LOGINเหมือนจันทร์เรียกกำลังใจให้ตัวเองอยู่พักหนึ่งก่อนตัดสินใจเคาะประตูห้องนอน
“เสี่ยคะ จันทร์เองค่ะ” “เข้ามา”น้ำเสียงดุดันดังขึ้น ทำเอาเหมือนจันทร์อยากจะหันหลังหนีไปจากตรงนี้จริงๆ หากไม่ติดว่าเป็นลูกหนี้ เธอคงไม่อยู่รอแล้ว สูดหายใจลึกแล้วเปิดประตูก่อนจะปิดลง ปั้นหน้ายิ้มสุดความสามารถ สาวเท้าไปหยุดข้างๆสิโรจน์ซึ่งนั่งอยู่ปลายเตียง นัยน์ตาคมกริบหรี่ลงสำรวจเรือนกายเล็ก ใบหน้าวางนิ่งเฉยเสียจนคนเข้ามาใจเสีย มือหนาตบที่ว่างข้างตัว โดยไม่มีคำพูดใด “จันทร์ขอโทษค่ะ จันทร์ไม่รู้ว่าเสี่ยจะมา”เหมือนจันทร์ทิ้งตัวนั่งข้างๆ มือประสานกันแน่นบนตัก เงยหน้ามองสิโรจน์ “ไปไหนมา” “คือ จันทร์ไปทำงานที่ร้านอาหารพี่วรรณมาค่ะ” คนฟังขมวดคิ้ว หรี่ตาลงดุดัน วางมือบนมือนุ่มแล้วบีบแน่น สีหน้าเย็นชาจนคนมองหน้าเจื่อน “อนุญาตให้ไปทำเหรอ” “จันทร์ไม่ทราบว่าต้องขออนุญาตจากเสี่ยด้วย” “เป็นผู้หญิงของเสี่ย ทุกตารางนิ้วบนร่างกายคือของฉัน”ฝ่ามือร้อนช้อนใบหน้างามแหงนขึ้นให้ตนสำรวจถี่ถ้วน อีกข้างก็เลื่อนจากมือเล็กไปรวบเอวคอด ดึงเข้ามาจนเหมือนจันทร์ต้องใช้มือยันอกกว้าง “จันทร์อยากทำงานค่ะเสี่ย ให้จันทร์ทำเถอะนะคะ จันทร์อยากมีเงินเก็บ”เหมือนจันทร์ปั้นหน้ายิ้ม บอกเสียงอ่อนหวานน่าฟัง “อยากได้เงิน ก็ทำงานให้ฉัน ฉันจะจ่ายให้เอง” “คะ งานของเสี่ยเหรอคะ” “ใช่ ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องเดินไปมาหัวหมุน อยู่ในห้องสบายๆ กินนอนทั้งวันก็ยังได้” “งาน…อะไรเหรอคะ” เหมือนจันทร์ตกใจเล็กน้อยเมื่อถูกอุ้มจนนั่งบนตักแกร่ง มือวางบนบ่าประคองร่างกาย ขณะที่มือหนาวางทาบสะโพกมนจนเธอสะดุ้ง ใจเต้นระรัว “ตุ๊กตาบนเตียง”น้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยตอบ ใบหน้าคมซุกลงกับซอกคอหอมกรุ่น สูดดมกลิ่นกายหอมอ่อนๆทั้งที่เพิ่งกลับจากด้านนอกแต่ทำไม เนื้อตัวยังหอมกรุ่นเช่นนี้ เหมือนจันทร์เกร็งตัว จิกเล็บลงกับบ่า ค่ำคืนเร่าร้อนทำให้เธอรู้สึกหวาดหวั่น ยังจดจำได้ถึงความต้องการมักมากของชายคนนี้ได้ “จันทร์อยากทำงานร้านอาหารเหมือนเดิมค่ะ นะคะเสี่ย ให้จันทร์ทำเถอะนะคะ”ดูก็รู้คิดจะเอาเปรียบเธอเห็นๆ เรื่องอะไรต้องยอมเป็นเครื่องมือบำบัดความใคร่เขาตลอดเวลา ผู้หญิงสวยๆมีเยอะแยะ อย่างเขาคงไม่เคยขาดเรื่องเซ็กซ์หรอก “ขัดคำสั่ง?” “เปล่านะคะ จันทร์ไม่ได้คิดจะขัดนะ แต่จันทร์ชอบทำงานในร้านอาหารมากจริงๆ”เหมือนจันทร์เม้มปากแน่นเมื่อถูกความสยิวเล่นงาน ริมฝีปากร้อนชื้นลงแรงมากขึ้นจนเธอกลัวว่ามันจะเป็นรอย “หึ เห็นใจดีหน่อยก็เลยไม่ฟังกันเลยสินะ”สิโรจน์ถอนใบหน้าออกห่าง ดวงตาดำมืดจับจ้องมีประกายไฟคุกรุ่นจนเหมือนจันทร์หายใจติดขัด “เสี่ยขา จันทร์ไม่ได้ไม่ฟังเสี่ยนะคะ แต่จันทร์ขอแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวจริงๆ จันทร์จะไม่ทำตัวเหลวไหลแน่นอน ถ้าเป็นเรื่องอื่น จันทร์จะตามใจเสี่ยทุกอย่างเลยนะคะ” สิโรจน์ยกยิ้มมุมปาก ลูบบั้นท้ายงามบางเบา “หึ ถึงขั้นยอมทุกอย่าง แต่เว้นเรื่องนี้ ร้านอาหารนั่น มีอะไรน่าสนใจเหรอจันทร์” “จันทร์แค่ชอบทำค่ะ นะคะเสี่ย ให้จันทร์ทำนะคะ” “อาทิตย์ละสามวันพอ” “คะ” “ไปทำงาน สามวันต่อสัปดาห์พอ” “แต่จันทร์ไม่ใช่เจ้าของร้านนะคะ จันทร์จะไปกำหนดว่าจะเข้าวันไหนได้ยังไง”เหมือนจันทร์ชักอยากบิดเนื้อบิดหนังระบายความไม่พอใจนัก เธอทำงานหาเงินเป็นเรื่องดี ทำไมสิโรจน์จะต้องมาห้ามกันด้วย “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเคลียร์ให้”ดวงตาเขาวาววับ จับจ้องริมฝีปากแดงเรื่อ ไม่รอช้า เมื่อจบประโยคก็แนบจูบลงไปบดขยี้อย่างมันเขี้ยว พูดกับเขาเถียงคำไม่ตกฟาก แม้จะแสดงท่าทีว่าโอนอ่อนแต่เขารู้ว่าจริงๆแล้วหญิงสาวกำลังต่อต้านอยู่ เหมือนจันทร์หลับตาแน่น เผยอริมฝีปากตามเกมของเขา เนื้อตัวบดเบียดแนบชิด อกสาวแนบชิดกับอกแกร่งแน่น แม้จะพยายามดันตัวออกห่างแต่กลับไร้ผลเพราะมือเขารัดเอวไม่ยอมปล่อย เรียวลิ้นแทรกเข้ามา ไล่ต้อนลิ้นเล็กอย่างมัวเมา ยามที่เผลอก็ดูดกลืนมันอย่างหิวโหย ปล่อยแล้วแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงอ่อนนุ่มอีกครั้ง บดจูบดูดดื่ม เร่งเร้าจังหวะเร็วขึ้นจนเสียงหอบหายใจดังประสาน “พะ พอก่อนค่ะเสี่ย”เหมือนจันทร์ผินหน้าหนี ผลักอกเขาเบาๆ เกือบหายใจไม่ทันแล้ว ไอ้เสี่ยบ้าลามกนี่ สิโรจน์แนบใบหน้าลงกับซอกคอ ขบเม้มบางเบาจนเธอขนลุกเกรียว ใช้มือประคองใบหน้าหล่อคมซึ่งเริ่มฉายความโกรธขึ้นมาเพราะเธอเอาแต่ขัดจังหวะ “คือ จันทร์หิวค่ะเสี่ย ตอนออกมาจันทร์ยังไม่ได้กินอะไรเลย”บอกเสียงเบาหวิว ใบหน้าแดงซ่าน สบตาครู่เดียวก็หลบเพราะดวงตาคมกริบเจือไปด้วยไฟราคะยากจะต่อกร สิโรจน์ยังไม่มีทีท่าจะปล่อย เขาเอื้อมมือเข้าด้านในเสื้อแล้วสัมผัสผิวนุ่มเบาๆ ในตอนนั้นเอง ก็เหมือนฟ้าเข้าข้างเมื่อท้องเธอส่งเสียงร้องโครกครากบ่งบอกถึงคำว่าหิวมากของเธอให้ชัดเจน เหมือนจันทร์ใบหน้าร้อนวูบวาบเมื่อถูกจูบแก้มซ้ายขวา แต่กระนั้นสิโรจน์ก็ยอมหยุดการรุกรานทั้งหมด “ออกไปกินข้าวด้วยกัน ไรยาน่าจะตั้งโต๊ะไว้แล้ว” “ขอบคุณค่ะเสี่ย”เหมือนจันทร์ดีใจจนออกนอกหน้า พอรู้ตัวก็รีบเก็บสีหน้าอารมณ์ รีบยันตัวลุก จะสาวเท้าออกแต่สิโรจน์ก็ตามมาคว้าเอวเล็กดึงแนบตัวพากันออกไปด้วยกัน เหมือนจันทร์รู้สึกใจเต้นแปลกๆแต่ก็พยายามไม่คิด พอนึกว่าไรยาน่าจะอยู่ด้านนอกก็รู้สึกอายขึ้นมา แม้เธอจะรู้ทุกอย่างแล้วแต่การเผชิญหน้าซึ่งๆหน้าแบบนี้มันน่าอายกว่านี่ “ฉันชอบคนว่าง่าย เหมือนจันทร์” พอเธอพยายามปลดมือออก เสียงเข้มดุดันก็ดังเหนือหัว จำต้องยอมปล่อยมือ ปล่อยให้เขาพาไปยังโต๊ะอาหารในห้องครัว ซึ่งไม่มีไรยาอย่างที่เธอนึกหวาดหวั่น แบบนี้ค่อยโล่งหน่อย “เดี๋ยวจันทร์ตักข้าวให้นะคะ”เหมือนจันทร์รีบดึงตัวเองจนหลุดจากวงแขน เดินไปตักข้าวไว้เพราะบนโต๊ะมีอาหารเรียงรายรอไว้อยู่แล้ว สิโรจน์ส่ายหน้าเล็กน้อย ทิ้งตัวนั่งหัวโต๊ะ ปรายตามองเจ้าของร่างบางซึ่งยกจานข้าวมาด้วยสายตาครุ่นคิด “อันนี้จานของเสี่ยค่ะ” “อืม”สิโรจน์รับคำ ขณะที่ยังจับจ้องมองเหมือนจันทร์กินข้าวอย่างหิวโหย ไม่คิดรักษาภาพลักษณ์ใดๆ ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่ง ไม่เหมือนผู้หญิงที่เขาเคยผ่านมา “เสี่ยไม่กินเหรอคะ คุณไรยาทำอาหารอร่อยมากเลย”เหมือนจันทร์ชะงัก ส่งยิ้มเล็กๆให้แล้วบอกเสียงใส “กินสิ” ทั้งที่อาหารเรียบง่าย สถานที่เป็นคอนโดเดิม ทว่า เขากลับรู้สึกผ่อนคลายสงบมากกว่าทุกที หลังจากอาหารเย็นแล้ว สิโรจน์ก็หายเข้าไปในห้องทำงานเล็กซึ่งติดกับห้องนอน ก่อนไปยังสั่งไว้ว่ารอก่อน ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่นี่มันห้าทุ่มกว่าแล้ว เขายังไม่มีวี่แววจะออกมาเลย และเธอก็ง่วงจนทนฝืนไม่ไหว เหมือนจันทร์หันมองห้องทำงานเขาอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าห้องนอน และเพียงหัวถึงหมอน เธอก็เพลียจนหลับสนิททันที สิโรจน์โหมทำงานจนเวลาตีหนึ่ง เขาจึงได้ออกจากห้องทำงานตรงไปยังห้องนอน เห็นหญิงสาวตัวเล็กนอนหลับสบายบนเตียงนอนโดยไม่มีตน ซ้ำยังหนีหลับก่อนอีก น่าทำโทษจริงๆ เหมือนจันทร์แตกต่างกับผู้หญิงที่เขาเคยขึ้นเตียง แม้จะยอมทำตามความต้องการแต่ภายในใจกลับต่อต้าน กล้าหาญ แต่หวาดหวั่น บางครั้งก็สู้ บางครั้งก็ว่าง่าย จนทำให้สนใจเพิ่มขึ้นไปอีก อยากจะรู้ว่าหญิงสาววางแผนการอะไรไว้ในใจบ้าง คงน่าสนุกตื่นเต้นไม่น้อยกับลูกหนี้ตัวเล็กๆอย่างเธอ สิโรจน์ทิ้งตัวนั่งข้างเตียง ยกมือลูบผิวแก้มเนียนเบาๆ กดยิ้มที่มุมปาก ใช้นิ้วคลึงริมฝีปากจิ้มลิ้มจนเผยอออกจากกัน ลมหายใจอุ่นปะทะกับมือจนเขากัดกรามแน่น นอนแล้วยังยั่วดีเหลือเกิน สิโรจน์ถอดเสื้อออกจากลำตัว ปลดซิป ดึงกางเกงออกเหลือซับในไว้ ก่อนจะโถมกายนอนข้างหญิงสาว เลื่อนใบหน้าจูบแก้มนุ่ม ลากมาหยุดที่กลีบปากนุ่ม จึงได้กดจูบและดึงดูดกลีบปากบางเบาๆ ก่อนจะค่อยๆแทรกเรียวลิ้นเข้าไปทักทายโพรงปากร้อนอย่างย่ามใจ เหมือนจันทร์ทำให้เขาเหมือนเป็นโจรปล้นสวาท ทั้งที่ปกติ ไม่เคยต้องลักหลับใครแบบนี้ แต่วันนี้เขาอุตส่าห์มาหาแล้ว จะปล่อยให้นอนสบายๆได้ยังไง ฝ่ามือลากลูบไล้ตามส่วนโค้งเว้าของร่างกาย หยุดมือไว้ที่เอวคอดกิ่ว ถลกเสื้อกองไว้บนเนินอก วางมือลงกับยอดอก บีบนวดตามแรงอารมณ์ ร่างเล็กเริ่มขยับเรือนกายไปมา ทว่าดวงตาทั้งสองกลับหลับพริ้ม ทั้งที่ร่างกายตอบสนองขนาดนี้ แต่ไม่ยอมตื่นสินะ สิโรจน์ถอนจูบอย่างอ้อยอิ่ง ยังมีเล็มจูบซ้ำอีกหลายครั้งแล้วจึงถอนออก เขาซุกใบหน้าลงกับซอกคอขาวนวล ขบเม้มหนักเบาจนมันแดงเรื่อขึ้น เบียดกายแนบชิดร่างเล็ก แทรกเรียวขาไประหว่างขาเรียวทั้งสอง ส่งสะโพกสอบแนบชิด ขยับขึ้นลงเบาๆปลุกเร้าอารมณ์จนกายร้อนฉ่า จุดแข็งขืนปวดร้าวพองคับชั้นใน เสียงหนาหอบหายใจ ครางในลำคอกระเส่า พรมจูบทั่วลำคอขาวผ่อง ก่อนจะดึงตัวออกห่างเล็กน้อย จัดการดึงเสื้อเธอพ้นศีรษะ ปลดบราแล้วดึงออกอย่างเร่งรีบ ดวงตาคมกริบกวาดมองสองเต้าเต่งตึงเบื้องหน้าด้วยใบหน้าหื่นกระหาย ไม่รอ อ้าปากงับเม็ดเชอร์รีเข้าปาก ตวัดเลียอย่างชอบใจ ดันตัวมาคร่อมเรือนกายเล็กที่จัดให้นอนหงาย สอดตัวไประหว่างเรียวขาทั้งสอง เบียดเนื้อตัวอุ่นร้อนมากไปด้วยความต้องการกับคนใต้ร่าง ทว่า เธอก็ยังไม่ได้สติ สิโรจน์เริ่มฉายความไม่พอใจ เงยหน้ามองเจ้าของร่างยังคงหลับตาพริ้มไม่รับรู้ความต้องการของเขาเลย “ถ้าไม่ตื่น ฉันจะทำต่อแล้วนะ” ไม่มีเสียงตอบรับ ไม่มีการตอบสนอง สิโรจน์โคลงศีรษะเล็กน้อย ทำงานร้านอาหารเหนื่อยจนหลับไม่รู้เรื่องว่ากำลังโดนลวนลามอยู่เลยเหรอ เขาจัดการรูดถอดส่วนปกปิดด้านล่างของเธอจนเปลือยเปล่า จับจ้องมองกลีบกุหลาบงามด้วยแววตาหวานเชื่อม ใช้มือกอบกุมเนินเนื้อ กระตุ้นจุดกระสันจนร่างเล็กดิ้นรนไปมาเล็กน้อย ใบหน้าอ่อนหวานส่ายไปมาบางเบา “ตื่นได้แล้ว จันทร์” “...” สิโรจน์แทรกนิ้วมือเข้าไปในโพรงอ่อนนุ่มคับแคบ ควานกับความว่างเปล่าสลับกับเอาออกจนหญิงสาวเริ่มส่ายสะโพก ครวญครางเสียงหวาน ดวงตาซึ่งปิดสนิทเริ่มปรือตื่นมาด้วยความง่วงงุน สับสนอยู่ชั่วครู่แล้วก็ต้องขบเม้มปากแน่นเมื่อเขาเลียนแบบท่วงท่ารักเร็วแรงจนเธอต้องจิกเล็บกับเตียงนอน คิดไม่ถึงว่าเสี่ยสิโรจน์จะมากตัณหาจนถึงขั้นลักหลับกันแบบนี้ “ตื่นได้สักทีนะจันทร์” “อื้อ เสี่ยตอนนี้กี่โมงแล้ว”ทำไมเขายังไม่นอน ยังมาเอาเปรียบเธออยู่ได้ “ตีหนึ่งครึ่ง” “เสี่ยควรพักได้แล้ว อื้อ”พูดไม่ทันจบก็ถูกบดจูบแนบแน่นจนไม่มีจังหวะขัด จุดกึ่งกลางร้อนระอุ ปวดร้าวระคนเสียวซ่านจนทั้งเนื้อทั้งตัวร้อนผ่าว น้ำหวานคายออกมาชื้นแฉะได้ยินเสียงแล้วยิ่งทำให้เหมือนจันทร์อับอายอยากหนีหาย สิโรจน์ถอดชั้นในชาย แยกขาเรียวออกจากกันหลังจากถอนนิ้วออกไป จับจ้องมองความหยาดเยิ้มราวกับกำลังเรียกร้องให้เข้าหา ไม่รอช้า ยัดตัวตนร้อนผ่าวเข้าไปยังร่องสวาทดันจนสุดแล้วก็หยุดนิ่งไว้ รอจนหญิงสาวปรับตัวได้แล้วจึงขยับสะโพกสอบอย่างเร่าร้อน “อ่า ของจันทร์รัดฉันแน่นไปแล้ว” สิโรจน์ทิ้งตัวโอบกอดร่างเล็กในอ้อมแขน ขณะที่จาบจ้วงใส่ช่องคับแคบเร็วแรงไม่มีวี่แววจะผ่อนแรงลงจนเหมือนจันทร์หายใจแทบไม่ทัน ร่างเล็กเคลื่อนไหวโยกตามแรงส่ง เสียงคำรามเข้มดังข้างใบหู ก่อนที่เขาจะดึงท่อนเอ็นร้อนผ่าวออกจากช่องแคบ น้ำอสุจิสาดกระเซ็นโดนหน้าท้องแบนราบ ขณะที่เธอหอบหายใจ กระตุกเกร็งกายต่ออารมณ์สุขสมที่เขามอบให้จนสำเร็จ สิโรจน์หัวเราะเบาๆเมื่อเห็นแววตาขุ่นเคืองตวัดมาให้หลังจากดึงสติกลับมาแล้ว เธอทำท่าจะลุก เขาจึงใจดีช่วยดึงแขนมาทางตน หนนี้เขานอนลงกับเตียงบังคับเธอนั่งอยู่บนเอวสอบ “เสี่ย”เหมือนจันทร์เสียงแหบพร่า ใบหน้าร้อนผ่าว บั้นท้ายเสียดสีกับแท่งอาวุธร้าย “ควบหน่อย” “จะ จันทร์ทำไม่เป็นนะคะ” “เดี๋ยวสอน”สิโรจน์บอกเสียงทุ้มต่ำ ยกสะโพกกลมกลึงขึ้น จับแกนกายไว้แล้วดันให้เธอย่อตัวลงมาจนจุดเชื่อมต่อประสานกันแนบแน่นอีกครั้ง มือบางวางยันหน้าท้องแบนราบ จุกแน่นเสียววาบจนไม่กล้าขยับกาย “ขยับเร็วเข้าจันทร์” “อื้อ ไม่ได้ มัน” “เสียวใช่ไหม ถ้าไม่ขยับ จะยิ่งทรมานนะ”สิโรจน์เห็นใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความทรมานนั่นแล้วก็หลุดยิ้ม ช่างไร้เดียงสาอ่อนต่อโลกจริงๆเลย เหมือนจันทร์ขบปากเรียกสติ เอาวะ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว คงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้แล้วล่ะ หนนี้ร่างกายขยับไปตามแรงอารมณ์เอง เรือนกายเล็กขยับขึ้นลง เริ่มแรกเคลื่อนไหวเชื่องช้า ต่อมาก็เร่งจังหวะ สองเต้างอนงามกระเด้งกระดอนตามแรงส่ง เชิญชวนเย้ายวนจนสิโรจน์ส่งมือเข้ากอบกุมทั้งสองข้างแล้วบีบเคล้น ส่วนล่างปวดร้าวเจียนปริแตก ช่องแคบเธอตอดรัดจนเสียวไปหมดแล้ว “ว้าย”เหมือนจันทร์ร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆก็ถูกดันตัวให้นอนแผ่บนเตียงดังเดิม ตามมาด้วยคนตัวโตแนบชิด โน้มตัวจูบกลีบปากนุ่มเร่าร้อน ดันขาเรียวออกด้านข้างหนึ่ง ยัดท่อนเอ็นร้อนผ่าวเข้าไปยังช่องสวาทฉ่ำเยิ้มอีกครั้ง “เสี่ยขา พอแล้วได้ไหม อื้อ”พูดไปแล้วก็สยิวจนหลุดคราง ยกมือดันอกกว้างด้วยแรงน้อยนิด “หน้าอยากให้เอาขนาดนี้ ฉันจะใจร้ายปล่อยจันทร์ทิ้งกลางทางได้ไง”สิโรจน์ยกนิ้วคลึงกลีบปากนุ่มด้วยอารมณ์พลุ่งพล่าน ก่อนจะกระหน่ำกระแทกใส่ร่องรักจนได้ยินเสียงเนื้อกระทบดังลั่นห้อง เร่งเร้าถี่กระชั้น ฟาดฟันย้ำๆซ้ำๆจนเหมือนจันทร์แทบจะขาดใจ กรีดร้องด้วยความสุขสมเมื่อเขาส่งถึงฝั่งฝัน ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคำรามในลำคอพร้อมกับกายแกร่งถูกถอนออกไป สาดใส่น้ำสีขุ่นใส่หน้าท้องแบนราบจนเปรอะเปื้อน เหมือนจันทร์หอบหายใจรัว พอปรับอารมณ์ได้แล้วก็ผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลียทันที สิโรจน์จับจ้องมองด้วยสายตาพึงพอใจ เขาใจดีหยิบทิชชูขึ้นมาเช็ดคราบรักของตนออก ดึงผ้าห่มคลุมกาย ก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำด้วยตัวเปล่า เซ็กซ์จากคนไม่มีประสบการณ์ เร้าใจไปอีกแบบจนเกือบจะพลั้งเผลอปล่อยด้านในเสียแล้ว ปกติตนไม่ได้ชอบสดกับใคร แต่พอเห็นเธอบอกว่าเป็นครั้งแรก จึงได้อยากลองความสนุกแปลกใหม่ รับรองว่าตนไม่ได้ติดโรคร้ายมาแพร่ให้แน่ ว่าแต่…ตอนนี้มันเกือบจะเช้าแล้ว เขาควรจะค้างหรือกลับดี เหมือนจันทร์ขยับปรือตาขึ้นด้วยความอ่อนเพลีย ร่างกายปวดเมื่อยไม่น้อยเพราะถูกรบเร้าตลอดคืน ขยับตัวนอนสบาย แต่พอสายตาปะทะเข้ากับสิ่งแปลกปลอมเธอก็ตกใจจนผุดลุกนั่ง อายซ้ำเพราะหน้าอกเปลือยปรากฏต่อสายตา รีบตะครุบผ้าห่มมาคลุมจนถึงคอ สายตาหวาดหวั่นฉายความตระหนกหันมองคนนอนตะแคงหันเข้าหาเธอ “เสี่ย ยังไม่กลับออกไปเหรอคะ”ใบหน้าเกลี้ยงเกลาร้อนผ่าวกับสายตาเร่าร้อนที่ส่งมาให้ “นอนต่ออีกหน่อยสิ”ตบที่ว่างข้างๆตัว บอกเสียงนุ่มน่าฟัง เหมือนจันทร์ใจเต้นแรง หลบสายตาพัลวัน กำผ้าห่มแน่น “ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ” “สิบโมง” “สายขนาดนี้แล้วเหรอ ทำไมเสี่ยไม่ยอมปลุกจันทร์ล่ะคะ” “นอนเช้า ตื่นสายหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไร” คำว่านอนเช้านั่นทำให้นึกถึงสาเหตุที่ทำให้หมดแรงบนเตียงตอนนี้จนใบหน้าร้อนวูบวาบ “จันทร์มีธุระต้องไปทำตอนบ่ายด้วยสิ” “ธุระอะไร”น้ำเสียงเข้มขึ้นจนเหมือนจันทร์ชะงัก “เอ่อ จันทร์หมายถึง จันทร์ต้องไปร้านอาหารค่ะ” “วันนี้หยุด ให้จักรจัดการให้แล้ว” โอ้โห เขาทำงานไวเหลือเกินนะ คิดแล้วก็ได้แต่เก็บความไม่พอใจไว้แล้วส่งยิ้มตอบรับเท่านั้น “เอาอย่างที่เสี่ยว่าก็ได้ค่ะ” “มานอนอีกหน่อย”ตบที่ว่างข้างเขาอีกแล้ว เหมือนจันทร์มองด้วยความระแวงแต่ก็ยังปั้นหน้ายิ้ม ดื้อดึงไป ดีไม่ดีถ้าเขาอารมณ์เสียอาจสั่งห้ามไม่ให้ทำงานร้านอาหารด้วย เพราะแบบนั้น จึงยอมทิ้งตัวนอนข้างๆชายตัวโต กลิ่นกายสดชื่นจากตัวเขาบอกให้รู้ว่าคงอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว สิโรจน์หลุบมองคนนอนข้างๆด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก เขาวางมือบนเอวเล็ก ดึงเธอเข้ามากอดแน่นแล้วพริ้มหลับตาลง ทั้งที่ปกติไม่ได้ชอบนอนกอดใครยิ่งโดยเฉพาะผู้หญิง ทว่า เหมือนจันทร์กลับทำลายความปกติทั้งหมดของเขา “เดี๋ยวบ่ายๆไปธุระด้วยกันหน่อย” “ค่ะ”เหมือนจันทร์เกร็งตัว ตาค้างนอนไม่หลับสักนิด ใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆไม่สงบจนนึกกลัวว่าเขาจะได้ยิน ไหนว่าสิโรจน์ไม่ค้างคืนไง ทำไมตอนนี้ยังไม่กลับไปอีกเหมือนจันทร์ทำงานสนุกจนลืมวันลืมคืน คิดไม่ถึงว่าจะครบหนึ่งเดือนแล้วหลังจากที่สิโรจน์หายไป ตอนแรกๆยังกังวลและว้าวุ่นนิดหน่อย พอครบเดือนอย่างที่ไรยาพูด ตอนนี้จึงได้ดูสบายใจมากเหมือนจันทร์ยังทำงานที่ร้านอาหารบรรวรรณตามสัญญาสามวัน และไลฟ์สดขายเสื้อผ้าในวันหยุดทุกวัน สม่ำเสมอ ขยัน อดทน ไม่ย่อท้อ แม้แรกเริ่มจะมีคนดูเพียงสิบกว่าคน แต่เมื่อมีคนรีวิวสินค้าต่างๆ ลูกค้าก็เพิ่มขึ้น จากหลักสิบเป็นหลักร้อย จากร้อยเป็นพัน กลายเป็นว่าขายดิบขายดีจนต้องสั่งเสื้อผ้าเพิ่ม จากคอนโดซึ่งมีพื้นที่ว่างเต็ม ตอนนี้เต็มไปด้วยกองเสื้อผ้าจนไรยาได้แต่กุมขมับ แต่ถึงอย่างนั้น พอเห็นเหมือนจันทร์อดหลับอดนอนแพ็กสินค้าถึงตีสามตีสี่ เธอก็จำต้องเก็บความไม่สบายใจไว้แล้วคอยช่วยอีกฝ่ายแพ็กสินค้าส่งไม่น่าเชื่อว่าเวลาแค่ไม่กี่อาทิตย์ที่หญิงสาวขึ้นไลฟ์ จะขายดีเหมือนเป็นเดือนขนาดนี้“หากทำต่อไปเรื่อยๆ พี่ว่าจันทร์ไม่ต้องทำงานร้านอาหารแล้วล่ะ”เหมือนจันทร์ยิ้มร่า ไม่คิดว่าไลฟ์ขายของจะได้เงินขนาดนี้ หากตอนนั้นเธอมีทุนสักก้อนอย่างตอนนี้ ไม่แน่อาจไม่ต้องกลายมาเป็นผู้หญิงของเสี่ย“พี่ไรยาก็พูดไป”เหมือนจันทร์ยิ้มกว้างมากขึ้น อาจเพร
เหมือนจันทร์อดเม้มปากด้วยความขัดใจไม่ได้เมื่อเสียงไลน์โทรเข้ามาในเวลาสามทุ่มทุกวันนับแต่ที่สิโรจน์จากไป ทำราวกับกลัวเธอหายไป ทั้งที่ไรยาคงรายงานอยู่ตลอดแท้ๆเหมือนจันทร์สูดหายใจลึกกล้ำกลืนความรู้สึกไม่ชอบใจลง กดรับสายขานรับเสียงอ่อน“ค่ะเสี่ย”“วันนี้ทำอะไร”น้ำเสียงเรียบนิ่งดังตามสาย ตามด้วยเสียงกุกกักราวกำลังทำบางอย่างอยู่คงไม่ใช่ทำกิจกรรมอย่างว่าอีกหรอกนะเหมือนจันทร์คิดแล้วก็ทำหน้าบึ้งไม่พอใจเล็กน้อย“อยู่ห้องสิคะ วันนี้วันหยุดนี่นา”ก็เล่นให้ทำงานอาทิตย์ละสามวัน เธอยังจะไปไหนได้กัน“งั้นอยู่ห้องทำอะไรบ้าง”“อืม ทำกับข้าว ซักผ้า เก็บห้อง กวาด ถูบ้าน อะไรพวกนี้ค่ะ”เหมือนจันทร์เปิดลำโพง วางโทรศัพท์ลงกับเตียงนอน ขณะที่เธอนั่งด้านล่าง พับผ้าอย่างตั้งใจ“ของพวกนี้เป็นหน้าที่ของไรยาไม่ใช่เหรอ”มือบางชะงักก่อนพับเสื้อผ้าต่อ“ก็มันว่างนี่คะ เสี่ยไม่ให้ไปทำงานที่ร้านอาหาร ให้กินๆนอนๆอย่างเดียวเลย”“ไปชอปปิง เดินห้าง ซื้อของ เที่ยวก็ได้นี่ ไม่ได้ห้ามสักหน่อย”“ไม่เอาค่ะ”เหมือนจันทร์ตอบแทบจะทันทีเมื่อได้ยินข้อเสนอของสิโรจน์ เธอไม่อยากใช้เงินเขามากไปกว่านี้ “กลัวติดหนี้เพิ่มหรือยังไง”คนตัวเ
ธุระที่สิโรจน์พูดถึงคือการมาเดินชอปปิงห้าง คนไม่คุ้นชินอย่างเหมือนจันทร์ถึงกับทำตัวไม่ถูก ยิ่งตลอดการเดินซื้อของมีสายตามากมายจับจ้องยิ่งทำให้ประหม่า วางสีหน้าแทบไม่เป็น“เกร็งอะไรขนาดนั้น เป็นผู้หญิงของเสี่ยไม่ต้องอาย ใครๆก็อยากเป็น”แต่ไม่ใช่กับเธอ เหมือนจันทร์ตอบประโยคต่อในใจ ไม่ได้พูด และเป็นเด็กดีเดินตามเขาพาเข้าร้านเสื้อผ้าแบรนด์ Uniqlo “เลือกชุดที่ชอบ ถูกใจกี่ชุดเอามาให้หมด หรือจะเหมาทั้งร้านก็ได้”โอ้โห อวดรวยจริงๆ เหมือนจันทร์ทำทีเป็นเดินดู แอบหยิบป้ายราคาหลักพันขึ้นทั้งนั้น ราคาแรงจนไม่กล้าหยิบจับอะไรอีก คนเดินตามหลังอย่างสิโรจน์ก็ขมวดคิ้ว เพราะเห็นเธอเดินวนเกือบทั่วร้านแต่ยังไม่หยิบชุดสักชุด“ไม่ถูกใจเหรอ”เหมือนจันทร์หยุดเท้า หันไปสบตากับสิโรจน์ พร้อมส่ายหน้าปฏิเสธ“เปล่าค่ะ ชุดสวยมาก แต่จันทร์ไม่อยากได้อะไรค่ะ แค่ของที่คอนโดก็พอแล้ว”สิโรจน์เลิกคิ้ว หรี่ตาจับจ้องหญิงสาวอีกครั้งราวกับค้นคว้า ปกติ พวกผู้หญิงที่พามาซื้อก็อ้อนให้ซื้อโน่นซื้อนี่เยอะแยะ แต่พอเป็นเหมือนจันทร์ นอกจากไม่เอาอะไรแล้วยังคิดจะใช้ผ้าเน่าๆของเธออีกใครรู้เข้า เสี่ยอย่างเขาคงเสียชื่อแน่“เลือกชุดที่เข้าก
เหมือนจันทร์เรียกกำลังใจให้ตัวเองอยู่พักหนึ่งก่อนตัดสินใจเคาะประตูห้องนอน“เสี่ยคะ จันทร์เองค่ะ”“เข้ามา”น้ำเสียงดุดันดังขึ้น ทำเอาเหมือนจันทร์อยากจะหันหลังหนีไปจากตรงนี้จริงๆ หากไม่ติดว่าเป็นลูกหนี้ เธอคงไม่อยู่รอแล้วสูดหายใจลึกแล้วเปิดประตูก่อนจะปิดลง ปั้นหน้ายิ้มสุดความสามารถ สาวเท้าไปหยุดข้างๆสิโรจน์ซึ่งนั่งอยู่ปลายเตียง นัยน์ตาคมกริบหรี่ลงสำรวจเรือนกายเล็ก ใบหน้าวางนิ่งเฉยเสียจนคนเข้ามาใจเสีย มือหนาตบที่ว่างข้างตัว โดยไม่มีคำพูดใด “จันทร์ขอโทษค่ะ จันทร์ไม่รู้ว่าเสี่ยจะมา”เหมือนจันทร์ทิ้งตัวนั่งข้างๆ มือประสานกันแน่นบนตัก เงยหน้ามองสิโรจน์“ไปไหนมา”“คือ จันทร์ไปทำงานที่ร้านอาหารพี่วรรณมาค่ะ”คนฟังขมวดคิ้ว หรี่ตาลงดุดัน วางมือบนมือนุ่มแล้วบีบแน่น สีหน้าเย็นชาจนคนมองหน้าเจื่อน“อนุญาตให้ไปทำเหรอ”“จันทร์ไม่ทราบว่าต้องขออนุญาตจากเสี่ยด้วย”“เป็นผู้หญิงของเสี่ย ทุกตารางนิ้วบนร่างกายคือของฉัน”ฝ่ามือร้อนช้อนใบหน้างามแหงนขึ้นให้ตนสำรวจถี่ถ้วน อีกข้างก็เลื่อนจากมือเล็กไปรวบเอวคอด ดึงเข้ามาจนเหมือนจันทร์ต้องใช้มือยันอกกว้าง “จันทร์อยากทำงานค่ะเสี่ย ให้จันทร์ทำเถอะนะคะ จันทร์อยากมีเงิน
เหมือนจันทร์ยังไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจ สิโรจน์ก็เร่งรัดจะทำตอนนี้เลยเหรอ แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่อตอบตกลงไปแล้ว“เสี่ยจะไม่ผิดสัญญาใช่ไหม”เหมือนจันทร์ยังลังเล หวาดกลัวการถูกหลอกนัก สิโรจน์ยืดตัวนั่งตรง เดินไปหยิบเอกสาร ขีดฆ่าแล้ววางลงตรงหน้าพร้อมกับนั่งที่เดิม“สัญญาลูกหนี้หนึ่งปี เซ็นซะสิ”ในสัญญามีลายเซ็นของสิโรจน์อยู่แล้ว มีสองฉบับ คาดว่าอีกฉบับให้เธอ เหมือนจันทร์จับปากกาไว้แน่น เซ็นชื่อลงไปอย่างรวดเร็ว พอเสร็จ อีกฝ่ายก็ยื่นฉบับหนึ่งมาให้เธอเก็บไว้จริงๆ“ทีนี้ จันทร์ก็ต้องทำหน้าที่ให้ดี”เหมือนจันทร์สูดหายใจลึก ข่มความรู้สึกขมขื่นในอกไว้ กัดฟันยอมทิ้งศักดิ์ศรีไป เธอลุกขึ้นเชื่องช้าเล็กน้อยเพราะตามร่างกายเจ็บระบมไปหมด กระนั้นก็ไม่ปริปากบ่น ถอดเสื้อยืดเก่าๆของตนออกตามด้วยกางเกงขายาว เหลือไว้เพียงชุดชั้นในสองชิ้นสิโรจน์กวาดมองเรือนร่างเย้ายวนเบื้องหน้า แม้ตามตัวจะมีรอยฟกช้ำรอยแดงเรื่อ ทว่าก็ไม่อาจปกปิดความงามของเธอได้ เขาลุกแล้วเดินมาหยุดตรงหน้า มือหยาบกระด้างวางทาบบั้นท้ายงอนงาม บีบขยำเบาๆจนหญิงสาวจิกเล็บเท้าลงกับพื้น หลุบตาต่ำไม่ได้สบตา“ไปห้องน้ำ”ไม่ได้รอฟังคำตอบ สิโรจน์ช้อนตัวเธอข
เหมือนจันทร์ได้สติอีกครั้งเมื่อบางอย่างเย็นๆแนบใบหน้า เธอปรือตาขึ้นอย่างยากเย็นเพราะมันยังรู้สึกหนักอึ้งและมึนศีรษะ แต่พอเห็นชายแปลกหน้าชัดเจน เหมือนจันทร์ก็เบิกตากว้าง ผลักอกเขา ขยับตัวนั่งติดหัวเตียง ใบหน้าขาวนวลซีดเผือด สำรวจเรือนร่างตนเองพบว่าเสื้อผ้ายังอยู่ครบจึงพอเบาใจ ใช้แขนกอดตัวเองแน่น จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความเกลียดชังและหวาดหวั่น“คุณ ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ ที่นี่คือที่ไหน คุณทำอะไรฉัน”คุณ ที่เธอถามนั้น ก็คือผู้ชายแปลกหน้าซึ่งขโมยจูบแรกของตนไปนั่นเองสิโรจน์ยกยิ้มนิดๆ แววตาแสดงความพึงพอใจ เขาวางผ้าเย็นสำหรับเช็ดหน้าผิวอ่อนโยนลงกับโต๊ะข้างเตียง จากนั้นจึงย้ายสายตามาประสานกับหญิงสาว“ใจเย็นๆ ไม่ต้องกังวล เธออยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งของฉัน และฉันก็คือเจ้าหนี้ที่เธอต้องอยู่ชดใช้ วางใจ ฉันไม่ใช่คนชอบบังคับฝืนใจใคร”ใบหน้าคมคายไม่ทุกข์ร้อน ทุกคำพูดราบเรียบเหมือนคุยเรื่องปกติทั่วไป ทั้งที่ประโยคเหล่านั้นมันกำลังทำให้เธอสั่นกลัวเพิ่มมากขึ้น“คุณ คุณคือเสี่ยสิโรจน์ คือเจ้าหนี้ของพ่อเหรอ”เหมือนจันทร์แทบไม่อยากเชื่อว่าคนที่ขโมยจูบแรกไปจะกลายมาเป็นเจ้าหนี้ของตนไปได้คนฟังพยักหน้ารับ สีหน้าร







