LOGIN
-ไนท์-
“เราเลิกกัน! แล้วอย่ามาให้พี่เห็นหน้าอีก” “ลัลไม่เลิก พี่กำลังเข้าใจลัลผิด ลัลกับเขาไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ นะ” “เหอะ ไม่มีอะไร คิดว่าพี่โง่มากเหรอ ฮะ ถึงจะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรอ้ะ” “ลัลรักพี่นะ” ร่างเล็กคว้าแขนเขา “รักเหี้ยอะไร! ปล่อย!!” ร่างสูงกระแทกเสียง พร้อมกับสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของเธอ แล้วเดินออกไปทันที “พี่ไนท์” เสียงเล็กตะโกนเรียกตามหลัง “คัต!! ไนท์ ในบทไม่มีคำว่าเหี้ยนะ” “อ่อ ขะ..ขอโทษแทนไนท์ด้วยนะคะ” ผู้จัดการสาวของผมออกตัวขอโทษแทนอย่างไว “พี่เข้าใจว่าไนท์อินกับบท แต่ฉากนี้ช่วยพูดตามบทหน่อยนะ” “..ครับ” “มาๆ เอาใหม่อีกรอบ กล้องสปีด แอนด์.. แอ็กชัน!!” “ดูสิพูดอะไรก็ไม่รู้เนาะ ไม่มืออาชีพเลยว่ามั้ย” “จะมืออาชีพอาร๊าย ก็เห็นว่าเพิ่งมาแสดงได้ไม่นานหนิ” เสียงซุบซิบนินทาของเด็กในกอง “อะแฮ่ม เงียบๆ หน่อยนะคะ เขากำลังถ่ายกันอยู่” ผู้จัดการเอ็ดเจ้าของเสียงนินทา _________ ผมเกิดมาในครอบครัวที่พ่อเป็นหมอ ส่วนแม่ มีร้านเป็นห้องเสื้อเล็กๆ ตอนเด็กผมเป็นคนที่ติดแม่มาก เพราะเขาเป็นคนที่ใจดี แต่แล้วเขาก็มาจากผมไปเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมานี้ บ้านเรามีโรงพยาบาล ชื่อ‘คีรีกันตรักษ์’ตระกูลของพ่อ พ่ออยากให้ผมเป็นหมอแบบเขา แต่ผมไม่ได้อยากเป็นหมอ ผมชอบการออกแบบเสื้อผ้าเหมือนแม่ อยากมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเอง พ่อให้เลือกเรียนระหว่างหมอกับบริหาร ผมจึงเลือกเรียนบริหาร และตอนนี้ผมก็กำลังทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองอยู่ ชื่อว่า ‘Nightstyle’ ที่มีทั้งเสื้อผ้า รองเท้า หมวก และกระเป๋า เรียกได้ว่าสามารถคอมพลีทลุคได้ในแบรนด์เดียวเลยก็ว่าได้ มีทั้งของผู้ชายและผู้หญิง แน่นอนมันมีความหลากหลายในตัวค่อนข้างมาก ในหลายอย่างที่เราทำ ซึ่งมันก็ทำให้ทำงานยาก แต่มันก็สนุก จุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมสนใจในเรื่องเสื้อผ้า อย่างที่บอกไปแม่ผมเปิดร้านห้องเสื้อ มีกลุ่มลูกค้าส่วนมากที่มาใช้บริการเป็นคนที่มีฐานะซะส่วนใหญ่ มาให้ซ่อมผ้าบ้าง ให้ออกแบบชุดให้บ้าง แม่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการเลือกผ้า ตัดเย็บ ออกแบบดีไซน์มัน นั่นคืองานฝีมือ เอกลักษณ์งานของแม่ที่ออกมาถ้าไม่มีการบรีฟ ค่อนข้างร่วมสมัยแต่ก็มีกลิ่นอายของความเป็นสมัยก่อน ผมเห็นของพวกนี้มาตั้งแต่เด็ก เลิกโรงเรียนมาผมก็ชอบช่วยแม่ทำงานออกแบบชุดบ้างล่ะ ผมเห็นอะไรมาก็มาแชร์ความคิดเห็นกันกับแม่ เป็นการใช้เวลาร่วมกันกับคนที่เรารัก กับสิ่งที่เขาและเราก็ชอบเหมือนกัน ว่าแล้วก็คิดถึงแม่ ยกยิ้ม แล้วก็มีหลายครั้งที่ได้รับคำชมมาว่าผมทำได้ดี มันทำให้ผมรู้สึกรัก สบายใจและชอบที่จะทำมัน ถ้าถามว่าผมมาเป็นนักแสดงได้ยังไง ปีที่แล้วมีวันหนึ่ง ผมไปเดินห้างดูเสื้อผ้า แพลนจะเปิดแบรนด์ปีนี้ แล้วก็มีผู้หญิงคนหนึ่งอายุราวๆ ยี่สิบเก้าปี แต่งตัวดี ด้วยเสื้อยืดสีขาวทับด้วยสูทสีดำ แมทช์กับกางเกงยีนและรองเท้าผ้าใบสีขาว มองดูภูมิฐานพอตัว แต่เมื่อพูดกับดูอ่อนหวานนุ่มนวล ใจเย็นผิดกับลุคที่ดูเป็นคนเก่งเหมือนจะเอาแต่ใจ ซึ่งก็คือ ‘พี่โดนัท’ ผู้จัดการผมในตอนนี้ เดินเข้ามาหา ทาบทามโดยบอกว่าผมหน้าตาดี อยากให้มาแสดง เพราะคาแรกเตอร์ลุคตรงกับบทที่ทางเขากำลังหาอยู่ อย่างไม่อ้อมค้อม และประโยคที่น่าสนใจหนึ่งก็คือ‘มันได้เงินดีนะ สนใจมั้ย’ ผมตอบกลับพี่เขาไปว่าขอคิดดูก่อน เขายื่นนามบัตรให้ผม แล้วก็ไม่ได้เร้าหรืออะไรต่อ กลับมาถึงบ้านร่างถึงเตียง ผมก็เปิดทีวีดู เพราะจำได้ว่าวันนี้มีซีรีส์วายที่ ‘ณะ’เพื่อนร่วมรุ่นผม สมัยเรียนมหา’ลัยด้วยกัน แสดงเป็นนายเอกออกอากาศเป็นวันแรก ณะเรียนอยู่คณะนิเทศศาสตร์ สาขาการแสดง เราเจอกันครั้งแรกอยู่ที่โรงอาหารมหา’ลัย เขาเป็นคนที่มีออร่ามาก แม้ตัวจะไม่สูงมากมายอะไร อยู่ประมาณร้อยเจ็ดสิบห้า ผิวขาวๆ คิ้วเข้มพอดี จัดฟัน เวลายิ้มมีแก้มหน่อยๆ น่ารัก เวลาเขาพูดจากับเพื่อนหรือกับใครก็ดูมีเสน่ห์ไปหมด ใช่ครับผมชอบเขา ไม่รู้ว่ามีใครสงสัยรึเปล่าว่า ทำไมผมถึงชอบผู้ชาย แล้วไม่ชอบผู้หญิงเหรอ จริงจะว่าได้หมดก็ได้ ส่วนมีความเป็นมายังไง เดี๋ยวไว้ผมขอเล่าทีหลังละกันขอทดไว้ก่อน มาต่อกันที่ ภายหลังผมก็มารู้ว่าณะเป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมของมิวเพื่อนสนิทผม มันเล่าให้ฟังว่าณะเป็นคนที่น่ารักตั้งใจเรียน เป็นที่รักของเพื่อนๆ แล้วที่สำคัญเขาชอบดาราที่ทรงคล้ายๆ กันกับผมด้วย และนั่นทำให้ผมสนใจเขามากขึ้นเข้าไปอีก เพราะคิดว่าตัวเองมีหวัง อยากทำความรู้จักกับเขาเพิ่มมากขึ้น แต่แล้วผมกับเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน ปี 3 เทอม 2 แม้ว่าตอนนั้นผมจะทำทุกอย่างดูแลเทคแคร์เขาเท่าที่จะทำได้ช่วยได้ แต่ผมไม่ได้บอกออกไปตรงๆ ว่าจีบ แต่เขาก็น่าจะรู้แหละ ถึงปีที่ 4 แล้ววันหนึ่งเขาก็มีพี่ผู้ชายที่ชื่อ ‘ธรณ์’อายุประมาณ 24 ตอนนั้น เข้ามาจีบ ได้ยินว่าทางบ้านพี่มันทำจิวเวลรี่ น่าจะเป็นบ้านที่มีฐานะดีเลย ครอบครัวของทั้งสองเห็นดีเห็นงามกันตามลูกชาย และเหมือนว่าเจ้าตัวทั้งสองคนก็ดูจะไปด้วยกันได้ดีซะด้วย เวลาที่เหลือ 1 เทอม ของนักศึกษาปี 4 เขาก็มารับไปส่งกันจนจบมหาวิทยาลัย ผมก็ไม่ได้ติดต่อกับณะอีกเลยตั้งแต่เขามีแฟน ได้แค่มองดูเขาอยู่ห่างๆ จอทีวีตอนนี้แสดงภาพพระเอกหนุ่มหล่อหน้าตี๋ ดูอบอุ่นเสียงนุ่มกับนายเอกที่ดูใสซื่อมองโลกในแง่ดีกำลังหยอกล้อเล่นกัน ผมเอื้อมมือหยิบรีโมตที่วางอยู่บนตู้ข้างเตียงขึ้นมาปิดทีวี ติ๊ด วางมันกลับลงไปที่เดิมแล้วหยิบนามบัตรที่วางอยู่ข้างกันขึ้นมาแทน ก่อนจะกดโทรศัพท์ตามเบอร์ที่มีให้ไว้ในนามบัตร ตู๊ด.… ตู๊ด... รอไม่นานปลายสายก็รับ “สวัสดีครับ ผมไนท์นะครับ สนใจแสดงครับ” นั่นคือปีที่แล้ว แล้วผมก็แสดงมาจนถึงตอนนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่สามแล้ว ทุกเรื่องที่แสดงมาคือชายหญิง และเป็นซีรีส์ไม่ยาวมากสิบกว่าตอน เรื่องแรกได้รับบทเป็น ตัวโกงเจ้าของผับ โดนต่อยหน้าไปห้าที เรื่องที่สองเป็นพระรอง ตอนจบรับกระสุนตายแทนนางเอก ส่วนเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ได้เป็นพระเอก ซึ่งรูปหล่อพ่อรวย นางเอกเป็นสาวสวยขายอาหารตามสั่ง ที่หน้าตาอย่างกับนางแบบ _________ “คัต! โอเคดีมาก เรียบร้อย เดี๋ยวเตรียมโลเคชันต่อไปได้เลย” “ผมไปเข้าห้องน้ำนะ” ผมเดินออกมาจากหน้าเซตมาบอกผู้จัดการ “อื้อ” พี่โดนัทพยักพเยิด “นี่พี่ พี่ไนท์เขามีแฟนยังอ้ะ” หญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังช่วยพี่ทิพย์ซึ่งเป็นคนในกอง กำลังจัดของเพื่อที่จะยกไปซีนต่อไปถามขึ้น “คุยกันเบาๆ นะ เธอก็ดูสิ คงมีหรอก” คนที่อายุมากกว่าตอบอย่างออกรสออกชาติ “เอ้าทำไมอ้ะ? หล่อก็หล่อ รวยก็รวย” “พี่ว่าเขาดูเป็นพวก‘หัวรุนแรง’” “ใช่เหรอพี่ ชอบใช้ความรุนแรงงี้เหรอ อุ้ย สเปกเลย” “ไม่ใช่! หมายถึงคนที่มีความคิดอะไรแล้ว เอาจริงเอาจัง ยอมหักไม่ยอมงออ้ะ” “อ๋อ เอาจริงเอาจัง~ ชอบๆ” “นี่เธอมาทำงานวันแรกไม่ใช่เหรอ พลอยใส” “ใช่ค่ะ” “เสร็จแล้วก็ไปทำงาน เดี๋ยวพี่ยกไปต่อเอง” “อ่อ โอเคค่ะ แหะๆ” ไนท์กลอกตามองบน แม้คนในกองจะกระซิบกระซาบกันเบาๆ แต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นไปจากหูของเขาได้ “ไปเถอะ จะได้มาถ่ายต่อ แล้วกลับไปพักผ่อนกัน” พี่โดนัทผู้จัดการที่นั่งอยู่ใกล้ๆ บอกปัดประเด็น โดยใช้การโน้มน้าว ไม่ให้ไปสนใจเสียงนินทา ผมเดินไปเข้าห้องน้ำ ทำธุระเสร็จเดินออกมา แต่ก็ต้องหยุดชะงักกะทันหัน ตรงมุมทางเดินแยกจะเข้ามาห้องน้ำ เมื่อเห็นว่าเกือบจะชนเข้ากับหญิงสาวอายุราวๆ 23 ปี คนที่ดูเหมือนว่า ยืนรออยู่นานแล้ว “สวัสดีค่ะ พี่ไนท์ หนูชื่อพลอยใสนะคะ เป็นพนักงานใหม่ มาทำงานวันนี้วันแรก” หญิงสาวในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวรัดรูปกับกระโปรงทรงเอสีดำกล่าวทัก ไนท์จำได้ว่าคนนี้คือคนที่ถามคนในกองเรื่องเขา เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา แต่ที่ต่างออกไปหน่อยคือ กระดุมเสื้อถูกปลดลดลงมาลึกจนเกือบเห็นเนินอก “รู้ละ” ไนท์มองร่างคนตรงหน้า “ใส่ใจพนักงานด้วยเหรอคะเนี่ย ดีจัง” ร่างบางยิ้มให้ “เปล่าหรอกครับ รู้ตอนได้ยินเสียงคุณคุยเรื่องผมน่ะ” “อ่อ..อ๋อ..แย่จังเลยนะคะพลอยเนี่ย” หญิงสาวยิ้มเจื่อนๆ ตาหลุบมองต่ำชั่วครู่ ก่อนจะถอนสายตากลับมามองคนตรงหน้าเหมือนเดิม “ขอตัวก่อนนะครับ” “ดะ..เดี๋ยวค่ะพี่ไนท์” ร่างสูงกำลังจะเดินจากไป แต่ก็โดนร่างบางห้ามไว้ซะก่อน “พี่ไนท์ตัวจริง หล่อกว่าในจออีกนะคะ” “ขอบคุณครับ” คนถูกชมพูดขอบคุณไปตามมารยาท “ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย” “เอ่อ..พลอยขอไลน์ไว้หน่อยได้มั้ยคะ” เขายื่นโทรศัพท์มาตรงหน้า หวังจะให้ไนท์รับมันไปกดตามคำขอ “จะเอาไปทำไมครับ ขออนุญาตไม่ให้นะ ขอทางหน่อยครับ” ว่าแล้วคนถูกขอคอนแทกต์ก็หลบร่างบางออกมา แล้วเดินจากไปอย่างไม่ไยดี หึ หยิ่งซะด้วย เห็นนะว่ามองใหญ่ จะไปไหนรอด หนีไม่พ้นมือ อีพลอยหรอก คอยดูเถอะ ###“พี่ไม่ต้องพยายามก็ได้นะ” …“พี่ไม่ได้พยายาม โปรดก็รู้ว่า ถ้าพี่ไม่อยากทำ พี่ไม่ทำหรอก” เขาตอบจริงจัง แม้จะฟังดูไม่ค่อยจริงจังเท่าไหร่ เพราะปกติเขาจะพูดกับผมโดยแทนตัวเองว่ากู“พี่โดนของมาป่ะเนี่ย ทำไมเปลี่ยนไปขนาดนี้ ปกติพี่ไม่ใช่คนแบบนี้ ขนาดตอนเป็นแฟนกัน พี่ยังไม่แทนตัวเองว่าพี่ แล้วก็ไม่เรียกชื่อผมว่าโปรดด้วย มีนับคำได้มั้ง”ไนท์หัวเราะในลำคอ ก่อนจะยื่นมือมาหยิกแก้มผมเบาๆ “อันนี้คือน้อยใจเหรอ? ฮะ” ผมปัดมือเขาออก แต่เขากลับหัวเราะชอบใจ “ก็บอกแล้วไง ว่าคนใหม่ จำที่เคยพูดได้มั้ย? ‘ไม่ใช่เมียก็ทำใจหน่อยนะ’ ก็นี่ไง พี่จะทำให้ดูว่าเป็นเมียพี่เป็นไง”“แล้วที่ผ่านมาคือ? เล่นๆ?” ผมจ้องเขม็ง เริ่มเข้าโหมดจริงจัง“ก็- อันนี้เอาจริงละไง ให้โอกาสพี่อีกรอบนะ” ผมรู้สึกว่าเขายังไม่สำนึกจริงๆ เอาแต่คำหวานมาพูดหยอด“โอ๊ยย! กูงึด!” ผมโพล่งออกไปอย่างเหลืออดไนท์เลิกคิ้ว “งึดแปลว่าอะไร?”“คิดไม่ถึงอะ” ผมตอบเสียงขุ่น ใส่อารมณ์เต็มที่เขากลับยิ้มออกมาแทนที่จะจริงจัง “แต่พี่คิดถึงนะ” ว่าแล้วก็ส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้-_- “คิดว่าหยอดแบบนี้แล้วผ
วันต่อมา หลังจากโดนบอกเลิก วันนี้เป็นวันหยุด 19:00 น. ไนท์ตั้งใจแวะห้างก่อนจะตรงไปที่บ้านของคนโปรด เขามาอยู่ที่โซนซูเปอร์มาร์เก็ต ใช้เวลาค่อนข้างนานอยู่หน้าชั้นวางของ พิจารณาสินค้าอย่างละเอียดในตะกร้าที่เลือกมีทั้งแพ็คของรังนก, นม, ชา, กาแฟดริปซองเล็กๆ และผลไม้สดปลอกแล้ว จากนั้นเขาก็เลือกซื้ออาหารที่คิดว่าเหมาะ เช่น ไก่ตุ๋นยาจีน, เกี๊ยวน้ำ, เป็ดปักกิ่ง และแกงมัสมั่น ฯลฯ เขาตัดสินใจไม่ซื้ออาหารไทยไปมากนัก เพราะรู้ว่าคุณน้าชอบทำอาหารไทยอยู่แล้ว ไม่อยากจะซื้อไปทับลายท่าน ให้พวกเขาได้ทานอะไรที่ต่างออกไปบ้างน่าจะดีกว่า เขาไม่ได้ซื้อไปเพื่อให้ดูดี แต่เพราะอยากให้พวกเขารู้ว่า ‘ตั้งใจ’ มาจริงๆ และแล้วไนท์ก็มายืนอยู่หน้าบ้านของคนโปรด มือทั้งสองหิ้วถุงของฝากแน่นจนสายหิ้วกดลึกเข้าที่นิ้ว เขาไม่บอกใครล่วงหน้า ตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์ หลังจากที่อีกฝ่ายงอนเขา ถึงขั้นบอกเลิก “สวัสดีครับคุณน้า สวัสดีครับคุณอา” เขาทักเมื่อเดินเข้ามาในบ้าน คุณอานั่งดูทีวีอยู่ แม้เห็นผมมา เขาก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรเลย เหมือนเห็นเป็นเรื่องปกติของวันงั้นแหละ “สวัสดีคับ
-ไนท์-[ย้อน]ผิดนัดครั้งที่ 1 หลังจากวันนั้น ที่เขาไปกินไอศกรีมกับคนโปรด ณะก็เล่าให้เขาฟังถึงเรื่องที่เจ้าตัวทะเลาะกับธรณ์ ต้นเหตุคือความสัมพันธ์แบบ FWB ที่ธรณ์มีอยู่กับผู้ชายอีกคน และณะที่เป็นแฟนก็จับได้ เพราะผู้ชายคนนั้นคอยส่งรูปธรณ์มาให้เขา ณะบอกให้ธรณ์เลิกยุ่งกับผู้ชายคนนั้นหลายครั้งแล้ว แต่เรื่องกลับไม่จบง่ายๆ เพราะอีกฝ่ายไม่ยอมถอย แถมยังพยายามใช้มารยา อ้างความผูกพันและความเข้าใจที่ธรณ์เคยมีให้ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ชายคนนั้นเริ่มโพสต์รูปที่ถ่ายกับธรณ์ลงโซเชียล พร้อมเมนชั่นถึงณะอย่างจงใจ แฟนคลับที่ติดตามต่างพากันเห็นและส่งข้อความมาถาม มาถล่มด้วยความอยากรู้ จนณะรู้สึกทั้งอึดอัดและหนักใจจริงๆ เรื่องที่เขามีคู่หมั้นหรือแฟนเป็นธรณ์ เขาไม่ได้ประกาศหรือเปิดตัวให้ใครรู้ด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ได้อยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ ด้วยงานในวงการบันเทิงณะยังไม่อยากเปิดตัวแฟนตอนนี้ แต่เขามีความรักและจริงใจกับธรณ์จริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่ประคองความสัมพันธ์นี้ตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัยมาได้จนถึงตอนนี้“มันไม่ได้เจ็บที่เขานอกใจนะ” ณะพูดกับไนท์ น้ำเสียงนิ่งแต่หนัก “มันเจ็บตรงที่เขาไม่กระตือรือร้
หลังงานจบ คนโปรดเดินออกมาหน้าคณะไนท์ยืนรออยู่ข้างรถ พร้อมช่อกุหลาบสีแดงในมือผมเดินเข้าไปหาเขา“ดอกไม้ครับ” เขายื่นให้ผมรับไว้ “ขอบคุณครับ” พลางยิ้มไนท์ยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆ“ป่ะ” ไนท์พูดพลางเปิดประตูให้ ก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับ“ไปกินข้าวมั้ย?” เขาชวนขณะออกรถมีดอกไม้เหมือนอย่างที่บอกไว้จริงๆ แต่เขาไม่ได้ไปดูอยู่ตรงนั้น จะมีความหมายอะไร แล้วนี่ไม่คิดจะอธิบายอะไรให้ฟังหน่อยเหรอ“โปรด ว่าไง?”“ไปสิ”ตอนกินข้าวกัน ผมก็ไม่ได้ถามออกไปว่า ทำไมเขาถึงมาดูผมแสดงไม่ทัน ติดอะไรรึเปล่า ผมรอให้เขาเล่าเอง แต่จนหมดวัน เขาก็ไม่พูดถึงมันเลย ไม่อยากมา? คนเยอะ? หรืออะไร มีธุระ? เขาก็ไม่บอก หลังจากนั้น ไนท์ก็เริ่มผิดนัดอยู่เรื่อย บ้างก็ว่าติดธุระ งานที่บริษัท นัดไปกินข้าววันครบรอบ แต่ไนท์ก็บอกเหนื่อย ขอเลื่อนไปวันอื่น แต่พอเข้าไปดูในสตอรี่ของณะกลับมีไนท์อยู่ด้วย ธุระอะไร[ดูสิชั้นเจอใคร ไนท์กับณะ omg ไม่คิดว่าเขาจะรู้จักกัน] (แนบรูป//รูปถ่ายไนท์และณะนั่งอยู่ด้วยกันที่คาเฟ่)↳ อุ้ย ตัวท็อปคู่เลยหนิ หรือจะมีซัมติงอะไร
-คนโปรด-ผมเปิดประตูเข้าบ้าน“กลับมาแล้วครับแม่” ผมพูดขณะเดินผ่านไปทางบันได“อะแฮ่ม” แม่ที่อยู่ในครัวกระแอมขึ้นผมหันไปมองงงๆ ไม่แน่ใจว่าแม่มีอะไรจะพูด หรือแค่ไอเฉยๆ“อย่าลืมลงมากินข้าวนะ” แม่บอกผมชะงัก ก่อนตอบ“ผมกินมาแล้วครับ” “กับไนท์เหรอ?” …รู้ได้ยังไง แต่พอคิดดู ก็ไม่แปลก เพราะเมื่อวานผมเพิ่งบอกพ่อกับแม่ไปว่าไนท์เขาขอเป็นแฟน“ครับ”“อย่าคิดว่าแม่ไม่เห็นนะ”“? เห็น… อะไรครับ?”“ก็ที่ไนท์เปิดตัวลูกกับนักข่าวน่ะสิ”ผมตาโต ไวไปไหมเนี่ย“รู้ ได้ยังไงครับ?”“ก็เพื่อนแม่ที่โรงเรียนเขาเปิดให้ดู เขาเห็นหน้ากับชื่อลูกคุ้นๆ”“อ๋อ... ในทวิตเหรอครับ?”“ทำนองนั้นแหละ เห็นมาแรงด้วยนะ” “แล้วแม่…ได้เลื่อนอ่านคอมเมนต์ด้วยมั้ยครับ?” “อ่านสิ เห็นเขากรี๊ดกันใหญ่ บอกว่าน่าร้ากกก ว้าวมาก ไม่คิดว่าไนท์จะมีแฟนเป็นผู้ชาย อะไรประมาณนี้แหละจ้ะ” แม่เล่าเหมือนกำลังเม้ามอยกับเพื่อน “จริงๆ ผมยังไม่อยากให้เขาเปิดตอนนี้หรอกครับ เพราะว่าเขาเป็นดาราต้องทำงานกับคนอีกหลายคน ต้องมีคู่จิ้น อีกอย่างไม่
คนโปรดรีบเปลี่ยนชุดจนเสร็จ แล้วสาวเท้ากลับไปยังห้องของไนท์ ตอนแรกเขายกมือจะเคาะประตู แต่ก็นึกขึ้นได้ว่า ไนท์บอกให้เข้าไปได้เลย ไม่ต้องเคาะ เดี๋ยวรำคาญเอาเขาเปิดประตูเข้าไป พบว่าไนท์กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน มือเลื่อนโทรศัพท์ไปมา แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตายิ่งกว่านั้นคือร่างสูงในชุดสูทที่ดูดีจนน่าตกใจแทนที่เขาจะถามเรื่องชุด แต่เขากลับ “ได้...ป่ะ?” พร้อมทำมือชักล้อเลียน“หยุดซิ!” เขาขมวดคิ้วใส่อย่างห้ามปราม“โอเคคับๆ” ร่างสูงยกมือขึ้นยอมแพ้ ยิ้มกว้างจนตาหยี “เป็นไงชุด?”“ก็อย่างที่เห็น” เขาตอบไปนิ่งๆ แต่ตัวก็ยืดอกให้ดูเต็มๆ “อื้มม หล่อมาก”“ชุด?” เขาถาม เพราะไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงชุดหรือเขากันแน่“ใช่” ไนท์พยักหน้าชุดหล่อเหรอวะ?“นี่ไง ใส่คู่กันกับกู” ไนท์พูดพลางลุกขึ้นยืน เผยให้เห็นชุดอย่างเต็มตัว เขาใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำด้านใน ปลดกระดุมสองเม็ดบน เผยช่วงคอ สวมทับด้วยสูทสีเงินเข้มแบบบาง ตัดทรงพอดีตัว ไม่หนาเทอะทะ กางเกงขายาวสีเดียวกัน สไตล์ที่ออกมาคล้ายคนที่ไปออกงานหรู แต่ไม่อยากดูแข็งเกินไป มีเสน่ห์แบบก้ำกึ่งระห
![เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรีส์วายเรื่องหนึ่ง [Mpreg]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)






