เข้าสู่ระบบเหมือนจันทร์ยังไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจ สิโรจน์ก็เร่งรัดจะทำตอนนี้เลยเหรอ แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่อตอบตกลงไปแล้ว
“เสี่ยจะไม่ผิดสัญญาใช่ไหม”เหมือนจันทร์ยังลังเล หวาดกลัวการถูกหลอกนัก
สิโรจน์ยืดตัวนั่งตรง เดินไปหยิบเอกสาร ขีดฆ่าแล้ววางลงตรงหน้าพร้อมกับนั่งที่เดิม
“สัญญาลูกหนี้หนึ่งปี เซ็นซะสิ”ในสัญญามีลายเซ็นของสิโรจน์อยู่แล้ว มีสองฉบับ คาดว่าอีกฉบับให้เธอ เหมือนจันทร์จับปากกาไว้แน่น เซ็นชื่อลงไปอย่างรวดเร็ว พอเสร็จ อีกฝ่ายก็ยื่นฉบับหนึ่งมาให้เธอเก็บไว้จริงๆ
“ทีนี้ จันทร์ก็ต้องทำหน้าที่ให้ดี”
เหมือนจันทร์สูดหายใจลึก ข่มความรู้สึกขมขื่นในอกไว้ กัดฟันยอมทิ้งศักดิ์ศรีไป เธอลุกขึ้นเชื่องช้าเล็กน้อยเพราะตามร่างกายเจ็บระบมไปหมด กระนั้นก็ไม่ปริปากบ่น ถอดเสื้อยืดเก่าๆของตนออกตามด้วยกางเกงขายาว เหลือไว้เพียงชุดชั้นในสองชิ้น
สิโรจน์กวาดมองเรือนร่างเย้ายวนเบื้องหน้า แม้ตามตัวจะมีรอยฟกช้ำรอยแดงเรื่อ ทว่าก็ไม่อาจปกปิดความงามของเธอได้ เขาลุกแล้วเดินมาหยุดตรงหน้า มือหยาบกระด้างวางทาบบั้นท้ายงอนงาม บีบขยำเบาๆจนหญิงสาวจิกเล็บเท้าลงกับพื้น หลุบตาต่ำไม่ได้สบตา
“ไปห้องน้ำ”
ไม่ได้รอฟังคำตอบ สิโรจน์ช้อนตัวเธอขึ้นในวงแขน สาวเท้าตรงไปยังห้องน้ำหรูหราของคอนโด แล้วจึงวางเธอยืนด้วยเท้าของตัวเอง
เหมือนจันทร์ใบหน้าร้อนผ่าว ยิ่งอีกฝ่ายคุกคามสาวเท้ามาใกล้ยิ่งทำให้ขยับเท้าหนี
“ฉันจะอาบน้ำให้จันทร์ก่อน”น้ำเสียงเข้มดังขึ้น เหมือนจันทร์จึงได้สติ ข่มความประหม่าแล้วเงยหน้าสบตา
“จันทร์จัดการเองดีกว่าค่ะ”
“ฉันจะอาบให้”ดวงตาคมกล้าหรี่ลงและเน้นย้ำ เห็นชัดถึงความเอาแต่ใจจนเหมือนจันทร์ไม่กล้าขัด เธอจำหยุดนิ่งและเฝ้ารอเขาอย่างหมดหนทาง
สิโรจน์ยิ้มนิดๆ หยุดเท้าตรงปลายเท้าเล็ก เอื้อมมือปลดตะขอบราแล้วดึงลากมันออกเชื่องช้า ดวงตาเข้มขึ้นเมื่อเห็นรอยช้ำตรงหัวไหล่และหน้าท้องชัดขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่มีใครหยุดความต้องการเขาได้
สิโรจน์ทิ้งบราในมือลงพื้น ก่อนจะจัดการซับในจิ๋วเป็นชิ้นต่อมา เหมือนจันทร์ตัวสั่นสะท้านทั้งที่เขายังไม่ได้ทำอะไรแต่ใจเธอกลับหวาดหวั่นจนทำอะไรไม่ถูก มือเล็กกอดตัวเองแน่น ขยับเท้าให้เขาดึงซับในออกจากตัว
สิโรจน์จับจ้องมองความขาวละเอียด เรือนร่างได้รูปเป็นสัดส่วน อกกลมกลึงที่ลากไล้สายตาประมาณดูน่าจะพอดีกับมือ
เขาดึงเธอไปใต้ฝักบัว เปิดน้ำชำระร่างกาย ขณะที่หันไปบีบครีมอาบน้ำใส่มือ
“เอามือออก”
“ตะ แต่ว่า”
“ฉันชอบคนเข้าใจง่าย”
“...”เหมือนจันทร์เม้มปากแน่น จำต้องลดมือลงข้างตัว ทั้งเนื้อทั้งตัวเปลือยเปล่าต่อหน้า อับอายจนเนื้อตัวเริ่มแดงเรื่อ
สิโรจน์ยกยิ้ม ปิดน้ำ แล้วชโลมครีมอาบน้ำบนลำตัวเย็นเฉียบเชื่องช้า ไม่สนว่าตนจะเปียกตรงไหนเพราะสายตาถูกเรือนกายเล็กตรึงไว้แล้ว
มือหนาลากไล้ลูบเรือนกายเธอราวกับเป็นเจ้าของ ไล่ตั้งแต่ลำคอ ไหล่เปลือย ไหปลาร้า ไล้นิ้วตามแขนเรียวยาวจนมาถึงนิ้วมือแล้วบีบนวดบางเบา จากนั้นจึงวกกลับมาตรงเนินอก ใช้สองมือบีบนวดเคล้นเบาๆที่อกนุ่มทั้งสองข้าง เลื่อนสายตาจับจ้องใบหน้าเล็กซึ่งบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่าน
ไล่มือต่ำลงมา ลูบไล้หน้าท้องเบาๆเพราะรู้ว่าคงเจ็บ และจึงลากต่ำลงไป สัมผัสเนินเนื้ออวบอิ่มจาบจ้วงจนกายสาวสะดุ้ง ตะครุบมือเขาไว้ด้วยใบหน้าถอดสี
“ปล่อยมือจันทร์ ฉันกำลังอาบน้ำให้อยู่นะ”น้ำเสียงพร่าบอกข้างใบหู เป่าลมร้อนแล้วขบกัดเบาๆจนเหมือนจันทร์สะท้าน ร่างกายสั่นเทิ้ม
“จันทร์ จันทร์ยังไม่เคย”
“ครั้งแรกสินะ ไม่ต้องกังวล ผ่อนคลายเอาไว้”
มือเล็กยอมปล่อยมือ แล้วก็ต้องร้องครางบางเบาเมื่อมองเห็นนิ้วเรียวยาวของเขาแทรกหายเข้าไปในจุดอ่อนนุ่ม รับรู้ได้ถึงความร้อนผ่าวโอบรอบนิ้วเขาไว้แน่น
“แน่นจริงๆจันทร์”น้ำเสียงเข้มกระซิบ ดึงตัวออกห่างแล้วใช้สายตาจับจ้องจุดอ่อนไหวของหญิงสาว
สิโรจน์นึกอยากลองดูดน้ำหวาน ทั้งที่ปกติไม่เคยจะทำกับใครมาก่อน เขาย่อตัวลงคุกเข่า ยกขาเรียวข้างหนึ่งพาดบ่า ใช้นิ้วมือกรีดร่องกุหลาบแยกออกจากกันเพื่อมองดูความงามซึ่งซ่อนตัวอยู่ด้วยท่าทางดิบเถื่อน
เหมือนจันทร์เหมือนจะหยุดหายใจ มองเห็นประกายความเร่าร้อนมากไปด้วยความต้องการแล้วอยากหันหลังหนี แต่เพียงนึกถึงกนกนุชเธอจำต้องหลับตาแล้วอดทนกับช่วงเวลาไม่คุ้นเคย
ยามที่ลิ้นตวัดไล้เลียเนื้ออวบ ร่างกายก็เหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่าน ตื่นตัวและซาบซ่านจนต้องขบเม้มปากแน่น
สิโรจน์เงยหน้ามองเจ้าของเรือนกายแล้วก็นึกลำพองในอก สัมผัสเพียงน้อยนิดแต่กลับกระตุ้นร่างเล็กได้อย่างดี ดูท่า หญิงสาวคงไม่ชินจริงๆ
แทรกลิ้นเข้าไปยังช่องว่างอุ่นร้อน ตวัดขึ้นลงและแทรกเข้าไปสลับกันจนร่างเล็กสั่นเทิ้ม เกร็งตัว ส่ายสะโพกมนบางเบา เขาตรึงสะโพกไว้ด้วยสองมือ ขณะที่เร่งเร้าเพิ่มจังหวะความหนักหน่วงจนหญิงสาวคายน้ำหวานออกมา
สิโรจน์ถอนริมฝีปากออก ใช้นิ้วปาดน้ำหวานที่ติดปากแล้วยกยิ้ม แทรกนิ้วเข้าไปด้านในช่องว่าง เลียนแบบถ่วงท่ารัก เร่งจังหวะรัวแรงจนหญิงสาวกระตุก คายน้ำหวานเพิ่มมากขึ้น
เขาหยัดตัวลุก เอื้อมมือเปิดก๊อกน้ำเพื่อชำระครีมอาบน้ำบนตัว เหมือนจันทร์สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกความเย็น สติอันน้อยนิดพร่าเบลอครู่หนึ่งแล้วจึงแจ่มชัด ใบหน้าร้อนวูบวาบหลบสายตาเป็นพัลวัน เมื่อครู่ เหมือนสติล่องลอยหายไปเลย เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
สิโรจน์ปิดก๊อกน้ำ ใบหน้ายามถูกกลุ่มผมเปียกลู่ไปด้วยกันทำให้น่าดึงดูด เซ็กซี่เขย่าหัวใจจนปลุกเร้าความต้องการโหมกระพือ
เขาช้อนใบหน้างามด้วยมือ จากนั้นจึงบดจูบลงไปแนบแน่น เรียกร้อง ดูดดึงเรียวลิ้นเล็กอย่างกระหาย จูบซ้ำๆจนได้ยินเสียงเฉอะแฉะ ลมหายใจหนักหน่วงสอดประสาน ดึงเอวเล็กติดแน่นเอวสอบ จงใจใช้ส่วนแข็งขึงซึ่งซ่อนอยู่ในร่มผ้าเสียดสีกับหน้าท้องแบนราบ
เรียวลิ้นแตะต้องกัน ดูดดึงน้ำหวานเสียงดัง ถอนออกห่างแล้วเล็มจูบกลีบปากบางบนและล่าง ขบกัดเบาๆแล้วถอนออก แล้วก็ขยี้กดจูบซ้ำๆบนริมฝีปากบางบวมเจ่อขึ้นมา
เลื่อนริมฝีปากต่ำลงมาคลอเคลียซอกคอขาว ขบเม้มบางเบา ไล่มาถึงบ่าลาด จูบด้วยความอ่อนโยน ดึงแขนข้างหนึ่งติดผนัง ไล้จูบสลับขบเม้มตรงไหปลาร้า ไม่ลืมจะเงยหน้ามองเจ้าของเรือนกายซึ่งกำลังจับจ้องการกระทำหื่นกระหายนี้
เหมือนจันทร์ใบหน้าแดงซ่าน ใจเต้นระรัว หลบสายตาไม่ทันเมื่อถูกเขาจับได้ว่าแอบมอง แต่ว่า การกระทำนี้ของเขาช่างอ่อนโยนขัดกับรูปลักษณ์ภายนอกจนเธอนึกกลัว
ยามเมื่อริมฝีปากตวัดลิ้มลองยอดปทุมถันก็ทำให้เธอเกร็งตัว แอ่นอกให้เขาสัมผัสถนัด กัดปากบางแน่น เสียวสะท้านจนเผลอหลุดเสียงครางบางเบา
“เสียงจันทร์น่าฟังมาก”ถอนปากออกแล้วสลับดูดดึงยอดอกอิ่มอีกข้าง ดูดดึงราวกับทารก เนื้อตัวเธอทั้งหอม นุ่ม ละเอียดมือ ไม่เคยต้องชายใด ทว่า ก็ยังมีเรื่องหงุดหงิดกวนใจเมื่อเห็นความชอกช้ำบนเรือนกาย
สิโรจน์แลบลิ้นเลียหน้าท้องของเธอเบาๆ ขบกัดเป็นบางที ขณะที่มือบีบขย้ำสะโพกมนอย่างมันมือ ช่องท้องหดเกร็งตามการสัมผัส เสียงหวานๆดังหลุดออกมากระตุ้นให้เขายิ่งฮึกเหิม
สิโรจน์ถอนริมฝีปากออกจากกายเล็ก ยืดตัวดึงเธอเข้ามากอด ก่อนจะกดจูบแนบแน่นที่ปากจิ้มลิ้มอีกครั้ง ขยับสะโพกสอบให้จุดแข็งขืนเสียดสีกับหน้าท้องอยู่หลายนาทีจนปวดร้าวและทนไม่ไหว ดันตัวเธอติดผนัง ทั้งที่ยังจูบไม่ลดละ ปลดซิป ดึงตัวตนร้อนผ่าวผงาดออกจากที่ซ่อน แทรกตัวไประหว่างขา ยกขาเรียวข้างหนึ่งแยกออกเพื่อเปิดทางให้ตนเข้าได้สะดวก
สิโรจน์ถอนจูบ แววตาวาววับเมื่อเห็นใบหน้าอ่อนหวานเคลิบเคลิ้ม พอได้สติ อีกฝ่ายก็หลุบหลบ และตอนนั้นสายตาก็ปะทะเข้ากับอาวุธประจำกายของเขา พลันลำตัวก็สั่นสะท้าน ยกมือบางดันอกแกร่งด้วยความตื่นกลัว
“สะ เสี่ย”
“ไม่ต้องกลัว ผ่อนคลายเอาไว้”กระซิบบอกเสียงนุ่ม จับท่อนเอ็นตนไว้แล้วนำไปจ่อปากถ้ำ ดันสะโพกเพื่อแทรกตัวตนร้อนผ่าวเข้าไปทักทายความอ่อนนุ่มร้อนด้านในเชื่องช้า
เพียงแต่เข้ามายังไม่ถึงครึ่งเหมือนจันทร์ก็เจ็บเหมือนร่างกายจะฉีกขาด เธอจิกเล็บลงกับไหล่ ส่ายสะโพกเล็กน้อย และเมื่ออีกฝ่ายฟันฝ่าเข้ามาจนสุด เธอก็ทั้งเจ็บและจุกจนน้ำตาคลอหน่วย
“เด็กดี ผ่อนคลายไว้”สิโรจน์ก็ยังตะล่อมเหยื่อด้วยน้ำเสียงนุ่มน่าฟัง จูบแก้มนวลซับน้ำตารินไหล ทว่ากลับไม่มีเสียงสะอื้นออกมา ไล่มาจูบกลีบปากนุ่มซ้ำๆจนเธอเริ่มคุ้นชิน จึงได้ขยับสะโพกสอบเชื่องช้า
เหมือนจันทร์สะดุ้ง ความเจ็บตีตื้นขึ้นมาพร้อมกับความสยิว เธอทำได้เพียงยึดไหล่หนาเป็นที่พึ่ง ขาทรงตัวข้างเดียวสั่นจนแทบจะล้มฟุบ แต่ใจบอกให้อดทนรอรับความเสียวซ่านจากเขาให้จบ
สิโรจน์กระแทกกระทั้น จากเริ่มแรกเชื่องช้า ตอนนี้เริ่มเร่งจังหวะเร็วขึ้นจนกัดกรามแน่น เส้นเลือดตรงขมับนูนปูด พร้อมกับคำรามลั่นเมื่อรู้สึกว่าความต้องการเจียนจะปริแตก
แต่ก่อนที่จะทันปล่อยน้ำเชื้อด้านใน เขาก็ถอนกายออก สาดใส่น้ำสีขุ่นลงกับร่องรักด้านนอกของเธอ
เขาไม่ได้พกถุงยางอนามัยมาในนี้ และก็อยากจนทนไม่ได้
เหมือนจันทร์หอบหายใจระรัวทั้งที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จแต่เหงื่อกลับผุดพรายตามตัว แล้วก็ต้องผวาสะดุ้ง เขาปล่อยขาและดันให้เธอหันหลัง ดึงสะโพกงอนไปทางด้านหลังขณะที่ตัวตนร้อนผ่าวแนบชิดตามมา
ดวงตาคมกล้าวาววับเมื่อเห็นร่องรอยช้ำ เขากอดเอวเล็กไว้ แนบตัวพรมจูบจนทั่วแผ่นหลัง จึงยึดตัวแล้วจัดการแทรกท่อนเอ็นร้อนผ่าวเข้าไปด้านในอีกครั้ง
“อื้อ”
“อีกสักรอบคงไหว”สิโรจน์บอกเสียงพร่า ความต้องการมากล้นเข้าครอบงำจนไม่อาจหักห้ามใจปล่อยหญิงสาวจากไปง่ายๆ กระแทกกระทั้นใส่แรงอารมณ์ดิบเถื่อน มือก็เอื้อมไปกุมอกสาวเต่งตึงไว้แน่น ออกแรงเพิ่มแรงเสียดสี จาบจ้วงเข้าใส่รัวแรง ก่อนจะคำรามลั่น ดึงท่อนเอ็นออกจากส่วนอ่อนนุ่ม น้ำเชื้อสีขุ่นสาดกระเด็นใส่สะโพกกลมกลึงทุกหยาดหยด
สิโรจน์หอบหายใจและหัวเราะเบาๆเมื่อหญิงสาวทำท่าจะทรุดตัวลง ขาเรียวสั่นจนแทบพยุงร่างไม่ไหว เขาจึงเอื้อมมือฉุดเธอเข้ามาในอ้อมกอด
“ฉันเปียกหมดแล้ว สงสัยต้องอาบน้ำพร้อมจันทร์อีกรอบแล้วล่ะ”
เหมือนจันทร์ตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดระบมทั่วร่างกาย โดยเฉพาะจุดอ่อนไหวซึ่งถูกชายหนุ่มรุกรานหลายครั้งทั้งที่เป็นครั้งแรกของเธอ แม้เขาจะสัมผัสเธออย่างนุ่มนวลอ่อนโยน ทว่า กลับไม่กักเก็บความต้องการมากล้น หลังจากห้องน้ำ เขาก็ยังมาต่อในห้องนอนอีกสองครั้งถึงยอมปล่อยเธอพัก
“คุณตื่นแล้วสินะคะ ฉันชื่อ ไรยา เป็นแม่บ้านดูแลคอนโดห้องนี้สำหรับเสี่ยโดยเฉพาะค่ะ”ไรยา หญิงสาวอายุน่าจะมากกว่าเธอยิ้มแย้ม
เหมือนจันทร์กะพริบตาไล่เรียงความทรงจำ พลันใบหน้างามก็แดงปลั่ง ดึงผ้าห่มมาคลุมถึงลำคอ กวาดมองโดยรอบด้วยใจที่เต้นระส่ำ
“เสี่ยออกไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ ปกติเสี่ยไม่ชอบนอนค้างคืน”
เหมือนจันทร์อดไม่ได้จะยิ้มหยันในใจ เธอไม่ได้จะคาดหวังให้เขาพักที่นี่ เพียงหวาดหวั่นหากต้องเผชิญหน้าในตอนนี้ทั้งที่เพิ่งทำเรื่องน่าอายเมื่อคืน
ไรยาเข้ามาช่วยประคองเมื่อเห็นเหมือนจันทร์พยายามลุกด้วยความยากลำบาก เธอเป็นแม่บ้านทำงานกับสิโรจน์มานานกว่าสิบปีแล้ว และอีกฝ่ายก็ไม่มีรสนิยมกินคนในปกครองตัวเอง
“ขอบคุณค่ะ เอ่อ ฉันอยากจะเข้าห้องน้ำสักหน่อยค่ะ”
“ฉันจะช่วยคุณค่ะ”
ไรยาพาเหมือนจันทร์เข้าห้องน้ำไป เธอวางเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวไว้ในนั้นแล้ว ตอนนี้ก็ทำความสะอาดเตียง รวมถึงห้องนอนตามหน้าที่
ระหว่างที่เก็บกวาดโซนห้องรับแขก ไรยาก็เห็นเหมือนจันทร์เดินออกจากห้องด้วยสภาพอิดโรยและอ่อนเพลีย แถมยังสะพายกระเป๋าใบเก่าออกมาด้วย
“คุณเหมือนจันทร์จะไปไหนหรือคะ”
เหมือนจันทร์ชะงักเล็กน้อย เธอระบายยิ้มเล็กๆด้วยความเป็นมิตร
“เรียกจันทร์เฉยๆพอแล้วค่ะ จันทร์อยากไปหาแม่ที่โรงพยาบาลค่ะ”
“แม่ของคุณจันทร์ถูกย้ายไปโรงพยาบาลในจังหวัดแล้ว อีกทั้งวันนี้เสี่ยสั่งไว้ให้คุณจันทร์พักผ่อนอยู่ที่นี่ รอให้อาการดีขึ้นเดี๋ยวฉันจะเรียกรถให้ไปส่งค่ะ”
“ตะ แต่ว่า”เหมือนจันทร์เม้มปาก ครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วจำต้องพยักหน้า กลับเข้าห้องอีกหน เธออยู่ในชุดเดรสสีครีมเนื้อผ้านุ่มลื่น มองดูก็รู้ว่าราคาแพงมากแน่ๆ อีกทั้งตอนนี้เงินติดตัวไม่มีสักบาท จะไปไหนได้
ไรยาเรียกให้เหมือนจันทร์ออกมาทานข้าวและกินยา ก่อนจะกลับเข้าห้องนอนแล้วผล็อยหลับสนิทจนถึงเย็น ไรยาจึงมาปลุกด้วยความเป็นห่วง
รับหน้าที่ดูแลเหมือนจันทร์ หากอีกฝ่ายไม่สบาย คงไม่ดีกับเธอแน่ๆ
“ขอโทษทีค่ะ จันทร์เพลียจนหลับยาวเลย”เหมือนจันทร์บอกด้วยความเกรงใจ ตอนนี้เหมือนเป็นเด็กที่ผู้ปกครองต้องคอยตามดูแล ทั้งที่ปกติ เธอไม่เคยต้องให้ใครดูแลเพราะต้องดิ้นรนมาตลอด
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ออกไปทานข้าวเย็นเถอะ”
“ขอบคุณค่ะ”
เหมือนจันทร์นั่งกินอาหารมื้อค่ำเพียงลำพัง ในใจพะวงเป็นห่วงกนกนุชจนทานได้เพียงเล็กน้อย ไรยาเห็นว่าแขกของเสี่ยพอกินข้าวได้ประมาณหนึ่งแล้วจึงยื่นกระเป๋าใบเก่าของเธอซึ่งถูกจักรนำมาให้เมื่อช่วงสาย
“กระเป๋าเสื้อผ้าของคุณจันทร์ เสี่ยให้ลูกน้องไปเอามาให้ คุณจันทร์พักผ่อนทำตัวตามสบายได้เลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ”ไรยาส่งยิ้มอีกครั้ง เพราะเหมือนจันทร์ค่อนข้างแตกต่างกับพวกผู้หญิงที่สิโรจน์ถูกใจ นอกจากหน้าตาธรรมดาไม่ได้สวยหยาดเยิ้มเหมือนที่ผ่านมา ไรยาสัมผัสได้ถึงความดีภายใน
“ขอบคุณค่ะ เอ่อ คุณพอทราบข่าวพ่อของจันทร์บ้างไหมคะ”เหมือนจันทร์รับกระเป๋าแล้วก็ลังเลว่าจะถามดีไหม สุดท้ายก็ยังตัดขาดจากดนัยไม่ได้อยู่ดี ถึงยังไง อีกฝ่ายก็เคยดูแลเธอมาจนถึงขนาดนี้
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ เสี่ยให้เงินจำนวนหนึ่งไปแล้ว แลกกับการไม่ต้องยุ่งกับคุณจันทร์”
“เสี่ยให้เงินไปมากหรือเปล่าคะ จันทร์กลัวว่าพ่อจะติดพนันอีก”เหมือนจันทร์ขบเม้มปากแล้วถามเสียงเครียด แปลว่าเธอติดหนี้เขาเพิ่มอีกแล้วงั้นหรือ
ไรยามองเหมือนจันทร์ด้วยความเอ็นดูเล็กน้อย
“เรื่องแบบนี้คงห้ามกันไม่ได้หรอก หากคุณจันทร์เป็นห่วงพ่อจริงๆ ก็ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีดีกว่า”
“จันทร์เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณคุณไรยามากค่ะ”
“งั้นดิฉันกลับก่อนนะคะ พรุ่งนี้สายๆจะเข้ามาทำความสะอาดให้ค่ะ”
“ขอบคุณอีกครั้งค่ะ”
ไรยากลับไปแล้ว เหมือนจันทร์ตกอยู่ในความคิดฟุ้งซ่านชั่วครู่ ก่อนจะสลัดทิ้ง จัดการเก็บเสื้อผ้าเก่าๆของตัวเองเข้าสู้ ทว่า พอเปิดตู้เสื้อผ้าในห้องนอนออกกลับพบว่ามันมีชุดเดรสหลายสิบตัวอยู่ในนั้นก่อนแล้ว แถมยังมีชุดชั้นในแบรนด์ดังหลายแบรนด์ด้วย
เธอกลืนน้ำลายเฮือกลงคอ เม้มปากชั่งใจครู่หนึ่งจึงหยิบเสื้อผ้าตัวเองจัดเรียงไว้อย่างเรียบร้อย ถึงมันจะเก่า แต่ว่าก็ยังใส่ได้อยู่
เมื่อจัดเก็บของเสร็จ จึงหันมาสำรวจรอบห้องด้วยความสนใจ เตียงนอนขนาดหกฟุตสีครีม โต๊ะแต่งหน้าซึ่งมีเครื่องแต่งหน้าครีมบำรุงมากมาย ไรยาบอกว่า สิ่งเหล่านี้คือของที่เสี่ยจัดเตรียมไว้สำหรับผู้หญิงของเขา เธอไม่ใช่คนแรกที่ได้รับ แต่เขาทำกับทุกคนที่พึงพอใจ
เหมือนจันทร์ยิ้มหยันตัวเองในอก สุดท้ายชีวิตก็ลงเอยแบบนี้สินะ กลายเป็นเด็กเสี่ยจนได้ ในเมื่อชีวิตต้องการเงิน นี่คงเป็นทางลัดที่ดีที่สุด
หลังจากคืนแรกของเธอ สิโรจน์ก็หายตัวไปราวกับว่าไม่เคยมีเรื่องระหว่างกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอภาวนาในทุกๆวัน
เธอพอรู้ข่าวลอยๆของสิโรจน์จากคนงานในร้านอาหารของบรรวรรณ ว่าเขาเป็นพวกชื่นชอบความงาม ทว่าก็เบื่อหน่ายง่ายดาย มีเพียงผู้หญิงไม่กี่คนที่เขาอยากจะกลับไปขึ้นเตียงด้วย ซึ่งจำนวนนี้สามารถนับนิ้วได้เลย
นี่แหละ คือคำภาวนาของเธอ ขอให้ลืมเธอไปเลยยิ่งดี เพราะยังไงเขาก็ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการแล้ว อีกอย่าง คนอย่างเสี่ยสิโรจน์มีผู้หญิงตั้งมากมาย ไม่แน่ว่า เธออาจไม่ต้องเหนื่อยรอจนเวลาครบกำหนดหนึ่งปี
เหมือนจันทร์คิดแล้วก็ยิ้มจางๆ วันนี้เธอไปเยี่ยมกนกนุช การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี กำลังพักฟื้นอยู่ เห็นตัวเลขค่ารักษาแรงขึ้นไปหกหลักจนเกือบแตะเจ็ดหลักแล้วได้แต่ลอบกลืนน้ำลาย
หากไม่ได้สิโรจน์ เธอก็ไม่รู้จะช่วยกนกนุชยังไงดี ถึงแม้เขาจะเห็นแก่ตัว แต่หากไม่มีเงินของเขา ชีวิตเธอคงลำบากมากกว่านี้
เหมือนจันทร์ยังแวะไปทำงานที่ร้านอาหารของบรรวรรณ คิดว่าเธอก็ควรจะหาเงินเก็บไว้เพื่อวางแผนอนาคต อีกอย่าง ร้านอาหารไม่ได้ไกลจากคอนโดที่เขาให้อยู่เท่าไหร่ด้วย
เธอกลับถึงคอนโดตามปกติ แต่เพียงเปิดประตูก็พบกับสิ่งผิดปกติทันที
ไรยายืนหน้าเคร่งเครียดตรงโซฟา พอเห็นเธอแล้วก็รีบสาวเท้าเข้ามา
“คุณจันทร์ไปไหนมาคะ เสี่ยมารอหลายชั่วโมงแล้ว โทรไปทำไมไม่ติด แบตหมดเหรอ”
เหมือนจันทร์ใจกระตุกทันควันเมื่อได้ยินว่าใครมา
“เอ่อ มือถือจันทร์แบตหมดค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ”
“ช่างเถอะค่ะ เสี่ยรออยู่ด้านใน รีบเข้าไปเถอะ เสี่ยไม่เคยรอใครนานขนาดนี้”
อ่า…ดูเหมือนงานจะเข้าเธอหรือเปล่าเนี่ย
เหมือนจันทร์ทำงานสนุกจนลืมวันลืมคืน คิดไม่ถึงว่าจะครบหนึ่งเดือนแล้วหลังจากที่สิโรจน์หายไป ตอนแรกๆยังกังวลและว้าวุ่นนิดหน่อย พอครบเดือนอย่างที่ไรยาพูด ตอนนี้จึงได้ดูสบายใจมากเหมือนจันทร์ยังทำงานที่ร้านอาหารบรรวรรณตามสัญญาสามวัน และไลฟ์สดขายเสื้อผ้าในวันหยุดทุกวัน สม่ำเสมอ ขยัน อดทน ไม่ย่อท้อ แม้แรกเริ่มจะมีคนดูเพียงสิบกว่าคน แต่เมื่อมีคนรีวิวสินค้าต่างๆ ลูกค้าก็เพิ่มขึ้น จากหลักสิบเป็นหลักร้อย จากร้อยเป็นพัน กลายเป็นว่าขายดิบขายดีจนต้องสั่งเสื้อผ้าเพิ่ม จากคอนโดซึ่งมีพื้นที่ว่างเต็ม ตอนนี้เต็มไปด้วยกองเสื้อผ้าจนไรยาได้แต่กุมขมับ แต่ถึงอย่างนั้น พอเห็นเหมือนจันทร์อดหลับอดนอนแพ็กสินค้าถึงตีสามตีสี่ เธอก็จำต้องเก็บความไม่สบายใจไว้แล้วคอยช่วยอีกฝ่ายแพ็กสินค้าส่งไม่น่าเชื่อว่าเวลาแค่ไม่กี่อาทิตย์ที่หญิงสาวขึ้นไลฟ์ จะขายดีเหมือนเป็นเดือนขนาดนี้“หากทำต่อไปเรื่อยๆ พี่ว่าจันทร์ไม่ต้องทำงานร้านอาหารแล้วล่ะ”เหมือนจันทร์ยิ้มร่า ไม่คิดว่าไลฟ์ขายของจะได้เงินขนาดนี้ หากตอนนั้นเธอมีทุนสักก้อนอย่างตอนนี้ ไม่แน่อาจไม่ต้องกลายมาเป็นผู้หญิงของเสี่ย“พี่ไรยาก็พูดไป”เหมือนจันทร์ยิ้มกว้างมากขึ้น อาจเพร
เหมือนจันทร์อดเม้มปากด้วยความขัดใจไม่ได้เมื่อเสียงไลน์โทรเข้ามาในเวลาสามทุ่มทุกวันนับแต่ที่สิโรจน์จากไป ทำราวกับกลัวเธอหายไป ทั้งที่ไรยาคงรายงานอยู่ตลอดแท้ๆเหมือนจันทร์สูดหายใจลึกกล้ำกลืนความรู้สึกไม่ชอบใจลง กดรับสายขานรับเสียงอ่อน“ค่ะเสี่ย”“วันนี้ทำอะไร”น้ำเสียงเรียบนิ่งดังตามสาย ตามด้วยเสียงกุกกักราวกำลังทำบางอย่างอยู่คงไม่ใช่ทำกิจกรรมอย่างว่าอีกหรอกนะเหมือนจันทร์คิดแล้วก็ทำหน้าบึ้งไม่พอใจเล็กน้อย“อยู่ห้องสิคะ วันนี้วันหยุดนี่นา”ก็เล่นให้ทำงานอาทิตย์ละสามวัน เธอยังจะไปไหนได้กัน“งั้นอยู่ห้องทำอะไรบ้าง”“อืม ทำกับข้าว ซักผ้า เก็บห้อง กวาด ถูบ้าน อะไรพวกนี้ค่ะ”เหมือนจันทร์เปิดลำโพง วางโทรศัพท์ลงกับเตียงนอน ขณะที่เธอนั่งด้านล่าง พับผ้าอย่างตั้งใจ“ของพวกนี้เป็นหน้าที่ของไรยาไม่ใช่เหรอ”มือบางชะงักก่อนพับเสื้อผ้าต่อ“ก็มันว่างนี่คะ เสี่ยไม่ให้ไปทำงานที่ร้านอาหาร ให้กินๆนอนๆอย่างเดียวเลย”“ไปชอปปิง เดินห้าง ซื้อของ เที่ยวก็ได้นี่ ไม่ได้ห้ามสักหน่อย”“ไม่เอาค่ะ”เหมือนจันทร์ตอบแทบจะทันทีเมื่อได้ยินข้อเสนอของสิโรจน์ เธอไม่อยากใช้เงินเขามากไปกว่านี้ “กลัวติดหนี้เพิ่มหรือยังไง”คนตัวเ
ธุระที่สิโรจน์พูดถึงคือการมาเดินชอปปิงห้าง คนไม่คุ้นชินอย่างเหมือนจันทร์ถึงกับทำตัวไม่ถูก ยิ่งตลอดการเดินซื้อของมีสายตามากมายจับจ้องยิ่งทำให้ประหม่า วางสีหน้าแทบไม่เป็น“เกร็งอะไรขนาดนั้น เป็นผู้หญิงของเสี่ยไม่ต้องอาย ใครๆก็อยากเป็น”แต่ไม่ใช่กับเธอ เหมือนจันทร์ตอบประโยคต่อในใจ ไม่ได้พูด และเป็นเด็กดีเดินตามเขาพาเข้าร้านเสื้อผ้าแบรนด์ Uniqlo “เลือกชุดที่ชอบ ถูกใจกี่ชุดเอามาให้หมด หรือจะเหมาทั้งร้านก็ได้”โอ้โห อวดรวยจริงๆ เหมือนจันทร์ทำทีเป็นเดินดู แอบหยิบป้ายราคาหลักพันขึ้นทั้งนั้น ราคาแรงจนไม่กล้าหยิบจับอะไรอีก คนเดินตามหลังอย่างสิโรจน์ก็ขมวดคิ้ว เพราะเห็นเธอเดินวนเกือบทั่วร้านแต่ยังไม่หยิบชุดสักชุด“ไม่ถูกใจเหรอ”เหมือนจันทร์หยุดเท้า หันไปสบตากับสิโรจน์ พร้อมส่ายหน้าปฏิเสธ“เปล่าค่ะ ชุดสวยมาก แต่จันทร์ไม่อยากได้อะไรค่ะ แค่ของที่คอนโดก็พอแล้ว”สิโรจน์เลิกคิ้ว หรี่ตาจับจ้องหญิงสาวอีกครั้งราวกับค้นคว้า ปกติ พวกผู้หญิงที่พามาซื้อก็อ้อนให้ซื้อโน่นซื้อนี่เยอะแยะ แต่พอเป็นเหมือนจันทร์ นอกจากไม่เอาอะไรแล้วยังคิดจะใช้ผ้าเน่าๆของเธออีกใครรู้เข้า เสี่ยอย่างเขาคงเสียชื่อแน่“เลือกชุดที่เข้าก
เหมือนจันทร์เรียกกำลังใจให้ตัวเองอยู่พักหนึ่งก่อนตัดสินใจเคาะประตูห้องนอน“เสี่ยคะ จันทร์เองค่ะ”“เข้ามา”น้ำเสียงดุดันดังขึ้น ทำเอาเหมือนจันทร์อยากจะหันหลังหนีไปจากตรงนี้จริงๆ หากไม่ติดว่าเป็นลูกหนี้ เธอคงไม่อยู่รอแล้วสูดหายใจลึกแล้วเปิดประตูก่อนจะปิดลง ปั้นหน้ายิ้มสุดความสามารถ สาวเท้าไปหยุดข้างๆสิโรจน์ซึ่งนั่งอยู่ปลายเตียง นัยน์ตาคมกริบหรี่ลงสำรวจเรือนกายเล็ก ใบหน้าวางนิ่งเฉยเสียจนคนเข้ามาใจเสีย มือหนาตบที่ว่างข้างตัว โดยไม่มีคำพูดใด “จันทร์ขอโทษค่ะ จันทร์ไม่รู้ว่าเสี่ยจะมา”เหมือนจันทร์ทิ้งตัวนั่งข้างๆ มือประสานกันแน่นบนตัก เงยหน้ามองสิโรจน์“ไปไหนมา”“คือ จันทร์ไปทำงานที่ร้านอาหารพี่วรรณมาค่ะ”คนฟังขมวดคิ้ว หรี่ตาลงดุดัน วางมือบนมือนุ่มแล้วบีบแน่น สีหน้าเย็นชาจนคนมองหน้าเจื่อน“อนุญาตให้ไปทำเหรอ”“จันทร์ไม่ทราบว่าต้องขออนุญาตจากเสี่ยด้วย”“เป็นผู้หญิงของเสี่ย ทุกตารางนิ้วบนร่างกายคือของฉัน”ฝ่ามือร้อนช้อนใบหน้างามแหงนขึ้นให้ตนสำรวจถี่ถ้วน อีกข้างก็เลื่อนจากมือเล็กไปรวบเอวคอด ดึงเข้ามาจนเหมือนจันทร์ต้องใช้มือยันอกกว้าง “จันทร์อยากทำงานค่ะเสี่ย ให้จันทร์ทำเถอะนะคะ จันทร์อยากมีเงิน
เหมือนจันทร์ยังไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจ สิโรจน์ก็เร่งรัดจะทำตอนนี้เลยเหรอ แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่อตอบตกลงไปแล้ว“เสี่ยจะไม่ผิดสัญญาใช่ไหม”เหมือนจันทร์ยังลังเล หวาดกลัวการถูกหลอกนัก สิโรจน์ยืดตัวนั่งตรง เดินไปหยิบเอกสาร ขีดฆ่าแล้ววางลงตรงหน้าพร้อมกับนั่งที่เดิม“สัญญาลูกหนี้หนึ่งปี เซ็นซะสิ”ในสัญญามีลายเซ็นของสิโรจน์อยู่แล้ว มีสองฉบับ คาดว่าอีกฉบับให้เธอ เหมือนจันทร์จับปากกาไว้แน่น เซ็นชื่อลงไปอย่างรวดเร็ว พอเสร็จ อีกฝ่ายก็ยื่นฉบับหนึ่งมาให้เธอเก็บไว้จริงๆ“ทีนี้ จันทร์ก็ต้องทำหน้าที่ให้ดี”เหมือนจันทร์สูดหายใจลึก ข่มความรู้สึกขมขื่นในอกไว้ กัดฟันยอมทิ้งศักดิ์ศรีไป เธอลุกขึ้นเชื่องช้าเล็กน้อยเพราะตามร่างกายเจ็บระบมไปหมด กระนั้นก็ไม่ปริปากบ่น ถอดเสื้อยืดเก่าๆของตนออกตามด้วยกางเกงขายาว เหลือไว้เพียงชุดชั้นในสองชิ้นสิโรจน์กวาดมองเรือนร่างเย้ายวนเบื้องหน้า แม้ตามตัวจะมีรอยฟกช้ำรอยแดงเรื่อ ทว่าก็ไม่อาจปกปิดความงามของเธอได้ เขาลุกแล้วเดินมาหยุดตรงหน้า มือหยาบกระด้างวางทาบบั้นท้ายงอนงาม บีบขยำเบาๆจนหญิงสาวจิกเล็บเท้าลงกับพื้น หลุบตาต่ำไม่ได้สบตา“ไปห้องน้ำ”ไม่ได้รอฟังคำตอบ สิโรจน์ช้อนตัวเธอข
เหมือนจันทร์ได้สติอีกครั้งเมื่อบางอย่างเย็นๆแนบใบหน้า เธอปรือตาขึ้นอย่างยากเย็นเพราะมันยังรู้สึกหนักอึ้งและมึนศีรษะ แต่พอเห็นชายแปลกหน้าชัดเจน เหมือนจันทร์ก็เบิกตากว้าง ผลักอกเขา ขยับตัวนั่งติดหัวเตียง ใบหน้าขาวนวลซีดเผือด สำรวจเรือนร่างตนเองพบว่าเสื้อผ้ายังอยู่ครบจึงพอเบาใจ ใช้แขนกอดตัวเองแน่น จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความเกลียดชังและหวาดหวั่น“คุณ ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ ที่นี่คือที่ไหน คุณทำอะไรฉัน”คุณ ที่เธอถามนั้น ก็คือผู้ชายแปลกหน้าซึ่งขโมยจูบแรกของตนไปนั่นเองสิโรจน์ยกยิ้มนิดๆ แววตาแสดงความพึงพอใจ เขาวางผ้าเย็นสำหรับเช็ดหน้าผิวอ่อนโยนลงกับโต๊ะข้างเตียง จากนั้นจึงย้ายสายตามาประสานกับหญิงสาว“ใจเย็นๆ ไม่ต้องกังวล เธออยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งของฉัน และฉันก็คือเจ้าหนี้ที่เธอต้องอยู่ชดใช้ วางใจ ฉันไม่ใช่คนชอบบังคับฝืนใจใคร”ใบหน้าคมคายไม่ทุกข์ร้อน ทุกคำพูดราบเรียบเหมือนคุยเรื่องปกติทั่วไป ทั้งที่ประโยคเหล่านั้นมันกำลังทำให้เธอสั่นกลัวเพิ่มมากขึ้น“คุณ คุณคือเสี่ยสิโรจน์ คือเจ้าหนี้ของพ่อเหรอ”เหมือนจันทร์แทบไม่อยากเชื่อว่าคนที่ขโมยจูบแรกไปจะกลายมาเป็นเจ้าหนี้ของตนไปได้คนฟังพยักหน้ารับ สีหน้าร







