ตอนที่
20
ใกล้กันอีกนิด
ไม่นานนักรถบัสก็เริ่มชะลอความเร็วลง ก่อนจะเลี้ยวเข้าสู่ลานจอดรถของศูนย์การเรียนรู้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่พวกเขาจะมาทัศนศึกษา อาคารไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ดูร่มรื่น ด้านหน้ามีป้ายต้อนรับที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลอย่างสวยงาม
อาจารย์สุภาวิณีประกาศให้นักศึกษาลงจากรถและมารวมตัวกันหน้าอาคาร
“ถึงแล้ว!!!” กัสกระซิบณัฐพลใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเช่นเดียวกันกับนักศึกษาคนอื่น ๆ ที่ตื่นเต้นไม่แพ้กัน
ปรายฟ้าลงมาจากรถพร้อมกับภาคภูมิ กลิ่นอายของธรรมชาติ ทั้งกลิ่นดิน กลิ่นต้นไม้และความชื้นจากอากาศที่ร่มเย็นทำให้เธอรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก
“อากาศดีจังเลยเนอะ” ปรายฟ้าพูดขึ้นขณะสูดหายใจเข้าลึก ๆ
“จริง” ภาคภูมิตอบพลางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ อย่างสนใจ
อาจารย์สุภาวิณีเริ่มอธิบายถึงวัตถุประสงค์ของการมาที่นี่และกิจกรรมที่นักศึกษาจะต้องทำรวมถึงการแบ่งกลุ่มสำหรับการเดินสำรวจและเก็บข้อมูล
“เอาล่ะค่ะนักศึกษา ทุกคนจะต้องทำงานเป็นกลุ่มนะครับ ตามกลุ่มโปรเจกต์ที่เราแบ่งไว้แล้ว แต่ละกลุ่มต้องเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพืชพรรณ สัตว์เล็ก ๆ และระบบนิเวศน์ในบริเวณนี้ เพื่อนำไปใช้ในโปรเจกต์ของเรา”
หลังจากที่อาจารย์สุภาวิณีให้คำแนะนำและแบ่งกลุ่มเรียบร้อย นักศึกษาแต่ละกลุ่มก็เริ่มแยกย้ายกันไปสำรวจตามเส้นทางธรรมชาติที่กำหนด กลุ่มของปรายฟ้า ซึ่งมีมีนาและกัส รวมถึงภาคภูมิ ชัยวัฒน์และณัฐพล ที่ถูกจัดมาอยู่กลุ่มเดียวกันก็เริ่มออกเดินไปพร้อมกัน
“ฉันว่าเราน่าจะเริ่มจากโซนพืชสมุนไพรก่อนนะ” มีนาเสนอ
“ดีเลย จะได้จดบันทึกให้ละเอียด” กัสเสริมอย่างกระตือรือร้นพลางเหลือบมองณัฐพลที่เดินอยู่ข้าง ๆ
ปรายฟ้าเดินอยู่ถัดจากภาคภูมิ เธอแอบมองเขาสลับกับทิวทัศน์รอบตัว กลิ่นอายธรรมชาติยามเช้าช่วยให้เธอรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย
ภาคภูมิเดินนำหน้าอย่างมั่นใจ บางครั้งเขาก็หยุดพูดให้เพื่อนฟังเพราะตั้งแต่เขาทำโปรเจกต์นี้เขาก็ให้ความสนใจธรรมชาติมากขึ้น
ขณะที่กำลังเดินสำรวจไปเรื่อย ๆ ตามทางที่ค่อนข้างแคบและลื่นเล็กน้อย ปรายฟ้าเผลอสะดุดรากไม้ที่โผล่ขึ้นมาทำให้เธอกำลังจะเสียหลักล้ม
“ว้าย!!!” ปรายฟ้าอุทานด้วยความตกใจ
ในเสี้ยววินาทีนั้นเองภาคภูมิที่เดินอยู่ข้าง ๆ ก็คว้าแขนของปรายฟ้าไว้ได้ทัน เขาดึงเธอเข้ามาหาตัวอย่างรวดเร็วทำให้ร่างของปรายฟ้า กระแทกเข้ากับแผงอกของเขาอย่างจัง
ปรายฟ้าเงยหน้าขึ้นมองภาคภูมิใบหน้าของเธออยู่ห่างจากใบหน้าของเขาเพียงไม่กี่เซนติเมตร ดวงตาคมกริบของเขาจ้องมองมาที่เธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตกใจและห่วงใยผมของเธอที่หลุดรุ่ยไปเล็กน้อยคลอเคลียอยู่ข้างแก้มของเขา
“คุณไม่เป็นไรนะ” ภาคภูมิถามเสียงพร่าดวงตาของเขายังคงจ้องมองเธอไม่กะพริบ
ปรายฟ้ารู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝันทำให้ใบหน้าของเธอแดงก่ำยิ่งกว่าเดิม เธอได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวของเขา ซึ่งเป็นกลิ่นที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด
“ฉันไม่เป็นไร” ปรายฟ้าตอบตะกุกตะกัก เธอยังคงอยู่ในอ้อมแขนของภาคภูมิจนกระทั่งมีนาและกัสเดินมาถึง
“ปราย!!! แกไม่เป็นไรนะ” มีนาและกัสถามด้วยความเป็นห่วง
ภาคภูมิค่อย ๆ คลายมือออกปล่อยให้ปรายฟ้ายืนด้วยตัวเองแต่เขาก็ยังยืนอยู่ใกล้ ๆ คอยสังเกตอาการของเธอไม่ห่าง
“ไม่เป็นไร ๆ ฉันแค่สะดุดนิดหน่อยเอง” ปรายฟ้าพูดพลางมองไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาของภาคภูมิแต่ความรู้สึกวาบหวามในใจยังคงชัดเจนไม่จางหาย
ด้านหลังกัสกับณัฐพลก็มีโมเมนต์น่ารัก ๆ ของตัวเองเช่นกัน
“พลดูสิผีเสื้อตัวนั้นสวยจังเลย” กัสชี้ไปที่ผีเสื้อตัวเล็ก ๆ ที่เกาะอยู่บนดอกไม้ณัฐพลยิ้มและถ่ายรูปผีเสื้อตัวนั้นให้กัสทันที
“สวยเหมือนเธอเลย” เขาพูดเบา ๆ จนกัสหน้าแดงก่ำ
ส่วนมีนาและชัยวัฒน์แม้จะยังคงเป็นคู่กัด
“ชัยนายเดินไปชนกิ่งไม้ได้ไงเกือบเข้าตาฉันแล้วนะ” มีนาโวยวาย
“โธ่!!! ก็ใครใช้ให้เธอเดินตามหลังฉันติด ๆ เล่า” ชัยวัฒน์เถียงกลับ แต่ก็แอบเหล่มองมีนาด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย
พวกเขายังคงเดินสำรวจต่อไปตามเส้นทาง เจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ เริ่มอธิบายเกี่ยวกับความสำคัญของป่าชายเลนและพืชที่พบในบริเวณนั้น ภาคภูมิ
ซึ่งมีความรู้ด้านนี้เป็นอย่างดีก็ช่วยเสริมข้อมูลและตอบคำถามของเพื่อน ๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว ปรายฟ้ามองเขาด้วยความทึ่ง
“นายเก่งจังเลยนะภาคภูมิรู้ไปหมดทุกเรื่องเลย” ปรายฟ้าเอ่ยชมด้วยความจริงใจ
“ก็แค่พอรู้เพราะศึกษามากช่วงนี้” ภาคภูมิตอบด้วยท่าทีถ่อมตัว แต่รอยยิ้มบาง ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนมุมปากของเขา
ระหว่างที่ทุกคนกำลังก้มลงดูต้นโกงกางตัวเล็ก ๆ ภาคภูมิก็ขยับมายืนใกล้ปรายฟ้ามากขึ้นเล็กน้อย เขาชี้ไปที่รากของต้นไม้
“รากพวกนี้ช่วยป้องกันการกัดเซาะของน้ำทะเลได้ดีมากเลยนะครับ” เขากระซิบเบา ๆ
ปรายฟ้าพยักหน้าเข้าใจ “อืมสุดยอดไปเลยนะธรรมชาติ”
กัสที่เห็นปรายฟ้ากับภาคภูมิยืนอยู่ใกล้กันก็แอบกระซิบกับ ณัฐพล
“ดูสิพลเขาสองคนดูเข้ากันดีเนอะ” ณัฐพลมองตามสายตาของกัสแล้วยิ้ม “นั่นสิ”
มีนาซึ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็แอบยิ้มพลางคิดในใจ 'สงสัยงานนี้จะมีคู่รักธรรมชาติเพิ่มขึ้นอีกคู่แล้ว'
หลังจากเดินสำรวจกันจนเหนื่อยล้า กลุ่มนักศึกษาก็ได้เวลาพักรับประทานอาหารกลางวันที่ทางศูนย์จัดเตรียมไว้ให้ เป็นข้าวกล่องง่าย ๆ แต่ก็เต็มไปด้วยความสุขทุกคนนั่งรวมกลุ่มกันใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น
ปรายฟ้านั่งอยู่ข้างภาคภูมิเธอแกะข้าวกล่องของตัวเองออก ภาคภูมิยื่นน้ำเปล่าให้เธออีกขวด
“ขอบใจนะ” ปรายฟ้ายิ้มให้ภาคภูมิ
“ไม่เป็นไร” ภาคภูมิตอบสั้น ๆ แต่ก็แอบอมยิ้ม เขารู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
ขณะที่ทุกคนกำลังกินข้าวและพูดคุยกันอย่างออกรส บางครั้งปรายฟ้าก็เผลอสบตากับภาคภูมิโดยบังเอิญแววตาของเขายังคงนิ่งสง แต่ก็มีความอ่อนโยนซ่อนอยู่ทำให้ปรายฟ้าใจเต้นแรงทุกครั้ง
“นี่ปรายฟ้า พลช่วยแกะไข่พะโล้ให้กัสด้วยนะดูสิหวานกันจริงๆ เลย” มีนาแซวขึ้นมาทำให้กัสกับณัฐพลหน้าแดงก่ำไปตาม ๆ กัน
“โอ๊ย มีนาแกนี่นะ” กัสโวยวาย
ชัยวัฒน์หัวเราะแล้วก็แซวณัฐพล “พลก็นายมันติดแฟนอ่ะ”
“หือแล้วนายล่ะ ไม่ช่วยมีนาแกะอะไรบ้างเหรอ” ณัฐพลหันไปแซวชัยวัฒน์คืน
“ทำไมต้องช่วย คนนั้นเขาเก่งเกิ๊น ฮ่า ๆ” ชัยวัฒน์พูดแล้วก็หัวเราะแต่มีนาไม่ได้ตลกไปด้วย
ทุกคนหัวเราะครืนบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ปรายฟ้ามองไปที่ภาคภูมิที่ตอนนี้ก็กำลังยิ้มบาง ๆ ให้กับบทสนทนาของเพื่อน ๆ รอยยิ้มนั้นทำให้ปรายฟ้ารู้สึกว่ากำแพงน้ำแข็งที่เคยมีระหว่างพวกเขากำลังละลายไปทีละน้อย
หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อยอาจารย์ก็เรียกให้นักศึกษาเตรียมตัวขึ้นรถเพื่อเดินทางไปสถานที่จะพักคืนนี้
แต่ก่อนจะลุกขึ้นภาคภูมิก็หันมาถามปรายฟ้าด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“คุณยังไหวแน่นะถ้าไม่ไหวก็บอกนะ”
ปรายฟ้ายิ้มให้ภาคภูมิอย่างอบอุ่น “ไหวสิ! ขอบใจนะ” เธอบอก แม้จะรู้สึกเหนื่อยบ้างแต่การมีเขาอยู่ใกล้ ๆ ก็ทำให้เธอรู้สึกมีพลังขึ้นมาอย่างประหลาด
ตอนที่ 22ทะเลกับความรู้สึกที่เบ่งบานหลังจากจัดการเรื่องตะขาบเรียบร้อย ทุกคนก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับมื้อค่ำที่อาจารย์สุภาวิณีจองไว้ เสียงหัวเราะและบทเพลงจากห้องพักชายหญิงดังสลับกันไปมา บ่งบอกถึงความสุขและความผ่อนคลายที่ทุกคนกำลังได้รับเมื่อถึงเวลาหกโมงเย็น นักศึกษาทั้งหมดก็มารวมตัวกันที่ร้านหมูกระทะริมทะเลที่อาจารย์จองไว้บรรยากาศยามเย็นริมหาดทรายช่างสวยงามเหลือเกิน แสงสีส้มแดงของพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าทอประกายบนผิวน้ำทะเล ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจโต๊ะหมูกระทะถูกจัดเรียงราย หมูหมัก กุ้ง ปลาหมึก ผักสด และน้ำจิ้มรสเด็ดถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ กลิ่นหอมของเนื้อย่างลอยมาเตะจมูก ทำให้ทุกคนท้องร้องจ๊อก ๆปรายฟ้านั่งอยู่ข้างภาคภูมิอีกแล้วโดยไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือเพื่อน ๆ แอบจัดให้ กัสกับณัฐพลนั่งเยื้อง ๆ กัน ส่วนมีนากับชัยวัฒน์ก็นั่งตรงข้ามกัน“โอ๊ย หิวมาก” กัสพูดพลางคีบหมูลงบนเตาอย่างรวดเร็ว“ใจเย็น ๆ กัส เดี๋ยวก็ไหม้หรอก” ณัฐพลบอกพลางช่วยคีบผักวางรอบ ๆชัยวัฒน์รีบย่างกุ้งให้มีนา “นี่มีนากินเยอะ ๆ จะได้มีแรงไปเถียงฉันพรุ่งนี้”มีนาทำหน้าหมั่นไส้ “ไม่
ตอนที่21ค้างคืน หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่ศูนย์เรียนรู้ กลุ่มนักศึกษาก็พร้อมออกเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางถัดไป นั่นคือที่พักริมทะเล รถบัสแล่นออกมาจากศูนย์ทิ้งความร่มรื่นของป่าไม้ไว้เบื้องหลังมุ่งหน้าสู่ท้องทะเลสีครามที่รออยู่เบื้องหน้า แสงแดดยามบ่ายเริ่มอ่อนลง บรรยากาศในรถอบอวลไปด้วยความตื่นเต้นและรอยยิ้มของนักศึกษาปรายฟ้านั่งริมหน้าต่างมองวิวทิวทัศน์ที่เปลี่ยนผ่านไปเรื่อย ๆ ข้าง ๆ เธอ ภาคภูมิกำลังก้มอ่านอะไรสักอย่างด้วยความตั้งใจแต่ก็มีบางจังหวะที่เงยหน้าขึ้นมามองเธอกัสที่นั่งกับณัฐพลไม่วายที่จะแอบหยิกแก้มของณัฐพลเบา ๆ เมื่อเขาแกล้งหลับพิงไหล่ของเธอ ส่วนมีนาและชัยวัฒน์ก็ยังคงเถียงกันเรื่องเพลงที่เปิดในรถ เสียงหัวเราะและเสียงแซวกันดังเป็นระยะ สร้างความครึกครื้นตลอดการเดินทาง“นักศึกษามีใครอยากเป็นนักร้องบ้าง ใครอยากโชว์ลูกคอเป็นเพลงแรกค่ะ” อาจารย์สุภาวิณีเอ่ยถามขึ้นมาเท่านั้นแหละ บรรยากาศในรถก็เปลี่ยนเป็นคอนเสิร์ตเคลื่อนที่ทันทีกัสและณัฐพลอาสาเป็นคู่แรก พวกเขาร้องเพลงคู่รักหวาน ๆ ด้วยเสียงที่ประสานกันอย่างน่ารัก ทำให้เพื่อน ๆ ในรถส่งเสียงกรี๊ดและแซวกันยกใหญ่“โอ๊ย!!! หวานกว่
ตอนที่20ใกล้กันอีกนิด ไม่นานนักรถบัสก็เริ่มชะลอความเร็วลง ก่อนจะเลี้ยวเข้าสู่ลานจอดรถของศูนย์การเรียนรู้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่พวกเขาจะมาทัศนศึกษา อาคารไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ดูร่มรื่น ด้านหน้ามีป้ายต้อนรับที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลอย่างสวยงามอาจารย์สุภาวิณีประกาศให้นักศึกษาลงจากรถและมารวมตัวกันหน้าอาคาร“ถึงแล้ว!!!” กัสกระซิบณัฐพลใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเช่นเดียวกันกับนักศึกษาคนอื่น ๆ ที่ตื่นเต้นไม่แพ้กันปรายฟ้าลงมาจากรถพร้อมกับภาคภูมิ กลิ่นอายของธรรมชาติ ทั้งกลิ่นดิน กลิ่นต้นไม้และความชื้นจากอากาศที่ร่มเย็นทำให้เธอรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก“อากาศดีจังเลยเนอะ” ปรายฟ้าพูดขึ้นขณะสูดหายใจเข้าลึก ๆ“จริง” ภาคภูมิตอบพลางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ อย่างสนใจอาจารย์สุภาวิณีเริ่มอธิบายถึงวัตถุประสงค์ของการมาที่นี่และกิจกรรมที่นักศึกษาจะต้องทำรวมถึงการแบ่งกลุ่มสำหรับการเดินสำรวจและเก็บข้อมูล“เอาล่ะค่ะนักศึกษา ทุกคนจะต้องทำงานเป็นกลุ่มนะครับ ตามกลุ่มโปรเจกต์ที่เราแบ่งไว้แล้ว แต่ละกลุ่มต้องเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพืชพรรณ สัตว์เล็ก ๆ และระบบนิเวศน์ในบริเวณนี้ เพื่อนำ
ตอนที่19เมื่อมนุษย์น้ำแข็งละลาย ผ่านไปไม่นานเสียงเพลงคลอเบา ๆ บนรถทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย ปรายฟ้าที่แม้จะดีขึ้นมากแล้ว แต่ร่างกายก็ยังไม่หายขาดจากอาการเพลีย เธอเผลอหลับไปแล้วศีรษะของเธอค่อย ๆ เอนไปซบไหล่ของภาคภูมิภาคภูมิรู้สึกถึงน้ำหนักที่กดลงบนไหล่ เขาหันมามองปรายฟ้าที่หลับตาพริ้มอย่างสบายใจ ลมหายใจแผ่ว ๆ ของเธอรดต้นคอของเขาทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ เขาเพียงแค่ทอดสายตามองไปข้างหน้า ปล่อยให้เธอหลับพิงอยู่เช่นนั้น ไม่ได้ขยับตัวแม้แต่น้อยกัสที่ได้นั่งข้างณัฐพลก็ยิ้มอย่างมีความสุข เธอแอบหันไปมองปรายฟ้าและภาคภูมิ แล้วยกนิ้วโป้งให้มีนาที่นั่งอยู่ข้างชัยวัฒน์ มีนาเองก็ยิ้มตอบอย่างเข้าใจ ก่อนจะแอบหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปโมเมนต์ของปรายฟ้ากับภาคภูมิเก็บไว้ในขณะที่ปรายฟ้ากำลังหลับพิงไหล่ภาคภูมิอย่างสบายใจ กัสที่ได้นั่งเบาะข้างกันกับณัฐพลก็รู้สึกมีความไม่แพ้กัน เธอมองณัฐพลที่กำลังเปิดมือถือดูรูปถ่ายที่ทั้งสองแอบไปเดทกันมาเมื่อไม่นานแล้วยิ้มออกมา“พลจำได้ด้วยเหรอว่ากัสชอบรูปนี้” กัสถามณัฐพลเสียงเบา ๆ ด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มหวานเผยออกมาณัฐพลเงยหน้าจากโทรศัพท์มามองกัส “ก็จำได้สิ รูปนี้เธอยิ้มสวยดี” เ
ตอนที่18เตรียมตัวออกเดินทางได้ เช้าวันรุ่งขึ้น ณ ลาดจอดรถมหาวิทยาลัย เสียงจอแจของนักศึกษาดังเซ็งแซ่ ทุกคนต่างหอบหิ้วสัมภาระมากันเต็มที่ อากาศยามเช้าสดใสทำให้บรรยากาศดูครึกครื้นเป็นพิเศษปรายฟ้าเดินทางมาถึงพร้อมกับมีนาและกัส เธอดูกระปรี้กระเปร่าขึ้นเล็กน้อย ใบหน้ายังคงมีร่องรอยความอ่อนเพลียอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้แย่เท่าเมื่อวาน“โชคดีนะที่หายดีขึ้นมาบ้าง” มีนาพูดขึ้นขณะที่พวกเธอกำลังเดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อนร่วมโปรเจกต์“ฉันนึกว่าต้องแบกแกไปซะแล้ว”“พูดบ้า ๆ ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น” ปรายฟ้าแย้งพลางยิ้มแหย ๆกัสชำเลืองไปเห็นภาคภูมิกำลังยืนคุยกับชัยวัฒน์และณัฐพลอยู่ไม่ไหล “โน่นไง เจ้าชายน้ำแข็งของแกมาแล้ว”“นั่นก็พลเจ้าชายของแกไม่ใช่หรือไงกัส” ปรายฟ้าแซวเพื่อนเช่นกันเพราะตอนนี้กัสกับณัฐพลกำลังคุย ๆ กันอย่างเปิดเผยแล้วกัสหันมาทำตาเขียวใส่ปรายฟ้า “นี่แกว่าอะไรนะ พูดดี ๆ หน่อยสิ” แม้จะพูดอย่างนั้นแต่ใบหน้าของกัสก็แดงขึ้นเล็กน้อย ปรายฟ้าและมีนาหัวเราะคิกคักกับท่าทางของเพื่อนปรายฟ้าเหลือบมองไปทางกัสชี้ใบหน้าของภาคภูมิ ดูนิ่งเฉยตามปกติแต่แววตาของเขาดูเหมือนจะกวาดมองหาสักคนอยู่ ก่อนที่สายตาของเข
ตอนที่17ทริปทัศนศึกษาแม้ว่าปรายฟ้าจะมีอาการที่ดีขึ้นแต่เมื่อเธอกลับถึงหอพักร่างกายของเธอก็อ่อนเพลียมาก ๆ เธอรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วทิ้งตัวลงบนเตียงนอนอย่างหมดแรง วันนี้อาการป่วยยังไม่หายสนิท เธอหลับตาลงอย่างอ่อนล้าแต่แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นปรายฟ้าลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย หยิบมือถือขึ้นมาดูเห็นชื่อภาคภูมิปรากฎอยู่บนหน้าจอเธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ปกติเขาไม่ค่อยโทรหาเธอ ปรายฟ้าจึงกดรับสายของเขา“ฮัลโหล” เสียงของปรายฟ้าแหบเล็กน้อยจากการไอ“ปรายฟ้าคุณดีขึ้นหรือยัง” เสียงของภาคภูมิดังมาตามสายฟังดูเป็นกังวลเล็กน้อย“ก็ดีขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังเพลีย ๆ ปวดหัวแล้วก็ยังไอ มีอะไรหรือเปล่า” ภาคภูมิพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความห่วงใยที่สัมผัสได้“กินยาหรือยังไปรายฟ้าได้ยินอย่างนั้นเขาก็รู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่คิดว่าเขาจะสังเกตเห็นและเป็นห่วงเธอมากขนาดนี้“กินแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก นายเองก็ตากฝนเหมือนกันระวังจะไม่สบายเหมือนฉัน” ปรายฟ้าพูดขึ้นมาแล้วก็แอบอมยิ้มอยู่คนเดียว“ไม่มีทางคนอย่างผมแข็งแรงกว่าที่คุณคิดมาก” ภาคภูมิพูดขึ้นมาแล้วก็ยิ้มคนเดียวเช่นเดียวกัน“จ้าพ