แชร์

ตอนที่ 10 ตกลงฉันเป็น....

ผู้เขียน: กะหล่ำหมี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-01 20:14:10

ตกลงฉันเป็น....

“พี่ชื่ออะไรครับ” เสียงของเพื่อนเวย์เอ่ยทักขึ้น

“ออยจ๊ะ...” ฉันหันไปยิ้มให้เพื่อนของเวย์ ไหน ๆ ก็มีสถานะเป็นพี่แล้วก็อ่อยมันไปให้หมดนี่แหละ

“พี่อยากดื่มหน่อยมั้ยครับ”

“ขอสักแก้วก็ดีค่ะ พอดีเซ็ง ๆ ขอเข้ม ๆ เลยนะคะ”

“ได้ครับผม” เสียงเพื่อนของเวย์นุ่มละมุนพานเอาลื่นหูกว่าคนข้าง ๆ เป็นไหน ๆ เมื่อแก้วเหล้าวางอยู่ตรงหน้า คนข้าง ๆ ดันเอื้อมไปหยิบให้ก่อนจะยื่นมาให้ฉัน

“มีมือหยิบเองได้ย่ะ”

“อยากก้มไปหยิบให้คนดูนมรึไง ใส่ชุดอะไรไม่รู้จักคิด” คนข้าง ๆ ไม่พูดเปล่าพลางถอดแจ็คเก็ตยีนส์ มาคลุมฉัน ฉันทำท่าจะถอนแต่ก็โดนมือแกร่งหยิกแผ่นหลังที่เปลือยอยู่จนสะดุ้ง

“ถ้าถอดเสื้อคลุมออกโดนแน่” นี่คือเสียงกระซิบของคนข้าง ๆ ที่พานทำเอาขนลุกจนต้องเชื่อฟัง

เพื่อน ๆ ของเวย์เอาแต่จ้องมองฉันแถมซักไซ้ไม่หยุด  ฉันก็ได้แต่ยิ้มและตอบเท่าที่จะตอบได้ เพื่อนผู้ชายของเขาดูเป็นมิตรอยู่นะ แต่ผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ เวย์อีกทีกลับมีท่าทีจ้องฉันแบบเขม่นไม่พักจนน่ารำคาญ  จะมาหึงหวงอะไรมากมายมิทราบ แถมยังเอาแต่เกาะแขนอีกข้างของเวย์ไม่หยุด เจ้าตัวก็ยังปล่อยให้เขาเกาะแบบนั้นอีก พานทำให้ฉันหงุดหงิดจนอยากจะเดินออกจากตรงนี้

“พี่มีแฟนรึยังครับ” เสียงของเพื่อนคนหนึ่งของเขาเอ่ยขึ้น ฉันตกใจมากนะกับคำถามแต่พอมองคนข้าง ๆ ที่ยังปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นเกาะแขนอยู่ก็พานทำให้รู้สึกอยากประชดประชันขึ้นมา

“โสดจ๊ะฮ่า...น้องสนใจจีบพี่มั้ยล่ะ” ฉันพูดพลางหัวเราะ และนั่นก็สร้างเสียงหัวเราะไปทั้งโต๊ะ แต่ใครจะรู้ว่าตอนนี้มือหนาที่อยู่บนหลังฉันกำลังออกแรงบีบจนฉันเจ็บ ทำเอาฉันต้องบิดตัวไปมามองหน้าเขาอย่างไม่พอใจ

“ไอ้เวย์ พี่สาวมึงคนนี้กูจอง” เสียงของน้องในโต๊ะยืนขึ้นพูดดังลั่น  ทุกคนต่างหัวเราะกันดังสนั่น ฉันเองก็หัวเราะร่าตลกกับเขาไปด้วย

แต่ใครจะคิดเพียงเพราะที่เพื่อนเขาพูดแบบนั้น มือหนาที่โอบหลังฉันอยู่ก็เลื่อนมาบนท้ายทอยของฉัน  ก่อนจะดันศีรษะของฉันให้เข้าไปหาพร้อมบรรจงจูบฉันต่อหน้าคนอื่นๆ นับสิบคนรอบโต๊ะนี้ แม้แต่ตัวฉันเองยังตกใจเบิกตาโต

กว่าเวย์จะละริมฝีปากออกจากริมฝีปากฉันก็ทำเอาฉันสติเลื่อนลอยไปไกลแล้ว

“นี่มึง....” เสียงของเพื่อนเขาโวยกันใหญ่ก่อนที่เขาจะยอมผละออกจากการจูบกับฉัน ไม่ต้องบอกตอนนี้ฉันนิ่งทื่อ อึ้ง ที่เขากล้าจูบต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ ส่วนเขาเหมือนไม่รู้สึกร้อน รู้สึกหนาว หันกลับไปดื่มอย่างสบายใจแล้วเอ่ยกับเพื่อนของตัวเอง

“มึงจะไปจีบใครก็เรื่องของมึง แต่คนนี้เมียกู” คนข้าง ๆ พูด ‘เมีย’ ออกมาอย่างไม่อายปาก ตอนแรกว่าอึ้งที่กล้าจูบแล้วตอนนี้ยังเอ่ยคำว่าเมียอย่างไม่สะทกสะท้าน ทำเอาฉันไปต่อไม่เป็น ไม่กล้ามองหน้าใครในโต๊ะอีก หันไปหยิบแก้วเหล้าตรงหน้ามาดื่มแก้เขิน

“แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก ให้ความหวังกูสัส” นั่นคือคำสถบของเพื่อนที่พูดใส่เวย์ แต่เจ้าตัวก็ดันยกยิ้มแถมมือแกร่งยังรั้งเอวฉันให้ชิดเขามาไปอีกจนฉันอึดอัด

ฉันทนโดนมองจากสายตาเพื่อน ๆ เขาไม่ได้ ดูเหมือนตอนนี้ทุกคนกำลังพิจารณาท่าที่ของฉันกับเวย์อย่างพินิจ และพยายามถามถึงความสัมพันธ์ แต่ใครจะตอบได้เล่าในเมื่อเรื่องพวกนี้เราสองคนไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำ แถมไม่รู้ว่าเวย์คิดยังไงถึงเรียกฉันว่าเมีย บางทีอาจจะแค่พูดตัดความรำคาญของเพื่อนตัวเองก็ได้ใครจะรู้

‘ฉันแค่ไม่อยากจะถลำลึกคิดไปฝ่ายเดียวก็เท่านั้นเอง’

“พี่จะกลับไปหาเพื่อนแล้ว” นี่คือประโยคที่ฉันกระซิบข้างหูเวย์

“ไปมั่วกับพวกผู้ชายในห้องเหรอ”

“นี่พูดให้มันดี ๆ ฉันไม่ได้เหมือนนายนะที่มั่วกับสาว ปล่อยให้เกาะแขนแบบนั้น”

“เรียก ‘นาย’ แบบนี้ โมโห???”

“พี่จะมีสิทธิ์โมโหอะไร เชิญดื่มด่ำกับเพื่อน ๆ สาว ๆ ของเวย์ไปล่ะกัน”

ฉันที่พยายามจะยืนขึ้น แต่จู่ ๆ ก็โดนดึงลงนั่งโซฟาอีกครั้งจนเพื่อน ๆ หันมาจ้องเป็นจุดเดียวกันอีกแล้ว

“กลับกับผม”

“ทำไมพี่ต้องกลับกับนาย”

“อย่าให้ผมต้องพูดซ้ำสอง คืนนี้กลับกับผมเท่านั้น”

“นายนี่มัน!!...” ฉันหันไปมองค้อน แต่สายตาของเขาจริงจังกว่าครั้งไหน ๆ จนทำเอาฉันเถียงไม่ออก

“ก็ได้ ๆ แต่ขอกลับไปเอากระเป๋าก่อนแล้วกัน รอที่ประตูทางออกผับล่ะกัน” ฉันลุกขึ้นเอ่ยลากับเพื่อน ๆ ของเขาก่อนจะเดินกลับไปที่ห้อง วีไอพีเพื่อไปหยิบกระเป๋ากับมือถือ

“ว่าไงเพื่อน...จะกลับแล้วเหรอ” แพรวเอ่ยทักเมื่อเห็นฉันเดินเข้ามา ทุกคนในห้องก็มองมาที่ฉันไม่ต่างกัน

“อืม ฉันขอตัวกลับก่อนนะ...มีธุระ” ฉันบอกไปแบบนั้นซึ่งแพรวมันก็ยิ้มเหมือนรู้ทัน

“โอเค...ดูเหมือนแผนจะได้ผลแฮะ งั้นไปเถอะออยไว้ค่อยมาคุยกัน”

“อืม” ฉันพยักหน้าให้แพรวและหันไปลาพี่ ๆ คนอื่น ๆ ก่อนจะเดินออกมาพร้อมกระเป๋าใบเล็กที่ใส่ของส่วนตัวไว้

เมื่อมาถึงประตูทางออกคลับ ก็พบว่าเวย์ยืนพิงผนังรออยู่แล้ว พอเขาเห็นฉันเขาก็เข้ามาโอบรั้งเอวฉันไว้ก่อนจะเดินออกจากคลับด้วยกัน

‘ปัง’ เสียงประตูรถปิดลงก่อนที่เวย์จะเดินอ้อมไปยังฝั่งคนขับจากนั้น เขาก็ขับรถออกไปทันที

“ไปส่งที่คอนโดด้วย”  ฉันพูดไปแบบนั้นแต่คนขับกลับไม่เอ่ยตอบ หน้านิ่งสนใจแต่ถนนตรงหน้า ‘คงจำทางไปคอนโดฉันได้แล้วสินะ งั้นก็คงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากความ’

ฉันเหม่อมองไปตามทางที่มืดมิด เห็นแต่แสงไฟนีออนที่รายเรียงไปตามข้างทาง มองไม่ค่อยออกว่าตอนนี้กำลังมุ่งหน้าไปไหน

“นี่กำลังจะไปไหน ทำไมรู้สึกไม่คุ้นทางเลยเวย์” ฉันเลิกคิ้วมองคนขับ แต่ปฏิกิริยาก็ยังคงนิ่งเฉย ไม่นานนักรถของเราก็เลี้ยวเข้าคอนโดสูงใจกลางเมือง ฉันชะเง้อมองไปดูคอนโดนั่น

“นี่มันไม่ใช่คอนโดพี่ เวย์พาพี่มาที่ไหนเนี่ย” คราวนี้ฉันยื่นมือไปแตะบ่าเขาเพื่อให้เขาตอบฉันให้ได้

“คอนโดผมเอง” สิ้นคำเขาขับผ่านเข้ามาในคอนโดก่อนจะจอดรถไว้ในมุมจอดของ VIP ที่ลับตาคน เมื่อรถดับเครื่องยนต์ฉันหันไปถามด้วยความเคลือบแคลงใจ

“ทำไมมาที่นี่ พี่จะกลับคอนโด”

“จะคอนโดไหนก็เหมือนกันแหละ” เขาพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ ฉันที่ทนมองหน้าเขานานไม่ได้ก็หันไปเปิดประตู

“เอ๊ะ!! เปิดประตูไม่ได้ ปลดล็อคให้พี่สิ” เวย์ยังคงนั่งนิ่งกอดอกอยู่ฝั่งคนขับรถ ทำเอาฉันต้องมองค้อนด้วยความสับสนว่าสรุปแล้วเขาต้องการอะไรกันแน่

“ยังลงรถไม่ได้เรามีเรื่องต้องคุยกันก่อน” เขาหันใบหน้าหล่อดุใช้นัยน์ตากวาดไปทั่วตัวฉัน ทำเอาฉันลนลานไปหมดว่าเขากำลังจับผิดอะไรอยู่

“ระ...เรื่องอะไรอีก”

“แต่งตัวเศษผ้าแบบนี้มายั่วใคร...”

“ไม่ได้ยั่วใครก็มาเที่ยวไง ไม่เห็นเหรอว่าเพื่อนพี่ก็ใส่”

“มันควรเรียกว่าชุดอยู่มั้ยวะ ก้มทีนมก็ล้นหวอก็ออกอยู่แล้วนั่น”

“อย่าเว่อร์มันไม่ได้โป๊ขนาดนั้น” ฉันหันไปพูดจริงจัง ในขณะที่เวย์ใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มตัวเองอย่างหงุดหงิด นัยน์ตาคมแทบกรีดฉันออกเป็นชิ้น ๆ

“ไม่โป๊เหอะ...ดูนี่” เวย์ไม่พูดเปล่าเอื้อมมือข้างหนึ่งดึงเดรสเกาะอกสีแดงของฉัน ลงอย่างง่ายดาย ทำให้เนินอกอวบของฉันโผล่ออกมาทั้งสองอย่างโจ่งครึ่มทำเอาฉันตกใจจนต้องรีบดึงมันขึ้นเหมือนเดิม

“จู่ ๆ มาดึงทำไมเนี่ย”

“นี่ขนาดไม่ได้ออกแรงอะไรดึงนิดดึงหน่อยก็โผล่มาทั้งเต้า แถมเสื้อในก็ไม่ใส่ แล้วมาบอกว่าไม่โป๊ พูดออกมาได้ไงวะ” สีหน้ามองมาที่ฉันจริงจัง ทำเอาฉันไปต่อไม่ถูก

“ก็แล้วคนสติดีที่ไหนจะมาดึงชุดคนอื่นล่ะ” แม้ฉันจะไม่กล้าสบตา แต่ยังไงฉันก็ไม่ยอมแพ้หรอก

“ใส่ชุดไม่ระวังแล้วยังจะเถียง”

“ไม่ได้เถียง พี่ใส่แบบนี้แล้วมันจะทำไม ไม่ใช่ผัวซะหน่อย”

“ไม่ใช่ผัว???”

“ก็พูดออกมาเองไม่ใช่เหรอว่า เป็นแค่พี่สาว” ฉันจำได้ขึ้นใจว่าเวย์พูดอะไรไว้

“แล้วใครเริ่มก่อนว่าผมเป็นแค่น้องที่รู้จัก”

“ก็ตอนนั้นมันไม่เหมือนกัน”

“ไม่เหมือนยังไงพูดมาดิ” สีหน้าของเวย์จริงจังแถมยังกำข้อมือฉันแน่นจนเจ็บ นัยน์ตามองมาราวกับอยากได้คำตอบ

“ก็ตอนนั้นพี่ไม่รู้ว่าเวย์จะคิดยังไงกับพี่ไง พี่ไม่อยากมานั่งเสียใจอกหักตั้งแต่ยังไม่เริ่มนินา”

“พี่ชอบผม???”

“เอ่อ..ชอบ...พอใจรึยัง ชอบมากไม่งั้นจะยอมนอนด้วยรึไงเล่า นั่นมันครั้งแรกในรอบ 27 ปีเลยนะ ชิส์” หงุดหงิดโว้ย....ต้องมานั่งหาเหตุผลว่าชอบเพราะอะไรน่ารำคาญชะมัด

“...” เขาเงียบไป เหอะพอฉันบอกว่าชอบก็มาชักสีหน้าคิดหนักใส่กันอีก แล้วจะมานั่งบ่นกันทำไม

“จะปล่อยมือพี่ได้ยัง พี่เจ็บ” ฉันเอ่ยกับคนข้าง ๆ ที่ยังกดข้อมือฉันแน่นจนเป็นรอยแดง แต่คนข้าง ๆ กลับไม่ยอมปล่อยแถมมองมาที่ฉันด้วยนัยน์ตาที่อยากจะหยั่งคิด

“มานั่งตรงนี้ดิ” เวย์พูดพลางใช้มืออีกข้างตบหน้าขาตัวเอง ฉันเลิกคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ

“ทำไม...” ฉันเอียงคอมองด้วยความสงสัย

“ผมบอกให้ ‘เมีย’ มานั่งตรงนี้”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • วิศวะตัวร้ายพ่ายหมอแซ่บ    ตอนที่ 11 ผลิบาน

    ผลิบานเวย์เอาแต่พูดว่าคำว่า ‘เมีย’ กับฉัน จนฉันไม่รู้ว่าเจตนาที่เรียกแบบนั้นคือต้องการแหย่ หรือแค่พูดให้รู้สึกรุ่มร้อนฉันยังมองเขาไม่ออกว่าเขาคิดจะจริงจังกับฉันรึเปล่าถ้าฉันเป็นเด็กมหาลัยก็คงนอนกับเวย์แบบไม่ต้องคิดมากแต่ฉันมันคนอายุใกล้เลขสาม ฉันค่อนข้างคิดหนักกับการคบใครสักคนแล้วนะสิ ฉันแค่ไม่อยากรักพังจนต้องไปตามหารักแท้ใหม่ในตอนที่แก่ตัวไปมากกว่านี้ฉันยังไม่ยอมลุกไปนั่งตักเขาในฝั่งคนขับ“อย่ามาเรียกเมียมั่วซั่วถ้าไม่คิดจะจริงจัง” ฉันเบือนหน้าหนีออกไปนอกตัวรถ“ว้าย!!!” แต่ก็ต้องร้องตกใจเพราะแขนแกร่งโอบรั้งเอวฉันยกตัวฉันไปนั่งคร่อมบนหน้าตักของเขาและหันหน้าฉันเข้าหา ขาฉันกางคร่อมตักเขามันทำให้ชุดเดรสที่ใส่ถกขึ้นจนกองเหนือสะโพก เผยให้เห็นชั้นในตัวบางทั้งตัว พื้นที่ก็แคบจนขาฉันชนกับผนังรถยังจะให้ฉันไปนั่งบนตักอีก“มองผมดิ”“...” ฉันไม่พูดอะไร แต่ก็ถูกมือแกร่งของเวย์จับคางให้หันไปมองเขาอยู่ดีดวงตาเราประสานกัน ฉันมองไม่ออกหรอกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ยอมรับว่าฉันแพ้ให้กับสายตาน้องเขาอย่างจังแค่มองก็รู้สึกใจสั่นแทบบ้า จนต้องหลุบตาลง“คราวหน้าอย่าใส่ชุดแบบนี้อีก”“แต่ชุดแบบนี้พี่ซื้อไว

  • วิศวะตัวร้ายพ่ายหมอแซ่บ    ตอนที่ 10 ตกลงฉันเป็น....

    ตกลงฉันเป็น....“พี่ชื่ออะไรครับ” เสียงของเพื่อนเวย์เอ่ยทักขึ้น“ออยจ๊ะ...” ฉันหันไปยิ้มให้เพื่อนของเวย์ ไหน ๆ ก็มีสถานะเป็นพี่แล้วก็อ่อยมันไปให้หมดนี่แหละ“พี่อยากดื่มหน่อยมั้ยครับ”“ขอสักแก้วก็ดีค่ะ พอดีเซ็ง ๆ ขอเข้ม ๆ เลยนะคะ”“ได้ครับผม” เสียงเพื่อนของเวย์นุ่มละมุนพานเอาลื่นหูกว่าคนข้าง ๆ เป็นไหน ๆ เมื่อแก้วเหล้าวางอยู่ตรงหน้า คนข้าง ๆ ดันเอื้อมไปหยิบให้ก่อนจะยื่นมาให้ฉัน“มีมือหยิบเองได้ย่ะ”“อยากก้มไปหยิบให้คนดูนมรึไง ใส่ชุดอะไรไม่รู้จักคิด” คนข้าง ๆ ไม่พูดเปล่าพลางถอดแจ็คเก็ตยีนส์ มาคลุมฉัน ฉันทำท่าจะถอนแต่ก็โดนมือแกร่งหยิกแผ่นหลังที่เปลือยอยู่จนสะดุ้ง“ถ้าถอดเสื้อคลุมออกโดนแน่” นี่คือเสียงกระซิบของคนข้าง ๆ ที่พานทำเอาขนลุกจนต้องเชื่อฟังเพื่อน ๆ ของเวย์เอาแต่จ้องมองฉันแถมซักไซ้ไม่หยุด ฉันก็ได้แต่ยิ้มและตอบเท่าที่จะตอบได้ เพื่อนผู้ชายของเขาดูเป็นมิตรอยู่นะ แต่ผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ เวย์อีกทีกลับมีท่าทีจ้องฉันแบบเขม่นไม่พักจนน่ารำคาญ จะมาหึงหวงอะไรมากมายมิทราบ แถมยังเอาแต่เกาะแขนอีกข้างของเวย์ไม่หยุด เจ้าตัวก็ยังปล่อยให้เขาเกาะแบบนั้นอีก พานทำให้ฉันหงุดหงิดจนอยากจะเดินออกจากตรงน

  • วิศวะตัวร้ายพ่ายหมอแซ่บ    ตอนที่ 9 เอาคืน

    เอาคืน(ภายในคลับ)ฉันกับแพรวตอนนี้อยู่ภายในห้อง VIP ชั้นสองของคลับ ซึ่งพี่เจเดนเปิดห้องไว้ ต้องแรกพวกเราก็พยายามปฏิเสธบอกว่าจองโต๊ะด้านล่างใกล้ฟลอร์ก็ได้มันแพงไป แต่เจ้าตัวไม่ยอมคงเพราะหวงยัยแพรวนั่นแหละวันนี้พี่เจเดนไม่ได้มาคนเดียว แต่ยังมีพี่มาติน แล้วก็พี่เอ็ดเวิร์ดอาของยัยแพรวแถมเขายังควงภรรยามาด้วย ชื่อพี่ฟ้าคราม ก็เพิ่งเคยเจอกันวันแรกนี่แหละฉันทักทายกับทุกคน ตอนแรกก็เกร็งหน่อย ๆ แต่พอได้รู้จักก็รับรู้ได้ว่าใบหน้าที่เคร่งขรึมเหล่านั้นก็แค่ฉากหน้าจริง ๆ พวกเขาเฮฮาเอาเรื่องแถมยังชงเหล้าแจกไม่หยุดยัยแพรวเอาแต่ดึงฉันไปถ่ายรูป พร้อมกับถ่ายบรรยากาศในห้อง VIP โพสต์ไม่หยุดหย่อน แต่พอฉันมองมือถือกลับไม่เห็นโนติอะไรเด้งขึ้นมาเลย พานเอาห่อเหี่ยวจิตใจสุด ๆ‘ดูท่าคงต่อกันไม่ติดอีกแล้วแหง ๆ เลิกชอบกันง่ายจัง นี่ฉันอกหักรักคุดกับเด็กมาสองครั้งแล้วเหรอเนี่ย ไม่ว่าจะโลกออนไลน์ หรือ ออฟไลน์’ ฉันยกดื่มด้วยความโมโหก่อนที่คนในห้อง จะจับสังเกตได้“น้องออย ไม่สนุกเหรอครับเครียดอะไรอยู่รึเปล่า ให้พี่ปลอบมั้ย” เสียงของพี่มาตินเอ่ยถามตามสไตล์ผู้ชายเจ้าชู้ ฉันยกมือโบกปฏิเสธยกใหญ่ ก่อนที่ยัยแพรวจะแขวะ

  • วิศวะตัวร้ายพ่ายหมอแซ่บ    ตอนที่ 8 แผนการล่อเสือ

    แผนการล่อเสือ(โรงพยาบาล)ฉันยอมให้เวย์ขับรถ(ของฉัน)มาส่งที่โรงพยาบาลเพราะเจ้าตัวดื้อดึงจะมาส่งให้ได้ และเขาบอกจะกลับแท็กซี่เอง ถามว่าฉันเถียงได้ที่ไหนสกิลปากฉันแพ้อย่างราบคาบเห็นแบบนี้เขาเอาแต่ใจอยู่เหมือนกันแฮะฉันมีเวลาไม่มากนักเพราะจะถึงเวลาเข้างานจึงดูรีบเร่งลนลานพอดู แต่เมื่อลงจากรถในลานจอดของโรงพยาบาล ดันมีหมอและบุคลากรหลายคนเห็นฉันกับเวย์ พวกเขาพุ่งเป้าหันมาถามกันอย่างจ้าละหวั่น ทำเอาฉันทำตัวไม่ถูก คนยืนข้างกันก็นิ่งขรึมไม่ได้พูดอะไร“อ่อ นี่เป็นน้องที่รู้จักนะไม่มีอะไร” ฉันที่เลิ่กลั่กไม่รู้จะตอบยังไงเพราะคิดไม่ทันจึงตอบออกไปแบบนั้นเพื่อไม่ให้เกิดข่าวแตกตื่น เพราะการที่ฉันโสดนั้นรู้กันไปทั่วโรงพยาบาล แน่นอนว่าถ้าข่าวฉันมีใครสักคนแพร่กระจายย่อมสร้างความวุ่นวายในโรงพยาบาลแน่นอน ฉันคิดแค่นั้นจริง ๆ แต่ดูเหมือนคนข้าง ๆ จะหันหน้ามาเลิกคิ้วใส่กันราวกับไม่พอใจ จากนั้นก็ทำตัวเออออให้กันสักครู่ก่อนจะเดินหนี ออกไปถนนใหญ่ขึ้นแท็กซี่กลับไปเลย ทำเอาฉันพูดไม่ออกแม้ฉันจะทำให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ถูกพูดถึงปากต่อปากในโรงพยาบาลได้สำเร็จ แต่หัวใจฉันกลับกระวนกระวายอย่างหนัก ฉันทั้งโทร ทั้งส่ง

  • วิศวะตัวร้ายพ่ายหมอแซ่บ    ตอนที่ 7 คืนร้อนอ่อยรัก

    คืนร้อนอ่อยรักน้องเวย์ยังคงใช้เรียวลิ้นทั้งเลีย เม้ม ดูดไปตามร่องกลีบหวานแถมยังสอดประสานนิ้วมือแกร่งที่สลับกันทำหน้าที่จนฉันต้องแอ่นสะโพกเป็นจังหวะที่น้องเวย์ประเคนให้‘อยากจะบ้าเสียวซ่านจนลืมหายใจ’“พะ...พอก่อน ไม่ไหวแล้ว” ฉันพูดไปแบบนั้นแทนที่น้องเขาจะหยุดให้กันกลับเร่งนิ้วและตวัดลิ้นเร็วขึ้น และนั่นก็ทำให้ฉันได้สัมผัสคำว่าเสร็จเป็นครั้งแรกในชีวิตจากการโดนคนอื่นกระทำ (ไม่นับการช่วยตัวเอง)‘แฮ่ก...แฮ่ก’ ฉันทิ้งสะโพกลงหลังจากตัวเกร็งกระตุกจนต้องยกขึ้น แต่แม้ว่าฉันจะเสร็จไปแล้วนิ้วมือของน้องเวย์ยังง่วนชักเข้าออกตรงนั้นไม่หยุด ส่วนใบหน้าได้ผละออกมาแล้ว เลื่อนตัวขึ้นมาประกบริมฝีปากกับฉัน กลิ่นคาวน้ำรักของฉันคละคลุ้งไปในรสจูบ นี่สินะที่น้องเวย์สัมผัสไปเมื่อกี้ แม้จะไม่คุ้นชินแต่ก็กระตุ้นอารมณ์ได้ดี“พี่เสร็จแล้ว แต่ผมยังไม่ได้เริ่มเลยนะ”“...” สายตาน้องเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ปกติแล้วหน้าต้องเข้ม ดูหยิ่งตลอดเวลา แต่ตอนนี้นัยน์ตาของน้องเวย์กลับฉ่ำเยิ้ม แถมรอยยิ้มนั่นก็ดูเจ้าเล่ห์สุด ๆ ทำเอาฉันไม่กล้าสบตานานเพราะยิ่งมองยิ่งเหมือนฉันเป็นลูกไก่ในกำมือน้องเวย์เอียงคอขึ้นมากระซิบข้างหูฉัน

  • วิศวะตัวร้ายพ่ายหมอแซ่บ    ตอนที่ 6 Spark

    Sparkตอนแรกฉันก็กะจะดื่มต่ออีกสักหน่อย แต่สุดท้ายก็โดนน้องเขาลากออกจากร้านอยู่ดี แถมพี่กานยังบอกว่ารอบนี้พี่เลี้ยงเองอีกต่างหากสรุปแล้วมีความสุขแบบไม่เสียเงินสักบาทจริง ๆ“เอากุญแจมา ผมขับให้” เสียงของน้องเวย์เอ่ยมาพลางยื่นมือมาตรงหน้าและฉันก็มอบกุญแจรถให้แต่โดยดี เพราะฉันเมาขนาดนี้คงไม่ขับรถหรอก“คอนโดพี่ อยู่ที่ไหนผมจะไปส่ง” ฉันหันไปยิ้มให้คนขับก่อนจะแชร์โลเคชั่นเข้าไปที่จอมอนิเตอร์ของรถทันที จากนั้นน้องเขาก็ตั้งใจขับรถไม่ได้หันมาสนใจฉันอีก แต่ท่าทีแบบนี้แหละที่ทำให้ฉันอดมองน้องเขาไม่ได้มันกร้าวใจสุด ๆขับรถมาได้สักพักก็ถึงคอนโดของฉันตอนแรกน้องเขาจะเดินกลับ แต่เป็นฉันเองที่รั้งแขนของน้องเขาไว้ พลางทำใบหน้าออดอ้อนเท่าที่คนอายุ 27 ปีจะทำได้“ไปส่งพี่ถึงห้องหน่อยสิ พี่เมาอยู่นะ” น้องเวย์ทำหน้าถมึงทึงใส่ แต่สุดท้ายก็มาส่งถึงห้องอยู่ดี เพียงฉันเปิดประตู ฉันเขามีท่าทีจะหันหลังกลับ แต่ฉันไม่ยอมหรอกเพราะจู่ ๆ หัวใจฉันมันก็เต้นระริกยิ่งกว่าเดิมจนทำเรื่องที่ถ้าไม่เมาก็จะไม่ทำเด็ดขาด อย่างเช่นกระชากดึงตัวน้องเวย์เข้าห้องก่อนจะปิดประตูห้องดัง‘ปัง!!!!’“ทำแบบนี้คือ.....”“อยู่เป็นเพื่อนพี่คืนหน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status