LOGIN“นี่คุณน้าผกามาศ สวัสดีเขาสิ..ไอรีน” ว่าแล้วเชียวว่ายัยนี่ต้องเป็นผู้หญิงคนใหม่ของพ่อ แต่ยอมรับเลยว่าเธอสวยมากแต่สวยน้อยกว่าแม่ของเธอหน่อยนะ สองมือเล็กยกมือขึ้นสวัสดีไปยังผู้หญิงคนนั้นอย่างมีมารยาทเพราะเดี๋ยวถ้าไม่ไหว้เธอจะหาว่าไม่มีมารยาทเอา
“สวัสดีค่ะ คนนี้แฟนใหม่ของพ่อหรือคะ” ไอรีนมองไปยังผู้หญิงคนนั้นที่กำลังยิ้มอย่างเขินอายเมื่อโดนเธอพูดแบบนั้นใส่และเมื่อคิดว่าคงไม่ได้คำตอบจากปากของเธอคนนี้แน่ ไอรีนจึงหันไปถามพ่อตัวเอง ทั้งที่..ก็รู้อยู่เต็มอกว่าเธอต้องใช่ผู้หญิงคนใหม่ของพ่อแน่ๆแต่ทว่าพ่อยังไม่ทันที่จะตอบกลับใดๆ เสียงหวานของผู้หญิงคนนั้นก็ดังแทรกพูดขึ้นเสียก่อน
ใบหน้าสวยยิ้มหวานมองไอรีนอย่างเอ็นดู...
“หวัดดีจ้ะหนูไอรีน น้าชื่อผกานะคะ ยินดีที่ได้มารู้จักกับสาวน้อยที่หน้าตาน่ารักอย่างหนูนะคะ” เสียงหวานพูดเพราะหน้าตาสะสวยแบบนี้นี่เองถึงทำให้พ่อของเธอหลงรักหัวปักหัวปําจนต้องรีบทำเรื่องขอหย่ากับของแม่
“ขอบคุณค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักน้าผกาเช่นกันนะคะ” ไอรีนทำทีเป็นยิ้มตอบกลับไปทั้งที่ในใจไม่ได้อยากที่จะรู้จักเธอสักนิด
“พ่อกับน้าผกากำลังจะแต่งงานกันในเร็วๆนี้” พ่อพูดต่อจากผู้หญิงคนนั้นอีกทั้งมือหนาของพ่อก็โอบกอดเอวบางของเธอไว้แน่น โอ๊ย อยากจะบ้าตายจะมาโชว์หวานกันอะไรตรงนี้แล้วก็นะจะมาบอกกันทำไม
จะแต่งก็แต่งไปในเมื่อเธอทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว แต่คำพูดของพ่อก็ทำให้เธออดที่จะรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมกับแม่ของเธอไม่ได้อยู่ดี
“ยังไม่ทันจะได้ไปหย่ากับแม่เลยนะพ่อ!” ไอรีนพูดขึ้นเพราะเธอรู้สึกว่ามันเร็วเกินไป งั้นขอเธอต่อสู้พูดเพื่อแม่ของตัวเองสักหน่อยเถอะ เกลียดจริงๆไม่รู้จะรีบแต่งงานกันไปถึงไหน อยากจะรีบย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันมากนักหรือไง ทีเมื่อก่อนทำไมถึงทนได้ล่ะทั้งที่แยกกันอยู่แบบนั้น
ใบหน้าสวยของลูกสาวทำเอาคนเป็นพ่อรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบใจของเธอ...
“พ่อก็แค่พูดเอาไว้ก่อน แล้วนี่กินข้าวมาแล้วหรือยัง” พ่อพูดเสียงนุ่มชวนฟัง เข้าใจในสิ่งที่ลูกกำลังรู้สึก แต่เขาก็แค่อยากให้ทั้งไอรีนและผกาได้ลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในบ้านหลังนี้ดู ไอรีนจะได้รู้ว่าผกาเป็นผู้หญิงที่ดีมากคนหนึ่ง
“กินมาแล้วค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” ไอรีนหันไปบอกพ่อตัวเอง สองเท้าเล็กเดินตรงไปยังบันไดทางขึ้นห้องนอนของเธอ
บนห้องนอน
หลังจากที่เดินเข้ามาในห้องส่วนตัวของตัวเองแล้ว ไอรีนก็รีบวางกระเป๋านักเรียนแล้วเดินตรงไปนั่งบนเตียงนอนหรู ใบหน้าสวยกลั้วหัวเราะในลำคอพลางนึกขึ้นได้ว่าผู้หญิงคนนั้นมีลูกติดที่เป็นผู้ชายด้วยนี่แล้วทำไมวันนี้ไม่พามันเข้ามาเย้ยเธอไปพร้อมๆกันเลยละ
“หึ~ เริ่มพากันมาเปิดตัวแล้วสินะและทำไมไม่พาลูกชายเข้ามาหาพ่อด้วยเลยล่ะ เฮ้อ ชั่งๆไม่อยากสนใจแล้ว” ไอรีนสะบัดหัวไปมาเมื่อคิดได้ว่ามันเรื่องอะไรที่เธอต้องมานั่งคิดถึง 2แม่ลูกนั่นด้วย
ครืด~
จังหวะนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น ร่างเล็กเอื้อมไปหยิบกระเป๋านักเรียนเพื่อที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาและเมื่อเธอได้เห็นว่าใครที่กำลังโทรเข้า ใบหน้าสวยก็ฉีกยิ้มออกมาทันที
“โอ๊ะ! แม่โทรมาพอดีเลย” เธอรีบกดรับสายแม่ตัวเอง
“ฮัลโหลค่ะแม่”
(เป็นยังไงบ้างลูก ไปเรียนสนุกหรือเปล่า)
“ก็ดีค่ะแม่ ไอรีนมีเพื่อนที่ดีที่คอยอยู่เคียงข้าง เอ่อ..แม่คะ แม่รู้อะไรไหม วันนี้พ่อได้พาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาแนะนำให้ไอรีนได้รู้จักด้วยนะ”
(แล้วลูกคิดยังไง ผู้หญิงคนนั้นมองลูกด้วยสายตาแบบแม่เลี้ยงในละครหรือเปล่า)
“อืม ก็ไม่นะคะแต่ของแบบนี้ต้องดูกันไปยาวๆค่ะ” ไอรีนทำสีหน้าครุ่นคิดก็พบว่าเธอคนนั้นเพียงแค่ยิ้มๆไม่ได้แสดงอาการอะไรแต่เรื่องแบบนี้ต้องดูกันไปยาวๆเพราะเธออาจจะยังไม่แสดงตัวตนก็เป็นได้
(วันพรุ่งนี้ แม่ต้องไปจดทะเบียนหย่ากับพ่อของลูกแล้วนะ)
“ไอรีนทำใจพอได้แล้วค่ะ ขอแค่แม่อย่าทิ้งไอรีนไปเลย อย่างน้อยแม่ต้องทักมาหาไอรีนทุกวันด้วยนะ ไอรีนจะรอแม่ทักมา”
(แม่อยากให้ลูกมาอยู่กับแม่ด้วยซ้ำ ลูกไม่อยากไปเรียนต่อที่ต่างประเทศบ้างเหรอ)
“แม่คะ ไอรีนอยู่ม.6แล้วนะคะและไอรีนก็อยากใช้ชีวิตกับเพื่อนในรั้วมหาวิทยาลัยที่ไทยค่ะ แม่เข้าใจไอรีนใช่ไหมคะ”
(อืม แม่เข้าใจ เอาไว้แม่จะโทรหาลูกทุกวันแล้วกันนะ)
“แม่คะ ไอรีนรักแม่นะ แม่ย้ายไปอยู่ที่โน้นแม่ต้องรักษาสุขภาพด้วยนะ อากาศยิ่งหนาวๆอยู่”
(แม่ขอบใจลูกมากนะที่เข้าใจแม่)
“งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ ไอรีนขอตัวไปอาบน้ำก่อน”
ติ้ด~
เมื่อกดวางสายแม่ตัวเองไปแล้วเธอก็ลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำทันที
5 เดือนผ่านไป
ในตอนนี้ความรู้สึกของฉันดีขึ้นมาแล้วเพราะมันก็ผ่านเลยมาถึง 5 เดือนเข้าไปแล้ว พ่อกับแม่หย่ากันไปแล้ว ต่างคนก็ต่างแต่งงานใหม่ แม่แต่งงานกับนักธุรกิจชาวต่างชาติท่านเลยต้องย้ายไปอยู่กับสามีใหม่ที่อังกฤษ
ส่วนพ่อพอแต่งงานกับน้าผกาก็พาเธอเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในบ้านหลังนั้นแต่ที่น่าแปลกก็คือวันงานแต่งรวมมาถึงจนตอนนี้ฉันยังไม่เคยได้เห็นหน้าลูกชายของเธอเลย วันงานแต่งแม่ตัวเองก็ไม่มาร่วมพิธีไม่รู้ว่าเป็นเด็กแบบไหนกันแน่
ช่างเถอะ มันไม่ใช่เรื่องของฉัน...
ณ โรงอาหารของโรงเรียน
“แกว่าวันนี้ยัยเชอจะมาโรงเรียนไหวปะ” ไอรีนถามขึ้นในขณะที่ริมฝีปากกำลังเคี้ยวอาหารด้วยความเอร็ดอร่อยและที่เธอถามออกไปแบบนั้นก็เป็นเพราะยัยเชอรีนนั้นไม่สบายจนต้องหยุดเรียนไปแต่เชื่อฉันไหมว่ายัยนั่นต้องมีเรื่องเครียดอะไรสักอย่างแต่ยังไม่ยอมบอกพวกเรา 2 คน
“ฉันว่าไหว ดูนั่นสิเธอเดินมาโน้นแล้ว” เพียวชี้มือไปยังข้างหลังของไอรีน ทำให้ไอรีนรีบหันไปมองก่อนที่จะพบว่ายัยเชอกำลังเดินเข้ามาหาพวกเรา
เชอรีนฉีกยิ้มเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองของตัวเองที่กำลังนั่งรับประทานข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย
“เรามาแล้ว~” เสียงหวานเอ่ยบอกเพื่อนรักซึ่งทั้งสองต่างก็หันหน้ามองไปทางเชอรีน ไอรีนกวักมือเรียกเชอรีนให้ไปนั่งลงข้างกายเธอ
“มาแล้วเหรอ กินอะไรมาหรือยัง หน้าแกยังดูซีดๆอยู่เลย มานั่งนี่เร็ว!” ไอรีนมองไปยังใบหน้าของเพื่อนสนิทซึ่งหน้าของยัยนั่นยังคงดูซีดๆอยู่เลย
“เดี๋ยวเราก็หายแล้ว อยากมาเจอหน้าพวกแกน่ะอยู่ห้องคนเดียวน่าเบื่อจะตาย~” เชอรีนส่งเสียงหวานเดินไปนั่งตามคำเชิญของเพื่อน ใบหน้าเธอยังคงดูเศร้าและอิดโรยทำเอาไอรีนกับเพียวต่างก็มองด้วยความสงสัย
ไอรีนกับเพียวมองหน้ากันแล้วก็เป็นเพียวที่เป็นฝ่ายถามเชอรีนออกมา
“มีอะไรที่อยากจะเล่าให้พวกฉันฟังหรือเปล่า” มือของเพียวจับเข้าที่มือเชอรีน เชอรีนมองมือนั้นที่เพื่อนของเธอกำลังจับอยู่ ฮึบ! ไม่ว่าอย่างไรเธอต้องเข้มแข็งในเมื่อมีเพื่อนทั้งสองที่อยู่ข้างกายและคอยเป็นกำลังใจให้เธอแบบนี้
เชอรีนสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างเต็มที่ เธอเลือกที่จะบอกเพื่อนรักไปตามความจริงเพราะเธอไม่มีอะไรที่จะต้องปกปิดอยู่แล้วต่อไปยังไงทุกคนก็ต้องรู้เข้าสักวัน งั้นก็ขอให้รู้จากปากของเธอเลยก็แล้วกัน
“เราเลิกกับเวหาแล้ว!!”
“มันเรื่องของฉัน!” เร็นมองหน้าสวยหวานของรุ่นพี่สาวสายตาที่เขามองเธอมันเต็มไปด้วยความเย็นชาจนไอรีนนั้นเริ่มทนไม่ไหวปัง!!เธอตบโต๊ะอาหารอีกครั้ง เรื่องของฉันอย่างนั้นเหรอ ไอ้เด็กบ้านี่มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ“พูดจาห้วนๆแบบนี้อีกแล้วนะ ฉันแก่กว่านายนะ ไอ้เด็กบ้านี่!!” ไอรีนใบหน้ายู่ ชี้มือด่ากราดไปยังเด็กหนุ่มนิสัยไม่ดีตรงหน้า มีอย่างที่ไหนที่รู้จักกันแล้วแต่ก็ยังคงทำตัวพูดจาเดิมๆห้วนๆแบบนี้ใส่เธออยู่อีก“ไม่เอาน่าไอรีน ปล่อยน้องไปเถอะถือว่าพ่อขอแล้วกัน” พ่อเอื้อมมือมาจับแขนไอรีนพร้อมทั้งเอ่ยขอร้องแทนลูกชายของภรรยาใหม่ ไอรีนมองมือของพ่อที่จับแขนของเธอ นี่แค่วันแรกที่มันเข้ามาเหยียบในบ้านเองนะ พ่อยังขอร้องเธอให้มันขนาดนี้แล้วต่อๆไปเธอไม่กลายไปเป็นหมาหัวเน่าเลยเหรอ...“แต่ว่า..ก็แล้วแต่พ่อแล้วกันค่ะ ไอรีนขอตัวก่อนนะคะ” เธอนั่งลงที่เก้าอี้ตามเดิม เสียงถอนหายใจดังขึ้นอย่างเหนื่อยหน่าย ถ้าพ่ออยากให้พอเธอก็จะพอตามใจพ่อก็แล้วกัน ไอรีนหยัดกายลุกขึ้นยืนเมื่อคิดว่าตรงนี้ไม่น่าจะใช่ที่ของเธอแล้วเธอเดินสาวเท้าขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน เดินเข้าไปยังในห้องนอนของตัวเองและไม่ลืมที่จะบ่นไปยังได้เด็กผู้ชา
แม่บ้านรีบเดินออกไปเรียกลูกชายของน้าผกาและเพียงไม่นานชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีก็เดินเข้ามาตามหลังแม่บ้าน ผการีบลุกขึ้นยืนส่งเสียงดังเรียกชื่อลูกชายตัวเอง ความรู้สึกดีใจทำให้เธอเผลอลืมตัว“เร็น..มาแล้วเหรอลูก มานั่งข้างแม่เร็ว”“ครับ” เด็กหนุ่มขานรับเพียงแค่นั้นก่อนที่จะเดินเข้ามานั่งยังเก้าอี้ข้างแม่และเขาไม่รอช้าที่จะยกมือไหว้ไปยังสามีใหม่ของแม่ตัวเองพร้อมกับเริ่มแนะนำตัวเสร็จสรรพ“สวัสดีครับ ผมชื่อเร็น” เด็กหนุ่มยิ้มหน้าเจือนให้กับสามีใหม่ของแม่ตัวเองและทันทีที่ได้ยินคำแนะนำตัวที่ออกมาจากปากของเด็กหนุ่ม พ่อของไอรีนก็ทำเพียงแค่ยิ้ม เขาเปรยตามองไปยังใบหน้าหล่อเหลาของเร็นเด็กหนุ่มคนนี้หน้าตาดีผิวพรรณใช้ได้แต่คงต้องค่อยๆสอนเรื่องมารยาทเสียหน่อย อาจจะเพราะยังเด็กยังเป็นวัยรุ่นอยู่ด้วยนั่นแหละจึงทำให้ไม่ค่อยใส่ใจคนรอบข้างสักเท่าไหร่“หนูไอรีน นี่เร็น..ลูกชายของน้าเอง” น้าผกายิ้มกว้างเริ่มแนะนำลูกชายตัวเองให้ไอรีนได้รู้จัก เธอหวังเป็นอย่างยิ่งที่อยากจะให้เด็กทั้งสองได้อยู่ด้วยกันประดุจดั่งพี่น้องที่คลานตามกันมาแต่ทว่าเธอก็ไม่รู้เลยว่าเร็น..ลูกชายของเธอจะยอมย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันเมื่อไหร่“เร
เก้าหยิบเงินที่อยู่ในกระเป๋านักศึกษาแล้วยื่นไปให้กับพนักงาน เขาหยิบถุงพวกนั้นขึ้นมาแล้วหยิบชานมไต้หวันของตัวเองเก็บไว้กับตัว ส่วนที่เหลือก็ยื่นไปให้เชอรีนให้จัดการแจกจ่ายให้กับเพื่อน และด้วยความที่เห็นว่าตอนนี้มันก็เย็นมากแล้วเค้าก็ไม่ลืมที่จะถามไปถึงเรื่องของการเดินทางกลับบ้านของน้องสาวตัวเอง“แล้วนี่กลับยังไงให้พี่ไปส่งไหม”“เดี๋ยวลุงคนขับมารับค่ะพี่เก้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”“อืม” เมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ“แล้วนี่เหนื่อยหรือเปล่า”“เหนื่อยค่ะ วันนี้เหนื่อยมากก็เลยว่าจะแยกย้ายกลับไปนอน” เชอรีนพยักหน้าแล้วทำหน้ายู่ วันนี้ยอมรับว่าเหนื่อยจริง เหนื่อยจนอยากรีบกลับไปอาบน้ำเปิดแอร์แล้วนอนเก้าลูบศีรษะลูกพี่ลูกน้องด้วยความเอ็นดู เขายิ้มให้กับเธอพร้อมกับค่อยๆใช้มือขยี้เส้นผมของเธอไปมา ไอรีนมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่ชื่นชมไปกับความน่ารักของพี่ชายเชอรีน“งั้นก็ดี พักผ่อนเยอะๆ พี่ไปก่อนนะ” ทันทีที่พูดจบหนุ่มรุ่นพี่คณะทันตะก็ได้เดินออกไปจากร้านทันทีเพราะวันนี้เขายังมีงานที่ต้องรีบเคลียร์ให้เสร็จ“ยัยเชอ..” และทันทีที่พี่เขาได้เดินออกไปจากร้านแล้ว ฉันก็ได้เรียกชื่อเพื่อนสนิททัน
วิเวียนที่ได้ยินแบบนั้นก็อึ้งเพราะไม่คิดว่าเพื่อนใหม่ของเธอจะใจดีและดีกับเธอได้ถึงเพียงนี้และดูเหมือนจะเริ่มมีหยดน้ำตาไหลซึมออกมาจากดวงตาคู่สวย เธอรีบยกมือขึ้นเช็ดคาบน้ำตาที่ไหลบนใบหน้าทันที“ขอบใจพวกเธอมากเลยนะ ดีกับเรามากจริงๆ ตอนอยู่มอปลายเราไม่มีเพื่อนเลย ตอนนั้นเราเป็นเด็กทุนเพียงคนเดียวของห้องด้วย” เธอพูดไปใบหน้าก็เริ่มเศร้าหมองในตอนเรียนมัธยมปลายนั้นเธอไม่มีเพื่อนสนิทเลยแม้แต่คนเดียว ในห้องเรียนส่วนมากจะมีแต่พวกลูกคุณหนูจึงไม่แปลกที่พวกเธอเหล่านั้นจะไม่คิดที่จะเอาคนอย่างเธอไปเป็นเพื่อนเพียวยืนหยุดนิ่งแล้วรีบเดินเข้ามาโอบกอดร่างเล็กของวิเวียนทำไมชีวิตเธอถึงได้น่าสงสารขนาดนี้ความจนนี่ถึงกับทำให้ไม่มีเพื่อนดีๆได้เลยหรือไง คอยดูนะเธอจะทำให้ทุกคนได้รู้ว่าพวกเธอกับวิเวียนก็สามารถเป็นเพื่อนสนิทกันได้“เรื่องมันผ่านไปแล้วลืมๆมันไปได้แล้วตอนนี้แกมีพวกเรานะ จุ๊บๆ แล้วเดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จักกับแฟนของฉันด้วย เขาเรียนอยู่วิศวะมหาลัยนี้นี่แหละ ชื่อมาร์ช เธอจะได้มีเพื่อนหลายๆคน”“มาร์ช ที่พูดกันเมื่อกี้หรือเปล่า” วิเวียนเอียงคอสงสัย เหมือนว่าเธอจะได้ยินชื่อมาร์ชเมื่อครู่นี้ใช่มั้ยนะ เธอผละกาย
วิเวียนรับรู้ถึงความจริงใจของเชอรีนจึงทำให้เธอเผยรอยยิ้มออกมา ขอบคุณมากขอบคุณพวกเธอจริงๆที่อยากเป็นเพื่อนกับผู้หญิงจนๆแบบเธอ วิเวียนมีสีหน้าที่ดีขึ้นใบหน้าเริ่มคลี่ยิ้มอ่อนโยน เธอหยิบโทรศัพท์มือถือนำขึ้นมากดสแกนเพิ่มเพื่อน“หวัดดีนะวิเวียน เราไอรีนยินดีที่ได้รู้จักต่อไปพวกเราเป็นเพื่อนกันนะ” ไอรีนกล่าวถ้อยคำสั้นๆทักทายไปยังเพื่อนสาวคนใหม่หวังว่าเธอคนนี้จะเป็นคนดีและเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันนะ“ขอบใจนะงั้นเดียวเราเข้าไปยื่นใบสมัครก่อนนะ ไว้เจอกันตอนเปิดภาคเรียนนะ” วิเวียนยิ้มกว้างรู้สึกโชคดีมากได้มาพบเจอกลุ่มของหญิงสาวสามคนนี้แต่เธอจำใจต้องขอจบบทสนทนาไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อนเพราะในเวลานี้เธอแทบจะไม่มีเวลาหลงเหลือแล้ว คนจนแบบเธอต้องรีบเข้าไปยื่นใบสมัครแล้วต้องรีบกลับไปทำงานรับจ้างปูๆปลาๆตามประสางานอะไรก็ได้ที่มันได้เงินเธอพร้อมสู้ตาย....“โอเค เราดึงวิเวียนเข้ากลุ่มแล้วนะ บัยบายไว้เราทักไปนะ” เชอรีนเงยหน้าขึ้นมองสบตาเพื่อนใหม่พร้อมทั้งยกมือขึ้นร่ำลา ในตอนนี้เธอดึงวิเวียนเข้ามาในกลุ่มไลน์ของพวกเธอเรียบร้อยแล้ว วิเวียนโบกมือลาพร้อมกับรีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปด้านในของคณะ“โอเคง
“โอเคเลย~”มาร์ชที่พอรู้ว่าคณะวิศวะของตัวเองอยู่ตรงไหนก็รีบสาวเท้าเดินออกไปทันที“งั้นพวกเราก็เข้าไปด้านในกันเถอะ” เพียวที่เห็นแฟนหนุ่มเดินออกไปแล้วจึงเอ่ยชวนเพื่อนรักทั้งสองให้เดินเข้าไปในคณะโดยที่มีเพียวกับไอรีนเดินนำอยู่ข้างหน้าแล้วตามด้วยเชอรีนเดินตามหลังคณะนิเทศศาสตร์ทันทีที่เธอได้เดินเข้าไปยังคณะ พวกเธอก็ได้พบกับหญิงสาวรายหนึ่งที่มองยังไงก็หน้าตาคล้ายกับเชอรีนไม่มีผิด ไอรีนกับเพียวต่างก็มองหน้ากันหรือว่าพี่คนสวยคนนี้จะเป็นญาติของเพื่อนเธอหรือเปล่านะ“มาแล้วเหรอเชอรีน~” แชมเปญหันไปมองเห็นน้องสาวของตัวเองเดินเข้ามาพอดีจึงทำให้เธอรีบเดินเข้าไปหา ใบหน้าสวยฉีกยิ้มขึ้นทำเอาไอรีนกับเพียวต่างก็รู้สึกชื่นชมไปกับความสวยของพี่เขา ผู้หญิงอะไรสวยชะมัด เชอรีนรีบเดินเข้าไปหาคนพี่ ทั้งสองโอบกอดกันกลมเพราะเป็นเวลาหลายวันแล้วที่เธอไม่ได้เจอพี่สาวคนโตเลย...“พี่แชมเปญคิดถึงจังเลยค่ะ~” คนน้องพูดขึ้นด้วยความคิดถึงทั้งสองผละกายออกจากกันแล้วก็เป็นเธอที่เริ่มแนะนำพี่สาวให้เพื่อนทั้งสองได้ทำความรู้จัก“พวกแกนี่พี่สาวเราเอง” ที่แท้สาวสวยคนนี้ก็เป็นพี่สาวของเพื่อนเธอนี่เอง ไอรีนกับเพียวต่างก็รีบยกมือขึ







