เหล่าขุนนางในที่ประชุมก็เริ่มแสดงความเห็นกันอย่างเคร่งเครียด แต่แทนที่จะเป็นการสนับสนุน กลับมีเสียงคัดค้านดังขึ้นจากขุนนางหลายคน“ฝ่าบาท กระหม่อมเกรงว่าโครงการนี้จะใช้ทรัพยากรมากเกินไป” ขุนนางฉินลุกขึ้นทำความเคารพก่อนกล่าว“ตอนนี้เงินในท้องพระคลังเหลือไม่มากแล้ว หากนำไปสร้างอ่างเก็บน้ำ เกรงว่าจะกระท
ภายในตำหนักรัชทายาท แสงเทียนส่องสว่างไปทั่วห้องทรงงาน บนโต๊ะไม้แกะสลักขนาดใหญ่ แผนที่แคว้นหลี่ถูกกางออกเต็มพื้นที่ รายละเอียดของแม่น้ำ ลำธาร หุบเขา และที่ราบแสดงให้เห็นชัดเจนองค์รัชทายาทหลี่หยวนเจ๋อ นั่งอยู่ด้านหนึ่งของโต๊ะ สายตาของเขากวาดมองแผนที่อย่างพินิจพิเคราะห์ ภัยแล้งและปัญหาการขาดแคลนน้ำที่
เสียงโซ่ตรวนที่พันธนาการองค์ชายหลี่หมิงกระทบพื้นดังสะท้อนก้องภายในท้องพระโรง แม้เขาพยายามดิ้นรนแต่สุดท้ายก็ไร้ประโยชน์ ที่ข้อมือถูกโซ่ตรวน ทุกสายตาต่างจับจ้องภาพขององค์ชายผู้เคยสูงศักดิ์ บัดนี้กลับตกเป็นนักโทษของราชสำนัก หลี่หมิงก้มหน้าลงอย่างสิ้นหวัง ขณะที่ทหารองครักษ์เตรียมคุมตัวออกไปทันใดนั้น
ภายในตำหนักส่วนพระองค์ขององค์ชายหลี่หมิง บรรยากาศเคร่งเครียดจนแม้แต่ลมหายใจก็ดูหนักอึ้ง แสงตะเกียงสลัวส่องกระทบใบหน้าที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลของเขา“พวกมันช่างเคลื่อนไหวเร็วกว่าที่คิด” หลี่หมิงพึมพำพลางขมวดคิ้วมุ่น ดวงตาสั่นระริกเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจตรงหน้าของเขา ขุนนางซ่งอวิ๋นเทา ผู้เป็นพ่อตาขอ
คำกล่าวนั้นทำให้เกิดเสียงฮือฮาดังขึ้นในหมู่ขุนนาง บางคนหันไปมองหน้ากันอย่างตกใจ และแสดงสีหน้าประหลาดใจ ขณะที่บางคนกลับเงียบกริบ บางคนเริ่มมีท่าทีกระวนกระวาย ฮ่องเต้ขมวดพระขนง “เจ้าหมายความว่า มีผู้ฉวยโอกาสทำกำไรจากข้าวสารที่ส่งไปช่วยเหลือราษฎรอย่างนั้นหรือ” หลี่หยวนเจ๋อค้อมศีรษะ ก่อนจะเสริม “พะย่ะ
หลังจากใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการช่วยเหลือราษฎรจากภัยแล้ง หลี่หยวนเจ๋อและเหวิ่นจือหยูต่างเหนื่อยล้า แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ เมื่อเห็นสายน้ำไหลผ่านท่อไม้ไผ่เชื่อมโยงไปยังหมู่บ้านต่าง ๆ ที่เดือดร้อน อ่างเก็บน้ำที่ลึกขึ้นสามารถกักเก็บน้ำได้มากกว่าเดิม กังหันลมหมุนโบกสะบัดด้วยแรงลม คอยดึงน้ำจากบ