เอาคืน
(ภายในคลับ)
ฉันกับแพรวตอนนี้อยู่ภายในห้อง VIP ชั้นสองของคลับ ซึ่งพี่เจเดนเปิดห้องไว้ ต้องแรกพวกเราก็พยายามปฏิเสธบอกว่าจองโต๊ะด้านล่างใกล้ฟลอร์ก็ได้มันแพงไป แต่เจ้าตัวไม่ยอมคงเพราะหวงยัยแพรวนั่นแหละ
วันนี้พี่เจเดนไม่ได้มาคนเดียว แต่ยังมีพี่มาติน แล้วก็พี่เอ็ดเวิร์ดอาของยัยแพรวแถมเขายังควงภรรยามาด้วย ชื่อพี่ฟ้าคราม ก็เพิ่งเคยเจอกันวันแรกนี่แหละ
ฉันทักทายกับทุกคน ตอนแรกก็เกร็งหน่อย ๆ แต่พอได้รู้จักก็รับรู้ได้ว่าใบหน้าที่เคร่งขรึมเหล่านั้นก็แค่ฉากหน้าจริง ๆ พวกเขาเฮฮาเอาเรื่องแถมยังชงเหล้าแจกไม่หยุด
ยัยแพรวเอาแต่ดึงฉันไปถ่ายรูป พร้อมกับถ่ายบรรยากาศในห้อง VIP โพสต์ไม่หยุดหย่อน แต่พอฉันมองมือถือกลับไม่เห็นโนติอะไรเด้งขึ้นมาเลย พานเอาห่อเหี่ยวจิตใจสุด ๆ
‘ดูท่าคงต่อกันไม่ติดอีกแล้วแหง ๆ เลิกชอบกันง่ายจัง นี่ฉันอกหักรักคุดกับเด็กมาสองครั้งแล้วเหรอเนี่ย ไม่ว่าจะโลกออนไลน์ หรือ ออฟไลน์’
ฉันยกดื่มด้วยความโมโหก่อนที่คนในห้อง จะจับสังเกตได้
“น้องออย ไม่สนุกเหรอครับเครียดอะไรอยู่รึเปล่า ให้พี่ปลอบมั้ย” เสียงของพี่มาตินเอ่ยถามตามสไตล์ผู้ชายเจ้าชู้ ฉันยกมือโบกปฏิเสธยกใหญ่ ก่อนที่ยัยแพรวจะแขวะพี่เขา
“โอ๊ย!!! พี่ตินเว้นเพื่อนแพรวไว้สักคนเถอะ ออยมันไม่นิยมคนแก่กว่าอย่างพี่หรอก”
“จริงเหรอครับ น้องออย” เสียงทุ้มหล่อของพี่มาตินเอ่ยขึ้น เอาจริงหากจะพิจารณาความหล่อของพี่มาตินละก็ หล่อบรรลัยเลยล่ะ แต่ที่ต่างออกไปคือหัวใจไม่ได้เต้นระริกเวลามองหน้าเขาสักนิดเหมือนเวย์
“ก็ใช่ค่ะ” ฉันเงยหน้าสบตาพี่มาตินก่อนจะพยักหน้าหงึก ๆ เป็นเชิงยอมรับ
“ว้า อกหักตั้งแต่ยังไม่เริ่ม” ใบหน้ายกยิ้มของพี่มาตินเพ่งมองมา
“พี่มาตินจะอกหักได้ไง พี่ไม่เคยคิดจะจีบหรือชอบใครจริงจังมากกว่าใช่มั้ยคะ” สิ้นคำฉัน ทุกคนในโต๊ะหัวเราะร่า...มองไปยังพี่มาติน จนเจ้าตัวโวยวายใหญ่
“น้องออยก็พูดไป พี่แค่ยังไม่เจอคนที่ใช่เท่านั้นเองครับ”
“ถ้างั้นมาพูดอกหักมั่วซั่วแบบนี้ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวพานทำให้สาว ๆ หัวหมุนได้” ฉันฉีกยิ้มก่อนจะรับแก้วเหล้าที่พี่มาตินชงให้ใหม่อีกแก้ว จากนั้นบทสนทนาในโต๊ะก็ยังคงวนเวียนกันเรื่องสัพเพเหระ ทั้งเรื่องลูกของพี่ฟ้า เรื่องธุรกิจของพวกเขา รวมไปถึงเรื่องการงานของหมออย่างเราสองคน
จนเมื่อฉันกับแพรวดื่มกันได้ที่ หันหน้าสบตากัน ก่อนที่แพรวจะกระซิบข้างหู
“ไปเต้นกันหน่อยมั้ย อยู่แต่ในนี้มีหวังคุยกันแต่เรื่องงาน”
“ก็ดีนะ เริ่มอยากเต้นแล้ว” ฉันเองก็เห็นด้วย อาจเพราะฤทธิ์แอลทำให้รู้สึกอยากเต้นให้ลืมเรื่องบางอย่างดีกว่านั่งดื่มคิดมากอยู่ตรงนี้
เราสองคนลุกขึ้นพร้อมกัน แต่ก็โดนพี่เจเดนเรียกเสียงเข้มทันที
“จะไปไหนกัน”
“ออกไปเต้นไง” แพรวหันไปตอบ
“พี่ไปด้วย”
“พี่จะมาทำไม แพรวจะไปกับออยสองคน” แพรวหันไปเท้าสะเอวปนดุพี่เจเดน ดูเหมือนพี่เจเดนจะไม่พอใจ แต่สุดท้ายก็โดนทุกคนที่เหลือบนโต๊ะปราม จนสุดท้ายยอมให้เราสองคนออกไป แต่มีข้อแม้ว่าให้ไปเต้นแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ยัยแพรวก็เออออ ไปก่อน
เราสองควงคู่กันเดินฝ่าผู้คนมากมาย แอร์ด้านนอกเย็นฉ่ำไม่ต่างกับในห้อง VIP เลย แต่ที่ต่างคงเป็นคนแอร์อัดของผู้คน กลิ่นที่มากมาย แสงไฟวิบวับจนลายตา รวมไปถึงเสียงเพลงจากดีเจที่เปิดกระหึ่มจนใจเต้นแรง
แพรวลากฉันไปยืนในฟลอร์ท่ามกลางผู้คนแออัด เต้นเบียดเสียดกันไปมาจนรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่จุดนั้นจุดนี่เป็นระยะ
‘ฉันไม่ค่อยชอบเลย’
ในขณะที่แพรวเต้นจนตัวโยกชนคนนั้นชนคนนี้ ถ้าพี่เจเดนมาเห็นเข้ามีหวัง แพรวโดนกักขังหน่วงเหนี่ยวแน่ ซึ่งนั่นคงไม่เป็นผลดีเท่าไหร่ฉันจึงต้องคอยสะกิดเพื่อน และช่วยคอยกันผู้ชายที่มองแทะโลมอย่างโจ่งแจ้ง แน่นอนว่าฉันเองก็เกือบเอาตัวไม่รอดจะมือปลาหมึกของชายรอบข้างเหมือนกัน
“นี่แก เรากลับดีกว่ามั้ยวะ ขืนเต้นอยู่ตรงนี้โดนลวนลามแน่ ฉันคอยเป็นไม้กันหมาให้แกไม่ได้นะ เพราะฉันก็ต้องกันตัวเอง”
“ไม่ได้สิกำลังสนุกเลย” ยัยแพรวไม่ยอมออกจากฟลอร์แล้วฉันจะหนีกลับไปคนเดียวได้ไง ฉันถอนหายใจยาว ก่อนจะหันไปมองรอบ ๆ ยังไงซะจุดประสงค์ที่ออกมาตรงนี้ก็เพราะยังหวังว่าจะเห็นน้องเวย์ตามมาเที่ยวที่นี่ด้วย แต่คนเยอะขนาดนี้คงจะหาเจออยู่หรอก ‘ตัดใจดีกว่า’
“แกฉันปวดฉี่” เสียงยัยแพรวหันมากระซิบดังขึ้น แน่นอนว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้ลากนางออกจากลานฟลอร์นี้ซะที อยู่ตรงนี้นานรู้สึกเปลืองตัวชะมัด
ฉันเดินควงแขนกับเพื่อนเพื่อฝ่าตัวเองออกจากฝูงชนพลางผลักเพื่อนเดินนำหน้า เรามุ่งเดินไปยังห้องน้ำที่อยู่อีกฝั่งแต่ตาเจ้ากรรมดันไปบรรจบกับโต๊ะกลุ่มหนึ่งที่มีวัยรุ่นนั่งเฮฮากันเสียงดัง ทั้งชายหญิง และหนึ่งในนั้นแค่ฉันสบตาเข้าให้ก็รู้ได้ว่าคือใคร แต่ที่มันจี๊ดหัวใจคือผู้หญิงข้าง ๆ น้องเขากำลังเกาะกุมแขนเขาอยู่นั่นทำให้ฉันต้องรีบเบือนหน้าหนีแล้วรีบผลักยัยแพรวให้เดินเข้าไปในห้องน้ำหญิงอย่างด่วนจี๋
“เป็นอะไรไปแก ดันหลังฉันเดินซะจนเกือบล้ม”
“...” ฉันแน่นิ่งมองหน้าเพื่อนแบบพูดอะไรไม่ออกก่อนจะหันไปมองเพื่อนด้วยหัวใจที่กำลังว้าวุ่น
“เป็นอะไรไปออย”
“แกรีบไปฉี่เถอะ ฉันแค่เวียนหัวขอนั่งโซฟาตรงนี้สักครู่”
“เออ...ไม่ไหวก็บอกจะได้กลับกัน” เมื่อเห็นยัยแพรวเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว ฉันก็นั่งเหม่อลอยอยู่บนโซฟาในมุมหนึ่งของห้องน้ำ หัวใจตอนนี้เต้นแรงภาพบาดตายังคงฉายซ้ำอยู่ในความคิด
“แล้วฉันมีเหตุผลอะไรที่ต้องอยู่ที่นี่อีกกัน” ฉันพึมพำออกมาด้วยความเสียใจ จู่ ๆ น้ำใส ๆ มันก็ไหลออกจากตา
“ออย มึงร้องไห้ทำไม” จังหวะนรกจริง ๆ ยัยแพรวดันออกมาตอนนี้ซะได้ฉันรีบเช็ดน้ำตาอย่างไวก่อนจะยิ้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ฝุ่นมันเข้าตานะ เลยเคือง”
“หืม....”
“เรากลับห้องกันเถอะจะครึ่ง ชั่วโมงแล้วเดี๋ยวแฟนแก...เอ่อ..พี่เจเดนของแกจะโมโหเอาได้” ฉันฉีกยิ้มเจื่อน ๆ ไปแบบนั้น ยัยแพรวก็ไม่ได้ถามอะไรฉันต่อ
เราเดินออกจากห้องน้ำ และเป็นฉันเองที่เดินผลักให้แพรวเดินเร็วขึ้น เพราะฉันไม่อยากเห็นภาพบาดตาบาดใจไปมากกว่านี้
‘อั่ก’ ฉันที่กำลังเดินดันหลังแพรวกลับถูกใครบางคนดึงรั้งช่วงเอวไว้จนเซถอยไปด้านหลัง ฉันตกใจหนักจนต้องหันไปดู แต่คนด้านหลังกลับเป็นคนที่ฉันไม่อยากเห็นแล้ว
“โอ๊ย!!!...มันเจ็บนะ” ฉันสถบออกมาอย่างหัวเสีย ใช่ฉันเจ็บแต่มันไม่ใช่ที่เขาดึงรั้งฉันหรอก แต่มันเป็นภาพบาดใจนั่นมากกว่า แพรวที่เดินไปก่อนหน้ารีบหันกลับมามองก่อนจะพยายามดึงฉันให้ตามมา แต่แขนอีกข้างของฉันก็ถูกอีกคนดึงไว้เช่นกัน
“ผมขอยืมตัวพี่ออยสักครู่ครับ” เวย์หันไปมองแพรวที่กำลังจะพาฉันกลับไป แต่ฉันก็หันไปมองค้อนเขาแล้วพูดสวนไปก่อน
“ฉันไม่ไป”
“อย่าให้ผมต้องใช้กำลังตามผมมาซะดี ๆ”
“นี่!!!” ฉันยืนเท้าซะเอว แต่พอฉันเบือนหน้าหนีเวย์ไปมองแพรว นางกลับทำหน้ากลั้นขำใส่ฉันก่อนจะเอ่ยอะไรออกมา
“เอาเป็นว่าทั้งคู่ก็คุยกันดี ๆ ล่ะ ออยฉันกลับไปรอที่ห้อง VIP ก่อนแล้วกันมีอะไรก็โทรมา ไปนะ” ยัยแพรวหันหลังเดินกลับไปดื้อ ๆ ทำเอาฉันอ้าปากค้าง มันลืมไปแล้วรึไงว่าฉันไม่ได้เอามือถือมาด้วยให้ตายเถอะ
“เพื่อนก็ไปแล้วจะตามมาดี ๆ ได้รึยัง”
“ทำไมต้องตะ....โอ๊ย..จะดึงแขนทำไมเนี่ย” เวย์ไม่อ่อนโยนกับฉันเลย มือแกร่งกำข้อมือฉันแน่นจนเจ็บ แถมลากฉันเดินไปดื้อ ๆ ที่โต๊ะของเพื่อน ๆ เขาทำเอาคนในโต๊ะมองมาที่ฉันกันยกใหญ่ เขากำลังเล่นอะไรอยู่เนี่ย
“นั่งลงสิ ไม่เมื่อยรึไง”
“จะกลับไม่ยืนให้เมื่อหรอก...โอ๊ย!!” ฉันที่ทำท่าจะเดินกลับก็ถูกดึงให้นั่งลงโซฟาข้าง ๆ เขาอีกครั้ง คราวนี้ทุกคนในโต๊ะที่ที่เฮฮาก็พานกันเงียบไปหมด
“ไอ้เวย์ สาวสวยคนนี้เป็นใคร...” เสียงของเพื่อนร่วมโต๊ะเอ่ยถามเวย์ จากที่ฉันมองแล้วคงน่าจะเป็นเพื่อนร่วมคณะเดียวกัน ส่วนสาว ๆ ในโต๊ะนั้น คงเป็นเด็ก ๆ คู่ควงของพวกเขาล่ะมั้ง
“พี่ที่รู้จัก....” นั่นคือเสียงของคนที่คุ้นหูฉันดี เอ่อใช่ ฉันมันพี่ที่รู้จักจริงๆ นั่นแหละ ชิส์
เอาคืนกันไปเอาคืนกันมา
ผลิบานเวย์เอาแต่พูดว่าคำว่า ‘เมีย’ กับฉัน จนฉันไม่รู้ว่าเจตนาที่เรียกแบบนั้นคือต้องการแหย่ หรือแค่พูดให้รู้สึกรุ่มร้อนฉันยังมองเขาไม่ออกว่าเขาคิดจะจริงจังกับฉันรึเปล่าถ้าฉันเป็นเด็กมหาลัยก็คงนอนกับเวย์แบบไม่ต้องคิดมากแต่ฉันมันคนอายุใกล้เลขสาม ฉันค่อนข้างคิดหนักกับการคบใครสักคนแล้วนะสิ ฉันแค่ไม่อยากรักพังจนต้องไปตามหารักแท้ใหม่ในตอนที่แก่ตัวไปมากกว่านี้ฉันยังไม่ยอมลุกไปนั่งตักเขาในฝั่งคนขับ“อย่ามาเรียกเมียมั่วซั่วถ้าไม่คิดจะจริงจัง” ฉันเบือนหน้าหนีออกไปนอกตัวรถ“ว้าย!!!” แต่ก็ต้องร้องตกใจเพราะแขนแกร่งโอบรั้งเอวฉันยกตัวฉันไปนั่งคร่อมบนหน้าตักของเขาและหันหน้าฉันเข้าหา ขาฉันกางคร่อมตักเขามันทำให้ชุดเดรสที่ใส่ถกขึ้นจนกองเหนือสะโพก เผยให้เห็นชั้นในตัวบางทั้งตัว พื้นที่ก็แคบจนขาฉันชนกับผนังรถยังจะให้ฉันไปนั่งบนตักอีก“มองผมดิ”“...” ฉันไม่พูดอะไร แต่ก็ถูกมือแกร่งของเวย์จับคางให้หันไปมองเขาอยู่ดีดวงตาเราประสานกัน ฉันมองไม่ออกหรอกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ยอมรับว่าฉันแพ้ให้กับสายตาน้องเขาอย่างจังแค่มองก็รู้สึกใจสั่นแทบบ้า จนต้องหลุบตาลง“คราวหน้าอย่าใส่ชุดแบบนี้อีก”“แต่ชุดแบบนี้พี่ซื้อไว
ตกลงฉันเป็น....“พี่ชื่ออะไรครับ” เสียงของเพื่อนเวย์เอ่ยทักขึ้น“ออยจ๊ะ...” ฉันหันไปยิ้มให้เพื่อนของเวย์ ไหน ๆ ก็มีสถานะเป็นพี่แล้วก็อ่อยมันไปให้หมดนี่แหละ“พี่อยากดื่มหน่อยมั้ยครับ”“ขอสักแก้วก็ดีค่ะ พอดีเซ็ง ๆ ขอเข้ม ๆ เลยนะคะ”“ได้ครับผม” เสียงเพื่อนของเวย์นุ่มละมุนพานเอาลื่นหูกว่าคนข้าง ๆ เป็นไหน ๆ เมื่อแก้วเหล้าวางอยู่ตรงหน้า คนข้าง ๆ ดันเอื้อมไปหยิบให้ก่อนจะยื่นมาให้ฉัน“มีมือหยิบเองได้ย่ะ”“อยากก้มไปหยิบให้คนดูนมรึไง ใส่ชุดอะไรไม่รู้จักคิด” คนข้าง ๆ ไม่พูดเปล่าพลางถอดแจ็คเก็ตยีนส์ มาคลุมฉัน ฉันทำท่าจะถอนแต่ก็โดนมือแกร่งหยิกแผ่นหลังที่เปลือยอยู่จนสะดุ้ง“ถ้าถอดเสื้อคลุมออกโดนแน่” นี่คือเสียงกระซิบของคนข้าง ๆ ที่พานทำเอาขนลุกจนต้องเชื่อฟังเพื่อน ๆ ของเวย์เอาแต่จ้องมองฉันแถมซักไซ้ไม่หยุด ฉันก็ได้แต่ยิ้มและตอบเท่าที่จะตอบได้ เพื่อนผู้ชายของเขาดูเป็นมิตรอยู่นะ แต่ผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ เวย์อีกทีกลับมีท่าทีจ้องฉันแบบเขม่นไม่พักจนน่ารำคาญ จะมาหึงหวงอะไรมากมายมิทราบ แถมยังเอาแต่เกาะแขนอีกข้างของเวย์ไม่หยุด เจ้าตัวก็ยังปล่อยให้เขาเกาะแบบนั้นอีก พานทำให้ฉันหงุดหงิดจนอยากจะเดินออกจากตรงน
เอาคืน(ภายในคลับ)ฉันกับแพรวตอนนี้อยู่ภายในห้อง VIP ชั้นสองของคลับ ซึ่งพี่เจเดนเปิดห้องไว้ ต้องแรกพวกเราก็พยายามปฏิเสธบอกว่าจองโต๊ะด้านล่างใกล้ฟลอร์ก็ได้มันแพงไป แต่เจ้าตัวไม่ยอมคงเพราะหวงยัยแพรวนั่นแหละวันนี้พี่เจเดนไม่ได้มาคนเดียว แต่ยังมีพี่มาติน แล้วก็พี่เอ็ดเวิร์ดอาของยัยแพรวแถมเขายังควงภรรยามาด้วย ชื่อพี่ฟ้าคราม ก็เพิ่งเคยเจอกันวันแรกนี่แหละฉันทักทายกับทุกคน ตอนแรกก็เกร็งหน่อย ๆ แต่พอได้รู้จักก็รับรู้ได้ว่าใบหน้าที่เคร่งขรึมเหล่านั้นก็แค่ฉากหน้าจริง ๆ พวกเขาเฮฮาเอาเรื่องแถมยังชงเหล้าแจกไม่หยุดยัยแพรวเอาแต่ดึงฉันไปถ่ายรูป พร้อมกับถ่ายบรรยากาศในห้อง VIP โพสต์ไม่หยุดหย่อน แต่พอฉันมองมือถือกลับไม่เห็นโนติอะไรเด้งขึ้นมาเลย พานเอาห่อเหี่ยวจิตใจสุด ๆ‘ดูท่าคงต่อกันไม่ติดอีกแล้วแหง ๆ เลิกชอบกันง่ายจัง นี่ฉันอกหักรักคุดกับเด็กมาสองครั้งแล้วเหรอเนี่ย ไม่ว่าจะโลกออนไลน์ หรือ ออฟไลน์’ ฉันยกดื่มด้วยความโมโหก่อนที่คนในห้อง จะจับสังเกตได้“น้องออย ไม่สนุกเหรอครับเครียดอะไรอยู่รึเปล่า ให้พี่ปลอบมั้ย” เสียงของพี่มาตินเอ่ยถามตามสไตล์ผู้ชายเจ้าชู้ ฉันยกมือโบกปฏิเสธยกใหญ่ ก่อนที่ยัยแพรวจะแขวะ
แผนการล่อเสือ(โรงพยาบาล)ฉันยอมให้เวย์ขับรถ(ของฉัน)มาส่งที่โรงพยาบาลเพราะเจ้าตัวดื้อดึงจะมาส่งให้ได้ และเขาบอกจะกลับแท็กซี่เอง ถามว่าฉันเถียงได้ที่ไหนสกิลปากฉันแพ้อย่างราบคาบเห็นแบบนี้เขาเอาแต่ใจอยู่เหมือนกันแฮะฉันมีเวลาไม่มากนักเพราะจะถึงเวลาเข้างานจึงดูรีบเร่งลนลานพอดู แต่เมื่อลงจากรถในลานจอดของโรงพยาบาล ดันมีหมอและบุคลากรหลายคนเห็นฉันกับเวย์ พวกเขาพุ่งเป้าหันมาถามกันอย่างจ้าละหวั่น ทำเอาฉันทำตัวไม่ถูก คนยืนข้างกันก็นิ่งขรึมไม่ได้พูดอะไร“อ่อ นี่เป็นน้องที่รู้จักนะไม่มีอะไร” ฉันที่เลิ่กลั่กไม่รู้จะตอบยังไงเพราะคิดไม่ทันจึงตอบออกไปแบบนั้นเพื่อไม่ให้เกิดข่าวแตกตื่น เพราะการที่ฉันโสดนั้นรู้กันไปทั่วโรงพยาบาล แน่นอนว่าถ้าข่าวฉันมีใครสักคนแพร่กระจายย่อมสร้างความวุ่นวายในโรงพยาบาลแน่นอน ฉันคิดแค่นั้นจริง ๆ แต่ดูเหมือนคนข้าง ๆ จะหันหน้ามาเลิกคิ้วใส่กันราวกับไม่พอใจ จากนั้นก็ทำตัวเออออให้กันสักครู่ก่อนจะเดินหนี ออกไปถนนใหญ่ขึ้นแท็กซี่กลับไปเลย ทำเอาฉันพูดไม่ออกแม้ฉันจะทำให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ถูกพูดถึงปากต่อปากในโรงพยาบาลได้สำเร็จ แต่หัวใจฉันกลับกระวนกระวายอย่างหนัก ฉันทั้งโทร ทั้งส่ง
คืนร้อนอ่อยรักน้องเวย์ยังคงใช้เรียวลิ้นทั้งเลีย เม้ม ดูดไปตามร่องกลีบหวานแถมยังสอดประสานนิ้วมือแกร่งที่สลับกันทำหน้าที่จนฉันต้องแอ่นสะโพกเป็นจังหวะที่น้องเวย์ประเคนให้‘อยากจะบ้าเสียวซ่านจนลืมหายใจ’“พะ...พอก่อน ไม่ไหวแล้ว” ฉันพูดไปแบบนั้นแทนที่น้องเขาจะหยุดให้กันกลับเร่งนิ้วและตวัดลิ้นเร็วขึ้น และนั่นก็ทำให้ฉันได้สัมผัสคำว่าเสร็จเป็นครั้งแรกในชีวิตจากการโดนคนอื่นกระทำ (ไม่นับการช่วยตัวเอง)‘แฮ่ก...แฮ่ก’ ฉันทิ้งสะโพกลงหลังจากตัวเกร็งกระตุกจนต้องยกขึ้น แต่แม้ว่าฉันจะเสร็จไปแล้วนิ้วมือของน้องเวย์ยังง่วนชักเข้าออกตรงนั้นไม่หยุด ส่วนใบหน้าได้ผละออกมาแล้ว เลื่อนตัวขึ้นมาประกบริมฝีปากกับฉัน กลิ่นคาวน้ำรักของฉันคละคลุ้งไปในรสจูบ นี่สินะที่น้องเวย์สัมผัสไปเมื่อกี้ แม้จะไม่คุ้นชินแต่ก็กระตุ้นอารมณ์ได้ดี“พี่เสร็จแล้ว แต่ผมยังไม่ได้เริ่มเลยนะ”“...” สายตาน้องเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ปกติแล้วหน้าต้องเข้ม ดูหยิ่งตลอดเวลา แต่ตอนนี้นัยน์ตาของน้องเวย์กลับฉ่ำเยิ้ม แถมรอยยิ้มนั่นก็ดูเจ้าเล่ห์สุด ๆ ทำเอาฉันไม่กล้าสบตานานเพราะยิ่งมองยิ่งเหมือนฉันเป็นลูกไก่ในกำมือน้องเวย์เอียงคอขึ้นมากระซิบข้างหูฉัน
Sparkตอนแรกฉันก็กะจะดื่มต่ออีกสักหน่อย แต่สุดท้ายก็โดนน้องเขาลากออกจากร้านอยู่ดี แถมพี่กานยังบอกว่ารอบนี้พี่เลี้ยงเองอีกต่างหากสรุปแล้วมีความสุขแบบไม่เสียเงินสักบาทจริง ๆ“เอากุญแจมา ผมขับให้” เสียงของน้องเวย์เอ่ยมาพลางยื่นมือมาตรงหน้าและฉันก็มอบกุญแจรถให้แต่โดยดี เพราะฉันเมาขนาดนี้คงไม่ขับรถหรอก“คอนโดพี่ อยู่ที่ไหนผมจะไปส่ง” ฉันหันไปยิ้มให้คนขับก่อนจะแชร์โลเคชั่นเข้าไปที่จอมอนิเตอร์ของรถทันที จากนั้นน้องเขาก็ตั้งใจขับรถไม่ได้หันมาสนใจฉันอีก แต่ท่าทีแบบนี้แหละที่ทำให้ฉันอดมองน้องเขาไม่ได้มันกร้าวใจสุด ๆขับรถมาได้สักพักก็ถึงคอนโดของฉันตอนแรกน้องเขาจะเดินกลับ แต่เป็นฉันเองที่รั้งแขนของน้องเขาไว้ พลางทำใบหน้าออดอ้อนเท่าที่คนอายุ 27 ปีจะทำได้“ไปส่งพี่ถึงห้องหน่อยสิ พี่เมาอยู่นะ” น้องเวย์ทำหน้าถมึงทึงใส่ แต่สุดท้ายก็มาส่งถึงห้องอยู่ดี เพียงฉันเปิดประตู ฉันเขามีท่าทีจะหันหลังกลับ แต่ฉันไม่ยอมหรอกเพราะจู่ ๆ หัวใจฉันมันก็เต้นระริกยิ่งกว่าเดิมจนทำเรื่องที่ถ้าไม่เมาก็จะไม่ทำเด็ดขาด อย่างเช่นกระชากดึงตัวน้องเวย์เข้าห้องก่อนจะปิดประตูห้องดัง‘ปัง!!!!’“ทำแบบนี้คือ.....”“อยู่เป็นเพื่อนพี่คืนหน