เสียงสนทนาของคนทั้งโต๊ะเริ่มสนุกสนานมากขึ้น ยิ่งดึกก็ยิ่งครึกครื้นทั้งเสียงดนตรีและเสียงพูดคุยของคนในร้าน คนที่ดื่มบ่อยก็ยังมีสติกันดี แต่กับคนที่นานทีปีหนอย่างซินตอนนี้เริ่มจะนั่งตัวตรงไม่ได้แล้ว
เวลาร่วมสามชั่วโมงเธอก็ได้คุยกับคนทั้งโต๊ะให้พอสนิทกันได้บ้าง ยกเว้นคนที่นั่งตัวติดกันอยู่นี้ที่ไม่คุยอะไรกันเลยเพราะเขาเอาแต่เทเหล้าให้เธออย่างเดียว พูดเป็นแต่คำว่า ดื่ม ชน กับหัวเราะในลำคอ
“พะ พอ แล้ว” ซินโบกมือให้พันไมล์เพราะเขากำลังจะเทให้เธออีกแล้ว อันที่จริงเขาก็เทให้ทุกคนแต่พวกนั้นไม่เห็นเมากันสักคน ก็อย่างว่าละ เด็กพวกนี้ดื่มกันบ่อยจะตาย ยิ่งเด็กวิศวกรรมศาสตร์เธอสู้ไม่ได้ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว
“เมาแล้ว ?” เจ้าของใบหน้าอันหล่อเหลาหันไปมองคนที่นั่งข้างกันพร้อมกับเลิกคิ้วเป็นคำถาม สีหน้ายียวนแบบนั้นทำเอาซินถึงกับไม่อยากสบตา ต้องเบือนหน้าหนี
“อืม” ซินครางตอบเบา ๆ ในลำคอ
“ไม่ได้ดื่มบ่อยเหมือนพวกนายนี่”
“หึ อ่อน”
หญิงสาวหันหน้าไปมองเขาอีกครั้ง พันไมล์ยกแก้วขึ้นดื่มจนหมด เหมือนอยากจะโชว์ให้เธอดูว่าเขามันโคตรเท่ แต่ก็ยอมรับว่าแม้แต่ท่ายกแก้วขึ้นดื่มแบบนั้นมันดูดีจริง ๆ ตอนที่ของเหลวนั้นผ่านช่วงลำคอ พื้นที่ตรงนั้นมันขยับเล็กน้อย ก็ทำเอาเธอมองตาค้างได้
เซ็กซี่เหลือเกิน...
ยัยซินคงเมาจนเสียสติไปแล้ว
“มะนาว ปวดฉี่”
“ไปเองได้ไหม หรือให้ไปส่ง”
“ไปเองได้ ฝากกระเป๋าหน่อย” ซินบอกเพื่อนแล้ววางกระเป๋าตัวเองไว้บนโต๊ะ เวลานี้เธอรู้สึกว่าร่างกายหนักอึ้งจนไม่อยากพกอะไรติดตัวเลยสักอย่าง
“ไหวแน่นะ”
“ไหว” ซินบอกเพื่อนแล้วขยับตัวลุกขึ้น ทว่าจังหวะที่ลุกขึ้นยืนก็เหมือนโลกมันหมุนเร็วหรือไม่ก็แผ่นดินไหว เจ้าของเรือนร่างบอบบางในชุดเดรสสายเดี๋ยวสีครีมถึงกับเซจนเกือบล้ม โชคดีที่มีคนรับไว้ทัน
แต่จะเป็นใครไปได้…
ซินลมหายใจขาดช่วง ก็เธอดันเซไปทางผู้ชายไม่ใช่เพื่อน พอจะดันมือออกก็คงไม่ทันแล้ว เพราะอีกฝ่ายก็ตกใจรวบเอวเธอไว้เหมือนกัน ซึ่งภาพนั้นกำลังตกอยู่สายตาของคนทั้งโต๊ะ !
“เอาแล้ว~”
“ตายละเพื่อนกู” มะนาวอุทานออกมาแต่ก็ไม่คิดจะช่วยดึงเพื่อนออกจากอ้อมแขนของรุ่นน้องเพราะเห็นว่าปลอดภัย
“ไหวแน่นะ” คำพูดที่ออกจากปากของพันไมล์เรียกสติของซินมาได้เพียงนิด เธอพยักหน้าแล้วดันตัวขึ้น
“อืม” หญิงสาวตอบไปแบบนั้น เพราะความเมาทำให้เธอลืมเอ่ยคำขอบคุณอีกฝ่ายไป
รู้ตัวอีกทีก็เดินมาหยุดหน้าห้องน้ำที่คนยืนต่อคิวกันยาวเหยียด ยิ่งดึกสถานที่ตรงนี้คนก็ยิ่งมากขึ้นทุกที แถมความวุ่นวายก็มีมากขึ้นด้วยเพราะคนส่วนมากเมามายกันไม่เว้นแม้แต่เธอ
ซินยืนรอจนฉี่แทบราด กว่าจะได้เข้าไปทำธุระของตัวเองก็เกือบยี่สิบนาที พอออกมาเธอก็เลือกที่จะยืนมองบรรยากาศอยู่ด้านนอกเพราะยังไม่พร้อมจะเข้าไปสู้ต่อ เด็กวิศวะพวกนั้นดื่มเหล้าอย่างกับน้ำเปล่า เธอไม่ตายก็ดีเท่าไรแล้ว
“ไง”
เสียงทักทายของใครบางคนดังขึ้นจากทางด้านหลัง ซินที่นั่งพักอยู่กับรั้วเตี้ยของร้านหันไปมอง คิดว่าจะเจอคนรู้จักแต่กลับกลายเป็นคนที่เพิ่งรู้จัก
“ว่าไง” เธอทำตัวไม่ถูก จึงส่งยิ้มบาง ๆ ไปให้เขา
ไม่ใช่ใครแต่เป็นพันไมล์ ในมือเขามีบุหรี่ที่เหลือเพียงครึ่งมวน หนุ่มรุ่นน้องพ่นควันสีขาวขุ่นลอยฟุ้งออกมาทั้งจมูกและปาก สายตาจับจ้องมาที่เธอกับรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์
เขาแบดบอยเกินไปในสายตาเธอ
“เมาแล้วเหรอ”
“อืม ปกติไม่ได้ดื่มหนักขนาดนี้” ถ้าไม่นับตอนที่ยังเรียนอยู่ หลังเรียนจบเธอก็ดื่มแค่นานครั้ง พอเสียคนรักไปเธอก็ไม่แตะมันเลย
“หึ”
หญิงสาวลอบมองเขากับเสียงหัวเราะที่ดังออกมา ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร เธอเริ่มสงสัยว่าทำไมเขาถึงชอบหัวเราะใส่เธอแบบนั้น
“หัวเราะอะไร”
“เปล่า”
พันไมล์เป็นผู้ชายที่ดูดีมาก เรื่องนี้เธอยอมรับแบบไม่มีข้อแม้ ทั้งรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นจนใครต่อใครต้องเหลียวมอง ขนาดนั่งคุยกันอยู่ตรงนี้เธอยังเห็นผู้หญิงหลายคนมองเขาทุกราย ก็ไม่แปลกที่เขาจะใช้ชีวิตพัวพันกับเรื่องผู้หญิงจนใครต่อใครต่างนินทา
“ไม่เข้าไปล่ะ เพื่อนกำลังสนุกเลย” หญิงสาวว่าแล้วขยับตัวนั่งให้อยู่ในท่าที่ปลอดภัยเพราะรู้สึกเหมือนตัวเองจะล้มทุกที เมื่อมือข้างหนึ่งที่จับราวรั้วไม่ให้ล้ม ตอนนี้ต้องมาปิดจมูกแทนเพราะเหม็นกลิ่นควันบุหรี่
“เบื่อเสียงดัง” เขาว่าอย่างนั้นแล้วโยนบุหรี่ในมือทิ้ง ไม่ลืมใช้เท้าขยี้มันจนแบนบี้
“นึกว่าชอบเที่ยวกันแบบนี้อยู่แล้ว” ซินหัวเราะเบา ๆ
“เมื่อก่อนฉันก็เที่ยวบ่อยตอนเรียนไม่เคยพักเลย”
เธอยิ้มจนตาหยี คิดถึงวันเก่า ๆ สมัยเรียน มันสนุกมากจนอยากย้อนเวลากลับไปอีกครั้ง อยากย้อนไปตอนที่ชีวิตมีความสุขมากกว่านี้
“บ่อยไปมันก็เบื่อ ตื่นมาก็แฮงค์ เกลียดอาการแบบนั้นจะตาย เย็นมาเพื่อนก็ชวนถอน ไม่จบไม่สิ้น”
“นั่นสิ แบบนั้นเลย” ซินยิ้มและหัวเราะออกมากับคำพูดของเขาอย่างลืมตัว บวกกับความเมาเธอก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย จะว่าไปแล้วพอเมามันก็รู้สึกดีเหมือนกัน รู้สึกสบายตัวล่องลอยอย่างบอกไม่ถูก
ภาพรอยยิ้มนั้นถูกใครอีกคนจับจ้อง นั่งข้างกันมาหลายชั่วโมงเขาก็เพิ่งเห็นสาวรุ่นพี่คนนี้ยิ้ม พอยิ้มแล้วก็สวยเป็นบ้า ความคิดพวกนั้นของไอ้เสือร้ายอย่างเขามันก็ดันแล่นเร็วเสียด้วย ผู้ชายแบบเขามันจะคิดอยู่กี่เรื่องกัน
ผิวก็ขาวแบบนั้น ยังมาใส่ชุดโชว์เนื้อหนัง หน้าอกก็ดูน่า...
โอเค ยอมรับว่าไอ้พันไมล์มันคิดเรื่องเหี้ย ๆ ไปแล้ว แต่มันก็แล้วแต่ผู้หญิง เขาก็แค่อ่อย ถ้าหญิงตอบรับเขาก็พร้อมรุก
ซินเผลอไปสบตากับอีกฝ่ายทั้งที่ยังยิ้ม เขาจ้องเธอนิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง พลันหญิงสาวก็รู้สึกประหลาดที่ช่วงท้อง สายตาของเขาที่มองมา มันสื่ออะไรบางอย่างที่เธอเองก็อ่านความหมายมันไม่ออก แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือซินกลับสบตาสู้เขาโดยไม่รู้เหตุผลว่าทำไม
ราวกับโดนดึงดูด ไม่ให้เหลวไหลไปมองอย่างอื่น เพียงแค่เขามองมาก็เหมือนเธอกำลังถูกสะกดจิต ดวงตาคมคู่นั้นทำเธอสติหลุดไปหมดแล้ว
“เพื่อนบอกให้มาตาม ไปดื่มต่อ จะไปได้ยัง”
“อื้ม ไปสิ” ซินพยักหน้าก่อนจะสะบัดหน้าเรียกสติ ซึ่งตอนนี้ก็ไม่รู้ว่ามันไปวิ่งเล่นอยู่ที่ไหนของตัวเองให้กลับคืนมา
แต่เมาก็ดีเหมือนกัน รู้สึกดีไปอีกแบบ อย่างน้อยก็ยังยิ้มออก หัวเราะออกมาได้บ้าง
เมื่อกลับมาถึงโต๊ะก็ต้องดื่มต่ออย่างไม่มีข้อแม้ เพื่อนตัวดีของเธอก็เหมือนอยากจะมอมให้เธอตายไปคืนนี้เลย
“หมดแก้วค่ะคนสวยของมะนาว”
ซินยกแก้วขึ้นดื่มจนหมดตามคำสั่งเพื่อนสนิทเหมือนผียัยซินใน
อดีตเข้าสิง
“โอ๊ย พี่ซิน นึกว่าจะยอมแพ้ตั้งแต่เมื่อกี้” มาย แฟนสาวของเต๋ามองสาวรุ่นพี่ด้วยรอยยิ้มขบขัน
“ยอมไม่ได้ เมื่อกี้พักยกค่ะน้องมาย” ซินเอียงหน้าไปตอบสาวรุ่นน้องด้วยรอยยิ้ม และรอยยิ้มของซินก็เรียกความกระชุ่มกระชวยให้ใจชายหลายคนบริเวณนั้น ไม่เว้นแม้แต่คนที่นั่งข้างกัน
ซินเผลอสบตากับเขาอีกแล้ว เธอรู้แล้วว่าเด็กรุ่นน้องมองแบบนี้เพราะเขารู้สึกแบบไหน มันจะเป็นอะไรไปได้ถ้าไม่ใช่สนใจในตัวเธอ ก็เขามันเป็นเสือแบบที่เพื่อนว่า
แล้วทำไมถึงสบตาสู้เขาแบบนี้ เธอเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน มันคงหนีไม่พ้นเพราะความเมา
“มองอะไร” ซินถามคนที่มองเธอไม่ละสายตา เพราะนั่งข้างกันจนผิวกายบางส่วนสัมผัสกันแบบนี้ ยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกบางอย่างที่อารมณ์พาไป
“มองไม่ได้ไง” พันไมล์ถามพร้อมกับยิ้มมุมปาก ท่าทางเมามายของอีกฝ่ายดูแล้วก็น่ารักดี จนอดไม่ได้ที่จะมอง ยิ่งดึกก็ยิ่งยิ้มหวาน
เหลือก็แค่ลุ้นว่าคนมีอดีตแสนเศร้าที่ว่า จะตกหลุมที่เสืออย่างเขาขุดไว้ได้ไหม
ตอนพิเศษ 4หลายปีต่อมา“แม่ชิน ทำอาไยหยอ”เด็กผู้หญิงตัวอ้วนกลมในวัยสองขวบครึ่งมองผู้เป็นแม่ด้วยความสงสัย มืออ้วนป้อมกำลังยื่นไปหาบางสิ่งตรงหน้าที่แม่กำลังทำอยู่ เห็นแล้วอยากจะขยำมันเล่น เหมือนกับของเล่นที่พอไมล์ซื้อให้เลย“แม่ทำขนมอยู่ค่ะ อัยมี่ไม่กวนแม่นะคะ” ซินยิ้มแล้วบอกลูกสาวที่ทำท่าจะหยิบเอาแป้งขนมปังที่เพิ่งนวดเสร็จไปเล่น“อายมี่หยักด้าย” เด็กน้อยผิวขาวนวลมองผู้เป็นแม่ตาละห้อย อยากได้แค่ก้อนเดียวเอง จะเอามันมานวดเหมือนกับแม่“อันนี้เหรอ” ซินหยิบเอาเศษแป้งที่เหลือจากแบ่งไว้ขึ้นมายื่นให้ลูกสาวตัวน้อย“เล่นแล้วต้องล้างมือนะ”“ขาบคุนค่ะ” อัยมี่ยิ้มร่า รับของเล่นจากแม่ด้วยความดีใจก่อนจะเดินออกจากห้องทำขนมลัดเลาะไปที่สนามเด็กเล่นหน้าบ้าน ที่คุณพ่อกับพี่ชายนั่งอยู่“พ่อดู น้องเอาของแม่มาเล่น” เด็กชายหน้าตาหล่อเหลาวัยสี่ขวบหันไปบอกพ่อเมื่อเห็นน้องสาวถือแป้งของแม่มา เรื่องฟ้องเขามันที่หนึ่ง“แม่อาวห้ายอายมี่” เด็กหญิงอัยมี่ทำหน้าบูดใส่พี่ชายจอมขี้ฟ้องก่อนจะหันไปมองผู้เป็นพ่อ“แม่ให้มาจริงเหรอ” พันไมล์ผละมือจากหน้าจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คที่กำลังจัดการกับออเดอร์สินค้า หันมาให้ความสนใจกับลูก
ตอนพิเศษ 3เช้าวันต่อมาทั้งคู่ออกเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งได้วางแผนไว้ แวะเที่ยวกันหลายจุดกว่าจะมาถึงที่พักก็เกือบบ่ายสอง แม้ว่าจะเป็นเวลาหลังบ่ายแล้วแต่อากาศบนเขาก็ยังเย็นจนไม่สามารถสลัดเอาเสื้อกันหนาวออกได้เลย กลางคืนคงหนาวเหน็บจนไม่อยากคิดภาพพันไมล์จองที่พักแบบห้องมาตรฐานเพราะสะดวกกว่าการนอนเต็นท์ มีระเบียงกว้างที่สามารถมองเห็นทะเลหมอกในตอนเช้าตรู่ มีห้องน้ำและอ่างอาบน้ำซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตของใครหลายคนที่เห็นผ่านตา“หนาวไหม” พันไมล์เดินออกจากห้องมาถามเธอ หลังจากที่เขาเอาของขึ้นมาเก็บไว้หมดแล้ว“หนาว วันนี้ไม่อาบน้ำ” ซินบอกเขาพลางหัวเราะ“น้ำอุ่นก็มี”“รังเกียจเหรอ” เธอแกล้งถาม พ่อคนสะอาด ทีเห็นหน้ากันครั้งแรกก็ชวนเธออาบน้ำแล้ว“ไม่อาบก็ได้ เดี๋ยวจะเลียให้ทั้งตัวเลย” เขาเอ่ยพร้อมกับซ่อนรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์“อี๋ ทุเรศ”“ทำเป็นทุเรศ อยากพามาเปลี่ยนบรรยากาศก็บอก” เขาไหวไหล่พร้อมกับเบะปากล้อเธอจริงอยู่ว่าเธอชวนเขามาที่นี่ แต่ใครมันจะไปคิดถึงแต่เรื่องนั้นกัน เธอก็แค่อยากมาพักผ่อนสูดบรรยากาศ สัมผัสกับความหนาวเย็นก็เท่านั้นเอง“มีแต่เธอที่คิดเรื่องแบบนั้น” เธอต่อว่าเขาอย่างนึก
ตอนพิเศษ 2หลายเดือนต่อมาทำงานสองปีกว่ายังไม่เคยลาพักร้อนเลยสักครั้ง เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนมะนาวบอกข่าวดีของตัวเองคือการซื้อบ้านใหม่ ซินจึงใช้โอกาสนั้นลาพักร้อนพร้อมกับพันไมล์ เพื่อไปเที่ยวบ้านใหม่ของเพื่อนและจัดทริปเที่ยวเชียงใหม่กันอีกสี่วันสามคืนมะนาวย้ายไปอยู่เชียงใหม่แล้วเพราะสามีของตัวเองย้ายไปทำงานที่นั่น และจะปักหลักสร้างครอบครัวกันที่เชียงใหม่ เพื่อนจึงรบเร้าและอ้อนให้ซินไปหาเพราะอยากให้ไปอุ้มหลาน“เค้าเอาของขึ้นรถหมดแล้ว เธอเสร็จหรือยัง” พันไมล์ยื่นหน้าเข้ามามองในห้องตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มหากเดินทางไปก็ถึงตอนเช้าพอดี พันไมล์อยากใช้รถส่วนตัวเพราะตอนกลับเขามีแพลนจะแวะหาโน่ที่ทำงานอยู่อยุธยาด้วย รายนั้นก็จะแต่งงานกับสาวคนใหม่ที่เจอกันในที่ทำงานอีกไม่นานนี้ซินเห็นพันไมล์แซวเพื่อนอยู่ว่ารีบแต่งแบบนี้เพราะทำผู้หญิงท้อง ตอนแรกเธอไม่เชื่อจนโน่ยอมสารภาพว่าใช่ แถมยังเป็นสาวรุ่นพี่อายุน้อยกว่าซินหนึ่งปีไอ้หมากระเป๋าของมะนาวในวันนั้น ตอนนี้จะเป็นพ่อคนเสียแล้ว ร้ายไม่เบาเลยใช้เวลาเดินทางราวสิบสองชั่วโมงก็มาถึงบ้านมะนาว พันไมล์หนีไปหลับแล้วเพราะเขาขับรถมาทั้งคืน ส่วนซินก็ออกมานั่งดูห
ตอนพิเศษ 1พันไมล์เรียนจบและได้ทำงานกับบริษัทที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง และซินก็เข้าไปทำงานที่นั่นหลังจากเขาไม่กี่เดือนทั้งคู่ตัดสินใจซื้อบ้านด้วยกัน เพราะเชื่อความต้องการของพันไมล์ว่าเขาอยากตกแต่งบ้านตามใจ ไม่ต้องมาเสียดายเงินที่ทำไปและการเช่าอยู่ก็เสียเงินเปล่า เขาพูดเอาไว้ว่าอนาคตถ้ามีสมาชิกเพิ่มจะลำบากถ้าพูดขนาดนี้เธอยอมตามใจเขาก็ได้พันไมล์ยังคงขายอุปกรณ์ช่างเช่นเดิม แถมยังขยับขยายทำพื้นที่สำหรับสต๊อกสินค้า ลงขายในแพลตฟอร์มใหม่และหาตัวแทนจำหน่าย อีกทั้งเมื่ออยู่ในวงการนี้หลายปีก็สามารถหาของได้ในราคาที่ถูกกว่าเดิม แต่ก็ต้องลงทุนมากขึ้นเขาขอทำงานใช้ความรู้ที่เรียนมาสักสองสามปี ก็จะลาออกมาทำธุรกิจแล้ว ช่วงนี้ยอมเหนื่อยก็เพื่อหาเงินสร้างครอบครัวเธอได้ยินเขาพูดคำนี้บ่อยเหลือเกิน แล้วมันก็รู้สึกดีทุกครั้งเพราะคำว่าครอบครัวของเขามีเธออยู่ด้วย ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องอนาคต พันไมล์จะใช้คำว่าเราเสมอเธอโชคดีแล้วที่ได้เจอกับเขา ครืด~เสียงแจ้งเตือนสายเรียกเข้าดังขึ้นไกล ๆ ซินขยับตัวไปล้างมือหลังจากผสมแป้งสำหรับทำคุกกี้ผลไม้ที่กำลังเป็นกระแสเสร็จพอดีเธอเองก็มีห้อ
ตอนที่ 53 ไม่ดีที่สุดแต่รักเธอมากที่สุดแล้วหลายเดือนต่อมาการกลับมาคบกันคราวนี้ เธอรู้สึกได้ว่ามันไม่เหมือนครั้งก่อน ครั้งนี้มันชัดเจนและมั่นใจในความรู้สึกที่ต่างฝ่ายต่างแสดงออกและมีให้กันชีวิตเราไม่มีทางรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าเธอเอาแต่กลัวว่ามันจะเกิดขึ้น ชีวิตก็คงไม่มีความสุข สำคัญที่สุดก็แค่ใช้ชีวิตด้วยกันในทุกวันให้มันดีที่สุดเท่านั้นเอง“ตื่นได้แล้ว”เสียงที่คุ้นเคยกระซิบข้างหู กลิ่นหอมจากครีมอาบน้ำแบบผู้ชายลอยเข้ามาติดจมูกจนต้องสูดมันเข้าไปอีกเพราะเธอรู้สึกหลงมันเหลือเกินดวงตากลมโตค่อย ๆ เปิดปรือขึ้นมอง ใบหน้าหล่อเหลาของเขาอยู่ห่างกันแค่คืบ รอยยิ้มที่อยู่บนกรอบหน้าคมคายถูกส่งมาให้ก่อนที่เขาจะแนบริมฝีปากลงมาบนแก้มนวลเนียน“ยังไม่ไปเรียนอีกเหรอ”“ไปมาแล้ว อาจารย์ยกคลาส” เขาตอบแล้วนอนเท้าคางมองเธอ“อาบน้ำเร็ว จะพาออกไปดูของที่อยากได้”หลังจากลาออกเธอก็ศึกษาเรื่องที่ว่าจะทำขนมขาย เป็นพวกขนมแห้งที่สามารถอยู่ได้นาน ๆ ตั้งใจว่าจะถอยเตาอบดี ๆ สักเครื่องมาใช้ เครื่องเล็กที่เธอมีมันไม่ทันกับปริมาณที่ทำส่ง ช่วงนี้เธอก็เริ่มมีลูกค้าบ้างแล้ว“เธอกินข้าวหรือยัง”ซินถามเขาเพราะตอนนี
ตอนที่ 52 ขอแก้ตัว NCทั้งคู่หัวเราะด้วยกันเบา ๆ ก่อนจะเริ่มบทจูบที่เฝ้าคิดถึงมาหลายวันอีกครั้ง แลกลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันแสนชุ่มฉ่ำราวกับว่าโหยหามันมานานเหลือเกินร่างกายสองร่างบดเบียดเข้าหา สั่นเทิ้มด้วยความปรารถนาที่เริ่มเร่าร้อนระหว่างที่ริมฝีปากประกบกัน เขาปลดเปลื้องเสื้อผ้าของคนในอ้อมแขน ชุดนอนบางเบาแสนเย้ายวนและผ้าชิ้นน้อยด้านในปลิวหายไปที่ไหนสักแห่ง เหลือเพียงความตระการตาน่ามอง ก่อนจะจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองจนหมดทุกชิ้นเขาอยากใกล้กว่านี้ แนบชิดกันมากกว่านี้ สอดใส่ลึกซึ้งจนประสานกัน อยากให้เธอดูดกลืนเขาทั้งลำ ตอดรัดกันให้แนบแน่นจับใจ ความเป็นชายแข็งขึงแน่นตึงจนเจ็บไปหมดแล้ว“อื้อ~”ซินสั่นสะท้านไปทั้งทรวงอกเมื่อเขากอบกุมความอวบอิ่มล้นมือ ตวัดปลายลิ้นอุ่นชื้นบนปลายป้านสีเรื่อ มันแข็งเป็นไตเพราะความกระสันเสียวที่เขามอบให้พันไมล์ตวัดลิ้นเล่น สลับกับดูดดึง มือขยำมันอยากมันมือ อีกข้างหนึ่งก็ถูกปลุกเร้าไม่ต่างกัน เธอเสียวซ่านจนทนแทบไม่ไหว ครวญครางออกมาเป็นเสียงน่าอับอายเมื่อยอดอกถูกขยี้ด้วยปลายนิ้ว สมองสับสนวุ่นวาย ความสยิวซ่านนั้นเกิดขึ้นสลับไปมาทั้งสองข้าง เธอจะตายอยู่แล้ว“นมเธออ