“ไม่ให้มอง” ซินตอกกลับพร้อมกับส่งสายตาเอาเรื่อง ทว่ารอยยิ้มที่ติดอยู่บนริมฝีปากอวบอิ่มยังถูกดวงตาคมจับจ้องอยู่ เขาอยากจะลองลิ้มรสมันดูสักครั้ง
“หึ”
“ห้ามหัวเราะแบบนั้นด้วยไม่ชอบ” เธอสั่งห้ามเพราะไม่ชอบไอ้เสียงหัวเราะในลำคอแบบนั้น มันดูไม่น่ารักเอาเสียเลย
“เรื่องมาก” เขาเอียงหน้ามากระซิบที่ข้างหูเธอ คนตัวเล็กตกใจจนต้องหันมอง ทว่าจังหวะที่หันไป ริมฝีปากที่อยู่ใกล้กันนั้นก็แตะสัมผัสเข้าที่แก้มซ้ายของเธอ
ความรู้สึกหนึ่งแล่นวาบทั่วร่างกาย กลิ่นหอมจากตัวเขาก็ยิ่งโชยเข้ามาในจมูกชวนให้ใจเตลิด ปลุกให้อารมณ์บางอย่างมันพุ่งกระจายอยู่เต็มอก ซินกระแอมไอเบา ๆ ถึงจะเมาแต่เธอก็ยังรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
นี่ใช่ไหม ฉายาเสือร้ายที่ใครหลายคนให้เขามา
“มะ ไม่ได้เรื่องมาก”
เวลานี้คนในโต๊ะคงไม่ได้สนใจใครมากนัก เลยไม่มีใครรู้ว่ามีใครบางคนเอื้อมมือมาสัมผัสและจับมือเธอเอาไว้ ความเย็นเฉียบจากมือเขา ทว่าพอจับสัมผัสกับมือเล็กของซินกลับให้ความรู้สึกอุ่นซ่านเข้ามาในใจ แล้วที่แย่ไปกว่านั้น เธอกลับไม่ปฏิเสธสัมผัสของเขาทั้งที่ควรจะทำมัน
“ยัยซิน ชน !”
หญิงสาวพยายามดึงมือกลับมา ทว่าเขาไม่ยอมปล่อย เธอไม่กล้าหันไปสบตาเขา ความกลัว ความกังวลถาโถมเข้ามาในใจ แต่อีกความรู้สึกหนึ่งก็เข้าเผชิญหน้ากับความรู้สึกเหล่านั้นอย่างไม่ยอมแพ้
ซินยกแก้วด้วยมือที่ว่างอยู่ขึ้นมาดื่มมันจนพร่องไปเกือบครึ่ง สมองคล้ายมีสิ่งรบกวน ไหนจะเสียงดนตรี เสียงพูดคุยกันเสียงดังทำเอาหัวเธอมึนงงไปหมดแล้ว
“ซิน พี่บอลจะชวนไปต่อ ไปด้วยกันนะ” มะนาวหันมากระซิบบอกเพื่อน พลันสายตาสอดรู้ของมะนาวก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง
รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นบนใบหน้า ความคิดเจ้าเล่ห์ที่อยากให้เพื่อนหลุดพ้นจากอดีตที่แสนเศร้าก็ยุยงส่งเสริมเหลือเกิน คืนนี้เธอจะส่งเพื่อนไปขึ้นสวรรค์ อกหักจากคนหล่อก็ดีกว่าคิดถึงคนรักที่จากไปไม่มีวันกลับละวะเพื่อนซิน เธอแค่ลองยุถ้าเพื่อนไม่เอาก็แล้วแต่
“ต่อไหนอีก” เธอแทบจะยืนไม่ได้อยู่แล้ว
“ถ้าแกไม่ไหวก็ไม่ต้องไป ดูสภาพไม่น่าไหว” มะนาวจับศีรษะเพื่อนโยกไปมา
“ให้น้องเขาไปส่งแกกลับได้ไหม ร้านที่พี่บอลจะไปเป็นอีกทาง”
ซินนั่งนิ่ง หันมองเพื่อนสนิทด้วยตาปรือ ๆ น้องไหน
“น้องไมล์ ไปส่งเพื่อนพี่หน่อยได้ไหม”
“เขาจะให้ผมไปส่งไหมล่ะ” พันไมล์ถามสีหน้าเรียบนิ่งก่อนจะปรายตามองคนที่หันหน้ามาสบตากัน
“มึงดูเป็นคนดีนะไอ้ไมล์ ผมว่าพี่ไม่ต้องไปกับมันนั่นแหละดีแล้ว” เบสหัวเราะกับท่าทางของเพื่อน เขายังดูออกว่ามันสนใจพี่สาวคนนี้อยู่
แต่พันไมล์ก็คือพันไมล์ มันจะไม่แสดงออกอะไรแบบนั้นให้ดูแย่ แค่มันส่งสายตาทีเดียวสาวก็แทบเดินตามแล้ว อีกอย่างมันแค่อยากกินเล่น ๆ ไม่ผูกมัดกับใคร
“มึงก็ว่ามันเกิน เดี๋ยวพี่เขาก็กลัวจริง” เต๋าทำทีพูดปกป้องเพื่อน แท้จริงแล้วเขาก็เห็นด้วยกับความคิดเบส
กลัวหรือเปล่าเธอก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้มือที่จับกันอยู่ใต้โต๊ะโคตรแน่น แน่นจนเธอหายใจลำบาก ทั้งที่อวัยวะส่วนนั้นก็ไกลกันมากทีเดียว ไม่พอเขายังลูบหลังมือเธอด้วยนิ้วโป้งอย่างแผ่วเบา เธอรู้ว่าเขาจะสื่ออะไร ใจก็อยากปฏิเสธแต่ไม่รู้อะไรที่มันสั่งให้เธอยอมรับสัมผัสของเขาแบบนี้อย่างน่าไม่อาย
“จะกลับไหม จะไปส่ง”
ซินหลบสายตาคมกลับมามองที่แก้วของตัวเอง ก่อนจะพยักหน้าให้อีกฝ่าย ส่งผลให้รอยยิ้มมุมปากแสนร้ายผุดขึ้นบนเครื่องหน้าหล่อเหลา ไม่รู้ทำไมวันนี้เขารู้สึกตื่นเต้นกว่าทุกที หรือเพราะคนที่นั่งข้างกันนี้สวยจนทำให้ใจเขามันอยากลองสาวรุ่นพี่สักครั้ง
“อยากกลับก็บอก” เขาก้มลงมากระซิบเธออีกครั้งและด้วยความแสนร้าย ริมฝีปากได้รูปก็จูบเข้าที่ใบหูนั้นหนึ่งที่ เขาไม่กลัวสายตาใคร ไม่สนว่าเพื่อนจะมอง เขาสนแต่ว่าคนที่โดนรุกอยู่นั้นจะมีปฏิกิริยาเช่นไร
“รอกลับพร้อมพวกนี้ก็ได้” ซินตอบเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน เธอทำอะไรไม่ถูกเลยสักอย่าง ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครสนใจเธอตอนนี้แต่ก็กลัวว่าจะมีคนเห็น
อีกใจก็รู้สึกผิดต่อใครบางคน
ซินขยับมือเล็กที่ถูกกุมไว้จนชื้นเหงื่อเมื่อความรู้สึกผิดผุดขึ้นมาในหัว ทว่าเขาไม่ยอมปล่อย มิหนำซ้ำยังประสานมือของเขาเข้ากับมือเธอจนแนบแน่น หญิงสาวหันไปมองเขาด้วยสีหน้าเป็นคำถามแต่กลับได้รับการเลิกคิ้วเป็นคำถามกลับมา สุดท้ายก็ต้องเบือนหน้าหนีแล้วยอมให้จับอย่างนั้น
เธอเป็นคนที่ไม่ยอมใครง่าย ๆ กับอะไรแบบนี้นะ หรือเพราะเธอไม่เคยเจอใครที่เหมือนเขา จึงไม่รู้ว่าต้องรับมือแบบไหน
“แกอย่าคิดอะไรมากเลยซิน ลองปล่อยตัวปล่อยใจให้ตัวเองมีความสุขบ้าง” เพื่อนสนิทโน้มใบหน้าเข้ามาคุย
“แกจะให้ฉันเป็นคนเลวหรือไง”
“เลวตรงไหน แค่หาความสุขให้ตัวเอง”
ซินเงียบ มันไม่ใช่เรื่องดีเลย รู้ว่าถ้าเรื่องแบบนั้นมันเกิดขึ้นคืนนี้ พรุ่งนี้ก็คงจากลากัน ทว่าหากกลับมาคิดดู เธอเองก็เหงามาแทบตาย บางคืนมันก็เปลี่ยวจนต้องระบายออกมา เธอไม่ใช่คนจิตใจสงบถึงขั้นนั้น ยอมรับว่าบางครั้งมันก็ต้องการจนทรมาน
“แกนี่นะมะนาว”
“น้องเขาก็โคตรดีเลยนะ ถึงจะดูแบดบอยไปหน่อยก็เถอะ กร้าวใจซินไหมคะ” มะนาวหัวเราะชอบใจจนเธออดยิ้มกับความระริกระรี้ของเพื่อนไม่ได้
“ไม่”
“แหม ไม่อะไรกัน” มะนาวยิ้มเขินก่อนจะเอี้ยวหน้าไปกระซิบใกล้ ๆ
“จับมือกันแน่นขนาดนั้น”
“ถ้าพูดอีกจะกลับแล้วนะ” ซินรู้สึกหน้าร้อนผ่าว ตอนนี้มันคงแดงซ่านไปหมดแล้ว ทั้งฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทั้งคำแซวจากเพื่อนสนิท หญิงสาวพยายามจะดึงมือตัวเองออกมาแต่อีกคนก็โคตรเอาแต่ใจ
“ล้อเล่น อย่าคิดมาก” มะนาวตบไหล่เพื่อนเบาๆ
“ทำอะไรแล้วมีความสุขก็ทำไป”
“มันไม่ผิดใช่ไหม”
“แกไม่ผิด แต่ป้องกันด้วยนะ ถึงจะสนุกก็ต้องใส่”
“นี่เราคุยอะไรกันเนี่ย” ซินเริ่มรับไม่ได้กับหัวข้อสนทนาของเพื่อนสนิทจนต้องกุมขมับ
“พอ”
“สวัสดีค่ะพี่ ๆ”
เสียงใสปนความเมามายของใครบางคนดังขึ้น ท่ามกลางเสียงพูดคุยของคนในโต๊ะ ทุกคนต่างหันไปให้ความสนใจคนที่มาใหม่ แต่ซินกลับได้ยินเสียงพ่นลมหายใจของใครคนหนึ่งดังขึ้นใกล้ๆ
“อ้าว น้องยาหยี”
“มึงจะอ้าวทำไมไอ้เต๋า” เบสถามอย่างขบขัน ก่อนจะปรายตามองเพื่อนเขาอีกคนที่นั่งนิ่งสีหน้าเหมือนอยากตายเต็มทน
“มาชนแก้วค่ะ” สาวที่ชื่อว่ายาหยียิ้มหวานให้ทุกคนก่อนที่สายตาของเธอจะหยุดอยู่ที่ผู้ชายคนหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าใจร้ายสำหรับเธอที่สุด
“ไหนพี่พันไมล์บอกหยีว่าไม่มาไง”
เพียงแค่เห็นสายตาของผู้หญิงคนนั้นกับประโยคทักทายคนข้างกายเธอ ซินก็รีบดึงมือกลับ คราวนี้เธอทำสำเร็จอาจเป็นเพราะพันไมล์กำลังให้ความสนใจกับคำถาม
“ทีแรกก็ไม่คิดจะมากันหรอกน้องหยี ไอ้เบสกับพี่พีแหละชวนออกมา” โน่เป็นคนตอบคำถามเพราะรู้นิสัยเพื่อนตัวเองดีว่ามันจะทำหน้าตึงปล่อยให้สาวถามเก้อ
“อ้อ ค่ะพี่โน่”
“ครับ”
แล้วทั้งโต๊ะก็ตกอยู่ในความเงียบ เหมือนทุกคนกำลังกลั้นหายใจไม่เว้นแม้แต่ซิน แล้วที่ทำให้ลมหายใจเธอสะดุดยิ่งกว่าเดิมคือการที่พันไมล์ถอดเสื้อยีนสีซีดของเขามาวางบนท่อนขาเธอ ท่ามกลางสายตาของใครหลายคนโดยที่เขาไม่ได้ให้ความสนใจเลยสักนิด
“ใส่ดิ เห็นขนลุก” เขาเอ่ยเสียงเรียบ ขณะที่คนอื่นยังคงเงียบกริบ
“มะ ไม่เป็นไร”
เธอปฏิเสธทว่าเขากลับตลบเสื้อผืนนั้นคลุมท่อนล่างของเธอที่มีเพียงเดรสสั้นครึ่งขาปิดอยู่ แถมยังเป็นผ้าเนื้อบางและพลิ้วไหว การกระทำของพันไมล์ทำเอาเธอตกใจจนไม่รู้ว่าจะทำตัวแบบไหน
“ใครเหรอพี่โน่ หยีไม่เคยเจอเลย”
“อ้อ อันนี้รุ่นพี่ที่สนิทกัน” โน่ตอบแล้วยิ้มแห้ง หันไปมองมะนาวเหมือนคนขอความช่วยเหลือ
“สนิทกับพี่ไมล์เหรอคะ”
“เพื่อนกูจะโดนตบไหมเนี่ย” มะนาวพึมพำก่อนจะชะโงกหน้าไปคุยกับรุ่นน้อง “คนคุยน้องมันเหรอ”
“เคย” โน่ตอบสั้น ๆ เป็นอันว่ารู้กัน มะนาวจึงพยักหน้าเข้าใจ
คงเป็นคนที่พวกนี้พูดถึงว่าเคยคุยแต่สาวเจ้าไม่ยอมจบ ไอ้เด็กนี่ก็เสน่ห์แรงเกิน เธอชักเริ่มเป็นห่วงเพื่อนขึ้นมาแล้วสิ
“มะนาว ฉันอยากกลับแล้ว” ซินหันไปบอกเพื่อนเพราะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เริ่มมีปัญหา ทว่าคนที่ตอบกลับมาไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นอีกคนข้างกัน
“จะไปส่ง เริ่มเบื่อแล้วเหมือนกัน” พูดจบพันไมล์ก็ฉุดแขนคนตัวเล็กให้ลุก ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่มองตาม แต่เขาไม่สนใจใครอยู่แล้ว
อะไรที่กำลังไปได้ดี มีคนมาทำเสียคงแย่
ซินเงยหน้าขึ้นมองคนร่างสูง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน ในแววตาคู่นั้นคล้ายจะบอกว่าเธอไม่ควรขัดใจ แต่เรื่องอะไรเธอต้องฟังเขาก็แค่คนเพิ่งรู้จักกัน
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้มะนาวไปส่ง”
“ลุกมาเถอะ ขอร้อง” ครั้งนี้แววตาคมคล้ายจะขอความเห็นใจ แม่ตัวดีนี่ก็น่ารำคาญเหลือเกิน คนเขาอยากหาข้ออ้างออกไปจากตรงนี้
ไม่สิ อันที่จริง เขาไม่จำเป็นต้องหาข้ออ้างก็ได้ จะเดินออกไปเลยก็ได้ แต่เขาแค่ไม่อยากให้อะไรมันหลุดมือไป
แม่ง โคตรหงุดหงิด
“แกจะรอกลับกับฉันก็ได้นะ พี่บอลน่าจะมาเที่ยงคืนนิดๆ ” ดูเวลาแล้วก็อีกราวหนึ่งชั่วโมง ซินถึงกับคิดหนัก
“งั้น” เธอควรเอาอย่างไรกับชีวิตดี
“จะไปไม่ไป”
ตอนพิเศษ 4หลายปีต่อมา“แม่ชิน ทำอาไยหยอ”เด็กผู้หญิงตัวอ้วนกลมในวัยสองขวบครึ่งมองผู้เป็นแม่ด้วยความสงสัย มืออ้วนป้อมกำลังยื่นไปหาบางสิ่งตรงหน้าที่แม่กำลังทำอยู่ เห็นแล้วอยากจะขยำมันเล่น เหมือนกับของเล่นที่พอไมล์ซื้อให้เลย“แม่ทำขนมอยู่ค่ะ อัยมี่ไม่กวนแม่นะคะ” ซินยิ้มแล้วบอกลูกสาวที่ทำท่าจะหยิบเอาแป้งขนมปังที่เพิ่งนวดเสร็จไปเล่น“อายมี่หยักด้าย” เด็กน้อยผิวขาวนวลมองผู้เป็นแม่ตาละห้อย อยากได้แค่ก้อนเดียวเอง จะเอามันมานวดเหมือนกับแม่“อันนี้เหรอ” ซินหยิบเอาเศษแป้งที่เหลือจากแบ่งไว้ขึ้นมายื่นให้ลูกสาวตัวน้อย“เล่นแล้วต้องล้างมือนะ”“ขาบคุนค่ะ” อัยมี่ยิ้มร่า รับของเล่นจากแม่ด้วยความดีใจก่อนจะเดินออกจากห้องทำขนมลัดเลาะไปที่สนามเด็กเล่นหน้าบ้าน ที่คุณพ่อกับพี่ชายนั่งอยู่“พ่อดู น้องเอาของแม่มาเล่น” เด็กชายหน้าตาหล่อเหลาวัยสี่ขวบหันไปบอกพ่อเมื่อเห็นน้องสาวถือแป้งของแม่มา เรื่องฟ้องเขามันที่หนึ่ง“แม่อาวห้ายอายมี่” เด็กหญิงอัยมี่ทำหน้าบูดใส่พี่ชายจอมขี้ฟ้องก่อนจะหันไปมองผู้เป็นพ่อ“แม่ให้มาจริงเหรอ” พันไมล์ผละมือจากหน้าจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คที่กำลังจัดการกับออเดอร์สินค้า หันมาให้ความสนใจกับลูก
ตอนพิเศษ 3เช้าวันต่อมาทั้งคู่ออกเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งได้วางแผนไว้ แวะเที่ยวกันหลายจุดกว่าจะมาถึงที่พักก็เกือบบ่ายสอง แม้ว่าจะเป็นเวลาหลังบ่ายแล้วแต่อากาศบนเขาก็ยังเย็นจนไม่สามารถสลัดเอาเสื้อกันหนาวออกได้เลย กลางคืนคงหนาวเหน็บจนไม่อยากคิดภาพพันไมล์จองที่พักแบบห้องมาตรฐานเพราะสะดวกกว่าการนอนเต็นท์ มีระเบียงกว้างที่สามารถมองเห็นทะเลหมอกในตอนเช้าตรู่ มีห้องน้ำและอ่างอาบน้ำซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตของใครหลายคนที่เห็นผ่านตา“หนาวไหม” พันไมล์เดินออกจากห้องมาถามเธอ หลังจากที่เขาเอาของขึ้นมาเก็บไว้หมดแล้ว“หนาว วันนี้ไม่อาบน้ำ” ซินบอกเขาพลางหัวเราะ“น้ำอุ่นก็มี”“รังเกียจเหรอ” เธอแกล้งถาม พ่อคนสะอาด ทีเห็นหน้ากันครั้งแรกก็ชวนเธออาบน้ำแล้ว“ไม่อาบก็ได้ เดี๋ยวจะเลียให้ทั้งตัวเลย” เขาเอ่ยพร้อมกับซ่อนรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์“อี๋ ทุเรศ”“ทำเป็นทุเรศ อยากพามาเปลี่ยนบรรยากาศก็บอก” เขาไหวไหล่พร้อมกับเบะปากล้อเธอจริงอยู่ว่าเธอชวนเขามาที่นี่ แต่ใครมันจะไปคิดถึงแต่เรื่องนั้นกัน เธอก็แค่อยากมาพักผ่อนสูดบรรยากาศ สัมผัสกับความหนาวเย็นก็เท่านั้นเอง“มีแต่เธอที่คิดเรื่องแบบนั้น” เธอต่อว่าเขาอย่างนึก
ตอนพิเศษ 2หลายเดือนต่อมาทำงานสองปีกว่ายังไม่เคยลาพักร้อนเลยสักครั้ง เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนมะนาวบอกข่าวดีของตัวเองคือการซื้อบ้านใหม่ ซินจึงใช้โอกาสนั้นลาพักร้อนพร้อมกับพันไมล์ เพื่อไปเที่ยวบ้านใหม่ของเพื่อนและจัดทริปเที่ยวเชียงใหม่กันอีกสี่วันสามคืนมะนาวย้ายไปอยู่เชียงใหม่แล้วเพราะสามีของตัวเองย้ายไปทำงานที่นั่น และจะปักหลักสร้างครอบครัวกันที่เชียงใหม่ เพื่อนจึงรบเร้าและอ้อนให้ซินไปหาเพราะอยากให้ไปอุ้มหลาน“เค้าเอาของขึ้นรถหมดแล้ว เธอเสร็จหรือยัง” พันไมล์ยื่นหน้าเข้ามามองในห้องตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มหากเดินทางไปก็ถึงตอนเช้าพอดี พันไมล์อยากใช้รถส่วนตัวเพราะตอนกลับเขามีแพลนจะแวะหาโน่ที่ทำงานอยู่อยุธยาด้วย รายนั้นก็จะแต่งงานกับสาวคนใหม่ที่เจอกันในที่ทำงานอีกไม่นานนี้ซินเห็นพันไมล์แซวเพื่อนอยู่ว่ารีบแต่งแบบนี้เพราะทำผู้หญิงท้อง ตอนแรกเธอไม่เชื่อจนโน่ยอมสารภาพว่าใช่ แถมยังเป็นสาวรุ่นพี่อายุน้อยกว่าซินหนึ่งปีไอ้หมากระเป๋าของมะนาวในวันนั้น ตอนนี้จะเป็นพ่อคนเสียแล้ว ร้ายไม่เบาเลยใช้เวลาเดินทางราวสิบสองชั่วโมงก็มาถึงบ้านมะนาว พันไมล์หนีไปหลับแล้วเพราะเขาขับรถมาทั้งคืน ส่วนซินก็ออกมานั่งดูห
ตอนพิเศษ 1พันไมล์เรียนจบและได้ทำงานกับบริษัทที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง และซินก็เข้าไปทำงานที่นั่นหลังจากเขาไม่กี่เดือนทั้งคู่ตัดสินใจซื้อบ้านด้วยกัน เพราะเชื่อความต้องการของพันไมล์ว่าเขาอยากตกแต่งบ้านตามใจ ไม่ต้องมาเสียดายเงินที่ทำไปและการเช่าอยู่ก็เสียเงินเปล่า เขาพูดเอาไว้ว่าอนาคตถ้ามีสมาชิกเพิ่มจะลำบากถ้าพูดขนาดนี้เธอยอมตามใจเขาก็ได้พันไมล์ยังคงขายอุปกรณ์ช่างเช่นเดิม แถมยังขยับขยายทำพื้นที่สำหรับสต๊อกสินค้า ลงขายในแพลตฟอร์มใหม่และหาตัวแทนจำหน่าย อีกทั้งเมื่ออยู่ในวงการนี้หลายปีก็สามารถหาของได้ในราคาที่ถูกกว่าเดิม แต่ก็ต้องลงทุนมากขึ้นเขาขอทำงานใช้ความรู้ที่เรียนมาสักสองสามปี ก็จะลาออกมาทำธุรกิจแล้ว ช่วงนี้ยอมเหนื่อยก็เพื่อหาเงินสร้างครอบครัวเธอได้ยินเขาพูดคำนี้บ่อยเหลือเกิน แล้วมันก็รู้สึกดีทุกครั้งเพราะคำว่าครอบครัวของเขามีเธออยู่ด้วย ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องอนาคต พันไมล์จะใช้คำว่าเราเสมอเธอโชคดีแล้วที่ได้เจอกับเขา ครืด~เสียงแจ้งเตือนสายเรียกเข้าดังขึ้นไกล ๆ ซินขยับตัวไปล้างมือหลังจากผสมแป้งสำหรับทำคุกกี้ผลไม้ที่กำลังเป็นกระแสเสร็จพอดีเธอเองก็มีห้อ
ตอนที่ 53 ไม่ดีที่สุดแต่รักเธอมากที่สุดแล้วหลายเดือนต่อมาการกลับมาคบกันคราวนี้ เธอรู้สึกได้ว่ามันไม่เหมือนครั้งก่อน ครั้งนี้มันชัดเจนและมั่นใจในความรู้สึกที่ต่างฝ่ายต่างแสดงออกและมีให้กันชีวิตเราไม่มีทางรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าเธอเอาแต่กลัวว่ามันจะเกิดขึ้น ชีวิตก็คงไม่มีความสุข สำคัญที่สุดก็แค่ใช้ชีวิตด้วยกันในทุกวันให้มันดีที่สุดเท่านั้นเอง“ตื่นได้แล้ว”เสียงที่คุ้นเคยกระซิบข้างหู กลิ่นหอมจากครีมอาบน้ำแบบผู้ชายลอยเข้ามาติดจมูกจนต้องสูดมันเข้าไปอีกเพราะเธอรู้สึกหลงมันเหลือเกินดวงตากลมโตค่อย ๆ เปิดปรือขึ้นมอง ใบหน้าหล่อเหลาของเขาอยู่ห่างกันแค่คืบ รอยยิ้มที่อยู่บนกรอบหน้าคมคายถูกส่งมาให้ก่อนที่เขาจะแนบริมฝีปากลงมาบนแก้มนวลเนียน“ยังไม่ไปเรียนอีกเหรอ”“ไปมาแล้ว อาจารย์ยกคลาส” เขาตอบแล้วนอนเท้าคางมองเธอ“อาบน้ำเร็ว จะพาออกไปดูของที่อยากได้”หลังจากลาออกเธอก็ศึกษาเรื่องที่ว่าจะทำขนมขาย เป็นพวกขนมแห้งที่สามารถอยู่ได้นาน ๆ ตั้งใจว่าจะถอยเตาอบดี ๆ สักเครื่องมาใช้ เครื่องเล็กที่เธอมีมันไม่ทันกับปริมาณที่ทำส่ง ช่วงนี้เธอก็เริ่มมีลูกค้าบ้างแล้ว“เธอกินข้าวหรือยัง”ซินถามเขาเพราะตอนนี
ตอนที่ 52 ขอแก้ตัว NCทั้งคู่หัวเราะด้วยกันเบา ๆ ก่อนจะเริ่มบทจูบที่เฝ้าคิดถึงมาหลายวันอีกครั้ง แลกลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันแสนชุ่มฉ่ำราวกับว่าโหยหามันมานานเหลือเกินร่างกายสองร่างบดเบียดเข้าหา สั่นเทิ้มด้วยความปรารถนาที่เริ่มเร่าร้อนระหว่างที่ริมฝีปากประกบกัน เขาปลดเปลื้องเสื้อผ้าของคนในอ้อมแขน ชุดนอนบางเบาแสนเย้ายวนและผ้าชิ้นน้อยด้านในปลิวหายไปที่ไหนสักแห่ง เหลือเพียงความตระการตาน่ามอง ก่อนจะจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองจนหมดทุกชิ้นเขาอยากใกล้กว่านี้ แนบชิดกันมากกว่านี้ สอดใส่ลึกซึ้งจนประสานกัน อยากให้เธอดูดกลืนเขาทั้งลำ ตอดรัดกันให้แนบแน่นจับใจ ความเป็นชายแข็งขึงแน่นตึงจนเจ็บไปหมดแล้ว“อื้อ~”ซินสั่นสะท้านไปทั้งทรวงอกเมื่อเขากอบกุมความอวบอิ่มล้นมือ ตวัดปลายลิ้นอุ่นชื้นบนปลายป้านสีเรื่อ มันแข็งเป็นไตเพราะความกระสันเสียวที่เขามอบให้พันไมล์ตวัดลิ้นเล่น สลับกับดูดดึง มือขยำมันอยากมันมือ อีกข้างหนึ่งก็ถูกปลุกเร้าไม่ต่างกัน เธอเสียวซ่านจนทนแทบไม่ไหว ครวญครางออกมาเป็นเสียงน่าอับอายเมื่อยอดอกถูกขยี้ด้วยปลายนิ้ว สมองสับสนวุ่นวาย ความสยิวซ่านนั้นเกิดขึ้นสลับไปมาทั้งสองข้าง เธอจะตายอยู่แล้ว“นมเธออ