฟังดูนอบน้อมและมีเจตนาดี แต่องครักษ์เฟิ่งกลับจับได้ถึงบางสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล เขาไม่ได้ขัดจังหวะ แต่มองนางด้วยแววตาที่นิ่งสงบ รอให้นางพูดต่อเผยสิ่งที่อยู่ในใจนางออกมา

“ข้าเป็นห่วงเรื่องงานแต่งงานของพี่สาวข้ากับองค์ชาย ข้าคิดว่ามันเกิดขึ้นเร็วเกินไป พี่จือหยูน่าจะยังไม่พร้อมที่จะเป็นพระชายาที่ดีขององค์ชาย และข้าเกรงว่างานแต่งนี้จะนำปัญหามาให้กับองค์ชายในภายหลัง”

แม้คำพูดของนางจะฟังดูนอบน้อม แต่องครักษ์เฟิ่งกลับรู้สึกได้ถึงความไม่จริงใจที่ซ่อนอยู่ เขารู้ดีว่าเหวิ่นลี่หยาเองก็มิได้หวังดีกับพี่สาวของนาง อย่างในงานหมั้นนางก็แสดงให้เห็นแล้วว่านางพร้อมจะขัดขวางจนเกือบจะโดนฮ่องเต้ลงโทษ เขาจึงได้แต่นั่งฟังเงียบๆ

“ข้าขอพูดตามตรง พี่จือหยู นางมีนิสัยดื้อรั้นและไม่เคยใส่ใจเรื่องมารยาทกุลสตรี แม้ตอนนี้นางจะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ข้าเกรงว่าความเปลี่ยนแปลงนั้นจะไม่ยั่งยืน” นางกล่าวพร้อมทำทีเป็นถอนหายใจ

องครักษ์เฟิ่งยังคงนิ่งฟัง เหวิ่นลี่หยาจึงพยายามดึงความสนใจต่อไป “หากท่านองครักษ์เฟิ่งสามารถช่วยโน้มน้าวองค์ชายใช้ชะลอการแต่งงาน หรืออย่างน้อยแจ้งเตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ข้าจะซาบซึ้งในน้ำใจท่านยิ่งนัก”

องครักษ์เฟิ่งยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่ได้ตอบรับคำขอ เขาลุกขึ้นช้าๆ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“ข้าเข้าใจในความกังวลของท่านคุณหนูเหวิ่น ขอบคุณสำหรับความห่วงใยที่ท่านมีต่อองค์ชาย แต่ข้าเชื่อว่าพระองค์ทรงมีวิจารณญาณที่ดีและปรีชาสามารถพอที่จะจัดการทุกสิ่งได้ ท่านไม่ต้องกังวล”

คำตอบขององครักษ์เฟิ่งทำให้เหวิ่นลี่หยาต้องฝืนยิ้มแม้ภายในใจจะเต็มไปด้วยความหงุดหงิด นางรู้ว่าองครักษ์เฟิ่งไม่ได้เป็นคนเชื่อคนง่ายอย่างที่นางคิด แต่นางยังไม่ละความพยายาม

“หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็ขอฝากความหวังไว้กับท่านองครักษ์” นางกล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อน

“ท่านเป็นคนที่องค์ชายไว้วางใจ ข้าก็เชื่อว่าท่านจะช่วยทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี”

องครักษ์เฟิ่งยิ้มตอบกลับ แต่ในใจเขากลับรู้สึกถึงแผนการที่ซ่อนอยู่ในหัวใจของเหวิ่นลี่หยาอย่างชัดเจน

หลังจากองครักษ์เฟิ่งจากไป เหวิ่นลี่หยากลับมายืนหน้ากระจกอีกครั้ง มือของนางบีบแน่นจนเล็บจิกลงในฝ่ามือด้วยความโกรธที่พยายามระงับอยู่ภายใน นางมองใบหน้าของตนเองในกระจก รอยยิ้มอ่อนโยนที่เคยใช้เป็นหน้ากากเริ่มจางหายไป กลับกลายเป็นใบหน้าบูดบึ้ง สายตาเย็นชาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นที่ซ่อนอยู่ลึกภายใน

“มันน่าเจ็บใจนัก ข้าจะไม่ยอมแพ้” นางพึมพำขณะมองออกไปยังสวนหลวงที่อยู่ไกลลิบ

“เหวิ่นจือหยู เจ้าอาจจะได้รับความกรุณาจากฮ่องเต้ แต่ข้าจะไม่ยอมแพ้ เจ้าจะไม่มีวันได้ครอบครองสิ่งที่ข้าปรารถนาเด็ดขาด”

เหวิ่นลี่หยารู้ดีว่านางไม่มีทางปล่อยให้เหวิ่นจือหยูได้ดีไปกว่านาง เหวิ่นจือหยูไม่สมควรได้ครอบครององค์ชายหลี่หยวนเจ๋อ นางคิดถึงทุกแผนการที่นางพยายามใช้อยู่ตลอดเพื่อทำให้เหวิ่นจือหยูล้มเหลว แต่ไม่ว่าครั้งไหนเหวิ่นจือหยูกลับรอดไปได้เสมอ แผนการที่ล้มเหลวเหล่านั้นยิ่งทำให้นางหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ

“งานแต่งครั้งนี้จะต้องไม่สำเร็จ” เหวิ่นลี่หยาพึมพำกับตัวเอง นางคิดถึงวิธีการที่จะทำลายพิธีการนี้ให้พังทลาย หรืออย่างน้อยก็สร้างปัญหาที่ยิ่งใหญ่พอที่จะทำให้หลี่หยวนเจ๋อเกลียดชังพี่สาวของนางอย่างไม่มีวันลืม

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 11 ความกังวลของหยูเออร์

    ในอีกด้านหนึ่ง เหวิ่นจือหยูยังคงรู้สึกกังวลกับพระบรมราชโองการที่ทรงมีคำสั่งให้จัดงานแต่งงานอย่างเร่งด่วน นางพยายามหาทางออกจากสถานการณ์ที่ตึงเครียดนี้ แต่ยิ่งพยายามมากเท่าไหร่ ทางเลือกของนางก็ยิ่งแคบลง เหวิ่นจือหยูต้องเผชิญกับความกดดันจากองค์ชายหลี่หยวนเจ๋อ พระคู่หมั้นที่ประกาศออกมาชัดเจนว่าไม่ปรารถนาที่จะแต่งงานกับนาง แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธรับสั่งของฮ่องเต้ได้ ในขณะที่ทั้งคู่ต่างต้องทรมานจากการแต่งงานที่ไม่เต็มใจ และทุกข์ทรมานจากการแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก ตัวเหวิ่นจือหยูไม่เท่าไหร่เพราะวาดรวีรู้ว่าจือหยูคนเดิมแอบชอบพอองค์ชายอยู่ แต่องค์ชายนี่ซินอกจากจะไม่ได้ชอบพอกับจือหยูคนเดิมเเล้วยังบอกว่าเกลียดคนนิสัยเช่นนางด้วยซ้ำ เหวิ่นจือหยูถอนหายใจยาว ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะ นางหยิบกระดาษและพู่กันขึ้นมา เขียนสิ่งที่อยู่ในใจออกมาเป็นตัวอักษรจีนที่สง่างาม ราวกับกำลังใช้การเขียนเป็นวิธีการระบายความเครียดและความกังวลที่ทับถมอยู่ในใจ “ข้าควรทำอย่างไรต่อไป” นางพูดกับตัวเองเบาๆ ขณะที่มองตัวอักษรที่เขียนเสร็จแล้ว ในขณะที่เหวิ่นจือหยูครุ่นคิด เสียงเคาะประต

    Last Updated : 2025-05-07
  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 12 เตรียมรับภาระอันหนักอึ้ง

    วันที่เหวิ่นจือหยูต้องเตรียมตัวสำหรับพิธีแต่งงานมาถึงแล้ว ทั่วทั้งจวนเต็มไปด้วยบรรยากาศของการเฉลิมฉลอง ทุกคนล้วนตื่นเต้นและยินดีกับคุณหนูใหญ่ คนรับใช้ต่างเร่งรีบเตรียมข้าวของและจัดเตรียมทุกอย่างอย่างลุล่วง ถึงแม้ว่าหลายคนยังคงหวั่นกลัวกับความโมโหร้ายที่เคยได้ยินเกี่ยวกับคุณหนูจือหยู แต่ในช่วงหลังพวกเขาก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนและความนุ่มนวลที่เธอแสดงออกมา ทำให้บรรยากาศในจวนดูอบอุ่นและเป็นมิตรขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนต่างยินดีที่ได้เข้ามารับใช้คุณหนูใหญ่ของจวน ในห้องแต่งตัว เหวิ่นจือหยูนั่งอยู่หน้ากระจกขนาดใหญ่ สาวใช้สามคนช่วยกันจัดแต่งเส้นผมของนางอย่างพิถีพิถัน พวกนางตกแต่งเครื่องประดับทองคำและหยกบนศีรษะของคุณหนูอย่างประณีต ชุดแต่งงานที่นางสวมเป็นชุดฮั่นฝูสีแดงสดที่งดงามยิ่งนัก ลวดลายหงส์ที่ปักด้วยด้ายทองเปล่งประกายสะท้อนแสง ทุกอย่างล้วนบ่งบอกถึงความสูงส่งของฐานะว่าที่พระชายา เหวิ่นจือหยูมองตัวเองในกระจก เธอแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงนั้นคือเหวิ่นจือหยูที่เคยมีชื่อเสียงเลวร้ายเมื่อไม่นานมานี้จริงหรือ นางยิ้มเบาๆ ให้กับตัวเอง ความรู้สึกหลากหลายป

    Last Updated : 2025-05-07
  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 13 สมรสแต่ไม่สมรัก

    แสงตะวันอ่อนยามเช้าทอประกายผ่านม่านผ้าไหมที่พาดยาวในท้องพระโรง ขบวนขันหมากจากตระกูลเหวิ่นเรียงรายเป็นระเบียบ บรรยากาศเคร่งขรึมแต่แฝงความสง่างาม เหวิ่นจือหยูค่อยๆ ก้าวเดินเข้ามาในท้องพระโรงอย่างช้าๆ องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อเงยหน้าขึ้นเมื่อเสียงขันทีประกาศถึงการมาถึงของเจ้าสาว ในนาทีนั้นเองที่เขาเห็นเหวิ่นจือหยูในชุดแต่งงานสีแดงเพลิงปักลายหงส์ทองงดงาม เครื่องประดับบนศีรษะสะท้อนแสงจนวิบวับ ทุกอิริยาบถของนางแสดงถึงความสงบและสง่างาม หลี่หยวนเจ๋ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะดุดตา เขาเคยได้ยินชื่อเสียงของเหวิ่นจือหยูมามากมาย ในแง่ร้ายเสียส่วนใหญ่ แต่ในวันนี้ ภาพที่ปรากฏตรงหน้าเขาแตกต่างไปจากที่เคยรับรู้ “คิดไม่ถึงเลยว่านางจะดูเป็นผู้ใหญ่ถึงเพียงนี้”ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจของหลี่หยวนเจ๋อ แต่ทันใดนั้น ความไม่พอใจที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับสตรีที่เขาไม่ได้รักก็กลับมาท่วมท้นในจิตใจ เมื่อถึงเวลาพิธี เสียงขลุ่ยและฆ้องดังขึ้นก้องไปทั่วท้องพระโรง เป็นสัญญาณเริ่มพิธีแต่งงานขององค์ชายหลี่หยวนเจ๋อและคุณหนูเหวิ่นจือหยู เหล่าข้าราชบริพารต่างพากันเฝ้ามองด้วยความชื่นชมในความขลังและความ

    Last Updated : 2025-05-07
  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 14 หน้าที่พระชายา

    หลังจากที่องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อก้าวออกจากห้องหอ เหวิ่นจือหยูนั่งอยู่เพียงลำพังในความเงียบงัน แสงเทียนริบหรี่ในห้องที่เต็มไปด้วยการตกแต่งสีแดงชวนให้นึกถึงพิธีมงคลสมรสที่เพิ่งผ่านพ้นไป แต่นางกลับรู้สึกเหมือนถูกทิ้งไว้ในโลกที่เย็นเยียบและว่างเปล่า มือเรียวยกขึ้นแตะที่แก้ม รอยสัมผัสจากวันนี้ยังคงหลงเหลืออยู่ แต่หัวใจกลับหนักอึ้งไปด้วยความเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ“ข้าต้องอดทนแค่ไหนกัน ถึงจะพิสูจน์ให้เขาเห็นได้ว่าข้ามิใช่คนเดิมอีกต่อไป” นางพึมพำกับตัวเองเบาๆ หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เหวิ่นจือหยูลุกขึ้นเรียกนางกำนัลเข้ามาเพื่อเตรียมน้ำอุ่นในห้องอาบน้ำตามธรรมเนียมการแต่งงาน “อี้เหมย ช่วยเตรียมน้ำอุ่นให้ข้าด้วย ข้าต้องการอาบน้ำผ่อนคลายเสียหน่อย”“คุณหนูเจ้าคะ เอ่อ ขอประทานอภัยเพคะพระชายา น้ำอุ่นเตรียมพร้อมแล้ว เชิญพระชายาอาบน้ำได้เลยเพคะ” อี้เหมยที่ตอนนี้ได้กลายมาเป็นนางกำนัลคนสนิทพูดพร้อมกับก้มหน้าลงด้วยความเคารพ เหวิ่นจือหยูพยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนจะเดินตามนางไปยังห้องอาบน้ำที่ตกแต่งด้วยโทนสีอ่อนละมุนเมื่อเดินเข้าสู่ห้องอาบน้ำ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของสมุนไพรและดอกไม้ลอย

    Last Updated : 2025-05-07
  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 15 ตัวใกล้หัวใจไกลกัน

    ในค่ำคืนต่อมาควรเป็นคืนที่อบอุ่นของคู่สมรสใหม่ ทว่าในห้องหอแห่งนี้กลับมีเพียงความเย็นชา หลี่หยวนเจ๋อและเหวิ่นจือหยูต่างฝ่ายต่างเงียบ ไม่ค่อยพูดจากันมากนัก แม้ทั้งคู่จะต้องใช้ห้องนอนเดียวกันตามธรรมเนียม แต่บรรยากาศระหว่างพวกเขากลับเต็มไปด้วยความตึงเครียดที่หลี่หยวนเจ๋อก่อขึ้นหลี่หยวนเจ๋อรักษาท่าทีเย็นชาของเขา บนใบหน้าหล่อเหลาไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ นัยน์ตาคมกริบมองผ่านพระชายาไป ราวกับว่านางไม่ได้อยู่ตรงนั้น แม้จะอยู่ใกล้กันขนาดนี้ แต่เขาทำเหมือนมีม่านบางๆ กั้น ที่ทำให้มองไม่เห็นเหวิ่นจือหยู มือข้างหนึ่งของเขาปลดชุดคลุมออกอย่างไม่รีบร้อน “พักผ่อนเสียเถิด” น้ำเสียงของเขาเรียบนิ่งจนแทบจะไร้ความรู้สึก ก่อนจะหันเดินไปยังมุมเตียงที่เขาจัดไว้สำหรับตนเองแล้วเอนกายลงนอนหันหลัง ในความมืดเขาหลับตาลงอย่างสงบนิ่ง ไม่ได้สนทนาหรือถามไถ่ใด ๆ กับพระชายาต่อ หรือไม่แม้แต่จะหันกลับมามองนางว่าทำอะไรอยู่ ราวกับประกาศอย่างชัดเจนว่า แม้พวกเขาจะเป็นคู่สมรสกันแล้ว แต่ในความรู้สึกของเขา นางยังไม่มีตัวตน ยังเป็นเพียงคนนอก เหวิ่นจือหยูมองแผ่นหลังขององค์ชายผู้เป็นคู่สมรส เขานอนนิ่งสนิทอยู่ในความมืดมีเพียงเสีย

    Last Updated : 2025-05-07
  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 16 ความยินดีจากลี่หยา

    หลังจากเตรียมตัวเสร็จสิ้น เหวิ่นจือหยูเดินไปยังลานกลางของตำหนัก เพื่อรอไปที่งานพิธีรับพระชายา นางรู้สึกตึงเครียดและกังวลเล็กน้อย เพราะต้องเผชิญหน้ากับเหล่าเชื้อพระวงศ์เครือญาติของหลี่หยวนเจ๋อ แขกต่างแคว้น รวมถึงผู้คนมากมายที่มาร่วมงาน นางต้องพยายามวางเหมาะสมกับตำแหน่งพระชายาท่ามกลางลานกว้างหน้าตำหนัก บรรยากาศเงียบสงัด มีเพียงสายลมอ่อน ๆ พัดผ่าน หลี่หยวนเจ๋อยืนรออยู่ที่นั่น สีหน้าของเขายังคงเรียบเฉย แม้ในใจจะรู้สึกไม่สบอารมณ์นักที่ต้องเสียเวลารอพระชายา แต่เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง ร่างสูงสง่าก็หันไปมองโดยไม่คิดอะไรดวงตาคมกริบที่เคยเย็นชาเผลอไหววูบไปชั่วขณะ เมื่อภาพตรงหน้าปรากฏขึ้นเหวิ่นจือหยูในอาภรณ์สีอ่อนเรียบง่าย ทว่ากลับขับเน้นความงามอ่อนหวานของนางจนไม่อาจละสายตา เส้นผมยาวดำขลับถูกรวบเกล้าและปักด้วยปิ่นอย่างประณีต ใบหน้านวลผ่องยามต้องแสงแดด ทำให้ดูงดงามราวกับเทพธิดาที่ก้าวลงมาจากภาพวาดเขาเผลอชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะรีบเก็บอาการ ใบหน้ากลับมานิ่งเฉยอีกครั้งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหวิ่นจือหยูสังเกตเห็นสายตาของเขา นางไม่แน่ใจว่านั่นเป็นเพียงภาพลวงตาหร

    Last Updated : 2025-05-08
  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 17 ของขวัญจากฮ่องเต้

    งานเลี้ยงต้อนรับพระชายาจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ ท้องพระโรงหลวง แขกเหรื่อมากมายจากทั่วทุกสารทิศต่างเดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยานต่อจากการเข้าพิธีสมรสขององค์ชายหลี่หยวนเจ๋อและพระชายาเหวิ่นจือหยู บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงดนตรีขับกล่อมและเสียงสนทนาเจือจางเมื่อร่างสูงขององค์ชายหลี่หยวนเจ๋อก้าวเข้าสู่ท้องพระโรงพร้อมพระชายา ทุกสายตาต่างจับจ้องมายังทั้งคู่ทันที ความสง่างามของหลี่หยวนเจ๋อที่แผ่รัศมีความเยือกเย็น น่าเกรงขามดุจเพทพเจ้า ในขณะที่พระชายาเหวิ่นจือหยูก็ไม่ได้น้อยหน้า นางสวมอาภรณ์สีอ่อนปักลวดลายอย่างวิจิตร บ่งบอกถึงฐานะอันสูงส่ง ทุกย่างก้าวของนางเปี่ยมไปด้วยความสง่างามราวกับเทพธิดาท่ามกลางสายตาของแขกผู้ใหญ่และข้าราชบริพารที่มองมายังทั้งคู่ด้วยความชื่นชม โดยเฉพาะเหวิ่นจือหยูที่เป็นที่จับจ้องมากกว่าตาราวกับทุกสายกำลังประเมินพระชายาขององค์ชาย เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นเป็นระลอก“พระชายาช่างงามล่มเมืองจริง ๆ”“ดูเถิด นางงามสมฐานะองค์ชายยิ่งนัก”เหวิ่นจือหยูยิ้มรับทุกคำชมอย่างสงบนิ่ง นางรู้ดีว่าคำพูดเหล่านี้เป็นเพียงคำกล่าวต้อนรับ มิใช่สิ่งที่จริงใจเสมอไป อย่างไรก็ตาม นางก็ยังต้องรักษาท่า

    Last Updated : 2025-05-08
  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 18 เจ้าเปลี่ยนไป

    ในช่วงเวลาที่ เหวิ่นจือหยู เริ่มปรับตัวเข้ากับชีวิตในตำหนักรัชทายาท ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับหลี่หยวนเจ๋อ ยังคงเต็มไปด้วยความเย็นชาและห่างเหิน รัชทายาทหนุ่มยังสร้างระยะห่างโดยมักจะใช้ข้ออ้างเรื่องงานเพื่อหลบหน้านาง ทั้งทำงานจนดึก หรือบางครั้งกลับมาตำหนักก็หลับไปโดยไม่สนใจถามไถ่พระชายาเลย เหวิ่นจือหยูกลายเป็นเพียงเงาในชีวิตของเขา ความเฉยเมยนั้นค่อย ๆ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ห่างไกลออกไปเรื่อย ๆแม้ไม่มีความอบอุ่นจากสามี แต่เหวิ่นจือหยูก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ของพระชายาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง นางพยายามทำตัวให้เป็นที่ยอมรับในราชสำนัก โดยการเข้าร่วมงานพิธีตามหน้าที่ โดยเฉพาะเมื่อเข้าเฝ้าฮองเฮา หยางซูเจิน ผู้ซึ่งเป็นพระมารดาขององค์รัชทายาทหลี่หยวนเจ๋อผู้เป็นพระสวามีฮองเฮาหยางซูเจินเป็นสตรีที่เฉลียวฉลาดและมีอำนาจและบทบาทสำคัญในราชสำนัก แม้ในตอนแรกนางจะจับตามองเหวิ่นจือหยูด้วยความสงสัย เพราะรู้ว่าหลี่หยวนเจ๋อไม่พอใจพระชายา แต่เมื่อได้พบปะพูดคุย ฮองเฮากลับพบความจริงที่แตกต่างออกไป นางสังเกตเห็นถึงความสงบเสงี่ยม ความอดทน และความอ่อนโยนในตัวลูกสะใภ้ ซึ่งไม่เหมือนกับคำกล่าวหาที่เคยได้ยิน

    Last Updated : 2025-05-08

Latest chapter

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 25 มันคงยังไม่พอ

    เวลาผ่านไปความสัมพันธ์ระหว่างฮองเฮากับเหวิ่นจือหยูยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น ฮองเฮาค่อยๆ สอนเหวิ่นจือหยูในทุกๆเรื่อง ตั้งแต่การปักผ้า การทำอาหาร การบ้านการเมือง ไปจนถึงการปฏิบัติตัวในฐานะพระชายาที่ดี เหวิ่นจือหยูซึมซับบทเรียนเหล่านี้อย่างตั้งใจ แม้บางครั้งจะรู้สึกกดดันแต่หัวใจของนางกลับอบอุ่นขึ้น นางไม่เคยได้รับความรักและคำแนะนำเช่นนี้จากใครมาก่อนในช่วงเวลาที่นั่งเรียนรู้ข้างๆ ฮองเฮา บางครั้งผู้เป็นหวงโฮ่วก็จะตรัสด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ข้ามีเจ้าก็เหมือนมีลูกสาวเพิ่มอีกคน ข้าดีใจที่ได้เจ้ามาเป็นไท่จื่อเฟย”คำพูดนั้นทำให้เหวิ่นจือหยูรู้สึกอบอุ่น นางโค้งศีรษะลงแล้วกล่าวด้วยความจริงใจ“ขอบพระทัยเพคะเสด็จแม่ หม่อมฉันจะพยายามให้มากกว่านี้เพคะ”ฮองเฮามองนางด้วยสายตาเอ็นดู นางเอื้อมมือจับมือของเหวิ่นจือหยูเบาๆ ก่อนพูดต่อ“ไม่ต้องกังวลไป เจ้าทำได้ดีแล้ว และเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบทุกอย่าง สิ่งสำคัญคือความอดทนและความตั้งใจ”คำพูดนั้นกระทบใจเหวิ่นจือหยู นางไม่เคยคิดว่าผู้สง่างามและสมบูรณ์แบบเช่นฮองเฮาเคยผ่านความยากลำบากและช่วงเวลาที่ต้องเรียนรู้เช่นนี้มาก่อน นางรู้สึกถึงความหวังและกำลังใจที่ฮองเฮามอ

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 24 ความอบอุ่นจากฮองเฮา

    ในเช้าวันรุ่งขึ้น เหวิ่นจือหยูยังคงหมกตัวอยู่ในห้องอักษร นางอ่านตำรา ขีดเขียนจดบันทึกถึงสิ่งที่นางได้ศึกษาจากตำราด้วยความตั้งใจ แม้ดวงตาจะเริ่มล้า แต่หัวใจกลับเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านหลัง ก่อนที่นางกำนัลประจำตำหนักเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ พร้อมกับค้อมตัวโค้งคำนับ“พระชายาเพคะ ฮองเฮามีรับสั่งให้ท่านไปพบที่ตำหนักหลินเฟยเพคะ”เหวิ่นจือหยูเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อยอย่างแปลกใจ แม้จะอดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดจึงถูกเรียกตัวแต่เช้า แต่ก็มิได้แสดงท่าทีกระวนกระวาย นางรวบรวมตำราให้เป็นระเบียบก่อนจะพยักหน้าให้สาวใช้เตรียมชุดให้เรียบร้อยตำหนักหลินเฟยของฮองเฮา ภายในตำหนักหลวงโอ่อ่า สง่างาม แต่แฝงไปด้วยบรรยากาศที่กดดันเพียงเล็กน้อย เหวิ่นจือหยูสูดลมหายใจเข้า พยายามรักษาท่าทีสงบ ขณะเดินตามนางกำนัลไปยังห้องรับรองที่ฮองเฮารออยู่ฮองเฮาประทับอยู่บนตั่ง ในท่วงท่าสง่างาม ดวงเนตรคมกริบทอดมองมายังเหวิ่นจือหยู แต่ภายในกลับเต็มไว้ด้วยความอ่อนโยน รอยแย้มสรวลเล็กน้อยปรากฏบนพระพักตร์“มาเถิด พระชายา มานั่งกับข้านี่มา” เสียงตรัสอ่อนโยนที่ส่งมาทำให้เหวิ

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 23 เจ้าเสแสร้งเพื่ออะไร

    “ข้าไม่เคยถามเจ้ามาก่อน แต่ข้าอยากรู้ เจ้ารู้สึกอย่างไรกับการที่พี่สาวของเจ้ากลายมาเป็นพระชายาของข้า”เสียงขององค์รัชทายาทดังขึ้นอย่างสงบนิ่ง แต่ก็ลึกซึ้งแฝงไปด้วยความหมาย คำถามที่เหมือนจะแค่ไถ่ถามทั่วไป แต่แท้จริงแล้วมันคืออะไรเหวิ่นลี่หยาเผลอเบิกตากว้างไปชั่วขณะ แต่ก็รีบก้มหน้าลงเพื่อซ่อนความรู้สึกที่ตื่นตระหนกของตน นางบังคับตัวเองให้ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมององค์รัชทายาทด้วยแววตาอ่อนหวาน“หม่อมฉันยินดีกับพี่จือหยู เพคะ” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ปั้นให้จริงใจ และเต็มไปด้วยความยินดีนางทอดถอนใจเบา ๆ ก่อนจะกล่าวต่อ “พี่จือหยูนั้น ถึงแม้นางจะนิสัยร้ายกาจ ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ แต่นางก็สมควรได้รับมันอยู่แล้วเพคะ เพราะนางเป็นบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ ต่างจากหม่อมฉัน ที่เป็นเพียงลูกอนุภรรยา”คำพูดของนางเต็มไปด้วยความน้อยใจ รู้สึกว่าโชคชะตาไม่ยุติธรรมกับตนเอง หลี่หยวนเจ๋อจ้องมองนางนิ่งไม่พูดแทรกแม้แต่น้อยเหวิ่นลี่หยาเห็นเขาเงียบไป นางเข้าใจว่าเขากำลังครุ่นและคิดตามที่ตนต้องการ จึงก้าวเข้าไปใกล้ น้ำเสียงของนางอ่อนหวานลง“องค์รัชทายาทเพคะ ท่านเองก็ทรงทราบดีมิใช่หรือเพคะ ว่าพี่จือหย

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 22 ขัดแย้งกับที่เห็น

    ยามบ่ายนั้นเงียบสงบ มีเพียงเสียงขนนกกระเรียนขีดเขียนลงบนกระดาษ เหวิ่นจือหยูยังคงหมกตัวอยู่ในห้องอักษร ท่ามกลางตำราโบราณที่เปิดกางอยู่เต็มโต๊ะ นางก้มหน้าจดจ่อกับตัวอักษรจีนโบราณที่เรียงรายอยู่บนกระดาษ ขณะวาดแบบแผนของสถาปัตยกรรมจีนยุคโบราณอย่างพิถีพิถันแม้การออกแบบและคำนวณเชิงโครงสร้างจะเป็นสิ่งที่คุ้นเคยสำหรับตอนเป็นวาดรวี แต่สิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจคือ นางสามารถอ่านและเขียนภาษาจีนโบราณได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ นางไม่มีพื้นฐานความรู้นี้เลยแม้แต่น้อย“หรือว่านี่จะเป็นพรจากการที่ข้ามาอยู่ในร่างนี้” เหวิ่นจือหยูพึมพำกับตัวเอง ขณะที่ลากเส้นบาง ๆ ลงบนกระดาษอย่างไตร่ตรอง ในขณะเดียวกัน นางก็ใช้ภาษาที่คุ้นเคยที่สุด ภาษาอังกฤษ จารึกตัวอักษรเล็ก ๆ กำกับลงไปในจุดสำคัญของแผนผัง เพื่อให้มั่นใจว่าความคิดของตนจะปลอดภัยจากสายตาผู้อื่นความปรารถนาที่จะใช้ความรู้ด้านวิศวกรรมและการออกแบบของตนเพื่อปรับปรุงตำหนักหรืออาคารบางแห่งในวังให้ดีขึ้น ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นภายในใจ นี่อาจเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมโยงนางเข้ากับโลกเดิม และอาจเป็นก้าวแรกที่ทำให้นางสามารถยืนหยัดอยู่ในโลกใบใหม่นี้ได้โดยไม่สูญเสีย

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 21 แม่ศรีเรือน

    “แล้วเจ้าได้เรียนรู้เรื่องการทำอาหารหรือการบ้านการเรือนไปบ้างหรือไม่”คำถามของฮองเฮาทำให้เหวิ่นจือหยูนิ่งไปชั่วขณะ ในนามของวาดรวี นางเป็นวิศวกรที่เคยชินกับการใช้ชีวิตสมัยใหม่ ไม่เคยสนใจเรื่องงานบ้านหรือการทำอาหารมาก่อน แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ ในสถานะพระชายาในราชสำนักทำให้นางรู้ดีว่านี่เป็นคุณสมบัติสำคัญของสตรีในราชวงศ์“เอ่อ หม่อมฉันยังคงเรียนรู้เรื่องเหล่านั้นอยู่เพคะ” เหวิ่นจือหยูตอบอย่างระมัดระวัง พยายามควบคุมน้ำเสียงให้นิ่งที่สุดฮองเฮาทรงยิ้มบาง รอยยิ้มของพระนางเต็มไปด้วยความเมตตา “ไม่ต้องกังวลไป การเป็นพระชายาเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาเรียนรู้ หากเจ้าต้องการ ข้าก็ยินดีจะช่วยสอน”คำพูดนั้นทำให้เหวิ่นจือหยูยิ้มออกมาเล็กน้อย แม้ภายในใจยังรู้สึกประหม่าก็ตาม “ขอบพระทัย ที่เมตตาหม่อมฉันเพคะ”ฮองเฮาทรงยิ้มก่อนที่จะหันไปทางข้าหลวงและสั่งให้จัดเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำอาหาร “ข้าคิดว่าเรามาเริ่มเรียนรู้จากสิ่งเล็ก ๆ ก่อนแล้วกัน วันนี้เราจะทำอาหารกัน ข้าจะสอนเจ้าเกี่ยวกับวิธีการทำอาหารบางอย่างที่ง่าย ๆ แต่เหมาะสมสำหรับการเป็นแม่ศรีเรือน อาจช่วยให้เจ้าเข้าใจความสำคัญของการดูแลบ้านเรือนยิ่งข

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 20 ไม่มีคุณสมบัติของพระชายา

    หวิ่นจือหยูใช้เวลาหมกตัวอยู่ในห้องอักษรแทบทุกวัน นางจมอยู่กับตำราจีนโบราณที่กองสูงเต็มโต๊ะ เสียงแผ่วเบาของกระดาษที่ถูกพลิก และเสียงพู่กันลากไปบนกระดาษคือเพียงสิ่งเดียวที่ขับกล่อมห้องที่เงียบสงบนี้“ถ้าจะอยู่ที่นี่ เราต้องเข้าใจมันให้มากที่สุด” นางพึมพำกับตัวเอง พลางจรดพู่กันลงบันทึกข้อสังเกตเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้ไม่มีใครอ่านออก นางไม่ได้ศึกษาเพียงเพื่อความรู้ แต่กำลังวิเคราะห์กลไกสังคมยุคนี้ เพื่อหาทางเอาตัวรอดและอาจพลิกสถานการณ์ให้เป็นประโยชน์ในอนาคตแม้จะมีหน้าที่ในฐานะพระชายาที่ต้องรับผิดชอบ แต่ในแต่ละวันเหวิ่นจือหยูกลับเลือกที่จะอยู่เงียบๆ ในห้องอักษร มากกว่าจะไปปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นหลี่หยวนเจ๋อหรือเหล่าข้ารับใช้คนอื่นๆหลี่หยวนเจ๋อเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของพระชายา นางไม่เอาแต่ติดตามเขาเหมือนแต่ก่อน ไม่พยายามเรียกร้องความสนใจ และไม่แม้แต่จะปรากฏตัวในช่วงเวลาที่นางสมควรอยู่เคียงข้างเขา“แปลกจริง นางกำลังวางแผนอะไรอยู่กันแน่” เขาครุ่นคิดในใจ แม้ภายนอกจะดูสงบนิ่ง แต่นัยน์ตาของเขาแฝงความระแวงอยู่เสมอ แม้จะไม่เชื่อว่านางจะเปลี่ยนไปโดยไม่มีเหตุผล แต่เขาก็เลือกที่จะเ

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 19 เฉยเมย

    ภาพของ เหวิ่นจือหยู ที่นั่งสงบนิ่งอยู่บนโต๊ะอ่านหนังสือด้วยความตั้งใจ ช่างขัดแย้งกับสิ่งที่เหวิ่นลี่หยาเคยบอกเขาไว้โดยสิ้นเชิง นางไม่ได้ดูเป็นคนที่ใส่ใจแต่เรื่องการแต่งกายหรือหลงใหลในความหรูหราอย่างที่เขาเคยได้ยินมาเลยหลี่หยวนเจ๋อ นึกถึงคำพูดของเหวิ่นลี่หยาที่เคยบอกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า“พี่จือหยูของข้า นิสัยหยิ่งยโส สนใจแต่ความงามของตนเอง ไม่เคยสนใจการบ้านการเรือน องค์ชายคงไม่ชอบหรอก หากต้องอยู่กับนาง”เหวิ่นลี่หยาพูดเหมือนรู้จักพี่สาวของนางดี แต่สิ่งที่เขาเห็นในตอนนี้กลับต่างออกไปโดยสิ้นเชิงเหวิ่นจือหยูที่นั่งตรงหน้าดูสงบนิ่ง เรียบง่าย และเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น นางไม่ได้หยิ่งผยอง เกรี้ยวกราด หรือสนใจแต่เปลือกนอกอย่างที่เหวิ่นลี่หยาเล่าให้ฟัง ความสงสัยเริ่มก่อตัวขึ้นในใจเขาหรือเขาอาจเข้าใจนางผิดไปโดยสิ้นเชิง“เจ้าชอบอ่านตำราหรือ” น้ำเสียงของเขาเปี่ยมด้วยความสงสัยเหวิ่นจือหยูเงยหน้าขึ้นจากตำรา ดวงตาคู่นั้นมองตรงมาราวกับท้าทายให้เขาคิดให้ถี่ถ้วน“ท่านคิดว่าอย่างไรเพคะ ได้ยินอะไรมาล่ะ”คำถามกลับยิ่งทำให้หลี่หยวนเจ๋อรู้สึกสะอึกเล็กน้อย เขาพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา “ข้าไม่ค

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 18 เจ้าเปลี่ยนไป

    ในช่วงเวลาที่ เหวิ่นจือหยู เริ่มปรับตัวเข้ากับชีวิตในตำหนักรัชทายาท ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับหลี่หยวนเจ๋อ ยังคงเต็มไปด้วยความเย็นชาและห่างเหิน รัชทายาทหนุ่มยังสร้างระยะห่างโดยมักจะใช้ข้ออ้างเรื่องงานเพื่อหลบหน้านาง ทั้งทำงานจนดึก หรือบางครั้งกลับมาตำหนักก็หลับไปโดยไม่สนใจถามไถ่พระชายาเลย เหวิ่นจือหยูกลายเป็นเพียงเงาในชีวิตของเขา ความเฉยเมยนั้นค่อย ๆ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ห่างไกลออกไปเรื่อย ๆแม้ไม่มีความอบอุ่นจากสามี แต่เหวิ่นจือหยูก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ของพระชายาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง นางพยายามทำตัวให้เป็นที่ยอมรับในราชสำนัก โดยการเข้าร่วมงานพิธีตามหน้าที่ โดยเฉพาะเมื่อเข้าเฝ้าฮองเฮา หยางซูเจิน ผู้ซึ่งเป็นพระมารดาขององค์รัชทายาทหลี่หยวนเจ๋อผู้เป็นพระสวามีฮองเฮาหยางซูเจินเป็นสตรีที่เฉลียวฉลาดและมีอำนาจและบทบาทสำคัญในราชสำนัก แม้ในตอนแรกนางจะจับตามองเหวิ่นจือหยูด้วยความสงสัย เพราะรู้ว่าหลี่หยวนเจ๋อไม่พอใจพระชายา แต่เมื่อได้พบปะพูดคุย ฮองเฮากลับพบความจริงที่แตกต่างออกไป นางสังเกตเห็นถึงความสงบเสงี่ยม ความอดทน และความอ่อนโยนในตัวลูกสะใภ้ ซึ่งไม่เหมือนกับคำกล่าวหาที่เคยได้ยิน

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   ตอนที่ 17 ของขวัญจากฮ่องเต้

    งานเลี้ยงต้อนรับพระชายาจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ ท้องพระโรงหลวง แขกเหรื่อมากมายจากทั่วทุกสารทิศต่างเดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยานต่อจากการเข้าพิธีสมรสขององค์ชายหลี่หยวนเจ๋อและพระชายาเหวิ่นจือหยู บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงดนตรีขับกล่อมและเสียงสนทนาเจือจางเมื่อร่างสูงขององค์ชายหลี่หยวนเจ๋อก้าวเข้าสู่ท้องพระโรงพร้อมพระชายา ทุกสายตาต่างจับจ้องมายังทั้งคู่ทันที ความสง่างามของหลี่หยวนเจ๋อที่แผ่รัศมีความเยือกเย็น น่าเกรงขามดุจเพทพเจ้า ในขณะที่พระชายาเหวิ่นจือหยูก็ไม่ได้น้อยหน้า นางสวมอาภรณ์สีอ่อนปักลวดลายอย่างวิจิตร บ่งบอกถึงฐานะอันสูงส่ง ทุกย่างก้าวของนางเปี่ยมไปด้วยความสง่างามราวกับเทพธิดาท่ามกลางสายตาของแขกผู้ใหญ่และข้าราชบริพารที่มองมายังทั้งคู่ด้วยความชื่นชม โดยเฉพาะเหวิ่นจือหยูที่เป็นที่จับจ้องมากกว่าตาราวกับทุกสายกำลังประเมินพระชายาขององค์ชาย เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นเป็นระลอก“พระชายาช่างงามล่มเมืองจริง ๆ”“ดูเถิด นางงามสมฐานะองค์ชายยิ่งนัก”เหวิ่นจือหยูยิ้มรับทุกคำชมอย่างสงบนิ่ง นางรู้ดีว่าคำพูดเหล่านี้เป็นเพียงคำกล่าวต้อนรับ มิใช่สิ่งที่จริงใจเสมอไป อย่างไรก็ตาม นางก็ยังต้องรักษาท่า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status