Mag-log inเสียงเล็กพูดขึ้น เชอรีนยิ้มแห้งๆออกมาเพราะไม่ต้องการให้บรรยากาศดูเศร้าจนเกินไป ยังไงเพื่อนของเธอก็คงไม่โกรธเธอหรอกมั้งถ้ารู้ว่าตัวเธอนั้นต้องเจอกับอะไรมาบ้าง
“หา~ ว่าไงนะ ทำไมล่ะหรือว่าจะเป็นเรื่องผู้หญิง” ฉันเบิกตากว้างเมื่อรู้ว่าเพื่อนสนิทได้เลิกรากับ ‘เวหา’ เพื่อนผู้ชายห้อง 2 แล้ว เชอรีนพยักหน้าเมื่อเพื่อนของเธอเดาถูก ยัยไอรีนนี่เดาเก่งเสียเหลือเกิน
“อือ เขามีคนอื่น”
“ว่าแล้วเชียวว่าคงต้องทะเลาะกันแต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นเลิกรากันแบบนี้” เพียวยังคงตกใจไปกับสิ่งที่เชอรีนพึ่งจะพูดออกไป ก็นะ..พวกเธอยังตั้งตัวไม่ได้และเชอรีนเองก็คงเช่นกัน แต่ยังไงก็ต้องเข้มแข็งเอาไว้
เชอรีนเลือกที่จะพูดต่อไปเมื่อเห็นว่าเพื่อนของเธอต่างก็เงียบไปทั้งคู่…
“เราเข้าไปเห็นเขากำลังมีอะไรกับแฟนเก่าแล้วหลังจากนั้นยัยผู้หญิงนั่นก็ยังส่งคลิปลับของพวกเขาส่งมาให้เราดู หึ~” หลังจากหัวเราะจบหยดน้ำตาก็ไหลออกมา นี่เธอเปราะบางขึ้นขั้นพูดหรือคิดถึงเขาไม่ได้เลยเหรอนี่ พูดหรือนึกถึงทีไรน้ำตาไหลทุกที
“….” ไอรีนกับเพียวต่างก็เลือกที่จะเงียบ
“ฮึก~ พวกแกบอกฉันทีว่าฉันทำผิดอะไรทำไมเขาถึงได้..” เชอรีนมองไปยังเพียวกับไอรีนด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยคาบน้ำตา เธอร้องไห้ออกมาโดยที่ไม่แคร์สายตาใคร ในตอนนี้เธอเจ็บ เจ็บจนจุกรู้สึกอ่อนไหวเหลือเกิน
“แกไม่ผิดอะไรเลยแต่ไอ้เวหามันเหี้ย!!” ไอรีนรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดทำความสะอาดใบหน้าให้เพื่อน ปากก็พูดด่าทอไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นที่มันบังอาจทำเชอรีนร้องไห้เสียใจ ใจนึกอยากเอาเรื่องคอยดูเถอะ เจอมันเมื่อไหร่แม่งจะด่าให้อายเลย ไอ้เวหา!! บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าทำเพื่อนเธอเสียใจ
“หยุด! เลิกร้องไห้ได้แล้ว อย่าไปเสียน้ำตาให้กับมัน เลิกกันไปก็ดี พอขึ้นมหาลัยไปพวกเราจะได้ไปสนุกสุดเหวี่ยงด้วยกันไง โสดเหมือนฉันไงสวยๆไปด้วยกัน” ไอรีนปลอบใจเพื่อนเธอคิดคำพูดต่างๆนาๆ ไม่มีแฟนมันก็ดีนะเที่ยวได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาห้ามหรือว่าอะไร
ฮึก~
“เราแค่อยากระบายน่ะ พอทำใจได้บ้างแล้ว ไม่เห็นเหรอตาบวมขนาดนี้ร้องทั้งคืนค่ะ!!” เชอรีนเช็ดน้ำตาเธอรู้สึกดีขึ้นเยอะแล้ว เธอเพียงแค่อยากระบายเท่านั้น แต่พอพูดถึงเขาก็ทำให้มีน้ำตาขึ้นมาก็เท่านั้น
“เห็นแหละแค่ไม่อยากทัก ต่อไปร้องไห้ให้กับพระเอกซีรี่ย์อย่างเดียวก็พอ ไอ้พวกผู้ชายหน้าหมาพวกนั้นอย่าไปเสียน้ำตาให้กับมัน เออ..แล้วจะเอายังไงต่อไป” ไอรีนลูบหลังปลอนโยนเพื่อนสนิทพลางถามถึงยังอนาคตของพวกเรา
“เราอยากคุยกับพวกแกเรื่องเรียนต่อพอดี” เชอรีนเช็ดน้ำตาแล้วพูดไปถึงเรื่องการเรียนต่อของพวกเรา เพียวตาโตแอบคิดเองเออเองว่าเชอรีนอาจจะอยากไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเพราะช้ำรักเลยอยากจะหนีไปไกลๆ
“ทำไม..หรือว่าแกจะไปเรียนเมืองนอกเลย” คำพูดของเพียวทำเอาเชอรีนส่ายหน้าหัวเราะอย่างชอบใจ นี่เพื่อนเธอคิดไปไกลขนาดนี้เชียวเหรอ
“หึ~ บ้าไม่ใช่อย่างนั้น เราแค่อยากจะบอกว่าเราจะเข้ามหาลัย AU นะ พวกแกว่าไงอยากไปเข้าที่นั่นกับเราหรือเปล่า” เชอรีนถามความสมัครใจของเพื่อนทั้งสอง ไอรีนน่ะเธอรู้ว่ายังไงก็คงตามเธอแต่ติดที่ยัยเพียวนี่น่ะสิไม่รู้เธอจะว่าอย่างไรแล้วไหนจะมาร์ชแฟนหนุ่มของเธออีก
“พวกฉันจะไปว่าไงได้ก็ต้องตามแกไปอยู่แล้ว แกไปไหนพวกฉันไปด้วย” เพียวยิ้มกว้างไม่ว่าอย่างไรเธอขอเลือกเพื่อนสนิทไว้ก่อน ไม่ว่ายัยเชอรีนจะไปเข้าต่อที่มหาลัยไหน เธอก็จะขอตามไปเรียนที่นั่นด้วยเช่นกัน
“แล้วมาร์ชล่ะจะไม่ว่าอะไรเหรอ” เชอรีนทำสีหน้าลำบากใจเมื่อเพื่อนรักเลือกเธอแล้วแบบนี้แฟนของยัยนี่ล่ะจะไม่ว่าอะไรเอาเหรอ รายนั้นยิ่งเป็นเพื่อนสนิทของเวหาอยู่ด้วย
“เรื่องนั้นไว้ฉันคุยกับเขาเอง” เพียวบีบมือให้กำลังใจเชอรีน เรื่องนี้เธอจะเป็นฝ่ายคุยกับมาร์ชเอง
“พวกเราจะเป็นสาวแซ่บที่สวยที่สุดในมหาลัยนั้น” ไอรีนที่เห็นเชอรีนยังคงทำหน้าลำบากใจอยู่จึงได้แกล้งพูดจาขบขันขึ้นเพื่อต้องการทำให้เชอรีนได้รู้สึกดีขึ้น
“ขอบใจมากนะ รักพวกแกที่สุดเลย~” ทั้งสามกอดกันกลมเกลียวท่ามกลางสายตาของเด็กนักเรียนในโรงเรียนที่ต่างก็คงงงว่าพวกเธอมากอดอะไรกันในโรงอาหารแบบนี้
และแล้ววันเวลาก็ผ่านไปจนมาถึงวันที่เปิดรับสมัครของมหาวิทยาลัย AU
ไอรีนและเพื่อนต่างก็นัดกันเอาไว้ที่หน้ามหาลัยโดยที่ตอนนี้ฉันไอรีน ยัยเพียวและมาร์ชได้มาถึงยังหน้ามหาลัยเป็นที่เรียบร้อยจะเหลือก็แต่ยัยเชอรีนคนเดียวและเพียงไม่นานรถยนต์คันหรูของเชอรีนก็ได้ขับมาจอดริมถนนพร้อมกับยัยนั่นที่เปิดประตูแล้วก้าวเท้าเดินลงมาจากรถ
“หวัดดีมาร์ช หวัดดีพวกแก รอเรานานไหม” เชอรีนส่งยิ้มหวานทักทายมายังพวกเราทั้ง3คนที่ยืนกันอยู่ มาร์ชที่เห็นแบบนั้นจึงตอบกลับอย่างมีมารยาท
“หวัดดีเชอรีน~” เขา เพียวและไอรีนต่างก็พึ่งมายืนรอเชอรีนอยู่ตรงนี้ยังไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ เพียวที่เห็นสีหน้าของเชอรีนที่ดูเป็นกังวลเธอจึงรีบตอบกลับเพื่อนไปเช่นกันเพราะกลัวว่ายัยนั่นอาจจะคิดมาก
“รอไม่นานหรอก นี่พวกฉันก็พึ่งมาถึงกัน”
“งั้นพวกเรารีบเดินเข้าไปข้างในกันดีกว่า มาร์ช~ ยังไงก็ขอบคุณมากนะที่ยอมมาเข้าที่นี่” เชอรีนพยักหน้าอย่างเข้าใจในเมื่อเธอไม่ได้มาสายมากนักงั้นก็รีบพากันเดินเข้าไปข้างในมหาวิทยาลัยจะดีกว่า จะได้ไม่เป็นการเสียเวลาอีกต่อไปและในระหว่างที่เดินกันอยู่นั้นเชอรีนก็ไม่ลืมที่จะกล่าวคำขอบคุณไปยังแฟนหนุ่มของเพียวที่เขายอมเลือกที่จะมาเข้าเรียนต่อยังมหาลัยเดียวกับพวกเธอ
“เรื่องนั้นไม่ต้องขอบคุณเราหรอก เพียวไปไหนเราไปด้วยเสมอ” ชายหนุ่มผู้แสนดีจับมือแฟนสาวพร้อมกับส่งยิ้มหวาน ถ้าให้เลือกระหว่างเพื่อนกับแฟนยังไงเขาก็ต้องเลือก ‘แฟน’ ของตัวเองอยู่แล้ว
“แล้วไม่ได้ทะเลาะอะไรกับเพื่อนใช่ไหม” เชอรีนที่เห็นทั้งคู่ทำหวานใส่กันก็พลอยมีความสุขไปกับเพื่อนด้วย ถ้างั้นก่อนที่จะเลือกมาสมัครเรียนกับพวกเธอแบบนี้ เขาก็คงต้องผ่านการพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนสนิทมาก่อนอย่างนั้นใช่ไหม
พวกเขาได้ทะเลาะกันหรือเปล่า...
“ไม่หรอก ไอ้พวกนั้นมันมีเหตุผล พวกเราเป็นเพื่อนกันไม่ว่ายังไงก็สามารถเจอกันได้ตลอดอยู่แล้ว เชอรีนวางใจได้เราไม่ได้ทะเลาะอะไรกับเพื่อน” เธอฟังแล้วค่อยโล่งใจต่อไปก็เหลือแค่ลืมช่วงเวลาที่ได้ผ่านไปแล้ว ลืมให้หมดว่ารักครั้งแรกของเธอลงเอยเช่นไร เชอรีนฉีกยิ้มอีกครั้งฟังแล้วรู้สึกดีเป็นอย่างมาก เธอเลือกที่จะชวนแฟนเพื่อนพูดคุยต่อเพราะยังไงต่อไปในอนาคตพวกเราคงต้องเป็นกลุ่มแก๊งเดียวกันอย่างแน่นอน
“งั้นก็ดีแล้ว แล้วนี่มาร์ชสมัครคณะไหนเหรอ”
“มาร์ชเลือกวิศวะ กลุ่มเพื่อนมาร์ชก็เช่นกัน”
“งั้นเหรอก็ดีแล้วแหละ งั้นพวกเราไปยื่นใบสมัครก่อนนะ คณะวิศวะไปทางนั้น~” เชอรีนยิ้มหน้าเจือนเธอถามมาร์ชคนเดียวนะไม่ได้ถามไปถึงกลุ่มเพื่อนของเขาสักหน่อย เธอชี้มือไปทางตึกด้านซ้ายของตัวเองเพื่อเป็นการบอกเขาว่าตึกคณะวิศวะอยู่ทางด้านนั้น มาร์คมองไปตามมือของเชอรีนก่อนที่จะหันมาส่งยิ้มตาใสบอกแฟนสาว
“งั้นมาร์ชไปก่อนนะ ถ้าเสร็จไวเดี๋ยวมาร์ชมารอที่คณะเพียวนะ”
พร้อมทั้งพูดย้ำเมื่อเห็นว่ามันยังคงนิ่งไม่ยอมลงไปจากรถของเธอ“ลงไปสิฉันจะไปแล้ว” เธอเอ่ยเสียงเรียบไล่เร็นให้ลงไปจากรถของเธอ เร็นที่โดนไล่แบบนั้นก็ตัดสินใจเปิดประตูก้าวเท้าเดินลงจากรถอย่างว่าง่าย ไอรีนโล่งใจเมื่อเห็นว่าเร็นได้ลงไปแล้ว มือเล็กเตรียมที่จะออกรถขับเคลื่อนออกไปและในขณะที่เธอยังคงให้ความสนใจไปกับการสตาร์ทรถ ประตูรถฝั่งเธอก็ถูกเปิดออกพรึ่บ!“ยาคุมฉุกเฉินอะไรนั่นลงมาซื้อด้วยกันเถอะ” เสียงทุ้มประกาศบอกหญิงสาวรุ่นพี่ ไอรีนชะงักอ้าปากค้างเพราะไม่คิดว่าเด็กนี่จะกล้ามาชวนเธอแบบนี้“มะ ไม่ นายขึ้นห้องไปได้แล้ว” เธอปฏิเสธออกไปพร้อมกับยื่นมือไปปิดประตูแต่จังหวะนั้นเร็นที่มือยาวกว่าก็เริ่มปฏิบัติการณ์ดึงมือเล็กของไอรีน เขาออกแรงดึงร่างบางให้ลงจากรถ“นี่ ปล่อยมือฉันนะ ไม่เอา ไม่ลง!” ไอรีนร้องโวยวายแต่สุดท้ายเธอก็โดนดึงลงมาจากรถสำเร็จ หนุ่มวิศวะปิดประตูเสียงดังพร้อมทั้งแย่งกุญแจรถของเธอไปครอบครอง มือหนาเอื้อมมาจับมือเล็กของไอรีน เขาพาเธอเดินไปร้านขายยาที่อยู่ไม่ไกลในตลอดทางไอรีนพยายามเป็นอย่างมากที่จะหนี แต่สุดท้ายเร็นก็พาเธอมายังร้านขายยาได้จนสำเร็จ...ร้านขายยาและทันทีที่เดินเข้ามาใ
กึก!!ไอรีนที่ได้ยินแบบนั้นก็อ้าปากค้างหน้าเหวอไปเลย รับผิดชอบอะไรของมันแล้วมันใช่เรื่องไหมที่เธอต้องมาทำอะไรแบบนี้แต่ถามสักหน่อยแล้วกันว่า ‘คำว่ารับผิดชอบ’ คือเธอต้องทำอะไรบ้าง“รับผิดชอบยังไงจะให้ฉันทำอะไรบ้าง ดูแลไปรับไปส่งนายแบบนั้นใช่ไหม” เธอหันไปมองหน้าเร็นเพื่อรอคำตอบ สายตาที่มองไปยังหนุ่มวิศวะทำเอาเขาแทบละลาย ทำไมเมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดที่จะมองเธอในด้านพวกนี้เลยนะ“จอดรถก่อนสิ ตรงนั้น” หนุ่มตัวร้ายชี้มือไปยังริมถนนข้างหน้า ไอรีนที่ได้ยินแบบนั้นก็เลือกที่จะทำตามอย่างคนที่ไม่ได้คิดอะไรมากมาย เธอจอดรถริมทางเป็นที่เรียบร้อย สายตาจับจ้องมองไปยังเด็กหนุ่มรุ่นน้องดังเดิม“พูดมาสักที” เร็นกระตุกยิ้มชวนขนหัวลุก เขาเริ่มพูดในสิ่งที่ตัวเขาเองต้องการ“เธอต้องห้ามมีคนอื่น!!” ไอรีนตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ เฮ้ย!! ได้ไงอะ มันมีสิทธิ์อะไรมาห้ามคนโสดอย่างเธอไม่ให้มีแฟนกันเนี่ย ใบหน้าสวยบูดบึ้งเธอยกมือขึ้นกอดอกสายตาคมมองจ้องไปยังเขาอย่างไม่ยอมลดละ“มีสิทธิ์อะไรมาสั่ง นี่ฉันเป็นพี่สาวนายนะ!!” ด้วยความโกรธจึงทำให้เธอยังคงย้ำเตือนเรื่องที่ตัวเองมีศักดิ์เป็นพี่สาวของเด็กนี่ มือเล็กกำหมัดแน่น เร็นเอื้อม
ยัยนี่คงกลับมาอาบน้ำที่ห้องตัวเองและคิดจะหนีเขาด้วยการออกไปข้างนอกอย่างนั้นสินะ หึ แต่ก็ยังช้ากว่าเขาไปก้าวนึง...“ออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วนี่จะออกไปไหน” เขาถามเธอด้วยน้ำเสียงผะแผ่วแต่มือหนานั้นคว้าไปที่ข้อมือของเธอพร้อมทั้งออกแรงดึงรั้งให้ไอรีนขยับตัวเข้าหาเขาไอรีนไม่ต้องการตอบ เธอทำเพียงแค่ออกแรงผลักน้องชายให้ออกไปให้พ้นแต่ผลักเท่าไรมันก็ไม่ออกไปสักทีจนกระทั่ง...“เร็น ลูกมาตั้งแต่เมื่อไหร่” เหมือนโชคจะเข้าข้างไอรีนเมื่ออยู่ๆเสียงของน้าผกาก็ดังขึ้น คนทั้งคู่ต่างก็มองไปยังหญิงวัยกลางคนที่ยืนส่งยิ้มอยู่ไม่ไกล ไอรีนได้จังหวะนั้นแกะมือของเร็นออกจากแขนของเธอได้สำเร็จ“น้าผกากลับมาแล้วเหรอคะ” เธอรีบล็อคประตูห้องนอนของตัวเองแล้วเดินไปหาน้าผกาทันที“จ้า น้ากลับมาแล้วว่าแต่ลูกชายของน้ามาตั้งแต่เมื่อไรเหรอ” น้าผกายิ้มรับด้วยใบหน้าสดใสและไม่ลืมที่จะถามไปถึงลูกชายของเธอ ไอรีนปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เธอยิ้มแล้วตอบกลับอย่างไม่มีพิรุธใดๆ“มาตั้งแต่วันศุกร์ตอนเย็นแล้วค่ะ พ่อละคะ”“พ่อหนูอยู่ข้างล่างลูก”“งั้นไอรีนขอตัวลงไปหาพ่อก่อนนะคะ” เมื่อได้ยินแบบนั้น ไอรีนก็ใช้จังหวะนี้เดินลงไปข้างล่างได้อย่า
เธอมองหน้าเร็นแล้วนิ่งอย่างครุ่นคิดว่าเด็กนี่มันเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร มันเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนไหนแล้วทำไมเธอถึงไม่รู้อะไรเลย แต่ช่างเถอะจะมาคิดตอนนี้มันก็คงไม่ช่วยอะไรสู้หาทางกลับไปนอนห้องของตัวเองให้ได้ก่อนจะดีกว่าแล้วทางเดียวที่คิดออกก็คือคงต้องพึ่งพ่อกับน้าผกา...“นี่!! พ่อกับน้าผกาอาจจะกลับมาตอนเช้าก็ได้นะ” เธอพูดออกไปใจก็หวั่นเกรงกลัวว่ามันจะไม่ยอมให้เธอออกไป ใจของไอรีนเต้นแรงมาก มากเสียจนกลัวว่าเด็กหนุ่มข้างกายของเธอจะได้ยิน“แล้วไง เขาไม่เปิดประตูเข้ามาหรอก แต่ถ้าเปิดก็ดีเหมือนกัน” ดียังไงของมันไอรีนทำสีหน้าโกรธ เร็นยิ้มร้ายพูดตอบกลับไอรีนด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน เขาคิดว่าเห็นก็ดีเพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้คิดที่จะปกปิดเรื่องระหว่างเขากับเธออยู่แล้วยังไงซะพ่อของเธอกับแม่ของเขาก็ควรที่จะต้องรู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้วและถ้าจะทำให้พวกเขาเห็นเร็วขึ้นเขาก็คิดว่าน่าจะดีมากๆเหมือนกัน ไอรีนที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่อึ้ง เธอกระพริบตาถี่ๆอย่างคนที่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ“ดีกับผีอะดิ อะ จะทำอะไร?” ไอรีนหันหน้ามองไปทางอื่นซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เร็นเอื้อมมือมาเชยคางของเธอให้หันกลับมามองหน้ากัน หญิ
“พูดแบบนี้อยากต่อรอบสองใช่ไหม ได้นะ” หนุ่มวิศวะเริ่มขยับเข้าออกยังรูร่องสีหวานอีกครั้งทำเอาไอรีนเบ้หน้าหวาดกลัวจนตัวสั่นไหว เธอกระพริบตาถี่ๆอย่างคนที่น่าสงสารคนหนึ่ง มือเล็กผลักดันอกแกร่งของเขาเอาไว้“อย่านะ!” เร็นมองดูภาพตรงหน้านิ่งแล้วเพียงชั่วครู่เขาก็ลอบถอนหายใจออกมา ก็ได้นี่เห็นว่าเป็นครั้งแรกที่เธอรู้เรื่องนี้หรอกนะเขาจึงยอมปล่อยเธอให้ได้พักผ่อน หนุ่มวิศวะยกร่างเล็กขึ้นเล็กน้อยเขาดึงความเป็นชายออกมาจากร่องของรุ่นพี่สาวน้ำกามที่อยู่ภายในร่องไหลย้อนกลับออกมาเขามองดูน้ำสีขาวขุ่นแล้วคลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจไอรีน..เธอรู้สักทีนะว่าเขาคนนี้นี่แหละที่เป็นเจ้าของเธอแต่เพียงผู้เดียว...ไอรีนดึงผ้าห่มมาพันร่างกายอย่างลวกๆ เธอค่อยๆขยับเพื่อเตรียมที่จะลงจากเตียงนอนแต่ทว่ากลับโดนมือเขาจับเธอเอาไว้ก่อน“ปล่อยนะ!” เธอมองหน้าเขาอย่างไม่วางตาเพราะไม่รู้ว่าไอ้บ้านี่มันจะทำอะไรเธออีกหรือเปล่า“จะไปไหน จะกลับห้องด้วยสภาพแบบนี้น่ะเหรอ” สายตาคมมองไปตามเรือนร่างของรุ่นพี่สาว เขาแสยะยิ้มออกมาราวกับสมเพชไอรีน“แบบนี้แล้วจะทำไม ปล่อยนะ! จะไปเข้าห้องน้ำ” ไอรีนคิดไว้แล้วว่าจะเข้าไปแต่งตัวในห้องน้ำก่อน เธอต้อง
“ไปเอากับคนอื่นไป ฉันไม่ชินอะไรทั้งนั้น!!”“กล้าไล่ฉันแบบนี้รู้ผลที่จะตามมาหรือยัง” เร็นเงยหน้ามองไอรีนเขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่เธอคอยแต่ไล่กันแบบนี้ หนุ่มวิศวะเลือดร้อนลุกนั่งหลังตรง เขาจับขาเรียวของเธออ้าออกกว้างแล้วสวนสะโพกเข้าใส่ถาโถมรุนแรงปึก! ปึก! ปึก!“อ๊า~ อือ อะ พอแล้วหยุดทำแบบนี้สักที!!” หน้าอกทั้งสองข้างสั่นไหวไปหมด เร็นมองดูภาพนั้นก็ยิ่งทำให้ใจเต้นอย่างฮึกเหิม เขาเร่งจังหวะขยับเข้าออกเน้นๆจนร่างเล็กตรงหน้าสั่นคลอนไปทั่วทั้งตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เขาเอื้อมมือไปเขี่ยขยี้จุดไวสัมผัสของรุ่นพี่สาว ไอรีนเบ้หน้าไปมาด้วยความเสียดเสียว เมื่อไหร่กันนะที่เรื่องบ้าๆนี่จะจบลงสักที เธอเอื้อมมือไปจับเข้าที่มือหนานั้นพร้อมทั้งส่งสายตาอ้อนวอนรวมไปถึงคำพูดที่สื่อว่าไม่ไหว“พอแล้วเร็น ฉันไม่ไหว~” เธอไม่ไหวจริงๆดั่งคำที่ปากพูด แบบว่ามันทั้งเจ็บทั้งจุก..แต่มันก็ยังแฝงไปด้วยความรู้สึกเสียวจนต้องขมิบส่วนนั้นอยู่บ่อยครั้ง“ไม่ไหวในที่นี้คือเสียวจนจะทนไม่ไหวหรือเปล่า” ชายหนุ่มตัวร้ายยิ้มขึ้นที่มุมปากเขารู้ว่าเธอคงจะเสียวไปกับสิ่งที่เขากำลังกระทำอยู่“….” ไอรีนเลือกที่จะเงียบเพราะสิ่งที่มันพู







