แพรวา...
ไอ้ปิงมันขับรถพาฉันมาที่ห้างเพื่อหาซื้อของขวัญวันเกิดให้อาพิงค์ มันจับมือฉันเดินไปที่ร้านเครื่องประดับ
"ช่วยกูเลือกหน่อยมึงว่าแม่กูจะชอบแบบไหน" มันชี้ให้ฉันดูแหวนที่เรียงรายอยู่ในตู้กระจก คือมันเลือกไม่ถูกอ่ะคือสวยอ่ะสวยทุกวงเลย ฉันเดาว่าราคามันก็น่าจะแพงเอาเรื่องสมกับเพชรที่ประดับอยู่บนแหวนแต่ละวง
"วงนี้ก็สวยนะ" ฉันชี้ไปที่แหวนที่มีเพชรเม็ดเล็กๆ สีชมพูประดับอยู่
"มึงใจตรงกับกูเลยว่ะ กูก็คิดว่าแม่กูน่าจะชอบวงนี้ ขอดูวงนี้หน่อยครับ" มันพูดกับฉันก่อนจะบอกให้พนักงานหยิบแหวนออกมาจากตู้
"เท่าไหร่ครับ"
"วงนี้แสนหกค่ะคุณลูกค้า^^" หืมมมมราคาเอาเรื่องจริงๆ
"งั้นผมเอาวงนี้ครับช่วยห่อของขวัญให้ด้วยผมจะให้เป็นของขวัญวันเกิดให้แม่"
"ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ"
ระหว่างที่เรารอพี่พนักงานนำแหวนไปห่อของขวัญ ฉันก็มองดูไปเรื่อยๆ ฆ่าเวลา คือมันไม่ได้มีแค่แหวนไง มันมีทั้งสร้อยข้อมือ จี้ สร้อยคอ กำไล ต่างหู ละลานตาวิบวับอยู่ภายในตู้เต็มไปหมด ปรกติเวลามาเดินเที่ยวห้างฉันจะไม่ค่อยเข้าร้านพวกนี้ถามว่าชอบไหมก็ชอบนะผู้หญิงกับเครื่องประดับมันเป็นอะไรที่คู่กันอยู่แล้วแต่ฉันคิดว่าตัวเองยังเด็กไปที่จะใส่ของแพงๆ แต่ไม่ใช่ไม่มีนะฉันก็มีเพราะแม่ซื้อให้เอาไว้ใส่ออกงานถ้าวันปกติฉันจะไม่หยิบเอามาใส่ฉันกลัวมันหายน่ะเรื่องของเรื่อง
"อยากได้ป่ะ" มันหันมาถามฉันคงเห็นว่าฉันมองอยู่ล่ะมั้ง
"ไม่อ่ะ แกดูราคาดิ แสนอัพทั้งนั้น"
"แล้วอยากได้ป่ะล่ะ"
"ไม่" ปากบอกไม่แต่ตาของฉันดันไปสะดุดตากับสร้อยข้อมือเส้นนึง มันน่ารักมากอ่ะคือมองปุ๊บฉันละสายตาจากมันไมไ่ด้เลย ทั้งที่ปกติฉันจะเป็นคนชอบอะไรยากมาก
"ขอดูสร้อยเส้นนี้หน่อยครับ" มันบอกพี่พนักงานอีกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น พี่เขาหยิบสร้อยเส้นนั้นออกมา มันรับมาแล้วก็ดึงแขนฉันแล้วเอาสร้อยข้อมือมาใส่ให้ฉันโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว คือมันรู้ได้ไงว่าฉันมองสร้อยเส้นนั้นทั้งที่ในตู้มีวางอยู่ตั้งหลายเส้นแต่ฉันไม่ทันได้ถามอะไรเพราะ.....
"เส้นนี้ราคาเท่าไหร่ครับ" มันถามราคาสร้อยข้อมือที่ตอนนี้มันอยู่ที่แขนของฉันเรียบร้อยแล้ว
"สร้อยข้อมือเส้นนั้นราคาแสนสองค่ะคุณลูกค้า" นี่อย่าบอกนะว่ามันจะ....
"ผมเอาเส้นนี้ด้วยนะครับ"
"จะให้ทางร้านห่อของขวัญให้ด้วยมั้ยคะ"
"ไม่ต้องครับผมให้เพื่อนผมใส่เลย"
"ไอ้ปิง แกทำอะไรของแก"
"ทำไร"
"ก็สร้อยเส้นนี้"
"กูซื้อให้"
"แกจะซื้อทำไม แกถอดออกเลยนะ" ฉันยื่นแขนข้างที่มีสร้อยให้มันเพื่อให้มันถอดออกให้เพราะฉันไม่กล้าถอดออกเองคือกลัวเพชรของเขาจะหลุดสร้อยมันจะขาดฉันแทบไม่กล้าแตะเลย
"กูบอกว่ากูซื้อให้"
"ซื้อให้ฉันอ่ะนะ"
"ถามอะไรโง่ๆอยู่ที่ข้อมือมึงก็แปลว่ากูซื้อให้มึง"
"เพื่อ??? " คือมันจะซื้อให้ฉันทำไมไม่เข้าใจ แถมราคาก็โคตรแพงอ่ะ
"ตอบแทนที่มึงมาช่วยกูเลือกของขวัญให้แม่กูไง"
"สายเปย์เนอะ คงซื้อให้สาวๆ บ่อยอ่ะดิ"
"ก็..ซื้อนะแต่ไม่เคยซื้อให้ใครแพงเท่านี้"
"ฉันสำคัญว่างั้น"
"อืม สำคัญ" มันตอบแบบหน้านิ่งๆ มึนๆ แล้วทำเป็นเดินไปดูเครื่องประดับอีกตู้หนึ่ง พี่พนักงานก็ส่งยิ้มมาให้ฉันฉันก็เลยได้แค่ยิ้มตอบกลับไป
"แฟนน่ารักจังเลยนะคะ^^"
"เอ่อ ไม่ใช่แฟนค่ะ เราเป็นเพื่อนกัน^^"
"ค่ะ^^" ตอบค่ะ แต่ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นคะพี่พนักงาน คือพี่เขาทำหน้าแบบไม่ค่อยเชื่อที่ฉันพูดว่าเราเป็นเพื่อนกัน คือพี่เขาก็คงจะคิดอ่ะว่าเพื่อนกันยังไงซื้อของให้กันเป็นแสนๆ แบบนี้
"เรียบร้อยค่ะ^^"
สักพักพี่พนักงานคนแรกก็ยื่นถุงเล็กๆ มาให้ฉันก่อนที่ไอ้ปิงมันจะหยิบบัตรแบล็คการ์ดให้พี่เขา หลังจากเซ็นต์อะไรเสร็จพี่เขายื่นบัตรคืนให้กับมันมันหยิบมาใส่กระเป๋ากางเกง
"ขอบคุณนะคะ" พี่ทั้งสองคนยกมือไหว้เราสองคนด้วยรอยยิ้มที่สดใส ฉันก็ยกมือไหว้กลับเพราะพี่เขาน่าจะอายุมากกว่าเราสองคนหลายสิบปี
"ไอ้ปิง" ฉันเรียกชื่อมันขณะเดินตามหลังมันออกมามือฉันก็คอยลูบสร้อยข้อมือที่เพิ่งได้มาหมาดๆ ด้วยความที่กลัวมันจะหาย
"อะไร"
"แกถอดมันออกให้หน่อย" ฉันยื่นแขนไปให้มันมันก็ทำเพียงเหล่ตามองที่สร้อยแล้วเงยหน้ามองฉันต่อก่อนจะชักสายตากลับแล้วทำเป็นไม่สนใจฉันอีกยังคงตั้งหน้าตั้งตาเดิน ฉันก็ทำได้เพียงเดินตามหลังไปมันเรื่อยๆ เพราะไม่รู้ว่ามันจะพาฉันไปไหนอีกนอกจากซื้อของเสร็จเรียบร้อยแล้ว มันพาฉันมาที่ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านนึง มันเดินเข้าไปนั่งด้านในสุดฉันก็ต้องเดินตามมันไป มันสั่งอาหารกับพี่พนักงานเสร็จก่อนจะหยิบมือถือออกมาเล่นต่อ
"ไอ้ปิง"
"มึงจะเรียกอะไรนักหนาวะรำคาญว่ะ" อ่าว ไอ้นี่มันชวนฉันมาแท้ๆ แล้วมาว่าฉันน่ารำคาญมันใช่เหรอ
"ถ้ามึงเบื่อกูกลับก่อนก็ได้นะ" ฉันลุกขึ้นหยิบกระเป๋านักเรียนมาสะพายเพื่อจะกลับแต่พอเจอสายตาที่มันมองมาฉันก็ต้องย่อตัวนั่งลงที่เดิม คือไม่รู้ทำไมฉันต้องกลัวสายตามันด้วย งงใจในตัวเองเหมือนกันนะ
"มึงจะไปไหนไม่ได้ และวันนี้มึงก็ต้องไปนอนบ้านกู"
"ว่าไงนะ"
"กูบอกวันนี้มึงไปนอนบ้านกู"
"ทำไมต้องไปนอนบ้านแกอ่ะ" คือไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยไปนอนบ้านมันนะ ก็ไปนอนบ่อยอ่ะ ยิ่งช่วงใกล้สอบเราจะนัดติวอ่านหนังสือกันซึ่งพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะมีไอ้พายุไปด้วยไง
"ก็จะได้คุยกันเรื่องธีมจัดงานวันเกิดแม่กูไง"
"แล้วมันจำเป็นถึงกับขนาดที่ต้องไปนอนบ้านแกด้วยหรือไง"
"เออ"
"งั้นแกโทรหาไอ้พายุเลยนะว่าให้มันมานอนด้วย"
"มันไปกับสาวมันจะมาได้ไง"
"งั้นฉันจะกลับบ้าน"
"ไม่ได้ กูบอกว่าไง กูไม่ให้กลับ มึงตกลงว่าจะช่วยกูแล้วมึงก็ต้องอยู่ช่วยกูคิดธีมงานจนกว่ากูจะคิดออก"
"แต่ฉันยังไม่ได้บอกเจ้รุ้งเลยนะว่าจะมาค้างบ้านแกอ่ะ"
"เดี๋ยวค่อยไปบอกที่บ้านเพราะเดี๋ยวกูจะไปส่งมึงไปเอาเสื้ผ้ามาเปลี่ยน เอามาหลายๆ ชุดเลยนะเพราะมึงอาจจะต้องอยู่บ้านกูจนกว่าจะถึงวันงาน"
"บ้าหรือเปล่าวะ ไม่อยู่หรอกบ้านแกอ่ะบ้านฉันก็มีนอนทำไมต้องมานอนบ้านแก"
"น่านะ ถือว่ากูขอร้อง นะนะ^^" ดูมันทำหน้าดิอ้อนซะจริงๆ แล้วฉันก็เป็นพวกขี้ใจอ่อนด้วยไง สรุปฉันก็ต้องมานอนบ้านมันจนได้ และข้ออ้างที่มันพูดกับเจ้รุ้งมันก็ทำให้เจ้รุ้งปฎิเสธไม่ได้เพราะเจ้รุ้งน่ะรักอาพิงค์มากถึงมากที่สุด
ปิงปิง...."ว๊ายยตายแล้ว ทำไมลูกสาวของปิงถึงเรียกเราแบบนี้ล่ะ เราไม่ได้แก่ขนาดนั้นหรอกนะ หนูจ๋าเรียกพี่ก็พอนะ""ไม่เอาค่ะน้องจะเรียกว่าคุณป้า^^" ดู ดูความกวนของลูกสาวของผม"ไม่มีมารยาทเลยนะเด็กอะไร""แล้วคุณป้ามีมารยาทเหรอคะ มากอดแขนปะป๊าของหนูทำไม!! " น้องเพลงไม่ยอมเลยครับ คือเธอถอดแบบคุณแม่ของเธอมาเต็มเลยทั้งสีหน้าและแววตาที่พร้อมจะเอาเรื่อง"ปิง เป็นพ่อก็ควรหัดสอนมารยาทลูกสาวด้วยนะ ทำนิสัยแบบนี้ไม่น่ารักเลย""คุณป้าก็ไม่น่ารักให้คุณปะป๊าของคุณป้าสอนมารยาทด้วยนะคะว่าอย่ามากอดแขนปะป๊าของคนอื่นแบบนี้" อย่าว่าลูกสาวผมปากร้ายเลยนะครับ คือแกจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เวลาผมพาไปไหนแล้วเจอผู้หญิงคนเก่าๆ ที่ผมเคยคุยด้วยเข้ามาทักซึ่งคนตรงหน้าไม่ใช่รายแรกแต่เรื่องนี้ลูกสาวของผมไม่เคยไปฟ้องแพรเลยสักครั้ง แกบอกแกไม่อยากให้คุณแม่ของเธอไม่สบายใจ คือเด็กสี่ขวบคิดได้แบบนี้..คิดได้ไงผมเป็นพ่อผมยังงงเลยครับหลังจากที่เราทานอาหารกันเสร็จเราก็ขับรถมารับแพรวาที่บริษัทเพราะตอนนี้ใกล้เวลาเลิกงานแล้ว ถ้าแพรได้เข้าบริษัทเธอจะอยู่จนถึงพนักงานเลิกงานทุกครั้ง"คุณแม่ขาาาา น้องกับพี่กับปะป๊ามารับแล้วค่าาาา" น้องเพล
แพรวา....และเวลาที่เราสองคนรอคอยก็มาถึง........"อุแว๊ อุแว๊""น้องคนแรกออกมาแล้วนะครับ น้ำหนัก สามพันห้าร้อยกรัม สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดีครับคุณแม่" ฉันกับปิงมองไปที่เด็กน้อยที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดและน้ำคร่ำก่อนที่คุณหมอจะส่งต่อไปให้พี่พยาบาลนำแกไปทำความสะอาดร่างกาย ปิงเดินตามไปถ่ายวีดีโอเอาไว้ ฉันแอบเห็นมันร้องไห้ด้วยนะซึ่งฉันก็ร้องตามแม้จะเห็นไกลๆ"อุแว๊ อุแว๊""น้องคนที่สองออกมาแล้วนะครับ น้ำหนักสามพันสี่ร้อยกรัม สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์เหมือนกันครับคุณแม่" คุณหมอยื่นลูกคนเล็กไปให้พี่พยาบาลอีกคนมารับไปทำความสะอาดเหมือนพี่คนแรกโดยมีปิงคอยบันทึกเหตุการณ์ทุกอย่างเอาไว้ทุกชอต และฉันก็ได้ยินเสียงปิงมันร้องไห้แข่งกับลูกน้อยทั้งสอง จนคุณหมอและคุณพี่พยาบาลอดยิ้มขำไม่ได้จนฉันรู้สึกอายที่มันต้องเป็นฉันไหมที่ต้องร้องไห้ขนาดนั้น"ปิง..ปิง" ฉันเรียกชื่อปิงแต่มันก็ยังไม่หันมา"ปิงมาหาแพรหน่อย""อื้มมม แป๊บๆ ถ่ายวีดีโอลูกแป๊บ" แต่ที่ฉันเห็นคือมันกำลังก้มหน้าปาดน้ำตาของมันอยู่จนฉันอดขำตามไม่ได้หนึ่งชั่วโมงต่อมา....ฉันถูกพาตัวมายังห้องพักฟื้นซึ่งเป็นห้องพิเศษที่ปิงมันจองไว้แล้ว ห้องนี้คล้ายกับเราพ
ปิงปิง.....แต่สุดท้ายเราก็ปิดเรื่องนี้ไม่ได้เพราะอะไรน่ะเหรอ........ก็เพราะผมดันเป็นลมล้มตึงในงานน่ะสิ โอ๊ยคิดแล้วก็อายตัวเอง ดันมาเป็นลมวันงานแต่งและแพรวาก็คอยดูแลผมไม่ห่าง จนพ่อกับแม่ต้องเรียกหมอจากโรงพยาบาลมาตรวจถึงในงานแต่งงาน แต่พอตรวจแล้วปรากฏว่าผมไม่ได้เป็นไข้หรือเป็นอะไรเลย แต่อาฟ้าแม่ของแพรวาท่านได้ขอให้คุณหมอช่วยตรวจแพรวาแทน ซึ่งทุกคนก็สงสัยนะว่าทำไมถึงต้องตรวจแพรวาทั้งที่เธอไม่ได้เป็นอะไรผลปรากฏว่าทุกคนก็รู้ว่าแพรวาตั้งท้อง แต่แทนที่ผมกับแพรวาจะโดนดุเพราะแอบมีอะไรกันก่อนจนท้องก่อนแต่ง แต่เปล่าเลยครับ แม่ผมกับอาฟ้าดีอกอีใจยกใหญ่โดยเฉพาะแม่ของผมที่ดีใจจนร้องไห้ที่จะได้อุ้มหลานของตัวเองสักทีหลังจากที่ไปอุ้มไปคอยช่วยเลี้ยงลูกๆ ของไอ้พายุกับแคร์"เราจะได้หลานแฝดไหมนะ" แม่ผมหันไปถามพ่อ"ก็ไม่แน่เพราะหนูแพรเองก็มีฝาแฝด" พ่อผมพูดเสียงเรียบๆ ผมรู้ว่าพ่อเองก็คงจะดีใจแต่ต้องเก็บอาการเพราะผมทำให้แพรวาท้องก่อนแต่ง"เอ่ออ ฝาแฝดค่ะคุณพ่อคุณแม่ อาปืน อาพิงค์ เราสองคนไปฝากครรภ์มาแล้ว>แพรวาเอ่ยออกมาในที่สุดเพื่อให้ทุกคนรับรู้เพราะเราสองคนรู้แล้วว่าได้ลูกแฝดเพียงแค่ยังไม่รู้เพศเท่านั้น"
ปิงปิง......"ปิงจ๋า...ขยับเร็วๆ สิ""อื้มมม จะใส่ไม่ยั้งเลยคอยดู"ปึ่ก ปึ่ก ปึ่ก ปึ่ก ปึ่ก"อ๊ะ อ๊าาาาา เสียว เสียว ปิงจ๋าาาา อ๊ะ อ๊าาาา ผัวจ๋าาาา""ซี๊ดดด แม่งเอ้ยยยย อย่าเรียกแบบนั้น" มาเรียกกันแบบนี้จะให้ผมทนยังไงไหวผมก็ซอยไม่ยั้งเลยดิแบบนี้ ขอเอาแบบแรงๆ ไปเลย"อ๊าาาาา ปิงจ๋า ผัวจ๋าาาา เมียไมไ่หวแล้วน๊าาาาา" ผมรู้เลยว่าตอนนี้แพรวาจะไม่ไหวเพราะร่องของเธอตอนนี้ตอดท่อนเอ็นของผมไม่หยุดเลย ผมเลยเร่งจังหวะเข้าไปอีก"เสร็จก่อนเลยเมียจ๋า ผัวยังอีกนาน ซี๊ดดดด อื้มมมม""กรี๊ดดดดดดดดด อื้ออออออ" แพรวาฟุบหน้าลงไปกับหมอนหลังจากที่เธอไปถึงจุดหมายปลายทางก่อนผม ซึ่งผมก็ยังไม่หยุดกระแทกเพราะยังอีกนานเลยล่ะกว่าจะเสร็จหนึ่งชั่วโมงต่อมา........."อ๊ะ ปิง มันจุกอ่ะ อย่างกระแทกขึ้นมาสิ อื้อออ" ตอนนี้ผมกำลังให้แพรวาแสดงฝีมือการควบขี่"ถ้าไม่อยากให้กระแทกขึ้นเมียจ๋าก็ขย่มแรงๆ ดิ" ผมจับเอวของแพรวาเอาไว้และเด้งเอวส่วนขึ้นไปจนตัวเธอเด้งไปเด้งมาอยู่ด้านบนตั่บ ตั่บ ตั่บ ตั่บ ตั่บ ตั่บ ตั่บ"อ๊าาส์แบบนั้น ขย่มแรงๆ อีกเมียจ๋า ผัวอยากเสียวมากกว่านี้ ซี๊ดดด""ก็ขย่มแล้วนี่ไง อื้อออ ปิงเมียจ๋าจะเสร็จอีกแล้วอ่ะ อ
แพรวา.......ฉันที่กำลังอยู่ในอ้อมกอดของปิง เมื่อได้ยินสิ่งที่มันพูดมันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกผิดแต่ก็รู้สึกดีในเวลาเดียวกันที่รู้ว่ามันยังรู้สึกกับฉันเหมือนเดิมทุกอย่าง มันไม่ไ่ด้มีใคร มันยังรอฉันกลับมาเป็นแม่ของลูกมัน แล้วฉันจะรออะไรอีก ฉันไม่อยากเสียเวลาอีกแล้ว เรื่องของเรามันควรจะลงเอยกันสักที และฉันจะตอบแทนความรักที่ปิงมีให้กับฉันตลอดเวลาหลายปีด้วยการ....ฉันจ้องมองเข้าไปในแววตาที่ปิงมองฉันด้วยความรักเต็มหัวใจ ปิงค่อยๆ เอานิ้วมือมาเช็ดคราบน้ำน้ำตาที่ยังไหลไม่หยุดบนแก้มของฉัน"หยุดร้องได้แล้ว ไม่ต้องร้อง กูเห็นมึงร้องไห้แบบนี้กูใจไม่ดีเลย....""ปิง....ฉันรักแกนะ" และฉันก็สวมกอดมันอย่างแนบแน่น"รักเหมือนกัน รักไม่เคยเปลี่ยนแปลงและจะรักไปคนเดียวตลอดชีวิตของผู้ชายที่ชื่อปิงปิง จะมีเพียงแค่แพรวาคนเดียวเท่านั้น""ไม่ได้คุยกันแค่เดือนเดียวทำไมพูดจาหวานๆ เลี่ยนๆ แบบนี้""แล้วไม่ชอบเหรอ""ชอบสิ ฉันอยากให้แกพูดแบบนี้กับฉันทุกวันเลย""กู...เอ่ออ เค้าจะพูดให้แพรฟังทุกวันเลยดีไหม""อื้มมมม น่ารักจัง แฟนใครอ่ะ^^""ไม่ใช่แฟนของใครแต่เป็นผัว^^""อื้ม ผัวก็ผัว^^"เราสองคนจ้องหน้ากันและฉันก็ค่อยๆ เอามื
ปิงปิง...."ไหนบอกรักหนูแพรวามากไง รอได้ไง ทำไมทำแบบนี้ ทะเลาะกันก็ควรจะหันหน้ามาคุยกันสิไม่ใช่ประชดด้วยการไปจีบคนอื่นแบบนี้ แล้วแม่ก็เชื่อว่าหนูแพรไม่มีทางไปชอบคนอื่น เราน่ะเข้าใจผิด""แม่จะคิดยังไงก็แล้วแต่ แต่ผมยืนยันว่าผมจะจีบมาร์กี้" คือผมพูดไปแบบนั้นก็แค่ประชดเท่านั้นแต่ทั้งที่จริงผมไม่ได้จีบเธอหรอกครับก็เป็นเพื่อนกัน แม้ว่าท่าทางของเธอที่แสดงออกมาว่าเธอคิดกับผมเกินเพื่อน แต่ผมก็บอกเธอไปตามตรงว่าผมมีคนรักอยู่แล้วแต่ไม่รู้เธอรู้ได้ยังไงว่าผมมีเรื่องทะเลาะกับแพรวา หรือว่าเธอแอบฟังผมพูดกับแม่ตอนที่เธอมาหาผมที่บ้านตอนนั้น เธอบอกว่ารอได้ และอยากให้ผมเปิดใจให้เธอแต่ผมก็บอกปัดไปตรงๆ เลยว่าไม่ ผมไม่คิดอะไรกับเธอ ผมรักแฟนผมคนเดียว คือคำตอบสุดท้ายจากนั้นผมก็กลับมาที่ไทยและเลิกติดต่อกับมาร์กี่้อีกเพราะไม่อยากทำตัวเหมือนให้ความหวังเธอหากเรายังติดต่อพูดคุยกันอยู่ ส่วนไลน์ ไอจี เบอร์โทร ผมไม่ได้ให้เธอไปหรอกครับ ไม่ได้ให้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วก๊อก ก๊อก ก๊อก"คุณปิงปิงคะ มีแขกมาขอพบค่ะ" ป้าแม่บ้านมาเคาะประตูห้องบอกมีแขกมาขอพบ ใครมาวะ เพราะปกติผมไม่ค่อยมีใครมาหานะ ถ้าจะเป็นเพื่อนๆ ของผมมันก็จะต้อง