มีคนบอกว่าโซลเมทของโอเมก้า คือ คู่แห่งโชคชะตาที่ฟ้าเป็นผู้กำหนดและเลือกมาให้
แต่สำหรับคิมจูฮัน โชคชะตาไม่ได้เลือกแค่หนึ่งคนเพื่อมาเป็นคู่ของเขา คิมจูฮันเป็นโอเมก้าที่เกิดมาพร้อมกลิ่นฟีโรโมนที่ไม่เสถียร บางวันมันหอมเย็นเฉกเช่นใบซีดาร์ แต่บางวันมันก็ร้อนวาบราวแอมเบอร์เผาไฟส่งกลิ่นหอมเข้มจัดออกมา แพทย์ระบุว่าเป็นเพราะเขาเกิดมาพร้อมสภาวะผิดปกติ อย่างสภาวะฟีโรโมนสองสาย ซึ่งนั่นหมายความว่าคิมจูฮันสามารถพูกพันธะกับอัลฟ่าได้พร้อมกันถึงสองคน
บางคนอาจคิดว่านั่นเป็น ข่าวดี... แต่ไม่เลย สำหรับคิมจูฮันนั่นเปรียบเสมือนดั่งนรกบนดินที่แท้จริง รอบฮีทที่ควรมีเพียงหนึ่ง กลับกลายเป็นสอง มิหนำซ้ำครอบครัว เพื่อนฝูง คนรู้จักที่รู้เรื่องนี้ก็ต่างตีตัวออกห่างจากเขากันไปจนหมด
ทำเหมือน คิมจูฮัน เป็นตัวประหลาด
เสียงนาฬิกาเก่าๆ บนผนังห้องเช่าราคาถูกดัง 'ติ๊ก… ต๊อก…' ช้าๆ ราวกับว่ามันกำลังจะหมดเรี่ยวแรง แสงจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์สีนวลกระพริบอ่อนๆ ก่อนจะนิ่งไปเหมือนหลอดไฟที่ใกล้จะสิ้นสภาพการใช้งาน บนโต๊ะไม้เก่าบิ่นมุมมีถุงยาถุงหนึ่งวางอยู่คู่กับกล่องอาหารที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อซึ่งถูกวางทิ้งไว้จนเริ่มเย็นชืด
ทั้งหมดนั้นคือสิ่งที่มักเกิดขึ้นประจำในชีวิตของคิมจูฮัน เด็กหนุ่มอายุ 19 นั่งลงที่ปลายเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งในห้องเช่าเล็ก ๆ บนตึกเก่า เจ้าตัวถอนหายใจเบาๆ พลางมองดูหน้าจอโทรศัพท์ในมือที่กำลังแสดงข้อความจากเจ้าหนี้นอกระบบที่เขาค้างจ่ายมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว
'พรุ่งนี้ฉันจะไปเอาเงินที่แกค้างไว้ เตรียมเงินไว้ด้วยล่ะไอ้ลูกหมา'
เขาไม่ได้ตอบกลับข้อความนั้นไป เพราะไม่รู้จะเริ่มตอบจากอะไรดี ขอโทษ? หรือขอเวลาเพิ่มในการหาเงินมาใช้หนี้?
เขาเคยมีบ้าน บ้านหลังนั้นไม่ใหญ่ แต่มันอบอุ่นมากในช่วงชีวิตวัยเด็ก พ่อของจูฮันเป็นเบต้า ส่วนแม่ก็เป็นโอเมก้าที่สวยที่สุดคนนึง เดิมทีตอนเขาแรกเกิด ทุกอย่างดูปกติมาก คิมจูฮันเกิดมาเป็นเด็กชายร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดี แม้จะมีเพศรองเป็นโอเมก้าก็ตาม ครอบครัวของเขาต่างล้วนยินดี ไม่มีสัญญาณใดๆ บ่งบอกล่วงหน้า
กระทั่งในตอนที่ คิมจูฮัน อายุครบ 18 ปี ผลตรวจเลือดของเขาหลังมีฮีทแรกปรากฏบ่งบอกว่า เขามีภาวะฟีโรโมนสองสาย ซึ่งถือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้น้อย เพียง 0.01% ของประชากรโอเมก้าทั้งหมด
แม่ของคิมจูฮันพยายามทุกวิถีทางที่จะหาเงินมารักษาสภาวะอาการเหล่านั้นให้หายไปจากตัวลูกชายอย่างเขา แต่แล้วทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อพ่อของเขาเริ่มเข้าสู่การ “ลงทุน”
คำว่าลงทุนในความหมายของพ่อนั้นแทบไม่ต่างอะไรกับการเล่นการพนันที่ห่อหุ้มด้วยคำพูดหรู ๆ ข้าวของและทรัพย์สินของครอบครัวค่อยๆ ถูกขายทิ้งไปทีละชิ้น เริ่มจากรถยนต์ ไล่ไปจนถึงแหวนแต่งงานของพ่อกับแม่
จูฮันได้ยินคำว่า “ปิดบัญชี” ตั้งแต่อายุ 14 และรู้จักคำว่า “ถูกฟ้องล้มละลาย” ตั้งแต่ก่อนจะจบมัธยมปลายเสียอีก
เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เมื่อแม่ของคิมจูฮันมาล้มป่วยหนักด้วยโรคมะเร็งต่อมฟีโรโมนระยะลุกลาม เขาไม่มีเงินพอรักษา เด็กหนุ่มตัวเล็กๆ เคยร้องไห้ขอให้พ่อพาแม่ไปโรงพยาบาล แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือผู้เป็นพ่อกลับตบหน้าเขา… และเอาเงินเก็บค่ารักษาแสนน้อยนิดในกระปุกออมสินของเขาไปเล่นพนันรอบสุดท้ายจนหมด
แม่ของคิมจูฮันเสียชีวิตลงในคืนนั้น และเขาไม่เคยกลับไปเหยียบบ้านหลังนั้นอีกเลย
ชีวิตหลังจากนั้นของจูฮันเป็นแค่การดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตให้รอดไปแต่ละวัน เขาหางานพาร์ตไทม์ทำระหว่างที่เรียนไปด้วย เขาเลือกมหาวิทยาลัย Cornell เพราะเป็นที่เดียวที่มีระบบการให้ทุนการศึกษาแบบเต็มจำนวน โดยไม่ต้องใช้คืน ในช่วงเทอมแรกของปีการศึกษา คิมจูฮันตัดสินใจไปกู้เงินนอกระบบมาใช้ในการลงทะเบียนเข้าเรียนระหว่างรอเรียกสัมภาษณ์เพื่อคัดเลือกผู้ที่จะได้รับทุน
มันคือทุนประเภท “การทดลองกลุ่มเฉพาะทาง” ในนาม Cornell Project – SYZYGY
เงื่อนไขระบุชัดว่า:
- ผู้รับทุนจะต้องเข้าร่วมการศึกษาเชิงพฤติกรรมภายใต้สภาพแวดล้อมควบคุม โดยต้องพักอาศัยร่วมกับผู้วิจัยเป็นระยะเวลา 90 วัน
- การไม่ทำตามเงื่อนไขจะถือว่าสละสิทธิ์ทุน พร้อมต้องจ่ายคืนเงินค่าใช้จ่ายทั้งหมดทันที โดยไม่มีข้อยกเว้น
ฟังดูก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร ก็แค่การใช้ชีวิตร่วมกับคนแปลกหน้าเป็นเวลา 3 เดือนเท่านั้น คิมจูฮันคิดพลางเริ่มกรอกข้อมูลส่วนตัวลงไปในใบสมัครด้วยความตั้งใจ ข้อมูลทุกอย่างที่ใส่ลงไปล้วนเป็นความจริง เว้นแต่... การระบุข้อมูลประวัติทางการแพทย์ที่ใส่ลงไปแค่ว่าเขาเป็น โอเมก้า ที่ไม่มีประวัติการรักษาโรคหรือสภาวะบกพร่องใดๆ เพิ่มเติม พร้อมเซ็นชื่อรับรองว่าข้อมูลทั้งหมดเป็นความจริง
โดยที่ตัวเขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า บุคคลในเงื่อนไขการทดลองที่เขาจะต้องไปใช้ชีวิตร่วมด้วยตลอดเวลา 3 เดือน ในฐานะผู้ดูแลการวิจัยนั้น คือ อีซออู และ ชาซึงอึน สองอัลฟ่าที่จะเข้ามาเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล
และในอีกด้านหนึ่งนั้น...
อีซออู อัลฟ่าผู้เย็นชาก็เติบโตมาท่ามกลางความเงียบ สภาพแวดล้อมช่างต่างราวฟ้ากับเหวกับชีวิตของคิมจูฮัน เขาไม่เคยต้องตะโกน ไม่เคยต้องร้องไห้ และไม่เคยหวั่นไหวแม้แต่ในวันที่แม่ของเขาเสียชีวิตลงต่อหน้า เพราะครอบครัวที่มีพร้อมทุกสิ่ง ทุกคนพร้อมซัพพอร์ตอีซออู เด็กชายในวัย 7 ขวบที่สามารถจ้องมองร่างของผู้เป็นแม่หมดลมหายใจ เพราะขาดฟีโรโมนคู่ชีวิตจากพ่อที่หนีหายไปมีพันธะใหม่กับโอเมก้าสาวอีกคนได้โดยไม่มีน้ำตา
สำหรับอีซออู พันธะ คือ คำลวงของสัญชาตญาณที่เอาไว้ผูกมัดความอ่อนแอเพียงเท่านั้น มันไม่ได้มีความสำคัญอะไรไปมากกว่าข้ออ้างที่อัลฟ่ามีไว้ใช้รั้งตัวโอเมก้าให้อยู่ในการครอบครองของตน โดยไม่สนว่าอีกคนอาจตายได้ หากอัลฟ่าเป็นฝ่ายหมดใจและหนีหายไปสร้างรักครั้งใหม่หลังการผูกพันธะเกิดขึ้นไปแล้ว
แม้ไม่มีน้ำตา ก็ใช่ว่าคนอย่างอีซออูจะไร้ความรู้สึกเสียทีเดียว เพราะอย่างน้อยเขาก็รู้สึกได้อย่างหนึ่ง คือ เขาเกลียดความสัมพันธ์ที่อยู่ภายใต้อำนาจควบคุม เขาเกลียดความคิดที่ว่าโซลเมทมีอยู่จริง เพราะเขาเห็นมากับตาว่ารักแท้มันไม่มีอยู่จริง
ซออูเรียนจบปริญญาเอกตั้งแต่อายุยี่สิบเจ็ด และกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิเคราะห์พฤติกรรมมนุษย์หลังจากนั้นเพียงแค่ 5 ปี ปัจจุบันเขาอายุสามสิบห้า เขามุ่งใช้เวลาทั้งชีวิตในการศึกษาวิธีควบคุมแรงกระตุ้น เพื่อหวังไม่ให้ตัวเองต้องกลายเป็นหนึ่งในอัลฟ่าที่ตกเป็นทาสสัญชาตญาณของแรงราคะ จนไม่อาจยับยั้งชั่งใจตอนเองได้เหมือนกับพ่อของเขา
จนกระทั่งเขาเจอผลตรวจร่างกายของ “คิมจูฮัน” โอเมก้าที่มีฟีโรโมนสองสาย สภาวะที่เกิดขึ้นได้เพียงหนึ่งในล้าน โอเมก้าที่กลิ่นฟีโรโมนสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการเมื่อมีอัลฟ่าที่เป็นตัวกระตุ้นมาอยู่ใกล้ๆ
ไม่รู้ว่าเป็นโชคชะตา หรือพระเจ้ากำลังต้องการจะเล่นตลกอะไร ที่ทำให้เขาได้เห็นแฟ้มผลตรวจนั้นโดยบังเอิญในวันที่เขาตั้งใจจะไปหาเพื่อน ซึ่งเป็นแพทย์เจ้าของไข้คิมจูฮัน
อีซออูตั้งใจริเริ่มโปรเจคทดลองขึ้นมา เขาใช้คอนเนคชั่นที่มีอยู่ทุกทางในการทำให้มหาวิทยาลัยที่คิมจูฮันกำลังเรียนอยู่ตัดสินใจเข้าร่วม และเพียงกลิ่นฟีโรโมนจางๆ ของจูฮันครั้งแรก ผ่านซองเอกสารใบสมัครเข้าร่วมการทดลองในงานวิจัยเท่านั้น เขาแทบจะรู้ได้ในทันทีเลยว่าทฤษฎีที่เขาใฝ่ฝัน กับการที่โอเมก้าทุกคนจะไม่จำเป็นต้องผูกพันธะกับอัลฟ่าแค่เพียงคนเดียวนั้นกำลังจะใกล้เป็นจริง
และอีกหนึ่งคน...
อัลฟ่าผู้ดิบเถื่อน ที่เคยถูกพันธะทำลาย ชาซึงอึนไม่ใช่คนดี เขารู้ตัวเองดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เขาคืออัลฟ่าที่เกิดมาในครอบครัวนักธุรกิจใหญ่โตที่โลกทั้งใบเต็มไปด้วยตัวเลข และผลประโยชน์
เขาเคยตกหลุมหลงรักโอเมก้าสาวคนหนึ่ง
เคยผูกพันธะ และเคยสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันจนวันตาย และสุดท้ายพระเจ้าก็ทำตามคำขอนั้น เขาถูกทิ้งราวกับของไร้ค่า เมื่ออีกฝ่ายตายจากหลังแต่งงานกันมาได้เพียงปีเศษเท่านั้น
ความรู้สึกที่ถูกถอนพันธะอย่างไร้เยื่อใยเพราะความตายได้พรากคนรักของเขาไป ทำให้หัวใจที่เคยผูกมัดรู้สึกราวกับถูกกระชากจากกัน ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งที่เคยใจดี ใจเย็น กลายเป็นคนโมโหร้ายและพร้อมจะฟาดทุกอุปสรรคที่ขวางกั้นชีวิตเขานับแต่นั้นเป็นต้นมา
และในที่สุด ชาซึงอึน ก็ได้ขึ้นเป็น CEO ของบริษัท Behavior Tech ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการแพทย์เกี่ยวกับการควบคุมพฤติกรรมผ่านการกระตุ้นฟีโรโมน รวมไปถึงมีหุ้นส่วนจำนวนมากกว่าครึ่งในมหาวิทยาลัย Cornell และนั่นทำให้เขาไม่พลาดที่จะเอาตนเองเข้าไปอยู่ในโปรเจคทดลอง
เขาตัดสินใจเข้าร่วม Project SYZYGY ในฐานะ “เจ้าของเงินทุน” และ “ผู้ร่วมวิจัยลับ” ทันทีที่เห็นใบสมัครของคิมจูฮัน แม้เขาจะไม่ได้รู้สึกถึงอะไรมากเป็นพิเศษ แต่เพียงได้กลิ่นฟีโรโมนที่ลอยออกมาจางๆ ผ่านหน้ากระดาษแผ่นบางที่กระทบเข้ากับลมเย็นๆ สมองของชาซึงอึน อัลฟ่าหนุ่มวัย 37 ปี ก็ขาวโพลน เพราะกลิ่นนั้น... กลิ่นมันชั่งหอมหวาน หวานเหมือนกลิ่นภรรยาของเขาที่จากไป
อยากจะรู้เหมือนกัน หากคิมจูฮันมีฟีโรโมนสองสายจริง แล้วยิ่งถ้าถูกผูกพันธะพร้อมกันจากอัลฟ่าสองคน มันจะเป็นอย่างไร...
Mga Comments