LOGINแกร่กก…เสียงไขกุญแจดังขึ้นประตูถูกเปิดออกสองร่างทมึนที่อยู่ในห้องสลัวยกมือขึ้นบังดวงตาเมื่อแสงสว่างจ้าสาดส่องทิ่มแทงจอประสาทตาอย่างร้ายกาจ
แป่ะ แป่ะ แป่ะ นิ้วยาวของเจ้าบ้านเดินไล่เปิดไฟสามสี่ดวงที่เจ้าตัวโตปิดหมดมีเพียงแสงจากหน้าจอทีวีที่ไม่สว่างนัก “กลับมาแล้ว” นายตำรวจร่างสูงเพรียวสวมครื่องแบบแนบเนื้อรัดเข็มคัดแน่นจนเอวบางเฉียบคอดเล็กยกขายาวก้าวเดินราวกับมีแสงสปอร์ตไลต์อยู่บนหัว ใบหน้าคนเลิกงานดูดีมีออร่าสว่างกระจ่างใสเหมือนมีโรงงานไวท์เทนนิ่งเป็นของตัวเองแขนนขาเรียยานิ้วมือนิ้วเท้าสะอาดสะอ้านบอกใครใครจะเชื่อว่าเป็นตำรวจมือปราบอายุสามสิบแล้ว สันหลังยาวของเรย์เด้งผึงจากพื้นขึ้นมาถลาเข้าไปซบอกอุ่นหอมหวล แม้แต่กลิ่นกายคนออกไปทำงานยังหอมกว่ากลิ่นคนอยู่บ้านไม่ทำอะไรด้วยซ้ำ คนกวนๆ ที่ไล่กระทืบไข่เพื่อนเมื่อครู่แปลงกายเป็นหมาปอมปอมตัวเล็กตัวน้อยมุดหน้าดมซอกคอเจ้าของครางหงุงหงิงจนคนมองอย่างโรมหรี่ตาเป็นเส้นตรงเบะปากลงจนสุด “ตอแหล” แวซายยิ้มกว้างแต่แววตาบ่งบอกตามที่สบถด้วยเสียงหวาน “ที่รัก ไก่ทอดเค้าอ่ะ” หน้าโหดๆ หล่อร้ายเจ้าเล่ห์ก่อนหน้ากลายร่างพัวพันเลื้อยยุบยับบนร่างสมส่วนที่ไม่ว่าอะไรสักคำเอาแต่ยิ้มขำเบาๆ จนตาปิด เรยาเอียงคอกระพริบตาปริบๆ อย่างน่ารัก…แม้จะขัดกับร่างใหญ่ควายเผือกตัวหนาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อนูนเด่นก็ตาม สารวัตรคีรติปรายตาคู่สวยสีเข้มทรงสเน่ห์มองร่างเปลือยท่อนบนกำยำด้วยความชินชาในความแด๊ะแด๋ เรยาไม่ชอบสวมเสื้อผ้าอยู่บ้านแก้ผ้าเดินในบ้านจนเหนื่อยที่จะทักท้วงแค่รักษาความสะอาดก็พอ “ช่วยงานหน่อยสิ” แผ่นโน้ตบนกระดาษเล็กยื่นให้คนทะเล้น เมื่อเจ้าตัวทำท่าเหมือนกลัวการออกไปข้างนอกนายตำรวจหนุ่มที่ไม่รู้จะช่วยยังไงเพราะเรย์ไม่ยอมไปจึงให้ทำในสิ่งที่ถนัด ทำงานแลกกับอาหาร แลกกับได้ใกล้ กอด จูบ เกาะตำรวจแดกไล่ก็ไม่ไป หน้าด้านหน้าทน เก่งอยู่สองเรื่อง เรื่องไอทีกับ…เรื่องเด้า เรยาถลาเข้าไปใช้โน๊ตบุ๊คคุณสารวัตรตัวหอมที่เดินผ่านไปล้างมือในห้องน้ำ ปลายนิ้วยาวจรดแป้นพิมพ์ขยับรัวเร็วโดยไม่มองแม้แต่น้อย “ไหนเตงบอกจะซื้อเข้ามาไงเค้าหิวไก่จัง” แม้ปากจะพร่ำบ่นเสียงอ่อนเสียงหวานแต่มือกับพิมพ์รัวเข้าโปรแกรมลึกขึ้นเข้าไปทุกที เม้มปากแก้มป่องเหมือนเด็ก “จะไม่ช่วย?” “ช่วยคับ” เรยาพยักหน้าเร็วๆ ตอบรับ โรมนั่งเล่นมือถือพาดขาอยู่มุมห้องยิ้มกรุ้มกริ่มหัวเราะหึ หึ “ไหนบอกไม่สนไง หูตั้งหางกระดิกอย่างกับหมา” “ไอ้โรม หุบปาก!” เรยาถลึงตาชี้หน้าใส่ “วันนี้ว่างเหรอโรม” เสียงทุ้มละมุนทักทายเด็กหนุ่มตัวโตอีกคน เจ้าของห้องสุดหล่อไม่แสดงท่าทีรังเกียจเพื่อนของผู้อาศัยแม้แต่น้อย “ค้าบพี่อาร์~” รอยยิ้มหวานหยดขานรับเจ้าบ้านเหมือนลูกแมวในสายตาเรยาไม่ได้น่าเอ็นดูแม้แต่น้อย ดูกวนประสาทมากกว่า “หางานทำได้แล้วพ่อแม่จะได้สบาย” รอยยิ้มพิมพ์ใจส่องสว่างออร่าอร่ามเพราะเรย์ไม่ชอบเปิดไฟหลายครั้งก็เดินเตะข้าวของไปทั่ว ไม่ว่าอย่างไรสารวัตรหนุ่มก็ไม่เคยบ่นผู้อาศัยสักครั้ง “จ้าพี่สารวัตรจ๋า” โรมตอบเสียงหวาน ยิ้มจนตาปิด “จ้า..” เรยาบีบเสียงเล็กล้อเลียน แกร่ก.. แกร่ก เรยาหมุนเก้าอี้หันมายกฝ่าเท้าแล้วเกาเท้าแรงๆ ใส่โรม ปากกหยักแสยะยิ้มท่าทางนักเลงลับหลังสารวัตรคนดี “อย่ามาจ๊ะจ๋ากับเมียกู!” เรยากดสายตามองต่ำชูนิ้วกลางพลางขยับปากไม่มีเสียงกับโรม แต่เจ้าของห้องก็หันมาเห็น จึงต้องยกมือที่เกาเท้าขึ้นเกาหัวทำหน้าตาใสซื่อฉีกยิ้มหวานการละครให้ ชิ้ง~ คุณสารวัตรส่ายหน้าแล้วยกยิ้มเอ็นดูให้กับความเล่นละครของสองเพื่อนซี้ ดาเมจรุนแรงทำสองเพื่อนซี้อ้าปากค้างเผลอยกมือขึ้นทาบหน้าอกซ้ายที่เต้นแรงจนแทบหลุดออกมาจากอก ไม่เพียงรอยยิ้มกับท่วงท่าสง่างามน้ำเสียงอ่อนโยนสุภาพใจเย็นก็ขึ้นชื่อว่าดีเกินกว่าคนธรรมดาทั่วไปหลายขุม “กินข้าวที่นี่มั้ยโรม” เรยาเบะปากไม่พอใจในความใจดีของสารวัตรคนละมุน เมียมาเพื่อนก็ไม่จำเป็น “ตัวเองจะถามมันทำไม! กลับบ้านมึงไปเลยไป๊!” “บ้านกูอยู่สลัมข้างล่างนี่เองจะกลับเมื่อไหร่ก็ได้” โรมหันมายิ้มหน้าซื่อ แต่แววตาเย้ยหยันล้อเลียนและหันมายิ้มหวานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหน้าหล่อ “วันนี้เหนื่อยมั้ยครับพี่สารวัตร” “ก็ปกตินะ” น้ำเสียงสุภาพกับใบหน้าหล่อเหลาไม่ว่าใครได้เห็นเป็นต้องละลาย ใจสั่น แม้แต่โรมที่ไม่ชอบผู้ชายกลับยิ้มเขินอายบิดกายใหญ่ไปมาคล้ายกับสาวน้อยนุ่งกระโปรงบานสีหวานแหว๋ว “ไอ้โรม!” เรยาแยกเขี้ยวใส่ ไม่อยากให้ใครมาทำท่าเคลิบเคลิ้มกับสารวัตรคนดี “จ๋า~” โรมทำหน้าหวานใส่กวนประสาท “กลับห้องมึงไป!” “หนูจะกินไก่” โรมทำตาแป๋ว กุมมือคีรติอย่างกับเด็กขอความเมตตาแต่เรย์โวยลั่น “กูโทรหาหมอนั่นนะ!” “ไปก็ด๊ะ พี่อาร์ขอกอดลาหน่อยค้าบ” โรมโถมเข้ากอดสารวัตรคนหล่อเต็มแรง เรยาแทบถลาเข้าไปกระชากผมที่เริ่มบางออกจากตัวสารวัตรหนุ่ม “ไอ้โรม!!” เรยาสวมวิญญาณนางร้ายในละครเงื้อมือมาตั้งแต่หน้าปากซอยแต่พอเพีมาใกล้คุณตำรวจกลับหัวเราะใส่คิกคัก สายตาเอ็นดูที่มอบให้ทุกคน ถ้าไม่เห็นว่าเป็นตำรวจคงคิดว่าเป็นบาทหลวงไปแล้ว ดี..ดีมาก ดีเหลือเกิน ดีราวกับไม่มีอยู่จริง ดีอะไรอย่างนี้ ดีไปหมด ไม่คิดว่าจะมีคนที่ดีได้ถึงขนาดที่ยับยั้งหมาบ้าอย่างเรยาได้อยู่หมัด โรมอาศัยช่วงที่เรยาเคลิบเคลิ้ม เมื่อถูกให้ท้ายขยับปลายจมูกฟุดฟิดสูดดมกลิ่นตัวสะอาดหอมอ่อนๆ ของร่างสารวัตร “ตัวพี่สารวัตรหอมจัง นี่ไปทำงานหรือไปลงอ่างมาเนี่ย คนอะไรหล่อเขย่าต่อมลูกหมากมากแม่” ตุ้บ! ตุ้บ! ตุ้บ! หมอนอิงบนโซฟาปลิวว่อนปะทะร่างของโรมอย่างจัง “ให้กูเขย่าให้มั้ยแต่ใช้นี่นะ” เรยาปรายสายตาลงบนหัวแม่เท้าที่กระดิกยุกยิกบนพื้น “ป่าเถื่อนที่สุด” โรมแกล้งร้องสะดีดสะดิ้งกระโดดโหย๋งเหย๋งหลบหลังเจ้าของห้องที่ยืนยิ้มน้อยๆ ไม่ว่าอะไร แต่โรมหลบไปชูนิ้วกลางข้างหลังนายตำรวจ ยื่นปลายจมูกเข้าใกล้เส้นผมสั้นจัดทรงเรียบแปล้ เรยาแยกเขี้ยวใส่คว้าเม้าส์ไร้สายในมือเงื้อขึ้นเหนือหัว “เรย์ อย่าขว้างของ” คีรติจ้อมองของในมือเด็กหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยแม้แต่ท่าทางดุยังเอ่ยเสียงนุ่มนวลอย่างสุภาพได้ จะไม่ให้เด็กหลงได้อย่างไร เรยากระพริบตาปริบๆ ไม่เคยมีใครหยุดยั้งอารมณ์ร้อนของคนหนุ่มด้วยความอ่อนโยนเท่านี้มาก่อน จึงแสร้งตีหน้าเศร้าส่งเสียงอ่อย “เตงก็ดูมันสิ! มันทำเหมือนตัวเองเป็นผัวมันงั้นแหละ เตงเป็นของเค้านะ! ทำไมชอบลูบหัวลูบหางมันอยู่เรื่อย เค้าหึงนะรู้มั้ย!” โรมหัวเราะเยาะทันที “ตอแหลซะไม่มี” “ไอ้โร๊มม!!” โรมยักคิ้วยิ้มยียวน “ไปก็ด้ะ~ บ๊ายบายครับพี่” คุณตำรวจโบกมือเรียวสวยให้เพื่อนผู้อาศัยเบาๆ แค่ขยับนิดหน่อยรอยยิ้มน้อยๆ ก็ทำเอาสองหนุ่มเหม่อตาลอย แต่แขกที่พึ่งรู้ตัวว่าไม่ได้ชอบผู้ชายก็ทำเพียงหมุนตัวกลับออกไปท่าทางเก้ๆ กังๆ ไม่ถือสา ไม่ซักประวัติ ไม่พาไปสถานีตำรวจ ไม่ถามหาเหตุผล ไม่พูดจาดูถูก เหยียดหยาม อบอุ่นอ่อนโยน สุภาพ แม้แต่ยามเมา ก็ยังไม่มีด้านมืดออกมาให้เห็น แม้แต่ตอนเผลอมีอะไรกันก็ไม่เคยโทษคนอื่นสักครั้ง…ดีขนาดนี้ ไม่ใช่คนธรรมดาแล้วนิ้วยาวของเรยาเกี่ยวขอบกางเกงผ้านุ่มลื่นสีขาวลงพ้นเนินสะโพกดึงลงจนร่วงหล่นลงไปกองกับพื้นทำให้ท่อนล่างคุณตำรวจไร้เครื่องป้องกัน“ตัวเองชอบตอนเค้าติดสัตว์ไง” ปากได้รูปที่ชอบพ่นคำลามกทำเอาเจ้าของงบ้านนมันเขี้ยวอย่างหนักมือข้างหนึ่งของคุณตำรวจบีบกรามเจ้าหมาตัวโตแน่นแตเจ้าตัวดีกลับเอียงหน้ามาเลียหลังมือขาวสว่างเอาอกเอาใจ สองมือที่กอบกุมก้อนสะโพกแน่นสอดลึกลงไปในร่องหลืบคับแคบ รอยยิ้มเล็กๆ เริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าสารวัตรหนุ่มยิ่งทำให้หมาอย่างเรย์ได้ใจหันหน้ามองเนื้อแท่งขาวราวกับบไส้กรอกอวบอิ่มสิ่งกลิ่นหอมหวน เกร็งข้อมือโอบอุ้มก้อนเนื้อแน่นยกขึ้นน้อยๆ ร่างสูงของสารวัตรต้องเขย่งปลายเท้าเจ้าหมาเด็กไม่รู้สำนึกว่าทำความผิดยังคงนัวเนียของโปรดไม่หยุดหย่อนหน้าหล่อๆ มุดกลางหว่างขาคนพี่แหงนหน้าเสยปลายลิ้นลากผ่านถุงเนื้อนุ่มนิ่มปาดเลียลำร้อนขาวเนียนยิ่งกว่าผิวเด็กอ่อน แท่งเนื้อที่มักจะมีปฏิกริยากับสัมผัสของหมาบ้าอย่างเรย์เสมอมือสองข้างของสารวัตรคีรติต้องประคองบ่ากว้างเอาไว้เมื่อถูกช้อนสะโพกขึ้นจนไม่สามารถเหยียบพื้นได้ ขาสองข้างกางออกกว้างจนแทบจะขี่คอคนเมา“อืมมม~”คุณตำรวจส่งเสียงครางแผ่วทุกครั้งที่เก
เวลาต่อมาสภาพห้องใต้ดินเละเทะเศษขนมเกลื่อนกราดกระป๋องเบียร์ขวดน้ำอัดลมและน้ำเปล่าเป็นกอง ทั้งหมดมึนเมาตามๆ กันแค่นั่งยังเซ เสียงพูดคุยยืดยานฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง“มึงจะกลัวอะไรเราสี่คนเป็นส.ส นะมิดจี้มึงเองก็บอกว่ามันไม่กล้าทำอะไร” แวซายพูดพลางโยนถุงขนมบนโต๊ะให้น้องเล็กปีรามิดตะครุบกอบโกยเอามากอดไว้ไม่แบ่งใคร “ถ้ามันต้องทำขึ้นมาล่ะแล้วพวกมึงจะมีปัญญาคลอดลูกไปคืนแม่กูหรือไง!?” เสียงขึ้นสูงอย่างกับจะกัดใครสักคน“มึงนี่หงุดหงิดง่ายชะมัดตอนโมโหเสียงก็ยิ่งแหบเหมือนอะไรก็ไม่รู้ แกว๊กๆๆๆๆ” โรมหัวเราะ“ทำไมไม่เอาอย่างลูกพี่ลูกน้องมึงบ้างวะ เอาสมองมาไว้ที่จู๋ไม่ต้องคิดห่าอะไร เด้าอย่างเดียวไม่เครียดก็เด้า หิวก็เด้า อิ่มก็เด้า เลี้ยงง่ายสัด”“เออจริง มึงน่าจะแดกน้ำอสุจิแทนข้าวไปเลยนะ” อีกคนเสริม“ชมกูอยู่ปะวะ จะได้เขินถูก” เรยายกคิ้ว ยิ้มกวนปีรามิดกอดอก หัวเราะหึ ๆ เพราะอารมณ์เย็นลง“สมองอยู่ที่จู๋จริง ๆ”“ทำไมพ่อแม่พวกเราถึงมาเป็นนักการเมืองวะ” เรย์ยกขวดเหล้า ขยับปากยิ้มจาง ๆ “แดกบ้านแดกเมืองแล้วมันเท่ดีมั้งแล้วมาตอแหลว่ารักประเทศ ““จริง…” เสียงแวซายรับคำเบา ๆ“อย่าทำตัวน่าเบื่อ
วันเสาร์บ้านผู้หมวดอุดมศักดิ์แกร่ก…แต๊กกกกๆๆๆๆๆๆ …“ไอ้เหี้ย! กูบอกให้ระวังหลังไง!”เสียงตะโกนปนหัวเราะดังออกมาจากห้องโถง เสียงเมาส์กดคลิกตามจังหวะเกมก้องสะท้อนผนัง ตัวละครกระโดดเล็กน้อย หมุนตัวหลบการโจมตีในเกม เสียงปัง ๆ ๆ ดังตามจังหวะมือเขย่าเมาส์“หนวกหู!! เมื่อไหร่จะเลิกเล่นเกมส์สักที” หมวดอุดมศักดิ์พ่นลมหายใจตวาดลั่นบ้าน“แป๊บนึงกำลังจะชนะแล้ว” ปีรามิดทำเสียงยียวนเออออแต่ไม่ขยับเขยื้อนจากหน้าจอ“หยุดเล่นเดี๋ยวนี้!!” น้ำเสียงเรียบแต่เต็มไปด้วยอำนาจ ทำให้ทุกอย่างหยุดนิ่งไป“มีเมลล์ส่งเข้ามาหาคุณด้วยล่ะ ผมปลดล็อคดู เขาบอกว่าอะไรน้าฟินแลนด์สามวันเวลาสามนาฬิกา…เหมือนรหัสลับปฏิบัติการในเกมส์เลย” ร่างผอมบางลอยหน้าลอยตาเล่นเกมส์ต่อสู้เสียงดังแล้วหัวเราะไปพร้อมกันตึก ตึก ตึกหมั่บบ!!หมวดอุดมศักดิ์เอื้อมมือมาบีบแก้มขาวให้หันหน้ามาสบตาแรงๆ “ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามายุ่งกับของของฉัน…อยากตายเหรอไง!” เสียงแข็งกร้าวเย็นชาเค้นต่ำกดดันคนตัวเล็กไม่ต่างจากราชสีกับลูกแมวดวงตากลมใต้ผมหน้าม้าต้องแสงวาวชั่วครู่แม้จะถูกบีบจนเจ็บกรามแต่เลือดนักสู้ก็ไม่ยอมง่ายๆ “ถ้าผมตาย ข้อมูลของคุณกับคนในความลับแ
เวลาต่อมา“พี่ค้าบ…”ปีรามิดยืนอยู่ในห้องกรง มือเล็กจับซี่เหล็กเขย่าไปมาเหมือนหมาถูกขัง“พี่จ๋า…”เสียงอ้อนกระท่อนกระแท่นโบกมือไปมาขอความเห็นยกปลายเท้ากระโดดโหย๋งเหย๋งอยู่ไม่สุข’ พี่ตำรวจปล่อยผมไปเถอะ ผมไม่กินแล้ว ผมไปขอคนอื่นก็ได้ ทำไมต้องจับมาขังแบบนี้ด้วย’ ปากบางกัดสั่นแต่กัดฟันกรอด มือเล็กกระตุกกรงเหล็กแรงๆ แม่ว่ามันจะไม่สะทกสะท้านสักนิดเรยาหัวเราะในห้องควบคุม เสียงแหบพร่า “ไอ้เหี้ย… โดนจับขังแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า”’ ไอ้ตำรวจนี่มันจิตใจอำมหิตชะมัด แค่คนตัวเล็กมาขอเงินกินข้าวก็จับเข้าคุกเฉยเลย’ เพื่อนอีกคนขมวดคิ้วบ่นไปเรื่อยเปื่อย’ กูว่าแล้ว ไม่มีใครใจดีขี้สงสารเท่าเมียกูอีกแล้ว’ เรยากอดอกอวดสรรพคุณคนรักที่เป็นตำรวจเหมือนกันเสียงหัวเราะพรืดดังลั่นรถด้วยความหมั่นไส้อีกครั้ง’ เลิกอวดเมียก่อนได้ไหมไอ้เรย์ ถ้าไม่อยากถูกตีนเล็กๆ ของไอ้มิดนาบหน้าก็รีบส่งคนไปประกันตัวมันเร็ว’ โรมเสนอ ปกระดิกตัวไปมา มือเล็กกวาดไปตามเหล็กกรง หางตากระพริบตาตื่น ๆร่างตัวกระแทกเบา ๆ กับพื้นห้อง ขาเต้นตุบ ๆ ไม่ได้หยุดนิ่ง’ ก็ด้ะ… รอแป๊บ ทำบัตรปลอมให้มันอยู่ ท่าทางจะเล่นด้วยยาก’ เสียงเรย์แผ่ว หรี่ตามองเพื่อน ๆ ร
ติ๊ง! เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ของหมวดอุดมดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนา ทั้งคู่ก้มลงมองพร้อมกัน“คนที่พูดถึง…โพสต์ชื่อใครบางคนออกมาแล้วครับ” อุดมกดขยายหน้าจอ ดวงตาเบิกขึ้นนิดหนึ่ง “ส.ส. พรรคสยามรวมใจ…คนใหม่” คิ้วเข้มของคีรติขมวดเข้าหากันทันที “เอ๊ะ พรรคนี้มันมี ส.ส. คนใหม่แล้วเหรอ”อุดมรีบเลื่อนหน้าจอพลางเอ่ยเสียงตื่น “เดือนหน้า…จะมีการรับตำแหน่งของ ส.ส. พรรคสยามรวมใจ คนใหม่…ทั้งหมดสี่คน”“โอ๊ะ…คุณรู้ได้ยังไงครับสารวัตร”คีรติพ่นลมหายใจออกช้า ๆ คล้ายเก็บความกังวลไม่อยู่ “ผลการโหวตของข่าววงในมันออกมาแล้ว” อุดมเม้มปากแน่น“เอ๋…แต่ไม่มีข่าวหน้าพวกเขาออกมาเลยนี่ครับ”“เห็นว่าจะได้เห็นพร้อมกันวันเปิดตัว” คีรติว่าชัดถ้อยชัดคำ เสียงทุ้มต่ำหนักแน่น “นโยบายใหม่ที่ไม่ให้เปิดเผยใบหน้าก่อนรับตำแหน่ง…เพื่ออะไรก็ไม่รู้ แต่ก็มีคำสั่งนั้นออกมาแล้ว”หมวดอุดมชะงัก สายตาสั่นเล็กน้อย “แปลกชะมัด…เลือกแค่จากชื่อ ไม่ต่างอะไรกับไอ้ดาร์คเว็บนี่เลย ตั้งกฎในประเทศให้ดูไม่โปร่งใสไปหมด…อีกหน่อยก็คงเป็นคอมมิวนิสต์ชัด ๆ”ความเงียบกดทับลงมาอีกครั้ง ทั้งคู่สบตากัน รู้ทันทีว่าการเชื่อมโยงเริ่มปรากฏให้เห็นอย่างน่าขนลุกสารว
เสียงนาฬิกาในห้องทำเดินเป็นจังหวะขณะที่สารวัตรคีรติเอนหลังในเก้าอี้ ดวงตาเรียวเหม่อลอยไปที่ไกลแสนไกล เป็นอยู่อย่างนั้นมาหลายวันแล้วนับตั้งแต่วันที่เรยาหายไปเจ้าเด็กนั่นหายไปไม่ติดต่อกลับมา ไม่รู้ทำไมถึงหายไปทั้งที่ไม่ได้ทะเลาะกัน ไม่มีเรื่องอะไรให้น่าน้อยใจแต่ทำไมถึงออกไป…“สารวัตรคีรติวันนี้เลิกงานไปดื่มกันมั้ย?”“…”“สารวัตรครับ…”ใบหน้าเรียบเฉยเหม่อมองนอกหน้าต่างไม่ไหวติงบ่งบอกว่าไม่ได้ยินที่อีกฝ่ายเรียก หมวดอุดมหน้าดุจึงเร่งเสียงดังขึ้น“สารวัตรคีรติ!”“ครับ? …หมวดอุดมมีอะไรหรือเปล่า?”“พักนี้คุณดูเหม่อ ๆ มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”เสียงทุ้มถามขึ้นท่ามกลางห้องทำงานที่มีเพียงไฟสลัว คีรติเงยหน้าขึ้นทันที แต่รีบปฏิเสธ“เปล่าครับ… คุณว่าไงนะ เรื่องเงิน?” น้ำเสียงพยายามราบเรียบ แต่แววตาไหววูบ“ผมได้เบาะแสจากที่หนึ่งมา” ผู้หมวดหนุ่มเอ่ยพลางกอดอก สีหน้าเคร่งเครียด“ครับ? เบาะแสอะไร? ที่ไหนครับ” คีรติขมวดคิ้ว มือที่ถือปากกาเผลอหยุดเขียนทันที“ต้องออกตัวก่อนนะ ว่าที่ผมเป็นสมาชิกดาร์คเว็บ…มันก็เพราะเราอยู่หน่วยปราบปรามพิเศษ ต้องหาข้อมูลจากเว็บพวกนี้” อุดมเอ่ยหนักแน่นจริงจัง“ครับ”“ในดาร์คเ







