ตอนที่
21
ค้างคืน
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่ศูนย์เรียนรู้ กลุ่มนักศึกษาก็พร้อมออกเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางถัดไป นั่นคือที่พักริมทะเล รถบัสแล่นออกมาจากศูนย์ทิ้งความร่มรื่นของป่าไม้ไว้เบื้องหลัง
มุ่งหน้าสู่ท้องทะเลสีครามที่รออยู่เบื้องหน้า แสงแดดยามบ่ายเริ่มอ่อนลง บรรยากาศในรถอบอวลไปด้วยความตื่นเต้นและรอยยิ้มของนักศึกษา
ปรายฟ้านั่งริมหน้าต่างมองวิวทิวทัศน์ที่เปลี่ยนผ่านไปเรื่อย ๆ ข้าง ๆ เธอ ภาคภูมิกำลังก้มอ่านอะไรสักอย่างด้วยความตั้งใจแต่ก็มีบางจังหวะที่เงยหน้าขึ้นมามองเธอ
กัสที่นั่งกับณัฐพลไม่วายที่จะแอบหยิกแก้มของณัฐพลเบา ๆ เมื่อเขาแกล้งหลับพิงไหล่ของเธอ ส่วนมีนาและชัยวัฒน์ก็ยังคงเถียงกันเรื่องเพลงที่เปิดในรถ เสียงหัวเราะและเสียงแซวกันดังเป็นระยะ สร้างความครึกครื้นตลอดการเดินทาง
“นักศึกษามีใครอยากเป็นนักร้องบ้าง ใครอยากโชว์ลูกคอเป็นเพลงแรกค่ะ” อาจารย์สุภาวิณีเอ่ยถามขึ้นมาเท่านั้นแหละ บรรยากาศในรถก็เปลี่ยนเป็นคอนเสิร์ตเคลื่อนที่ทันที
กัสและณัฐพลอาสาเป็นคู่แรก พวกเขาร้องเพลงคู่รักหวาน ๆ ด้วยเสียงที่ประสานกันอย่างน่ารัก ทำให้เพื่อน ๆ ในรถส่งเสียงกรี๊ดและแซวกันยกใหญ่
“โอ๊ย!!! หวานกว่าน้ำตาลก็คู่นี้แล้วแหละ” มีนาแซวพร้อมกับส่งสายตากระเซ้าเย้าแหย่
หลังจากคู่กัสกับณัฐพลจบลง ชัยวัฒน์ก็รีบคว้าไมค์ส่งให้มีนาทันที
“ตาเธอแล้วแม่คุณ”
“ไม่เอาอ่ะ นายร้องเองสิ” มีนาปฏิเสธเป็นพัลวัน
“ร้องเลยมีนา ร้องเลย” ชัยวัฒน์ยังคงคะยั้นคะยอ สุดท้ายมีนาก็ยอมแพ้เธอจับไมค์อย่างไม่เต็มใจนักแต่เมื่อเสียงดนตรีดังขึ้น เธอก็เริ่มร้องเพลงแนวป๊อบร็อกด้วยเสียงที่ทรงพลังเกินคาด ทำให้ทุกคนในรถปรบมือกันถ้วนหน้า
“เฮ้ย!!! ไม่ธรรมดานี่หว่ามีนา” ชัยวัฒน์ที่ตอนแรกกวนประสาทแต่ตอนนี้เอ่ยชมอย่างจริงใจ
มีนายิ้มแก้มปริแทบแตก “ก็แน่นอนอยู่แล้ว ใครจะไปเหมือนนายเสียงเหมือนกบถูกเหยียบ”
เมื่อทุกคนได้ยินก็หัวเราะเพราะมีนาพูดใส่ไมค์ทำให้ทุกคนบนรถได้ยินแม้แต่อาจารย์ก็หัวเราะไปด้วย
ภาคภูมิเองก็แอบยิ้มมุมปากแล้วก็หัวเราะให้กับเพื่อนของเขา ปรายฟ้าเองก็สนุกสนานไปกับบรรยากาศ เธอหันไปชวนภาคภูมิ
“นายไม่ลองร้องบ้างเหรอภาคภูมิ”
ภาคภูมิส่ายหน้าเล็กน้อย “ผมไม่ถนัดร้องเพลง”
“โธ่!!! แค่นิดหน่อยน่า จะได้ปลดปล่อยไง” ปรายฟ้าพยายามคะยั้นคะยอแต่ภาคภูมิก็ยังคงส่ายหน้าพลางยิ้มบาง ๆ บรรยากาศในรถยังคงเต็มไปด้วยเสียงเพลงและเสียงหัวเราะของเหล่าวัยรุ่นที่กำลังสนุกกับการเดินทาง
เมื่อรถบัสมาจอดเทียบท่าที่พักริมทะเล ทุกคนต่างรีบขนกระเป๋าลงจากรถด้วยความตื่นเต้น เสียงคลื่นซัดเข้าฝั่งเบา ๆ และลมทะเลเย็น ๆ พัดผ่านมาสร้างความสดชื่นทันทีที่ก้าวลงจากรถ
“นักศึกษา ฟังทางนี้นะคะ คืนนี้เราจะยังไม่มีกิจกรรมอะไร อาจารย์จะให้พักผ่อนเต็มที่ก่อน พรุ่งนี้เช้าเจอกัน”
“ห้องพักของเราจะพักห้องล่ะสามคนนะคะ”
เสียงฮือฮาของนักศึกษาดังขึ้นเหมือนกำลังพยายามจะจับกลุ่มกันเพื่อนอนด้วยกันแต่อาจารย์ก็เริ่มอ่านรายชื่อ
“ห้อง 101 กัส มีนา ปรายฟ้า”
กัสกับมีนาหันมายิ้มกว้างให้กัย ปรายฟ้ารู้สึกโล่งใจที่ได้อยู่กับเพื่อนสนิท
“ห้อง 102 ภาคภูมิ ณัฐพล ชัยวัฒน์”
ภาคภูมิพยักหน้ารับคำอย่างสงบ ส่วนชัยวัฒน์กับณัฐพลก็หันมาชนหมัดกันเบา ๆ อย่างดีใจ
“และห้อง 103...” อาจารย์อ่านรายชื่อไปเรื่อย ๆ จนจบพร้อมกับมอบกุญแจให้แต่ละห้องด้วย
ปรายฟ้ารู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าห้องของพวกเธออยู่ติดกับห้องของภาคภูมิ
“ห้องของเราอยู่ใกล้กันเลยนะพล” กัสหันไปบอกณัฐพลแล้วก็ยิ้มออกมา
“ดีเลย จะได้เดินไปหากันง่าย ๆ” ณัฐพลยิ้มกริ่มแล้วก็เดินไปหากัส
มีนาหันมามองปรายฟ้าพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม “ปลายฟ้าโชคดีจริง ๆ เลยนะ เราได้อยู่ใกล้เจ้าชายน้ำแข็งเราจะได้ไม่ร้อน”
“แกก็พูดไปนั่น”
ในขณะที่นักศึกษากำลังฮือฮาพูดคุยกันอยู่นั้นเอง อาจารย์ก็พูดขึ้นมา
“ส่วนอาหารเย็นเจอกันตรงนี้หกโมงเย็นอาจารย์จองร้านหมูกระทะริมทะเลไว้ให้แล้ว” เมื่ออาจารย์พูดจบทุกคนก็ร้องออกมาด้วยความดีใจ
“ตอนนี้เอาสัมภาระไปเก็บที่ห้อง อาบน้ำแต่งตัวให้พร้อมเพื่อไปกินหมูกระทะเย็นนี้” อาจารย์พูดจบนักศึกษาต่างก็แยกย้ายกันไปที่ห้องของตัวเอง
หลังจากรับกุญแจห้องแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายเข้าห้องพักเพื่อจัดสัมภาระ ห้องพักเป็นแบบเรียบง่ายแต่สะอาดและมีกลิ่นอายของทะเล
ปรายฟ้า กัสและมีนา จัดกระเป๋าของตัวเอง เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะดังลอดออกมาจากห้องพักหญิง แต่ไม่นานนักเสียงกรีดร้องของกัสก็ดังขึ้น
“ว้ายยยยยยยยยยยยยย!!!” กัสกรีดร้องสุดเสียง
“ตะขาบ!!!! ตะขาบ!!!”
ปรายฟ้าและมีนาหันไปมอง เห็นตะขาบตัวใหญ่กำลังเลื้อยอยู่บนพื้นห้องกัสกระโดดขึ้นไปยืนบนเตียงตัวสั่น
“โอ๊ย!!! กัส!!! ใจเย็น ๆ สิ” มีนาพยายามปลอบแต่ตัวเองก็แอบกลัวไม่แพ้กัน
เสียงกรีดร้องของกัสทำให้ภาคภูมิ ชัยวัฒน์และณัฐพล ที่เพิ่งจัดของเสร็จและกำลังจะออกจากห้องพักต้องรีบวิ่งมาดู
“เกิดอะไรขึ้นครับ” ภาคภูมิถามเสียงเรียบแต่แฝวความตกใจ
“ตะขาบค่ะ!!! ตะขาบตัวเบ้อเริ่มเลย!!! มันจะกินกัส!!!” กัสตอบเสียงสั่นเครือ ชี้ไปยังตะขาบที่กำลังเลื้อย ๆ
ชัยวัฒน์เห็นดังนั้นก็หัวเราะออกมา “โอ๊ย! แค่ตะขาบเอง! เดี๋ยวจัดการให้!” เขาพูดพลางจะเข้าไปในห้องแต่มีนาจับแขนไว้
“นายรีบเข้ามาจัดการ ฉันขนลุกไปหมดแล้ว” มีนาบอกกับชัยวัฒน์
ภาคภูมิเห็นปรายฟ้าที่กำลังพยายามหาวิธีจัดการกับตะขาบ แต่ดูเหมือนจะลังเล
เขาจึงก้าวเข้าไปในห้องอย่างใจเย็น เขามองหาไม้กวาดหรืออะไรสักอย่าง เขาใช้ไม้กวาดตีตะขาบแล้วเขี่ยตะขาบให้ลงไปในถังขยะแล้วรีบเอาออกไปทิ้งข้างนอกอย่างรวดเร็ว
“เรียบร้อยแล้ว” ภาคภูมิบอกเสียงเรียบแต่ก็อดไม่ได้ที่จะสังเกตเห็นปรายฟ้าที่ยังคงหน้าซีดเล็กน้อย
“คุณโอเคไหม” เขาหันมาถามปรายฟ้า
ปรายฟ้าพยักหน้าเบา ๆ “โอเค ขอบใจนะนายช่วยได้เยอะเลย”
ณัฐพลรีบเข้าไปปลอบกัสที่ยังคงขาสั่นอยู่บนเตียงส่วนชัยวัฒน์ก็แอบกระซิบกับมีนา
“เห็นไหมล่ะ ฉันเก่งกว่าไอ้มนุษย์น้ำแข็งเยอะเลย” มีนาได้แต่ส่ายหน้ากับความขี้โม้ของเขา
“เก่งยังไงไม่ทราบ ทำไมภาคภูมิได้เป็นคนจัดการล่ะ” มีนาพูดขึ้นมาอย่างนั้นทำให้ชัยวัฒน์ได้แต่เกาหัวเขิน ๆ
ตอนที่ 22ทะเลกับความรู้สึกที่เบ่งบานหลังจากจัดการเรื่องตะขาบเรียบร้อย ทุกคนก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับมื้อค่ำที่อาจารย์สุภาวิณีจองไว้ เสียงหัวเราะและบทเพลงจากห้องพักชายหญิงดังสลับกันไปมา บ่งบอกถึงความสุขและความผ่อนคลายที่ทุกคนกำลังได้รับเมื่อถึงเวลาหกโมงเย็น นักศึกษาทั้งหมดก็มารวมตัวกันที่ร้านหมูกระทะริมทะเลที่อาจารย์จองไว้บรรยากาศยามเย็นริมหาดทรายช่างสวยงามเหลือเกิน แสงสีส้มแดงของพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าทอประกายบนผิวน้ำทะเล ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจโต๊ะหมูกระทะถูกจัดเรียงราย หมูหมัก กุ้ง ปลาหมึก ผักสด และน้ำจิ้มรสเด็ดถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ กลิ่นหอมของเนื้อย่างลอยมาเตะจมูก ทำให้ทุกคนท้องร้องจ๊อก ๆปรายฟ้านั่งอยู่ข้างภาคภูมิอีกแล้วโดยไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือเพื่อน ๆ แอบจัดให้ กัสกับณัฐพลนั่งเยื้อง ๆ กัน ส่วนมีนากับชัยวัฒน์ก็นั่งตรงข้ามกัน“โอ๊ย หิวมาก” กัสพูดพลางคีบหมูลงบนเตาอย่างรวดเร็ว“ใจเย็น ๆ กัส เดี๋ยวก็ไหม้หรอก” ณัฐพลบอกพลางช่วยคีบผักวางรอบ ๆชัยวัฒน์รีบย่างกุ้งให้มีนา “นี่มีนากินเยอะ ๆ จะได้มีแรงไปเถียงฉันพรุ่งนี้”มีนาทำหน้าหมั่นไส้ “ไม่
ตอนที่21ค้างคืน หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่ศูนย์เรียนรู้ กลุ่มนักศึกษาก็พร้อมออกเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางถัดไป นั่นคือที่พักริมทะเล รถบัสแล่นออกมาจากศูนย์ทิ้งความร่มรื่นของป่าไม้ไว้เบื้องหลังมุ่งหน้าสู่ท้องทะเลสีครามที่รออยู่เบื้องหน้า แสงแดดยามบ่ายเริ่มอ่อนลง บรรยากาศในรถอบอวลไปด้วยความตื่นเต้นและรอยยิ้มของนักศึกษาปรายฟ้านั่งริมหน้าต่างมองวิวทิวทัศน์ที่เปลี่ยนผ่านไปเรื่อย ๆ ข้าง ๆ เธอ ภาคภูมิกำลังก้มอ่านอะไรสักอย่างด้วยความตั้งใจแต่ก็มีบางจังหวะที่เงยหน้าขึ้นมามองเธอกัสที่นั่งกับณัฐพลไม่วายที่จะแอบหยิกแก้มของณัฐพลเบา ๆ เมื่อเขาแกล้งหลับพิงไหล่ของเธอ ส่วนมีนาและชัยวัฒน์ก็ยังคงเถียงกันเรื่องเพลงที่เปิดในรถ เสียงหัวเราะและเสียงแซวกันดังเป็นระยะ สร้างความครึกครื้นตลอดการเดินทาง“นักศึกษามีใครอยากเป็นนักร้องบ้าง ใครอยากโชว์ลูกคอเป็นเพลงแรกค่ะ” อาจารย์สุภาวิณีเอ่ยถามขึ้นมาเท่านั้นแหละ บรรยากาศในรถก็เปลี่ยนเป็นคอนเสิร์ตเคลื่อนที่ทันทีกัสและณัฐพลอาสาเป็นคู่แรก พวกเขาร้องเพลงคู่รักหวาน ๆ ด้วยเสียงที่ประสานกันอย่างน่ารัก ทำให้เพื่อน ๆ ในรถส่งเสียงกรี๊ดและแซวกันยกใหญ่“โอ๊ย!!! หวานกว่
ตอนที่20ใกล้กันอีกนิด ไม่นานนักรถบัสก็เริ่มชะลอความเร็วลง ก่อนจะเลี้ยวเข้าสู่ลานจอดรถของศูนย์การเรียนรู้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่พวกเขาจะมาทัศนศึกษา อาคารไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ดูร่มรื่น ด้านหน้ามีป้ายต้อนรับที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลอย่างสวยงามอาจารย์สุภาวิณีประกาศให้นักศึกษาลงจากรถและมารวมตัวกันหน้าอาคาร“ถึงแล้ว!!!” กัสกระซิบณัฐพลใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเช่นเดียวกันกับนักศึกษาคนอื่น ๆ ที่ตื่นเต้นไม่แพ้กันปรายฟ้าลงมาจากรถพร้อมกับภาคภูมิ กลิ่นอายของธรรมชาติ ทั้งกลิ่นดิน กลิ่นต้นไม้และความชื้นจากอากาศที่ร่มเย็นทำให้เธอรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก“อากาศดีจังเลยเนอะ” ปรายฟ้าพูดขึ้นขณะสูดหายใจเข้าลึก ๆ“จริง” ภาคภูมิตอบพลางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ อย่างสนใจอาจารย์สุภาวิณีเริ่มอธิบายถึงวัตถุประสงค์ของการมาที่นี่และกิจกรรมที่นักศึกษาจะต้องทำรวมถึงการแบ่งกลุ่มสำหรับการเดินสำรวจและเก็บข้อมูล“เอาล่ะค่ะนักศึกษา ทุกคนจะต้องทำงานเป็นกลุ่มนะครับ ตามกลุ่มโปรเจกต์ที่เราแบ่งไว้แล้ว แต่ละกลุ่มต้องเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพืชพรรณ สัตว์เล็ก ๆ และระบบนิเวศน์ในบริเวณนี้ เพื่อนำ
ตอนที่19เมื่อมนุษย์น้ำแข็งละลาย ผ่านไปไม่นานเสียงเพลงคลอเบา ๆ บนรถทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย ปรายฟ้าที่แม้จะดีขึ้นมากแล้ว แต่ร่างกายก็ยังไม่หายขาดจากอาการเพลีย เธอเผลอหลับไปแล้วศีรษะของเธอค่อย ๆ เอนไปซบไหล่ของภาคภูมิภาคภูมิรู้สึกถึงน้ำหนักที่กดลงบนไหล่ เขาหันมามองปรายฟ้าที่หลับตาพริ้มอย่างสบายใจ ลมหายใจแผ่ว ๆ ของเธอรดต้นคอของเขาทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ เขาเพียงแค่ทอดสายตามองไปข้างหน้า ปล่อยให้เธอหลับพิงอยู่เช่นนั้น ไม่ได้ขยับตัวแม้แต่น้อยกัสที่ได้นั่งข้างณัฐพลก็ยิ้มอย่างมีความสุข เธอแอบหันไปมองปรายฟ้าและภาคภูมิ แล้วยกนิ้วโป้งให้มีนาที่นั่งอยู่ข้างชัยวัฒน์ มีนาเองก็ยิ้มตอบอย่างเข้าใจ ก่อนจะแอบหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปโมเมนต์ของปรายฟ้ากับภาคภูมิเก็บไว้ในขณะที่ปรายฟ้ากำลังหลับพิงไหล่ภาคภูมิอย่างสบายใจ กัสที่ได้นั่งเบาะข้างกันกับณัฐพลก็รู้สึกมีความไม่แพ้กัน เธอมองณัฐพลที่กำลังเปิดมือถือดูรูปถ่ายที่ทั้งสองแอบไปเดทกันมาเมื่อไม่นานแล้วยิ้มออกมา“พลจำได้ด้วยเหรอว่ากัสชอบรูปนี้” กัสถามณัฐพลเสียงเบา ๆ ด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มหวานเผยออกมาณัฐพลเงยหน้าจากโทรศัพท์มามองกัส “ก็จำได้สิ รูปนี้เธอยิ้มสวยดี” เ
ตอนที่18เตรียมตัวออกเดินทางได้ เช้าวันรุ่งขึ้น ณ ลาดจอดรถมหาวิทยาลัย เสียงจอแจของนักศึกษาดังเซ็งแซ่ ทุกคนต่างหอบหิ้วสัมภาระมากันเต็มที่ อากาศยามเช้าสดใสทำให้บรรยากาศดูครึกครื้นเป็นพิเศษปรายฟ้าเดินทางมาถึงพร้อมกับมีนาและกัส เธอดูกระปรี้กระเปร่าขึ้นเล็กน้อย ใบหน้ายังคงมีร่องรอยความอ่อนเพลียอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้แย่เท่าเมื่อวาน“โชคดีนะที่หายดีขึ้นมาบ้าง” มีนาพูดขึ้นขณะที่พวกเธอกำลังเดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อนร่วมโปรเจกต์“ฉันนึกว่าต้องแบกแกไปซะแล้ว”“พูดบ้า ๆ ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น” ปรายฟ้าแย้งพลางยิ้มแหย ๆกัสชำเลืองไปเห็นภาคภูมิกำลังยืนคุยกับชัยวัฒน์และณัฐพลอยู่ไม่ไหล “โน่นไง เจ้าชายน้ำแข็งของแกมาแล้ว”“นั่นก็พลเจ้าชายของแกไม่ใช่หรือไงกัส” ปรายฟ้าแซวเพื่อนเช่นกันเพราะตอนนี้กัสกับณัฐพลกำลังคุย ๆ กันอย่างเปิดเผยแล้วกัสหันมาทำตาเขียวใส่ปรายฟ้า “นี่แกว่าอะไรนะ พูดดี ๆ หน่อยสิ” แม้จะพูดอย่างนั้นแต่ใบหน้าของกัสก็แดงขึ้นเล็กน้อย ปรายฟ้าและมีนาหัวเราะคิกคักกับท่าทางของเพื่อนปรายฟ้าเหลือบมองไปทางกัสชี้ใบหน้าของภาคภูมิ ดูนิ่งเฉยตามปกติแต่แววตาของเขาดูเหมือนจะกวาดมองหาสักคนอยู่ ก่อนที่สายตาของเข
ตอนที่17ทริปทัศนศึกษาแม้ว่าปรายฟ้าจะมีอาการที่ดีขึ้นแต่เมื่อเธอกลับถึงหอพักร่างกายของเธอก็อ่อนเพลียมาก ๆ เธอรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วทิ้งตัวลงบนเตียงนอนอย่างหมดแรง วันนี้อาการป่วยยังไม่หายสนิท เธอหลับตาลงอย่างอ่อนล้าแต่แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นปรายฟ้าลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย หยิบมือถือขึ้นมาดูเห็นชื่อภาคภูมิปรากฎอยู่บนหน้าจอเธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ปกติเขาไม่ค่อยโทรหาเธอ ปรายฟ้าจึงกดรับสายของเขา“ฮัลโหล” เสียงของปรายฟ้าแหบเล็กน้อยจากการไอ“ปรายฟ้าคุณดีขึ้นหรือยัง” เสียงของภาคภูมิดังมาตามสายฟังดูเป็นกังวลเล็กน้อย“ก็ดีขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังเพลีย ๆ ปวดหัวแล้วก็ยังไอ มีอะไรหรือเปล่า” ภาคภูมิพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความห่วงใยที่สัมผัสได้“กินยาหรือยังไปรายฟ้าได้ยินอย่างนั้นเขาก็รู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่คิดว่าเขาจะสังเกตเห็นและเป็นห่วงเธอมากขนาดนี้“กินแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก นายเองก็ตากฝนเหมือนกันระวังจะไม่สบายเหมือนฉัน” ปรายฟ้าพูดขึ้นมาแล้วก็แอบอมยิ้มอยู่คนเดียว“ไม่มีทางคนอย่างผมแข็งแรงกว่าที่คุณคิดมาก” ภาคภูมิพูดขึ้นมาแล้วก็ยิ้มคนเดียวเช่นเดียวกัน“จ้าพ